สาระน่ารู้ประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568

เสนาฯชูกลยุทธ์‘Refined Focus’ รักษาผู้นำ‘บ้าน-คอนโด’ต่ำ3ล้าน

เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์’ เคลื่อนทัพเสนาฯ งัดกลยุทธ์ ‘Refined Focus’ รักษาผู้นำ‘บ้าน-คอนโด’ต่ำ3ล้าน ในเซกเมนต์Affordable Housing เป็นตลาดใหญ่ มีศักยภาพและมูลค่าสูงตอบโจทย์เรียลดี พัฒนานวัตกรรมทางการเงิน LivNex และ RentNex Subscription ให้เข้าถึงที่อยู่อาศัยง่ายขึ้น

ในวันที่สภาวะเศรษฐกิจเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังต้องเผชิญกับอุปสรรคนานัปการทั้งปัญหาหนี้ครัวเรือน อัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้น และการเข้มงวดของสถาบันการเงินในการให้สินเชื่อ  “เสนา ดีเวลลอปเม้นท์” หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย มองว่าความท้าทายนี้ “ไม่ใช่” จุดสิ้นสุด!

แต่เป็น “โอกาส” ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในตลาดที่ยังคงมีความต้องการสูง  ภายใต้กลยุทธ์สำคัญ “Refined Focus”  ที่เสนา นำมาใช้รักษาความเป็นผู้นำตลาดที่อยู่อาศัยในราคาที่เข้าถึงได้ หรือ  Affordable Housing  ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นฐานใหญ่ของตลาด โดยคิดเป็น 54% ของครัวเรือนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล

แม่ทัพใหญ่ เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า หัวใจสำคัญของธุรกิจปีนี้คือการมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาดจริงๆ  ไม่เพียงแค่ “สร้างบ้าน” แต่ต้องตอบสนองความต้องการของกลุ่มคนที่มองหาทางเลือกที่อยู่อาศัยที่มีราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทให้ได้ 

เสนาฯ “ไม่ได้” มองแค่ตลาดที่มีการแข่งขันสูง แต่เน้นการเป็น “ผู้นำ” ในตลาดที่มีผู้คนกลุ่มใหญ่ จำนวนมาก ซึ่งมองหาทางเลือกหรือทางออกจากปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่พวกเขาสามารถรับได้! นั่นคือเหตุผลที่ทำให้เสนาฯ เลือกทำตลาด Affordable Housing ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพและยังไม่ถูกจับจองโดยผู้นำรายใหญ่

“เรามีประสบการณ์มากกว่า 30 ปีในตลาดนี้ มีความเข้าใจลึกซึ้งถึงความต้องการของกลุ่ม Real Demand ที่ไม่ได้มองแค่การซื้อบ้าน แต่พวกเขาต้องการ ‘ทางเลือก’ ที่จะทำให้สามารถเป็นเจ้าของบ้านได้จริงๆ ในราคาที่เหมาะสม”

ดังนั้น การปรับตัวและกลยุทธ์ที่นำมาใช้ คือ “Refined Focus” ที่จะตอบโจทย์ตลาดด้วยการให้บริการที่ครบครัน ทั้งบ้าน คอนโดมิเนียม ประการสำคัญ การพัฒนานวัตกรรมทางการเงินต่างๆ เช่น LivNex และ RentNex Subscription ที่ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยในรูปแบบที่หลากหลาย

“ปัจจุบันเสนาเป็นผู้นำตลาด Affordable มีบ้านและคอนโดมิเนียมกว่า 12,600 ยูนิต มูลค่ารวม 30,600 ล้านบาท ขณะที่ ผลวิจัย พบว่า มีผู้ที่ต้องการบ้านระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มากถึง 3.6 ล้านคน จากจำนวนประชากรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล สะท้อนว่า Affordable Housing ยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ไม่ได้เป็นแค่ตลาดเล็กๆ แต่เป็นตลาดที่มีมูลค่าใหญ่ มีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง การตอบโจทย์ Real Demand นี้จะช่วยให้เสนาฯ เป็นผู้นำในตลาดนี้ต่อไป” 

เกษรา กล่าวย้ำว่า เสนาฯ พร้อมสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดเดียวกันด้วยกลยุทธ์ Refined Focus และความชำนาญในตลาดนี้อย่างลึกซึ้ง สามารถพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการจริงของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่!

สำหรับปี 2568 เสนาฯ เตรียมเปิดตัว 12 โครงการใหม่ เป็นคอนโดมิเนียม 11 โครงการ แนวราบ 1 โครงการ มูลค่ารวม 13,000 ล้านบาท “ลดลง” จากปีก่อน เนื่องจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังชะลอตัว 

โครงการเจาะ Affordable Segment ซึ่งเป็นตลาดที่มีความชำนาญและมี “โซลูชันทางการเงิน” ออกมารองรับ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายขึ้น ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และ Generation Rent ที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นทางการเงิน และมองหาทางเลือกที่อยู่อาศัยที่ไม่จำกัดแค่การซื้อขาด

ล่าสุด เสนาฯ พัฒนาคอนเซปต์ “บ้านธีร์ธัญ” เจาะดีมานด์ลูกค้าที่ต้องการบ้านที่มี “สเปซและฟังก์ชั่น” ในรูปแบบทาวน์เฮ้าส์และบ้านแฝดที่มีขนาดเล็กลง เป็นทางเลือกเพื่อเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยระดับราคาตั้งแต่ 2-5 ล้านบาท ทำเลชานเมือง อาทิ รามอินทรา บางนา บางบัวทอง รัตนาธิเบศร์  อาทิ โครงการ เสนา วิลเลจ และ เสนา เวล่า ปีนี้เสนาฯ ตั้งเป้ายอดขาย 15,500 ล้านบาท และยอดโอน 10,000 ล้านบาท

ซีอีโอ เสนาฯ ยังกล่าวต่อว่า หนึ่งในความสำเร็จที่สามารถสะท้อนถึงกลยุทธ์นี้คือ “LivNex” โครงการที่สร้างความแตกต่างในวงการอสังหาริมทรัพย์ ด้วยแนวคิด “เช่าออมบ้าน” ที่เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถเริ่มต้นจากการ “เช่า” ก่อนที่จะเป็น “เจ้าของบ้าน” ได้ในอนาคต ซึ่งโครงการนี้ได้ผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค สร้างยอดขาย 1,900 ล้านบาท จาก 976 ยูนิต เสนาฯ มั่นใจว่าจะสามารถขยายโมเดลนี้ไปได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต

“LivNex คือการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นทางการเงิน โดยไม่จำเป็นต้องมีเงินดาวน์สูง เพียงแค่เริ่มจากการเช่า เราก็สามารถช่วยให้พวกเขาเป็นเจ้าของบ้านได้ในที่สุด”

