สาระน่ารู้ประจำวันที่ 10 ตุลาคม 2566

ส่อง คอนโดหรู “โครงการ 125 สาทร” ฝ่ามรสุมโดนเพิกถอน EIA

รู้จัก”โครงการ 125 สาทร” คอนโดมิเนียมหรู ที่ศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA และใบอนุญาตก่อสร้าง

หลังจากโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรูย่านสาทร ภายใต้ชื่อ “โครงการ 125 สาทร” ได้เดินหน้าก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ล่าสุดวันที่ 9 ตุลาคม 2566 ก็มีข่าวใหญ่โตเมื่อทางศาลปกครองกลาง ได้สั่งให้คอนโดมิเนียมหรูที่มีจำนวน 756 ห้อง สูง 36 ชั้น หยุดก่อสร้าง พร้อมทั้งเพิกถอนรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการดังกล่าว

สำหรับที่มาที่ไปของคำสั่งศาลปกครองกลางในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าของร่วมอาคารชุดเดอะ เม็ท ที่ตั้งอยู่บนที่ดินผืนเดียวกัน (เดอะเม็ทตั้งอยู่บนเนื้อที่ 7 ไร่ ส่วน โครงการ 125 สาทร ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่) โดยเดอะเม็ทได้ยื่นฟ้องคดีนี้ต่อหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ความเห็นชอบรายงาน EIA และการออกใบอนุญาตก่อสร้างสำหรับโครงการ 125 สาทร  ซึ่งเดอะ เม็ท ได้กล่าวอ้างว่าแบบอาคารของ 125 สาทร มีขนาดใหญ่เกินกว่าขนาดอาคารที่กฎหมายกำหนด หลังจากหักพื้นที่ดินของเดอะ เม็ท ออกจากพื้นที่ 10 ไร่

เรียกว่าพอคำสั่งศาลปกครองกลาง ประกาศออกมาในวันนี้ ก็ทำเอาหลายบริษัทฯในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สะดุ้งสะเทือนกันอีกระลอก หลังก่อนหน้านี้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตโครงการแอชตัน อโศก 

รู้จักคอนโดมิเนียมสุดหรู “โครงการ 125 สาทร” 

ชื่อโครงการ

  • โครงการ 125 SATHORN 

ชื่อเจ้าของโครงการ

  • บริษัท พีเอ็มที พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 

ทำเลที่ตั้งโครงการ 125 สาทร

  • ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 

รายละเอียดโครงการ 125 สาทร

  • ก่อสร้างบนโฉนดที่ดินเลขที่ 2053 เลขที่ดิน 322 ขนาดพื้นที่ 3-1-25.2 ไร่ 
  • โครงการเป็นอาคารชุดพักอาศัย จำนวน 756 ห้อง ขนาดความสูง 36 ชั้น ชั้นลอย 1 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น (แบ่งเป็นที่จอดรถอัตโนมัติ 3 ระดับ) จำนวน 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ ได้แก่ ทาวเวอร์ A และทาวเวอร์ B ความสูง 143 เมตร 
  • ราคาเริ่มต้น 7.39 ล้านบาท 

การได้รับใบอนุญาต EIA โครงการ 125 สาทร

  • ได้รับความเห็นชอบในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 

พิกัดรายละเอียดทำเลที่ตั้งของโครงการ 125 สาทร
ทิศเหนือ มีอาณาเขตติดต่อ-ใกล้เคียงกับ 

  • ถนนสาทรใต้ เขตทางกว้าง 20.00 – 27.00 เมตร
  • ถนนสาทรเหนือ เขตทางกว้าง 20.18 – 22.30 เมตร 
  • ถัดจากถนนสาทรเหนือเป็นอาคารสานักงาน (ให้เช่า)มุกดา ขนาดความสูง 6 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 
  • ร้านบริการรถเช่า เอิร์ธ และทริฟตี้ ขนาดความสูง 3 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 
  • บ้านพักอาศัย ขนาดความสูง 3 ชั้น จำนวน  1 หลัง 
  • ศูนย์บริการซ่อมรถยนต์ ขนาดความสูง 4 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
  • พื้นที่ก่อสร้างอาคารโรงแรม ขนาดความสูง 8 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 
  • โรงแรมเอเวอร์กรีน ลอเรล กรุงเทพ ขนาดความสูง 12 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 

ทิศตะวันออก มีอาณาเขตติดต่อ-ใกล้เคียงกับ

  • อาคารชุดพักอาศัย เดอะเม็ท ขนาดความสูง 66 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 
  • อาคารสำนักงาน (ให้เช่า) อาคารปัญจภูมิ ขนาดความสูง 16 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และขนาดความสูง 12 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 

ทิศใต้ มีอาณาเขตติดต่อ-ใกล้เคียงกับ 

  • อาคารชุดพักอาศัย เดอะเม็ท ขนาดความสูง 66 ชั้น จำนวน 1 อาคาร
  • บ้านพักอาศัย ขนาดความสูง 2 ชั้น จำนวน  2 หลัง 
  • ถนนซอยสาทร 7 แยก 1

ทิศตะวันตก มีอาณาเขตติดต่อ-ใกล้เคียงกับ 

  • สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ ขนาดความสูง 4 ชั้น จำนวน 1 อาคาร 
  • ถนนซอยสาทร 7 เขตทาง กว้าง 6.40 -6.60 เมตร

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


บูมภูเก็ต ฮับเวลเนสโลก  ลุยโครงข่ายบก-อากาศ สิทธิประโยชน์เท่าอีอีซี

ภูเก็ตเชื่อมกลุ่ม อันดามัน “ฮับเวลเนสโลก” ดึงต่างชาติ ลงทุน-พักอาศัย ระยะยาว จุดพลุดันไฮซีซันตลอดปี “เศรษฐา” ลุยโครงข่ายบก-อากาศ ให้สิทธิประโยชน์เท่าอีอีซี-ป่าตองราคาที่ดินพุ่ง ปรับใหญ่ผังเมือง หอการค้าฯ ยันจีพีพีพุ่ง

“ภูเก็ต”จังหวัดทางภาคใต้เกาะขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางทะเลอันดามัน ล้อมรอบไปด้วยมหาสมุทรอินเดีย ที่ถูกขนานนาม “ไข่มุกอันดามัน” แดนสวรรค์ของชาวต่างชาติ ที่เดินทางกลับเข้ามา ใช้ชีวิต ในช่วงไฮซีชั่น หรือ ไตรมาส4 เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาว บางประเทศ มีอากาศที่หนาวเหน็บ หนีภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงสถานการณ์โควิด ที่กินระยะเวลายาวนาน ด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ หลากหลายมิติ ทั้งป่าเขานํ้าตก ทะเล พื้นราบชุมชนขนาดใหญ่ ย่านการค้า โอลด์ทาวน์แล้ว

