ต่างชาติซื้ออสังหาไทย 1.6แสนล้าน รัฐได้ภาษี-ค่าโอน 3% ไม่พอกระตุ้นเศรษฐกิจ

คาดการณ์ ต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยไทยปี66 มูลค่า 161,564 ล้าน “AREA” ย้ำ ภาษี-ค่าโอน 3% แค่ 4,847 ล้าน ไม่เพียงพอกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ยันรายได้ส่วนใหญ่อยู่กับเอกชน
การคาดการณ์ ว่าในปี 2566 จะมีต่างชาติซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยจำนวน 27,741 หน่วย รวมมูลค่า 161,564 ล้านบาท เงินจำนวนนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้หรือไม่ นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ที่มีฐานข้อมูลตั้งแต่ปี 2537 จากการสำรวจภาคสนามอย่างต่อเนื่อง
โดยพบว่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีต่างชาติซื้อห้องชุดในมือผู้ประกอบการในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมกัน 2,897 หน่วย จากที่มีการซื้อขายกันทั้งหมด 27,179 หน่วย หรือ 10.7% รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด 89,506 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นต่างชาติซื้อที่ 16,871 ล้านบาท หรือ 18.8% ของทั้งหมด ซื้อโดยคนต่างชาติ
เห็นได้ว่าก่อนช่วงโควิด-19 คือในปี 2562 มีต่างชาติซื้อในสัดส่วน 15% ของมูลค่าทั้งหมดของห้องชุดที่มีการขายในเขตกรุงเทพ มหานครและปริมณฑล แต่พอในช่วงโควิด-19 เหลือเพียง 3.5% ในปี 2563 และ 5.4% ในปี 2564 แต่พอมาถึงปี 2565 ต่างชาติก็กลับมาซื้อที่ 11.1% ของมูลค่าห้องชุดที่มีการซื้อขาย และพอมาถึงครึ่งแรกของปี 2566 ก็ขยับมาสูงถึง 18.8% นี่แสดงว่าการซื้อห้องชุดของชาวต่างชาติฟื้นตัวแล้ว
คาดการณ์ต่อไปว่าเฉพาะห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในปี 2566 ทั้งปี คาดว่าต่างชาติจะซื้อจำนวน 4,203 หน่วย รวมมูลค่า 20,364 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ เป็นคนจีนซื้อ 1,937 หน่วย รวมมูลค่า 7,243 ล้านบาท ทั้งนี้คนจีนจะซื้อแถวรัชดา-ห้วยขวางมากที่สุด 731 หน่วย รองลงมาคือแถวบางนา-เทพารักษ์ 625 หน่วย และในเขตใจกลางเมือง (CBD) 223 หน่วย

สำหรับในขอบเขตทั่วประเทศ ต่างชาติจะซื้อห้องชุดทั้งหมด 7,700 หน่วยจากห้องชุดทั่วประเทศที่มีการซื้อขาย 55,000 หน่วยในปี 2566 หรือซื้อโดยชาวต่างชาติ 14% และเมื่อรวมกับบ้านจัดสรรหรือที่อยู่อาศัยแนวราบในมือของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน คาดการณ์ว่าในปี 2566 นี้ จะมีการขายบ้านและห้องชุดในโครงการจัดสรรทั่วประเทศประมาณ 220,000 หน่วย โดยมีชาวต่างชาติซื้อในจำนวน 13,200 หน่วย หรือ 6% ของทั้งหมด โดยราวครึ่งหนึ่งอาจเป็นผู้ซื้อจากประเทศจีน
อย่างไรก็ตามในประเทศไทยมีบ้านอยู่อาศัยทั้งหมด 28,188,470 หน่วย หากมีการซื้อขายกันแค่ 2.5% ต่อปี ก็เท่ากับ 704,712 หน่วย แสดงว่านอกจากการขายบ้านมือหนึ่งจากโครงการของบริษัทพัฒนาที่ดินที่ 220,000 หน่วย ที่เหลืออีก 484,712 หน่วยก็คือการซื้อขายบ้านมือสองซึ่งมีมากกว่าบ้านมือหนึ่งเสียอีก ในกลุ่มบ้านมือสองก็คงมีต่างชาติซื้อเช่นกัน แต่ก็คงซื้อไม่เกิน 3% คือราว 14,541 หน่วย เมื่อรวมกับบ้านมือหนึ่งที่ต่างชาติซื้อ 13,200 หน่วย ก็คงเป็นเพียง 27,741 หน่วยที่ต่างชาติมาซื้อบ้านในประเทศไทย หรืออาจกล่าวได้ว่าต่างชาติมาซื้อบ้านในไทยราวๆ 3.9% ของการซื้อขายที่อยู่อาศัยทั้งหมดในแต่ละปี
ในจำนวน 27,741 หน่วยที่ซื้อโดยชาวต่างชาติจากการคาดการณ์สำหรับปี 2566 นี้ พบว่าในครึ่งแรกของปี 2566 ต่างชาติซื้อในราคาเฉลี่ยที่ 5.824 ล้านบาท (เฉพาะห้องชุดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล) หากนำตัวเลขนี้มาใช้สำหรับที่อยู่อาศัยที่ชาวต่างชาติซื้อทั่วประเทศโดยอนุมานว่าในต่างจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวอาจมีต่างชาติซื้อในราคาที่สูงกว่านี้ ในขณะที่ในจังหวัดอื่นก็อาจซื้อในราคาตํ่ากว่านี้ ดังนั้นหากใช้ตัวเลขนี้ก็จะเป็นเงินรวมกันถึง 161,564 ล้านบาท