อย่างไรก็ดี เสนาฯ ไม่เพียงพัฒนาโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม แต่ยังขยายโอกาสใหม่สู่ธุรกิจอื่นที่สามารถเสริมสร้างความยั่งยืน เช่น SENA Green Energy  การลงทุนในพลังงานสะอาด ด้วยการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าและการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโครงการต่างๆ เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและรองรับการเติบโตในอนาคตที่ยั่งยืน

เช่นเดียวกับกลยุทธ์ “Refined Focus” ของเสนาฯ นั้น ไม่ได้มุ่งแค่การสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีกำไรสูงสุด แต่ยังรวมถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของผู้คน  โดยทำให้ที่อยู่อาศัยเป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้จริง! สะท้อนผ่านการยืนหยัดของเสนาฯ ในตลาดนี้ได้อย่างมั่นคง และก้าวต่อไปในฐานะผู้นำตลาด Affordable Housing ที่พร้อมตอบรับทุกความท้าทายและสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค

เกษรา กล่าวทิ้งท้ายว่า  “การเติบโตของเสนาจึงไม่ใช่แค่เรื่องของผลกำไร แต่คือการสร้างคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้ผู้คนในสังคม พร้อมกับการรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น”

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


“ทายาทเจ้าสัวเจริญ”พลิกที่ดิน4,600 ไร่ ร่วมทุนปั้นเมืองอุตสาหกรรมแสนล้าน

“ทายาทเจ้าสัวเจริญ”พลิกที่ดิน4,600 ไร่ ร่วมทุนปั้นเมืองอุตสาหกรรมแสนล้าน

ทำเล บางนา-ตราด กม. 32 สมุทรปราการ บูม เชื่อมEEC -สุวรรณภูมิ -กทม. ราคาที่ดินพุ่ง “ปณต สิริวัฒนภักดี” ทายาทเจ้าสัวเจริญพลิกที่ดิน 4,600 ไร่ ดึงพันธมิตร ปั้นเมืองอุตสาหกรร“อารยะ ดิ อิสเทิร์น เกตเวย์” เผย เฉพาะที่ดิน 5-6หมื่นล้านบาท ดึงทุนต่างชาติปักหมุดมูลค่าแสนล้านบาท

นับเป็นที่ดินผืนประวัติศาสตร์ สำหรับที่ดิน “กฤษดามหานคร” 4,600ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กิโลเมตรที่ 32 จังหวัดสมุทรปราการที่สร้างความฮือฮาเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน เมื่อเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ชนะการประมูล จากกรมบังคับคดี  ในนามบริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ เครือบริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน) ซึ่งในครั้งนั้นสู้กันดุเดือด กับกลุ่มเจ้าของที่ดินเดิม กระทั้งต้องมีการประมูลกันถึง 5 ครั้ง เนื่องจากเป็นทำเลศักยภาพ ใกล้เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)  สนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวกสบาย จึงได้มาซึ่งที่ดินแปลงงามมาในราคา 8,914.07 ล้านบาทที่จะสร้างความเจริญต่อยอดในอนาคตได้อย่างมหาศาล

ย้อนไปก่อนหน้านี้ บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2560 เพื่อประกอบกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยโครงสร้างผู้ถือหุ้น ทีอาร์เอ ฯ ประกอบด้วย บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON  (บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในปัจจุบัน) ถือหุ้น 50 %, บริษัท สวนอุตสหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA 25% และนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ถือหุ้น 25%

ล่าสุดได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ที่น่าจับตาเมื่อ ทายาทเจ้าสัวเจริญ นำโดยนายปณต สิริวัฒนภักดี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด  และพันธมิตร ประกาศคิกออฟ  “อารยะ ดิ อิสเทิร์น เกตเวย์” เมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรมครบวงจรรูปแบบใหม่ แห่งแรกของไทย เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568

โดยมีหมุดหมาย เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญช่วยรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ในนาม บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด ตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการโครงการดังกล่าวภายใต้การร่วมทุน 3 กลุ่มยักษ์ใหญ่ ประกอบด้วย บริษัทเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) ,บริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะจำกัด (มหาชน) และบริษัทนิคมอุตสาหกรรมเอเชียจำกัด หรือ เอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท 

คลื่นลูกใหม่ลงทุนครั้งใหญ่

โดยนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) มองว่า มาถูกที่ถูกจังหวะเวลา เมื่อคลื่นลูกใหม่ของการลงทุนครั้งใหญ่ ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน  พร้อมสะท้อนตัวเลขการลงทุน ปีที่ผ่านมา ได้รับคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงขึ้นเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุน โดยมีจำนวน 3,137 โครงการ เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นับเป็นยอดจำนวนโครงการที่สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบีโอไอ และมีมูลค่าเงินลงทุน 1.13 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้น 35% สูงสุดในรอบ 10 ปี ตอกยํ้าถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เห็นว่าประเทศไทยมีจุดแข็งหลายด้านทั้งความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน พื้นที่รองรับอุตสาหกรรม ไฟฟ้าที่มีความเสถียรและมีศักยภาพด้านพลังงานสะอาด บุคลากรที่มีคุณภาพ ซัพพลายเชนที่ครบวงจร ต้นทุนการประกอบธุรกิจที่เหมาะสม มาตรการสนับสนุนต่างๆ ของรัฐบาล สิทธิประโยชน์และการบริการต่าง ๆ ของบีโอไอ

 ขณะที่ดิน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนจะมองหาที่ดินที่มีความพร้อม ทางด้านของทำเลที่ตั้ง สาธารณูปโภค ระบบโลจิสติกส์  สิ่งอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ต้องการ อีโคซิสเต็ม สามารถดึงธุรกิจซัพพอร์ตเข้ามาทำงานในพื้นที่ได้ซึ่งมองว่า “อารยะ ดิ อิสเทิร์น เกตเวย์” มีความพร้อม

ปั้นเมืองต่อยอดเศรษฐกิจประเทศ

นายปณต กล่าวในนามตัวแทนกลุ่มร่วมทุน3ส่วน ว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ปี 2017 (2560)    ได้ร่วมกันปลุกปั้นที่ดินผืนประวัติศาสตร์ เป็นการร่วมมือกันที่พิเศษ เนื่องจากมุ่งหวังใช้พื้นที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ของประเทศ

“โอกาส ทั้ง3กลุ่ม เข้ามาปลุกปั้นตั้งแต่ปี2017 เป็นความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นว่าเราจะรวมที่ดินผืนที่มีค่าและต่อยอดให้กับเศรษฐกิจของประเทศ”

