แสนสิริกับห้องสไตล์Loftมากถึง90%โครงการ”ชูช์ ราชเทวี”เริ่ม8.99ล้าน

แสนสิริพรีเซลล์ “ชูช์ ราชเทวี” ลักซ์ชัวรี่คอนโดมูลค่า5,300 ล้านบาทกับห้องสไตล์Loftมากถึง90% เพดานสูง 4.5 ม.เริ่มราคา 8.99ล้านราคาเฉลี่ย 245,000 บาท/ตร.ม.ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าและขายเปลี่ยนมือ 7.5% ต่อปี
นายองอาจ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริเดินหน้าตามแผนคอนโดมิเนียมครึ่งหลังปี 2566 โดยหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของแผนคือการรุกตลาดคอนโดลักชัวรี่ กับ ‘New Luxury Condominium’ เปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ “ชูช์ ราชเทวี” บนสุดยอดทำเลศักยภาพที่มีซัพพลายในตลาดน้อย แต่มีดีมานด์ของกลุ่มลูกค้าระดับบนสูง ในย่าน CBD ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างทำเล ‘ราชเทวี’
กับไฮไลท์สุดยอดทำเลศักยภาพ เพียง 140 เมตร จาก BTS ราชเทวี และเป็นครั้งแรกของแสนสิริ ที่พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่มีสัดส่วนห้องสไตล์ Loft เพดานสูง 4.5 เมตร มากถึง 90% ของโครงการ มาพร้อมกับห้องน้ำบนชั้นลอย ที่ถูกพัฒนามาจากความใส่ใจและเข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างแท้จริง มุ่งเจาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มคนทำงาน รวมถึงผู้บริหารระดับสูง โดยโครงการ “ชูช์ ราชเทวี” กระแสตอบรับดีเกินคาด กวาดยอดจองจากรอบ VVIP ทะลุเป้าอย่างรวดเร็ว ได้ดีเกินคาด และปัจจุบัน มีลูกค้าสนใจเข้าเยี่ยมชมห้องตัวอย่างที่เซลล์แกลลอรี่อย่างต่อเนื่อง
“ชูช์ ราชเทวี” มูลค่าโครงการ 5,300 ล้านบาท มาพร้อมกับ Tagline ของโครงการ ‘A Symphony of Silence’ มาจากแนวคิด True Sense of Luxury โดย ‘SHUSH’ มาจากคำว่า ‘Shh’ เสียงของความเงียบที่บอกเล่าเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ ตั้งอยู่บนทำเลระดับซุปเปอร์ไพร์มโลเคชั่น ใจกลางราชเทวี เพียง 140 เมตร จาก BTS ราชเทวี เพียง 250 เมตร จาก BTS และ ARL พญาไท สะดวกต่อการเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ
และใช้เวลาเพียง 5 นาทีจากสยามหรือแยกราชประสงค์ ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ระดับเวิลด์คลาสใจกลางกรุงเทพฯ เพียง 10 นาที จากโรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งนับเป็นโรงพยาบาลศูนย์วิชาการที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย และเพียง 15 นาทีจากย่าน CBD อย่างสีลม, สาทรและเพลินจิต ตลอดจนโครงการยังถูกรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นนำอีกมากมาย อาทิ สยามพารากอน, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาและโรงพยาบาลรามาธิบดี ในราคาเริ่มต้น 8.99 ล้าน ราคาเฉลี่ย 245,000 บาท/ตารางเมตร มีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Rental Yield) และอัตราสัดส่วนกำไรจากการขายเปลี่ยนมือ (Capital Gain) ประมาณ 7.5% ต่อปี
โครงการ “ชูช์ ราชเทวี” เป็นอาคารพักอาศัยสูง 32 ชั้น มีชั้นใต้ดิน 5 ชั้น 1 อาคาร มีจำนวนยูนิตพักอาศัย 383 ยูนิต และจำนวนที่จอดรถกว่า 58% เป็นสัดส่วนห้องสไตล์ Loft มากถึง 90% ของโครงการ มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 40.75-75.75 ตารางเมตร และห้องสไตล์ Simplex อีก 10% มีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มตั้งแต่ 31.25-117.25 ตารางเมตร โครงการมีแนวคิดการดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Museum of Art, Gallery of Life’ นำเสนอพื้นที่การใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยศิลปะ เสมือนเป็นแกลเลอรี่ ที่เน้น Shape & Form มีลูกเล่นในแบบของ SHUSH
ภายในโครงการ เลือกสรรวัสดุคุณภาพ เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งและงานศิลปะจากแบรนด์ชั้นนำและดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากทั่วโลก เช่น โซฟา ‘DS-600 Snake’ จาก de Sede แบรนด์ชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถูกบันทึกเป็นโซฟาที่มีขนาดยาวที่สุดในโลกใน Guinness Book of Records, เลานจ์แชร์สุดไอคอนนิก ‘Elda’ โดย Joe Colombo ดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลี, ของตกแต่งผนังสุดวินเทจ ‘Large Panel’ ออกแบบโดย Francois Cante-Pacos ดีไซน์เนอร์ชาวฝรั่งเศสในปี 1975 และอาร์มแชร์ ‘D.156.3’ ออกแบบโดย Gio Ponti สถาปนิกชาวอิตาลีที่ทรงอิทธิพลด้านการออกแบบในศตวรรษที่ 20 พร้อมมอบการดูแลลูกบ้านแบบเอ็กซ์คลูซีฟผ่านบริการ Concierge Service โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้
4-5 พฤศจิกายน นี้! พรีเซลล์ “ชูช์ ราชเทวี” ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมใหม่ สไตล์ Loft 2 ชั้น เพดานสูง 4.5 เมตร เพียง 140 เมตร จาก BTS ราชเทวี ในราคาเริ่มต้น 8.99 ล้าน ราคาเฉลี่ย 245,000 บาท/ตารางเมตร จองวันงานรับข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 450,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินเยนอ่อนดันดีมานด์อสังหาญี่ปุ่นฟื้น