เงินจำนวนนี้ หากมีการโอนตามปกติ ก็อาจได้ภาษีและค่าธรรมเนียมโอนประมาณ 3% หรือ 4,847 ล้านบาท เงินจำนวนนี้คงนำมากระตุ้นเศรษฐกิจอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ได้ แต่บางคนก็อาจอ้างว่าต่างชาติอาจจ้างคนไทยทำงาน เช่น เป็นแม่บ้านหรือคนสวน ในกรณีนี้ก็อาจไม่แน่นอนนัก เพราะการจ้างคนงานจากประเทศเพื่อนบ้านน่าจะมีค่าจ้างที่ถูกกว่าคนไทยอาจไมได้ประโยชน์จากการนี้
ยิ่งกว่านั้นหากการซื้อขายที่อยู่อาศัยของคนต่างชาตินี้เป็นการซื้อขายผิดกฎหมายผ่านนอมินีไปบางส่วนหรือตั้งเป็นในรูปบริษัทและซื้อขายผ่านบริษัท รัฐบาลก็แทบไม่ได้รายได้อะไรเลย ในทางตรงกันข้ามหากต่างชาตินำบ้านและห้องชุดไปปล่อยเช่าต่อก็อาจได้ผลตอบแทนปีละ 4% และหากราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3% ก็จะได้ผลตอบแทนปีละ 7% หรือเป็นเงิน 11,309 ล้านบาทโดยเข้ากระเป๋าเฉพาะคนต่างชาติเท่านั้นอย่างไรก็ตามผู้ขายคนไทยก็อาจได้กำไรจากการขายเพียงครั้งเดียวเป็นสำคัญ
ขณะมุมสะท้อนของ นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัทแสนสิริ จำกัด(มหาชน) ที่ระบุว่า ไตรมาส4 มีแนวโน้มที่ดีสำหรับ ตลาดต่างชาติโดยเฉพาะมาตรการวีซ่าฟรี ชั่วคราวสำหรับชาวจีน ที่มองว่า อสังหาริมทรัพย์ไทยจะได้อานิสงส์เพราะ จีนมีจำนวนประชากรจำนวนมาก แม้เพียง ไม่ถึง1% ในจำนวนกว่า1,000ล้านคน ถือว่ามากพอสมควรซึ่งมองว่า จากสถานการณ์โควิดจะมีการเดินทางมาใช้ชีวิตในไทยและซื้อที่อยู่อาศัยเป้นบ้านหลังที่สอง
เช่นเดียวกับ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บมจ.อนันดาดีเวลลอปเม้นท์ มองว่ากำลังซื้อต่างชาติจะเป็นตัวหลักถาวรที่ดีในระยะยาวและเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมนี้ทั้งระบบ แม้ว่าจะเดินทางยังไม่มากแต่เชื่อว่า ปีหน้าจะดีกว่าที่ผ่านมา แน่นอนว่าต้องอดใจรอ และเมื่อเกิดสถานการณ์รุนแรงไม่คาดฝันในไทย ซํ้าเติมการสร้างภาพลักษณ์ดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศก็ต้องเข้มข้นขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
กำลังโหลด
ดัชนีราคาค่าก่อสร้างไตรมาส 3 ขยับ1.5% ราคาเหล็กลดเกือบ10%

ดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 3 ปี 2566 เพิ่มขึ้น 1.5% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.2 ปัจจัยที่สำคัญมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้าง-งานระบบ เพิ่มขึ้น3.6% ขณะที่เหล็ก-ผลิตภัณฑ์เหล็กราคาลดลง -9.6%
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) รายงานดัชนีราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ไตรมาส 3 ปี 2566 มีค่าดัชนีเท่ากับ 134.2 เพิ่มขึ้น0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 และเพิ่มขึ้น 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยที่ส่งผลให้ดัชนีราคาเพิ่มขึ้นนั้นมาจากค่าตอบแทนในหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ ที่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในหมวดงานสถาปัตยกรรม3.6 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่หมวดงานวิศวกรรมโครงสร้าง ลดลง -2.6% และ หมวดงานระบบสุขาภิบาล -1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า หมวดราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลงมี 4 รายการ ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก สุขภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีตและอุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ลดลงมากที่สุดถึงประมาณร้อยละ -9.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

โดยเป็นผลมาจากราคาตลาดโลกที่เริ่มมีการปรับตัวลดลงตามอุปสงค์และอุปทานของเหล็ก เนื่องจากมีปริมาณเหล็กส่วนเกินจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ในจีนที่ส่งผลให้อุปสงค์ของเหล็กภายในประเทศจีนลดลง ทำให้มีอุปทานเหล็กส่วนเกินจากจีนบางส่วนมีการระบายสต๊อกมาที่ประเทศไทยมากขึ้น และราคานํ้ามันดีเซลตํ่าลง ซึ่งมีผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาวัสดุก่อสร้างหมวดต่างๆ