ยังมีเกาะแก่ง ที่อยู่ในอาณาเขตของภูเก็ตทางทิศใต้และตะวันออก ที่ตื่นตาตื่นใจ การเดินทางเข้าสู่ภูเก็ตนอกจากทางเรือแล้ว สามารถเดินทางโดยรถยนต์ซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวผ่านทางจังหวัดพังงา โดยข้ามสะพานสารสินและสะพานคู่ขนาน คือสะพานท้าวเทพกระษัตรี หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 402 และสะพานท้าวศรีสุนทรเข้าสู่ตัวจังหวัด อีกเส้นทางคือ ทางอากาศ มีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตรองรับ โดยตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะ

ป่าตองกระหึ่มโลกราคาที่ดินพุ่ง

 ด้วยเสน่ห์ของภูเก็ต เมืองชายทะเลที่มีอัตลักษณ์ โดดเด่น หาดทรายสวยงามยาวขนานไปกับแผ่นดิน นํ้าทะเลใส เม็ดทราย ละเอียดขาววาวระยับเมื่อพระอาทิตย์สาดแสง ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลกบ้านหลังที่สองทั้งยุโรป และเอชียโดยเฉพาะ “ป่าตอง” ไฮไลท์ ที่ต่างชาติพูดถึงดังกระหึ่มไปทั่วโลก

เป็นที่มาของต่างชาติ รู้จักชื่อของป่าตอง มากกว่าภูเก็ตหลังจากมีการปลุกเร้าผ่านทางเว็บไซต์ สำหรับนักธุรกิจต่างชาติที่เข้ามามองหาที่ดินสร้างอาณาจักรลงทุนทำบ้านพักตากอากาศ รองรับพวกเดียวกันให้เข้ามาใช้ชีวิต นอกจากนักธุรกิจชาวไทยที่เข้าไปปักหมุดพัฒนาโครงการหรูพูลวิลล่ากันมาก ส่งผลให้ราคาที่ดิน พุ่งไปที่250ล้านบาทต่อไร่ โดยเฉพาะทำเลชายหาดซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมชั้นนำและอยู่ในมือนายทุนทั้งหมดแล้ว  

ปรับใหญ่ผังเมือง 

แม้ภูเก็ต จะเกิดวิกกฤตถึงสองครั้งใหญ่ เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ และสถานการณ์โควิดโรงแรมถูกสั่งปิดมากกว่า 90% ขณะการสาธารณสุขของไทยที่แข็งแกร่งเอกชนนำโรงแรมเข้าร่วมรองรับกลุ่มที่ต้องการหนีโควิดและเพื่อพักผ่อนรักษาสุขภาพ จุดประกายพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เป็นเมืองสุขภาพนอกจากการท่องเที่ยว นับตั้งตั้งแต่ สมัย “รัฐบาลประยุทธ์” และเปลี่ยนผ่านมาสู่”รัฐบาลเศรษฐา1”

ที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้น ลงพื้นที่ถึงสองครั้งเพื่อเร่งผลักดันโครงสร้างพื้นฐาน ขยายสนามบินภูเก็ต และ เร่งก่อสร้างสนามบินพังงา รับมาตรกา วีซ่าฟรี รวมถึง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อยกระดับความสำคัญภูเก็ต เป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ ลงทุนโครงข่าย ทางบก ระบบรางและพัฒนาสนามบินใหม่ ขยายสนามบินเดิมเพิ่มขีดความสามารถรองรับนักท่องเที่ยว รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะผังเมืองรวมจังหวัดภูเก็ต มีการปรับปรุงเพื่อให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลง โดยพื้นที่บริเวณรอบนอกจะเพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดินสร้างอาคารสูงเกิน 23เมตรได้ แต่พื้นที่ใจกลางเมืองใกล้สนามบิน อาจจะ จำกัดความสูงที่ไม่เกิน23เมตร ทำให้หลายพื้นที่ขายได้มากขึ้น

ดันอันดามันเวลเนสโลกเทียบชั้นอีอีซี

นายเมธาพงศ์  อุปัติศฤงค์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จังหวัดและเอกชนในภูเก็ตต้องการเสนอให้รัฐบาลสานต่อ โครงการระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน Andaman Wellness Corridor (AWC) หรือ อันดามันเวลเนสคอริดอร์ ที่จะรวมกลุ่ม จังหวัดอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ฯลฯ มุ่งเน้นเป็นเขตส่งเสริมด้านสุขภาพหรือฮับสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยรัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี หรือยกเว้นภาษี

เพื่อจูงใจเอกชนทั้งไทยและต่างชาติเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นภาคบริการ โรงพยาบาล โรงแรมที่พักชั้นนำ เหมือนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เมืองอุตสาหกรรม ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ที่ประกอบด้วย ชลบุรี ระยองและ ฉะเชิงเทรา เป็นต้น

 ที่ผ่านมาจังหวัดในแถบอันดามันเติบโตลักษณะต่างคนต่างอยู่ต่างกำหนดนโยบาย ทำให้ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่ออุดช่องของ ช่วงโลว์ซีซั่น ที่ยาวนาน ผู้ประกอบการขาดรายได้ และจะมีเพียงช่วงเดียวที่เป็นโอกาสทอง นักท่องเที่ยว ต่างชาติกลับเข้ามาคือ ไฮซีชั่นช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าเพียงไม่กี่เดือนหากทำได้จะภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามันจะมีแต่ช่วงไฮซีชั่นตลอดปีสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนให้กับพื้นที่และประเทศได้อย่างมหาศาล

“อนาคตต้องการให้ภูเก็ตและกลุ่มจังหวัดอันดามัน เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นเขตส่งเสริมเหมือนอีอีซีที่สนับสนุนด้านการลงทุนอุตสาหกรรม ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะดำเนินการต่ออย่างแน่นอนแม้จะพลาดเจ้าภาพเอ็กซ์โปก็ตาม”

ตำบลไม้ขาว ศูนย์รวมลักชัวรี

โดยพื้นที่ที่จะพัฒนานำร่องอยู่ที่ ตำบลไม้ขาวอำเภอถลาง ที่เป็นที่ดินที่ราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ มากกว่า 100 ไร่ ที่จะพัฒนาเป็นโครงการเมดดิคอลพลาซาของกระทรวงสาธารณสุขที่และจะดึงโครงการเอกชนเข้าพัฒนาซึ่งเป็นพื้นที่จัดเอ็กซ์โปเดิม ทำเลดังกล่าว มีศักยภาพสูง เป็นลักชัวรีเงียบสงบมีความเป็นส่วนตัว เป็นศูนย์รวมของโรงแรม 5 ดาว อาทิ แมริออท เรเนซองส์ เมอริเดียน ฯลฯ ที่เป็นไพรม์แอเรียต่างชาติ ทะเลสวย เหมาะกับการพักอยู่อาศัยระยะยาว นอกจากนี้ยังมี โรงพบาบาลบำรุงราษฎร์ ติด ถนนเทพกระษัตรี และพัฒนา โครงการบลูแคนยอนกอล์ฟแอนด์คันทรี คลับ ซึ่งมีทั้งที่อยู่อาศัยโรงแรม และสนามกอล์ฟ

 “อันดามัน เวลเนสคอริดอร์ จะขยายพื้นที่พักผ่อน ดูแลสุขภาพ ท่องเที่ยวได้ ทั้งแอเรียโดยจุดไอเดียให้รัฐช่วยดูโครงการหรือ บริหารพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวและเวลเนสให้เติบโตอย่างแท้จริง”

 โดยเฉพาะรัฐบาลสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อย่างการพัฒนาสนามบินพังงา ซึ่งเป็นสนามบินใหม่ ที่เรียกว่าสนามบินอันดามัน จะได้รับความสะดวก รองรับนักท่องเที่ยวเป็นบริเวณกว้าง และเชื่อมโยงกับแผนขยายสนามบินภูเก็ต ระยะที่2 รวมถึงการเชื่อมโยงโครงข่าง มายังสองสนามบิน ฯลฯ อำนวยความสะดวกของนักท่องเที่ยว ที่จะมากลุ่มจังหวัดอันดามัน

ดัน7บิ๊กโปรเจ็กต์ บูมภูเก็ต

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้เร่งผลักดันโครงการขนาดใหญ่ที่มีแผนลงทุนเร่งด่วนในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง จำนวน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.48 แสนล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ และสอดคล้องกับนโยบายวีซ่าฟรี ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก เมืองศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับ 7 โครงการลงทุนดังกล่าว ประกอบด้วย

1.การพัฒนาขยายขีดความสามารถ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ระยะที่ 2) จากเดิมรองรับผู้โดยสาร 12.5 ล้านคน เพิ่มเป็น 18 ล้านคน คาดว่าจะใช้งบประมาณลงทุน 6,211 ล้านบาท 2.โครงการก่อสร้างขยายช่องจราจรทางหลวงหมายเลข 4027 ช่วงบ.พารา-บ.เมืองใหม่ วงเงิน 510 ล้านบาท

3.โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ ช่วง บ.เมืองใหม่-สามแยกเข้าสนามบินภูเก็ต วงเงิน 2,468 ล้านบาท                      

4.โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล.4027 และ ทล.4025 (ทางลอดท่าเรือ) ที่ กม. 34+680 (ทล.402) วงเงิน 2,425 ล้านบาท

5.โครงการทางพิเศษ สายกระทู้-ป่าตอง มูลค่าลงทุน 14,670 ล้านบาท

6. โครงการทางพิเศษ สายเมืองใหม่ – เกาะแก้ว – กระทู้ วงเงิน 42,633 ล้านบาท และ

7. การพัฒนาท่าอาอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 (สนามบินอันดามัน) วงเงินลงทุน 80,000 ล้านบาท

“โครงการลงทุนเร่งด่วน ตนได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดเตรียมพร้อมการลงทุน โดยขอให้จัดใช้งบประมาณประจำปี 2567 เริ่มนำร่องก่อสร้างโครงการ เบื้องต้นจึงคาดว่าโครงการเร่งด่วนเหล่านี้ จะทยอยเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนทันทีในปี 2567 และเริ่มงานก่อสร้าง เพื่อทยอยแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2569 โดยเฉพาะโครงการลงทุนทางบก ถนนทางหลวงต่างๆ เนื่องจากรัฐบาลต้องการให้เป็นทางเลือกในการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยว”

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบราง (MR-MAP) สาย MR9 สุราษฎร์ธานี – ภูเก็ต ระยะทาง 236 กม. ที่จะพัฒนาในอนาคต อีกทั้ง ได้กำหนดแผนดำเนินการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนภายในเมืองภูเก็ต สายสถานีรถไฟท่านุ่น-ท่าอากาศยานภูเก็ต-ห้าแยกฉลอม รวมระยะทาง 58.5 กิโลเมตร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณารูปแบบการดำเนินโครงการ รวมถึงโครงการรถไฟทางไกลระหว่างเมืองสายท่าอากาศยานภูเก็ต-ท่าอากาศยานกระบี่ ระยะทาง 149 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างภูเก็ต พังงา และกระบี่ รวมถึงสายสุราษฎร์ธานี- ท่านุ่น ระยะทาง 163 กิโลเมตรเชื่อมโยงจังหวัดภูเก็ตกับทางรถไฟสายใต้ไปยังโครงข่ายรถไฟทั่วประเทศ

หวังโครงข่ายดันGPPโต 2 เท่าตัว

  นายจรัล ส่างสาร เลขาธิการหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ภูเก็ตมีรายได้หลักจากภาคการท่องเที่ยวสัดส่วนประมาณ 90% อีก 10% จากภาคการเกษตร การค้า และอุตสาหกรรม ทั้งนี้จากที่กระทรวงคมนาคมจะเร่งผลักดันแผนลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคมของจังหวัดเร่งด่วนใน 7 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.48 แสนล้านบาท (คาดจะทยอยเบิกจ่ายงบประมาณลงทุนในปี 2567 และเริ่มงานก่อสร้าง ทยอยแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2569)

 “หากทุกโครงการแล้วเสร็จคาดจะช่วยให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด หรือ GPP ของภูเก็ตจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันกว่าเท่าตัวถึง2 เท่าตัว โดย GPP จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในแต่ละปีตามโครงการที่จะทยอยแล้วเสร็จ โดยจะช่วยดึงท่องเที่ยวเข้าภูเก็ต รวมถึงท่องเที่ยวในกลุ่มอันดามันเพิ่มขึ้น ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ และภาคบริการทั้งโรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮ้าส์ ภัตตาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร การศึกษานานาชาติ ส่งเสริมสุขภาพ(Wellness) ออฟฟิศทำงาน และอื่นๆ บูมเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”

