อสังหาฯโซนรถไฟฟ้าสายสีแดง-ม่วงเฮ!อานิสงส์ค่าโดยสาร20บาทปลุกตลาดคึกคัก

อสังหาฯ โซนรถไฟฟ้าสายสีแดง-ม่วงเฮ! รับอานิสงส์ค่าโดยสาร20บาทตลอดสายปลุกตลาดคึกคักอัตราดูดซับดีขึ้นโดยเฉพาะสายสีม่วงเผยคอนโดเหลือขายนนบุรีไม่ต่ำกว่า 5,300 ยูนิตราคา 2-3 ล้านมากสุด ขณะที่บ้านเหลือขายเส้นสีแดงมี1,600 ยูนิตราคา3–5ล้านเหลือขายมากสุด
หนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาลปัจจุบันที่เคยพูดไว้ตอนหาเสียง คือ “ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” ล่าสุดนำร่องใช้เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต จำนวน 13 สถานี ภายใต้ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เป็นผู้ดำเนินการ และเส้นทางสายสีม่วงตอนเหนือ ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ จำนวน 16 สถานี ซึ่งมี บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นผู้ดำเนินการ ทั้ง 2 เส้นทางปรับลดค่าโดยสารลงเหลือ 20 บาท ตลอดเส้นทาง
อิสระ บุญยัง นายกกิตติมศักดิ์ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวเป็นประโยชน์ในแง่ลดค่าครองชีพของผู้ที่เดินทาง ทำให้คนที่ไม่ใช้รถไฟฟ้าหันมาทบทวนว่าควรเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้าแทนที่จะขับรถเพราะค่าโดยสารถูกลงเหลือแค่ 20 บาท ทำให้เกิดการเปลี่ยนพฤติกรรมในการเดินทาง ในแง่ของอสังหาริมทรัพย์ ทำให้การกระจายตัวของแนวราบและแนวสูงออกไปรอบนอก “ปลายสถานี” เพราะสามารถเดินทางรถไฟฟ้าได้ในราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ส่งผลดีต่อการพัฒนาโครงการอสังหาฯ
“ที่สำคัญมีผลต่อเศรษฐกิจ หากเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางจากขับรถยนต์มาเป็นรถไฟฟ้า เพราะที่ผ่านมาเรานำเข้าน้ำมันเป็นจำนวนมาก”
คาดว่าดีมานด์ที่อยู่อาศัยในระยะทาง 4-5 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟฟ้าที่ลดราคาค่าโดยสารจะได้รับการกระตุ้นได้ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ในช่วงเริ่มต้นนี้ และการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะทำเลใกล้สถานที่ทำงาน โรงเรียนลูก
“ต้องยอมรับว่าค่าเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจ คนซื้อไม่จำเป็นต้องซื้อที่อยู่อาศัยในเมืองที่ราคาสูงและมีขนาดเล็ก หรือแทนที่จะซื้อคอนโดมิเนียมหรือทาวน์เฮ้าส์ในเมืองก็ออกไปซื้อบ้านเดี่ยว บ้านแฝดนอกเมือง ซึ่งได้พื้นที่ใหญ่ขึ้นในงบเท่าเดิม”
อิสระ มองว่า อสังหาฯ โซนรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะได้รับอานิสงส์มากกว่าสายสีแดง เนื่องจากผ่านในเมือง กลางเมือง ยาวไปจนถึงบางใหญ่ เป็นชานเมืองที่มีบ้านแฝด บ้านเดี่ยว คอนโดอยู่เป็นจำนวนมากทำให้อัตราดูดซับดีขึ้น ขณะที่สายสีแดงจะอยู่ที่แอร์พอร์ต เรล ลิงก์เป็นหลัก (สีแดงอ่อนยังไม่มีการเดินรถ) อยู่ในโซนพญาไท ราชปรารภ ที่อยู่ในเมือง ผ่านจากรามคำแหงออกไปจะเป็นพื้นที่โครงการบ้านหรู กลุ่มผู้มีรายได้สูง ซึ่งพฤติกรรมการเดินทางคนกลุ่มนี้นิยมใช้รถยนต์มากกว่ารถไฟฟ้าจึงไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร

สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็นเอ จำกัด ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ เป็นเส้นทางรถไฟฟ้าที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและมีผลกระทบต่อตลาดที่อยู่อาศัยค่อนข้างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้เกิดโครงการคอนโดจำนวนมากใน จ.นนทบุรี จากที่ไม่เคยมีโครงการคอนโดขนาดใหญ่มากเปิดขายมากแบบที่ผ่านมา ซึ่งมีผลต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันที่ทำให้ยังคงมีคอนโดเหลือขายในพื้นที่นนบุรี
โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกไม่ต่ำกว่า 5,300 ยูนิต โดยในระดับราคา 2-3 ล้านบาทมีจำนวนมากที่สุด ในขณะที่ตลาดบ้านจัดสรรกลับได้รับความนิยมต่อเนื่อง แม้ว่าจะอยู่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าไปมากกว่า 2 กิโลเมตรขึ้นไป บ้านจัดสรรอาจจะมียูนิตเหลือขายที่มากกว่าคอนโด 2 เท่า แต่ไม่น่ากังวลใจมาก เพราะทยอยสร้างทยอยขายไปได้เรื่อยๆ โดยมีบ้านระดับราคา 3-5 ล้านบาทต่อยูนิตเหลือขายมากที่สุด และบ้านในระดับราคา 2-3 ล้านบาทที่เหลือขายตามมาเป้นอันดับที่ 2 ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคาบ้านที่เหลือขายอยู่ในระดับราคาเดียวกับคอนโด
ส่วนพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-บางซื่อ-รังสิต อาจจะไม่ค่อยมีการพัฒนามากแบบที่ควรจะเป็น เพราะตลอดทั้ง 2 ฝั่งของเส้นทางเป็นที่ดินกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะกันพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางแล้ว ยังมีถนนพหลโยธินขนานไปตลอดแนวเส้นทางทางทิศตะวันออก ในขณะที่เส้นทางสายสีแดงที่ไปยังตลิ่งชันก็อยู่ในแนวเส้นทางเดียวกับทางพิเศษประจิมรัถยาทำให้ตลอดทั้ง 2 ฝั่งของเส้นทางแทบ“ไม่มี”โครงการที่อยู่อาศัยเลย เพราะข้อจำกัดในการพัฒนา สายสีแดงช่วงบางซื่อ-รังสิตอาจจะมีโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดบ้างแต่ก็ไม่มากนัก
ซึ่งทั้งบ้านและคอนโดในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงขายได้ค่อนข้างดีแต่ไม่ใช่เพราะปัจจัยสนับสนุนจากเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง แต่เพราะการเดินทางที่สะดวกจาก และเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนามาต่อเนื่องยาวนานกว่า 40-50 ปีแล้ว ทั้งมีสนามบินดอนเมือง ทางพิเศษที่ทำให้การเดินทางเข้า-ออกกรุงเทพมหานครสะดวก และได้รับความนิยมในการเป็นย่านที่อยู่อาศัยมายาวนาน บ้านจัดสรรที่เหลือขายในพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางมีประมาณ 1,600 ยูนิต โดยมีบ้านในระดับราคา 3 – 5 ล้านบาทเหลือขายมากที่สุดรองลงมาคือระดับราคา 5 – 7 ล้านบาท ขณะที่โครงการคอนโดก็มีเปิดขายบ้างแต่ไม่มากนัก และมียูนิตเหลือขายอยู่1,200 ยูนิต ส่วนใหญ่ 65% อยู่ในระดับราคา 2 – 3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การปรับลดค่าโดยสารของทั้ง 2 เส้นทางคงไม่ได้มีผลต่อพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางมากนัก เพราะปัจจัยในการพิจารณาซื้อที่อยู่อาศัยมีมากกว่าเรื่องของค่าโดยสารรถไฟฟ้า ที่อยู่อาศัยเหลือขายออาจจะได้อานิสงส์จากการปรับลดค่าโดยสาร เพราะผู้ประกอบการมีช่องทางในการระบายสต็อกเพิ่มขึ้นจากโครงการนี้ของรัฐบาล แต่สำหรับโครงการใหม่คงไม่มีอะไร อีกเรื่องที่ต้องพิจารณากันในระยะยาว คือ มาตรการนี้จะยืนระยะได้ยาวนาเท่าใด เมื่อครบกำหนดเดือนพ.ย.2567 จะต่ออายุมาตรการนี้ต่อไปหรือไม่???
ทั้งนี้เนื่องจากต้องให้กระทรวงคมนาคมประเมินผลรายปีต่อเนื่อง โดยพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น ปริมาณผู้โดยสาร และรายได้ที่จัดเก็บได้ ซึ่งจะส่งผลต่อภาระการชดเชยจากภาครัฐ ความสะดวกสบายในการเดินทาง และการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชน รวมไปถึงการเชื่อมระบบต่างๆ ที่ยังต้องเสียเงิน 2 ต่ออยู่ดี
เรื่องเหล่านี้อาจจะยังเป็นข้อกังวล และคงไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยในทั้ง 2 เส้นทาง โดยเฉพาะในสายสีแดง แต่สำหรับสายสีม่วงอาจจะมีผลต่อการตัดสินใจเพิ่มขึ้น เพราะกลุ่มคนที่มีความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยในพื้นที่แนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงมีกำลังซื้อต่ำกว่า การที่ค่ารถไฟฟ้าลดลงมีผลต่อการตัดสินใจแน่นอน เพียงแต่ยังต้องพิจารณาถึงความยั่งยืนของมาตรการนี้ด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ออริจิ้น เฮลท์แคร์เปิด6แบรนด์คลินิกบริการสุขภาพทำเลสุขุมวิท-สีลม-EEC

“ออริจิ้น เฮลท์แคร์” เปิดตัว 6 แบรนด์คลินิกบริการสุขภาพทำเลสุขุมวิท-สีลม-EEC นำร่องคลินิกสุขภาพและความงาม Wellnessa-B.Yuu คลินิกปลูกผม Hair Restore คลินิกสัตว์เลี้ยง
นายชวกิจ ภูมิบุญชู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านสุขภาพ ในเครือ ออริจิ้น เผยว่า บริษัทได้จัดทัพโครงสร้างธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับด้านการดูแลสุขภาพ และพัฒนาแบรนด์ใหม่ในเบื้องต้นจำนวน 6 แบรนด์ในกลุ่มเมดิเพล็กซ์ เพื่อให้ครอบคลุมหลากหลายบริการสำคัญ
ประกอบด้วย 1.คิน ออริจิ้นแบรนด์โรงพยาบาลกายภาพบำบัด การฟื้นฟูและผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง หรือ stroke หลังการรักษา การดูแลผู้สูงอายุ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว 2.เวลเนสซ่า แบรนด์คลินิกสุขภาพและความงามระดับพรีเมียม ที่สามารถปรับแพ็คเกจการดูแลความงามให้เหมาะกับแต่ละบุคคล 3.บียู คลินิก แบรนด์คลินิกความงามและผิวพรรณเพื่อทุกคน ครอบคลุมหลากหลายบริการ อาทิ Filler Botox Anti-Aging 4.บียู เด็นทัล คลินิก คลินิกทันตกรรมครบวงจร 5.แฮร์ รีสโตร์ คลินิกปลูกผม รักษาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน 6.เพ็ทโตะ แคร์ คลินิกสัตว์เลี้ยง
“ในระยะแรก เราจะนำทั้ง 6 แบรนด์ เข้าไปให้บริการในกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม คอมมูนิตี้มอลล์ และโครงการมิกซ์ยูสในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ก่อนเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 75% เพราะเราต้องการนำหลักการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน เข้าไปช่วยสร้างสังคมสุขภาพดีให้ผู้อยู่อาศัย ผู้เข้าพักโรงแรม ตลอดจนบุคคลทั่วไป สามารถเข้าถึงบริการที่ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้ตัวเองได้ง่ายที่สุด ใกล้ตัวที่สุด ขณะเดียวกัน อีกประมาณ 25% จะบุกตั้งสาขาแบบสแตนด์อโลนในทำเลใจกลางเมือง ซึ่งเป็นทำเลที่คนให้ความสำคัญกับเรื่อง Wellness ด้วย” ชวกิจ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทได้จับมือกับพันธมิตรและที่ปรึกษาเฉพาะทางที่มีประสบการณ์ในแต่ละประเภทธุรกิจ เพื่อจัดหาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการรักษาใหม่ๆ พร้อมทั้งพัฒนาบริการสุขภาพของแต่ละแบรนด์ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการแต่ละกลุ่มมากที่สุด อาทิ HAIR RESTORE BY DHT CLINIC มีที่ปรึกษาคือ นพ.ดำเกิง ปฐมวาณิชย์ แพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผมชื่อดังซึ่งได้รับรางวัลในระดับนานาชาติ WELLNESSA จับมือกับพันธมิตรแล็บชั้นนำระดับประเทศ ด้านการดูแลสุขภาพและผิวพรรณ เข้ามาช่วยด้านการออกแบบโปรแกรมความงามเพื่อสุขภาพเฉพาะบุคคล
นายชวกิจ กล่าวอีกว่า ล่าสุด บริษัทมีธุรกิจที่เปิดให้บริการทั้งสิ้นแล้วรวม 8 แห่ง กระจายตัวอยู่ตั้งแต่พื้นที่ใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิทไปจนถึงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เริ่มจากในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์เนเบอร์ 24 ในซอยสุขุมวิท 24 มีบริการของทั้ง WELLNESSA ,B.YUU Dental Clinic, HAIR RESTORE ในรูปแบบเมดิเพล็กซ์ ทุกบริการครบจบในที่เดียว โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรีพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ มีบริการของ WELLNESSA สีลม คอมเพล็กซ์ มีบริการของ B.YUU โครงการ Brompton Pet Friendly มีบริการคลินิกสัตว์เลี้ยงของ Petto Care โครงการคอมมูนิตี้มอลล์พอร์โตเบลโล ศรีราชา มีบริการของ B.YUU
ทั้งนี้ บริษัทยังคงอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรใหม่ เพื่อพัฒนาบริการและธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังคงเดินหน้าเตรียมเปิดให้บริการทั้ง 6 แบรนด์ในทำเลใหม่ๆ เพิ่มเติม คาดว่าภายในสิ้นปี 2566 จะมีธุรกิจด้านเฮลท์แคร์รวมทั้งสิ้น 25 แห่งตามเป้าหมาย
“ในปีนี้ เราเริ่มต้นจากการสร้างสุขภาพที่ดี การมีบุคลิกภาพที่ดี การมีสุขภาพจิตใจที่ดีและมีความสุข ให้แก่ผู้บริโภค เพราะเป็นกลุ่มที่ผู้บริโภคมีความต้องการสูง มีบริการครอบคลุมตั้งแต่การดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการทำกายภาพบำบัด กลุ่มพนักงานออฟฟิตที่มีปัญหาด้านสุขภาพให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี การออกแบบโปรแกรมความงามเพื่อสุขภาพเฉพาะบุคคลไปจนถึงกลุ่มคนรักสัตว์ด้วยบริการอาบน้ำตัดขน และคลินิก เรามั่นใจว่าบริการ 3 กลุ่มนี้ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างความสุขให้แก่ผู้บริโภค” นายชวกิจ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 18ต.ค. ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาท ยังมีปัจจัยกดดัน ไฮไลท์วันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน ประเมินโซนแนวต้านอยู่ในช่วง 36.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับแรกแถว 36.00 บาท
ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 18ต.ค.2566 ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.37 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจยังคงแกว่งตัว sideway ในกรอบที่ไม่ต่างจากวันก่อนหน้ามากนัก ท่ามกลางสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง
ขณะเดียวกัน บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็ปรับตัวขึ้นแรงตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้วันนี้ บอนด์ยีลด์ไทยก็เสี่ยงที่จะปรับตัวสูงขึ้นตาม ทำให้อาจมีแรงขายบอนด์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มเติมได้ ส่วนในฝั่งหุ้น บรรยากาศในตลาดการเงินโดยรวมที่ยังไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงก็อาจกดดันตลาดหุ้นไทยต่อในช่วงนี้
ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน โดยหากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาตามคาด หรือ ดีกว่าคาด ซึ่งจะสะท้อนแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้น เรามองว่า ภาพดังกล่าวอาจช่วยหนุนให้เงินหยวนของจีนทยอยแข็งค่าขึ้น และอาจช่วยหนุนการแข็งค่าของสกุลเงินเอเชียได้บ้าง
โดยเฉพาะค่าเงินบาท ที่ช่วงหลังมีการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับเงินหยวนของจีนบ้าง (Correlation ล่าสุด ราว +50%) ในทางกลับกัน หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนออกมาน่าผิดหวัง ก็อาจส่งกดดันทั้งเงินหยวนของจีนและสกุลเงินฝั่งเอเชีย อนึ่ง ในเบื้องต้น เราประเมินว่า โซนแนวต้านของเงินบาทยังคงอยู่ในช่วง 36.60 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวรับแรกก็ยังอยู่แถว 36.00 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงมุมมองของผู้เล่นในตลาด
เรายังคงมองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.25-36.50 บาท/ดอลลาร์
โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน sideway (แกว่งตัวในช่วง 36.28-36.47 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังรายงานยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาดไปมาก
อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทก็เป็นไปอย่างจำกัด หลังสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น ยังคงหนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ส่งผลให้ ผู้เล่นบางส่วนทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็ช่วยชะลอการอ่อนค่าลงของเงินบาทในช่วงนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เคลื่อนไหวผันผวน โดยรวมดัชนี S&P500 ปิดตลาด -0.01% โดยมีจังหวะปรับตัวขึ้นบ้างตามรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อย่าง BofA ที่ออกมาดีกว่าคาด ทว่า ผู้เล่นในตลาดกลับยังไม่กล้าเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังสถานการณ์สงครามยังคงมีความไม่แน่นอนจากรายงานการระเบิดของโรงพยาบาลในฉนวนกาซา
นอกจากนี้ บรรยากาศในตลาดการเงินยังถูกกดดันจากการที่ ทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนระงับการส่งออกชิพ ไปยังจีน รวมถึง ความกังวลแนวโน้มเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นาน จากรายงานยอดค้าปลีกล่าสุดที่ขยายตัวได้ดีกว่าคาดไปมาก
ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ย่อตัวลง -0.10% กดดันโดยการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ระยะยาวฝั่งยุโรป ตามบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะเดียวกัน รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนฝั่งยุโรปยังไม่ค่อยสดใสนัก ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังไม่กล้าเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง
ในฝั่งตลาดบอนด์ มุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงกังวลต่อแนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นานของเฟด (Higher for Longer) หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุด ออกมาดีกว่าคาด ได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ สามารถทยอยปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4.84%
อย่างไรก็ดี แม้ว่าบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ จะผันผวน ทว่า เราคงแนะนำ Buy on Dip ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก Risk-Reward ของการถือบอนด์ระยะยาวในช่วงยีลด์สูงมีความคุ้มค่าและน่าสนใจอยู่
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ยังคงแกว่งตัว sideway โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวใกล้ระดับ 106.2 จุด (กรอบ 106-106.6 จุด) โดยเงินดอลลาร์มีจังหวะแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด ทว่า ผู้เล่นในตลาดบางส่วนก็ทยอยขายทำกำไรเงินดอลลาร์ออกมาบ้าง ทำให้เงินดอลลาร์ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อได้ชัดเจน
ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) จะเผชิญแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ แต่ทว่า ความไม่แน่นอนของสถานการณ์สงครามที่อาจทวีความรุนแรงมากขึ้น ยังคงช่วยหนุนให้ ราคาทองคำสามารถทรงตัวใกล้ระดับ 1,937 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ว่าราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นต่อทะลุโซนแนวต้าน 1,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้หรือไม่ เนื่องจากการปรับตัวขึ้นทะลุโซนดังกล่าวจะสะท้อนว่า ราคาทองคำเริ่มมีแนวโน้มกลับมาเป็นขาขึ้นได้
สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามอย่างใกล้ชิด คือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีน (ทยอยรับรู้ในช่วง 9.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
โดยนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า เศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่ 3 อาจขยายตัวราว +4.5%y/y ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ก็เป็นการขยายตัว +1.0%q/q สะท้อนภาพการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ได้แรงหนุนจากการบริโภคในประเทศ หลังการทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
โดยจะสอดคล้องกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเดือนกันยายน ที่ยอดค้าปลีกอาจโตได้ +4.9%y/y ส่วนยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ก็อาจขยายตัว +4.3%y/y ทั้งนี้ ยอดการลงทุนสินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets Investment) อาจโตเพียง +5.2%y/y, YTD กดดันโดยภาคอสังหาฯ ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนัก
ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดจะรอจับตารายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ ในเดือนกันยายน โดยอัตราเงินเฟ้อชะลอลงต่อเนื่อง (โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI) ก็อาจทำให้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) สามารถที่จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25% ต่อไปได้
นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หรือ สงครามจะขยายวงกว้างจนกระทบทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางหรือไม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.28-36.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.50 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ
โดยเงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียและเงินหยวน ซึ่งได้รับแรงหนุนหลังจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 และข้อมูลยอดค้าปลีกเดือนก.ย. ของจีนขยายตัวมากกว่าที่ตลาดคาด
อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามพัฒนาการของสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสอย่างใกล้ชิด
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้เบื้องต้นที่ 36.20-36.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม
ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางสกุลเงินเอเชีย ท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟด อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย. ของอังกฤษและยูโรโซน และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนก.ย. และรายงาน Beige Book ของสหรัฐฯ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ไอโอซี” ไฟเขียว ยกน้ำหนัก , มวยสากลสมัครเล่น ยังต้องลุ้น มีแข่งขันในโอลิมปิก “แอลเอเกมส์ 2028”

คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ไฟเขียวยกน้ำหนักมีแข่งขันในโอลิมปิก แอลเอ 2028 แต่ก็ยังจับตามอง กระบวนการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม ขณะที่มวยสากล ในแอลเอเกมส์ ยังต้องลุ้น IBA ต้องถูกระงับไว้เป็นการชั่วคราว เนื่องจาก ไอโอซี กำลังมองหาการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่า
คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ ไอโอซีเมมเบอร์ เปิดเผยว่า สำหรับการประชุมสมัชชาใหญ่ไอโอซี ครั้งที่ 141 ที่เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2566 ที่ประชุมได้มีการหารือถึงชนิดกีฬาที่จะมีการจัดในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ปี 2028 ที่นครลอสแอนเจลีส สหรัฐอเมริกา
นอกจากการรับรอง 5 ชนิดกีฬา ที่จะได้จัดในโอลิมปิก แอลเอ 2028 ประกอบด้วย คริกเก็ต, แฟล็กฟุตบอล, ลาครอสส์ สควอช และ เบสบอล/ซอฟต์บอล แล้ว ที่ประชุมยังให้ ยกน้ำหนัก คงสถานะ สามารถแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกแอลเอเกมส์ ต่อไป แต่จะยังคงถูกจับตามองต่อเนื่อง ในกระบวนการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม
ไอโอซีเมมเบอร์หญิงไทย กล่าวต่อว่า ส่วนมวยสากลสมัครเล่น ยังต้องลุ้น โดยองค์กรที่ดูแล อย่าง สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ หรือ IBA หรือชื่อเดิม สมาคมมวยสากลนานาชาติ หรือ AIBA ต้องถูกระงับไว้ชั่วคราวต่อไป หลังจากไม่ได้รับการรับรองจาก ไอโอซี มาตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่ง ไอโอซี ยังคงมองหาความเปลี่ยนแปลงขององค์กรมวยโลกองค์กรนี้อยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
7 สัญญาณอันตราย ภาวะ “สมองเสื่อม” ในผู้สูงอายุ

อ.นพ.ยุทธชัย ลิขิตเจริญ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระบุว่า ภาวะสมองเสื่อม เป็นกลุ่มอาการความเสื่อมถอยของการทำงานขั้นสูงของสมอง เช่น ความจำ ภาษา มิติสัมพันธ์ และการวางแผน ตัดสินใจ
สาเหตุของภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ
- กลุ่มโรคที่ไม่สามารถป้องกัน หรือรักษาให้หายขาดได้
เกิดจากโรคเซลล์ประสาทสมองเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อมลูวีบอดีส์ โรคสมองส่วนหน้าเสื่อม
- กลุ่มโรคอื่นๆ ที่สามารถป้องกัน และรักษาให้หายได้
เช่น โรคหลอดเลือดสมอง อุบัติเหตุที่ศีรษะ ยากดการทำงานของสมอง โรคติดเชื้อในสมอง โรคทางจิตเวช โรคขาดสารอาหาร หรือ ฮอร์โมน
7 สัญญาณอันตราย ภาวะ “สมองเสื่อม” ในผู้สูงอายุ
- เล่าเรื่องเก่าซ้ำๆ
- จำเรื่องที่เพิ่งเกิดไม่ได้
- ทำของหาย
- ลืมรับประทานยา ลืมปิดเตาแก๊ส
- สับสนเรื่องทิศทาง
- ตัดสินใจผิดพลาด
- พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง
อาการเหล่านี้ ต้องเป็นบ่อยๆ จนผิดสังเกต และทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน
การรักษาภาวะสมองเสื่อม
กลุ่มโรคเซลล์ประสาทสมองเสื่อม เช่น อัลไซเมอร์ ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงการรักษาตามอาการ และการดูแลประคับประคองเพื่อชะลอการดำเนินโรค ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่รักษาได้นั้น สามารถรักษาได้ตามสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค
การป้องกัน และการชะลอการดำเนินโรค
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- รักษาปัจจัยเสี่ยงโรคหลอดเลือด เช่น โรคเบาหวาน ความดัน และคอเลสเตอรอล
- มีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง เช่น ญาติผู้ดูแล และเพื่อน
- ทำกิจกรรมที่ชอบทำ และยังทำได้ เป็นประจำ
- ติดตามข่าวสาร และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เสมอ
- รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
อัลไซเมอร์ เป็นเพียงโรคหนึ่ง ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดภาวะสมองเสื่อม ดังนั้น หากมีอาการที่ทำให้เกิดความสงสัย ควรมาพบแพทย์ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ คลินิกความจำ อาคาร กปร. ชั้น 3
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ประโยคสั่งอาหารออนไลน์เป็นภาษาอังกฤษ + คำศัพท์น่าสนใจเกี่ยวกับ food delivery

Food delivery service หรือธุรกิจบริการการจัดส่งอาหารถึงที่กำลังมาแรงในบ้านเราเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากการแข่งขันในตลาดจัดส่งเดลิเวอรี่ มีแบรนด์หลายแบรนด์ที่ทำการตลาดดุเดือดในช่วงปี 2019 เช่น ฟู้ดแพนด้า (Food panda), แกร็บฟู้ด (grab food), ไลน์แมน (Line Man) หรือ GET FOOD (เก็ทฟู้ด) เพราะมาจากพฤติกรรมคนไทยยุค Lazy Economy ที่ต้องการความสะดวกสบายในชีวิต ใช้บริการสั่งซื้อของออนไลน์บนที่นอน เพราะขี้เกียจขับรถออกไปที่ร้าน หลายคนสั่งซื้ออาหารให้มาส่งที่บ้าน เพราะขี้เกียจไปต่อคิวที่ร้านอาหาร เป็นต้น
มาถึงช่วงอยากรู้ว่าถ้าเราต้องสั่งอาหารออนไลน์หรือพิมพ์ข้อความสนทนากับพนักงานส่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษ จะมีประโยคที่น่าสนใจอะไรบ้าง
- ฉันสามารถขอดูเมนูเพิ่มเติมได้ไหม
- Can I request to see more menus?
- ฉันต้องการช้อนส้อมพลาสติกด้วย
- Please provide a plastic cutlery too.
- ฉันไม่ต้องการช้อนส้อมพลาสติก
- There is no need for plastic cutlery to me.
- เมื่อมาถึงแล้วช่วยกดกริ่งหน้าบ้านฉันได้เลย
- When you arrive , please press the doorbell in front of my house.
- ช่วยขอซอสมะเขือเทศให้ฉันเพิ่มด้วย
- May I have some more ketchup please.
- อีกกี่นาทีจะถึงบ้านฉัน
- How many minutes to reach my home?
- คุณอยู่ที่ไหนแล้ว
- Where are you now?
- ยังต้องรอคิวอีกกี่คิว
- How many more queues that i have to wait?
- ช่วยขอใบเสร็จจากร้านมาให้ฉันด้วย
- Please ask for a receipt from the restaurant for me.
คำศัพที่น่าสนใจเกี่ยวกับ food delivery service
Cashless payment : การจ่ายเงินแบบไม่ใช้เงินสด เช่น ใช้บัตรเครดิต โอนเงินผ่านการสแกน QR Code
Cashless Society : สังคมไร้เงินสด
Food Delivery : บริการส่งอาหารถึงที่
Plastic Cutlery : ช้อนส้อมพลาสติก มีดพลาสติก
หวังว่าเพื่อนๆ ที่อยู่ต่างประเทศและมีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสั่งอาหารออนไลน์ หรือพิมพ์ข้อความคุยกับพนักงานส่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษจะได้เอาไปใช้กันนะ
ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th
โย่ว!!! และนี่คือ…เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดในบ้าน

เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้กินไฟมากเพราะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นต้องทำงานตลอดเวลาเมื่อเปิดใช้งาน เตารีดต้องทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานในการรีดผ้า ไดร์เป่าผมต้องทำงานต่อเนื่องเป็นเวลานานในการเป่าผม เป็นต้น
…ใครจะคิดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดในบ้านจะกลายมาเป็น “เครื่องทำน้ำอุ่น” เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟฟ้า 8,000 วัตต์ จะกินไฟมากกว่าเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลังไฟฟ้า 3,500 วัตต์
การประหยัดไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟมากที่สุดสามารถทำได้โดย
- เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5
- ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
- ปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม
- ซักผ้าและอบผ้าพร้อมกัน
- ล้างจานด้วยมือแทนการใช้เครื่องล้างจาน
- ปิดไฟทุกครั้งเมื่อออกจากห้อง
การประหยัดไฟจากเครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านี้จะช่วยให้เราประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
เจียวกู่หลาน กับ 10 สรรพคุณเด็ดน่ารู้ พร้อมข้อควรระวัง

หลังจากที่กระแสออนไลน์กำลังพูดถึงน้ำสมุนไพรที่มีส่วนประกอบของ “เจียวกู่หลาน” ว่ารสชาติดี และมีสรรพคุณที่คุ้มค่าเกินราคา Sanook! Health จึงขอนำสรรพคุณสำคัญๆ ของเจียวกู่หลานมาให้ทุกคนได้ทราบกันค่ะ
เจียวกู่หลาน กับ 10 สรรพคุณเด็ดน่ารู้
- ชะลออาการต่างๆ ที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น เช่น ฟื้นฟูสภาพร่างกายโดยรวมให้แข็งแรง ฟื้นฟูความจำ นอนหลับสบาย อาการปวดเอวปวดหลังดีขึ้น เป็นต้น
- ต้านมะเร็ง และช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็ง จะกินเพื่อป้องกัน หรือช่วยลดอาการของมะเร็งก็ได้
- ลดคอเลสเตอรอล ลดไขมันในเลือด
- ลดความดันโลหิต
- บำรุงหัวใจให้แข็งแรง ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- แก้อาการไอ ลดเสมหะ รักษาไข้หวัด
- ช่วยให้หลอดลมแข็งแรง ฟื้นฟูจากการอาการอับเสบ หรือแข็งตัว
- รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
- ยับยั้งการเกาะตัวของเลือด
- บำรุงตับให้แข็งแรง
ข้อควรระวังในการดื่มชาเจียวกู่หลาน
ชาวจีนมักนำใบเจียวกู่หลานแห้งมาชงเป็นชาดื่มหลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน โดยจะดื่มเพียง 7 วัน แล้วให้หยุดดื่มไป 1-2 วัน แล้วค่อยดื่มต่อ ใครที่ดื่มแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดหรือเวียนศีรษะ ตาลาย ให้หยุดดื่มทันที
แม้จะเป็นสมุนไพรที่เดินทางมาไกลจากต่างแดน แต่การที่บ้านเรามีเครื่องดื่มสมุนไพรดีๆ แบบนี้ให้ทานกันในราคาที่เอื้อมถึงได้แบบนี้ จะลองหันมาดื่มดูบ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ ใครดื่มแล้วให้ผลดีต่อร่างกายอย่างไรบ้าง มาแบ่งปันประสบการณ์ให้คนอื่นๆ ได้ทราบกันบ้างสิคะ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก palapanyo.com, medthai.com
ภาพประกอบจาก istockphoto
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 18/10/2566
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 33,150.00 | 33,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,147.00 | 32,548.52 | 33,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,932.30 | 29,293.67 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,717.60 | 26,038.82 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 966.00 | 14,644.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 751.00 | 11,385.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,225.00 | 33,731.00 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/10/2566
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ![]() ไออาร์พีซี | พีที | ![]() ซัสโก้ | ![]() เพียว | ![]() พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 37.85 | 37.85 | 38.35 | 37.85 | 38.15 | 37.85 | 37.85 | 37.85 | 37.85 | 37.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 37.58 | 37.58 | 38.08 | 37.58 | 37.88 | 37.58 | 37.58 | 37.58 | 37.58 | 37.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 35.54 | 35.54 | 36.04 | 35.54 | 35.84 | – | 35.54 | 35.54 | 35.54 | 35.54 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 35.69 | 35.69 | – | – | – | – | – | – | – | 35.69 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.04 | 48.84 | 49.54 | 48.84 | – | – | – | – | – | 44.04 |
เบนซิน 95 | 45.64 | – | – | – | 47.11 | – | 46.14 | 45.79 | – | 45.64 |
ดีเซล B7 | 29.94 | 29.94 | 30.24 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล | 29.94 | 29.94 | – | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 | 29.94 |
ดีเซล B20 | 29.94 | 29.94 | – | – | 29.94 | – | – | – | – | 29.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 40.84 | 42.94 | 48.44 | 42.94 | 42.24 | – | – | – | – | 40.84 |
แก๊ส NGV | 17.59 | 17.59 | – | – | – | – | – | – | – | 17.59 |