สาระน่ารู้ประจำวันที่ 08 ธันวาคม 2568

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ พลิกขยะใบไม้ 218 ตัน สู่ดินปลูกลดคาร์บอน

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเกมยั่งยืนครั้งใหม่ “WASTE TO WELL-BEING” แปรรูปขยะใบไม้เป็นดินปลูกคุณภาพสูง ลดคาร์บอน–ลดฝังกลบ และสร้างคุณค่าใหม่ให้ทรัพยากรที่เคยมองข้าม

ในยุคที่ “ขยะอินทรีย์” มักถูกมองเป็นภาระมากกว่าทรัพยากร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เลือกเดินเกมกลับด้าน ด้วยการเปิดตัวโครงการ WASTE TO WELL-BEING โครงการนำร่องที่ไม่เพียงแก้ปัญหาขยะใบไม้จาก 83 โครงการทั่วประเทศ แต่ยังสร้างคุณค่าใหม่ผ่านระบบแปรรูปที่ทำให้ขยะอินทรีย์กลายเป็น “สินทรัพย์สีเขียว” ขององค์กร

ภูมิใจ วรวนิชชากร ผู้จัดการฝ่ายออกแบบ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)  เผยว่าปี 2568 นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เมื่อบริษัทสามารถลดปริมาณขยะใบไม้เข้าสู่กระบวนการฝังกลบได้มากถึง 218 ตัน คิดเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 173 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีสะท้อนให้เห็นว่าการจัดการขยะอย่างมีระบบสามารถสร้างผลลัพธ์ต่อสิ่งแวดล้อมได้จริง

‘ปุ๋ยอินทรีย์-ดินปลูก’คุณค่าใหม่จากสิ่งที่เคยถูกทิ้ง

ความร่วมมือระหว่างแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และ สวนไม้ภราดรภาพ ทำให้ขยะใบไม้ถูกคัดแยก นำเข้าสู่กระบวนการหมักยาว 4–5 เดือน ก่อนผสมกับดินร่วน แกลบดำ และมะพร้าวสับ จนได้ดินปลูกคุณภาพสูงกว่า 55,000 ถุง นำไปใช้จริงในงานสวนของโครงการต่าง ๆ

ตัวเลขเหล่านี้ไม่เพียงช่วยลดต้นทุนซื้อดินจากภายนอก แต่ยังลดความเสี่ยงจากดินปนเปื้อนสารเคมี อีกทั้งยังทำให้ต้นไม้ในโครงการทดลองใช้ 8 แห่ง เจริญเติบโตได้ดีกว่าดินทั่วไปสะท้อนคุณภาพของดินที่เกิดจากกระบวนการหมักอย่างเป็นระบบ

จากปัญหาปริมาณมหาศาลสู่โอกาสครั้งใหญ่

ในปี 2567 มีขยะใบไม้และกิ่งไม้จากงานสวนส่วนกลางมากถึง 4,440 ตัน ซึ่งเดิมต้องใช้พื้นที่ฝังกลบจำนวนมาก และมีต้นทุนขนส่งสูง การนำขยะเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่จึงเป็นทางออกที่เชื่อมโยงได้ทั้ง SDGs และแนวคิด Circular Economy

ขณะที่อรสา รอดบำเรอ จากสวนไม้ภราดรภาพ ย้ำว่า กุญแจความสำเร็จอยู่ที่กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดแยก วัดอุณหภูมิการหมัก ไปจนถึงการทดสอบคุณภาพปุ๋ยโดยห้องปฏิบัติการของคณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งยืนยันว่าอยู่ในมาตรฐานกรมวิชาการเกษตรอย่างครบถ้วน

โครงการนำร่องที่ทำให้ความยั่งยืนจับต้องได้จริง

ในระยะนำร่อง ขยะใบไม้จาก 16 โครงการ ถูกนำมาผลิตเป็นดินปลูกและกระจายกลับไปใช้ในอีก 8 โครงการ ผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจน ได้แก่

  • ลดต้นทุนการจัดหาดินปลูก
  • ลดขยะเข้าแหล่งกำจัด
  • ลดก๊าซเรือนกระจก
  • เพิ่มคุณภาพพื้นที่สีเขียวของโครงการ
  • และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ให้คู่ค้าในห่วงโซ่สีเขียว

ปี 2569 ขยายผลสู่โครงการใหม่ทั่วประเทศ

จากผลสำเร็จในปีแรก แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เตรียมขยายการใช้ดินปลูกจากโครงการ WASTE TO WELL-BEING ไปสู่โครงการเปิดใหม่ รวมถึงโครงการต่างจังหวัด สร้างรูปแบบการดูแลพื้นที่สีเขียวที่เข้มแข็งขึ้น พร้อมยกระดับมาตรฐานความยั่งยืนในทุกโครงการ

โครงการ WASTE TO WELL-BEING จึงไม่ใช่เพียงการแปลง “ใบไม้ร่วง” เป็น “ดินปลูก” แต่เป็นการแปลงวิธีคิดของธุรกิจอสังหาฯ ให้เห็นว่าการดูแลโลกสามารถเริ่มได้จากงานเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน 

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ตลาดบนคึกคัก ‘พราว’ เปิดตัว Branded Residence เจาะดีมานด์โลกรุกภูเก็ต

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับภูเก็ตร้อนแรงอีกครั้ง พราว เรียล เอสเตท เปิดตัว “The Residences at InterContinental Phuket Resort” โครงการ Branded Residence ดึงกมลาขึ้นแท่นทำเลลักชัวรีระดับโลก

หาดกมลาในวันนี้ไม่ใช่เพียงชายหาดเงียบสงบที่นักท่องเที่ยวแสวงหาการพักผ่อนอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นพื้นที่ที่ถูกจับตามองจากกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งระดับโลก (UHNW) และชาวต่างชาติที่ย้ายถิ่นฐานระยะยาวเข้ามาอยู่ภูเก็ตมากขึ้นต่อเนื่อง ในสายตานักลงทุนมันคือทำเลที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ Prime Residential Area จนกลายเป็นเวทีสำคัญที่ผู้พัฒนารายใหญ่ต้องการ “ปักหมุด” ให้ได้ก่อนใคร

บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ได้ส่งสัญญาณครั้งสำคัญต่อทิศทางการลงทุนระยะยาว ด้วยการเปิดตัวโครงการ The Residences at InterContinental Phuket Resort อย่างเป็นทางการบนหาดกมลา ซึ่งกำลังถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งในทำเล Residential ที่ร้อนแรงที่สุดของเกาะ การเปลี่ยนแปลงหลังยุคโควิดทำให้ชาวต่างชาติย้ายมาอยู่อาศัยแบบระยะยาวเพิ่มขึ้นจนมีสัดส่วนเกือบหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งเกาะ

ขณะที่นางสาวพราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท ให้มุมมองว่า “นี่คือช่วงเวลาที่ภูเก็ตกำลังก้าวสู่การเป็น Living Destination อย่างแท้จริง” และเป็นจังหวะที่ พราว เรียล เอสเตท ต้อง “ปักหมุดในระดับโลก” ผ่านโครงการที่สะท้อนศักยภาพของแบรนด์และตลาดลักชัวรีที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โครงการ The Residences at InterContinental Phuket Resort ถือเป็นหนึ่งใน InterContinental Residences เพียงสี่แห่งทั่วโลก และเป็นแห่งแรกในภูเก็ตที่ได้รับการบริหารงานร่วมกับเครือ IHG ซึ่งเป็นเชนโรงแรมระดับนานาชาติที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก

ภาพของ Branded Residence ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับ InterConti nental Phuket Resort ซึ่งเป็นโรงแรมที่เพิ่งได้รับรางวัล 2 Michelin Keys ต่อเนื่องสองปี ทำให้โครงการนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากกลุ่มผู้ซื้อตลาดบนทั้งไทยและต่างชาติ บริการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่น การใช้พื้นที่ชายหาดของโรงแรมได้ถึงปี 2037 สิทธิสมาชิก IHG One Rewards ระดับสูงสุด และ Proud Privilege Program กลายเป็นจุดขายสำคัญที่สร้างความแตกต่างเหนือโครงการลักชัวรีทั่วไปในภูเก็ต

ทำเลหาดกมลายังคงเอกลักษณ์แบบ “Hidden Gem” ที่ผสมผสานความเป็นไทยและชุมชนท้องถิ่นไว้อย่างชัดเจน ท่ามกลางข้อจำกัดด้านที่ดินเพราะส่วนใหญ่เป็นที่ราชพัสดุ ทำให้โครงการใหม่เกิดขึ้นน้อยมากในรอบหลายปี นี่จึงเป็นหนึ่งในเหตุผลที่กลุ่มทุนรายใหญ่ต่างเร่งเข้าครอบครองที่ดินคุณภาพสูง โดยมี “Millionaires’ Row” เป็นแลนด์มาร์กราคาแพงของเกาะ

อมูลจากผู้ประกอบการชี้ว่าราคาที่ดินของภูเก็ตเพิ่มขึ้นกว่า 700% ในรอบ 20 ปี และยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องตามกิจกรรมการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟฟ้ารางเบา อุโมงค์กะทู้-ป่าตอง และถนนเชื่อมสนามบิน ยังเป็นตัวเร่งให้ภูเก็ตกลายเป็นฮับการอยู่อาศัยระดับโลกได้ในอนาคตอันใกล้

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจและตลาด นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า ภูเก็ตกำลังอยู่ในระดับเดียวกับไมอามี ดูไบ หรือเจนีวา ในฐานะ Second Home ของคนทั่วโลก โดยมีจุดแข็งด้านการเดินทางที่เชื่อมโยงด้วยสายการบินตรงจากเอเชียและยุโรป รวมถึงเที่ยวบินใหม่จากปารีสและอังกฤษในปีหน้า

เขาประเมินว่าความต้องการที่อยู่อาศัยลักชัวรียังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ขณะที่ซัพพลายในตลาดลดลงเกือบครึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถาบันการเงินเข้มงวดต่อการปล่อยกู้พัฒนาโครงการ ส่งผลให้สินค้าที่มีคุณภาพสูงและมีแบรนด์ระดับโลกเป็นส่วนกำกับ มีโอกาสเติบโตในระยะยาวมากขึ้น

สำหรับฐานะทางการเงิน บริษัทคาดการณ์เป้ารายได้ปี 2568 ที่ประมาณ 7,000 ล้านบาท พร้อม Backlog รอรับรู้กว่า 6,900 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้ในปี 2569 ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยกำไรมีแนวโน้มเติบโตจากการรับรู้โครงการที่พัฒนาเอง ขณะเดียวกันบริษัทเตรียมเปิด New Launch มูลค่ารวมราว 10,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างจัดพอร์ตซื้อที่ดินใหม่มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต โดยมีแผนพัฒนาทั้งโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบในกรุงเทพฯ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ การเปิดตัวโครงการ The Residences at InterContinental Phuket Resort ถูกมองว่าเป็นการตอกยํ้าทิศทางการยกระดับตลาดลักชัวรีบนหาดกมลา และสะท้อนแนวโน้มใหม่ของอสังหาริมทรัพย์ไทยที่กำลังเดินหน้าไปสู่ผสานบริการโรงแรมระดับโลกเข้ากับการใช้ชีวิตคุณภาพสูง อาศัยความแข็งแกร่งของดีมานด์ต่างชาติและอัตราการเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินในภูเก็ตที่ยังมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการอยู่อาศัยระดับลักชัวรีในภูมิภาคอย่างแท้จริง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 8 ธ.ค.“แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 31.94 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทมีแนวโน้มทยอยแข็งค่าขึ้นในลักษณะ Sideways Down ไม่ต่างจากเงินดอลลาร์ที่พร้อมเคลื่อนไหวสองทิศทาง บนความผันผวนที่อาจสูงขึ้น ส่วนในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.80-32.00 บาท/ดอลลาร์