 จากข้อมูลในปี 2562 (ก่อนโควิดระบาด) ภูเก็ตมีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด หรือ GPP 251,813 ล้านบาท และมี GPP ต่อหัวต่อปี 428,351 บาท (เป็นอันดับ 1 ในกลุ่มอันดามัน) หลังโควิดคลี่คลาย และภูเก็ตได้เปิดรับนักท่องเที่ยวตามโครงการแซนด์บ็อกซ์ในปี 2565 ทางจังหวัดมี GPP ในปีที่ผ่านมา 166,770 ล้านบาท และมี GPP ต่อหัว 226,158 บาท

 อนึ่ง แผนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านคมนาคมของจังหวัดภูเก็ตเร่งด่วนใน 7 โครงการ ประกอบด้วย การพัฒนาขยายขีดความสามารถ ท่าอากาศยานภูเก็ต (ระยะที่ 2) ,โครงการก่อสร้างขยายช่องจราจร ทางหลวง หมายเลข 4027 ช่วง บ.พารา- บ.เมืองใหม่, โครงการก่อสร้างทางแนวใหม่ ช่วง บ.เมืองใหม่ – สามแยกเข้าสนามบินภูเก็ต,โครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับที่จุดตัด ทล.402 กับ ทล.4027 และ ทล.4025 (ทางลอดท่อเรือ),โครงการทางพิเศษ สายกระทู้ -ป่าตอง,โครงการทางพิเศษ สายเมืองใหม่ -เกาะแก้ว – กระทู้ และการพัฒนาท่าอาอากาศยานภูเก็ตแห่งที่ 2 (สนามบินอันดามัน)

อสังหาฯภูเก็ตโต รัสเชียพุ่ง

 แหล่งข่าวจาก แวดวงอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า อสังหาฯในจังหวัดภูเก็ตฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยได้รับอานิสงส์จากภาคท่องเที่ยว สำหรับภูเก็ต ชาวรัสเซีย กลับมาซื้อที่อยู่อาศัยสูง โดยเฉพาะในกลุ่มเซกเมนต์วิลล่าระดับหรูซึ่งมียอดขายปี 2565สูงสุดในรอบ 5 ปี และเมื่อพิจารณาในช่วงต้นปี 2566 จนถึงปัจจุบัน พบว่า นักลงทุนชาวรัสเซียกับสหรัฐฯ มีกำลังซื้อมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่น่าสังเกตคือการมีชาวรัสเซียเดินทางมาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2566ส่งผลให้ยอดขายวิลลาหรูในภูเก็ตเพิ่มขึ้นถึง 338% โดยครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าชาวรัสเซีย ดังนั้นแม้ว่าครั้งหนึ่งชาวจีนจะเคยเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลักของภูเก็ต แต่ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวชาวรัสเซียกลับมีจำนวนมากกว่าและมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 10ต.ค. “แข็งค่า” ที่ระดับ 36.90 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทยังมีปัจจัยกดดันฝั่ง “อ่อนค่า” หากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นทอดสอบโซน 100ดอลลาร์/บาเรล เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ผู้เล่นในตลาดกลับเลือกที่จะถือ ทองคำ และเงินเยนเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหลักในช่วงนี้

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 10ต.ค.2566 ที่ระดับ  36.90 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  37.11 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน  พานิชพิบูลย์   นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจยังไม่สามารถแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ชัดเจน แม้ว่าโมเมนตัมฝั่งแข็งค่าเริ่มกลับมา ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ เนื่องจากภาวะสงครามที่เกิดขึ้นได้หนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น

และยังมีความเสี่ยงอยู่บ้างที่ หากสถานการณ์สงครามทวีความรุนแรงมากขึ้น ก็อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นทดสอบโซน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ได้ไม่ยาก ซึ่งภาพดังกล่าวอาจกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงได้ จากความกังวลแนวโน้มการขาดดุลการค้า ซึ่งจะกดดันแนวโน้มดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย

ขณะเดียวกัน ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติก็อาจยังมีความผันผวนอยู่ ทั้งนี้ เราประเมินว่า แรงขายสินทรัพย์ไทยอาจชะลอตัวลง หลังบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาย่อตัวลง ส่วนในฝั่งตลาดหุ้น เราเริ่มเห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้ามาบ้าง

ทั้งนี้ เรายังคงประเมินโซนแนวต้านของเงินบาทไว้แถว 37.25 บาทต่อดอลลาร์ และคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทอาจไม่ได้อ่อนค่าไปมากกว่า 37.50 บาทต่อดอลลาร์ (ตามที่เราได้ประเมินไว้ ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน) ขณะที่ การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทก็อาจมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป โดยยังให้โซนแนวรับแรกแถว 36.80 บาทต่อดอลลาร์ และโซนแนวรับถัดไปที่ 36.60 บาทต่อดอลลาร์

เรายังคงมองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย

 อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.80-37.05 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 36.89-37.13 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลผลกระทบจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และ

ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนที่มองว่า เฟดอาจมีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยลดลง หลังบอนด์ยีลด์ได้ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ การย่อตัวลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังได้หนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่าโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ก็มีส่วนช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

แม้ว่าความกังวลสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสอาจกดดันบรรยากาศในตลาดการเงินบ้าง ทว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็ได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มผู้ผลิตอาวุธ อาทิ Lockheed Martin +8.9% นอกจากนี้ ความกังวลผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบจากภาวะสงคราม ยังส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นแรงตามน้ำมันดิบ (Exxon Mobil +3.5%) ส่วนบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ ยังพอได้แรงหนุนจากการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +0.63%

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 พลิกกลับมาย่อตัวลง  -0.26% กดดันโดยแรงขายหุ้นกลุ่มสินค้าแบรนด์เนม (LVMH -2.6%, Dior -2.4%) ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลว่าภาวะสงครามอาจกระทบยอดขายในฝั่งตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน (BP +2.9%, Shell +2.6%)