จึงส่งผลให้ราคาเหล็กในประเทศไทยลดลง ขณะที่ดัชนีราคาหมวดกระเบื้อง ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ และวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เพิ่มขึ้น เนื่องจากสินค้าวัสดุก่อสร้างส่วนใหญ่มีต้นทุนเพิ่มขึ้นทั้งจาก ราคาวัตถุดิบและค่าดำเนินการที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ส่วนหมวดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อพิจารณาจำแนกต้นทุนของงานก่อสร้างในแต่ละหมวด พบว่า
1.หมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานวิศวกรรมโครงสร้าง มีอัตราค่าตอบแทนลดลง -2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -0.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 27.6% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานสถาปัตยกรรม มีอัตราค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น 3.6 %เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 66.1% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
งานระบบสุขาภิบาล มีอัตราค่าตอบแทนลดลง -1.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 2.7% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ งานระบบไฟฟ้าและระบบสื่อสาร อัตราค่าตอบแทนลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 3.6% ของหมวดงานออกแบบก่อสร้างและงานระบบ
2. หมวดวัสดุก่อสร้าง คิดเป็นสัดส่วน 60.3% ของค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน มีการเปลี่ยนแปลงดังนี้ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ราคาเพิ่มขึ้น 4.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.5 % เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 27.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง
ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ราคาลดลง-1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง-0.4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 7.1% ของหมวดวัสดุก่อสร้างเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ราคาลดลง -9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -3.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 8.9% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง กระเบื้อง ราคาเพิ่มขึ้น 16.6%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 5.8% ของหมวดวัสดุก่อสร้าง สุขภัณฑ์ ราคาลดลง -8.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และลดลง -8.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 โดยมีสัดส่วน 3.0 %ของหมวดวัสดุก่อสร้างเป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เงินบาทปรับตัว “อ่อนค่า”อยู่ที่ระดับ 36.24-36.26 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วง 9.30 น.วันนี้

เงินบาทและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เคลื่อนไหวในกรอบ “อ่อนค่า” ขณะที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากราคาน้ำมันBrent ส่งมอบเดือนธ.ค. เหนือระดับ 90 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล สวนทางเงินดอลลาร์ฯ
เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับ 36.24-36.26 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.30 น.) อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ
ระดับปิดตลาดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาที่ 36.18 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ เคลื่อนไหวในกรอบอ่อนค่า ขณะที่ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลก (Brent ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวอยู่เหนือระดับ 90 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล
สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ยังคงมีแรงหนุนในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้เบื้องต้นที่ 36.20-36.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางสกุลเงินเอเชีย สถานการณ์ในอิสราเอล ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์กเดือนต.ค.