เฉพาะมูลค่าที่ดิน5-6หมื่นล้าน บิ๊กทุนเข้าลงทุนวิ่งไปแสนล้าน

“ฐานเศรษฐกิจ”สอบถาม ถึงแผนดำเนินโครงการ และมูลค่าเมืองอุตสาหกรรมฯ นายปณตกล่าวว่ามีแนวทางการพัฒนาโครงการที่ไปได้ดี โดยรองรับไว้ 2-3 ระยะ ซึ่งโครงการแค่พัฒนาที่ดินอย่างเดียวก็ประมาณ5-6หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมที่นักลงทุนเข้ามาลงทุนประมาณว่าน่าจะเป็นหลักแสนล้านบาท ซี่งจะมีรายละเอียด แต่ละเฟสนำเสนอต่อไป

 โดยแผน กำหนดไว้ 3เฟส ขึ้นอยู่กับตลาดและการลงทุน ที่ขณะนี้ โดยยึดถือแนวทางการพัฒนาของหน่วยงานส่งเสริมบีโอไอรวมทั้งพื้นที่ที่เราอยากพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมเพื่อซัพพอร์ตอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อเข้าพื้นที่ได้ง่าย และการจัดการที่ดี ขณะการร่วมลงทุน 3 พันธมิตร เป็นการถือหุ้นโดย เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ ฯ 50%  สวนอุตสาหกรรมโรจนะ และเอเชีย อินดัสเตรียล เอสเตท  อย่างละ25%

ทุนยักษ์ต่างชาติช้อปที่ดิน

 เมื่อถามถึงที่ดิน นายปณต ระบุว่าเป็นของเฟรเซอร์สฯ ได้เปิดเป็น “ฟรีโฮลด์” ให้นักลงทุนต่างชาติ ซื้อเพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ภายใต้บริษัทอาริยะ แลนด์ดีเวลอปเม้นต์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาโครงการเมืองอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง อยู่กึ่งกลางการเชื่อมต่อเข้าสู่กรุงเทพ มหานครสะดวก ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และประตูบานแรกเปิดออกสู่พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และพื้นที่ใกล้เคียง

ด้านนางสาวกมลกาญจน์ คงคาทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อารยะ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด เผยว่าเมืองอุตสาหกรรมที่คงรูปแบบโกบิยอนด์  มีหลายสัดส่วนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นโลจิสติกส์  คอมเมอร์เชียล เป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ในเชิงระบบนิเวศได้อย่างลงตัว ลงทุนงบ 20,000 ล้านบาท เฟสแรก พื้นที่ 2,000 ไร่  คาดว่าใช้เวลา 2-3 ปี นับจากนี้  ซึ่งล่าสุดมีนักลงทุน จากประเทศเยอรมนีซื้อที่ดินไปแล้วกว่า 100 ไร่ และมีแผนขายให้กับนักลงทุนต่างชาติอีก 300-400 ไร่ ในเร็วนี้ เพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมหลักๆ ส่วนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เช่นที่อยู่อาศัย คอมมูนิตี้มอลล์ ฯลฯ จะเป็นเฟสหลังโดยต้องรอให้ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมเข้ามาอยู่ก่อน โดยเน้นกลุ่มทุนต่างชาติ ซื้อที่ดินเพื่อลงทุน ซึ่งมีทั้งยุโรป อเมริกา จีน ไต้หวัน ฯลฯ 

จุดพลุระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรม

“อารยะ ดิ อีสเทิร์น เกตเวย์” ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด ระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรม  ที่เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกัน หรือ Industrial Tech Ecosystem โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบุกเบิกระบบนิเวศแห่งนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูง และโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ยังไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย พร้อมสนับสนุนความสำเร็จทางธุรกิจของลูกค้า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของบุคลากรในโครงการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก

โดยตั้งอยู่บนประตูสู่ภาคตะวันออก ณ กิโลเมตรที่ 32 ของถนนบางนา-ตราด จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งนับเป็นทำเลทองของอุตสาหกรรมไทยใกล้กรุงเทพฯ เชื่อมต่อจากถนนบางนา-ตราด สู่ทางพิเศษกรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ (Motorway) นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับเขตEEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญ และท่าเรือแหลมฉบังในเวลาเพียง 60 นาที เหมาะกับการเป็นศูนย์กลางธุรกิจ    โลจิสติกส์ อุตสาหกรรม และการค้าระหว่างประเทศ ทั้งยังรายล้อมด้วยศูนย์การผลิตสินค้าจากหลากหลาย     

ที่นี่นับเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ภายใต้แนวคิด ระบบนิเวศเมืองอุตสาหกรรมและนวัตกรรม แห่งแรกและแห่งเดียวในไทยที่น่าจับตายิ่งสำหรับ “อารยะ ดิ อิสเทิร์น เกตเวย์”  !!!

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้14ก.พ “แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 33.68 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา แนะ ติดตามทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด และประเด็นความกังวลในตลาดการเงิน

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 14ก.พ.ที่ระดับ  33.68 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  33.80 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรายอมรับว่า แนวโน้มการทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินบาทในช่วงตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมานั้น

ทำให้ เราปรับมุมมองระยะสั้นใหม่ว่า เงินบาทอาจยังไม่สามารถกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่องได้ชัดเจน และมีโอกาสที่เงินบาทอาจแกว่งตัวในกรอบ Sideways ไปก่อนได้ จนกว่าจะเห็นการกลับมาอ่อนค่าลงของเงินบาท จนทะลุโซนแนวต้าน 34.00-34.10 บาทต่อดอลลาร์ ได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ เราประเมินว่า ในช่วงนี้ ควรจับตาการเคลื่อนไหวของเงินบาทว่าจะสามารถแข็งค่าทะลุโซนแนวรับ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ได้หรือไม่ เพราะการแข็งค่าขึ้นผ่านโซนดังกล่าว อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่มีสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่าลง) ต้องปรับลดสถานะดังกล่าว หรือ Cover Short ซึ่งอาจช่วยหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทได้ และหากประเมินตามกลยุทธ์ Trend Following การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทดังกล่าว จะสะท้อนว่า แนวโน้มการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจยังดำเนินต่อไปได้ ซึ่งจะมีโซนแนวรับถัดไปในช่วง 33.30 บาทต่อดอลลาร์ 

อย่างไรก็ดี เราคงมุมมองเดิมว่า เงินบาทได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต้องระวังและติดตามทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด โดยต้องติดตามประเด็นความกังวลในตลาดการเงิน เช่น แนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพัฒนาการของปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะประเด็น สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่อาจกระทบต่อแนวโน้มราคาทองคำได้

อนึ่ง เราแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่าง ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในช่วงราว 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เนื่องจากสถิติในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา สะท้อนว่า เงินบาทอาจแกว่งตัว +0.30%/-0.20% ได้ภายในช่วง 30 นาที หลังรับรู้รายงานข้อมูลดังกล่าว

ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงปีหน้าที่จะเผชิญกับ Trump’s Uncertainty ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้

มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.55-33.85 บาท/ดอลลาร์ (ระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ)

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 33.61-33.94 บาทต่อดอลลาร์) แม้เงินบาทจะมีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ทดสอบโซน 33.90 บาทต่อดอลลาร์

ทว่า เงินบาทก็ทยอยพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามการพลิกกลับมาอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังผู้เล่นในตลาดทยอยคลายกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 อย่างการขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ หรือ Reciprocal Tariffs ที่อาจจะยังไม่ได้เริ่มดำเนินการขึ้นภาษีนำเข้าดังกล่าวในทันที จนกว่าจะถึงช่วงเดือนเมษายน ที่ผลการศึกษาของทางการสหรัฐฯ ในประเด็นดังกล่าวจะเสร็จสิ้นเรียบร้อย
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติมจากการทยอยแข็งค่าขึ้นของบรรดาสกุลเงินฝั่งยุโรป อาทิ เงินยูโร (EUR) ท่ามกลางความหวังว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ อาจจบลงได้ในปีนี้ ขณะเดียวกัน การทยอยอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ยังได้ช่วยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินบาทเช่นกัน

บรรดาผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม หลังทยอยคลายกังวลต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump 2.0 ที่สุดท้ายอาจยังไม่ได้รีบขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ หรือ Reciprocal Tariffs ในทันที ทำให้โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +1.04%

ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +1.09% หนุนโดยรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ออกมาดีกว่าคาด รวมถึงความหวังว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมาอย่างยืดเยื้ออาจสิ้นสุดลงได้ในปีนี้ นอกจากนี้ ท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยังไม่ได้ขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ Reciprocal Tariffs ในทันที ก็มีส่วนช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป

ส่วนในฝั่งตลาดบอนด์นั้น บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ พลิกกลับมาปรับตัวลดลงสู่โซน 4.53% หลังผู้เล่นในตลาดทยอยปรับเพิ่มโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยราว 2 ครั้ง หรือ 50bps ในปีนี้ เป็น 30% ตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ

อย่าง Reciprocal Tariffs ที่อาจยังไม่ได้ดำเนินการในทันที และอาจเปิดโอกาสให้มีการเจรจาระหว่างคู่ค้าของสหรัฐฯ เพื่อลดทอนผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ได้บ้าง ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และอาจยังทำให้เฟดสามารถทยอยเดินหน้าลดดอกเบี้ยได้ในปีนี้ ตามที่เฟดประเมินไว้

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนในลักษณะ Sideways Down แม้จะมีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง แต่สุดท้ายเงินดอลลาร์ก็พลิกกลับมาอ่อนค่าลง ตามการทยอยแข็งค่าขึ้นของบรรดสกุลเงินหลัก อาทิ เงินยูโร (EUR) จากความหวังว่า สงครามรัสเซีย-ยูเครนอาจยุติลงได้ในปีนี้

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังถูกกดดันจากแรงขายทำกำไรสถานะ Long USD หลังผู้เล่นในตลาดคลายกังวลแนวโน้มการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะยังไม่ได้ขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้ “Reciprocal Tariffs” ในทันที ส่งผลให้โดยรวมเงินดอลลาร์ย่อตัวลงสู่โซน 107.1 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 107.0-107.9 จุด)

ในส่วนของราคาทองคำ จังหวะการปรับตัวลดลงของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ รวมถึงความต้องการถือครองทองคำ เพื่อรับมือความไม่แน่นอนของการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงช่วยหนุนให้ราคาทองคำ

(สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. 2025) ปรับตัวสูงขึ้น สู่โซน 2,950-2,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นในตลาดบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำและโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยหนุนการทยอยกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา 

สำหรับในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) รวมถึง ยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ในเดือนมกราคม

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจยูโรโซน ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน รวมถึงรอติดตามท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ไทย เปิดแต้มแรกสวย ไล่ถลุง คาซัคสถานยับ แบดมินตันทีมผสมชิงแชมป์เอเชีย

ทัพแบดมินตันไทยไร้ปัญหา เก็บชัยอย่างไม่อยากเย็นในแมตช์ประเดิมสนามกับคาซัคสถาน ศึกแบดมินตันทีมผสมเอเชีย 2025 การันตีเข้ารอบ 8 สุดท้ายทีมแน่นอนแล้ว โดยวัดแชมป์กลุ่มกับ ญี่ปุ่น วันพรุ่งนี้

การแข่งขันแบดมินตันรายการ แบดมินตัน เอเชีย มิกซ์ ทีม แชมเปี้ยนชิพ หรือ ศึกทีมผสมชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่เมืองชิงเต่า สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันพุธที่ 12 ก.พ.68 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี  แมตช์แรก ระหว่างทีมไทย พบกับ คาซัคสถาน 

คู่แรก ประเภทคู่ผสม “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 94 ของโลก พบกับ อาเธอร์ นิยาซอฟ กับ คามิล่า สมากูโลวา เกมนี้ คู่เอ็ม กับ ปอป้อ เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง ตบเอาชนะไปแบบขาดลอย 2-0 เกม   21-3 และ 21-8  ทีมไทย ขึ้นนำก่อน 1-0 คู่ 

คู่ที่สอง ประเภทหญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 6 ของโลก เอาชนะ ไอชา ซูมาเบ็ค มืออันดับ 399 ของโลก 2-0 เกม 21-7 , 21-7 ทีมไทย ขยับออกนำเป็น 2-0 คู่ 

คู่ที่สาม ประเภทชายเดี่ยว “อิคคิว” พณิชพล ธีระรัตน์สกุล มืออันดับ 52 ของโลก เอาชนะ ดิมิทรี ปานาริน มืออันดับ 74 ของโลก  2-0 เกม  21-13 , 21-12 ทีมไทย ทำแต้มทิ้งห่างเป็น 3-0 คู่ 

คู่ที่สี่ ประเภทหญิงคู่ “อันนา” นันทน์กาญจน์ กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มืออันดับ 18 ของโลก เอาชนะ นาร์กีซ่า ราคเมตุลลาเอว่า กับ คามิล่า สมากูโลวา 2-0 เกม 21-5 21-9 ทีมไทย หนีห่างเป็น 4-0 คู่ 

คู่ที่ห้า ประเภทชายคู่ “พี” พีรัชชัย สุขพันธุ์ กับ “โอโม่” พรรคพล ธีระรัตน์สกุล คู่มืออันดับ 32 ของโลก เอาชนะ  อาเธอร์ นิยาซอฟ กับ มัคซุต ทาจิบุลลาเยฟ คู่มืออันดับ 778 ของโลก  2-0 เกม 21-6 21-4 

สรุปผลการแข่งขันทีมแบดมินตันไทย เอาชนะ คาซัคสถานไปแบบขาดลอย 5-0 คู่ คว้าชนะแมตช์แรกไปได้สำเร็จ การันตีเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้วเป็นอย่างน้อย โดยในเกมสุดท้ายกับ ญี่ปุ่น ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ. นี้ ซึ่งจะแข่งเวลา 16.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย เพื่อชิงอันดับ 1 ของกลุ่มต่อไป แฟนๆแบดมินตันสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง True Sport 7 (686) 

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


“กี่โมง” เวลาที่ดีที่สุดในการขับถ่าย กำจัดของเสียของร่างกายคือเวลาไหน

อุจจาระของเราสามารถบอกความลับเกี่ยวกับทุกสิ่งได้ ตั้งแต่ปริมาณไฟเบอร์และน้ำที่เราได้รับ ไปจนถึงการมีอยู่ของการติดเชื้อหรือโรคต่างๆ ปริมาณ ความถี่ และลักษณะของอุจจาระของเราสามารถเป็นหน้าต่างบานใหญ่ที่บ่งบอกถึงสุขภาพภายในของเราได้เป็นอย่างดี เราได้เปิดเผยว่าความถี่ “ปกติ” ของการอึนั้นมีตั้งแต่สองครั้งต่อวันถึงสามครั้งต่อสัปดาห์ ตอนนี้เราได้ขอความเห็นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารสองท่านเพื่อช่วยเราไขข้อสงสัยอีกข้อที่เรามักถูกถามบ่อยๆ นั่นคือ เวลาไหนของวันเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการอึ?

ไม่มีเวลา “ที่ดีที่สุด” ของวันในการอุจจาระ อย่างที่ Will Bulsiewicz, M.D., แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารในเมือง Charleston รัฐ South Carolina และผู้เขียนหนังสือ Fiber Fueled ยอมรับ

สิ่งที่สำคัญกว่าเวลาที่แน่นอนคือเวลาที่สม่ำเสมอ “เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เกือบทั้งหมดบนโลกใบนี้ ร่างกายของเราทำงานเป็นจังหวะที่สอดคล้องกับการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ จังหวะเป็นสิ่งสำคัญ” Bulsiewicz กล่าว

ปฏิกิริยาการเผาผลาญหลังอาหาร คุณภาพการนอนหลับ และสุขภาพของลำไส้ ล้วนได้รับผลกระทบจากจังหวะธรรมชาติของร่างกายเรา “เมื่อลำไส้อยู่ในจังหวะที่เหมาะสม เราจะมีการเคลื่อนไหวของลำไส้ที่ดี สมบูรณ์ และสม่ำเสมอ ซึ่งน่าพอใจ การมีจังหวะการทำงานของลำไส้ที่ไม่ปกติจะส่งผลเสียต่อการเคลื่อนไหวของลำไส้ [การเคลื่อนที่ของอาหารและของเสียผ่านระบบย่อยอาหาร] และจุลินทรีย์ในลำไส้ของเรา ซึ่งอาจปรากฏในรูปแบบของอาการท้องผูกเรื้อรังหรือโรคลำไส้แปรปรวน” Bulsiewicz กล่าว

เนื่องจากจังหวะนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง Kenneth Brown, M.D. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารในเมือง Plano รัฐ Texas และผู้จัดรายการพอดแคสต์ Gut Check Project กล่าวว่า ช่วงเวลาบางช่วงของวันมีแนวโน้มที่จะดีกว่าช่วงเวลาอื่นๆ ในแง่ของการตั้งตารางการอึ “โดยทั่วไป ในตอนเช้า หลังจากตื่นนอนไม่นาน มักจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการอึสำหรับคนส่วนใหญ่” Brown กล่าว

มีเหตุผลหลักสามประการด้วยกัน:

  1. จังหวะชีวิต: อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้ว ร่างกายของเราทำงานตามนาฬิกาภายใน 24 ชั่วโมงที่เรียกว่าจังหวะชีวิต ซึ่งควบคุมกระบวนการทางสรีรวิทยาต่างๆ รวมถึงการย่อยอาหาร ลำไส้ใหญ่มีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีขึ้นในระหว่างวัน โดยมีช่วงเวลาที่ทำงานสูงสุดเกิดขึ้นในตอนเช้า
  2. ระดับคอร์ติซอล: Brown เสริมว่า ในขณะเดียวกัน ร่างกายของเราก็มีระดับคอร์ติซอลตามธรรมชาติสูงขึ้นในตอนเช้า ซึ่งสามารถกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ได้
  3. คุณอดอาหารข้ามคืน: “ในระหว่างการนอนหลับ ระบบย่อยอาหารของเราค่อนข้างเฉื่อย ทำให้ลำไส้ใหญ่สะสมอุจจาระ” Brown กล่าว “นี่เป็นสิ่งที่ดีเพราะเราคงไม่อยากตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่ออึ” Bulsiewicz กล่าวเสริม ลำไส้ใหญ่จะเต็มไปด้วยอุจจาระในชั่วข้ามคืน จากนั้นในตอนเช้า ทุกอย่างก็จะกลับมาทำงาน ทำให้ตอนเช้าเป็นเวลาที่ดีในการขับถ่าย แพทย์ก็เห็นพ้องกัน
  4. ปฏิกิริยาลำไส้ใหญ่ทำงาน: “หลังจากรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ กระเพาะอาหารของเราจะยืดออก ซึ่งจะกระตุ้นการตอบสนองทางสรีรวิทยาที่เรียกว่าปฏิกิริยาลำไส้ใหญ่ (gastrocolic reflex) ปฏิกิริยานี้จะกระตุ้นให้ลำไส้ใหญ่หดตัวและเคลื่อนย้ายสิ่งที่อยู่ภายในไปข้างหน้า ทำให้เกิดการขับถ่าย” Brown กล่าว ตอนเช้าเป็นช่วงเวลาที่ปฏิกิริยานี้มักจะแข็งแกร่งที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เราดื่มน้ำแก้วแรกและเติมพลังด้วยอาหารเช้า

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


‘Google’ เปิด 5 เทรนด์ ‘กลโกงออนไลน์’

  • มิจฉาชีพใช้ AI เพื่อสร้างกลลวงใหม่ๆ และพัฒนากลลวงที่มีอยู่เดิม
  • ใช้ AI ปลอมหน้า-เสียงบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อหลอกให้ลงทุน
  • หลอกขายแพ็กเกจท่องเที่ยวและสินค้าออนไลน์
  • มีกลโกงที่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ของเหยื่อได้จากระยะไกล
  • หลอกให้สมัครงาน มักฟุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนที่มองหางานออนไลน์และต้องการไปทำงานต่างประเทศ

“Google” เผย 5 เทรนด์กลโกงออนไลน์ 

1. ใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์สำคัญ : มิจฉาชีพมักใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์สำคัญโดยอาจใช้ AI เพื่อสร้างกลลวงใหม่ๆ และพัฒนากลลวงที่มีอยู่เดิม มิจฉาชีพจะใช้เหตุการณ์ที่เป็นที่สนใจของผู้คนในขณะนั้น

ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต อีเวนท์เกี่ยวกับกีฬา เทศกาลต่างๆ หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ มาต่อยอดเป็นกลอุบายเพื่อหลอกล่อเหยื่อ

เช่น การขายตั๋วปลอมและการสวมรอยเป็นองค์กรเพื่อการกุศลที่ดูน่าเชื่อถือ เป็นต้น โดยมิจฉาชีพจะสร้างสถานการณ์ที่กดดันเพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบตัดสินใจและหลงกลในที่สุด

กูเกิลแนะนำ เคล็ดลับความปลอดภัย โดยระบุว่า ให้ซื้อตั๋วและบริจาคผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น ตรวจสอบองค์กรการกุศลและตรวจสอบ URL ก่อนคลิก หรือใช้ฟีเจอร์ “เกี่ยวกับผลการค้นหานี้” (About this results) ใน Google Search เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล

ใช้ AI หลอกให้ ‘ลงทุน’

2. ใช้ AI ปลอมหน้า-เสียงบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อหลอกให้ลงทุน : มิจฉาชีพอาจใช้ AI สร้างวิดีโอหรือรูปภาพของบุคคลที่มีชื่อเสียงเพื่อหลอกเหยื่อให้ร่วมลงทุน

โดยมักมีการใช้เทคโนโลยี Deepfake ร่วมกับบทความข่าวและโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่แต่งขึ้นมาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับกลลวง ซึ่งมักพบในแพลตฟอร์มการซื้อขายและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล การผสมผสานของใบหน้าที่คุ้นเคย เนื้อหาที่ดูเหมือนเป็นมืออาชีพ และคำมั่นสัญญาถึงผลตอบแทนสูง สามารถทำให้การหลอกลวงเหล่านี้ดูน่าเชื่อถือเป็นพิเศษได้

สำหรับ เคล็ดลับความปลอดภัย อย่าหลงเชื่อคำแนะนำการลงทุนของนักลงทุนชั้นนำหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงง่ายๆ โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย ให้สังเกตการแสดงสีหน้าที่ไม่เป็นธรรมชาติในวิดีโอ หากการลงทุนใดดูดีเกินจริง ก็อาจเป็นกลโกงได้

ปลอมเว็บ หลอกขายสินค้า

3. หลอกขายแพ็กเกจท่องเที่ยวและสินค้าออนไลน์ : มิจฉาชีพมักสร้างเว็บไซต์ชอปปิง เว็บไซต์การท่องเที่ยว และเว็บไซต์ร้านค้าปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกล่อเหยื่อด้วยสินค้ายอดนิยม สินค้าหรูหรา ตั๋วคอนเสิร์ต และข้อเสนอการเดินทางในราคาที่ถูกเกินจริง

โดยเว็บไซต์ปลอมจะดูเหมือนเว็บไซต์ของจริงทุกอย่าง ตั้งแต่การออกแบบเว็บไซต์ไปจนถึงหน้าบริการลูกค้า ทำให้แยกออกได้ยากว่าเป็นของจริงหรือของปลอม มิจฉาชีพจะใช้เทคนิคต่างๆ

เช่น “การปิดบังหน้าเว็บจริง” (Cloaking) เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ และสร้างความรู้สึกเร่งด่วน เช่น แจ้งว่าเป็น “ข้อเสนอพิเศษแบบจำกัดเวลา” เพื่อกดดันให้ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เหยื่อมักจะไม่ได้รับสินค้า ได้รับสินค้าปลอม หรือถูกเรียกเก็บยอดบัตรเครดิตโดยที่ไม่ได้ใช้และถูกขโมยข้อมูลส่วนตัว

นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังบิดเบือนข้อมูลธุรกิจด้วยการเพิ่มหมายเลขติดต่อปลอมเพื่อสวมรอยเป็นธุรกิจที่มีอยู่จริง

เคล็ดลับความปลอดภัย ตรวจสอบเว็บไซต์ให้ดีก่อนซื้อสินค้า โดยเฉพาะในช่วงลดราคา ตรวจสอบ URL ฟีเจอร์ความปลอดภัย และระวังเรื่องราคาที่ถูกเกินจริงและการกดดันให้รีบตัดสินใจ ใช้ฟีเจอร์ “เกี่ยวกับผลการค้นหานี้” (About this results) สำหรับเว็บไซต์ที่ไม่คุ้นเคย ค้นหาข้อมูลผู้ลงโฆษณาและรายงานโฆษณาที่ไม่ดีผ่าน My Ad Center

กลโกงเข้าถึงจาก ‘ระยะไกล’

4. กลโกงที่ใช้เทคโนโลยีการเข้าถึงระยะไกล : มิจฉาชีพมักแอบอ้างเป็นผู้สนับสนุนทางเทคนิคจากบริษัท ธนาคาร และหน่วยงานของรัฐ และสร้างสถานการณ์เร่งด่วนด้วยการอ้างว่ามีปัญหาด้านอุปกรณ์ บัญชี หรือความปลอดภัย มิจฉาชีพจะใช้ภาษาทางเทคนิคที่น่าเชื่อถือและหน้าสนับสนุนปลอม

นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคที่ซับซ้อน เช่น การปลอมแปลงหมายเลขผู้โทรและการสนทนาตามสคริปต์มาช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ มิจฉาชีพจะมีวิธีการเข้าถึงเหยื่อที่แตกต่างกันไป เช่น เมื่อพุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้สูงอายุก็จะแอบอ้างเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่พวกเขาคุ้นเคย และใช้แพลตฟอร์มเกมเพื่อโจมตีกลุ่มวัยรุ่น

โดยเป้าหมายของเหล่ามิจฉาชีพคือการหลอกล่อเหยื่อให้ติดตั้งซอฟต์แวร์การเข้าถึงระยะไกล (Remote Access) เพื่อให้สิทธิ์ควบคุมอุปกรณ์และเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลบัญชีธนาคารออนไลน์ และความสามารถในการทำธุรกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต

เคล็ดลับความปลอดภัย อย่าให้สิทธิ์การเข้าถึงระยะไกลที่คุณไม่ได้เป็นผู้สั่งให้ทำโดยเด็ดขาด บริษัทที่มีตัวตนจริงและถูกต้องตามกฎหมายจะไม่โทรหาลูกค้าจากฝ่ายสนันสนุนด้านเทคนิค ให้ติดต่อบริษัทเหล่านี้โดยตรงผ่านช่องทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น เพิ่มความปลอดภัยด้วยการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน พาสคีย์ หรือเครื่องมือจัดการรหัส

หลอกให้ ‘สมัครงาน’

5. การหลอกให้สมัครงาน : มิจฉาชีพที่หลอกให้สมัครงานมักฟุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนที่มองหางานออนไลน์และต้องการไปทำงานต่างประเทศที่ให้ค่าตอบแทนสูง โดยจะประกาศรับสมัครงานปลอมตามเว็บไซต์หางานและโซเชียลมีเดีย รวมทั้งมีการทำวิดีโอสัมภาษณ์ที่ดูเป็นมืออาชีพและจัดเตรียมกระบวนการรับสมัครงานไว้อย่างละเอียด

โดยมักจะแอบอ้างเป็นบริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจในด้านต่างๆ เช่น การซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล หรือการตลาดดิจิทัล ทั้งยังมีการทำสัญญาและเอกสารที่ดูเหมือนจริงเพื่อช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ นอกเหนือจากหลอกให้เหยื่อชำระค่าธรรมเนียมเบื้องต้นหรือขโมยข้อมูลของเหยื่อแล้ว

กลลวงประเภทนี้มักเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ ด้วย เหยื่ออาจทำธุรกรรมทางการเงินหรือโอนสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่รู้ตัวจนทำให้ติดร่างแหว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการมิจฉาชีพได้

เคล็ดลับความปลอดภัย ระวังข้อเสนอการจ้างงานที่ “ดูดีเกินจริง” โดยเฉพาะข้อเสนอที่มีการโอนเงิน นายจ้างที่ถูกต้องตามกฎหมายจะไม่มีการเรียกเก็บเงินในระหว่างการจ้างงานหรือใช้บัญชีส่วนตัวในการทำธุรกิจ ให้ตรวจสอบการรับสมัครงานในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท และใช้ใช้ฟีเจอร์ “เกี่ยวกับผลการค้นหานี้” (About this results) เพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล

กูเกิล รายงานว่า การปกป้องผู้ใช้จากการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย เนื่องจากผู้ไม่ประสงค์ดีมักพัฒนากลวิธีและเทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ

สำหรับกูเกิล ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาเทคนิคการตรวจจับและการบังคับใช้นโยบายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามเหล่านี้ ตลอดจนยกระดับการรักษาความปลอดภัยเชิงรุก และทำให้แน่ใจว่ามีนโยบายที่เข้มงวดและเป็นธรรมเพื่อปกป้องผู้คนให้ปลอดภัย

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


50 แคปชั่นวาเลนไทน์ ภาษาอังกฤษ 2025 บอกรักแฟน หวานๆ ภาษาอังกฤษ

แคปชั่นวาเลนไทน์ ภาษาอังกฤษ สั้นๆ แต่น่ารัก

  • I love you more than chocolate.

ฉันรักคุณมากกว่าช็อกโกแลตอีกนะ

  • You make my heart smile.

คุณทำให้หัวใจของฉันยิ้มได้

  • Always better together.

มีกันและกันดีกว่าเสมอ

  • You made me found a happy me.

เธอทำให้ฉันได้พบตัวเองที่มีความสุข

  • You are the like of my like.

คุณคือสาเหตุที่ฉันคลิกไลค์

  • I ❤ You

ฉันรักคุณ

  • You still give me butterflies.

เธอยังคงทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องเสมอเลย (butterflies เป็นการเปรียบเปรยว่า เวลาที่คนเราเกิดอาการตื่นเต้นมากๆ ก็จะรู้สึกว่าท้องไส้ปั่นป่วนเหมือนมีผีเสื้อบินอยู่ในท้องเต็มไปหมด)

  • I love you just the way you are.

ฉันรักเธอ ในแบบที่เธอเป็น

  • Hugs and Kisses.

รักนะจุ๊บๆ

  • On cloud 9 with my Valentine.

ฉันมีความสุขแบบสุดๆ กับที่รักของฉัน

  • You’re always on my mind.

เธออยู่ในความคิดของฉันตลอดเวลา

  • I love you to the moon and back.

ฉันรักคุณเท่ากับระยะทางไปกลับดวงจันทร์เลยนะ

  • I’m so lucky to have you.

ฉันโชคดีสุดๆ ที่มีเธอ

  • You’ve changed my world.

เธอทำให้โลกของฉันเปลี่ยนไป

  • You’re my missing piece.

เธอคือส่วนที่ขาดหายไปของฉัน

  • All of me loves all of you.

ทุกๆ สิ่งในตัวฉัน รัก ทุกๆ สิ่งทุกอย่างในตัวคุณ

  • I’m always tried but never of you.

ฉันเหนื่อยตลอดเวลา แต่ไม่เคยเหนื่อยหน่ายเธอเลยนะ

  • I love you 3000

ฉันรักเธอมากกก (3000 เป็นการเปรียบเปยว่ารักมากๆ เพราะ 1 ตัน เท่ากับ 1000 กก.)

  • You got me at hello.

เธอได้ใจฉันตั้งแต่เธอทักฉันแล้วล่ะ

  • You’re so lucky to have me.

คุณโชคดีมากที่มีฉัน

  • You complete me.

คุณเข้ามาเติมเต็มชีวิตฉัน

  • All of me loves all of you.

ทั้งหมดของตัวฉัน รักทั้งหมดที่เป็นคุณ

  • ilysb — I love you so bad.

ฉันรักคุณมาก

  • I just want you by my side always.

ฉันอยากให้เธออยู่ข้างฉันเสมอไป

  • I’ve got a crush on you.

ฉันตกหลุมรักเธออย่างจังเลย

  • Valentine’s Day looks amazing on us!

วันวาเลนไทน์นี้มันดูดีสำหรับเราเหมือนกันนะ!

  • My Valentine is the cutest.

วาเลนไทน์ของฉันน่ารักที่สุด

  • Just a pair of Valentines in love.

แค่คู่รักในวาเลนไทน์เท่านั้นเอ๊งง

  • My ❤️ belongs to you.

❤️ ของฉันเป็นของคุณ

แคปชั่นวาเลนไทน์ แคปชั่นบอกรัก ภาษาอังกฤษ

  • Everyday is Valentine’s Day since I met you.

ทุกวันคือวันวาเลนไทน์นับตั้งแต่ได้พบคุณ

  • Every day feels like a miracle with you in it.

ทุกวันรู้สึกเหมือนปาฏิหาริย์เมื่อมีคุณอยู่ด้วย

  • You’re not my number one, you’re my only one.

คุณไม่ใช่ที่หนึ่งในใจฉัน แต่เป็นคนเดียวในใจฉันต่างหากล่ะ

  • I want you permanently not temporarily.

ฉันอยากมีเธอตลอดไป ไม่ใช่แค่ชั่วคราว

  • Together with you is my favorite place to be.

สถานที่ที่ฉันชอบอยู่ ก็คือที่ที่มีคุณอยู่ด้วย

  • You are my today and all of my tomorrows.

คุณคือวันนี้และวันพรุ่งนี้ของฉัน

  • Finding you was so hard, but loving you is easy.

การตามหาเธอมันช่างยากเย็น แต่การตกหลุมรักเธอมันช่างง่ายดาย

  • In my heart I have love. In my love I always have you.

ในหัวใจมีความรัก และในความรักนั้นมีเธอเสมอ

  • As long as I have you in my life, I’ll be okay.

ตราบใดที่ฉันมีเธออยู่, ฉันจะไม่เป็นไร

  • To the World you may be one, but to me you are the World.

สำหรับโลก คุณอาจเป็นแค่ใครคนหนึ่ง แต่สำหรับฉัน คุณคือโลกทั้งใบ

  • You make me the happiest person in the World.

คุณทำให้ฉันเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลก

  • The good things in life are better with you.

สิ่งดีๆ ในชีวิต ดีมากขึ้นเพราะมีคุณอยู่เคียงข้าง

  • One smile can’t change the world, but you smile changes mine.

รอยยิ้มไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ แต่รอยยิ้มของเธอเปลี่ยนแปลงโลกของฉันได้

  • Everyday I fall in love with you more and more.

ฉันตกหลุมรักคุณมากขึ้นทุกๆวัน

  • So many of my smiles begin with you.

หลายๆ ครั้งที่รอยยิ้มของฉันเกิดขึ้นได้เพราะคุณเลยนะ

  • Being with you is what I call HAPPINESS.

การได้อยู่กับคุณคือสิ่งที่เรียกว่าความสุข

  • May the love we share today grow stronger as we grow old together.

ขอให้ความรักที่เราร่วมแบ่งปันกันในวันนี้ เติบโตอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมๆ กับการเติบโตของเรา

  • You fit me better than my favorite sweater.

เธอเหมาะและเข้ากับฉันมากกว่าเสื้อสเวตเตอร์ของฉันซะอีก

  • I may not be your first, But I want to be your last everything.

ฉันอาจจะไม่ใช่คนแรกของคุณ แต่ฉันอยากเป็นสิ่งสุดท้ายทุกอย่างของคุณ

  • My heart is perfect because you are in it.

หัวใจของฉันสมบูรณ์ เพราะว่ามีคุณอยู่ข้างใน

ขอบคุณข้อมูลจาก women.trueid.net


6 นมธัญพืชเพื่อสุขภาพ ประโยชน์แน่น อร่อย ลดน้ำหนักได้ ไม่ทำให้อ้วน

สาว ๆ ยุคนี้ หันมาดูแลสุขภาพมากขึ้นและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกเครื่องดื่มที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ นมธัญพืชถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาน้ำหนักและมีสุขภาพที่ดี เพราะนมธัญพืชไม่เพียงแต่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังช่วยในการลดน้ำหนักและปรับสมดุลให้ร่างกายได้ดีอีกด้วย ดังนั้น ลองมาทำความรู้จักกับ 6 นมธัญพืชที่เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพกันดีกว่า

6 นมธัญพืชเพื่อสุขภาพ ประโยชน์แน่น

1.นมอัลมอนด์

นมอัลมอนด์ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนที่รักสุขภาพ เนื่องจากมีแคลอรีต่ำและเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามิน E และแคลเซียม ซึ่งช่วยในการบำรุงกระดูกและผิวพรรณ นอกจากนี้ ยังไม่มีแลคโตสหรือไขมันอิ่มตัวจากสัตว์ ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักและมีสุขภาพดี การดื่มนมอัลมอนด์จึงช่วยให้อิ่มท้องได้ดี โดยไม่เพิ่มไขมันในร่างกาย

2.นมข้าวกล้อง

นมข้าวกล้องเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีประโยชน์ ช่วยให้พลังงานอย่างยั่งยืนและย่อยได้ช้า ทำให้ไม่รู้สึกหิวเร็ว ช่วยควบคุมการรับประทานอาหารจนนำไปสู่การลดน้ำหนักได้ดี พร้อมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามิน B ที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาทและเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงาน

3.นมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชที่ดีเยี่ยม ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและลดการสะสมของไขมันในร่างกาย โปรตีนจากถั่วเหลืองยังช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้นและควบคุมการกินได้ดีกว่า การดื่มนมถั่วเหลืองจึงช่วยให้ลดน้ำหนักได้ โดยไม่ต้องอดอาหาร แถมยังช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจและลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานได้อีกด้วย

4.นมข้าวโอ๊ต

นมข้าวโอ๊ตเต็มไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี และช่วยลดการดูดซึมไขมันจากอาหาร ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ ยังมีสารเบต้ากลูแคนที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล และเสริมสร้างสุขภาพหัวใจให้แข็งแรง จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสาว ๆ รักสุขภาพและกำลังลดน้ำหนัก

5.นมข้าวโพด

นมข้าวโพดเป็นเครื่องดื่มที่ทำจากการผสมนมกับข้าวโพดหวาน ทำให้ได้รสชาติที่หวานมันและหอมกลิ่นข้าวโพด นมข้าวโพดไม่เพียงแค่มีรสชาติอร่อย แต่ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ข้าวโพดเป็นแหล่งของวิตามิน A และ B รวมทั้งแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและบำรุงสายตา ส่วนในนมก็มีแคลเซียมที่ดีต่อกระดูกและฟัน นอกจากนี้  นมข้าวโพดยังช่วยเพิ่มพลังงานและเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มง่ายเลย

6.นมถั่วดำ

นมถั่วดำมีโปรตีนและไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและทำให้รู้สึกอิ่มท้องนาน พร้อมการมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร การดื่มนมถั่วดำเป็นประจำจะช่วยควบคุมการรับประทานอาหารและสามารถลดน้ำหนักได้ โดยไม่ทำให้ร่างกายของสาว ๆ ขาดสารอาหารที่จำเป็น

การเลือกดื่มนมธัญพืชไม่เพียงแค่ช่วยลดน้ำหนัก แต่ยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพของคุณผู้หญิงให้แข็งแรง โดยเฉพาะสำหรับคนที่รักสุขภาพและต้องการหาทางเลือกใหม่ ๆ ในการลดน้ำหนัก การเลือกดื่มนมธัญพืชแต่ละชนิด สามารถให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันไป แต่ทุกชนิดล้วนมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีและเป็นมิตรกับการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 14/02/2568

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a46,600.0046,700.00
ทองรูปพรรณ 96.5%3,019.0045,768.0447,200.00
ทองรูปพรรณ 90%2,717.1041,191.24n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,415.2036,614.43n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,359.0020,602.44n/a
ทองรูปพรรณ 40%1,057.0016,024.12n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%3,128.0047,420.48n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/02/2568


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.3535.3535.8535.3535.3535.3535.3535.3535.3535.35
แก๊สโซฮอล์ 9134.9834.9835.4834.9834.9834.9834.9834.9834.9834.98
แก๊สโซฮอล์ E2033.1433.1433.6433.1433.1433.1433.1433.1433.14
แก๊สโซฮอล์ E8532.0932.0932.09
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม43.9449.8449.8449.8443.94
เบนซิน 9543.6449.8144.1443.7943.64
ดีเซล32.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV17.9017.9017.90
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า