ค่าเงินเยนอ่อนดันดีมานด์อสังหาญี่ปุ่นฟื้น ริชมอนทส์ สบช่องเปิดตัว Hotel101 ทำเลทองนิเซโกะ – ฮอกไกโด ขายคนไทยสนใจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่น
นายทิม สเคพวิงตัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ริชมอนทส์ (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจที่ปรึกษา ทางด้านการตลาดและการขายอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเริ่มกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้นภายหลังสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลใหม่จบลง ซึ่งทำให้นโยบายและการทำงานของภาครัฐมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เคยชะลอการตัดสินใจซื้อก่อนหน้านี้ให้กลับเข้ามาในตลาด และทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปีนี้มีแนวโน้มที่จะคึกคักมากขึ้น ประกอบกับภาครัฐให้ความสำคัญกับการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายจึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้กำลังซื้อจากภายในและนอกประเทศกลับมา
ส่วนสถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอาจจะต้องพิจารณาเป็นรายประเทศ โดยในกรณีของประเทศญี่ปุ่น มองว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีโอกาสสูง เพราะหลังจากญี่ปุ่นเปิดประเทศ ทำให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงหิมะในฮอกไกโด เมืองนิเซโกะ เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่โดดเด่น มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรวมถึงนักท่องเที่ยวคนไทยให้ความสนใจไปเที่ยวเมืองนิเซโกะเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี โดยสถิติในครึ่งปีแรก 2566 มีนักท่องเที่ยวคนไทยไปเยือนญี่ปุ่นแล้วกว่า 497,700 คน ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนตัวลงยิ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้าไปลงทุนในญี่ปุ่นมากขึ้น ส่งผลต่อเนื่องถึงโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียม โรงแรม ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนนิเซโกะตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 – เมษายน 2566 จำนวน 3.21 ล้านคน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูร้อน พฤษภาคม 2565 – ตุลาคม 2565 จำนวน 1.48 ล้านคน และนักท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาว พฤศจิกายน 2565 – เมษายน 2566 จำนวน 1.73 ล้านคน และคิดเป็นสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย 128,000 คน คิดเป็น 4% จากจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งเป็นสถิติที่น่าสนใจ
นางสาวแฮนน่า ยูโล-ลูซินี่ ประธานกรรมการบริหาร Hotel101 เปิดเผยว่า “บริษัท ดับเบิ้ล ดราก้อน คอร์ปอเรชั่น” เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการ “Hotel101 – Niseko, Japan” มูลค่าโครงการกว่า 4,600 ล้านบาท เป็นโครงการแบบ Condotel ภายใต้แนวคิดการออกแบบในสไตล์ Modern Japanese-style เน้นเรื่องความเรียบง่าย ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า บนที่ดินประมาณ 6 ไร่ ก่อสร้างเป็นอาคาร Low rise สูง 6 ชั้น และ 1-Basement มีห้องชุด Happy Room จำนวน 482 ยูนิต ดีไซน์ให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานแบบคอนโดมิเนียม โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางเหมือนการใช้บริการในโรงแรม และมีที่จอดรถภายนอกอาคาร 167 คัน คิดเป็นประมาณ 40% ของจำนวนห้อง โครงการดำเนินการก่อสร้างแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 และประมาณการแล้วเสร็จปี 2569
ทั้งนี้ โครงการเสนอการขายห้องพักแบบซื้อเป็นทรัพย์สิน หรือ แบบร่วมลงทุน ซึ่งตอบโจทย์การลงทุนทรัพย์สินในต่างประเทศในช่วง “ค่าเงินเยนอ่อนค่า” หลักการแนวคิดการลงทุนใน Hotel101 ทางบริษัทเสนอการดูแลการบริหารงานทั้งหมด สัดส่วน 70 ต่อ 30 โดยแบ่งเป็นผลตอบแทนสำหรับเจ้าของ (Owner) สัดส่วน 30% (ก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษี) และ Hotel101 สัดส่วน 70% (ทางโรงแรมจะรับผิดชอบในส่วนของค่าบริหารงาน การซ่อมบำรุงภายในห้องชุดและการรีโนเวท) โดยเจ้าของสามาถเข้าพักฟรี 10 คืนต่อปี แบ่งเป็น 5 คืน ใน Hotel101 – นิเซโกะ และอีก 5 คืนในโรงแรมในเครือ Hotel101 ทั่วโลก
นิเซโกะ เป็นเมืองสกี รีสอร์ท ที่เปิดตลอดทั้งปี และมีกิจกรรมให้ทำมากมายในฤดูร้อนและฤดูหนาว โดยใน ฤดูหนาว จะสามารถเล่นสกียาวนานกว่าที่รีสอร์ทหลาย ๆ แห่ง และโดยทั่วไปจะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ส่วน ฤดูร้อน ในนิเซโกะมีอุณหภูมิเฉลี่ย 21 องศาเซลเซียส ทำให้มีสภาพอากาศที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท เช่น กอล์ฟ ที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษ ที่ฮอกไกโดมีสนามกอล์ฟ มากถึง 119 แห่งซึ่งหลายแห่งติด “สนามกอล์ฟ 100 อันดับแรกของเอเชีย” นอกจากการตีกอล์ฟแล้ว ผู้มาเยือนนิเซโกะในช่วงฤดูร้อนยังสามารถเพลิดเพลินกับการปั่นจักรยานเสือภูเขา เดินป่า กีฬาทางน้ำ พายเรือคายัค ขี่ม้า ตกปลา และตั้งแคมป์ เป็นต้น