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
รู้จัก PTSD อาการทางจิตผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายแรง

มีหนึ่งคำอยากให้ทุกคนได้รู้จักคือ PTSD หรือ Post-traumatic Stress Disorder เป็นคำที่ใช้อธิบายโรคจิตเภทชนิดหนึ่งหลังจากที่ได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากเหตุการณ์ที่เลวร้าย เช่น การก่อการร้าย สงคราม อุบัติเหตุ การเห็นเหตุการณ์ร้ายๆ ต่างๆ หรือบางคนอ่านข่าว เห็นภาพ แล้วคิดว่าตัวเองอยู่ในเหตุการณ์นั้นแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมา
PTSD (Post-traumatic Stress Disorder) คือ
สภาวะป่วยทางจิตใจเมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดความเครียดอย่างมาก อาทิ ภัยพิบัติ อุทกภัย แผ่นดินไหว การก่อการจลาจล การฆาตกรรม สงคราม การปล้นฆ่า ข่มขืน เป็นต้น ซึ่งคนที่เผชิญอยู่กับเหตุการณ์นั้นๆ รอดชีวิตมาได้ หรือว่าเป็นผู้ที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเหตุการณ์นั้นๆ ทำให้เกิดมีความเครียดทางด้านจิตใจชนิดรุนแรงมาก จนทุกข์ทรมาน ส่งผลให้เกิดความบกพร่องในหน้าที่การงานและการใช้ชีวิตประจำวันต่างๆ ตามมา รวมถึงบางคนอาจจะเห็นจากข่าวหรือได้ฟังคำบอกเล่ามา เห็นคลิปวิดีโอ จนรู้สึกกลัว จนเกิดความเครียด ความกลัว ความกังวลตามมาได้ (บางคนก็ใช้อธิบายว่าทำไมอ่านข่าวเศร้าเยอะๆ แล้วรู้สึกกังวลขึ้นมา)
สาเหตุของ PTSD
ปัจจัยนั้นมีทั้งด้านชีวภาพ และปัจจัยด้านจิตใจ พบว่ามีความผิดปกติของสารสื่อประสาทบางชนิด หรือมีการตอบสนองที่ผิดไป ส่วนด้านจิตใจ เชื่อว่าอาการ PTSD เกิดขึ้นเนื่องจากความผิดปกติ เกิดพฤติกรรมบางอย่าง เช่น นึกถึงภาพ กลิ่น เสียง ทำให้เกิดอาการทางจิตขึ้น ตัวอย่างเหตุการณ์รุนแรงที่อาจกระตุ้นให้เกิด PTSD เช่น สงคราม ภัยพิบัติ อุบัติเหตุร้ายแรง เหตุการณ์ไม่คาดคิด ถูกข่มขืน เป็นต้น
อาการผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงเป็นภาวะ PTSD คือ
- อาการในช่วงแรกประมาณ 1 เดือน เราจะเรียกว่าระยะทำใจ (Acute Stress Disorder) หรืออาการเครียดเฉียบพลัน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการเครียดแล้วเกิดอาการทางประสาทขึ้นมาได้
- ระยะที่สอง (PTSD: Post-Traumatic Stress Disorder) คือ กินระยะเวลานานมากกว่า 1 เดือน บางคนอาจจะยาวนานหลายเดือน หรือนานเป็นปีแล้วแต่บุคคล
อาการที่แสดงออกมานั้นจะแบ่งง่ายๆ เป็น 3 กลุ่มคือ
- ตกใจและหวาดกลัว รู้สึกกระวนกระวาย ตกใจง่าย ไม่มีสมาธิ เครียดง่าย วิตกกังวล
- เกิดอาการคิดว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้น รู้สึกหรือมีความคิดว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง มีภาพเหตุการณ์ที่กลัวเข้ามาซ้ำๆ อยู่ในหัว แม้จะไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวเองเลยก็ตาม
- อาการกลัวและพยายามหลีกเลี่ยง คนที่เกิดอาการ PTSD มักหลีกเลี่ยงสิ่งจะทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้สิ่งที่กลัวได้ เช่น ไม่เข้าใกล้ทะเล เพราะกลัวจมน้ำ
นอกจากนี้มักยังเกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบอีกด้วย เช่นรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสุข ไม่สามารถทำกิจกรรมหลายๆ อย่างได้อีกต่อไป จนทำให้มีอาการป่วยอื่นๆ แทรกเข้ามาได้อีก
โดยปกติแล้วคนที่เกิดอาการ PTSD นั้นต้องยอมรับตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วใช้การทานยาหรือการบำบัดจากแพทย์เพื่อรักษาอาการ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ทำดีที่สุดแล้ว! “กิ๊ฟ-วิว” พ่าย คู่หญิงจีน คว้ารองแชมป์ แบดมินตัน ฟินแลนด์