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้8ธ.ค.2568 ที่ระดับ  31.94 บาทต่อดอลลาร์“แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ณ ระดับ  32.03 บาทต่อดอลลาร์ (ระดับปิด ณ วันพฤหัสบดี ที่ 4 ธันวาคม)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่านับตั้งแต่ช่วงคืนวันพฤหัสฯ สัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง และมีจังหวะแข็งค่าขึ้นทดสอบโซน 31.80 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันหยุดของตลาดการเงินไทย (แกว่งตัวในกรอบ 31.81-32.08 บาทต่อดอลลาร์)

สอดคล้องกับจังหวะการอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์ ที่มาพร้อมกับการทยอยปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) หลังผู้เล่นในตลาดยังคงมั่นใจว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ในการประชุม FOMC เดือนธันวาคมนี้ (โอกาสการลดดอกเบี้ยของเฟดเกิน 90%)

อย่างไรก็ดี ในช่วงคืนวันศุกร์ 5 ธันวาคม การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้ถูกชะลอลงและเงินบาทเริ่มทยอยอ่อนค่าลงบ้าง หลังราคาทองคำพลิกกลับมาปรับตัวลดลง ท่ามกลางแรงขายทำกำไรของผู้เล่นในตลาด หลังตลาดการเงินสหรัฐฯ โดยรวมยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง ขณะเดียวกันผู้เล่นในตลาดก็อาจต้องการปรับสถานะถือครองบ้าง ก่อนที่จะรับรู้ผลการประชุม FOMC ของเฟด

นอกจากนี้ เงินบาทยังถูกกดดันเพิ่มเติมจากโฟลว์ธุรกรรมน้ำมัน หลังราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางประเด็นความไม่แน่นอนของปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจกระทบต่อแนวโน้มอุปทานน้ำมันจากทั้งฝั่งรัสเซีย และเวเนซุเอลา 

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลงเพิ่มเติม หลังผู้เล่นในตลาดต่างมั่นใจว่า เฟดจะสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ในการประชุม FOMC เดือนธันวาคมนี้

สำหรับในสัปดาห์นี้ เรามองว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ ผลการประชุม FOMC ของเฟด พร้อมทั้งรอติดตาม พัฒนาการประเด็นความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ทั้ง การเจรจาเพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน และ ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

▪        ฝั่งสหรัฐฯ – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุม FOMC ของเฟด) ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงราว 02.00 น. ของเช้าวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ตามเวลาประเทศไทย โดยเราประเมินว่า เฟดอาจมีมติ “ไม่เป็นเอกฉันท์” ลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 3.50-3.75% หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังคงชะลอตัวลงต่อเนื่อง

 ขณะที่แรงกดดันต่อเงินเฟ้อจากผลของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ไม่ได้มากอย่างที่เฟดรวมถึงผู้เล่นในตลาดเคยกังวลก่อนหน้า โดยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มทยอยปรับตัวลดลงกลับสู่เป้าหมายของเฟดได้ ในส่วนของคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot)

เรามองว่า Dot Plot ใหม่ของเฟดอาจไม่ได้แตกต่างกับ Dot Plot จากการประชุมเดือนกันยายน ในแง่ของ ค่ากลาง หรือ Median ของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในแต่ละปี ทว่า Dot Plot อาจมีการกระจายตัวมากขึ้น สอดคล้องกับมุมมองของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมีความแตกต่างกันพอสมควร

 ทั้งนี้ เรามองว่า ควรระวังความผันผวนในตลาดที่อาจพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หากผลการประชุมไม่ได้เป็นไปตามที่ตลาดคาด อีกทั้ง ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในช่วง Press Conference ยังไม่ได้ส่งสัญญาณต่อแนวโน้มการเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมที่ชัดเจน

หลังล่าสุด บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า เฟดมีโอกาสราว 96% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ย 25bps ในการประชุม FOMC เดือนธันวาคม นี้ และอาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมราว 2-3 ครั้ง ในปี 2026

และนอกเหนือจากผลการประชุม FOMC ของเฟด ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลตลาดแรงงาน อย่าง ยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTS Job Openings) และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) เป็นต้น

▪ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางหลักดังกล่าว รวมถึง รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของฝั่งยูโรโซนและอังกฤษ

อาทิ ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือนตุลาคม ของอังกฤษและเยอรมนี นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามพัฒนาการของสงครามรัสเซีย-ยูเครน หลังทางการสหรัฐฯ เดินหน้าเร่งหาทางยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ฝั่งเอเชีย – ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Wage Growth) และอัตราการเติบโตเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลต่อการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

โดยเฉพาะในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ ที่ผู้เล่นในตลาดเริ่มประเมินว่า BOJ มีโอกาสราว 89% ที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 0.75%

ส่วนในฝั่งจีน ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต PPI ในเดือนพฤศจิกายน ในส่วนของนโยบายการเงินนั้น บรรดานักวิเคราะห์ในตลาดต่างประเมินว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ (BSP) อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 25bps สู่ระดับ 4.50% เพื่อช่วยหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ขณะที่ ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) อาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.60% ต่อ หลังเศรษฐกิจออสเตรเลียยังพอได้แรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจการคลัง ส่วนตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง ทว่าอัตราเงินเฟ้อนั้นยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้ RBA อาจดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง

▪ ฝั่งไทย – แม้จะไม่มีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทว่าประเด็นความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง อาจเป็นที่ติดตามของผู้เล่นในตลาดอย่างใกล้ชิด ว่าจะทวีความรุนแรงและบานปลายมากขึ้นหรือไม่ ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นเพียงแค่ Noise ในช่วงระยะสั้นและอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยมากนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างให้ความสำคัญกับผลการประชุม FOMC เป็นหลัก

สำหรับ แนวโน้มเงินบาท เนื่องจากประเทศไทยได้เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว อีกทั้งเรายังคงประเมินว่า เฟดยังมีแนวโน้มเดินหน้าลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้

ทำให้เราประเมินว่า เงินบาท (USDTHB) มีแนวโน้มทยอยแข็งค่าขึ้นในลักษณะ Sideways Down และอาจจบสิ้นปี 2025 แถวโซน 31.85+/-0.25 บาทต่อดอลลาร์

ซึ่งภาพดังกล่าวก็สอดคล้องกับมุมมองของผู้เล่นในตลาดส่วนใหญ่จากการประเมินสถานะถือครอง ผ่านข้อมูลของบรรดานักวิเคราะห์ต่างชาติ รวมถึงสัญญาณจาก 1-month Risk-Reversals ในตลาด Options

สำหรับทว่าเงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way Risk (พร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง) ไม่ต่างกับเงินดอลลาร์ ขึ้นกับผลการประชุม FOMC ของเฟด ว่าจะมีมติอย่างไร และแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบาย หรือ Dot Plot มีการปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง

 อนึ่ง หากเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่า ก็อาจยังไม่สามารถผ่านโซนแนวต้าน 32.30-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่ายนัก ท่ามกลางแรงขายเงินดอลลาร์จากผู้เล่นในตลาด

ทั้งนี้ เรามองว่า ควรจับตาทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ รวมถึงการเคลื่อนไหวของเงินหยวนจีน (CNY) ที่อาจส่งผลกระทบต่อเงินบาทได้พอสมควรในช่วงที่เหลือของปีนี้

และหากอ้างอิงกลยุทธ์ Trend-Following เรามองว่า เงินบาทจะกลับเข้าสู่แนวโน้มอ่อนค่า อีกครั้ง หรืออย่างน้อยก็อาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways

เมื่อเงินบาทอ่อนค่าลงทะลุโซนแนวต้าน 32.20-32.30 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน และอาจต้องปรับเปลี่ยนมุมมองต่อแนวโน้มเงินบาทใหม่ หากเงินบาทสามารถอ่อนค่าทะลุเหนือโซนเส้นค่าเฉลี่ย 30 สัปดาห์

ซึ่งเรามองว่า ภาพดังกล่าวก็อาจเกิดขึ้นได้ หากเฟดตัดสินใจ “คงดอกเบี้ยนโยบาย” และ Dot Plot ก็สะท้อนการลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป สวนทางกับคาดการณ์ของตลาดและเรา กดดันให้เงินบาทเสี่ยงอ่อนค่าลง 20 สตางค์ต่อดอลลาร์ เป็นอย่างน้อย (ขึ้นกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ) หลังรับรู้ผลการประชุม FOMC เดือนธันวาคม ของเฟด

ในส่วนของเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์เสี่ยงเผชิญ Two-Way risk (พร้อมเคลื่อนไหวสองทิศทาง) บนความผันผวนที่อาจสูงขึ้น  โดยเฉพาะในกรณีที่ เฟดดำเนินนโยบายการเงินสวนทางกับคาดการณ์ของตลาด เช่น คงดอกเบี้ยและDot Plot สะท้อนการลดดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 31.75-32.30 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.80-32.00 บาท/ดอลลาร์

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


กระหึ่มเวทีโลก! “ทัพเทคบอลไทย” ผงาดคว้า 2 ตำแหน่งแชมป์โลก 2025 ที่โรมาเนีย

การแข่งขันเทคบอลชิงแชมป์โลก 2025 (Teqball World Championships 2025) ที่สนามสตราดาบานไยยานอส เมืองโอดอร์เฮอู เซกุยเอสค์ ประเทศโรมาเนีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมา

รอบชิงชนะเลิศ “ทัพเทคบอลไทย” ได้ลุ้นแชมป์ถึง 4 ประเภท ซึ่งทั้งหมดเคยคว้าแชมป์โลกมาแล้วทั้งสิ้น และผลการแข่งขันก็ไม่ทำให้แฟนกีฬาไทยผิดหวัง เมื่อทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มดุดัน คว้าไป 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง ถือเป็นชาติที่ครองเหรียญมากที่สุดในทัวร์นาเมนต์

ไฮไลต์ผลการแข่งขันของนักกีฬาไทย

เหรียญทองเดี่ยวหญิง : จุฑาทิพย์ กันทะธง ย้ำความเหนือชั้นในฐานะแชมป์เก่า เอาชนะ คินกา บาราบาซี่ มืออันดับ 2 ของโลกจากโรมาเนีย 2-1 เซต (12-8, 10-12, 12-3) คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

เหรียญทองคู่หญิง : จุฑาทิพย์ กันทะธง จับคู่กับ สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ ไล่ต้อนคู่จากฮังการี เปตรา เพชี / โนรา วิชเซก 2-1 เซต (12-9, 8-12, 12-6)

เหรียญเงินคู่ชาย : สรศักดิ์ เทาศิริ / จีรติ จันทร์เลียง พลาดท่าให้คู่เก๋าจากเซอร์เบีย บอกดาน มาโรเยวิช / นิโคล่า มิโตร เจ้าของแชมป์โลก 2 สมัย 0-2 เซต (7-12, 3-12)

เหรียญเงินคู่ผสม : สุภาวดี วงศ์คำจันทร์ / พักตร์พงษ์ เดชเจริญ พ่ายคู่เต็งของเจ้าภาพ คินกา บาราบาซี่ / อาปอร์ ยอร์กีเดค 0-2 เซต (2-12, 10-12)

เหรียญทองแดงเดี่ยวชาย : อุเทน กู้เขียว คว้าอันดับสามมาครองได้สำเร็จ

หลังจบศึกโลก ทีมเทคบอลไทยยังไม่พักยาว เพราะเตรียมเดินหน้าต่อในศึกเทคบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นที่โรงยิมซีเกมส์ โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 11–13 ธ.ค. นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


สังเกตอาการ “โรคเท้าเป็นรู” สาเหตุ “เท้าเหม็น” ที่คุณอาจไม่รู้

เท้าเหม็นมีหลายสาเหตุ แต่หนึ่งในสาเหตุที่มาจากการเป็น “โรค” คือ “โรคเท้าเป็นรู” ผศ.ดร.พญ.จิตติมา ฐิตวัฒน์ แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล มีข้อมูลของโรคนี้มาฝากกัน

โรคเท้าเป็นรู คืออะไร?

โรคเท้าเป็นรู หรือ โรคเท้าเหม็น (Pitted keratolysis) เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียจากการที่เราเป็นคนเหงื่อออกที่เท้าเยอะ ฝ่าเท้าจะมีลักษณะเป็นรูๆ เต็มไปหมด เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ที่ฝ่าเท้าจะสร้างสารที่ทำให้บริเวณผิวหนังเกิดการสลาย จึงทำให้เกิดเป็นรูๆ ขึ้นมา มีรอยโรคบริเวณฝ่าเท้าของคนไข้ ฝ่าเท้าจะเป็นรูเล็กๆ เกิดขึ้นเต็มบริเวณฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้าง มีน้ำเหลืองซึม มีกลิ่นเหม็นมาก

สาเหตุของ โรคเท้าเป็นรู หรือโรคเท้าเหม็น

เกิดจากการใส่รองเท้านานๆ หรือการทำกิจกรรมที่ทำให้เท้าเปียกชื้นตลอดเวลา

วิธีรักษาโรคเท้าเป็นรู หรือโรคเท้าเหม็น

หลังจากที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นโรคเท้าเป็นรู หรือโรคเท้าเหม็น แพทย์อาจพิจารณาจ่ายยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ

  1. ยาฟอก
  2. ยาทาผิวหนัง ยาทาลดเหงื่อ
  3. ยากิน

วิธีป้องกันโรคเท้าเป็นรู หรือโรคเท้าเหม็น

  1. ใส่ใจดูแลรักษาความสะอาดของเท้าให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ
  2. ทำความสะอาดเท้าเช้า-เย็น วันละ 2 รอบ ถูสบู่ทุกซอกทุกมุม เช็ดให้แห้งสนิทก่อนสวมถุงเท้ารองเท้าทุกครั้ง
  3. ไม่ควรทำความสะอาดเท้าบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้เซลล์ผิวหนังด้านบนถลอก หรือแห้งเกินไป เสี่ยงติดเชื้อได้มากขึ้น
  4. ตัดเล็บ ทำความสะอาดเล็บและซอกเล็บให้สะอาดอยู่เสมอ
  5. ใครที่จำเป็นต้องใส่รองเท้า ทำให้เท้าอบอับชื้นจากเหงื่อทุกวัน ให้ถอดรองเท้าทุกครั้งเมื่อนั่งทำงานอยู่กับโต๊ะ เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะแทน
  6. หากมีเหงื่อออกที่เท้าเยอะมากระหว่างวัน อาจใช้พัดลมเป่าเท้าได้
  7. พกถุงเท้าสำรองไปเปลี่ยนระหว่างวัน
  8. ใช้แป้ง สารส้ม หรือโรลออนที่ระงับเหงื่อที่รักแร้ มาทาที่ฝ่าเท้าเพื่อช่วยลดเหงื่อได้เช่นกัน

โรคเท้าเป็นรู หรือ โรคเท้าเหม็น รักษาให้หายได้ เมื่อดูแลรักษาเท้าให้แห้งสะอาด ไม่อับชื้นอยู่ตลอดเวลา แต่หากหายแล้วกลับไปมีพฤติกรรมแบบเดิมอีก โรคก็อาจจะกลับมาเป็นซ้ำได้อีกเช่นกัน ดังนั้นควรหมั่นดูแลความสะอาดเท้าอย่างดีเป็นประจำ จะช่วยให้ไม่กลับมาเป็นโรคซ้ำได้อีกแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ง่ายๆ ไว้พูดกับเพื่อน

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ง่ายๆ ที่ควรรู้

ฝึกสนทนาภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยๆ

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจําวัน

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ง่ายๆ คำที่ใช้พูดทั่วๆ ไป และคุยกับเพื่อนได้ มีดังนี้

ประโยคคําถามภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน

What have you been doing? แปลว่า ช่วงนี้คุณทำอะไรบ้าง?
What’s on your mind? แปลว่า คุณคิดอะไรอยู่?
Is that so? แปลว่า อย่างนั้นหรือ?
How come? แปลว่า ทำไมล่ะ?
How’s it going? แปลว่า เป็นอย่างไรบ้าง?
Got a minute? แปลว่า มีเวลาไหม?
About when? แปลว่า เมื่อไหร่?
Anything else? แปลว่า มีอะไรอีกไหม?
So we’ve met again, eh? แปลว่า เราจะได้พบกันอีกใช่ไหม?

ประโยคคําสั่งภาษาอังกฤษ ในชีวิตประจําวัน

Help yourself! แปลว่า เชิญตามสบาย
Speak up! แปลว่า พูดซิ
Come here. แปลว่า มานี่
Do as I say. แปลว่า ทำอย่างที่ฉันพูด
Explain to me why. แปลว่า อธิบายฉันมาซิว่าทำไม
Stop it right away! แปลว่า หยุดเดี๋ยวนี้เลย
No litter. แปลว่า ห้ามทิ้งขยะ
Go for it! แปลว่า ลงมือทำเลย
Be good! แปลว่า อย่าซน ทำตัวดีๆ
Mark my words! แปลว่า จำคำพูดฉันเอาไว้นะ
Give me a certain time! แปลว่า ให้เวลาที่แน่นอนกับฉันด้วย

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน ใช้พูดกับเพื่อน

Absolutely! แปลว่า อย่างแท้จริง
Nothing much. แปลว่า ไม่มีอะไรมาก
I was just thinking. แปลว่า ฉันแค่กำลังคิด
I was just daydreaming. แปลว่า ฉันแค่ฝันกลางวัน
It’s none of your business. แปลว่า ไม่ใช่เรื่องของคุณ
Definitely! แปลว่า อย่างแน่นอน
Of course! แปลว่า แน่นอน
You better believe it! แปลว่า เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย
I guess so แปลว่า ฉันเห็นด้วย
I’ll be shot if I know. แปลว่า ฉันต้องตายแน่ถ้าฉันรู้
There’s no way to know. แปลว่า ไม่มีทางที่จะรู้เลย
I can’t say for sure. แปลว่า ฉันบอกได้ไม่ชัดหรอกนัก
This is too good to be true! แปลว่า มันดีเกินกว่าที่จะเป็นจริง (เหลือเชื่อ)
No way! (Stop joking!) แปลว่า ไม่มีทาง
I got it. แปลว่า ฉันเข้าใจแล้ว
Right on! (Great!) แปลว่า ถูกต้อง!
I did it! (I made it!) แปลว่า ฉันทำได้แล้ว
I won’t take but a minute. แปลว่า ฉันใช้เวลาไม่นานหรอก
To argue hot and long. แปลว่า ข้อโต้แย้งที่รุนแรง
This one is on me! แปลว่า ฉันเลี้ยงเอง
Never mind! แปลว่า ช่างมันเถอะ
Come over. แปลว่า มาเยี่ยม
Don’t go yet. แปลว่า อย่าเพิ่งไป
Please go first. After you. แปลว่า เชิญไปก่อนเลยครับ
Thanks for letting me go first. แปลว่า ขอบคุณที่ให้ฉันไปก่อนนะคะ
What a relief. แปลว่า โล่งอกไปที
bad luck! แปลว่า โชคร้าย
You’re a life saver. แปลว่า คุณช่วยชีวิตฉันไว้
I know I can count on you. แปลว่า ฉันรู้ว่าฉันสามารถไว้ใจคุณได้
That’s a lie! แปลว่า นั่นเป็นเรื่องโกหก
This is the limit! แปลว่า นี่คือขีดจำกัด
Ask for it! แปลว่า แส่หาเรื่อง
In the nick of time. แปลว่า ทันเวลาพอดี
Don’t forget แปลว่า อย่าลืมนะ
How cute! แปลว่า ช่างน่ารักอะไรอย่างนี้
None of your business! แปลว่า ไม่ใช่ธุระของคุณ
Don’t peep! แปลว่า ห้ามแอบดู
What I’m going to do if… แปลว่า ฉันจะทำยังไงถ้า…
A wise guy, eh?! แปลว่า คนที่อวดฉลาดหรอ?
You’d better stop dawdling. แปลว่า คุณควรจะหยุดทำตัวอืดอาดได้แล้ว
Say cheese! แปลว่า ยิ้มหน่อย
what a pity! แปลว่า น่าเสียดายจัง
Please speak more slowly แปลว่า กรุณาพูดช้าๆกว่านี้หน่อย
Scratch one’s head. แปลว่า เวลาที่เราพบความยากลำบากในการทำความเข้าใจกับบางสิ่งบางอย่าง
Take it or leave it! แปลว่า ยอมรับหรือลืมมันเสียเถอะ
Just kidding (joking) แปลว่า ล้อเล่น
No, not a bit. แปลว่า ไม่แม้แต่น้อยเลย, ไม่เลย
Nothing particular! แปลว่า ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
I’ll take your word for it. แปลว่า ฉันจะเชื่อคุณละกัน
The same as usual! แปลว่า เหมือนเดิม
It serves you right! แปลว่า สมน้ำหน้า
The more, the merrier! แปลว่า คนยิ่งเยอะก็ยิ่งครึกครื้น
Boys will be boys! แปลว่า ผู้ชายก็เป็นผู้ชายอยู่วันยังค่ำ
Good job! / Well done! แปลว่า ดีมาก
Just for fun! แปลว่า แค่สนุกๆ, ขำๆ
Try your best! แปลว่า พยายามให้ถึงที่สุด
Make some noise! แปลว่า ขอเสียงหน่อย
Calm down! แปลว่า ใจเย็นๆ
Go for it! แปลว่า ลงมือทำเลย
Strike it lucky. แปลว่า โชคดี
What a relief! แปลว่า โล่งอกไปที
Always the same. แปลว่า เหมือนเดิมตลอด
Hit it off. แปลว่า ถูกชะตากัน
Hit or miss. แปลว่า อย่างไม่ระมัดระวัง, อย่างไร้ทิศทาง
Add fuel to the fire. แปลว่า เติมเชื้อไฟ
Don’t mention it! / Not at all. แปลว่า ไม่เป็นไร
Enjoy your meal! แปลว่า ทานอาหารให้อร่อยนะ
Provincial! แปลว่า บ้านนอก
Discourages me much! แปลว่า ฉันรู้สึกท้อมาก
It’s a kind of once-in-life! แปลว่า มันคือครั้งหนึ่งในชีวิต
The God knows! แปลว่า พระเจ้าทรงทราบ, พระเจ้าทรงเป็นพยาน
Poor you/me/him/her..! แปลว่า น่าสงสารจัง
Almost done! แปลว่า เกือบเสร็จแล้ว
You ‘ll have to step on it. แปลว่า คุณต้องรีบๆหน่อย
I’m in a hurry. แปลว่า ฉันกำลังรีบ
Sorry for bothering! แปลว่า ขอโทษที่รบกวน
Congrats! แปลว่า ยินดีด้วยนะ!
Congratulations! แปลว่า ขอแสดงความยินดีด้วย
Congratulations on your success. แปลว่า ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของเธอน้า
Sincere Congratulations! แปลว่า ขอแสดงความยินดีด้วยจากใจเลย!
Let me congratulate you. แปลว่า ขอชั้นยินดีกับเธอด้วยคนนะ
Well done! หรือ Good job! แปลว่า ทั้งสองคำนี้แปลว่า ทำได้ดีมากๆ เลย!
I’m so happy for you. แปลว่า ชั้นรู้สึกยินดีกับเธอมากๆ เลย
We’re so proud of you. แปลว่า พวกเราภูมิใจในตัวเธอนะ

ประโยคภาษาอังกฤษชวนเพื่อนคุย หลังวันหยุดยาว

How was your vacation? วันหยุดของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
Where did you go? คุณไปที่ไหนมา
Who did you travel with? คุณไปเที่ยวกับใคร?
What was the most enjoyable thing that you did during your vacation? อะไรคือสิ่งที่คุณรู้สึกสนุกที่สุดในช่วงวันหยุด
Did you have any bad experiences? คุณเจออะไรแย่ๆ ไหม?

เพื่อนๆ สามารถนำประโยคภาษาอังกฤษนี้ ไปฝึกพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน จะได้พูดได้อย่างคล่องแคล่วนะคะ การเรียนภาษาอังกฤษไม่ยากเลยแต่ต้องให้เวลากับมัน แล้วหมั่นฝึกฝนบ่อยๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก edufirstschool.com


เตือนภัยมือถือ Android สกมช.แนะ รีบอัปเดตด่วน พบช่องโหว่เสี่ยงถูกแฮก

  • สกมช. เตือนภัยช่องโหว่ความปลอดภัยระดับวิกฤตในมือถือ Android ที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon
  • มีความเสี่ยงถูกแฮกเกอร์โจมตีเพื่อควบคุมเครื่องได้โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกดลิงก์หรือกระทำการใดๆ (Zero-Click Attack)
  • แนะให้ผู้ใช้งานเร่งอัปเดตแพตช์ความปลอดภัยเป็นเวอร์ชันล่าสุดโดยด่วน ซึ่งผู้ผลิตได้ปล่อยอัปเดตมาแล้ว

แฟนเพจ ThaiCERT ของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ออกประกาศเตือนภัยร้ายแรงแก่ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนระบบปฏิบัติการ Android ที่ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon หลังตรวจพบช่องโหว่ระดับวิกฤตที่อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์โจมตีเครื่องได้โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องโต้ตอบใด ๆ

ช่องโหว่ระดับ Critical คะแนน CVSS 9.8

ช่องโหว่ที่ถูกแจ้งเตือนนี้คือ CVE-2025-21483 ซึ่งมีระดับความรุนแรงอยู่ที่ Critical (9.8/10.0) โดยช่องโหว่ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกลไกการประมวลผลข้อมูลภายในชิปเซ็ต ซึ่งอาจถูกใช้เป็นช่องทางในการแทรกแซงและควบคุมอุปกรณ์ได้

รูปแบบการโจมตี: เป็นการโจมตีแบบ Zero-Click หรือการโจมตีที่ผู้ใช้งานไม่ต้องกดลิงก์, ไม่ต้องรับสาย, หรือเปิดไฟล์อันตรายใด ๆ

ช่องทางเสี่ยง: ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาเฉพาะเพื่อโจมตีระบบสามารถถูกส่งเข้ามาทาง SMS/MMS ที่แนบภาพหรือวิดีโอ หรือแม้แต่การประมวลผลสัญญาณ “การโทรเข้า” ผ่านแอปพลิเคชันแชทบางประเภท (เช่น WhatsApp, LINE) ซึ่งระบบจะประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นโดยอัตโนมัติ ทำให้คำสั่งอันตรายสามารถทำงานได้ทันที

ผู้ผลิตออกแพตช์แล้ว ผู้ใช้ต้องเร่งดำเนินการ

ThaiCERT ระบุว่าช่องโหว่นี้ถูกเผยแพร่ข้อมูลในปี 2568 และผู้ผลิตชิป รวมถึงผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือได้ทยอยออก แพตช์รักษาความปลอดภัย มาตั้งแต่ช่วง พฤศจิกายน – ธันวาคม 2568 แล้ว

ผู้ที่ได้รับผลกระทบคือผู้ใช้สมาร์ตโฟน Android ทุกยี่ห้อที่ใช้ชิปดังกล่าวและยังไม่ได้อัปเดตแพตช์ความปลอดภัยในช่วงเวลาดังกล่าว

คำแนะนำเร่งด่วน: อัปเดตซอฟต์แวร์ทันที

สกมช. ย้ำให้ผู้ใช้งานเร่งดำเนินการ อัปเดตแพตช์ความปลอดภัย เป็นเวอร์ชันล่าสุดโดยเร็วที่สุด ซึ่งการอัปเดตนี้เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและทรัพย์สินของผู้ใช้

ขั้นตอนการอัปเดต:

  1. ไปที่ การตั้งค่า (Settings)
  2. เลือก อัปเดตซอฟต์แวร์ หรือ เกี่ยวกับโทรศัพท์
  3. กด ดาวน์โหลดและติดตั้ง

ข้อควรจำ: ควรเชื่อมต่อ Wi-Fi และตรวจสอบให้แบตเตอรี่มีอย่างน้อย 75% ก่อนเริ่มการอัปเดต หากพบว่าแพตช์ความปลอดภัยยังไม่เป็นเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคม 2568 หรือใหม่กว่า ควรรีบติดตั้งทันที

สัญญาณเตือนที่อาจถูกโจมตีแล้ว

หากผู้ใช้งานยังไม่ได้อัปเดตแพตช์ความปลอดภัย และพบอาการผิดปกติเหล่านี้ร่วมด้วย ถือว่ามีความเสี่ยงสูง:

  1. เครื่องร้อนผิดปกติขณะไม่ได้ใช้งาน
  2. แบตเตอรี่ลดลงรวดเร็วผิดปกติในช่วงเวลาสั้น ๆ
  3. การใช้อินเทอร์เน็ตพุ่งสูงผิดปกติ

หากโทรศัพท์รุ่นเก่าไม่ได้รับการอัปเดต สกมช. แนะนำให้ ปิดการรับ MMS อัตโนมัติ ในแอปข้อความ และหลีกเลี่ยงการเปิดไฟล์แปลกปลอมเพื่อลดความเสี่ยงชั่วคราว

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ประโยชน์จาก “แมลง” ที่เราอาจไม่เคยรู้

เชื่อหรือไม่ว่าประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่บริโภคแมลงมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เรามีเกษตรกรกว่า 20,000 รายที่เลี้ยงตั๊กแตนเพื่อการบริโภคโดยเฉพาะมากถึง 7,500 ตันต่อปี

อย่างไรก็ตาม นอกจากจะเป็นโปรตีนชั้นดี และรสชาติชั้นเลิศที่หลายคนทานไม่หยุดได้ง่ายๆ แล้ว แมลงยังอาจส่งผลต่อร่างกายในแบบที่เราก็คาดไม่ถึงอีกด้วย

ทานแมลง ลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจาง

วิตามินบี 12 ที่มาจากกับแมลงมีปริมาณสูงมาก วิตามินบี 12 เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยควบคุมการทำงานของระบบประสาท และสมอง และช่วยในการผลิตของเซลล์เม็ดเลือดที่หล่อเลี้ยงในร่างกายด้วย และยังเป็นวิตามินที่พบมากในอาหารที่มาจากเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทั้งหมด (มังสวิรัติบางคนจึงต้องทานวิตามินบี 12 เพิ่ม เพราะอาจเสี่ยงได้รับวิตามินบี 12 น้อยเกินไป)

หากร่างกายได้รับวิตามินบี 12 ไม่เพียงพอ อาจเสี่ยงภาวะโลหิตจาง โรคหัวใจ และระบบประสาทในสองถูกทำลาย ได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ นอกจากนี้วิตามินบี 12 ยังมีส่วนในการบำรุงผิวหนัง เส้นผม และเล็บอีกด้วย ดังนั้นหากขาดวิตามินบี 12 ไป อาจส่งผลให้เส้นผมเปราะบาง ขาดง่าย ผิวแห้งเหี่ยว รวมถึงเล็บเปราะไม่แข็งแรงด้วยเช่นกัน

แมลง 100 กรัม สามารถให้โปรตีนได้มากถึง 24 ไมโครกรัม ซึ่งมากกว่าปริมาณวิตามินบี 12 ที่ควรได้รับต่อวันถึง 10 เท่า ดังนั้นเราสามารถทานแมลงเพียงไม่กี่กรัม ก็สามารถเพิ่มวิตามินบี 12 รวมถึงโปรตีนที่ดีต่อร่างกายได้เพียงพอแล้ว

สิ่งที่ควรระมัดระวัง เมื่อทานแมลง

แมลงเป็นที่ยอมรับโดยสากลโลกว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายจริง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทานแมลงได้โดยไม่ได้รับผลกระทบในแง่ร้ายใดๆ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบว่า ส่วนใหญ่แมลงทอดที่ขายในบ้านเรามีสารฮีสตามีน (Histamine) ในปริมาณสูง ซึ่งสารฮีสตามินสามารถพบได้ในแมลงทั่วไปที่เริ่มมีการเน่าเสีย รวมถึงอาหารที่ไม่สะอาดเพียงพอ และเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ และหากทานมากเกินไปอาจเสี่ยงเกิดผิวหนังอักเสบ เป็นลมพิษ ผื่นแดง เวียศีรษะอย่างรุนแรง คลื่นไสเ อาเจียน และหอบหืดจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

นอกจากนี้ หากนำแมลงไปทอดในแบบที่บ้านเราชอบทานกัน แมลงอาจดูดซับน้ำมันเอาไว้มาก จนทำให้แมลงทอดเต็มไปด้วยไขมันเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว และแน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นไขมันที่ไม่ดีต่อร่างกาย ที่มาจากน้ำมันสัตว์คุณภาพต่ำ และใช้ทอดซ้ำแล้วซ้ำเล่าของผู้ขายนั่นเอง

ดังนั้น อยากทานแมลงให้อร่อย ให้ดีต่อสุขภาพ ควรเลือกทานแมลงที่ผ่านการอบ มากกว่าทอด หรือหากทอดก็เลือกร้านที่ใช้น้ำมันใหม่ๆ ใสๆ ทอด และไม่ทานแมลงทอดมากเกินไป เพราะนอกจากไขมันที่มาพร้อมการทอดแล้ว เครื่องปรุงรสที่ใส่เพิ่มลงไปยังเสี่ยงอันตรายต่อการรับโซเดียมมากเกินไป และเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไตได้อีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 08/12/2568

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a63,350.0063,450.00
ทองรูปพรรณ 96.5%4,095.0062,080.2064,250.00
ทองรูปพรรณ 90%3,685.5055,872.18n/a
ทองรูปพรรณ 80%3,276.0049,664.16n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,842.7527,936.09n/a
ทองรูปพรรณ 40%1,433.2521,728.07n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%4,243.5264,331.76n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 08/12/2568


ปตท.

บางจาก

เชลล์

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9531.8531.8532.3531.8531.8531.8531.8531.8531.85
แก๊สโซฮอล์ 9131.4831.4831.9831.4831.4831.4831.4831.4831.48
แก๊สโซฮอล์ E2029.6429.6429.9429.6429.6429.6429.6429.64
แก๊สโซฮอล์ E8527.5927.5927.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม40.0449.5449.8440.04
เบนซิน 9540.1449.5140.6440.2940.14
ดีเซล30.9430.9430.9430.9430.9430.9430.9430.9430.94
ดีเซลพรีเมี่ยม43.4445.6449.8445.6443.44
แก๊ส NGV18.5518.5518.55
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า