“นิเซโกะ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะฮอกไกโด เพราะฉะนั้นจะรับลมหนาวจากภูมิภาคไซบีเรียของรัสเซีย ทำให้มีหิมะตกจำนวนมากทุกปี แต่หิมะของที่นี่มีความพิเศษคือจะนุ่ม powder และไม่หยาบกระด้าง เหมาะสำหรับการเล่นสกี” นางสาวแฮนน่า กล่าว
นายพอล มอริส ผู้จัดการฝ่ายขาย H2 Christie’s International Real Estate ประเทศญี่ปุ่น กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการ Hotel101 – นิเซโกะ, ญี่ปุ่น ว่า การออกแบบห้องพักจะเป็นแบบเดียวกันเรียกว่า HappyRooms มีทั้งหมด 482 ห้อง ขนาด 21 ตารางเมตร ตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ สามารถพักได้สูงสุด 3 ท่าน ราคาขายพิเศษในช่วงเปิดตัวโครงการ มีราคาเดียวอยู่ที่ 9.09 ล้านบาทเท่ากันทุกยูนิต ทุกตำแหน่ง
ส่วนรูปแบบการลงทุนจะเหมือนกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยลูกค้าสามารถซื้อเงินสด หรือ ผ่อนชำระงวดดาวน์กับทางโครงการได้ ทั้งนี้ เมืองนิเซโกะ เป็นหนึ่งในสถานที่เล่นสกีที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นในด้านการเติบโตของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน โดยมูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นมากกว่า 44%
ปัจจุบันกลุ่ม Hotel101 มีห้องพักในเครือกว่า 2,001 ห้องที่ได้เปิดใช้บริการอยู่ และมีห้องพักอีก 6,013 ห้องทั่วโลกที่รอเปิดให้ใช้บริการ ทำให้มั่นใจว่า Hotel101 – นิเซโกะ, ญี่ปุ่น จะยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของคอนโดเทลที่เป็นมิตรกับนักลงทุนมากที่สุดในนิเซโกะต่อไปอีกหลายปีหลังจากนี้ ประกอบกับปัจจุบันเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกาในรอบกว่า 20 ปี ถือเป็นโอกาสในการลงทุนที่น่าสนใจ สำหรับนักลงทุนไทยและต่างชาติ
การเดินทางไป Hotel101 จากสนามบินนิวชิโตเสะใช้เวลาเดินทางโดยเครื่องบิน 6 ชั่วโมง 30 นาทีจากกรุงเทพฯ และนิเซโกะอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 100 กม. หรือ 2 ชั่วโมงหากเดินทางโดยรถยนต์ นอกจากนั้น นิเซโกะกำลังรอผลสรุปการคัดเลือกเพื่อเป็นเจ้าภาพและสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวและพาราลิมปิกเกมส์ปี 2030 และมีการวางแผนการเชื่อมต่อรถไฟชินคันเซ็นเส้นทางใหม่ในปีเดียวกัน เพื่อลดเวลาเดินทางจากซัปโปโรจาก 2 ชั่วโมง เหลือเพียง 25 นาที และการเดินทางจากโตเกียวทางอากาศและรถไฟจาก 6 ชั่วโมง เหลือ 4 ชั่วโมง 18 นาที
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 17ต.ค. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 36.29 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sidewayไม่สามารถพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้อย่างชัดเจน กรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.20-36.40 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 17ต.ค. 2566 ที่ระดับ 36.29 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.28 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sideway เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอจับตาพัฒนาการของสงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส
ขณะเดียวกัน หากผู้เล่นในตลาดเริ่มทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ในกรณีที่รายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนฝั่งสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด ก็อาจส่งผลให้ เงินดอลลาร์ย่อตัวลงได้บ้าง (หากความเสี่ยงสงครามไม่ได้เพิ่มสูงขึ้น) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนเงินบาทฝั่งแข็งค่าได้
อย่างไรก็ดี ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติยังคงมีความผันผวนอยู่ โดยเรายังไม่เห็นการกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทย “อย่างต่อเนื่อง” ของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งจะทำให้เงินบาทยังไม่สามารถพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เรามองว่า ควรระมัดระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของสหรัฐฯ ในช่วงเวลาประมาณ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย โดยหากยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ชะลอลงต่อเนื่อง ตามคาด
หรือ ออกมาแย่กว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดยิ่งมองว่า เฟดคงไม่สามารถดำเนินนโยบายการเงินแบบ Higher for Longer ได้ตาม Dot Plot ล่าสุด ซึ่งในภาพดังกล่าว เราอาจเห็นการปรับตัวอ่อนค่าลงบ้างของเงินดอลลาร์ และการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ซึ่งจะช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาท หรือ ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้บ้าง
ในทางกลับกัน หากยอดค้าปลีกออกมาสูงกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลว่า เฟดอาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ หรือ เฟดก็คงไม่รีบลดดอกเบี้ยลงและอาจลดดอกเบี้ยลงได้แค่ตาม Dot Plot ล่าสุด ซึ่งภาพดังกล่าว จะหนุนให้เงินดอลลาร์รีบาวด์แข็งค่าขึ้นมา
พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ไม่ยาก และกดดันให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงได้ ทั้งนี้ เราประเมินว่า โซนแนวต้านของเงินบาทอาจอยู่ในช่วง 36.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับแรกจะอยู่แถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์
เรายังคงมองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.20-36.40 บาท/ดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ
และประเมินกรอบเงินบาท 36.10-36.50 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหว sideway (แกว่งตัวในช่วง 36.23-36.31 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงตามแรงซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลงบ้าง ขณะเดียวกันการอ่อนค่าของเงินบาทก็เป็นไปอย่างจำกัด หลังเงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง อย่างไรก็ดี สถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง อาจยังคงเป็นปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่าได้ หากสถานการณ์ทวีความรุนแรงและบานปลายมากขึ้น จนทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนในฝั่งสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ JPM, Citi, United Health รวมถึงความหวังของผู้เล่นในตลาดต่อรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทขนาดใหญ่ในสัปดาห์นี้ที่คาดว่าจะออกมาสดใส ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดมองข้ามความเสี่ยงสงครามที่กำลังร้อนแรงอยู่และกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด +1.06%
ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวขึ้น +0.23% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ Rio Tinto +2.8% และหุ้นกลุ่มการเงิน UBS +1.9% ท่ามกลางความหวังของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า รายงานผลประกอบการของหุ้นกลุ่มดังกล่าวอาจออกมาดีขึ้น อย่างไรก็ดี ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากนัก ท่ามกลางสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสที่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่สูง
ในฝั่งตลาดบอนด์ การทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงของบรรดาผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐฯ ได้หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สามารถทยอยปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4.70% ได้อีกครั้ง สอดคล้องกับมุมมองของเราที่คาดว่า บอนด์ยีลด์ระยะยาว ยังมีความเสี่ยงที่จะผันผวนต่อ
จนกว่าผู้เล่นในตลาดจะแน่ใจว่า เฟดอาจไม่สามารถดำเนินนโยบายการเงินแบบ Higher for Longer ได้ (ซึ่งอาจต้องเห็นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอลงหรือแย่ลงชัดเจน) ทั้งนี้ เราคงแนะนำ Buy on Dip ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก Risk-Reward ของการถือบอนด์ระยะยาวในช่วงยีลด์สูงมีความคุ้มค่าและน่าสนใจอยู่
ทางด้านตลาดค่าเงิน แม้ว่าความเสี่ยงสงครามยังคงมีอยู่ แต่ผู้เล่นในตลาดยังไม่ได้กังวลต่อสถานการณ์สงครามล่าสุดมากนัก ขณะเดียวกัน ผู้เล่นในตลาดก็เริ่มทยอยกลับมาเปิดรับความเสี่ยงในช่วง Earnings Season ทำให้ผู้เล่นในตลาดลดการถือครองเงินดอลลาร์ลงบ้าง กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ย่อลงสู่ระดับ 106.2 จุด (กรอบ 106.1-106.5 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลง แต่ทว่าการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้กดดันให้ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 1,930 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ติดโซนแนวต้าน 1,935-1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ทั้งนี้ หากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือโซนแนวต้านได้อีกครั้ง เราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดอาจเข้ามาทยอยขายทำกำไร ซึ่งโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็สามารถช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามอย่างใกล้ชิด คือ รายงานข้อมูลยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจช่วยสะท้อนแนวโน้มการบริโภคในสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตา ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด
ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดจะรอจับตารายงานข้อมูลตลาดแรงงานอังกฤษ โดยหากยอดการจ้างงานของอังกฤษมีทิศทางชะลอตัวลงต่อเนื่อง พร้อมกับการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน ก็จะเพิ่มโอกาสธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25%
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หรือ สงครามจะขยายวงกว้างจนกระทบทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ส่องอันดับโลกวอลเลย์บอลหญิงไทย , โปรแกรมแข่งเนชั่นส์ลีก 2024 แข่งตอนไหน?

ในตอนนี้วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย หลังจบภารกิจต่างๆ ทั้งการแข่งชิงแชมป์โลก, การแข่งขันคัดเลือกโอลิมปิก โดยได้ให้นักกีฬา เดินทางไปรับใช้สโมสรต้นสังกัดเป็นที่เรียบร้อย
ดังนั้นหลายคนอยากทราบว่า ทัวร์นาเมนต์ในระดับโลกของทีมชาติไทย ที่มีการคิดคะแนน เพื่อลุ้นโอกาสสุดท้ายอันน้อยนิดที่จะได้ไปโอลิมปิก แต่เมื่อมีโอกาสเราต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ล่าสุดจากอันดับโลก ที่ทาง เว็บไซต์ Volleyball (www.volleyball.com) ได้อัปเดตล่าสุด ทีมสาวไทยของเรา ยังคงรั้งอยู่มนอันดับที่ 13 ของโลก โดยเก็บได้ คะแนน
อันดับโลกวอลเลย์บอลหญิง ล่าสุด (อัปเดตล่าสุด วันที่ 15 ตุลาคม 2566)
อันดับ 1 ตุรกี 397.46 คะแนน
อันดับ 2 สหรัฐอเมริกา 358.62 คะแนน
อันดับ 3 บราซิล 352.55 คะแนน
อันดับ 4 เซอร์เบีย 350.86 คะแนน
อันดับ 5 อิตาลี 338.97 คะแนน
อันดับ 6 จีน 329.65 คะแนน
อันดับ 7 โปแลนด์ 327.89 คะแนน
อันดับ 8 โดมินิกัน 308.86 คะแนน
อันดับ 9 ญี่ปุ่น 305.09 คะแนน
อันดับ 10 เนแธอร์แลนด์ 287.94 คะแนน
อันดับ 11 แคนาดา 265.66 คะแนน
อันดับ 12 เยอรมนี 228.36 คะแนน
อันดับ 13 ไทย 222.00 คะแนน
อันดับที่ 14 เบลเยียม 199.57 คะแนน
อันดับที่ 15 ฝรั่งเศส 184.99 คะแนน
อันดับที่ 16 เปอร์โตริโก 177.67 คะแนน
อันดับที่ 17 อาร์เจนตินา 177.17 คะแนน
อันดับที่ 18 สาธารณรัฐเช็ก 171.96 คะแนน
อันดับที่ 19 ยูเครน 171.30 คะแนน
อันดับที่ 20 บัลแกเรีย 165.39 คะแนน
*** อันดับที่ 21 เคนยา 162.42 คะแนน (อันดับโลกสูสุดในทวีปแอฟริกา)
*** อันดับที่ 39 เวียดนาม 94.82 คะแนน
*** อันดับที่ 40 เกาหลีใต้ 93.72 คะแนน
ส่วนโปรแกรมสำคัญที่ทีมชาติไทยจะลงแข่งขันปิดท้ายก่อนตัดคะแนนเพื่อหาทีมเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิก นั่นคือ วอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก 2024 ซึ่งจะแข่งขันในมิถุนายน – กรกฎาคม ปี 2024
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
สังเกต 9 อาการเข้าข่ายเป็น “โรคสมองเสื่อม”

โรคสมองเสื่อม คือ อาการการทำงานของสมองในด้านความจำ ความคิด การใช้เหตุผล การใช้ภาษา และการรับรู้สิ่งแวดล้อมผิดปกติไป ทำให้เกิดปัญหาทางความคิด การตัดสินใจ พฤติกรรมและอารมณ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งมีผลต่อการใช้ชีวิตหรือการทำกิจวัตรประจำวัน จนในที่สุดผู้ป่วยหลายคน ก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องมีผู้ดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด
จากผลสำรวจของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข โดยการตรวจร่างกายครั้งล่าสุดในปี 2557 พบผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีภาวะสมองเสื่อมร้อยละ 8.1 โดยคาดว่าในขณะนี้มีประมาณ 8 แสนกว่าคนทั่วประเทศ พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ซึ่งปัญหาที่พบบ่อยในผู้ป่วยสมองเสื่อม นอกจากเป็นเรื่องของความจำแล้ว ยังพบว่าร้อยละ 90 หรือประมาณ 7 แสนกว่าคนมีปัญหาพฤติกรรมและจิตใจร่วมด้วย
สำรวจ 9 อาการที่พบบ่อยในผู้ป่วย “โรคสมองเสื่อม”
1. เฉยเมย ไม่สนใจสิ่งรอบตัว สมาธิเริ่มสั้น มีอาการเหม่อลอย ขาดความกระตือรือร้นในสิ่งที่เคยชื่นชอบ ประมวลผลจากคำพูดของคนอื่นได้ช้าลง หรือไม่เข้าใจในสิ่งที่คนอื่นสื่อสาร เสียความสามารถในการวางแผน หรือแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน รู้สึกยากลำบากในการทำงานที่คุ้นเคย ความสามารถในการตัดสินใจลดลง