การแข่งขันแบดมินตันรายการอาร์กติก โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 500 ที่เมืองวันตา ประเทศฟินแลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ต.ค.66 ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ มีนักแบดมินตันไทยผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ 1 คู่
ประเภทหญิงคู่ รอบชิงชนะเลิศ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ คู่มือ 10 ของโลก พ่ายให้กับ หลิว เชงซู กับ ตัน หนิง คู่มือวางอันดับ 7 ของรายการ คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากจีน 0-2 เกม 13-21 , 22-24 ใช้เวลาแข่งขัน 52 นาที
หลิว เชงซู กับ ตัน หนิง คว้าแชมป์พร้อมรับเงินราวัล 33,180 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,194,480 บาท ส่วน “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ ได้รองแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์ 500 เป็นรายการที่ 2 ต่อจากอินเดีย โอเพ่น ในปี 2018 พร้อมรับเงินรางวัล 15,960 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 574,560 บาท
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล รองประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก และ นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ถึงแม้หญิงคู่ กิ๊ฟ จงกลพรรณ กับ วิว รวินดา จะพ่ายให้กับคู่ของ หลิว เชงซู กับ ตัน หนิง คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากจีน ไป 0-2 เกม คว้าตำแหน่งรองแชมป์จากการแข่งขันแบดมินตันรายการ อาร์กติก โอเพ่น 2023 ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 500 ที่เมืองวันตา ประเทศฟินแลนด์ แต่ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาทั้งคู่ที่พยายามฝึกซ้อมอย่างหนักจนสามารถทำผลงานผ่านเข้ามาถึงในรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จเป็นทัวร์นาเมนต์ในปี 2023”
“ที่สำคัญในทัวร์นาเมนต์นี้นับเป็นอีกหนึ่งในรายการเก็บคะแนนสะสมเพื่อแย่งชิงตั๋วไปสู่โอลิมปิก ปารีสเกมส์ ซึ่งการได้ผ่านเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศในรอบชิงชนะเลิศอีกครั้งของ กิ๊ฟ กับ วิว น่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญให้ทั้งคู่ได้มุ่งมั่น ตั้งใจฝึกซ้อมให้หนักมากยิ่งขึ้นเพื่อเดินหน้าไปสู่ความสำเร็จในอนาคตต่อไป”
“ในสัปดาห์หน้าขอเชิญชวนแฟนๆ แบดมินตันชาวไทยช่วยส่งแรงใจไปเชียร์ทัพนักกีฬาแบดมินตันไทยที่จะมีโปรแกรมร่วมลงสนามแข่งขันในรายการใหญ่ “เดนมาร์ก โอเพ่น 2023” ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 750 เมืองโอเดนเซ ประเทศเดนมาร์ก ระหว่างวันที่ 18 – 22 ตุลาคม 2566 นอกจากนั้นในระดับเยาวชนจะมีทัพนักกีฬาแบดมินตันเยาวชนไทยเดินทางไปร่วมลงสนามแข่งขัน ศึกชิงแชมป์เยาวชนเอเชีย รุ่นยู 15 และ ยู 17 ที่ประเทศจีน”
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
“น่าเสียดาย” ในภาษาอังกฤษพูดว่าไงได้บ้าง

วันนี้เรามีวิธีพูดว่า “เสียดาย” หรือ “น่าเสียดาย” ในภาษาอังกฤษมาฝากค่ะ หลายๆ คน อาจจะรู้จักแค่คำว่า What a pity, Such a pity หรือ It’s pity แต่วันนี้แอดจะมาสอนคำอื่นๆ ด้วย ที่แปลว่า น่าเสียดาย ในภาษาอังกฤษเหมือนกัน ไปดูกันเลยค่าว่ามีอะไรบ้าง
“What a pity!” (หรือ Pity! สั้นๆ ก็ได้)
ตัวอย่างเช่น:
What a pity you can’t attend our party tonight.
= น่าเสียดายจังที่เธอมางานปาร์ตี้คืนนี้ไม่ได้
What a pity! That handsome guy already has a girlfriend.
= เสียดายจังเลย หนุ่มหล่อคนนั้นเขามีแฟนแล้วอ่ะ
“What a shame!” อะไรจะน่าขายหน้าขนาดนั้น
ตัวอย่างเช่น:
I won the lottery but lost my ticket. What a shame!
= ฉันถูกหวยรางวัลที่หนึ่งแต่ทำฉลากหาย เสียดายจังเลย
What a shame! He didn’t pass for his exam.
= น่าเสียดายจัง เขาสอบไม่ผ่าน
“What a waste!” แปลว่า เสียดาย, เสียของ, สิ้นเปลือง
ตัวอย่างเช่น:
What a waste! The food we throw away.
= น่าเสียดายจริง ๆ อาหารที่เราทิ้งขว้าง
Nobody showed up for my party. What a waste of time!
= ไม่มีใครมางานปาร์ตี้ของฉันเลย เสียเวลาจริงๆ
“Too bad” เป็นสำนวนค่ะ ซึ่งจะแปลว่า เสียดาย
ตัวอย่างเช่น:
It’s too bad Jane’s boyfriend turned out to be gay.
= น่าเสียดายที่แฟนเจนเปิดเผยว่าเป็นเกย์
Too bad, I can’t read Chinese.
= แย่จัง ฉันอ่านภาษาจีนไม่ออกอ่ะเธอ
“Unfortunately” แปลว่า น่าเสียดาย, แย่จัง
ตัวอย่างเช่น:
Unfortunately, the hotel is fully occupied and no room is available today.
= แย่จัง วันนี้โรงแรมจองเต็มหมดแล้วและไม่มีห้องเหลือเลย
Unfortunately, Apple Inc. didn’t hire Tim for the job he applied for.
= น่าเสียดายจัง บริษัทแอ็ปเปิ้ลไม่ได้จ้างทิมสำหรับงานที่เขาสมัครไป
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
ตอบชัดๆ เสียบชาร์จไฟโน้ตบุ๊ก ทั้งวันทำให้แบตฯ เสื่อมได้จริงไหม?

หลังจากที่ทีม Sanook Hitech ได้ตอบคำถามว่าชาร์จไฟ 100% ในมือถือกันไปแล้ว อีกอุปกรณ์หนึ่งที่หลายคนจะเข้าใจผิดอย่าง Notebook ที่สงสัยกันว่าแล้วถ้าเราชาร์จไฟทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ มันจะมีผลเสียอย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อมกันครับ
โดยทั่วไปแล้วการชาร์จไฟ Notebook แบบเสียบไฟค้างไว้ทั้งวันนั้นไม่ส่งผลดีอย่างแน่นอน เพราะเนื่องจากแบตเตอรี่ของ Notebook เป็นแบบ Li-ion แบบเดียวกับมือถือ แม้ว่าจะมีการพัฒนาไปแล้วก็ตาม แต่หากชาร์จไฟทั้งวัน 100% ตลอดเวลาก็จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เร็วมากขึ้น
แต่สำหรับ Notebook มันจะมีข้อมูลเพิ่มเติมคือ อาจจะทำให้ตัวเครื่องรอ้อนและส่งผลเสียต่อตัวเครื่องได้
หากอยากให้ Notebook ยืดอายุการใช้งานให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น ลองทำตามดังนี้
- ควรปล่อยให้แบตเตอรี่ให้เหลือไฟ 20 – 30% แล้วค่อยเสียบชาร์จไฟ
- ถ้าแบตเตอรี่เต็ม ควรจะถอดปลั๊กออก
- ถ้าสถานที่นั้นเป็นอุณหภูมิที่สูงควรจะหยุดชาร์จไฟ
- ถ้าไม่จำเป็น ควรจะหลีกเลี่ยงการชาร์จไฟและใช้งานไป
- หมั่นทำความสะอาดตัวเครื่องให้สะอาด
อย่างไรก็ตามถ้าจำเป็นต้องใช้ Notebook นานๆ ควรจะหา Powerbank ที่มีกำลังสูงพอจะชาร์จไฟ Notebook (หรือ PD)แทนที่จะเสียบปลั๊กโดยตรง วิธีนี้ก็จะช่วยทำให้เครื่องมีอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้นแล้วครับ สำหรับครั้งหน้าทีม Sanook Hitech จะมี Tips และ เทคนิคอะไรมาบอกเล่ากันต่อ รอติดตามกันต่อไปครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
มูลนิธิเพื่อเยาวชนและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมสีเขียว สนับสนุนโดยบริษัทฟอร์ไมก้า มอบอาคารเรียนใหม่ให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล 5 บางหญ้าแพรก
อาคารเรียนแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของความหวัง โอกาส และแสดงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาเยาวชน

สมุทรปราการ 9 ตุลาคม 2566 – มูลนิธิเพื่อเยาวชนและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมสีเขียว สนุบสนุนโดยบริษัท ฟอร์ไมก้า (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดอาคารเรียนใหม่ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล 5 บางหญ้าแพรก เลขที่ 23/1 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมแจกทุนนักศึกษาและของที่ระลึกให้กับนักเรียน โดยในงานมีผู้ร่วมแสดงความยินดีมากมายจากหลายหน่วยงาน รวมถึงเทศบาลบางหญ้าแพรก กลุ่มผู้บริหารของบริษัทฟอร์ไมก้าและบริษัทสยามสตีล และคู่ค้าในอุตสาหกรรมวัสดุปิดผิวและวงการออกแบบ
โครงการนี้นับเป็นความสำเร็จในการจัดกิจกรรมเพื่อเยาวชนและสร้างสรรค์ความผูกพันอย่างยั่งยืนในชุมชนของมูลนิธิฯ ซึ่งจัดตั้งโดยบริษัทฟอร์ไมก้าเพื่อเยาวชนและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมสีเขียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษา การพัฒนาของเยาวชน รวมถึงการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในประเทศไทย ซึ่งโครงการนี้นับเป็นภารกิจแห่งแรกของมูลนิธิ ในการจัดหาที่ดินและสร้างอาคารเรียนหลังใหม่บนที่ดินของมูลนิธิฯ ซึ่งเหมาะสมทั้งในด้านสภาพแวดล้อมและความปลอดภัย เพื่อบริจาคให้เป็นสถานศึกษาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล 5 บางหญ้าแพรก อีกทั้งยังอำนวยความสะดวกและสร้างความสบายใจให้กับผู้ปกครองที่ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ที่โรงงานในบริเวณบางหญ้าแพรก
สำหรับอาคารเรียนหลังใหม่ของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดังกล่าว เป็นอาคารชั้นเดียวตั้งอยู่บนพื้นที่ 351 ตรว. มีพื้นที่ใช้สอย 400 ตรม. ถูกออกแบบตามมาตรฐานศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) บางหัวเสือ ขนาดสำหรับเด็กเล็กอายุ 2-5 ปี จำนวน 80-100 คน เพิ่มลุคทันสมัยด้วยการตกแต่งโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทฟอร์ไมก้า เช่น ประตูห้องเรียนที่ใช้ประตูฟอร์ไมก้า Architectural Door รหัส CR5491NT ตกแต่งและใช้สีเขียวอ่อนโยนโทนสบายตา รหัส 2966UN Opal ตกแต่งท๊อปโต๊ะอาหาร นอกจากนี้ยังใช้ TD9201AB ทำกระดานไวท์บอร์ดในห้องเรียนอีกด้วย
เกี่ยวกับมูลนิธิเพื่อเยาวชนและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมสีเขียว
มูลนิธิเพื่อเยาวชนและการพัฒนาสิ่งแวดล้อมสีเขียวถูกจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2564 โดยบริษัทฟอร์ไมก้า (ประเทศไทย) จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการศึกษาและพัฒนาเยาวชนให้เป็นกำลังอันแข็งแรงต่ออนาคตของชาติ มูลนิธิฯ มีความมุ่งมั่นในการจัดกิจกรรมสนับสนุนเยาวชนทั้งในด้านเงินทุนการศึกษาและให้คำแนะนำเพื่อส่งเสริมศักยภาพของเยาวชน อีกทั้งยังสนับสนุนอุปกรณ์ส่งเสริมการเรียนรู้ที่จำเป็นในการพัฒนาทักษะของเยาวชนทั้งทางด้านความรู้ความสามารถ สติปัญญา จริยธรรมและความฉลาดทางอารมณ์ นอกจากนี้ ยังมีความมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์ธรรมชาติและพัฒาสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อรักษาและดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยการสนับสนุนโครงการที่ช่วยรักษาและอนุรักษ์ธรรมชาติในประเทศไทยอีกด้วย
เกี่ยวกับฟอร์ไมก้า กรุ๊ป
ฟอร์ไมก้า เป็นผู้นำระดับโลกในด้านการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิดผิวนวัตกรรมใหม่สำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย ลามิเนต Formica® คือผลิตภัณฑ์ “ของแท้ดั้งเดิม” และเป็นผู้นำการคิดค้น สร้างสรรค์นวัตกรรม และการออกแบบมานานกว่า 110 ปี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟอร์ไมก้า กรุ๊ป ผลิตภัณฑ์ โครงการพิเศษ และการส่งเสริมการขาย เข้าชมได้ที่ www.formica.com
ฟอร์ไมก้า กรุ๊ป เป็นกลุ่มบริษัทระดับโลกที่ประกอบด้วยบริษัท ฟอร์ไมก้า แคนาดา, ฟอร์ไมก้า คอร์ปอเรชั่น, ฟอร์ไมก้า เดอ เม็กซิโก, ฟอร์ไมก้า ไอเคไอ, ฟอร์ไมก้า ลิมิเต็ด, ฟอร์ไมก้า เอส.เอ., ฟอร์ไมก้า เอส.เอ.เอส., ฟอร์ไมก้า ไต้หวัน คอร์ปอเรชั่น, ฟอร์ไมก้า ประเทศไทย, ฟอร์ไมก้า เอเชีย และ ฟอร์ไมก้า เดคคอเรทีฟ แมททีเรียลส์ (จีน)
ขอบคุณข้อมูลจาก buildernews.in.th
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 16/10/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,800.00 | 32,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,125.00 | 32,215.00 | 33,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,912.50 | 28,993.50 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,700.00 | 25,772.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 956.00 | 14,492.96 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 744.00 | 11,279.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,202.00 | 33,382.32 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 16/10/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ![]() ไออาร์พีซี | พีที | ![]() ซัสโก้ | ![]() เพียว | ![]() พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 38.15 | 38.15 | 38.65 | 38.15 | 38.45 | 38.15 | 38.15 | 38.15 | 38.15 | 38.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 37.88 | 37.88 | 38.38 | 37.88 | 38.18 | 37.88 | 37.88 | 37.88 | 37.88 | 37.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.84 | 35.84 | 36.34 | 35.84 | 36.14 | – | 35.84 | 35.84 | 35.84 | 35.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 35.99 | 35.99 | – | – | – | – | – | – | – | 35.99 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.34 | 48.84 | 49.54 | 48.84 | – | – | – | – | – | 44.34 |
เบนซิน 95 | 45.94 | – | – | – | 47.41 | – | 46.44 | 46.09 | – | 45.94 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 30.44 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | 30.44 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | 30.44 | – | 29.94 | – | – | – | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 40.84 | 42.94 | 48.44 | 42.94 | 42.24 | – | – | – | – | 40.84 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |