อานิสงส์ทุนจีนย้ายฐานปักหมุดอีอีซีดันซัพพลายคอนโด พัทยาพุ่งสูงสุดรอบ 5 ปี
คอลลิเออร์สชี้อานิสงส์ทุนจีนย้ายฐานผลิตปักหมุดอีอีซี หนุนซัพพลายคอนโด พัทยาพุ่งสูงสุดรอบ 5 ปี การแข่งขันอย่างดุเดือดของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และดีเวลลอปเปอร์ท้องถิ่นแห่ผุดโครงการ
ภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย และการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย กล่าวว่า ผลการสำรวจพบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี มากถึง 20 โครงการ จำนวน 10,437 ยูนิต ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมถึง 43,285 ล้านบาท จำแนกเป็นคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยา จำนวน 13 โครงการ 7,897 ยูนิต มูลค่าลงทุนรวม 38,700 ล้านบาท และนอกเขตพื้นที่พัทยาจำนวน 7 โครงการ 2,540 ยูนิต มูลค่าลงทุนรวม 4,585 ล้านบาท
“การเปิดตัวโครงการดังกล่าวเป็นอุปทานเปิดขายใหม่ที่สูงที่สุดในรอบ 5 ปีของตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยาในปี 2567 ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยากลับมาคึกคักอีกครั้ง”
อุปทานเปิดตัวใหม่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน เห็นได้ว่าหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 กลับเข้าสู่ภาวะปกติ อุปทานใหม่กลับมาเปิดตัวอีกครั้ง และส่วนใหญ่เป็นการพัฒนาของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่จากกรุงเทพฯ และทุนท้องถิ่น อาทิ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้, ริเวียร่า กรุ๊ป, แสนสิริ และ แอสเซทไวส์ โดยปี 2567 มีอุปทานเปิดขายใหม่ 13 โครงการ 7,897 ยูนิต มูลค่าลงทุนรวม 38,700 ล้านบาทส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลจอมเทียน
ภัทรชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ครึ่งแรกของปี 2554 จนถึง ปี 2567 มีอุปทานเปิดขายใหม่ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยาทั้งหมด 116,075 ยูนิต โดยพื้นที่ย่านจอมเทียน มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมมากที่สุด คิดเป็นสัดส่วน 39.66% ตามมาด้วยในพื้นที่เขาพระตำหนัก 18.82% และในพื้นที่ใจกลางเมืองพัทยา 18.70% สิ้นปี 2567 อุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 47,800 ยูนิต สามารถขายออกไปแล้ว 36,471 ยูนิต คิดเป็น 76.29% เหลืออุปทานรอการขายอีก 11,329 ยูนิต คิดเป็น 23.71%
“ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยาคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี ยังเป็นที่น่าสนใจของกลุ่มลูกค้า และมีอัตราการขายที่ค่อนข้างเร็ว ขณะที่อุปทานใหม่กลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งทั้งในพื้นที่จอมเทียน และใจกลางเมืองพัทยา”
โดยพื้นที่ใจกลางเมืองพัทยา มีอัตราการขายสูงที่สุด 87.28% ตามมาด้วยพื้นที่จอมเทียน 79.49% และพื้นที่ย่านนาจอมเทียน 74.12% ในช่วงไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา โครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรีได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าเป็นจำนวนมาก หลายโครงการสามารถปิดการขายได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมริมชายหาดในพื้นที่วงศ์อมาตย์ และจอมเทียน เนื่องจากอุปทานคอนโดมิเนียมเหล่านี้ค่อนข้างมีอยู่อย่างจำกัด และมียูนิตรอการขายค่อนข้างน้อย
คาดการณ์ว่าตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยาในปี 2568 จะยังคงเป็นทำเลที่โดดเด่น และมีอุปทานเปิดขายใหม่อย่างคึกคักทั้งในพื้นที่ใจกลางพัทยา จอมเทียน นาจอมเทียน วงศ์อมาตย์ และคาดการณ์ว่าอาจมีคอนโดมิเนียม “Branded Residences” หรือคอนโดมิเนียม ระดับลักซ์ชัวรีเปิดขายใหม่ที่สร้างกระแสการพูดถึงซึ่งเป็นการพัฒนาโดยผู้พัฒนารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งผลให้ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่พัทยากลับมาคึกคักอีกครั้ง
สอดคล้องกับ สมบัติ ชาญยุทธกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ในทำเลนี้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เปิดตัวโครงการจำนวนมากตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา และจากผลการสำรวจพบว่าเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อในทำเลนี้ เป็นทั้งกลุ่มนักลงทุน และพนักงาน ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม มีรายได้เฉลี่ย 20,000-50,000 บาทต่อเดือน
ผนวกกับนักลงทุนจากประเทศจีนมีการขยายฐานการผลิตมายังนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดชลบุรี มากขึ้น จากอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ รถยนต์ไฟฟ้า (EV), ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนยานยนต์, ธุรกิจเทคโนโลยีขั้นสูงในอุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่การซื้อเพื่อการลงทุนมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 3,500-9,000 บาทต่อหน่วย หรือ เฉลี่ย 5-7%
สำหรับห้องชุดขนาด 26-30 ตารางเมตร โดยความต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อเช่าในทำเลอีอีซี มีสัดส่วนที่สูง อัตราการเช่าอพาร์ตเมนต์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ มีสัดส่วนเฉลี่ย 80-90% สะท้อนถึงความต้องการที่พักอาศัยในทำเลนี้ยังมีอยู่ จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่จะซื้อเพื่อการลงทุนและปล่อยเช่า
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
เสนาฯ เปิดตัว ‘RentNex’ เช่าคอนโดแบบ Subscription รูปแบบใหม่ เจาะกลุ่ม Generation Rent
ครั้งแรกของวงการอสังหาฯ ไทย Subscription Condo “RentNex” Model การอยู่อาศัยคอนโดรูปแบบใหม่จากเสนาฯ เพิ่มโอกาสให้คนมีที่อยู่อาศัยได้ในทุก Generation โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Rent
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของทั่วโลก ได้ส่งผลต่อการเลือกที่อยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่มีราคาค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายคนเริ่มหันมาเลือก “การเช่า” แทนการซื้อบ้าน นี่คือที่มาของปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Generation Rent” หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลือกเช่าที่อยู่อาศัยแทนการซื้อบ้านเป็นของตนเอง เนื่องจากเหตุผลหลายประการที่เกี่ยวข้องทั้งด้านการเงิน ไลฟ์สไตล์ และความมั่นคงในอาชีพ อีกทั้งราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สูง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเป็นเจ้าของบ้านกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่ที่แบกรับภาระหนี้สินจากการศึกษา การกู้ซื้อรถยนต์ หรือการใช้บัตรเครดิต การซื้อบ้านกลายเป็นภาระที่หนักเกินไป ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตและอาชีพการงานที่ไม่มั่นคง ทำให้การผูกมัดกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงเช่นบ้าน กลายเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ เพราะผู้คนในยุคนี้ต้องการความยืดหยุ่นและอิสระในการตัดสินใจ
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ หรือ ดร.ยุ้ย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เสนาฯ มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้คนไทยเข้าถึงการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยอย่างครอบคลุม และตอบรับทุกกลุ่มและทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยการสังเกตเทรนด์ Generation Rent ที่กำลังมาแรง ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะการเลือกเช่าแทนการซื้อบ้านเพื่อลดภาระทางการเงินและเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต เพื่อรองรับความต้องการนี้ ครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย เสนาฯ เปิดตัว RentNex Subscription Condo “RentNex” Model การอยู่อาศัยคอนโดรูปแบบใหม่ เพิ่มโอกาสให้คนมีที่อยู่อาศัยได้ในทุก ๆ Generation โดยตอบโจทย์หลักกับกลุ่ม Gen Rent โมเดลเช่าคอนโดรูปแบบใหม่ โดยใช้ระบบสมัครสมาชิก (Subscription Model) ที่ได้รับความนิยมจากธุรกิจต่างๆ เช่น Netflix, YouTube Premium, Spotify Premium และ Canva Pro โมเดลนี้ช่วยให้ผู้เช่าสามารถเลือกเช่าคอนโดจาก 20 โครงการคุณภาพของเสนาฯ ได้ตามต้องการ ครอบคลุมพื้นที่ศักยภาพทั่วกรุงเทพฯ มาพร้อมความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยตามไลฟ์สไตล์ส่วนตัว โดยไม่ต้องแบกรับภาระการเป็นเจ้าของ และสามารถเลือกที่พักตามความต้องการได้อย่างง่ายดาย
“RentNex จึงไม่เพียงตอบโจทย์การเลือกที่อยู่อาศัยสำหรับคนรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นการนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับยุคสมัยที่ความยืดหยุ่นและการลดภาระทางการเงินมีความสำคัญ โมเดลนี้ช่วยให้ลูกค้าเลือกที่พักคุณภาพได้ตามความต้องการ โดยไม่ต้องแบกรับภาระในระยะยาว และสามารถปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัยได้ง่ายตามการเปลี่ยนแปลงของชีวิต ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่เสนามอบให้กับ Generation Rent อย่างลงตัว และการเช่าบ้านจะเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่ต้องการความผูกพันระยะยาวกับการซื้อบ้าน โดยไม่เพียงประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังมอบอิสระและความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามสถานการณ์ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย”
โดยสามารถเลือกเช่าอยู่คอนโดรูปแบบใหม่ “RentNex” ได้ง่ายๆ จาก 20 โครงการคอนโดคุณภาพของเสนาฯ ดังนี้
เริ่มต้น 6,700 บาท/เดือน จาก 3 แพ็กเกจเช่า :
– แพ็กเกจ Silver : จ่ายเพียงเดือนละ 6,700 บาท เลือกเช่าในโครงการเสนาคิทท์ (SENA Kith) และเสนาอีโคทาวน์ (SENA Eco Town) มีให้เลือกถึง 12 โครงการ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่พักคุณภาพในทำเลสะดวกสบาย
– แพ็กเกจ Gold : จ่ายเพียงเดือนละ 10,000 บาท สามารถเลือกพักในโครงการเฟล็กซี่ (Flexi) และเสนาคิทท์ (SENA Kith) และเสนาอีโคทาวน์ (SENA Eco Town) พร้อมให้เลือกถึง 16 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในเขตเมือง
– แพ็กเกจ Platinum : จ่ายเพียงเดือนละ 12,200 บาท สัมผัสประสบการณ์ที่เหนือกว่า กับโครงการ นิชโมโน (Niche Mono), เฟล็กซี่ (Flexi) และเสนาคิทท์ (SENA Kith) และเสนาอีโคทาวน์ (SENA Eco Town) รวม 20 โครงการ เหมาะกับผู้ที่มองหาความพรีเมียม สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
- ให้ลูกค้าได้เลือกแผนการเช่าที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ ด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ พร้อมสัมผัสคุณภาพการอยู่อาศัยจากเสนาฯ ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของชีวิตในเมือง
- Flexibility : ยืดหยุ่นสูงสุด เลือกย้าย Location ใหม่ใน Pool Package ที่เลือกไว้ ไม่ต้องจ่ายมัดจำเพิ่มและไม่ต้องทำสัญญาเช่าใหม่
- Money Save : รับส่วนลด 20% ของค่าเช่าสะสม 3 ปี หากเปลี่ยนใจซื้อโครงการของ RentNex
- Build Credit Status : สร้าง Credit Statement กับ ธอส. ช่วยการกู้ซื้อบ้านในอนาคต
- ค่าเช่าทุกยูนิต รวมค่าส่วนกลางและค่าน้ำ
- Better Living : Facilities ครบครัน ทั้ง Fitness สระว่ายน้ำ ที่จอดรถ และเครื่องใช้ไฟฟ้าครบพร้อมอยู่
ทั้งนี้ บิสิเนสโมเดลใหม่ “RentNex” Pay wisely, Live Flexibly การเช่าคอนโดรูปแบบใหม่ จะเริ่มให้บริการในช่วงต้นปี 2025 โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1775 หรือลงทะเบียนรับสิทธิ์พิเศษก่อนใครได้ที่ เว็บไซต์ และติดตามข่าวสารของเสนาดีเวลลอปเม้นท์ ได้ที่เว็บไซต์ เสนาฯ และ เฟซบุ๊ก
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้25ธ.ค. “อ่อนค่าเล็กน้อย” ที่ระดับ 34.18 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้25ธ.ค. “อ่อนค่าเล็กน้อย” ที่ระดับ 34.18 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทอาจได้รับผลกระทบระยะสั้นในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลยอดการส่งออกและการนำเข้าเดือนพฤศจิกายน มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.30 บาท/ดอลลาร์
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้25ธ.ค.2567 ที่ระดับ 34.18 บาทต่อดอลลาร์ “อ่อนค่าลงเล็กน้อย แทบไม่เปลี่ยนแปลง”จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ที่ระดับ 34.15 บาทต่อดอลลาร์
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai Global Market ธนาคารกรุงไทยเปิดเผยว่าแนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงมองว่า เงินบาทก็อาจแกว่งตัว Sideways เนื่องจากบรรดาผู้เล่นในตลาดต่างก็รอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
ทว่าโซนแนวรับเงินบาทอาจขยับมาแถว 34.10 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่โซนแนวต้านอาจยังคงอยู่แถว 34.30 บาทต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ในช่วงระหว่างวัน เรามองว่า ควรรอจับตาความผันผวนของเงินบาทในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานข้อมูลยอดการส่งออกและการนำเข้า (Exports and Imports) เดือนพฤศจิกายน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเงินบาทในระยะสั้นได้
โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดการเงินมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญจากประเทศเศรษฐกิจหลักไม่มาก
ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงินที่ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในช่วงปีหน้าที่จะเผชิญกับ Trump’s Uncertainty ทำให้เรายังคงแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรใช้กลยุทธ์ในการปิดความเสี่ยงที่หลากหลายมากขึ้น
ทั้งการใช้เครื่องมือเช่น Options หรือ สกุลเงินท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.10-34.30 บาท/ดอลลาร์
โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) เคลื่อนไหวอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่โดยยังคงเป็นการแกว่งตัวในกรอบ Sideways (กรอบการเคลื่อนไหว 34.12-34.20 บาทต่อดอลลาร์) ท่ามกลางปริมาณการทำธุรกรรมต่างๆ ในตลาดการเงินที่เบาบางลง
เนื่องในช่วงใกล้วันหยุดเทศกาล Christmas ซึ่งหลายตลาดก็ได้หยุดทำการไป และบางส่วนก็อาจเปิดทำการเพียงครึ่งวัน เช่น ในฝั่งสหรัฐฯ และอังกฤษ ทำให้โดยรวมปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเงินบาท ทั้งเงินดอลลาร์ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และราคาทองคำ ต่างก็เคลื่อนไหวในกรอบ Sideways เพื่อรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติมก่อนที่จะเลือกทิศทางการเคลื่อนไหวที่ชัดเจนในระยะถัดไป
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยง (Risk-On) แม้จะเปิดทำการเพียงครึ่งวัน หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของบรรดาหุ้นเทคฯ ใหญ่ และหุ้นธีม AI นำโดย Tesla +7.4%, Broadcom +3.2%
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังมีลักษณะ Broad-based ทำให้ “Santa Rally” ดูจะเป็นความจริงได้ในปีนี้ โดยรวมดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ปรับตัวขึ้น +1.35% ส่วนดัชนี S&P500 ปิดตลาด +1.10%
ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง +0.32% หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของหุ้นอังกฤษ
โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่รีบาวด์ขึ้นบ้างในระยะสั้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังพอได้แรงหนุนบ้างจากการรีบาวด์ขึ้นของหุ้นธีม AI/Semiconductor อย่าง ASML +0.7%
ในฝั่งตลาดบอนด์ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของผู้เล่นในตลาด รวมถึงมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่คงกังวลว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ระบุไว้ใน Dot Plot ล่าสุด
ได้หนุนให้ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ มีจังหวะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 4.62% ก่อนที่บรรดาผู้เล่นในตลาดบางส่วนจะทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาว กดดันให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลงบ้าง กลับสู่ระดับ 4.59%
ซึ่งภาพดังกล่าว ก็สอดคล้องกับมุมมองของเราว่า ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาว ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ได้ปรับตัวขึ้นเหนือโซน 4.50%
ทำให้เราคงคำแนะนำเดิมให้รอทยอยเข้าซื้อบอนด์ระยะยาว ในจังหวะบอนด์ยีลด์ปรับตัวขึ้น ตามกลยุทธ์ Buy on Dip เนื่องจาก Risk-Reward ของผลตอบแทนรวม (Total Return) ของบอนด์ระยะยาวนั้นยังมีความน่าสนใจอยู่
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมเคลื่อนไหว Sideways โดยมีจังหวะผันผวนไปตามทิศทางบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ซึ่งก็ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ตามการเปลี่ยนแปลงของส่วนต่างระหว่างบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ กับญี่ปุ่นเช่นกัน
นอกจากนี้ บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างก็รอจังหวะทยอยขายทำกำไรสถานะ Long USD ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวแถวโซน 108.1 จุด (แกว่งตัวในกรอบ 108.0-108.3 จุด)
ในส่วนของราคาทองคำ บรรดาผู้เล่นในตลาดต่างยังคงรอทยอยขายทำกำไรสถานะ Long ทองคำ ตามที่เราได้ประเมินไว้ ทำให้ ราคาทองคำ (สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. 2025) ยังคงไม่สามารถปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้และแกว่งตัวในกรอบโซน 2,630 ดอลลาร์ต่อออนซ์
สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจอาจมีไม่มากนัก อีกทั้งในฝั่งต่างประเทศจะเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาล Christmas ทำให้ปริมาณการทำธุรกรรมในตลาดการเงินอาจเบาบาง ส่งผลให้ตลาดการเงินอาจมีความผันผวนเกิดขึ้นได้ หากมีธุรกรรมใหญ่ๆ เข้ามา
อย่างไรก็ตาม ในฝั่งไทย ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานยอดการค้าระหว่างประเทศเดือนพฤศจิกายน ซึ่งจะทยอยรับรู้ในช่วงราว 13.30 น. ซึ่งเราประเมินว่า ยอดการส่งออก (Exports) มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง
ทว่าอาจต้องรอติดตามอย่างใกล้ชิดว่า ดุลการค้า (Trade Balance) ของไทยจะสามารถเกินดุลได้หรือไม่ หลังในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าการส่งออกจะฟื้นตัวดีขึ้น ทว่าดุลการค้าของไทยส่วนใหญ่ก็ยังคงขาดดุลอยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ! ส่องอันดับโลก 32 ชาติ วอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2025
การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2025 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2025 โดย สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) มอบหมายให้ ประเทศไทย รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
โดยหนนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จะมีทีมลงแข่งขันมากที่สุดจำนวน 32 ทีม (ก่อนหน้านี้มี 24 ทีม ลงแข่งขัน) และจะกระจายแข่งขันกัน 4 จังหวัดใหญ่ในประเทศไทย ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดนครราชสีมา และ กรุงเทพมหานคร
หลังมีพิธีการจับสลากแบ่งกลุ่มหันไปเป็นที่เรียบร้อย ปรากฏว่า “ทัพนักตบลูกยางสาวไทย” อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เนเธอร์แลนด์, สวีเดน และ อิยิปต์ แข่งขันกันที่สนาม กรุงเทพมหานคร
ซึ่งก่อนจะเริ่มทัวร์นาเมนต์ในปีหน้า เราลองไปดูอันดับโลกของแต่ละชาติที่ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันในศึกชิงแชมป์โลก 2025 จากการประกาศของ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) กัน
อันดับโลก วอลเลย์บอลหญิง ล่าสุด ของ สหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB)
เจ้าภาพ : ไทย (อันดับ 13)
แชมป์เก่า : เซอร์เบีย (อันดับ 10)
ทวีปเอเชีย : จีน (อันดับ 5), ญี่ปุ่น (อันดับ 7), เวียดนาม (อันดับ 33)
ทวีปยุโรป : อิตาลี (อันดับ 1), ตุรกี (อันดับ 4), เนเธอร์แลนด์ (อันดับ 9),
ทวีปแอฟริกา : เคนยา (อันดับ 22), แคเมอรูน (อันดับ 27), อียิปต์ (อันดับ 36)
ทวีปนอร์เซกา : สหรัฐอเมริกา (อันดับ 3), แคนาดา (อันดับ 8), สาธารณรัฐโดมินิกัน (อันดับ 11)
ทวีปอเมริกาใต้ : บราซิล (อันดับ 2), อาร์เจนตินา (อันดับ 17), โคลอมเบีย (อันดับ 21)
โควตาจากอันดับโลก (อีก 15 ทีม ที่ไม่ผ่านรอบคัดเลือก)
โปแลนด์ (อันดับ 6), เยอรมนี (อันดับ 12), เบลเยียม (อันดับ 14), สาธารณรัฐเช็ก (อันดับ 15), เปอร์โต ริโก (อันดับ 16), ยูเครน (อันดับ 18), ฝรั่งเศส (อันดับ 19), บัลแกเรีย (อันดับ 20), คิวบา (อันดับ 23), สวีเดน (อันดับ 24), เม็กซิโก (อันดับ 25), สโลวีเนีย (อันดับ 26), สโลวาเกีย (อันดับ 28), สเปน (อันดับ 29), กรีซ (อันดับ 30)
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
แพทย์แจง ไม่ดื่มน้ำเปล่า อาจไม่ใช่สาเหตุหลักของอัมพฤกต์-เส้นเลือดในสมองตีบ
จากข่าวคนไม่ดื่มน้ำเปล่าหลายปี ทำให้เลือดข้นหนืดจนเป็นอัมพฤกษ์ เส้นเลือดในสมองตีบ สมองบวม จริงๆ แล้วสาเหตุอาจมาจากน้ำตาล ไขมัน และเกลือที่อยู่ในเครื่องดื่ม
เพจ หมอเวร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จริงอยู่ว่า การขาดน้ำเปล่ามากๆ อาจทำให้เลือดข้นหนืดได้ แต่การไม่ดื่มน้ำเปล่า แล้วดื่มแต่เครื่องดื่มอื่นๆ แทนน้ำเปล่าเป็นเวลาหลายปี ไม่ได้ทำให้ร่างกายขาดน้ำ เพราะเครื่องดื่มหรือของเหลวทุกชนิดที่ดื่มเข้าไป ล้วนแต่มีส่วนประกอบของน้ำอยู่ด้วยทั้งสิ้น เมื่อดื่มเข้าไป ลำไส้ใหญ่จะดูดซึมแยกเฉพาะน้ำออกไป
ดังนั้นหากดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ ที่แม้ว่าจะไม่ใช่น้ำเปล่า แต่หากดื่มจนร่างกายได้รับปริมาณน้ำอย่างเพียงพอต่อวัน อาจไม่ได้ทำให้ร่างกายขาดน้ำจนเลือดข้น
แต่ภาวะเลือดข้น ในกรณีของการดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ แทนน้ำเปล่านั้น อาจมาจากการที่เป็นเครื่องดื่มที่ผสม น้ำตาล ไขมัน หรือเกลือ จำนวนมาก ซึ่งหากดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมเหล่านี้เข้าไปในปริมาณมากหรือติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะเลือดข้นได้
ปกติแล้วเลือดของคนเราจะมีส่วนประกอบของ น้ำเลือด กับ เม็ดเลือด แต่ถ้าในเลือดมีไขมันสูง หรือ น้ำตาลสูง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เลือดข้นได้ โดยเฉพาะคนที่มีจำนวน หรือรูปร่างของเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติ ยิ่งอาจทำให้เลือดไหลเวียนได้ลำบากมากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเบาหวานจะยิ่งเสี่ยงอันตรายมากกว่าปกติ และอาจทำให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมา
ดังนั้น น้ำตาล ไขมัน หรือเกลือในเครื่องดื่มต่างหากที่เป็นสาเหตุหลักของอาการเลือดข้นหนืด รวมไปถึงโรคที่เกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด และเส้นเลือดต่างๆ และแม้แต่การดื่มน้ำเปล่ามากๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายแล้ว แต่หากดื่มเครื่องดื่มหรือกินอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ไขมัน หรือเกลือเป็นจำนวนมากติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ก็อาจมีความเสี่ยงเลือดข้นจนเป็นเส้นเลือดในสมองตีบได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
บทสนทนาภาษาอังกฤษ ง่าย ๆ ในโรงแรมเมื่อได้ไปเที่ยวต่างประเทศ
จะไปต่างประเทศทั้งที จะไม่ใช้ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลเลยก็คงจะหลีกเลี่ยงได้ค่อนข้างยาก เมื่อเราวางแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศสิ่งสำคัญแรกที่เราจะต้องทำคือ การจองโรงแรม หรือจองที่พัก หรือสอบถามเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะบอกวิธีการพูดคุยกับพนักงานในโรงแรมให้กับเข้าใจกับ บทสนทนาภาษาอังกฤษ ง่าย ๆ เหล่านี้
การจองห้องพัก
Good morning / afternoon / evening | สวัสดีตอนเช้า / บ่าย / เย็น | ||
Do you have a reservation? | คุณได้จองห้องพักไว้ไหมคะ | ||
Would you like me to reserve a room for you? | ต้องการให้ฉันช่วยจองห้องให้คุณไหมคะ | ||
How long will you be staying? | คุณจะพักอยู่นานแค่ไหนคะ | ||
How long do you plan to stay? | |||
What kind of room would you like? | คุณต้องการห้องพักแบบไหนคะ | ||
How many guests are with you? | แขกที่จะเข้าพักมีทั้งหมดกี่คนคะ | ||
Could you please fill out this form? | รบกวนคุณช่วยกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์มด้วยนะคะ | ||
Could I see your I.D. / passport, please? | ขออนุญาตดูบัตรประชาชน / พาสสปอร์ตด้วยค่ะ | ||
May I have your name, please? | ขอทราบชื่อของคุณด้วยค่ะ | ||
Is there anything else we can help you with? | มีอะไรที่คุณต้องการให้ช่วยเพิ่มเติมไหมคะ | ||
Would you like any help? | |||
ลูกค้า | I want to book a room. | คุณมีห้องว่างหรือเปล่า | |
I’d like to make a reservation. | |||
Do you have room available? | |||
Do you have any vacant rooms? | |||
What promotions do you have at the moment? | ตอนนี้มีโปรโมชั่นอะไรหรือไม่ | ||
How much is it for the room? | ห้องพักราคาท่าไหร่ | ||
What are the room rates? | |||
Can you offer me any discount? | คุณช่วยลดราคาหน่อยได้ไหม | ||
Is the breakfast included? | รวมอาหารเช้าด้วยไหมคะ |
การสอบถามหรือบอกเส้นทางเพื่อเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ
How do I get to …? | ฉันจะสามารถเดินทางไป…ได้อย่างไร |
Is there a … near here? | มี…..อยู่ใกล้ที่นี่ไหม |
Can you tell me the way to …? | ช่วยบอกทางไป….หน่อยได้ไหม |
Could you show me the way to…? | กรุณาบอกทางไป…ได้ไหม |
Opposite | ตรงข้าม |
Behind | ข้างหลัง |
Next to | ถัดจาก |
In front of | ข้างหน้า |
between | ระหว่าง |
Go straight on | ตรงไป |
Turn right / Turn left / Turn back | เลี้ยวขวา / เลี้ยวซ้าย / ย้อนกลับ |
Cross the street | ข้ามถนน |
การเช็กอินและเช็กเอ้าท์
พนักงาน | What name is the reservation under? | คุณได้จองห้องพักไว้ในชื่ออะไร |
Do you have your booking confirmation? | คุณมีหลักฐานการจองไหม | |
I’ll give you a room key. | ฉันจะให้กุญแจห้องกับคุณ | |
How you will be paying? | คุณต้องการจะจ่ายเงินด้วยวิธีใด | |
How will you be paying for this? | ||
Are you ready to check out? | คุณจะเช็กเอาท์เลยไหม | |
What room were you in? | ขอทราบหมายเลขห้องด้วย | |
How was your stay? | ที่พักเป็นอย่างบ้าง |
ลูกค้า | I would like to check in, please. | ฉันต้องการเช็กอินค่ะ |
I have a reservation under …. . | ฉันจองห้องไว้ด้วยชื่อ……… | |
Is breakfast included in the price of the room? | อาหารเช้าได้รวมกับค่าห้องหรือไม่ | |
How do I get to our room from here? | ฉันจะไปที่ห้องของฉันอย่างไร | |
Is it too early to check in? | เร็วเกินไปไหมถ้าเราจะเช็กอิน | |
I’m checking out of room …. | ฉันจะเช็กเอาท์ห้อง……. | |
I’d like to check out please. | ฉันต้องการจะเช็กเอาท์ | |
I’d like to pay my bill, please. | ฉันต้องการที่จะจ่ายค่าห้อง | |
I’ll pay by …….. . | ฉันจะจ่ายโดย ……… |
การสอบถามเกี่ยวกับบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก
ลูกค้า | Can I get more information about hotel facilities? | ฉันสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมได้ไหม? |
Is there a .…? | ที่นี้มี …… ไหม | |
Are there any laundry facilities? | มีบริการซักรีดหรือไม่ | |
Do the rooms have …. ? | ในห้องมี …… ไหมคะ | |
Is there a ……….. in the hotel? | ที่โรงแรมมี ……. ไหม | |
What time is …….. open until? | …….. เปิดให้ใช้บริการถึงกี่โมง | |
Is there somewhere I can leave my luggage? | มีที่รับฝากกระเป๋าไหม | |
Do you have anywhere we could leave our luggage? | ||
Could we have some help bringing our luggage down? | มีคนช่วยยกกระเป๋าลงมาข้างล่างไหม | |
Could you book me a taxi? | คุณเรียกรถแท็กซี่ให้ได้ไหม | |
Could you call me a taxi, please? | ||
What time is ……… served at? | …… จะเสิร์ฟตอนกี่โมง | |
Where do I have breakfast? | ทานอาหารเช้าที่ไหน |
ขอบคุณข้อมูลจาก engduothailand.com
Google เลิกจ้างผู้บริหารระดับสูง 10% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริษัท
Business Insider รายงานว่า Sundar Pichai ซีอีโอ Google และ Alphabet แจ้งพนักงานทุกฝ่ายในที่ประชุมเมื่อวันพุธว่า บริษัทจะปลดพนักงานในกลุ่มผู้จัดการ ผู้อำนวยการ และรองประธาน จำนวน 10% เพื่อสร้างประสิทธิภาพกับบริษัท
โฆษกของ Google บอกว่าพนักงานบางคนในจำนวนนี้จะถูกเปลี่ยนให้ไปทำงานตำแหน่งอื่น และบางส่วนจะถูกปลดออก
Google ขับเคลื่อนตามนโยบายรีดเร้นประสิทธิภาพมาแล้วกว่า 2 ปี ในเดือนกันยายน ปี 2022 Sundar Pichai กล่าวว่าเขาต้องการให้ Google มีประสิทธิภาพมากขึ้น 20% ในเดือนมกราคม ปี 2023 บริษัทจึงเลิกจ้างพนักงานครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์ โดยมีการเลิกจ้างมากถึง 12,000 ตำแหน่ง และมีการลดจำนวนพนักงานลงต่อเนื่องนับแต่นั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก blognone.com
15 สุดยอด “พืชสรรพคุณเป็นยา” ปลูกไว้ใกล้บ้านรับรองประโยชน์เพียบ
อาการเจ็บป่วยต่างๆ ถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่มนุษย์ทุกคนจะต้องเผชิญ แต่การต้องไปโรงพยาบาลและเสียค่ารักษาพยาบาลแพงๆ เป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างไม่อยากจะเผชิญ จึงมีกระแสนิยมในการหันมาใช้สมุนไพรจากธรรมชาติในการดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งถูกใช้และพิสูจน์โดยผู้คนนับไม่ถ้วนทั่วโลกหลายต่อหลายครั้งว่ามีประสิทธิภาพ และปลอดภัย
วันนี้ ในบ้าน จึงได้รวบรวมเอา 15 สุดยอด “พืชสรรพคุณเป็นยา” มาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เพื่อเป็นแนวทางให้เพื่อนๆ ได้ลองนำเอามาปลูกไว้ใกล้ๆ บ้าน เพื่อสะดวกในการหยิบใช้ได้สะดวก พืชแต่ละชนิดจะมีสรรพคุณ และประโยชน์อย่าไรบ้างนั้น ไปชมกันได้เลยครับ
1. ขิง มีสรรพคุณในเรื่องของปรับสมดุลกระบวนการย่อยอาหาร ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหาร ต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรีย สามารถใช้ในการรักษาอาการปวดข้อ, โรคไขข้อและสามารถลดอาการปวดศีรษะและไมเกรน เพิ่มประสิทธิภาพของระบบทางเดินหายใจ และลดอาการที่เกิดจากโรคหอบหืด เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
2. ลาเวนเดอร์ สามารถทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์ ช่วยป้องกันหนังศีรษะของคุณไม่ให้เกิดรังแค บรรเทาอาการผิวแห้งกร้านคันและมีผื่นเล็กน้อย ใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยด้วยกลิ่นที่ผ่อนคลายช่วยทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในอากาศ
3. กระเทียม มีคุณสมบัติลดการอักเสบ ป้องกันการติดเชื้อในหลายส่วนของร่างกายช่วยเพิ่มภูมิต้านทานเพิ่มการดูดซึมสารอาหารในร่างกาย ปรับสมดุลระบบย่อยอาหารลดความดันโลหิตและระดับน้ำตาลลงป้องกันปัญหาโรคหัวใจ และหลอดเลือดป้องกันและรักษาโรคภูมิแพ้บางประเภทบรรเทาอาการปวดรวมถึงอาการปวดฟันและปวดร่างกาย
4. ผักโขม ช่วยเสริมทั้งระบบหัวใจ หลอดเลือด และระบบประสาท ช่วยเสร้มสร้างสายตา ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอล อุดมไปด้วยวิตามินเคซึ่งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน
5. ตำแยแมว ช่วยล้างพิษฝนร่างกาย ช่วยในการกำจัดของเสียในร่างกาย รักษาอาการปวดศีรษะและไมเกรนน้ำมันช่วยในการผ่อนคลาย ช่วยให้ระบบประสาทสงบลง ปรับสมดุลระบบย่อยอาหาร ใช้การบรรเทาอาการปวด
6 . ไทม์ ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต หยุดแบคทีเรียในอากาศบำรุงระบบประสาทเสริมสร้างระบบย่อยอาหาร ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ สามารถรักษาความแห้งกร้านบนผิว และลดความระคายเคืองได้ สามารถแก้ไอและหวัดได้
7. ทีทรี ทีทรีออยล์ช่วยลดกลิ่นตัวไม่พึงประสงค์ สามารถรักษาอาการติดเชื้อและการอักเสบในเล็บ ผิวหนัง จมูก และปากช่วยป้องกันเหา และปรสิตอื่น ๆ ช่วยรักษาบาดแผลและแผลไฟไหม้ กำจัดรังแค ช่วยให้หนังศีรษะเย็นสบายและสะอาดรักษาอาการปวดเล็กน้อยเช่นปวดหัว และปวดฟัน
8. เฟิร์น ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารรักษาไข้ และเบาเทาอาการไอ ใช้รักษาบาดแผลบรรเทาอาการจากการถูกแดดเผา ปกป้องระบบย่อยอาหารจากปรสิตที่เป็นอันตรายเช่นเวิร์ม กระตุ้นระบบการย่อยอาหาร ป้องกันโรคหอบหืดรักษาโรคปอดอักเสบ และหลอดลมอักเสบ
9. เสจ ช่วยเสริมสร้างความจำลดภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ช่วยในการรักษาบาดแผลกระตุ้นการย่อยอาหารบรรเทาอาการปวด เช่น ปวดหัว และปวดฟันรักษากลิ่นปากป้องกันการติดเชื้อในทางเดินหายใจ มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค
10. สะระแหน่ ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหารสามารถป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก รักษากลิ่นปาก ป้องกันการเริ่มต้นของการติดเชื้อในไซนัส
11. ดาวเรือง ช่วยลดไข้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ช่วยสมานบาดแผล และแผลไฟไหม้ ช่วยลดอาการปวดหัว และปวดฟัน ช่วยลดอาการแพ้ ช่วยในการฟื้นฟูของเซลล์ผิวใหม่ ช่วยลดการเกิดเนื้องอก
12. พริกแดง ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา ป้องกันไข้หวัด ป้องกันการแข็งตัวของเลือด กระตุ้นการผลิตน้ำลายที่จำเป็นสำหรับการย่อยอาหาร ช่วยลดกลิ่นปาก เสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อและไมเกรน มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง
13. เอ็กไคนาเซีย ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในข้อต่อ มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน กระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดใหม่ ป้องกันและรักษาโรคหวัด หลอดลมอักเสบ และการติดเชื้อทางเดินหายใจ
14. แดนดิไลออน ช่วยบำรุงตับลดการอุดตันของเส้นเลือด ช่วยรักษาระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลป้องกันการก่อนิ่ว มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
15. ดอกคาโมไมล์ ช่วยลดอาการแพ้ท้อง ช่วยดูแลสุขภาพผิว ป้องกันโรคเบาหวาน กระตุ้นระบบย่อยอาหาร และป้องกันอาการปวดท้อง มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง ลดการติดเชื้อแบคทีเรีย ช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมปรับปรุงสุขภาพหนังศีรษะ ขจัดรังแค ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด ลดอาการเสียดท้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 25/12/2567
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 42,250.00 | 42,350.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 2,737.00 | 41,492.92 | 42,850.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 2,463.30 | 37,343.63 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 2,189.60 | 33,194.34 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 1,232.00 | 18,677.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 958.00 | 14,523.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 2,836.00 | 42,993.76 | n/a |
ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 25/12/2567
ปตท. | บางจาก | เชลล์ | เอสโซ่ | คาลเท็กซ์ | ไออาร์พีซี | พีที | ซัสโก้ | เพียว | พรุ่งนี้ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 36.25 | 36.25 | 36.75 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 | 36.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 35.88 | 35.88 | 36.38 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 35.88 | 35.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 34.14 | 34.14 | 34.64 | 34.14 | 34.14 | – | 34.14 | 34.14 | 34.14 | 34.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 33.89 | 33.89 | – | – | – | – | – | – | – | 33.89 |
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม | 44.84 | 49.84 | 49.84 | 49.84 | – | – | – | – | – | 44.84 |
เบนซิน 95 | 44.54 | – | – | – | 49.81 | – | 45.04 | 44.69 | – | 44.54 |
ดีเซล | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 32.94 | 31.94 | 32.94 | 32.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 44.94 | 47.14 | 49.84 | 47.14 | 47.14 | – | – | – | – | 44.94 |
แก๊ส NGV | 17.90 | 17.90 | – | – | – | – | – | – | – | 17.90 |