2. ภาวะซึมเศร้า รู้สึกด้อยค่า รู้สึกโดดเดี่ยว หมดศรัทธาในตัวเอง เริ่มนับถือตัวเองน้อยลง เศร้าหมองได้ง่าย รู้สึกผิดกับเรื่องเล็กน้อย ท้ายที่สุดคือทำร้ายตัวเองและอยากฆ่าตัวตาย แต่หากเทียบกับอาการซึมเศร้าที่เกิดในผู้ป่วยสมองเสื่อม ลักษณะการเกิดจะแสดงอาการบ่อยครั้ง แต่ไม่หนักหนาเท่ากับคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
3. หงุดหงิด โกรธง่าย หรือมีความแปรปรวนทางอารมณ์อยู่แล้ว เนื่องจากความรู้สึกของคนที่เคยคิดและตัดสินใจได้อย่างดี กลับต้องมาเกิดความบกพร่องบางอย่าง จนไม่สามารถใช้ชีวิตได้ง่ายดายเหมือนเดิม ก็อาจจะเกิดความตึงเครียด จนส่งผลให้มีอาการส่งเสียงดังด้วยความโกรธและเกรี้ยวกราด หรืออาจนิ่งเงียบไม่พูดไม่จาไปเลยก็ได้
4. มีปัญหาด้านการกินและนอน เช่น รู้สึกอุดอู้ อึดอัด เริ่มเบื่ออาหาร ไม่อยากกินอะไร รู้สึกไม่หิวแม้ไม่ได้กินอะไรทั้งวัน นอนไม่หลับ นอนหลับยากขึ้น มีแสงหรือมีเสียงรบกวนนิดหน่อย ก็จะรู้สึกตัวง่ายแล้วก็มีอารมณ์หงุดหงิดทันที
5. ทำอะไรซ้ำๆ ถ้ามีอาการหลงลืมบ่อยขึ้นจนเกิดผลเสีย เช่น ของหายบ่อย ถามซ้ำๆ พูดย้ำข้อความเดิม จำเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่ได้ สับสนเรื่องกาลเวลาและสถานที่ อ่านหนังสือลำบากขึ้น กะระยะทางยากขึ้น ผู้ป่วยส่วนมากมักจะจำไม่ได้ว่าตัวเองเคยลืมอะไร และคิดว่าตนเองเป็นปกติดี
6. หูแว่ว มีอาการได้ยินเสียงแปลก ๆ ที่คนอื่นไม่ได้ยิน แม้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน เช่น ได้ยินเสียงคนร้องไห้ ได้ยินเสียงหัวเราะ โดยที่ไม่มีต้นเสียงที่แท้จริง
7. เรียกร้องความสนใจ เป็นปฏิกิริยาที่พยายามกระตุ้นตัวเอง เพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวมากขึ้น เช่น การแต่งกายที่ไม่เหมาะสมกับกาลเทศะอย่างรุนแรง ลุกเดินไปมาในยามวิกาล หรือมีความรู้สึกว่าต้องไป ต้องทำอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไรหรือต้องการอะไรกันแน่ จึงออกมาในรูปแบบที่ว่าลุกเดินไปก่อน ทำหรือแสดงออกไปก่อน เป็นต้น
8. อาการหลงผิด เป็นความผิดปกติของระบบความคิด จุดเด่นของอาการกลุ่มนี้คือการมีความเชื่อที่ไม่เป็นจริง และไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น มีความเชื่อว่ามีคนปองร้ายอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่ามีคนปลอมตัวมาเป็นญาติหรือเพื่อนของตน เชื่อว่ามีคนแปลกหน้ามาอาศัยอยู่ในบ้าน เชื่อว่าสมบัติถูกขโมย หรือเชื่อว่าคู่ชีวิตหรือคู่สมรสนอกใจ เป็นต้น
9. ไม่สามารถยับยั้งพฤติกรรมได้ มีพฤติกรรมชอบกัด ข่วน เตะ ตี ทำลายข้าวของ ด่าทอ กรีดร้อง เป็นอาการที่เจอในผู้ป่วยสมองเสื่อมระดับรุนแรง เนื่องจากมีความเครียดและวิตกกังวลสูงมาก เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกว่าถูกล้ำเส้นความเป็นส่วนตัว ก็จะตอบโต้ด้วยความก้าวร้าวดังกล่าว หรืออีกอาการที่จะพบในผู้ป่วยสมองเสื่อม ก็คือไม่สามารถหักห้ามใจในอารมณ์ทางเพศได้ เช่น การอวดอวัยวะเพศของตนเอง การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองบ่อย ๆ พูดจาแทะโลมผู้อื่นไปจนถึงการล่วงละเมิดทางเพศ
หากคุณรู้สึกว่าตัวเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการดังที่กล่าวมา ควรไปปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือโทรปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
แยกกันออกไหม?? แยกชนิดประเภทของคำ(N.) (Verb.) (Adj.)

วิธีที่จะช่วยแยกประเภทของคำ โดยไม่ต้องจำคำศัพท์ไปเองให้วุ่นวายนั่นก็คือ การสังเกตที่ Suffix
Suffix คืออะไร?