ในฝั่งตลาดบอนด์ บรรยากาศในตลาดการเงินที่ถูกกดดันจากภาวะสงคราม รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนที่มองว่า เฟดอาจไม่จำเป็นต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย ได้ส่งผลให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 4.65% ทั้งนี้ แม้ว่าในระยะสั้น บอนด์ยีลด์ระยะยาวอาจถูกกดดันจากความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ (ความเสี่ยงสงครามในตะวันออกกลาง) ทว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายเงินอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ ทำให้เราคงแนะนำ Buy on Dip ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ย่อตัวลงใกล้ระดับ 106 จุด (กรอบ 105.9-106.6 จุด) โดยแม้ว่าผู้เล่นบางส่วนอาจยังคงถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่เงินดอลลาร์ก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปได้มาก

เนื่องจากผู้เล่นในตลาดกลับเลือกที่จะถือ ทองคำ และเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยหลักในช่วงนี้ นอกจากนี้เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนที่ระบุว่า เฟดอาจไม่จำเป็นต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ในส่วนของราคาทองคำ การปรับตัวลงของทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และ

เงินดอลลาร์ได้ส่งผลให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องใกล้ระดับ 1,880 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังกล่าว อาจหนุนให้ผู้เล่นในตลาดทยอยขายทำกำไรได้ และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หรือ สงครามจะขยายวงกว้างจนกระทบทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางหรือไม่

นอกจากนี้ ตลาดจะรอจับตาถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง ทั้ง เฟดและธนาคารกลางยุโรป (ECB) หลังในช่วงที่ผ่านมา เริ่มมีเจ้าหน้าที่บางส่วนของทั้ง เฟด และ ECB ออกมาส่งสัญญาณว่าการขึ้นดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดยุติลงแล้ว ซึ่งอาจช่วยคลายความกังวลแนวโน้มธนาคารกลางหลักเดินหน้าใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดได้นานขึ้น (Higher for Longer)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.88-36.90  บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.15 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 37.11 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นตามการดีดตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ลดช่วงบวกลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ

หลังเจ้าหน้าที่เฟดบางท่านออกมาให้ความเห็นว่า การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ในช่วงที่ผ่านมา ทยอยส่งผลทำให้ภาวะทางการเงินตึงตัวขึ้น ซึ่งอาจทำให้ความจำเป็นของการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อของเฟดมีน้อยลง และเฟดจะต้องประเมินต้องประเมินความสมดุลของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการคุมเข้มทางการเงินน้อยไปกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการคุมเข้มมากไป

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ เบื้องต้นคาดไว้ที่ 36.85-37.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค ราคาน้ำมันในตลาดโลก ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนก.ย. 
 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ล้างตาได้สำเร็จ! ยัดห่วงสาวไทยแซงเอาชนะญี่ปุ่น 47-36 ยึดอันดับ 7 โลก

การแข่งขันวีลแชร์บาสเกตบอลหญิงชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 25 ปี ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทยญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยในวันสุดท้าย โดยในพิธีปิดการแข่งขันได้รับเกียรติจาก ร.ท.ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกเเห่งประเทศไทย, โนเบิร์ต คูเซร่า ประธานสหพันธ์วีลแชร์บาสเกตบอลนานาชาติ และ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมประธานในพิธี  พร้อมด้วย ภัทรพันธุ์ กฤษณา นายกสมาคมวีลแชร์บาสเกตบอลไทย ร่วมมอบรางวัลให้ทีมชนะเลิศและทีมอันดับต่างๆ

ไฮไลต์อยู่ที่คู่ของ ทีมวีลแชร์บาสเกตบอลสาวไทย ลงชิงอันดับ 7 กับญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นการประลองความแม่นก่อนจะไปเจอกันในเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4  ที่ หางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยที่ผ่านมาในรอบแบ่งกลุ่ม สาวแดนปลาดิบเคยฝากแค้นเอาชนะ สาวไทย มาได้ก่อน 47-38 ทำให้เกมนี้ “โค้ชต้น”เอกสิทธิ์ จูมเจริญ กุนซือของไทยจึงวางแผนอย่างรัดกุม ขันเกมรับ เน้นเกมรุกมากขึ้น

เริ่มเปิดฉากมาควอเตอร์แรก สาวไทย และญี่ปุ่น ออกมาเปิดเกมบุกแลกกันอย่างดุเดือดตั้งแต่นาทีแรก ผลัดกันนำผลัดกันตาม จบสองควอเตอร์แรกญี่ปุ่นนำ 21-20  ก่อนที่ในควอเตอร์ที่สาม ญี่ปุ่นสับเปลี่ยนผู้เล่นสำรองลงหาประสบการณ์ ทีมสาวไทยที่ยังคงฮึกเหิมจึงดาหน้าบุกแหลก โดย “ฟ้า”วริษา กดไป 10 แต้มช่วยให้ทีมไทยฉีกแซงและขยับหนีห่างไปเป็น 34-23

ควอเตอร์สุดท้าย สาวแดนปลาดิบส่งตัวเก่งทั้ง อายูริ โคจิมา และ ยูริ อีกูจิ ลงมาเพื่อทวงแต้มคืน โดย โคจิมา ทำ 10 แต้มคนเดียว แต่สุดท้ายตามไม่ทัน ส่งผลให้ทีมวีลแชร์บาสเกตบอลหญิงไทย เอาชนะไป 47-36  ล้างแค้นได้สำเร็จ พร้อมคว้าอันดับที่ 7 ซึ่งเมื่อ 4 ปีที่แล้วไทยได้อันดับ 8  โดยเกมนี้“ฟ้า”วริษา ทำละเอียด กดไป 25 คะแนน 7 รีบาวน์ 4 แอสซิส ขณะที่ผู้ทำแต้มสูงสุดของญี่ปุ่นคือ อายูริ โคจิมา 17 คะแนน 5 รีบาวน์ 3 แอสซิส

ขณะที่คู่ชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง  ทีมวีลแชร์บาสฯสาวสหรัฐอเมริกา ลงสนามดวลกับ สหราชอาณาจักร ผลปรากฎว่า สาวเมืองลุงแซม ที่อาศัยชั้นเชิงการชูตที่แม่นยำกว่าไล่ทำแต้มต้อนเอาชนะ สหราชอาณาจักร ไปได้แบบขาดลอย 72-49 คะแนน คว้าแชมป์โลกไปครอง

ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 สาธารณรัฐประชาชนจีน เอาชนะ สเปน  57- 29 คะแนน และคู่ชิงอันดับ 6 เยอรมนี ชนะ แคนนาดา 53-33 คะแนน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


อาการไข้หวัดใหญ่ อาจเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนได้ หากไม่ได้รักษากับหมอ

นพ.ตุลย์ สุนาถวนิชย์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุรศาสตร์ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ ระบุว่า ไข้หวัดใหญ่ ดูเผินๆ แล้ว เหมือนจะมีอาการที่มากกว่าไข้หวัดทั่วๆ ไปเพียงเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไข้หวัดใหญ่สามารถทำให้เกิดอาการรุนแรง เกิดภาวะแทรกซ้อน หรือทำให้ผู้ป่วยบางรายเสียชีวิตได้  ดังนั้นไข้หวัดใหญ่จึงไม่ใช่แค่อาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ทุกคนจะรอให้หายเองได้ หากแต่ผู้ป่วยต้องสังเกตอาการของตนเองและควรรีบพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องอย่างเร็วที่สุด เพื่อหยุดยั้งความรุนแรงของโรค และลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากไข้หวัดใหญ่

ไข้หวัดใหญ่ทำให้เกิดอาการรุนแรง ภาวะแทรกซ้อน หรือเสียชีวิตได้ บุคคลที่ต้องระวังอย่างมาก คือ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ แม่หลังคลอด 2 สัปดาห์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ป่วยน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม และผู้พิการทางสมอง กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ก็มีโอกาสเป็นไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า และมีอาการรุนแรง ผู้ป่วยที่มีโรคปอดหรือถุงลมโป่งพองจะเสี่ยงเพิ่มขึ้น 100 เท่าเทียบกับคนปกติ ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจเสี่ยงเพิ่มขึ้น 50 เท่า และผู้ป่วยเบาหวานเสี่ยงเพิ่มขึ้น 5-10 เท่า

7 กลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่

กลุ่มที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนและอันตรายที่สูงกว่าคนทั่วไป เรียกว่า กลุ่มเสี่ยง ซึ่งประกอบด้วย

  • เด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ โดยเฉพาะเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ขวบ
  • ผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปีขึ้นไป
  • หญิงตั้งครรภ์ รวมถึงคุณแม่หลังคลอด 2 สัปดาห์
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคตับเรื้อรัง โรคไตเรื้อรัง ฯลฯ
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมถึงผู้ที่ได้รับยากดภูมิหรือยาเคมีบำบัด
  • ผู้ป่วยที่มีน้ำหนักเกิน 100 กิโลกรัม
  • ผู้มีความพิการทางสมอง


ภาวะแทรกซ้อนของโรคไข้หวัดใหญ่

โดยภาวะแทรกซ้อนทั่วๆ ไปของโรคไข้หวัดใหญ่ ที่พบได้บ่อย ได้แก่ หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ส่วนภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่พบได้มาก ได้แก่ โรคปอดอักเสบหรือปอดบวม ซึ่งโรคนี้จะยิ่งทวีความรุนแรงและเสี่ยงเพิ่มขึ้นในกลุ่มที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ป่วยที่มีโรคปอดหรือถุงลมโป่งพองอยู่แล้ว จะเสี่ยงเพิ่มขึ้น 100 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติ สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจ จะเสี่ยงเพิ่มขึ้น 50 เท่า และเสี่ยงเพิ่มขึ้น 5-10 เท่าในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากคนที่มีโรคประจำตัว มักมีภูมิคุ้มกันแปรปรวนทำให้ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีเท่ากับคนปกติ ส่วนในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ก็มีโอกาสเกิดไข้หวัดใหญ่ได้มากกว่าคนทั่วไปถึง 4 เท่า ซึ่งมักมีอาการรุนแรง และสามารถส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้ เช่น การคลอดก่อนกำหนด การแท้ง รวมทั้งอาจรุนแรงจนเสียชีวิตทั้งแม่และลูกได้

ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่พบได้บ้าง ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปลายประสาทอักเสบ และสมองอักเสบ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ผู้ป่วยทุกคนไม่เฉพาะแต่ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น ควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษา อย่ารอให้อาการหนัก เพราะยิ่งรอก็ยิ่งทำให้เสี่ยงกับภาวะแทรกซ้อนที่มากขึ้นทุกวินาที


ควรรักษาไข้หวัดใหญ่ ก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อน

ทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการตรวจวินิจฉัยและรักษาไข้หวัดใหญ่ได้รวดเร็วและทันท่วงทีขึ้น ก็คือ ที่ให้บริการผ่านวิดีโอคอลคุยออนไลน์กับแพทย์ ทำให้การพบแพทย์เป็นเรื่องง่ายขึ้น และสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา

การเข้ารับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่รวดเร็วนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในผู้ป่วย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยทุกคนไม่ต้องทนทรมานกับอาการไข้หวัดใหญ่ ทั้งอาการปวดหัว ตัวร้อน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเป็นเวลานาน รวมทั้งลดโอกาสแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง และสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วมากขึ้นด้วย

อาการไข้หวัดใหญ่

  • มีไข้สูง
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • คัดจมูก
  • น้ำมูกใส
  • ไอแห้ง

วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่

  1. ล้างมือให้สะอาด
  2. สวมหน้ากากอนามัย
  3. หลีกเลี่ยงชุมชนแออัด
  4. ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ (ฉีดวัคซีน 1 เข็ม ทุกปี)

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


อาชีพภาษาอังกฤษ (Occupation)

ภาษาอังกฤษพื้นฐานในวันนี้ขอเสนอชุดคำศัพท์ อาชีพภาษาอังกฤษ ที่เราพบเห็นได้บ่อยในชีวิตประจำวันกันครับ

สำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาหลายๆคนคงมีอาชีพที่อยากเป็นในใจอยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าปัจจุบันการแข่งขันในตลาดแรงงานมีสูงมาก ถ้าเรามีความรู้ภาษาอังกฤษที่ดีย่อมได้เปรียบ หมั่นฝึกฝนทบทวนอยู่เสมอนะครับ

คำศัพท์ อาชีพภาษาอังกฤษ

อาชีพภาษาอังกฤษคำแปล
A
accountantนักบัญชี
actorนักแสดงชาย
actressนักแสดงหญิง
advisorที่ปรึกษา
air hostessพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน
ambassadorทูต
animatorนักสร้างแอนิเมชั่น
archerนักธนู
athleteนักกีฬา
artistศิลปิน
astronautนักบินอวกาศ
attorneyทนายความ
authorนักเขียน
B
babysitterพี่เลี้ยงเด็ก
bakerคนทำขนม
ballerinaนักบัลเล่ต์
bankerเจ้าหน้าที่ธนาคาร
barberช่างตัดผม
baseball playerนักเบสบอล
basketball playerนักบาสเก็ตบอล
bellhopพนักงานขนกระเป๋า
blacksmithช่างตีเหล็ก
bookkeeperคนทำบัญชี
biologistนักชีววิทยา
builderผู้รับเหมา
butcherคนขายเนื้อ
butlerพ่อบ้าน
C
cab driverคนขับรถแท็กซี่
captainกัปตัน
cardiologistแพทย์โรคหัวใจ
caregiverผู้ที่ดูแลคนป่วยหรือคนแก่ที่บ้าน
carpenterช่างไม้
cartoonistนักเขียนการ์ตูน
chefเชฟ/พ่อครัว
chauffeurคนขับรถ
clerkเสมียน
coachโค้ช /ครูฝึก
composerนักแต่งเพลง
conciergeคนเฝ้าประตู
contractorผู้รับจ้าง
cookพ่อครัว
copตำรวจ
D
dancerนักเต้น
dentistทันตแพทย์
dermatologistผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนัง
designerนักออกแบบ
detectiveนักสืบ
directorผู้กำกับ
disk jockeyนักจัดรายการวิทยุ (DJ)
diverนักดำน้ำ
doctorแพทย์
doormanคนเปิดประตู
driverคนขับรถ
drummerนักตีกลอง
E
economistนักเศรษฐศาสตร์
editorบรรณาธิการ
electricianช่างไฟฟ้า
engineerวิศวกร
entrepreneurผู้ประกอบการ
explorerนักสำรวจ
F
farmerชาวนา
firefighterนักดับเพลิง
fishermanชาวประมง
football playerนักฟุตบอล
foremanหัวหน้าคนงาน
G
game designerนักออกแบบเกม
garbage manคนเก็บขยะ
gardenerคนสวน
geographerนักภูมิศาสตร์
golferนักกอล์ฟ
governorผู้ว่าราชการจังหวัด
guideมัคคุเทศก์/ คนนำเที่ยว
H
hairdresserช่างทำผม
hunterนักล่า
I
instructorผู้สอน
interior designerนักออกแบบภายใน
internฝึกงาน
interpreterล่าม
inventorนักประดิษฐ์
investigatorนักสำรวจ
J
janitorภารโรง
jewellerคนขายเพชรพลอย
journalistนักหนังสือพิมพ์
judgeผู้พิพากษา
L
laborerแรงงาน
landlordเจ้าของที่ดิน
lawyerทนายความ
lecturerวิทยากร
librarianบรรณารักษ์
lifeguardเจ้าหน้าที่คอยช่วยชีวิตคนตกน้ำ
M
magicianนักเล่นกล
maidแม่บ้าน
managerผู้จัดการ
manufacturerเจ้าของโรงงาน
marineทหารเรือ
mathematicianนักคณิตศาสตร์
mayorนายกเทศมนตรี
mechanicช่างยนต์
merchantพ่อค้า
messengerคนส่งพัสดุหรือจดหมาย
modelนางแบบ
monkพระ
musicianนักดนตรี
N
navigatorนักสำรวจทางทะเล
novelistนักเขียนนิยาย
nunแม่ชี
nurseพยาบาล
O
oculistจักษุแพทย์
operatorพนักงานรับโทรศัพท์
oracleหมอดู
P
painterจิตรกร, ช่างทาสี
pharmacistเภสัชกร
philosopherนักปรัชญา
photographerช่างภาพ
pilotนักบิน
plumberช่างประปา
poetนักกวี
policeตำรวจ
politicianนักการเมือง
presidentประธานาธิบดี
producerผู้ผลิตสื่อ
programmerนักเขียนโปรแกรม
professorศาสตราจารย์
R
real estate agentนายหน้าขายที่ดิน
receptionistพนักงานต้อนรับ
reporterผู้สื่อข่าว
researcherนักวิจัย
retireeผู้เกษียณ
S
sailorกะลาสี
salespersonพนักงานขาย
scientistนักวิทยาศาสตร์
scoutลูกเสือ
scuba diverนักดำน้ำ
secretaryเลขา
security guardพนักงานรักษาความปลอดภัย
sheriffนายอำเภอ
smithช่างตีเหล็ก
singerนักร้อง
soldierทหาร
stockbrokerนายหน้าซื้อขายหุ้น
street sweeperคนกวาดถนน
studentนักเรียน
surgeonศัลยแพทย์
surveyorผู้ตรวจสอบ
swimmerนักว่ายน้ำ
T
tailorช่างตัดเสื้อ
taxi driverคนขับแท็กซี่
teacherครู
technicianนายช่าง
tennis playerนักเทนนิส
trainerครูฝึกในฟิตเนส
translatorนักแปล
truck driverคนขับรถบรรทุก
tutorติวเตอร์
typistนักพิมพ์ดีด
V
veterinarianสัตวแพทย์
violinistนักไวโอลิน
W
waiterพนักงานเสิร์ฟชาย
waitressพนักงานเสิร์ฟหญิง
warriorนักรบในสงคราม
watchmakerช่างทำหรือซ่อมนาฬิกา
writerนักเขียน
Z
zookeeperคนเลี้ยงและให้อาหารสัตว์

ขอบคุณข้อมูลจาก dailyenglish.in.th


5 วิธีรับมือเมื่อกระจกรถเกิดฝ้า

ปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้รถยนต์พบเจอโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ก็คือปัญหาฝ้าขึ้นบริเวณกระจกหน้ารถ ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการขับขี่ ทำให้ขับรถยากและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ เราจะมีวิธีรับมือกับฝ้าบนกระจกเหล่านี้อย่างไร Sanook Auto จะพาไปหาวิธีแก้ไขและป้องกันฝ้าที่ถูกต้องกัน

ฝ้าบนกระจกรถเกิดจากอะไร?

     ฝ้าที่เกิดขึ้นบนกระจกรถมีสาเหตุมาจากอุณหภูมิภายนอกและภายในห้องโดยสารที่แตกต่างกัน หากภายในห้องโดยสารมีอุณหภูมิเย็นกว่าภายนอก ก็จะทำให้เกิดฝ้าที่กระจกด้านนอกได้ แต่หากฝ้าเกิดขึ้นด้านในของกระจก แสดงว่าอุณหภูมิภายในห้องโดยสารอุ่นกว่าภายนอกรถ

5 วิธีรับมือหากเกิดฝ้าบนกระจก

     1. ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม – ในช่วงฤดูฝนที่มีสภาพอากาศเย็นกว่าปกติ ควรปรับอุณหภูมิของระบบปรับอากาศให้อุ่นขึ้นเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิภายนอกและภายในห้องโดยสารแตกต่างกันมากจนเกินไปนัก จะช่วยลดการเกิดฝ้าภายนอกกระจกได้

     2. ลดกระจกเพื่อปรับอุณหภูมิ – หากเกิดฝ้าเกาะอยู่บนกระจก สามารถใช้วิธีขจัดฝ้าง่ายๆ ด้วยการลดกระจกหน้าต่างลงเพื่อปรับอุณหภูมิภายนอกและภายในห้องโดยสารให้ใกล้เคียงกัน เป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยให้ฝ้าบนกระจกเลือนลง

     3. เปิดที่ปัดน้ำฝน – หากฝ้าเกิดขึ้นบริเวณกระจกด้านนอก สามารถเปิดที่ปัดน้ำฝนเพื่อขจัดฝ้าออกไปอย่างรวดเร็ว แต่วิธีนี้ก็จะทำให้ฝ้ากลับมาอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน จึงควรใช้ควบคู่กับการปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้ฝ้ากลับมาเกิดซ้ำ

     4. เปิดระบบไล่ฝ้า – กรณีฝ้าเกิดขึ้นบนกระจกหลัง สามารถกดปุ่มไล่ฝ้าหลังเพื่อให้ความร้อนจากเส้นลวดค่อยๆ ละลายฝ้าให้หายไป ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีขึ้นอยู่กับความหนาของฝ้า และหากฝ้าเลือนไปหมดแล้วควรรีบปิดระบบไล่ฝ้าทันทีเพื่อป้องกันกระจกแตก

     5. เปิดโหมดรับอากาศจากภายนอก – กรณีฝ้าเกิดขึ้นบนกระจกหน้า ให้กดปุ่มไล่ฝ้าด้านหน้า ควบคู่กับการเปิดโหมดรับอากาศจากภายนอก และปิดสวิตช์ A/C ด้วย จะเป็นการปรับอุณหภูมิด้านนอกและด้านในของผิวกระจกให้กลับมาใกล้เคียงกัน ช่วยทำให้ฝ้าเลือนหายไปได้

     หากครั้งหน้ารถของคุณเกิดฝ้าบนกระจกเมื่อใด ก็อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ไปลองใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับรถด้วยนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


อาหารแสลง แสลงจริงหรือแค่กลัวไปเอง?

หลังจากเป็นไข้ ไม่สบาย หรือผ่าตัด ผู้ใหญ่มักห้ามไม่ให้เราทานนู่นทานนี่ที่เราอยากทาน โดยบอกว่าเป็น “ของแสลง” ทานแล้วจะเป็นอย่างนู้นอย่างนี้ ต้องรอให้หายเป็นปกติก่อน ข้อเท็จจริงจากแพทย์กลับพบว่า บางเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องจริง จะมีเรื่องใดที่จริง และไม่จริงบ้าง มาดูข้อมูลจาก เฟซบุ๊คเพจ ใกล้มิตรชิดหมอ กันค่ะ

อาหารแสลง… ที่ไม่แสลง

– ทานไข่ หรือไก่หลังผ่าตัด ไม่ทำให้แผลผ่าตัดนูน (รวมไปถึงแผลที่เจาะหูด้วย)

– มีประจำเดือน ดื่มน้ำมะพร้าวได้ ไม่ทำให้เกิดอาการผิดปกติแต่อย่างใด

– หน่อไม้ ทานได้ ไม่ว่าจะดองหรือสด ไม่ว่าจะหลังคลอดลูก หรือหลังผ่าตัด (แต่อย่าทานมากจนเกินไป และเลือกแหล่งผลิตที่สะอาด เชื่อถือได้เท่านั้น)

– เป็นไข้อีสุกอีใส ทานไข่ ทานไก่ได้ ไม่ทำให้ตุ่มลาม หรือมีหนองแต่อย่างใด

– อาหารทะเล สามารถทานหลังผ่าตัดได้เช่นกัน

อาหารแสลง… ที่แสลงจริงๆ

– ความดันโลหิตสูง ห้าม หรือลดการทานอาหารเค็ม เพราะโซเดียมทำให้บวมน้ำ และทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น

– เบาหวาน อาหารแสลงคือ น้ำตาลและแป้ง เพราะจะทำให้อาการของโรคหนักขึ้น

– ไตวาย ห้ามทานอาหารเค็ม เพราะจะทำให้อาการของโรคเป็นหนักขึ้น

– ไม่สบาย เป็นไข้ ให้ลดอาหารทอด อาหารมันๆ เพราะจะทำให้ระบบการย่อยอาหารไม่ดี และอาหารที่มีพลังงานสูง อาจทำให้อุณหภูมิของร่างกายยิ่งสูงมากกว่าเดิม

– ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับตับ และถุงน้ำดี ไม่ควรทานอาหารทอดๆ มันๆ ด้วยเช่นกัน เพราะจะทำให้การย่อยไขมันผิดปกติ

เพราะฉะนั้นครั้งหน้าหากพบ หรือเป็นผู้ป่วยเสียเอง ไม่ต้องกังวลไปนะคะ ตราบใดที่ยังทานอาหารที่ดี หลากหลาย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ทานอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป ยังไงก็ทานได้ตามปกติค่ะ หรือหากไม่มั่นใจจริงๆ ปรึกษาคุณหมอพร้อมคุณพ่อคุณแม่เลยก็ได้นะคะ จะได่สบายใจทั้งสองฝ่ายเนอะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 10/10/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a32,450.0032,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,102.0031,866.3233,050.00
ทองรูปพรรณ 90%1,891.8028,679.69n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,681.6025,493.06n/a
ทองรูปพรรณ 50%946.0014,341.36n/a
ทองรูปพรรณ 40%736.0011,157.76n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,178.0033,018.48n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 10/10/2566


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.7537.7538.2537.7538.0537.7537.7537.7537.7537.75
แก๊สโซฮอล์ 9137.4837.4837.9837.4837.7837.4837.4837.4837.4837.48
แก๊สโซฮอล์ E2035.4435.4435.9435.4435.7435.4435.4435.4435.44
แก๊สโซฮอล์ E8535.5935.5935.59
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม43.9448.4448.9448.4443.94
เบนซิน 9545.5447.0146.0445.6945.54
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9430.2429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม40.2442.3448.4442.3441.6440.24
แก๊ส NGV17.5917.5917.59

About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า