สาระน่ารู้ประจำวันที่ 19 ตุลาคม 2566

ลูกบ้านแอชตันอโศกสู้ไม่ถอย!ยื่นศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่ วันนี้!

ลูกบ้านแอชตันอโศกยื่นคำร้องศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่พร้อมหลักฐานใหม่ก่อนหมดอายุความ25 ต.ค.นี้ หลังไร้ความคืบหน้าจากอนันดาและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คาดใช้เวลาพิจารณา 1- 6 เดือน

นางสาวเยาวลักษณ์  สุลีสถิระ  ในฐานะทนายความนิติบุคคล และลูกบ้าน คอนโดแอชตัน อโศก กล่าวว่า ในกฎหมายจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาปกครอง มีอยู่หลายเหตุที่จะขอให้พิจารณาคดีใหม่ได้ มาตรา75 (2) ที่ระบุว่าไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานใหม่ หรือว่า ข้อเท็จจริงใหม่  กรณีที่คู่กรณีหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากคำพิพากษา แต่ว่าไม่ได้เข้ามาในการพิจารณาคดี ซึ่งเป็นข้อๆหนึ่งที่แยกออกมาไม่เกี่ยวกับข้ออื่น ไม่จำเป็นต้องมีครบทุกข้อ เพราะแต่ละข้อแยกเป็นเอกเทศออกจากกัน สรุปก็คือเป็นบุคคลภายนอกคดีแต่ได้รับผลกระทบจากคดีโดยตรงแต่ไม่ได้เข้ามาให้การ จึงเป็นเหตุที่เข้าไปได้  ถึงแม้ว่ากฎหมายจะไม่บังคับว่าต้องมีเหตุผลลำพังแค่ข้อนี้ก็สามารถขอยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในคดีแอชตัน อโศกได้แล้ว

ขณะเดียวกันเราได้ทำการศึกษาข้อมูลแล้วว่า หากได้รับการพิจารณาคดีใหม่ในคดีแอชตัน อโศกได้แล้วจะมีเหตุอะไรที่สามารถให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ จึงได้ดูข้ออื่่นประกอบด้วย ข้อเท็จจริงหรือหลักฐานใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาได้ ข้อแรก คือ ทางลูกบ้านแอชตัน อโศกได้ไปติดต่อขอข้อมูลจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เพื่อหาข้อมูลมาประกอบเพราะมีความเชื่อว่าที่ดินตรงหน้าโครงการแอชตัน อโศก น่าจะใช้เป็นงานโครงสร้างหรืองานระบบซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถานีรถไฟฟ้าสุขุมวิท การตีความว่าจากคำพิพากษาว่าไม่ได้มีกล่าวถึงการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ใต้ดินบริเวณนั้น  ซึ่งเบื้องต้นทาง รฟม.ให้ข้อมูลว่าน่าจะมีข้อมูลแต่ขอตรวจสอบก่อน

“ทางทีมทนายก็เห็นว่า ระยะเวลาในการขอพิจารณาคดีใหม่กำลังครบในวันที่25 ต.ค. นี้ แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลจากทางรฟม. ดังนั้นการยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ในคดีแอชตัน อโศกในวันนี้ (19 ต.ค.66) จึงเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะใกล้จะหมดเวลาแล้ว  จึงต้องยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ไว้ก่อนเพื่อรักษาสิทธิ  เพราะถ้ามีการใช้สิทธิประโยชน์ใต้ดินของ รฟม. จริง เท่ากับว่า ได้ใช้ที่ดินตามวัตถุประสงค์ของการเวนคืนแล้วแค่มาให้ทางโครงการแอชตัน อโศก ใช้ทางออกร่วมซึ่งประเด็นนี้ไม่เคยถูกหยิบยกมาใช้ในการพิจารณาคดีแอชตัน อโศก ที่ผ่านมา”

ส่วนอีกประเด็นก็คือจากข้อมูลโครงการอื่นที่ใช้ทางเข้าออกของรฟม.เหมือนกันพบว่า ทุกโครงการรฟม.จะมีข้อสงวนสิทธิ์ว่า รฟม. สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขทางเข้าออกได้ ซึ่งครั้งที่แล้วศาลปกครองบอกว่าถ้ามีเงื่อนไขว่าเปลี่ยนแปลงได้ตลอดทางเข้าออกนี้ ไม่มั่นคงถาวรแต่จากการตรวจสอบทุกโครงการจากข้อมูลที่หาได้ ที่เปิดเผยในเว็บไซต์สาธารณะ ซึ่งมีตัวอย่าง2-3โครงการที่อยากเสนอให้ศาลเห็นว่า ถ้าโครงการแอชตัน อโศกเกิดติดขัดไม่สามารถใช้ทางเข้าออกได้ด้วย เหตุผลที่ศาลระบุว่า”ไม่ใช่”ทางถาวร รฟม. สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขทางเข้าออกได้ตลอดนั้น โครงการอื่นก็เป็นเหมือนกัน 

ทางลูกบ้านอยากจะนำเสนอให้ศาลเห็นว่า เจตนาที่แท้จริงของรฟม.การที่เขาอนุญาตหลายโครงการไม่เฉพาะ แอชตัน อโศก มันไม่น่าจะเป็นเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะอนันดาเท่านั้นแต่เป็นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รอบโครงการสถานีรถไฟฟ้ามากกว่า  และการที่รฟม.ออกใบอนุญาตในลักษณะนี้ให้ทุกคนแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีเจตนาที่จะเปลี่ยนแปลงจะไม่ให้ทางเข้าออก ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่! ซึ่งในคดีเดิมไม่ได้มีการนำเสนอเอาไว้ว่า มีอีกหลายโครงการที่มีการอนุญาตในลักษณะเงื่อนไขเดียวกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


อสังหาฯฟันธงปี67ฟื้น!เกาะจีดีพีโต4%แนะรีบซื้อก่อนราคาขยับขั้นต่ำ5%

เปิดมุมมอง 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ฟันธงตลาดปี 2567 ฟื้นตัวตามจีดีพีโต 4%จากปีนี้อยู่ในภาวะ “ทรงตัว” จับตาสงคราม “อิสราเอล-ฮามาส” หวั่นยืดเยื้อกระทบต้นทุน เงินเฟ้อ แนะรีบซื้อก่อนราคาขึ้นปีหน้าขั้นต่ำ 5%

วสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2567 แนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามจีดีพีคาดการณ์ขยายตัว 4%  เป็นแรงหนุนต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ปีนี้ที่มีการกระตุ้นตลาดจากดีเวลลอปเปอร์และธนาคารให้ได้ยอดขายตามเป้าหมาย หลังจากไตรมาส 2 และ 3 ตลาดชะลอตัวจากภาวะสุญญากาศช่วงเลือกตั้งจนกระทั่งได้รัฐบาลใหม่ 

เมื่อเทียบภาพรวมอสังหาฯ ปี 2566 กับปี 2565 พบว่า ตลาดหดตัวลง เฉพาะตลาดบ้านติดลบ 10%  สังเกตจากตัวเลขโอนกรรมสิทธิ์ การขออนุญาตจัดสรร ลดลงต่อเนื่องตามจีดีพีที่เหลือ 2.8% เทียบกับปี2565

 “การที่มีรัฐบาลช้าทำให้กำลังซื้อหายไป เพราะคนขาดความเชื่อมั่น แต่ไตรมาส 4 ดีมานด์ที่ค้างในไตรมาส 2 และ 3 เข้ามา บวกกับแรงกระตุ้นจากแคมเปญโปรโมชั่นจะช่วยสร้างแรงกระเพื่อมในตลาดขึ้น ทำให้ไฮซีซั่นนี้ตลาดน่าจะดีขึ้น”
 

 อย่างไรก็ดี ปัจจุบันดอกเบี้ยเริ่ม “ทรงตัว” ทำให้ความเชื่อมั่นกลับมา ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯ และสถาบันการเงินจัดโปรโมชั่นพิเศษกระตุ้นยอดขายปลายปีสร้างบรรยากาศดีขึ้น

วสันต์ กล่าวต่อว่า อยากให้รัฐบาลสนับสนุนตลาดอสังหาฯ ให้คึกคักมากขึ้น เพราะเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปลดล็อกมาตรการที่ไม่เอื้อ เช่น LTV ลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 50% ในปีหน้า รวมทั้งทบทวนภาษีที่ดินและราคาประเมินที่ดินใหม่ อย่าเพิ่งปรับขึ้น เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี ทำให้ตลาดหยุดชะงัก!

อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษาสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า ก่อนโควิดตลาดอสังหาฯ มีมูลค่า 9 แสนล้านบาทแต่หลังเกิดโควิด ผู้บริโภคกลุ่มกลาง-ล่าง ติดกับดักรายได้ลดลง ภาระหนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้ใช้เงินในอนาคตผ่านบัตรเครดิต สินเชื่อ ส่งผลให้หนี้ครัวเรืองพุ่งสูง การอนุมัติสินเชื่อลดลง เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมปี 2566 “ทรงตัว” หลังจากดีมานด์ชะลอตัวในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ขณะที่อัตราดูดซับ “ลดลง” โดยเฉพาะตลาดระดับกลาง-ล่าง รวมทั้งกลุ่มคนต่างชาติที่มีสัดส่วน 10% ของตลาดยังไม่กลับมา ส่งผลให้การซื้อขายลดลง!

 “การมีรัฐบาลใหม่เข้ามาช่วยกระตุ้นตลาดเชิงจิตวิทยาหวังว่าไตรมาส 4 จะดีขึ้น เพราะเป็นไฮซีซัน คาดส่งผลดียาวไปถึงปี 2567”

ทั้งนี้ แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ปี 2567 ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น รวมทั้งวัสดุ ค่าแรงงาน จากปัจจัยภายนอก สงคราม “อิสราเอล-ฮามาส” ส่งผลต่อต้นทุนน้ำมันและราคาบ้านในอนาคต หากยืดเยื้อ ส่งผลต่อภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ปีหน้าราคาบ้านและคอนโดปรับเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 5% ดังนั้นผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยและมีกำลังซื้อ ควรรีบตัดสินซื้อช่วงปลายปีนี้ เพราะสินค้าส่วนใหญ่เป็นสต็อกเก่าราคาเดิม ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์และนักลงทุน

พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า แม้ปีนี้ตลาดอสังหาฯ ราคาแพงจะขายดี แต่มีจำนวนน้อยและอยู่ในโซนจำกัด!  

“ภาพรวมอสังหาฯ ไม่ดีอย่างคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะคอนโดยอดปฎิเสธสินเชื่อสูง 30-50% ส่วนหนึ่งเกิดจากความผันผวนของเศรษฐกิจภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม เช่น เงินเฟ้อ สงครามอิสราเอล-ฮามาส กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ”

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยบวกเริ่มเห็นในโซนอีอีซี พบอัตราการเช่าโรงงานเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อโครงการอสังหาฯ โซนอีอีซี ครอบคลุม 3 จังหวัดภาคตะวันออก ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และระยอง เนื่องมีแรงงานแฝงเข้าไปทำงานในพื้นที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเต็ม

“หากนายกฯ สามารถดึงผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้ามาลงทุนในไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของอาเซียนได้จะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาฯ โซนนั้นเติบโตมากขึ้น”

ล่าสุด สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอาคารชุดไทย และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ร่วมกันจัดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 44” วันที่ 2-5 พ.ย.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อกระตุ้นยอดขายปลายปี โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 150 บริษัท ที่อยู่อาศัยมากกว่า 1,000 โครงการทั่วประเทศ เป็นคอนโด 35% ทาวน์เฮาส์ 30% บ้านเดี่ยว 20% บ้านแฝด 10% และอื่นๆ เช่น ที่ดิน บ้านมือสอง 5% หรือคิดเป็นสัดส่วนโครงการในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 70% อีก 30% จากเมืองเศรษฐกิจ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี คาดสร้างยอดขายในงาน 3,000 ล้านบาท จากผู้เข้าชมงาน 1 แสนคน

ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 19 ต.ค. “อ่อนค่า” ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน จากความกังวลต่อแนวโน้มสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ทวีความรุนแรงส่งผลให้ เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ 19 ต.ค.2566 ที่ระดับ  36.38 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  36.29 บาทต่อดอลลาร์

นายพูน   พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทยระบุว่า แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม ท่ามกลางภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงิน จากสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงและบานปลายมากขึ้น ซึ่งความกังวลดังกล่าว ได้ส่งผลให้ เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นพอสมควร

อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจพอได้แรงหนุนอยู่บ้าง จากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำก็ปรับตัวขึ้นตามความเสี่ยงภาวะสงคราม ทั้งนี้ ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติที่ยังมีความผันผวนสูง ก็อาจเป็นอีกปัจจัยที่กดดันให้เงินบาท สามารถผันผวนอ่อนค่าได้ หากนักลงทุนต่างชาติยังคงเทขายสินทรัพย์ไทย

อนึ่ง เราประเมินว่า แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ อาจไม่ได้รุนแรงมากนัก เนื่องจากดัชนี SET ได้ปรับตัวลดลงมาสู่ระดับที่ valuation ก็ไม่แพง และเป็นโซนแนวรับสำคัญในเชิงเทคนิคัล ส่วนบอนด์ยีลด์ไทยก็อาจไม่ได้ปรับตัวขึ้นต่อไปมากนัก (คาดว่า ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอความชัดเจนของมาตรการ Digital Wallet)

ทั้งนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ถ้อยแถลงของประธานเฟด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดก็เริ่มให้น้ำหนักเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อในการประชุมเดือนธันวาคม หรือ การประชุมในช่วงต้นปีหน้า มากขึ้น และมองว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยลงเพียง -50bps ในปีหน้า ซึ่งหากถ้อยแถลงของประธานเฟด ทำให้มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดเปลี่ยนแปลงไป ก็อาจกระทบต่อตลาดการเงินได้พอสมควร

เรายังคงมองว่า ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน สถานการณ์สงครามที่เสี่ยงทวีความรุนแรงและบานปลาย ทำให้เราคงคำแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย

อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และนอกเหนือจากการใช้เครื่องมือดังกล่าว การเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) ก็เป็นอีกแนวทางในการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจ ซึ่งผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง

มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.25-36.55 บาท/ดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในลักษณะทยอยอ่อนค่าลง (แกว่งตัวในช่วง 36.23-36.41 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะอ่อนค่าลงตามภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินจากสถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสที่ยังคงร้อนแรง ซึ่งหนุนให้เงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ความกังวลผลกระทบจากสงคราม รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังดูดีอยู่ ทำให้ผู้เล่นในตลาดต่างกังวลกับแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของเฟดอาจอยู่ในระดับสูงได้นาน (Higher for Longer) ก็ส่งผลให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.90% อีกครั้ง 

อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกชะลอลงจากโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ หลังราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากความเสี่ยงสงคราม ดัชนี S&P500 ปรับตัวลงกว่า -1.34% ท่ามกลางปัจจัยกดดัน ทั้ง

1) สถานการณ์สงครามอิสราเอล-กลุ่มฮามาสที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงและบานปลายมากขึ้น

2) ความกังวลต่อแนวโน้มผลประกอบการบริษัทผู้ผลิตชิพ อาทิ Nvidia หลังทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนระงับการส่งออกชิพ ไปยังจีน และ

3) ความกังวลแนวโน้มเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นาน จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงสดใส และผลกระทบจากภาวะสงครามที่อาจทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น กระทบต่อแนวโน้มการชะลอลงของเงินเฟ้อ

ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี stoxx600 ปรับตัวลงกว่า -1.05% ท่ามกลางความกังวลต่อพัฒนาการของสถานการณ์สงคราม นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังถูกกดดันจากรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนฝั่งยุโรปที่ออกมาแย่กว่าคาด โดยเฉพาะหุ้นเทคฯ ในกลุ่ม Semiconductor อย่าง ASML -3.4% ทั้งนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนอยู่บ้างจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน BP +0.5% หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นตามความกังวลสถานการณ์สงคราม

ในฝั่งตลาดบอนด์ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ล่าสุดที่ยังคงออกมาสดใส รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หากสถานการณ์สงครามบานปลาย จนอาจกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อ ได้ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลต่อแนวโน้มการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับสูงได้นานของเฟด ซึ่งแม้ว่าบรรยากาศในตลาดการเงินจะอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ชัดเจน

แต่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ก็สามารถทยอยปรับตัวขึ้นแตะระดับ 4.90% ได้ ทั้งนี้ ความผันผวนของบอนด์ยีลด์ระยะยาวสหรัฐฯ ในช่วงนี้ ไม่ได้ผิดไปจากที่เราคาดการณ์ไว้ ซึ่งเราคงคำแนะนำเดิมว่า นักลงทุนสามารถทยอย Buy on Dip ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจาก Risk-Reward ของการถือบอนด์ระยะยาวในช่วงยีลด์สูงมีความคุ้มค่าและน่าสนใจอยู่

ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ได้ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 106.5 จุด (กรอบ 106.1-106.7 จุด) โดยเงินดอลลาร์มีจังหวะแข็งค่าขึ้นตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ยังคงกังวลต่อแนวโน้มเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงได้นาน และความต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดกังวลภาวะสงคราม

ในส่วนของราคาทองคำ แม้ว่าทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นได้ ทว่า ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค.) ยังคงได้แรงหนุนจากความต้องการถือทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดกังวลภาวะสงครามเช่นกัน

ทำให้ราคาทองคำทยอยปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 1,960 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำดังกล่าว ได้หนุนให้ผู้เล่นในตลาดทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง และโฟลว์ธุรกรรมดังกล่าวก็มีส่วนช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาท

สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ อย่าง ยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน (Jobless Claims) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟด

นอกจากนี้ ไฮไลท์สำคัญที่ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามอย่างใกล้ชิด คือ ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ ประธานเฟด Jerome Powell (ในช่วงเวลา 23.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย)

หลังล่าสุดภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้ชะลอตัวลงมาก ขณะเดียวกัน ปัจจัยสงครามก็อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อได้ ทำให้ผู้เล่นในตลาดอยากจับตาว่า ท่าทีของประธานเฟดต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดจะเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส ว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้น หรือ สงครามจะขยายวงกว้างจนกระทบทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางหรือไม่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 36.38-36.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงเช้าวันนี้ (9.40 น.) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 36.28 บาทต่อดอลลาร์ฯ เงินบาทอ่อนค่าลงสอดคล้องกับทิศทางสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ประกอบกับภาวะเลี่ยงความเสี่ยงของตลาดการเงินท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ก็ช่วยหนุนแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยด้วยเช่นกัน 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้เบื้องต้นที่ 36.30-36.45 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางสกุลเงินเอเชีย สถานการณ์ในอิสราเอล ถ้อยแถลงของประธานเฟด และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลสำรวจแนวโน้มเศรษฐกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนต.ค. และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ย.

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“บาส-ปอป้อ” ปราบคู่อังกฤษ, “วิว กุลวุฒิ” จอดป้ายรอบแรก แบดมินตันเดนมาร์ก โอเพ่น

การแข่งขันแบดมินตันเวิลด์ทัวร์ซุปเปอร์ 750 รายการ “เดนมาร์ก โอเพ่น 2023” ที่ประเทศเดนมาร์ก เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม แข่งขันกันในรอบแรก

ผลการแข่งขันปรากฏว่า ประเภทคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์-“ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย มืออันดับ 5 ของโลก และมือวาง 5 ของรายการ ชนะ มาร์คัส เอลลิส-ลอเรน สมิธ มืออันดับ 29 ของโลกจากอังกฤษ 2-1 เกม 17-21, 21-15, 21-19  ผ่านเข้ารอบไปพบกับ จี เฉิน ตัง กับ เหว่ย ตอห์ อี จากมาเลเซีย

ประเภทชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 5 ของโลก และมือวาง 4 ของรายการ แพ้ ราสมุส เก็มเค่ มืออันดับ 23 ของโลกจากเดนมาร์ก 1-2 เกม 15-21, 21-15, 19-21

ประเภทหญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 13 โลก ชนะ ลิเน่ฮอจมาร์ค มืออันดับ 22 โลกจากเดนมาร์ก 2-1 เกม 21-19, 17-21, 24-22 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 คนสุดท้ายพบ เหอ ปิง เจียว มืออันดับ 5 ของโลกจากจีน

ประเภทชายคู่ “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ-“สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน มืออันดับ 33 ของโลก แพ้ ลี หยาง-หวัง ชิ หลิน มืออันดับ 11 ของโลกจากไต้หวัน 0-2 เกม 17-21, 8-21 และพงศกร กับ วงศธร ทองคำ มืออันดับ 89 ของโลก แพ้ คัง มิน ฮยุก-โซว เซือง แจ มืออันดับ 5 โลก และมือวางอันดับ 4 จากเกาหลีใต้ 0-2 เกม 7-21, 10-21

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


6 สัญญาณเตือนภัย “ไข้เลือดออก” รีบหาหมอด่วน

หน้าฝนทีไร สิ่งที่ตามมาด้วยตลอดๆ ก็คือยุงที่ชุมชุมมากผิดปกติ ยิ่งอากาศร้อนชื้นผ้าแห้งช้าแบบนี้ยิ่งต้องระวังหนักกว่าเดิมหลายเท่า และสิ่งที่ตามมาทุกปี คือ การระบาดของโรคไข้เลือดออก ที่เป็นได้ทุกเพศทุกวัย พบเจอกันทุกปีนั่นเอง

แต่อาการของโรคไข้เลือดออกจะเป็นอย่างไร ต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไรบ้าง มาดูกันค่ะ หากคุณ หรือคนรอบตัวกำลังเป็นอยู่ จะได้รีบไปหาแพทย์ได้ทันก่อนสายเกินไป

สัญญาณเตือนภัย “ไข้เลือดออก”

  1. มีไข้ขึ้นสูง 2-7 วันอย่างกะทันหัน ส่วนใหญ่ไข้ขึ้นสูงมากกว่า 38.5 องศาเซลเซียส บางรายที่พบประวัติเคยชัก อาจจะชักระหว่างมีไข้ได้
  2. อาจมีอาการหน้าแดง ตัวแดง แต่จะมักไม่มีอาการไอ หรือน้ำมูก
  3. เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
  4. พบเลือดออกที่ผิวหนังเป็นจุดแดงเล็กๆ กระจายไปทั่งร่างกาย ตามแขน ขา ลำตัว รักแร้ อาจมีเลือดออกตามไรฟัน หรือหากมีอาการหนัก อาจอาเจียน หรือถ่ายอุจจาระเป็นเลือด (มีสีดำคล้ำ)
  5. คลำๆ ท้องบริเวณตับ จะรู้สึกว่าตับโต บวม กดแล้วเจ็บ
  6. หากมีอาการรุนแรง อาจมีอาการช็อกจากภาวะไหลเวียนโลหิตล้มเหลว เป็นช่วงที่ไข้ลดลงอย่างรวดเร็ว และอาจเสียชีวิตหลังภาวะช็อกภายใน 12-24 ชั่วโมง

ไข้เลือดออก ต่างจากไข้หวัดธรรมดาอย่างไร?

หากเป็นไข้หวัดธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัด หรือไข้หวัดใหญ่ มักจะไข้ลดจนหายเกือบจะเป็นปกติภายใน 2-3 วัน (อาการไอ อาจใช้เวลาหลายวัน หรือเป็นสัปดาห์กว่าจะหายสนิท) อาการที่พบในระยะแรกเหมือนไข้เลือดออกทุกประการจนยากจะแยกออก เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ เจ็บคอ แต่ข้อสังเกตคือ ส่วนใหญ่ไข้เลือดออกมักไม่มีน้ำมูก หรือไม่มีอาการไอ ในขณะที่ไข้หวัดธรรมดาจะมีอาการที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล มีเสมหะ ไอ จาม เป็นต้น

นอกจากนี้ ไข้เลือดออกมักมีไข้สูงกว่าไข้หวัดธรรมดา (เว้นแต่ไข้หวัดใหญ่ ที่มีไข้สูงได้เช่นกัน) และจะมีไข้สูงติดต่อกัน 3 วัน อาการไม่ค่อยดีขึ้นจากวันแรก ช่วงเวลาที่ไข้ลดลงยังคงรู้สึกอ่อนเพลียมาก แต่เบื่ออาหาร ทานอะไรไม่ค่อยลง หากไข้สูงติดต่อกัน 3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

ข้อควรปฏิบัติหลังเป็น (หรือสงสัยว่าจะเป็น) ไข้เลือดออก

  1. อย่าทานยาลดไข้ที่มีส่วนผสมของแอสไพริน และ ไอบูโพรเฟน หรือยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอย เพราะจะทำให้เกล็ดเลือดเสียการทำงาน จะระคายกระเพาะทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น ให้เลือกทานยาพาราเซตามอลจะปลอดภัยที่สุด
  2. หากมีไข้สูงติดต่อกัน 3 วันแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ และอาจปรึกษาแพทย์ว่าสมควรที่จะต้องตรวจเกล็ดเลือดหรือไม่ เกล็ดเลือดคนปกติจะมากกว่า 300,000 แต่ถ้าเกล็ดเลือดอยู่ที่ 200,000 หลังมีไข้ 3-4 วัน อาการอาจเริ่มน่าเป็นห่วง และหากเกล็ดเลือดต่ำกว่า 100,000 ควรแอดมิทที่โรงพยาบาล เพราะถือว่าเกล็ดเลือดต่ำมากกว่าปกติ (สามารถตรวจเกล็ดเลือดได้ เมื่อไวรัสเริ่มออกตัว คือช่วงมีไข้วันที่ 3-4 ช่วงวันแรกๆ ยังตรวจไม่ได้)

หากเป็นแต่ไข้หวัดธรรมดา หรือไข้หวัดใหญ่ สามารถพบแพทย์เพื่อรับยา และรักษาตามอาการได้ สำหรับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นๆ ที่ติดเชื้อกันได้ง่าย ก็อย่าลืมใช้ช้อนกลางเมื่อทานข้าว ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่กับคนอื่นด้วย นอกจากนี้คนใกล้ตัว และตัวคุณเอง สามารถรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ได้ เพื่อป้องกันโรคติดต่อได้อีกทางหนึ่ง

ส่วนไข้เลือดออก วิธีป้องกันคือ อย่าให้โดนยุงลายกัด ทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย เช่น น้ำในแจกัน กระถางต้นไม้ ยางรถยนต์ ชามหรือกะละมังรอบบ้านที่มีน้ำขัง และอย่าไปในที่ๆ เสี่ยงยุงลายชุกชุม เช่น ในพงหญ้าชื้นๆ พื้นที่มืดๆ หลังบ้าน มุมบ้าน ชายตลิ่ง ริมแม่น้ำ หรือพื้นที่ใกล้ขยะเปียก เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


To วางหน้า Call ไม่ได้ จริงหรือ?

ประโยค หรือคำที่เราชอบใช้ผิดบ่อยๆ คงหนีไม่พ้น คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย หรือที่ต้องพูดกันทุกๆวัน วันนี้ Engnow.in.th เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี จะยกตัวอย่างคำที่ใช้พูดกันบ่อยๆ อย่างคำว่า Call ไปดูกันว่า การว่งประโยคที่ถูกต้องควรใช้อย่างไร

Call อ่านว่า /คอล/ ความมายมีหลายอย่างคือ

[n. vt. vi.] ประมาณว่า, ร้อง, ร้องขอ, ร้องเรียก, เรียกว่า, เห็นว่า
[n. vt. vi.] นำมาใช้, ปลุก, ไปเยี่ยม, มาหา, เรียก, เรียกเงินค่าหุ้น, เรียกไพ่ bridge, แวะรับ, สั่ง, ออกคำสั่ง

การใช้คำว่า Call ในประโยคที่ถูกต้อง จะต้องไม่มี To infinitive อยู่ข้างหน้า หรือตามหลังมา
ใช้ผิด : I must to call him immediately.
ที่ถูกต้อง : I must call him immediately.
แปลว่า ฉันต้องโทรหาเขาตอนนี้เลย

สรุปว่า การใช้คำว่า Call ในประโยคที่ถูกต้อง จะต้องไม่มี To infinitive อยู่ข้างหน้า หรือตามหลังมา

ขอบคุณข้อมูลจาก engnow.in.th


5 เครื่องฟอกอากาศที่อยากแนะนำ ต้อนรับหนาวและฝุ่น ปี 2023

ใกล้เข้าถึงช่วงหน้าหนาวแล้ว แม้ว่าประเทศไทยอาจจะไม่ได้เปลี่ยนในเรื่องของอุณหภูมิ แต่ว่า ปัญหาของประเทศไทยคือ PM 2.5 หรือฝุ่นพิษ ที่กลับมาอีกครั้ง เพราะสภาพอากาศแห้ง และลมน้อยทำให้อากาศอยู่นานขึ้น ส่งผลต่อสุขภาพ ซึ่งวันนี้ Sanook Hitech จะมาแนะนำเกี่ยวกับเครื่องฟอกอากาศ

ฝุ่นละออง PM 2.5 คืออะไร

ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางระบบทางเดินหายใจและระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็งปอด เป็นต้น

เมื่อมันอันตรายแบบนี้  การเลือกเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมนั้น จึงเป็นเรื่องจำเป็น ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ของแต่ละบุคคล เช่น งบประมาณ ความต้องการในการใช้งาน และขนาดห้อง เป็นต้น และต่อไปนี้คือ 5 เครื่องฟอกอากาศที่เราอยากแนะนำสำหรับปี 2023

การเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้

  • ขนาดห้องที่ต้องการฟอกอากาศ
  • ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศ
  • คุณสมบัติเพิ่มเติมที่ต้องการ เช่น ฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เป็นต้น
  • งบประมาณ

เมื่อรู้แบบนี้เรามาดูตัวเลือกของเครื่องฟอกอากาศกันเลยดีกว่า เริ่มต้นจาก

Dyson Pure Cool Air Purifier Fan รุ่น TP00

เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ได้รับรางวัลมากมายจากสื่อต่างๆ ทั่วโลก ด้วยประสิทธิภาพในการฟอกอากาศที่สูง สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.95% มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Activated Carbon ที่ช่วยกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ออกแบบมาเพื่อให้เงียบทำงานได้แม้ตอนกลางคืน เหมาะสำหรับห้องขนาด 10-14 ตารางเมตร

คุณสมบัติเด่นของ Dyson Pure Cool Air Purifier Fan รุ่น TP00 ได้แก่

  • ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูง สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.95%
  • มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Activated Carbon ที่ช่วยกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ออกแบบมาเพื่อให้เงียบทำงานได้แม้ตอนกลางคืน
  • เหมาะสำหรับห้องขนาด 10-14 ตารางเมตร
  • เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ที่สามารถตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สารก่อภูมิแพ้ และก๊าซอันตรา
  • ระบบควบคุมอัจฉริยะ Dyson Link App ที่สามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็
  • ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม เหมาะกับการตกแต่งบ้าน
  • และยังมีหน้าจอแสดงผลคมชัดมองเห็นได้ในเวลากลางคืน

Dyson Pure Cool Air Purifier Fan รุ่น TP00 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีเงิน ราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 13,900 บาท

Philips รุ่น AC0820/20

เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้เหมาะสำหรับห้องขนาด 20-40 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้มากกว่า 99.97% ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก ใช้งานง่าย มีโหมดการฟอกอากาศ 3 โหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการ

คุณสมบัติเด่นของ Philips รุ่น AC0820/20 ได้แก่

  • ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูง สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.97%
  • มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA ที่ช่วยกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ออกแบบมาให้มีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก
  • ใช้งานง่าย มีโหมดการฟอกอากาศ 3 โหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
  • เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ที่สามารถตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สารก่อภูมิแพ้ และเชื้อโรค
  • ระบบควบคุมอัจฉริยะ Philips Air Matters App ที่สามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
  • ดีไซน์ทันสมัย สวยงาม เหมาะกับการตกแต่งบ้าน

และยังมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีดำ ราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 5,990 บาท ถือว่าไม่แพง

Toshiba CAF-H20

เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้เหมาะสำหรับห้องขนาด 30-60 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Activated Carbon ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.97% มาพร้อมระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV-C ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ออกแบบมาให้มีดีไซน์ทันสมัย ใช้งานง่าย

คุณสมบัติเด่นของ Toshiba CAF-H20 ได้แก่

  • ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูง สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.97%
  • มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Activated Carbon ที่ช่วยกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มาพร้อมระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV-C ช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค
  • ออกแบบมาให้มีดีไซน์ทันสมัย สวยงาม เหมาะกับการตกแต่งบ้าน
  • เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ที่สามารถตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สารก่อภูมิแพ้ และเชื้อโรค
  • ระบบควบคุมอัจฉริยะ Toshiba Air Purifier App ที่สามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
  • ปรับความแรงได้ 4 ระดับ เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ

Toshiba CAF-H20 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีดำ ราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 12,990 บาท อาจจะดูสูงแต่ก็รองรับเทคโนโลยีขั้นสูง

Xiaomi Air Purifier 3C

เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ออกบให้ห้องที่มีขนาดเล็กเพียง 10-20 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Activated Carbon ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้มากกว่า 99.97% ออกแบบมาให้มีดีไซน์มินิมอล ใช้งานง่าย มีโหมดการฟอกอากาศ 3 โหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการ

คุณสมบัติเด่นของ Xiaomi Air Purifier 3C ได้แก่

  • ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูง สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.97%
  • มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Activated Carbon ที่ช่วยกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ออกแบบมาให้มีดีไซน์มินิมอล สวยงาม เหมาะกับการตกแต่งบ้าน
  • ใช้งานง่าย มีโหมดการฟอกอากาศ 3 โหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
  • เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ที่สามารถตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
  • ระบบควบคุมอัจฉริยะ Mi Home App ที่สามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
  • ปรับความแรงได้ 3 ระดับ เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ

Mi Air Purifier 3C มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีดำ ราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 3,190 บาท

Sharp FP-J30TA

มาทางฝั่งญี่ปุ่นกับ Sharp โดยรุ่นนี้ยังสามารถใช้กับห้องขนาด 10-20 ตารางเมตร มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Plasmacluster ที่ช่วยขจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.97% ออกแบบมาให้มีดีไซน์กะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก ใช้งานง่าย มีโหมดการฟอกอากาศ 4 โหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการ

คุณสมบัติเด่นของ Sharp FP-J30TA ได้แก่

  • ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูง สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า 99.97%
  • มาพร้อมระบบกรองอากาศแบบ HEPA และ Plasmacluster ที่ช่วยกรองอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ออกแบบมาให้มีดีไซน์กะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก
  • ใช้งานง่าย มีโหมดการฟอกอากาศ 4 โหมดให้เลือกใช้งานตามความต้องการ
  • เซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ที่สามารถตรวจจับฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
  • ระบบควบคุมอัจฉริยะ Sharp Air Purifier App ที่สามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต
  • ปรับความแรงได้ 3 ระดับ เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ

Sharp FP-J30TA มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาวและสีดำ ราคาจำหน่ายในประเทศไทยอยู่ที่ 4,990 บาท

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


“โปรตีนเกษตร” ทำมาจากอะไร กินเยอะ ๆ อันตรายหรือไม่ ?

ช่วงกินเจเราอาจจะได้เห็นอาหารที่ทำจากโปรตีนเกษตรกันบ่อย ๆ แต่สำหรับคนที่กินมังสวิรัติอาจจะรู้จัก และรับประทานโปรตีนเกษตรกันคนคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว แต่โปรตีนเกษตรทำมาจากอะไร และหากกินไปนาน ๆ จะส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพของเราหรือไม่ ?


โปรตีนเกษตร คืออะไร ? ทำมาจากอะไร ?

เว็บไซต์ สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ระบุว่า โปรตีนเกษตร เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดย สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลิตจากแป้งถั่วเหลืองพร่องไขมัน 100% จึงมีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งเป็นโปรตีนจากพืชถึง 50% 


โปรตีนเกษตร ทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้หรือไม่ ?

โปรตีนเกษตรจากถั่วเหลืองดังกล่าว ถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง เนื่องจากมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายครบทุกตัว โดยเฉพาะมีไลซีน (Lysine) สูง และยังมีสารอาหารอื่น ๆ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม เหล็ก ไนอะซิน วิตามินบี 1 และ บี 2 อีกด้วย นอกจากนี้โปรตีนเกษตรยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์


ปริมาณสารอาหารที่อยู่ในโปรตีนเกษตร

โปรตีน49.76กรัมคาร์โบไฮเดรต (รวม crude fiber)40.89กรัมใยอาหาร13.6กรัมเถ้า6.78กรัมความชื้น2.15กรัมไขมัน0.42กรัมพลังงาน366.38กิโลแคลอรี่โพแทสเซียม6.71กรัมฟอสฟอรัส773.7มก.แคลเซียม138.9มก.เหล็ก6.8มก.โซเดียม0.95มก.ไนอะซีน2.35มก.วิตามินบี 10.26มก.วิตามีนบี 20.26มก. 
  
กรดอะมิโน 
_______________________________________ 
ลูซีน3.98กรัมไลซีน3.11กรัมฟีนิลอะลานีน2.85กรัมวาลีน2.25กรัมทรีโอนีน2.18กรัมไอโซ-ลูซีน2.13กรัมไทโรซีน1.88กรัมทริปโตเฟน0.91กรัมซิสตีน0.8กรัม

รับประทานโปรตีนเกษตรมาก ๆ ร่างกายจะเป็นอย่างไร ?

แม้ว่าโปรตีนเกษตรจะมีปริมาณโปรตีนสูง แต่ไม้ได้เป็นอาหารที่มีแต่โปรตีนแต่เพียงอย่างเดียว ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่ให้พลังงานเช่นกัน เช่น มีคาร์โบไฮเดรต (ที่มีกากใยอาหารด้วย) ในปริมาณที่ใกล้เคียงกับโปรตีน เป็นอาหารที่ให้พลังงาน (366 กิโลแคลอรี่ต่อโปรตีนเกษตร 100 กรัม) และยังมีปริมาณฟอสฟอรัสสูง อาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคไต และการรับประทานโปรตีนเกษตรมากเกินไป ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินจำเป็น เรียกง่าย ๆ คือกินมาก ๆ ก็อาจอ้วนได้เช่นกัน

ปริมาณที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน คือ ไม่ควรเกิน 100-150 กรัม จะได้รับโปรตีน 50-75 กรัมต่อวัน (หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่ออกกำลังกายหนัก ๆ เท่านั้นถึงควรจะรับประทานโปรตีนมากกว่า 75 กรัมต่อวัน) 


วิธีรับประทานโปรตีนเกษตร

หากซื้อโปรตีนเกษตรมาปรุงอาหารเอง ควรนำมาแช่ในน้ำเย็น โดยใช้โปรตีนเกษตร 1 ส่วนต่อน้ำ 2 ส่วน ใช้เวลาประมาณ 5 นาที จะดูดน้ำจนพองนิ่ม (หรือแช่ในน้ำเดือดใช้เวลา 2 นาที) บีบน้ำออก จากนั้นจึงนำไปประกอบอาหารได้

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 19/10/2566

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a33,450.0033,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,167.0032,851.7234,050.00
ทองรูปพรรณ 90%1,950.3029,566.55n/a
ทองรูปพรรณ 80%1,733.6026,281.38n/a
ทองรูปพรรณ 50%975.0014,781.00n/a
ทองรูปพรรณ 40%758.0011,491.28n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,246.0034,049.36n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 19/10/2566


ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9537.8537.8538.3537.8538.1537.8537.8537.8537.8537.85
แก๊สโซฮอล์ 9137.5837.5838.0837.5837.8837.5837.5837.5837.5837.58
แก๊สโซฮอล์ E2035.5435.5436.0435.5435.8435.5435.5435.5435.54
แก๊สโซฮอล์ E8535.6935.6935.69
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.0448.8449.5448.8444.04
เบนซิน 9545.6447.1146.1445.7945.64
ดีเซล B729.9429.9430.2429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล29.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.9429.94
ดีเซล B2029.9429.9429.9429.94
ดีเซลพรีเมี่ยม40.8442.9448.4442.9442.2440.84
แก๊ส NGV17.5917.5917.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า