ส.รับสร้างบ้านให้คำปรึกษาฟรี บ้านที่ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ตั้งคณะทำงานช่วยเหลือ ให้คำปรึกษาฟรี บ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวผ่านทาง Facebook Messenger เพจ สมาคมฯตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เม.ย.2568
หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา หลายบ้านในกรุงเทพและปริมณฑลได้รับผลกระทบอย่างหนักจากแรงสั่นสะเทือน ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เพียงแค่สร้างความวิตกกังวลในด้านความปลอดภัย แต่ยังเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ต่อเจ้าของบ้านที่ต้องการการช่วยเหลือและคำแนะนำในการฟื้นฟูบ้านของตนเองให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯตระหนักถึงความสำคัญของปัญหานี้ จึงได้ตัดสินใจตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อเป็นตัวกลางในการให้คำปรึกษาและความช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว โดยเปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถเข้ามาขอคำแนะนำได้ฟรี ผ่านทาง Facebook Messenger เพจ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 เม.ย.2568 เพื่อให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือสามารถรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการสร้างบ้านที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี
คำแนะนำจากมืออาชีพ
การตรวจสอบเบื้องต้นของบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยสมาคมฯ ได้กำหนดแนวทางในการตรวจสอบบ้านที่อาจได้รับความเสียหาย เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถประเมินสถานการณ์และตัดสินใจได้ว่า บ้านของตนเองมีความเสี่ยงระดับใด และควรดำเนินการอย่างไรต่อไป
1. รอยร้าวเล็กที่ผนังก่ออิฐ:
หากพบรอยร้าวที่ผนังก่ออิฐเป็นเส้นเล็กๆ คล้ายรอยแตกที่ไม่กระทบกระเทือนไปถึงโครงสร้างหลักของบ้าน รอยแตกร้าวลักษณะนี้อาจจะเป็นแค่รอยแตกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการเคลื่อนไหวของพื้นดิน แต่หากไม่มีการแตกร้าวเพิ่มเติมในระยะเวลาอันใกล้ จะถือว่าเสี่ยงน้อยและไม่จำเป็นต้องรีบแก้ไข
2. รอยร้าวที่ลึกเกิน 1 มิลลิเมตร:
หากพบรอยร้าวที่ผนังก่ออิฐมีความลึกมากกว่า 1 มิลลิเมตร หรือเห็นวัสดุก่ออิฐภายใน แต่ยังไม่ส่งผลกระทบไปยังโครงสร้างหลักของบ้าน จะถือว่าเป็นความเสี่ยงระดับปานกลาง เจ้าของบ้านควรขอคำปรึกษาจากวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างยังปลอดภัย
3. รอยร้าวกระทบโครงสร้างหลักของบ้าน:
หากพบว่ารอยร้าวนั้นกระทบไปถึงโครงสร้างหลัก เช่น เสา คาน หรือพื้นบ้าน อาจจะเห็นได้ในรูปแบบของรอยแตกในหลังคาหรือผนัง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและต้องได้รับการตรวจสอบจากวิศวกรทันที เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ภารกิจเพื่อสังคมในยามวิกฤติ
การจัดตั้งคณะทำงานในครั้งนี้ไม่ได้เป็นแค่การช่วยเหลือที่ให้คำปรึกษาเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการให้ความมั่นใจแก่ประชาชนในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเข้าใจดีถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการสร้างบ้านมาช่วยเหลือให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถกลับมามีบ้านที่ปลอดภัยและพร้อมใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
การกระทำในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การให้คำปรึกษาในด้านเทคนิคและวิศวกรรม แต่ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาคมและประชาชนในยามวิกฤติ เป็นการยืนยันถึงบทบาทของสมาคมที่มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือสังคมในทุกสถานการณ์
ในช่วงเวลาที่บ้านหลายหลังได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ โดยไม่เพียงแต่ให้คำปรึกษาฟรี แต่ยังเสนอมาตรการที่ชัดเจนในการตรวจสอบความเสียหายและประเมินความเสี่ยงที่เกิดขึ้นกับบ้านของประชาชน ซึ่งการให้คำแนะนำที่มีความเชี่ยวชาญจากผู้ที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในธุรกิจการก่อสร้างบ้าน จะช่วยให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้อย่างปลอดภัย
หากท่านต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านได้ที่ Facebook Messenger เพจ สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน หรือโทร 1623 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับคำปรึกษาและข้อมูลที่จำเป็นในการฟื้นฟูบ้านที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
วิกฤตแผ่นดินไหวสะเทือนคอนโดไทย อาจพลิกโอกาสสร้างความเชื่อมั่น

นายกสมาคมอาคารชุดไทยเผย แม้แผ่นดินไหวสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อตลาดคอนโดฯ ไทย มาตรฐานอาคารสูงที่แข็งแกร่งอาจพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อ
จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดที่ได้สร้างความกังวลให้กับเหล่าผู้บริโภคและในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมและอาคารสูง อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยกับ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ ว่า อาคารสูงในประเทศไทยสามารถรับมือกับแรงสั่นสะเทือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรงหรือการพังถล่มของโครงสร้างหลักเลยแม้แต่กรณีเดียว
“เราสอบผ่าน 100% ในด้านมาตรฐานวิศวกรรมและโครงสร้างของอาคารสูงของผู้ประกอบการไทย ในส่วนของเอกชนไม่มีรายงานโศกนาฏกรรม ไม่มีตึกไหนพังทลายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้” นายประเสริฐกล่าว
พร้อมย้ำอีกว่า แม้หลังจากนี้อาจได้รับผลกระทบด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพียงเล็กน้อย แต่มาตรฐานการก่อสร้างอาคารของไทยยังคงจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก และได้รับการออกแบบให้รองรับแผ่นดินไหวอย่างรัดกุม
และในระยะยาว นายประเสริฐมองว่าตลาดคอนโดมิเนียมจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญ่จำเป็นที่ต้องเลือกอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม หากต้องการการอาศัยในเมือง และจากพื้นที่อันจำกัดที่อยู่อาศัยส่วนมาก คอนโดมิเนียมหรืออาคารสูง ที่มีราคาจับต้องได้จึงจะยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภค
“จากเหตุการณที่เกิดขึ้น วันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าตึกสูงของเอกชนมีความปลอดภัย ถ้ามองในแง่ความเสียหาย รวมถึงอาคารเหล่านี้มีประกันคุ้มครองและสามารถซ่อมแซมได้” นายประเสริฐกล่าว
และเมื่อความตื่นตระหนกและความกังวลได้คลี่คลายไป ผู้บริโภคจะตระหนักและให้ความสำคัญกับการเลือกคอนโดมิเนียมที่มีมาตรฐานความปลอดภัยของอาคารสูง และอาจทำให้คอนโดมิเนียมในทำเลที่มีโครงสร้างแข็งแกร่งเป็นที่ต้องการมากขึ้น
นายประเสริฐยังเน้นย้ำถึงโครงสร้างกฎหมายที่เข้มงวดของไทย ซึ่งทำให้ไม่มีอาคารไหนพังทลายแม้จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ กล่าวว่า กฎหมายที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงมาตรการรองรับความเสียหายหลังเกิดเหตุ เป็นสิ่งที่ช่วยให้ภาคเอกชนผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้
นอกจากนี้ ระบบประกันภัยที่ครอบคลุมหลายชั้น ทั้งประกันอาคารรวมและประกันส่วนบุคคล ยังช่วยลดภาระให้กับเจ้าของอาคารและผู้พักอาศัย ทำให้สามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยหลังจากนี้ควรจะต้องให้ความสำคัญกับประชาชนและการฟื้นความเชื่อมั่นเป็นหลัก
“ความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เมื่อประชาชนเข้าใจว่าตึกสูงในไทยมีความปลอดภัยสูง ความกังวลก็จะหมดไป และตลาดก็จะกลับมาเอง” นายประเสริฐกล่าว
ในระยะยาว นายประเสริฐเชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้ซื้อ โดยทำให้คอนโดมิเนียมและอาคารสูงที่มีมาตรฐานการก่อสร้างแข็งแกร่ง กลายเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับผู้ที่มองหาที่อยู่อาศัยในเมือง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 1เม.ย.“อ่อนค่าลง เล็กน้อย” ที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดกรอบจะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.10 บาท/ดอลลาร์ ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 1เม.ย.2568 ที่ระดับ 33.99 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง เล็กน้อย”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ 33.93 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังเสี่ยงทยอยอ่อนค่าลงแบบค่อยเป็นค่อยไป หรืออาจกล่าวได้ว่า เงินบาทอาจแกว่งตัวในลักษณะ Sideways Up
ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ทว่า เงินบาทยังอาจพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง หากราคาทองคำยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ หรืออย่างน้อยก็แกว่งตัวในกรอบ Sideways
นอกจากนี้ ในส่วนของฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาตินั้น แม้ว่า เราจะเห็นแรงขายหุ้นไทยจากบรรดานักลงทุนต่างชาติ แต่มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในการประชุมครั้งถัดไป และอาจเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้มากกว่า 1 ครั้งในปีนี้ เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางปัจจัยกดดัน
ทั้งนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด ก็ทำให้บรรดาผู้เล่นในตลาดอาจยังมีความต้องการซื้อบอนด์ไทย โดยเฉพาะบอนด์ระยะยาว
ดังจะเห็นได้จากแรงซื้อบอนด์ระยะยาวในช่วงวันก่อนหน้า โดยแรงซื้อสินทรัพย์ไทยก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทได้ แม้ว่าจะถูกกดดันจากปัจจัยเสี่ยงอย่าง ความกังวลนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี เรามองว่า ควรระวังความผันผวนของค่าเงินบาท (USDTHB) ในช่วงตลาดทยอยรับรู้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ทั้ง ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตและยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) ซึ่งสถิติในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ชี้ว่า การแกว่งตัวของเงินบาทในระดับ +/- 1SD อาจอยู่ในช่วงราว +/-0.20% ในช่วง 30 นาที หลังตลาดรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว
ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงปีหน้าที่จะเผชิญกับ Trump’s Uncertainty ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.85-34.10 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงบ้าง ในลักษณะ Sideways Up (แกว่งตัวในกรอบ 33.88-34.01 บาทต่อดอลลาร์) โดยเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าลงทดสอบโซนแนวต้าน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์
ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กดดันให้บรรดาสกุลเงินหลัก ต่างอ่อนค่าลง อาทิ เงินยูโร (EUR) และเงินปอนด์อังกฤษ (GBP) ตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดหุ้นยุโรป
อย่างไรก็ดี เงินบาทยังพอได้แรงหนุนบ้าง ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ (XAUUSD) ที่ยังสามารถแกว่งตัวแถวโซน 3,120 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เงินบาทยังไม่สามารถอ่อนค่าทะลุโซน 34.00 บาทต่อดอลลาร์ ได้อย่างชัดเจน
บรรดาผู้เล่นในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ นอกจากนี้ บรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ต่างยังคงปรับตัวลดลง อาทิ Tesla -1.7%, Amazon -1.3% ทำให้โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวลง -0.14% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.55%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ดิ่งลงกว่า -1.51% ท่ามกลางความกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ยังคงกดดันหุ้นกลุ่มยานยนต์ และกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังคงเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากแรงขายหุ้นเทคฯ ยุโรป อย่าง ASML -3.1%
ในส่วนตลาดบอนด์ ท่าทีระมัดระวังตัวของผู้เล่นในตลาด ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ล่าสุดทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างประเมินว่า เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยราว 3 ครั้ง ในปีนี้ ได้กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงแกว่งตัวแถวโซน 4.20%
อย่างไรก็ดี บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงาน และเนื่องจาก เราคงมุมมองเดิมว่า บอนด์ระยะยาวของสหรัฐฯ ยังมีความน่าสนใจอยู่ ทำให้เราคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดสามารถรอจังหวะทยอยเข้าซื้อสะสมบอนด์ระยะยาว ในช่วงที่บอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นได้ (เน้นรอ Buy on Dip)
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นบ้าง ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่กดดันให้บรรดาสกุลเงินหลักอ่อนค่าลง ทว่าการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ยังคงถูกจำกัดลง หลังผู้เล่นในตลาดยังคงมีความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้โดยรวมเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย สู่โซน 104.2 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 104.0-104.4 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ ความกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยที่หนุนให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. 2025) สามารถรีบาวด์ขึ้นและแกว่งตัว แถวโซน 3,150-3,160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าราคาทองคำจะเผชิญแรงกดดันบ้างจากแรงขายทำกำไรของผู้เล่นในตลาดและจังหวะปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ
สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) เดือนมีนาคม และยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings) เดือนกุมภาพันธ์
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประกอบการประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน ในเดือนมีนาคม และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ ECB
โดยเฉพาะประธาน ECB ซึ่งล่าสุด ผู้เล่นในตลาดเริ่มประเมินว่า ECB มีโอกาสราว 38% ที่จะเดินหน้าลดดอกเบี้ยอีก 3 ครั้ง ในปีนี้ ท่ามกลางผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ
และในฝั่งเอเชีย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิตของจีน ในเดือนมีนาคม ซึ่งจะเน้นบริษัทขนาดเล็ก-กลาง พร้อมทั้งรอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) โดยบรรดานักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า RBA อาจคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 4.10% เพื่อรอประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 34.00-34.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.20 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 33.92 บาทต่อดอลลาร์ฯ
เงินบาทอ่อนค่ามาใกล้แนว 34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ อีกครั้ง แต่ในภาพรวมยังเป็นการเคลื่อนไหวสอดคล้องกับทิศทางของสกุลเงินอื่น ๆ ในเอเชียท่ามกลางความไม่แน่นอนของผลกระทบจากการประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำในตลาดโลกในระยะนี้ ยังช่วยชะลอกรอบการอ่อนค่าของเงินบาทไว้ได้บางส่วน
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 33.85-34.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์ของสงครามการค้าในช่วงก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยรายละเอียดของ Reciprocal Tariff กับประเทศคู่ค้า สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก
รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี PMI/ISM ภาคการผลิตเดือนมี.ค. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.พ. รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมี.ค. ของจีน ยูโรโซน และอังกฤษ และอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ของยูโรโซน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เปิดเงินรางวัล “โปรจีน อาฒยา” หลังจบที่ 4 กอล์ฟ แอลพีจีเอ ฟอร์ด แชมเปียนชิพ

ยังเดินหน้าโกยเงินรางวัลในทุกสนามแข่งขันสำหรับ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาวชาวไทย ที่แม้ในรายการ แอลพีจีเอ ฟอร์ด แชมเปียนชิพ 2025 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จะไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้
แต่ก็ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมวันสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา เก็บเพิ่ม 6 อันเดอร์พาร์ ปิดเกมด้วยสกอร์รวม 20 อันเดอร์พาร์ คว้าอันดับ 4 ของรายการโดยตามหลังผู้นำ คิมฮยูชู จากเกาหลีใต้ เพียงแค่ 2 สโตรก
จากผลงานการคว้าอันดับ 4 ในรายการนี้ทำให้เก็บคะแนนสะสมโลกเพิ่มอีก 180 แต้ม พร้อมกันนี้ยังได้รับเงินรางวัลมาครอง 116,324 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,940,000 บาท)
สำหรับ “โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล นักกอล์ฟสาวชาวไทยมือ 2 โลกในปัจจุบัน นับตั้งแต่เข้าแข่งขันในรายการ แอลพีจีเอ ทัวร์ เมื่อปี 2022 สามารถคว้าแชมป์ไปได้ 5 รายการ โกยเงินไปได้รวมทั้งหมด 10,475,000 เหรียญ (ประมาณ 358 ล้านบาท)
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
สาเหตุอาการบ้านหมุน อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

ใครที่มีอาการบ้านหมุน อย่าคิดว่าแค่นอนไม่พอเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วอาการบ้านหมุนมีหลายสาเหตุ อาจอันตรายกว่าที่คิดก็ได้
อาการ “บ้านหมุน” เป็นอย่างไร
ทุกคนอาจคุ้นเคยกับอาการ “เวียนศีรษะ” ตามปกติ แต่สำหรับอาการบ้านหมุน จะเป็นอาการที่รู้สึกว่าตัวเองหมุนหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนได้ ซึ่งที่จริงแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวนั้นเกิดขึ้นจริง
สาเหตุของอาการบ้านหมุน
อาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุน อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งความผิดปกติของระบบการทรงตัวของร่างกายตลอดจนความเจ็บป่วยอื่นๆ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคเบาหวาน เป็นต้น
- ความผิดปกติของหูชั้นในหรือระบบสมองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทรงตัว
- ความผิดปกติของระบบอื่นๆ เช่น ระบบไหลเวียนโลหิต หรือสายตา
- ฤทธิ์ข้างเคียงจากการรับประทานยาบางชนิด
- ปัจจัยอื่นๆ เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ เมารถ หรือเมาเรือ
วิธีรักษาอาการบ้านหมุน
ปกติแล้วแพทย์จะทำการรักษาตามสาเหตุ วิธีรักษาในแต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไป เช่น อาจมีการให้ยาไปกินที่บ้าน เพื่อลดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือฝึกทรงตัว เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสมดุลของระบบประสาททรงตัวได้ เป็นต้น
วิธีป้องกันการเกิดอาการบ้านหมุน
- หลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดอาการบ้านหมุน เช่น เครียด วิตกกังวล นอนหลับไม่เพียงพอ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม
- ลดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกาย และบริหารประสาททรงตัวอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงเสียงดัง และการกระทบกระเทือนบริเวณหู
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
กลไกความปลอดภัยใหม่ ‘IllusionCAPTCHA’

IllusionCAPTCHA ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ยังเชื่อมช่องว่างระหว่างมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการใช้งาน
เนื่องจากความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้กลายเป็นเรื่องหลักที่องค์กรส่วนใหญ่ทั่วโลกให้สำคัญเพราะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเผชิญกับภัยคุกคามต่างๆ และความเสียหายจากเหล่าบรรดาผู้ไม่ประสงค์ดีที่เดินหน้าเร่งพัฒนาวิธีการเพื่อโจมตีระบบของเหยื่ออย่างต่อเนื่อง
อย่างในวันนี้ ผมจะนำเสนอเกี่ยวกับระบบ CAPTCHA ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อแยกแยะมนุษย์จากบอทอัตโนมัติโดยการใช้ประโยชน์จากช่องว่างระหว่างความสามารถทางปัญญาของมนุษย์และข้อจำกัดของ AI ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อสู้ของความปลอดภัยทางไซเบอร์ และ AI ที่มีความก้าวหน้าอย่างมาก
โดยเฉพาะโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) แบบใหม่ GPT-4o และ Gemini 1.5 pro 2.0 ได้ถูกปรับปรุงความสามารถในการแก้ไข CAPTCHA ได้อย่างมาก
โมเดลเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ภาพที่ซับซ้อนและอธิบายโดยใช้ภาษาปกติทั่วไปได้อย่างง่ายดายเช่น สามารถแก้ไขข้อความ GPT-4o และ Gemini 1.5 pro 2.0 อยู่ที่ประมาณ 60-80% และสามารถแก้ไขรูปภาพ อยู่ที่ประมาณ 30-50% และนี่เองที่ส่งผลให้ CAPTCHA แบบเดิมเหล่านี้ถูกคุกคามจนทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยลดลง หรืออาจกล่าวได้ว่า ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว
ปัจจุบัน ทีมวิจัยจึงได้เร่งพัฒนาและนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดอย่าง IllusionCAPTCHA ซึ่งเป็นระบบ CAPTCHA แบบใหม่เพื่อจัดการกับช่องโหว่ของ CAPTCHA แบบเดิมโดยการใช้ภาพลวงตาเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างผู้ใช้งานที่เป็นมนุษย์และบอท AI เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามของ AI ที่เพิ่มขึ้น
วิธีการนี้ง่ายสำหรับมนุษย์ในการรับรู้ เพราะใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะตัวของสมองมนุษย์ในการประมวลผลความคลาดเคลื่อนทางการมองเห็นและการรับรู้ ซึ่งระบบ AI พยายามที่จะลอกเลียนแบบ
สำหรับคุณสมบัติที่สำคัญเด่นๆ คือ “ภาพลวงตา” ใช้ภาพที่ฝังอยู่กับภาพลวงตาซึ่ง AI ตีความได้ยาก “โครงสร้างคำถามทีละขั้นตอน” กระตุ้นให้บอททำข้อผิดพลาดที่คาดเดาได้ในขณะที่ปล่อยให้มนุษย์ผ่านไปได้อย่างง่ายดาย
จากนั้นทีมวิจัยได้ทำการทดลองโดยใช้ GPT-4o และ Gemini 1.5 pro 2.0 ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ LLM ขั้นสูงเหล่านี้ไม่สามารถผ่าน IllusionCAPTCHA ได้สำเร็จ ในขณะเดียวกันก็มีการสำรวจผู้ใช้งานพบว่า 86% ของผู้เข้าร่วมทดสอบสามารถผ่าน CAPTCHA ได้ในครั้งแรก
จุดนี้เองแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน นี่จึงสรุปได้ว่า IllusionCAPTCHA ไม่เพียงแต่เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ยังเชื่อมช่องว่างระหว่างมาตรการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งและการใช้งาน ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับระบบ CAPTCHA ในยุคของ AI นี้ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
รวมมิตรคำศัพท์เกี่ยวกับแผ่นดินไหว ที่เพื่อนๆ ควรรู้

สำหรับข่าวคราวภัยพิบัติในช่วงที่ผ่านมานี้คงไม่มีข่าวไหนที่จะรุนแรง และสร้างความเสียหายมากเท่าแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาลกันอีกแล้ว
เรื่องภัยพิบัตินั้นไม่เข้าใครออกใคร วันนี้เราเลยนำคำศัพท์เกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรณีมาฝากเพื่อนๆ กันจ้า ว่าแล้วเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีคำไหนอะไรยังไงมั่ง
Natural Disaster ภัยธรรมชาติ
Earthquake แผ่นดินไหว
Quake แผ่นดินไหว
Tremor การสั่นไหว
After Shock แผ่นดินไหวตาม
Disaster Area เขตประสบภัยพิบัติ
Catastrophe ความหายนะ
Destruction การทำลาย
Flood น้ำท่วม
Volcano ภูเขาไฟ
Volcano Eruption การระเบิดของภูเขาไฟ
Volcano Eruption การระเบิดของภูเขาไฟ
Mudslide โคลนถล่ม
Landslide แผ่นดินถล่ม
Refuge ที่หลบภัย
Refugee ผู้ลี้ภัย
Evacuee ผู้ลี้ภัย
Victim เหยื่อ ผู้เคราะห์ร้าย
Casualty จำนวนคนตาย ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
Death Toll ยอดผู้เสียชีวิต
Survivor ผู้รอดชีวิต
Devastate ทำลายล้าง
Cripple ทำลาย ทำให้ใช้การไม่ได้
Evacuate อพยพ
Obliterate ทำลายจนสิ้นซาก
Imperil เป็นอันตราย
Rescue ช่วยชีวิต ช่วยเหลือ
Body ร่าง
Corpse ศพ
Crematorium เตาเผาศพ, ที่เผาศพ
Coffin โลงศพ
Funeral พิธีฝังศพ
Main Shock แผ่นดินไหวหลัก
Fore Shock แผ่นดินไหวนำ คือแผ่นดินไหวขนาดเล็กที่สั่นเตือนล่วงหน้า
Magnitude ขนาด ปริมาณ
Knock off ชนหรือกระทบ
Report รายงาน
Scatter กระจัดกระจาย
News ข่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“มะยงชิด” มีประโยชน์ และผลกระทบ ผลเสียต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง

เมื่อลมร้อนพัดมาถึง ผลไม้สีเหลืองทองอร่ามอย่าง “มะยงชิด” ก็เริ่มออกสู่ตลาด ด้วยรสชาติหวานอมเปรี้ยวที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้มะยงชิดกลายเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงฤดูร้อน ไม่เพียงแต่รสชาติที่อร่อยสดชื่นเท่านั้น มะยงชิดยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่ก็มีผลกระทบที่ควรระวังเช่นกัน
ประโยชน์ของมะยงชิด
มะยงชิดจัดเป็นผลไม้ในตระกูลเดียวกับมะปราง หรือเป็นมะปรางอีกชนิดหนึ่ง ทำให้ลักษณะผลของมะยงชิดจะคล้ายคลึงกับมะปรางมาก โดยผลมะยงชิดมีทั้งผลขนาดเล็ก ขนาดปานกลาง และขนาดใหญ่ ตามลักษณะของสายพันธุ์ที่แตกต่างกันออกไป ส่วนรสชาติของมะยงชิดผลดิบจะออกเปรี้ยว ถ้าผลสุกจะให้รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย หรือบางพันธุ์อาจมีรสหวานน้อย เปรี้ยวมากก็เป็นได้ มีสรรพคุณดีต่อสุขภาพไม่น้อย
- เบต้าแคโรทีนสูง ต้านอนุมูลอิสระ : มะยงชิดมีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงที่ก่อเกิดโรคมะเร็ง และยังช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง สดใส
- วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา : เมื่อร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนแล้วจะเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอ ทำให้มะยงชิดอุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตาและโอกาสการเกิดต้อกระจกเมื่อมีอายุมากขึ้นได้
- วิตามินซี เสริมภูมิต้านทาน : วิตามินซีจะช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ไม่ให้เจ็บป่วยง่าย และยังป้องกันเลือดออกตามไรฟันอีกด้วย
- แคลเซียมและฟอสฟอรัส ลดความเสี่ยงโรคกระดูก : มะยงชิดมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสอยู่ด้วย ซึ่งสารอาหารทั้ง 2 อย่างนี้มีความสำคัญต่อกระดูกมาก ๆ เพราะช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันของเราแข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนและกระดูกเสื่อมได้
นอกจากนี้ มะยงชิดยังมีวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมาก เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ไอโอดีน ใยอาหาร เป็นต้น
ผลกระทบของมะยิงชิด
แม้จะมีประโยชน์ แต่ผู้ป่วยเบาหวานควรจำกัดปริมาณมะยงชิด เนื่องจากมีน้ำตาลกลูโคสและซูโครสสูง ซึ่งส่งผลเสียต่อระดับน้ำตาลในเลือด
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 1/04/2568
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 50,600.00 | 50,700.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 3,278.00 | 49,694.48 | 51,500.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,950.20 | 44,725.03 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,622.40 | 39,755.58 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,475.00 | 22,362.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 1,147.00 | 17,393.07 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 3,397.00 | 51,496.87 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 1/04/2568
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ![]() ไออาร์พีซี | พีที | ![]() ซัสโก้ | ![]() เพียว | ![]() พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 34.15 | 34.15 | 34.65 | 34.15 | 34.15 | 34.15 | 34.15 | 34.15 | 34.15 | 34.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 33.78 | 33.78 | 34.28 | 33.78 | 33.78 | 33.78 | 33.78 | 33.78 | 33.78 | 33.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 31.94 | 31.94 | 32.44 | 31.94 | 31.94 | – | 31.94 | 31.94 | 31.94 | 31.94 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 30.29 | 30.29 | – | – | – | – | – | – | – | 30.29 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 42.74 | 49.34 | 49.84 | 49.34 | – | – | – | – | – | 42.74 |
เบนซิน 95 | 42.44 | – | – | – | 49.31 | – | 42.94 | 42.59 | – | 42.44 |
ดีเซล | 32.44 | 32.44 | 32.44 | 32.44 | 32.44 | 32.44 | 32.44 | 32.44 | 32.44 | 32.44 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.44 | 46.64 | 49.84 | 46.64 | 46.64 | – | – | – | – | 44.44 |
แก๊ส NGV | 17.90 | 17.90 | – | – | – | – | – | – | – | 17.90 |