Suffix คือคำที่ต่อท้ายแล้วทำให้หน้าที่ ชนิด ประเภทของคำเปลี่ยนไป
ตัวอย่างเช่น
- Arrive (V.) มาถึง -> Arrival (N.) การมาถึง
- Modern (Adj.) ทันสมัย -> Modernize (V.) ทำให้ทันสมัย
- Short (Adj.) สั้น -> Shorten (V.) ทำให้สั้น
- Hope (N.) ความหวัง -> Hopeless (Adj.) ซึ่งสิ้นหวัง
พอจะเห็นภาพกันแล้วใช่ไหมคะ ทีนี้เราไปดูกันว่ามี Suffix ตัวไหนที่ถูกเติมเข้าไปแล้วเปลี่ยนประเภทของคำเป็นคำแบบไหนบ้าง หายใจเข้าลึกๆฮึบ
คำที่มีการเติม Suffix แล้วกลายเป็นคำนาม (Noun-forming suffixes)
- -tion, -sion: Action, Condition
- -ness: Happiness, Kindness
- -ment: Entertainment, Management
- -ship: Relationship, Friendship
- -al: Arrival ; เปลี่ยนจากคำกริยามา
- -ence,- ance: Difference, Innocence
- -ity: University, Diversity
- –acy: Accuracy, Literacy
- -ee,-er: Employer, Employee
- -eer: Engineer, Masketeer
- -dom: Kingdom, Freedom
- -hood: Childhood, Adulthood
- -tude: Attitude, Aptitude
- -age: Breakage, Parentage
- -ian: Musician, Italian
คำที่มีการเติม Suffix แล้วกลายเป็นคำคุณศัพท์ (Adjective-forming suffixes)
- -ial: Official, Facial
- -al: National, Mental
- -able, -ible: Edible, Eatable
- –ful: Beautiful, Successful
- -ical: Classical, Historical
- -ic: Classic, Fantastic
- -ish: Childish, Foolish
- -ive: Attractive, Sensitive
- -ous: Furious, Humorous
- -y: Sunny, Windy
- -less: Limitless, Timeless
- -like: Lifelike, Child-like
- -ly: Friendly, Lively
- -ate: Passionate, Fascinated
คำที่มีการเติม Suffix แล้วกลายเป็นคำกริยา (Verb-forming suffixes)
- -ise, -ize: Modernize, Romanticize
- -ate: Motivate, Activate
- -en: Shorten, Enlighten
- -ify: Modify, Identify
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
จริงหรือไม่? “รถหาย” ไม่ต้องผ่อนกุญแจต่อ

รถเพิ่งซื้อใหม่ แต่โชคร้ายโดนขโมยไป แบบนี้ยังต้อง “ผ่อนกุญแจ” กับไฟแนนซ์ต่อหรือไม่ ? สำหรับเรื่องนี้ Tonkit360 มีคำตอบมาฝาก
“ผ่อนกุญแจ” หมายถึง
เป็นคำที่ใช้ในกรณีรถที่ซื้อมา และยังผ่อนค่างวดกับไฟแนนซ์ไม่หมด ปรากฎว่ารถถูกขโมยไป แต่คุณ (ผู้เช่าซื้อ) ยังคงต้องผ่อนจ่ายค่างวดรถต่อ หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “ถึงรถหาย ก็ยังต้องผ่อนจ่ายค่างวดต่อ”
รถหาย ยังต้องผ่อนต่อหรือไม่
เมื่อรถของคุณโดนขโมยในระหว่างผ่อนไฟแนนซ์ ก็ไม่ต้องผ่อนต่อ เพราะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567 ระบุไว้ว่า ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อมระงับไปด้วย
เป็นผลให้สัญญาเช่าซื้อรถคันดังกล่าวถูกระงับโดยปริยาย แปลว่า คุณไม่ต้องผ่อนค่างวดที่เหลือกับไฟแนนซ์อีกต่อไป แต่ทั้งนี้ ก็ต้องมีการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ดังนี้
กรณีมีประกันภัยชั้น 1
โดยปกติ “ประกันภัยชั้น 1” จะคุ้มครองในกรณีรถหายอยู่แล้ว ในกรณีนี้ บริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่างวดที่เหลือตามจริงให้แก่ไฟแนนซ์ (ที่ผู้ทำประกันภัยซื้อรถมา) แต่หากว่า จำนวนเงินที่ต้องจ่ายเกินกว่าที่บริษัทประกันต้องจ่าย ผู้เช่าซื้อรถต้องผ่อนจ่ายส่วนที่เหลือทั้งหมดเอง ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลว่า จะกำหนดค่าความเสียหายไว้เท่าใด
ทั้งนี้ หากผู้เช่าซื้อยังค้างค่างวดกับไฟแนนซ์ก่อนที่รถหาย ผู้เช่าซื้อต้องชำระค่างวดที่ค้างอยู่ให้ครบเสียก่อน อาทิ ค้าง 1 งวด ก็จ่าย 1 งวดที่ค้าง หรือค้าง 3 งวด ก็จ่าย 3 งวด (นับค่างวดจนถึงวันที่เกิดรถหาย)
นอกจากประกันภัยชั้น 1 ยังมีประกันประเภทอื่น ๆ ที่คุ้มครองกรณีรถหาย คือ ประกันภัยชั้น 2 และประกันภัยชั้น 2 พลัส
กรณีไม่มีประกันคุ้มครองรถหาย
หากรถของคุณไม่มีประกันภัยคุ้มครองกรณี “รถหาย” คุณซึ่งอยู่ในฐานะผู้เช่าซื้อต้องหยุดชำระค่างวด และรีบแจ้งให้ไฟแนนซ์ทราบทันที
จากนั้น ทางไฟแนนซ์จะฟ้องร้องต่อศาล เพื่อดำเนินคดีทางกฏหมายกับคุณ (ผู้เช่าซื้อ) โดยคุณต้องจ่ายเงินส่วนที่เหลือจากการผ่อนชำระ ตามราคากลางของรถ ณ ปัจจุบันกับไฟแนนซ์ทั้งหมด แต่ทั้งนี้ ศาลจะเข้ามาทำหน้าที่ไกล่เกลี่ย และคิดจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายให้แก่ไฟแนนซ์
สิ่งที่ควรทำ เมื่อ “รถหาย”
ขอให้เจ้าของรถเร่งเดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ณ สถานีตำรวจใกล้บ้าน เมื่อเสร็จแล้วจึงนำใบแจ้งความไปยื่นต่อบริษัทประกันภัยทันที เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนในกรณีที่มีประกันภัยคุ้มครองรถหาย
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
15 เห็ดมีพิษ ที่ห้ามทาน และวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อทานเห็ดพิษ

หน้าฝนชุ่มฉ่ำแบบนี้ ตามต่างจังหวัดอาจมีเหล่าชาวบ้านออกไปเก็บเห็ดมาทำอาหารกัน แต่เห็ดแสนอร่อยไม่ได้ทานได้ทุกชนิด คุณอาจจะเจอ “เห็ดพิษ“ ที่ทานแล้วเป็นโทษต่อร่างกายได้ บางคนอาจจะทราบว่าเห็ดที่มีพิษมักมาพร้อมกับสีสันที่ฉูดฉาดอย่างแดง ส้ม หรือเหลืองสด แต่ความจริงแล้วอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เรามาทราบชนิดของเห็ดมีพิษที่เราควรหลีกเลี่ยงกันดีกว่าค่ะ
15 เห็ดมีพิษ ที่ห้ามทาน
- เห็ดระโงกเหลืองก้านต้น
- เห็ดกระโดงตีนตัน
- เห็ดคล้ายเห็ดโคน
- เห็ดข่า
- เห็ดขี้ควาย
- เห็ดตอมกล้วยแห้ง
- เห็นระโงกหิน
- เห็ดไข่
- เห็ดมันปูใหญ่
- เห็ดดอกกระถิน
- เห็ดแดงก้านแดง
- เห็ดเผาะ (มีราก)
- เห็ดขี้วัว
- เห็ดไข่หงษ์
- เห็ดโคนส้ม

** ข้อสังเกต : เห็ดที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมาก
- เห็ดไข่ ทานไม่ได้ แต่เห็ดไข่เหลือง ทานได้
- เห็ดระโงกหิน ทานไม่ได้ แต่เห็ดระโงกขาว ทานได้
- เห็ดมันปูใหญ่ ทานไม่ได้ แต่เห็ดมันปู ทานได้
- เห็ดเผาะที่มีราก ทานไม่ได้ แต่เห็ดเผาะที่ไม่มีราก ทานได้
- เห็ดโคน ทานได้ แต่มีเห็ดที่มีลักษณะคล้ายเห็ดโคน แต่ไม่ใช่เห็ดโคน ที่ทานไม่ได้
อาการเมื่อทานเห็ดมีพิษ
เมื่อทานเห็ดที่มีพิษเข้าไป จะมีอาการคือ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลว หากมีอาการรุนแรงมาก การทำงานของตับ และไตอาจล้มเหลว จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น หากทานเห็ดมีพิษเข้าไป
พยายามทำให้ผู้ป่วยอาเจียนโดยการล้วงคอ หรือให้ทานไข่ขาว จากนั้นรีบพาผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
หากไม่แน่ใจว่าเห็ดที่เราได้มา ทานได้หรือไม่ ควรเลือกซื้อเห็ดจากร้านค้า เลือกเฉพาะเห็ดที่นิยมทานกันทั่วไปอย่างเห็ดฟาง เห็ดหูหนู เห็ดออรินจิ เห็ดนางฟ้า เห็ดเข็มทอง เห็ดหอม จะดีกว่าค่ะ อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยงกับของฟรีของถูกเลยเนอะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 17/10/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 32,850.00 | 32,950.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,128.00 | 32,260.48 | 33,450.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,915.20 | 29,034.43 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,702.40 | 25,808.38 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 958.00 | 14,523.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 745.00 | 11,294.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,205.00 | 33,427.80 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/10/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ![]() ไออาร์พีซี | พีที | ![]() ซัสโก้ | ![]() เพียว | ![]() พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 37.85 | 37.85 | 38.35 | 37.85 | 38.15 | 37.85 | 37.85 | 37.85 | 37.85 | 37.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 37.58 | 37.58 | 38.08 | 37.58 | 37.88 | 37.58 | 37.58 | 37.58 | 37.58 | 37.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.54 | 35.54 | 36.04 | 35.54 | 35.84 | – | 35.54 | 35.54 | 35.54 | 35.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 35.69 | 35.69 | – | – | – | – | – | – | – | 35.69 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.04 | 48.84 | 49.54 | 48.84 | – | – | – | – | – | 44.04 |
เบนซิน 95 | 45.64 | – | – | – | 47.11 | – | 46.14 | 45.79 | – | 45.64 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 30.44 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | 30.44 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | 30.44 | – | 29.94 | – | – | – | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 40.84 | 42.94 | 48.44 | 42.94 | 42.24 | – | – | – | – | 40.84 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |