สาระน่ารู้ประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2567

เปิดสมรภูมิตึกระฟ้า One Bangkok 1 ใน 10 ตึกสูงที่สุดในอาเซียน

เปิดสมรภูมิตึกระฟ้า One Bangkok 1 ใน 10 อาคารสูงที่สุดในอาเซียน ด้วยโครงการที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ Signature Tower ที่สูงกว่า 430 เมตร

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก One Bangkok โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรและสมบูรณ์แบบที่สุด พัฒนาโดย บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด 

หนึ่งไฮไลท์ของโครงการ Signature Tower ที่สูงกว่า 430 เมตร ถือเป็น 1 ใน 10 ตึกที่สูงที่สุดของอาเซียนและจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ยกระดับให้กรุงเทพฯ เทียบเท่ามหานครระดับโลก โดยภายในประกอบไปด้วยพื้นที่สำนักงาน และโรงแรมหรูระดับซูเปอร์ลักชัวรี่

หากพูดถึงการแข่งขันพัฒนาตึกสูงได้กลายเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะใน “ภูมิภาคอาเซียน” ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว 

การพัฒนาตึกสูงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างอาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ในพื้นที่เขตเมืองที่มีราคาที่ดินสูง การพัฒนาในแนวดิ่งช่วยให้เกิดการใช้ประโยชน์จากที่ดินอย่างคุ้มค่าที่สุด นอกจากนี้ ตึกสูงระดับซูเปอร์ทอลยังกลายเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากทั่วโลก

ภูมิทัศน์ตึกระฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

ปี 2024 ภูมิทัศน์ตึกระฟ้าในภูมิภาคอาเซียนกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ข้อมูลจาก  CTBUH  พบว่า 100 อันดับสูงสุดของโลกในปี 2024 ประเทศมาเลเซีย ครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในภูมิภาคและเป็นอันดับ 2 ของโลก สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาเมืองและความเจริญทางเศรษฐกิจของประเทศ ตามมาด้วย เวียดนามอยู่ในอันดับ 17 ของโลก แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดของประเทศ  อินโดนีเซีย อันดับ 51 

ตึกระฟ้ามุ่งความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

น่าสนใจว่าการพัฒนาตึกระฟ้าในยุคนี้ไม่ได้เน้นเพียงแค่ความสูงเป็นสำคัญ แต่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่างเช่น One Bangkok ที่ได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน LEED และ WELL เพื่อการประหยัดพลังงานและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ใช้อาคาร

การแข่งขันพัฒนาตึกระฟ้าในอาเซียนยังคงดำเนินต่อไป โดยมีโครงการใหม่ๆ ทยอยประกาศตัวอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาค แม้จะเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์โลกในปัจจุบัน แต่อาเซียนก็ยังคงเดินหน้าพัฒนาเมืองสู่อนาคตอย่างไม่หยุดยั้ง

ขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญด้วยโครงการ One Bangkok มูลค่า 120,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 104 ไร่ ที่จะเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยเฉพาะโครงการ Signature Tower ที่สูงกว่า 430 เมตร หากสร้างเสร็จจะถือเป็น 1 ใน 10 ตึกที่สูงที่สุดของอาเซียน 

10 อาคารที่สูงที่สุดในอาเซียน 2024 (ยังไม่รวม One Bangkok)

1.PNB 118 (Merdeka 118)

   – ที่ตั้ง กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

   – ความสูง 679 เมตร

   – จำนวนชั้น 118 ชั้น

   – เปิดใช้งาน 2566

2.Landmark 81 (Vincom Landmark 81)

   – ที่ตั้ง โฮจิมินห์ซิตี้ เวียดนาม

   – ความสูง 461 เมตร

   – จำนวนชั้น 81 ชั้น

   – เปิดใช้งาน 2561

3.Petronas Twin Tower 1 

   – ที่ตั้ง กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

   – ความสูง 452 เมตร

   – จำนวนชั้น 88 ชั้น

   – เปิดใช้งาน 2541

4.Petronas Twin Tower 2 

   – ที่ตั้ง กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

   – ความสูง 452 เมตร

   – จำนวนชั้น 88 ชั้น

   – เปิดใช้งาน 2541

5.The Exchange 106

   – ที่ตั้ง กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

   – ความสูง 445 เมตร

   – จำนวนชั้น 95 ชั้น

   – เปิดใช้งาน 2562

6.Autograph Tower

    – ที่ตั้ง จากาตาร์ อินโดนีเซีย 

    – ความสูง 383 เมตร

    – จำนวนชั้น 75 ชั้น

    – เปิดใช้งาน 2565

7.Four Seasons Place Kuala Lumpur

   – ที่ตั้ง กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย

   – ความสูง 343  เมตร

   – จำนวนชั้น 75 ชั้น

   – เปิดใช้งาน 2561

8. Keangnam Hanoi Landmark Tower

   – ที่ตั้ง ฮานอย เวียดนาม

   – ความสูง 345 เมตร

   – จำนวนชั้น 72 ชั้น

   – เปิดใช้งาน 2554

9. Magnolias Waterfront Residences

    – ที่ตั้ง กรุงเทพฯ ประเทศไทย

    – ความสูง 315 เมตร

    – จำนวนชั้น 70 ชั้น

    – เปิดใช้งาน 2561

10.Grand Hyatt Metrocenter

   – ที่ตั้ง ตากีก ฟิลิปปินส์ 

    – ความสูง 259 เมตร

    – จำนวนชั้น 57 ชั้น

    – เปิดใช้งาน 2559 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“TITLE” เครือ ASW ทุ่ม 1.5 หมื่นล้าน ผุด 4 คอนโดหรูภูเก็ต รุกตลาดต่างชาติ

ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) ในเครือ แอสเซทไวส์ (ASW) ขยายตลาดอสังหาฯ ภูเก็ต เปิดตัว 4 โครงการใหม่มูลค่า 15,500 ล้าน รับกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ชาวไทย-ต่างชาติที่ต้องการที่อยู่อาศัยและการลงทุนที่มั่นคง

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ในสัดส่วน 67.94% และเดินหน้าขยายโครงการในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง โดยโฟกัสทำเลหาดบางเทา ในยาง และราไวย์

ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพโดดเด่น เหมาะกับการพัฒนาโครงการสำหรับผู้ต้องการพักผ่อนระยะยาว ด้วยความสวยงามของชายหาดที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ

นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดว่า ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในปี 2567

โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คาดว่ามูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูงในภูเก็ตจะขยายตัวราว 7.1% จากปีก่อน ขณะที่ยอดขายคอนโดมิเนียมในครึ่งแรกของปีนี้เติบโตถึง 259.8% โดยเฉพาะในโซนบางเทาและสุรินทร์ที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งแสดงถึงความต้องการที่อยู่อาศัยจากชาวต่างชาติที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง 

และมีมูลค่าทั้งหมดราว 40,190 ล้านบาท เติบโตขึ้น 799% ซึ่งทำเลที่มียอดขายใหม่โดดเด่นมากที่สุดคือ “หาดบางเทา-หาดสุรินทร์” ที่มีจำนวน 2,202 หน่วย หรือคิดเป็น 48.97% ของจำนวนหน่วยยอดขายใหม่ทั้งหมด

นายกรมเชษฐ์ ยังเผยอีกว่า ภาพรวมยอดขายของ ASW ใน 9 เดือนแรกปี 2567 มูลค่าทั้งหมด 14,578 ล้านบาท โดยสัดส่วนที่มาจาก TITLE คิดเป็น 43% ของยอดขายสะสม และปัจจุบัน TITLE มี Backlog สะสมถึง 8,022 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปี 2570

เปิดตัวโครงการใหม่ใน 4 ทำเลเด่น

จากความสำเร็จดังกล่าวและการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ASW จึงได้ปรับแผนเปิดตัวโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต โดยเปิดโครงการใหม่รวม 4 โครงการซึ่งมากกว่าแผนที่วางไว้ มูลค่าโครงการทั้งหมด 15,500 ล้านบาท ได้แก่ 

เดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE CIELO RAWAI) มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายสูงถึง 90% หลังเปิดตัวเพียงหนึ่งสัปดาห์, เดอะ โมเดวา (THE MODEVA) ที่หาดบางเทา มูลค่า 6,200 ล้านบาท, เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา (THE TITLE ARTRIO BANG-TAO) มูลค่า 2,600 ล้านบาท เตรียมเปิดขายในเดือนตุลาคม และ คาตาเบลโล (KATABELLO) ในกะตะ มูลค่า 5,500 ล้านบาท มีแผนเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2568

ทำให้ปัจจุบัน ASW และ TITLE มีคอนโดมิเนียมที่พัฒนาร่วมกันทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่ารวม 31,500 ล้านบาท และเชื่อว่าผลงานใหม่ทั้ง 4 โครงการจะช่วยเพิ่มยอดขายช่วงไฮซีซันได้อีกราว 5,000 ล้านบาทในปีนี้

นายเวคิน ตั้งกุลวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงโครงการใหม่ว่า เดอะ โมเดวา เป็นโครงการ Leisure Residences สูง 7 ชั้น จำนวน 6 อาคาร และ Pet-Friendly อีก 1 อาคาร รวม 859 ยูนิต บนพื้นที่ราว 15 ไร่ ใกล้หาดบางเทาเพียง 500 ม. และยังเป็นครั้งแรกของแบรนด์ THE TITLE ที่พัฒนาอาคารที่พักอาศัยที่มีโซน Pet-Friendly ภายในโครงการ เพื่อตอบโจทย์คนรักสัตว์ ราคาเริ่มต้น 4.1-18.7 ล้านบาท

ขณะที่ เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา เป็นโครงการ Leisure Residences สูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และอาคาร Pet-Friendly อีก 1 อาคาร รวม 435 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 6 ไร่ ใกล้กับ Porto de Phuket ห้องพักภายในอาคารเป็นแบบ Fully Fitted มีขนาดตั้งแต่ 28-132 ตร.ม. โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 4.23 – 19.67 ล้านบาท 

และยังมีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 41 รายการ ได้แก่ Feature Art Wall, Sculptural Playground, Waterfall, Floating Pool Terrace และภายในอาคารมี Health Care, Live Studio, Library Lounge, Kid Space, Onsen, Boxing Area และโซนสำหรับสัตว์เลี้ยงเช่น Pet Grooming และ Pet Pool & Playground

นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวบริการ The Esquire ที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน (Property Management) ครอบคลุมการบริหารภายในโครงการ การจัดหาและประสานผู้เช่า บริการซักรีด รวมถึงการทำความสะอาดห้องพัก เพื่อดูแลคุณภาพการอยู่อาศัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการ THE TITLE

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 28ต.ค.”แข็งค่าเล็กน้อย”ที่ระดับ 33.75 บาทต่อดอลลาร์

ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าค่อยเป็นค่อยไป ตามจังหวะราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ทิศทางเงินดอลลาร์และสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยน เงินหยวน

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้28ต.ค.2567 ที่ระดับ  33.75 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย”จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ  33.79 บาทต่อดอลลาร์ 

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่านับตั้งแต่ช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) ทยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideways Down (แกว่งตัวในกรอบ 33.64-33.80 บาทต่อดอลลาร์)

โดยเงินบาทมีจังหวะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้าง ตามการทยอยปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ซึ่งยังคงได้แรงหนุนจากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสหรัฐฯ และสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง 
แม้ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว เงินดอลลาร์จะทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องก็ตาม

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทก็ถูกชะลอลงบ้าง ตามการทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน รวมถึงการทยอยขายเงินดอลลาร์ใกล้โซนแนวต้าน 33.85 บาทต่อดอลลาร์ จากฝั่งผู้ส่งออก (Exporters) 

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาททยอยอ่อนค่าลง ตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติ และจังหวะย่อตัวลงบ้างของราคาทองคำ

สำหรับสัปดาห์นี้ เราประเมินว่า ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดรับรู้ รายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ รวมถึง ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และ รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน (เน้นหุ้นเทคฯ ใหญ่)

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

▪ ฝั่งสหรัฐฯ – ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทั้ง ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการว่างงาน (Unemployment) และยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (Job Openings)  

รวมถึงรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) 

นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า ผู้เล่นในตลาดต่างก็รอลุ้น รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะ หุ้นเทคฯ ใหญ่ The Magnificent 7 ทั้ง Alphabet, Microsoft, Meta, Amazon และ Apple ซึ่งรายงานผลประกอบการของหุ้นเทคฯ ใหญ่ ดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศในตลาดการเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ 

พร้อมกันนั้น มุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ และพัฒนาการของสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศตอบโต้การโจมตีของอิหร่านก่อนหน้า ก็จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้  

▪ ฝั่งยุโรป – ผู้เล่นในตลาดจะประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่านรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้ง อัตราการเติบโตเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ 3 และอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ BOE และ ECB 

▪ ฝั่งเอเชีย – ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ฝั่งญี่ปุ่น โดยผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นผลการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (Lower House Election) ซึ่งผลการเลือกตั้งล่าสุดสะท้อนว่า พรรค LDP (รัฐบาลปัจจุบัน) และพันธมิตร Komeito ได้ที่นั่งในสภาไม่ถึงกึ่งหนึ่ง หรือ 233 ที่นั่ง ทำให้ในระยะสั้น การเมืองญี่ปุ่นอาจมีความไม่แน่นอนอยู่ ซึ่งอาจกดดันบรรยากาศในตลาดการเงินญี่ปุ่น และกดดันให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) อ่อนค่าลงได้ ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจ

 อาทิ ข้อมูลตลาดแรงงานและยอดค้าปลีก (Retail Sales) รวมถึงอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญ คือ การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เพื่อประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของ BOJ โดยในการประชุมครั้งนี้ เรามองว่า BOJ อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.25% ทว่าต้องจับตาการส่งสัญญาณของ BOJ ต่อแนวโน้มการปรับดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต ซึ่งผลการเลือกตั้งล่าสุดก็อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ BOJ ได้ ส่วนในฝั่งจีน ผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ เดือนตุลาคม เพื่อประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน 

▪ ฝั่งไทย – ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจ เช่น ยอดการส่งออกและนำเข้า (Exports & Imports) และดุลการค้า (Trade Balance) เดือนกันยายน ดัชนี PMI ภาคการผลิต และ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ เดือนตุลาคม และนอกจากนี้ ควรจับตางานสัมนา Monetary Policy Forum โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (BOT) เพื่อประกอบการประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของ BOT พร้อมกันนั้น ควรจับตาฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ หลังนักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยขายสินทรัพย์ไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแรงขายสินทรัพย์ไทยดังกล่าวก็มีส่วนกดดันค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท เราคงเชื่อว่า เงินบาทมีแนวโน้มทยอยอ่อนค่าลง ทว่าการอ่อนค่าก็อาจค่อยเป็นค่อยไป หากราคาทองคำยังมีจังหวะปรับตัวสูงขึ้นได้ ซึ่งนอกเหนือจากทิศทางเงินดอลลาร์และราคาทองคำ ควรจับตาทิศทางสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) รวมถึง เงินหยวนจีน (CNY)

 อนึ่ง เงินบาทอาจยังคงถูกกดดันจากแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ และแรงซื้อเงินดอลลาร์ ในช่วงปลายเดือนจากบรรดาผู้นำเข้า (Importers)

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจเผชิญความผันผวน Two-Way Volatility โดยเงินดอลลาร์ยังพอได้แรงหนุนจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่า โดนัลด์ ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งและความต้องการถือเงินดอลลาร์ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางที่กลับมาร้อนแรงขึ้น แต่เงินดอลลาร์ก็อาจถูกกดดันได้พอสมควร หากรายงานข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาดไปมาก 

เราคงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward 

มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.30-34.25 บาท/ดอลลาร์

ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.65-33.85 บาท/ดอลลาร์ 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


สาวศรีสะเกษ ควง นครปฐม ซิวตั๋วลุยตบวอลเลย์บอลอาชีพไทยลีก

แอม บีลีฟ ศรีสะเกษ วีซี โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยม ตบเฉือนเอาชนะ สโมสรกรุงเทพมหานคร 3-2 เซต คว้าแชมป์วอลเลย์บอลอาชีพ โปรชาเลนจ์ 2025 พร้อมเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นตบไทยลีก

การแข่งขันวอลเลย์บอลอาชีพ โปรชาเลนจ์ ที่ยิม 4,000 ที่นั่ง สนามกีฬาเทศบาลนครปฐม จ.นครปฐม  เพื่อคัดเอา 4 ทีม เป็นชาย 2 ทีม และหญิง 2 ทีม ขึ้นไปแข่งขันวอลเลย์บอลอาชีพ ไทยแลนด์ลีก ฤดูกาล 2024-2025  เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 67 

ประเภททีมหญิง แข่งขันแบบพบกันหมด แอม บีลีฟ ศรีสะเกษ วีซี ที่เก็บชัยเอาชนะรวด 3  นัดยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ตบเฉือนเอาชนะ สโมสรกรุงเทพมหานคร 3-2 เซต (25-17, 25-11, 23-25, 14-25, 15-6) ส่งผลให้ ทีมนักตบสาวศรีสะเกษ เก็บชัยชนะ 4 นัดรวด มี 11 คะแนน คว้าแชมป์วอลเลย์บอลอาชีพ โปรชาเลนจ์ 2025 พร้อมเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในการแข่งขัน วอลเลย์บอลอาชีพ ไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 20 ฤดูกาล 2024-25 ต่อไป 

ส่วนอีกคู่ นครปฐม เอสเอสอาร์ยู ตบเอาชนะ กาญจนบุรี พาวเวอร์ วอลเลย์บอล คลับ 3-2 เซต (22-25, 25-14, 25-12, 15-25, 15-18) สาวนครปฐม ทำผลงานชนะ 3 แพ้ 1 มี 8 แต้ม คว้ารองแชมป์ ได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในศึกวอลเลย์บอลไทยแลนด์ลีก ครั้งที่ 20 เช่นกัน 

 ในขณะที่ อันดับ 3 เป็นของ เกษตรศาสตร์ วีซี มี 6 แต้ม, อันดับ 4 กาญจนบุรี พาวเวอร์ วอลเลย์บอลคลับ มี 4 คะแนน และอันดับ 5 สโมสรกรุงเทพมหานคร มี 1 แต้ม

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th


ทำความรู้จัก “เซลล์อักเสบ” มัจจุราชร้าย ทำลายกระดูกสันหลัง

ในปัจจุบันหลายคนต้องเผชิญกับปัญหาปวดหลัง ไม่ว่าจะเป็นจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน การยกของหนัก หรือ แม้กระทั่งการก้มหน้าเล่นมือถือเป็นเวลานาน อาการปวดเหล่านี้ อาจดูเหมือนเรื่องธรรมดา แต่ที่จริงแล้วอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดจาก “เซลล์อักเสบ” ซึ่งสามารถทำลายกระดูกสันหลังและเนื้อเยื่อรอบ ๆ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแลให้ถูกวิธี

นพ.ชุมพล คคนานต์ แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเอส สไปน์ เผยว่า เซลล์อักเสบ (Cellular Inflammation) คือ กระบวนการที่ร่างกายตอบสนองต่อการบาดเจ็บ การใช้งานมากเกินไป หรือ การติดเชื้อ โดยระบบภูมิคุ้มกันจะส่งสารเคมีอย่างไซโตไคน์ (Cytokines) และพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) มายังบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้เกิด อาการบวม แดง และเจ็บปวด กระบวนการนี้ช่วยให้เนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายได้รับการซ่อมแซมและป้องกันการติดเชื้อ หากปล่อยไว้นาน จนเรื้อรังจะส่งผลทำให้เนื้อเยื่อเสียหายมากขึ้น เกิดการสะสมของแคลเซียม และทำให้เกิดกระดูกงอก ซึ่งจะนำไปสู่การกดทับเส้นประสาท

นพ.ชุมพล ยังเผยถึง พฤติกรรมเสี่ยง “เซลล์อักเสบ” ในกระดูกสันหลัง ว่าการใช้ชีวิตประจำวันมีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการอักเสบในกระดูกสันหลัง คือ การนั่ง หรือ ยืนท่าเดิม เป็นเวลานาน การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนอิริยาบถ การก้มหน้าเล่นมือถือ หรือ การยืนในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ทำให้กล้ามเนื้อรอบกระดูกสันหลังเกิดการตึงเครียดและบาดเจ็บซ้ำ ๆ

การใช้งานกล้ามเนื้อเกินกำลัง: การยกของหนัก หรือการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นได้รับความเสียหาย 

ภาวะข้อกระดูกสันหลังเสื่อม: การเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกและข้อต่อ ทำให้เกิดการเสียดสีของข้อต่อที่กระดูกสันหลัง ซึ่งจะกระตุ้นการอักเสบและอาการปวดเรื้อรัง

การยกของหนัก หรือ การนั่งในท่าเดิมๆ เกิน  2 ชั่วโมง ทำให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป   (Overload) และมีการกดทับ จนเกิดอาการเสื่อมและอักเสบ เนื่องจากกระดูกสันหลังไม่ได้ถูกออกแบบ มาเพื่อรับน้ำหนักส่วนเกิน หากเปรียบเทียบกับนักยกน้ำหนัก จากที่เคยยกได้ 10 กิโลกรัม เปลี่ยนมายก 100 กิโลกรัม ร่างกายจะไม่สามารถรับน้ำหนักส่วนเกินได้ทันที

อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยที่ถูกต้องมีความสำคัญ ต่อการทราบสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวดหลัง เช่น การทดสอบทางกายภาพ หรือ การใช้เครื่อง MRI หรือ เอกซเรย์เพื่อดูโครงสร้างของกระดูกสันหลัง หมอนรองกระดูก และเนื้อเยื่อรอบ ๆ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

ปัจจุบันการนำ เทคโนโลยีที่ทันสมัย มารักษาผู้ป่วย ที่มีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ เรื้อรัง หรือ ปวดต้นคอท้ายทอย มานาน แพทย์จะแนะนำการผ่าตัดกระดูกสันหลังส่วนคอทางด้านหลัง ด้วยเทคนิค PSCD (Percutaneous Stenoscopic Cervical Decompression) เพื่อการรักษา แต่หากหมอนรองกระดูกส่วนคอ เกิดการปลิ้น อย่างรุนแรงกดไขสันหลัง หรือ เสื่อมสภาพ แพทย์จะเลือกใช้เทคนิค Endoscopic ACDF เพื่อการผ่าตัดหมอนรองกระดูกส่วนคอ ด้วยกล้องเอ็นโดสโคปแบบแผลเล็ก เข้าไปในช่องว่างภายในกระดูกคอ นำหมอนรองกระดูกที่กดทับเส้นประสาทออกมา

ขณะที่ ผู้ป่วยที่มีอาการโพรงเส้นประสาทกระดูกส่วนหลัง ส่วนเอวตีบแคบ หรือ หมอนรองกระดูกปลิ้นออกมา การรักษาด้วยเทคนิค PSLD เป็นอีกวิธีที่จะช่วยลดการกดทับเส้นประสาท โดยไม่ต้องผ่าตัดแบบเปิดแผลใหญ่ เนื่องจากแพทย์จะเจาะรูขนาดเล็กเพียง 0.5 ซม. ที่ผิวหนังบริเวณหลัง แล้วสอดกล้องเอ็นโดสโคปเข้าไปยังจุดที่มีปัญหา และเลือกตัดเฉพาะส่วนที่กดทับเส้นประสาท

การป้องกันและดูแลหลังการรักษา

  • ปรับท่านั่งและท่ายืน ในท่าที่ถูกต้อง โดยให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรงและพยายามพักเปลี่ยนอิริยาบถทุก ๆ 1-2 ชั่วโมง
  • ออกกำลังกาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและแกนกลางลำตัว (Core Muscles) เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บ เช่น การว่ายน้ำ หรือ เล่นพิลาทิส (Pilates)
  • นวดและกายภาพบำบัด ใช้การนวดและกายภาพบำบัดเพื่อคลายกล้ามเนื้อ ลดการตึงเครียด และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

นพ.ชุมพล ทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า ประชากรไทยในปัจจุบันมีอายุเฉลี่ยสูงขึ้น และเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง ที่เกิดจากกระบวนการเสื่อมถอยในวัยสูงอายุ และเริ่มพบผู้ป่วยในคนอายุน้อย ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังมากขึ้น จากพฤติกรรมเสี่ยงในการใช้ชีวิต เช่น การนั่งผิดท่า การนั่งนาน หรือ ประสบอุบัติเหตุถูกกระแทกแรงๆ ยกของหนัก หรือการเล่นกีฬาที่หักโหมจนเกินไป

ข้อมูลสถิติของโรงพยาบาลเอส สไปน์ พบว่า ได้ทำการรักษาผู้ป่วยที่เข้ามารักษาโรคกระดูกสันหลังด้วยวิธีการผ่าตัดมากกว่า 10,000 ราย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง จะเน้นการรักษาโรคที่ตรงจุด และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

โรงพยาบาลเอส สไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลัง ปรึกษา โทร.02 034 0808

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


Google Chrome อืดเป็นเต่า? เช็คด่วน! สาเหตุและวิธีแก้ไขแบบหมดเปลือก

ใครๆ ก็ชอบความเร็ว แน่นอนว่ารวมถึงตอนท่องโลกอินเทอร์เน็ตด้วย แต่เอ๊ะ! ทำไม Google Chrome ที่เคยพาเราซิ่งไปไหนมาไหน กลับกลายเป็นเต่าคลาน อืดอาดยืดยาดเสียอย่างนั้น? ไม่ต้องกังวลไป! วันนี้ Sanook Hitech จะพาไปเจาะลึกสาเหตุ และวิธีแก้ไขแบบหมดเปลือก ให้ Chrome ของคุณกลับมาเร็ว แรง ทะลุนรก เหมือนติดเทอร์โบ! 

ทำไม Chrome ถึงอืด?

  • ตัวกินทรัพยากร: Chrome นั้นขึ้นชื่อเรื่องความ “หิว” ทรัพยากรเครื่อง ทั้ง RAM และ CPU โดยเฉพาะเวลาเปิดแท็บเยอะๆ หรือเจอเว็บไซต์อลังการงานสร้าง เหมือนให้รถสิบล้อบรรทุกของเต็มคัน วิ่งขึ้นเขา แน่นอนว่าต้องอืดเป็นธรรมดา
  • ส่วนเสริม (Extensions) เยอะเกิน: ส่วนเสริมก็เหมือนอุปกรณ์เสริมรถ ยิ่งติดเยอะ ยิ่งเท่ แต่ก็ยิ่งหนัก! ทำให้ Chrome ต้องทำงานหนักขึ้น
  • แคชและข้อมูลเว็บไซต์: แคชเปรียบเสมือนสัมภาระเก่าๆ ที่พกติดรถไว้ นานวันเข้าก็รก! ทำให้ Chrome ทำงานช้าลง
  • เวอร์ชันเก่า: เหมือนขับรถรุ่นเก่า อาจมีปัญหาเรื่องอะไหล่ ทำให้วิ่งไม่ออก
  • ไวรัส: ไวรัสก็เหมือนตัวร้ายที่แอบมาตัดสายเบรก ทำให้รถ (Chrome) วิ่งไม่ออก

วิธีแก้ไข Chrome อืด

  1. อัปเดต Chrome ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด: เหมือนอัปเกรดรถให้เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด
  2. ปิดแท็บที่ไม่ได้ใช้: เหมือนเอาสัมภาระที่ไม่จำเป็นออกจากรถ ยิ่งเบา ยิ่งวิ่งเร็ว
  3. ลบส่วนเสริมที่ไม่จำเป็น: เลือกเฉพาะส่วนเสริมที่จำเป็นจริงๆ เหมือนเลือกติดอุปกรณ์เสริมเฉพาะที่จำเป็น
  4. ล้างแคชและคุกกี้: เหมือนทำความสะอาดรถ เอาขยะออกไป
  5. ลดคุณภาพการแสดงผล: เหมือนเลือกขับแบบประหยัดน้ำมัน อาจไม่แรงเท่าเดิม แต่ช่วยประหยัดพลังงาน
  6. ใช้โหมด Lite (ในมือถือ): เหมือนเลือกใช้โหมดประหยัดพลังงาน ช่วยประหยัดแบตเตอรี่และเน็ต
  7. ลองใช้ Chrome Canary: เหมือนได้ทดลองขับรถต้นแบบ อาจเจอฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
  8. พิจารณาใช้เบราว์เซอร์อื่น: เหมือนลองเปลี่ยนไปขับรถยี่ห้ออื่น อาจถูกใจกว่าเดิมก็ได้
  9. สแกนไวรัส: เหมือนตรวจเช็คสภาพรถ กำจัดตัวร้ายที่แอบแฝง
  10. เพิ่ม RAM: เหมือนเพิ่มแรงม้าให้เครื่องยนต์ ยิ่งแรง ยิ่งเร็ว ถ้าเพิ่มได้นะ

เรียกว่าวิธีจัดการกับ Google Chrome ให้เร็วขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องยากแค่ปรับพฤติกรรม การใช้งานก็จะทำให้ตัวเครื่องทำงานได้ไวขึ้นแล้วครับ ครั้งหน้า Sanook Hitech จะมีเคล็ดลับอะไรมาบอกเล่ากันต่ออย่าลืมมาติดตามนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


แคปชั่นฮีลใจ ภาษาอังกฤษ คิดบวก ให้กำลังใจตัวเอง แจกรอยยิ้มให้คนรอบข้าง

แม้ แคปชั่นฮีลใจ ภาษาอังกฤษ จะเป็นคำคมเล็กๆ ที่อาจมีทั้งแนวตลกขบขันและประชดประชันเสียดสี แต่ก็แฝงด้วยความจริงใจ ห่วงใย พร้อมให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตได้ดีสุดๆ เลยละค่ะ ซึ่งบางครั้งแคปชั่นเล็กๆ ก็มีพลังเยียวยาจิตใจให้คุณยิ้มได้เหมือนกัน เราจึงนำ 95 แคปชั่นฮีลใจ ภาษาอังกฤษ คิดบวก ที่มีทั้ง แคปชั่นให้กำลังใจตัวเอง และแคปชั่นเด็ด ช่วยแจกรอยยิ้มให้คนรอบข้างมาฝากค่าา 

     สำหรับใครที่รู้สึกหมดพลัง หมดกำลังใจ หรืออยากช่วยปลอบใจคนรอบข้าง ก็มาเติมพลังในหัวใจด้วยแคปชั่นเหล่านี้กันเถอะ! บอกเลยว่าหยิบไปโพสเมื่อไหร่ เรียกไลก์เมื่อนั้น!

แคปชั่นฮีลใจ ภาษาอังกฤษ คิดบวก คำคมให้กำลังใจ

  • Your love helps your heart to heal.
    ให้ความรักของคุณเยียวยา รักษาหัวใจของคุณ
  • The journey of a thousand miles begins with one step.
    การเดินทางนับพันไมล์ เริ่มต้นได้ด้วยก้าวเดียวเสมอ
  • Our greatest glory is not in never falling, but in rising every time we fall.
    ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของเรา ไม่ได้อยู่ที่การไม่เคยล้ม แต่อยู่ที่การลุกขึ้นมาได้ทุกครั้งที่ล้ม
  • Don’t cry because it is over, smile because it happened.
    อย่าร้องไห้กับสิ่งที่จบไปแล้ว แต่จงยิ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้น
  • Smile on, Chin up.
    ยิ้มไว้ เชิดไว้
  • Try and fail but never fail to try.
    พยายามและล้มเหลว แต่อย่าล้มเหลวโดยที่ยังไม่พยายาม
  • Life isn’t as easy as it seems, but it’s not as difficult as we think.
    ชีวิตไม่ได้ง่ายเหมือนที่เราเห็น แต่มันก็ไม่ได้ยากเหมือนที่เราคิด
  • You can get through this.
    คุณจะผ่านมันไปได้
  • It is better to walk alone, then with a crowd going in the wrong direction.
    เดินไปคนเดียว ดีกว่าเดินกับผู้คนมากมายที่เดินผิดทาง 
  • Turn your wounds into wisdom.
    เปลี่ยนบาดแผลของคุณให้กลายเป็นปัญญา
  • When you cease to dream you cease to live.
    เมื่อคุณหยุดฝัน ก็เท่ากับคุณหยุดมีชีวิต
  • Every day may not be good but there is something good in every day.
    ทุกวันอาจจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่มันต้องมีสิ่งดีๆ เข้ามาในทุกๆ วัน
  • Learn from the past, but don’t get stuck in it.
    เรียนรู้จากอดีต แต่อย่าจมอยู่กับมัน
  • Be you, not them
    จงเป็นตัวเอง ที่ไม่เหมือนใคร
  • Confidence is sexy.
    ความมั่นใจคือความเซ็กซี่
  • Learning to love myself unconditionally.
    จงเรียนรู้ที่จะรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไข 
  • Self-love is the greatest revolution.
    การรักตนเองคือการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
  • Too many of us are not living our dreams because we are living our fears.
    หลายๆ คน ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝัน เพราะมัวแต่ใช้ชีวิตกับความกลัว
  • As we grow old, we learn that life is not always easy.
    เมื่อเราโตขึ้น เราได้เรียนรู้ว่าชีวิตไม่ได้ง่ายเสมอไป
  • Mindfulness is the key to inner peace.
    สติเป็นกุญแจสู่ความสงบสุขภายในใจ
  • Life is like riding a bicycle. To keep your balance, you must keep moving.
    ชีวิตก็เหมือนกับการปั่นจักรยาน เพื่อประคองการทรงตัว คุณจะต้องปั่นต่อไปข้างหน้า
  • If you have the ability to love, love yourself first.
    ถ้าคุณเก่งกาจในเรื่องรัก จงรักตัวเองเป็นอันดับแรก
  • Beauty starts from within.
    ความสวยเริ่มจากภายใน
  • You’re allowed to scream, you’re allowed to cry, but do not give up.
    คุณกรีดร้องได้ ร้องไห้ได้ แต่อย่ายอมแพ้
  • The only person who can pull me down is myself.
    คนเดียวที่สามารถทำให้ฉันอ่อนแอได้ คือตัวฉันเอง
  • Hope is the only thing stronger than fear.
    ความหวังเป็นสิ่งเดียวที่แข็งแกร่งกว่าความกลัว
  • You are enough just as you are.
    คุณเป็นอย่างที่คุณเป็นก็พอ
  • It’s never too late to start over, never too late to be happy.
    ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่ และไม่สายเกินไปที่จะมีความสุข
  • Set your goals high , and don’t stop till you get there.
    ตั้งเป้าหมายให้สูงและอย่าหยุด จนกว่าคุณจะไปถึงจุดนั้น
  • Don’t cry because it’s over, smile because it happened.
    อย่าร้องไห้เพราะมันจบลง แต่จงยิ้มที่มันเคยเกิดขึ้น
  • I’m not perfect, but I’m still damn sexy.
    ฉันไม่ได้สมบูรณ์แบบ แต่ฉันโคตรจะเซ็กซี่เลยล่ะ
  • If you want to be happy, do not dwell in the past.
    ถ้าคุณอยากมีความสุข ก็อย่าจมอยู่กับอดีต
  • Life becomes easier and more beautiful when we can see the good in other people.
    ชีวิตจะง่ายขึ้นและสวยงามขึ้น เมื่อเรามองเห็นสิ่งที่ดีในตัวคนอื่น
  • A bad day doesn’t mean you have a bad life.
    วันที่แย่ไม่ได้หมายความว่าคุณนั้นมีชีวิตที่แย่
  • Winners are losers who got up and gave it one more try.
    ผู้ชนะคือผู้แพ้ที่ลุกขึ้นและลองอีกครั้ง
  • I am more than just a pretty face.
    ฉันมีดีมากกว่าแค่ใบหน้าสวย ๆ
  • Do what makes you feel alive and happy.
    จงทำในสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาและมีความสุข
  • Mindfulness is the anchor that keeps me grounded amidst life’s storms.
    การมีสติเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวฉันให้ยืนหยัด ท่ามกลางมรสุมแห่งชีวิต
  • Love is a journey, not a destination.
    ความรักคือการเดินทางไม่ใช่จุดหมายปลายทาง

แคปชั่นกำลังใจ คิดบวก สู้ชีวิต 

  • No one can make you feel inferior without your consent.
    ไม่มีใครสามารถทำให้คุณรู้สึกต่ำต้อยได้ หากคุณไม่ยอมรับมัน
  • Life is too short to be shy. 
    ชีวิตมันสั้นเกินกว่าจะมานั่งเขินอาย
  • Life isn’t about finding yourself. Life is about creating yourself.
    ชีวิตไม่ได้เกี่ยวกับการค้นหาตัวเอง ชีวิตคือการสร้างตัวคุณเอง
  • Life is better when you’re laughing.
    ชีวิตดีขึ้นเมื่อคุณหัวเราะ
  • Happiness is not having what you want. It is appreciating what you have.
    ความสุขไม่ใช่การได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่คือการเห็นคุณค่าในสิ่งที่มี
  • Tough situations build strong people in the end.
    สถานการณ์ที่ยากลำบาก จะสร้างคนที่แข็งแกร่งในที่สุด
  • You are never too old to be cute. 
    คุณไม่ได้แก่เกินไปที่จะน่ารัก
  • Growing and glowing.
    จงเติบโตและเปล่งประกาย
  • Even with a broken crayon, I can still draw a rainbow.
    แม้ว่าดินสอสีจะหัก ฉันก็ยังวาดสายรุ้งได้
  • It is never too late to be what you might have been.
    ไม่เคยมีคำว่าสายเกินไปที่จะเป็นในสิ่งที่คุณอยากจะเป็น
  • Cute is the new cool.
    น่ารัก คือความเท่แบบใหม่
  • Believe you can and you’re halfway there.
    เชื่อว่าคุณทำได้ คุณก็มาถึงครึ่งทางแล้ว
  • No one is perfect – that’s why pencils have erasers.
    ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ – นั่นคือเหตุผลว่าทำไมดินสอจึงมียางลบ
  • Turning wounds into wisdom and pains into gains.
    เปลี่ยนบาดแผลให้เป็นปัญญา และเปลี่ยนความเจ็บปวดให้เป็นกำไร
  • Keep your head up, things will get better.
    ยืนหยัดเข้าไว้ เดี๋ยวอะไรๆ ก็จะดีขึ้น
  • You can always start again.
    คุณสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
  • It’s okay not to be okay.
    ถึงจะไม่โอเค แต่ก็ไม่เป็นไร 
  • You’re stronger than you know.
    คุณแข็งแกร่งกว่าที่คุณรู้
  • If you ever want to love someone, love yourself unconditionally first.
    ถ้าคุณอยากจะรักใครสักคน จงรักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขเสียก่อน
  • What’s meant to be will always find a way 
    สิ่งที่เราตั้งใจไว้ จะหาทางได้เสมอ
  • Life lesson to learn is… sometimes the good guys don’t win.
    บทเรียนชีวิตที่ต้องเรียนรู้คือ… บางครั้งคนดีก็ไม่ชนะเสมอไป
  • No matter what you’re going through, there’s a light at the end of the tunnel.
    ไม่ว่าคุณจะเจออะไรก็ตาม มีแสงที่ปลายอุโมงค์เสมอ
  • Tough times don’t last, tough people do. 
    ช่วงเวลาที่มันแย่ๆ มันจะไม่อยู่กับเรานาน แต่คนที่เข็มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่ได้นาน
  • Happiness is the secret to all beauty.
    ความสุขเป็นเคล็ดลับของทุกความงาม
  • Success is not the key to happiness, happiness is the key to success.
    ความสำเร็จไม่ใช่กุญแจสู่ความสุข ความสุขคือกุญแจสู่ความสำเร็จ
  • You’re not alone, we’re in this together. 
    คุณไม่ได้อยู่คนเดียว เราจะผ่านไปด้วยกัน
  • I’m the best you’ll never ever get.
    ฉันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ที่คุณไม่มีทางได้ครอบครอง
  • Sun is alone too, but still shines.
    ดวงอาทิตย์ก็โดดเดี่ยวเหมือนกัน แต่ก็ยังส่องแสงอยู่
  • Forgive yourself for your faults and move on.
    จงให้อภัยตัวเองสำหรับความผิดพลาดและก้าวต่อไป
  • Don’t look for happiness, Create it.
    อย่าพยายามมองหาความสุข แต่จงหาทางสร้างมันขึ้นมา
  • Beauty begins the moment you decide to be yourself.
    ความงามเริ่มต้นในชั่วขณะที่คุณตัดสินใจเป็นตัวของตัวเอง
  • The Best way to be loved is to love yourself.
    วิธีที่ดีที่สุดที่จะให้ใครมารัก คือ การรักตัวเอง
  • Face challenges with confidence.
    จงเผชิญกับความท้าทายด้วยความมั่นใจ
  • Love is all around you. You just have to take the time to feel it.
    ความรักอยู่รอบตัวคุณ คุณเพียงแค่ต้องใช้เวลาในการรู้สึกมัน
  • Inner beauty will always be in fashion.
    ความงามจากภายในจะคงอยู่ในแฟชั่นเสมอ
  • Stars don’t shine without darkness.
    ดวงดาวไม่ส่องแสงโดยปราศจากความมืด
  • Be a shining star in the darkest of nights.
    จงเป็นดาวที่ส่องแสงในคืนที่มืดมนที่สุด
  • Happiness is not by chance, but by choice.
    ความสุขไม่ใช่เกิดโดยบังเอิญ แต่เป็นทางเลือก
  • There are beautiful days ahead.
    มีวันที่สวยงามรออยู่ข้างหน้า
  • The best thing to hold onto in life is each other.
    สิ่งที่ดีที่สุดที่จะยึดมั่นในชีวิต คือกันและกัน
  • What you believe, remember, you can achieve.
    สิ่งที่คุณเชื่อจำไว้ว่า คุณทำได้
  • Motivation gets you moving, but determination keeps you going.
    แรงบันดาลใจทำให้คุณเคลื่อนไหวได้ แต่ความมุ่งมั่นจะทำให้คุณก้าวต่อไป
  • The future belongs to those who believe in the beauty of their dreams.
    อนาคตเป็นของคนที่เชื่อในความฝันของตัวเอง
  • You don’t need to see the whole staircase, just take the first step.
    คุณไม่จำเป็นต้องเห็นขั้นบันไดทั้งหมด ขอแค่เริ่มต้นที่ก้าวแรก
  • Sometimes the heart sees what is invisible to the eye.
    บางครั้งหัวใจจะมองเห็น สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา
  • Don’t give up the beginning is always the hardest.
    อย่าเพิ่งยอมแพ้ จุดเริ่มต้นนั้นมักจะยากที่สุดเสมอ
  • Our attitude toward life determines life’s attitude towards us.
    ทัศนคติของเรา เป็นตัวกำหนดชีวิตของเรา
  • Believe in yourself
    เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้
  • We failed, we cried, we lost but then we will rise and strong again.
    เราล้มเหลว เราร้องไห้ เราแพ้พ่าย แต่เราจะลุกขึ้นและกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง
  • Don’t be the same. Be better!
    อย่ามัวแต่เป็นเหมือนเดิม เราต้องดีกว่าเดิม!
  • Don’t be afraid to choose a different path than others.
    อย่ากลัวที่จะเลือกเส้นทางของตัวเอง ถึงแม้มันจะแตกต่างจากคนอื่น
  • Life always offers you a second chance.
    ชีวิตจะให้โอกาสคุณครั้งที่สองเสมอ
  • No matter how much it hurts, you have to hold your head up and keep going.
    ไม่ว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน จงเชิดหน้าขึ้น.. และก้าวต่อไป
  • If you get tried, learn to rest not to quit
    ถ้าคุณรู้สึกเหนื่อย จงเรียนรู้ที่จะพัก แต่อย่าล้มเลิก
  • A smile is happiness you’ll find right under your nose.
    รอยยิ้มคือความสุข ที่คุณหาพบได้ แค่ใต้ปลายจมูก
  • It’s hard to beat a person who never gives up.
    มันยากที่จะเอาชนะคนที่ไม่เคยยอมแพ้

ขอบคุณข้อมูลจาก women.trueid.net


เทคนิคกินอาหารคลีนในผู้ชายให้ได้ผล น้ำหนักลด หุ่นดี แถมเฮลตี้ไปอีก !

เมื่อคุณผู้ชายต้องการลดน้ำหนัก อาหารคลีนที่ผ่านกระบวนการแปรรูปเพียงเล็กน้อย หรือไม่มีการแปรรูปใด ๆ มาเลย ให้ความสด สะอาด ไม่ผ่านการหมักดองหรือปรุงรสมากเกินไป ไม่เค็มหรือหวานจนอันตราย สามารถตอบโจทย์สายลดน้ำหนักแบบรักษาสุขภาพ

ได้ดีแน่นอน เพราะอาหารคลีนถือเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก หรือพยายามลดไขมันเสียในร่างกาย แถมได้สุขภาพดีตามมา แบบนี้แล้วจะไม่ให้หนุ่มๆ ยุคนี้หันมากินอาหารคลีนกันได้อย่างไร จริงมั้ย?

ผู้ชายต้องการลดน้ำหนัก กินอาหารคลีนแล้วดีหรือไม่?

ผู้ชายที่มีพื้นฐานร่างกายแข็งแรง จะมีมวลกล้ามเนื้อและฮอร์โมนเพศมากกว่า ซึ่งช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเผาผลาญไขมัน ทำให้ผู้ชายลดน้ำหนักได้ง่ายและเร็ว นอกจากนี้ ร่างกายของผู้ชายยังเผาผลาญพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้กินอาหารได้เท่าเดิมหรือมากกว่า โดยไม่เพิ่มน้ำหนักเร็วเท่ากับผู้หญิง

ดังนั้น ผู้ชายจึงลดน้ำหนักได้ง่ายมาอยู่แล้ว ส่วนการรับประทานอาหารคลีน จะสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้น ด้วยการมอบสารอาหารที่จำเป็น ไม่ว่าจะวิตามิน แร่ธาตุ โปรตีนคุณภาพสูง และไขมันดี สารอาหารเหล่านี้สามารถเสริมสร้างสุขภาพหัวใจและสมอง ควบคุมน้ำหนัก และสร้างกล้ามเนื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ การรับประทานอาหารคลีน จึงยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายอีกด้วย

มือใหม่เริ่มกินคลีน ต้องมีวัตถุดิบอะไรบ้างที่ควรมีไว้ติดตู้เย็น

ลองมาสำรวจส่วนผสมและวัตถุดิบที่จำเป็นในการปรุงอาหารคลีน ที่เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการควบคุมหรือลดน้ำหนักกันดีกว่าที่ผู้ชายควรมีติดตู้เย็นไว้ คือ

  • ผัก โดยเฉพาะผักใบเขียว มีความสำคัญมากในทุกมื้ออาหาร เนื่องจากมีไฟเบอร์สูง ผักสดหรือแช่แข็งสามารถนำมาใช้ในการปรุงอาหารได้
  • เมื่อพูดถึงผลไม้ ให้เลือกผลไม้สดหรือแช่แข็ง แทนผลไม้กระป๋อง ซึ่งมักมีการเติมน้ำตาลเพิ่มเข้าไป
  • ธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสี เช่น ขนมปังโฮลวีท ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และข้าวบาร์เลย์ รวมไปถึงพืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วและถั่วเลนทิล เป็นแหล่งสารอาหารที่มีประโยชน์สูง
  • เลือกถั่วและเมล็ดพืชที่มาจากธรรมชาติมากกว่าแบบแปรรูป หลีกเลี่ยงถั่วและเมล็ดพืชที่ปรุงรสแล้วเติมน้ำตาลหรือเกลือ
  • ไขมันดีจากปลาแซลมอน อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • สำหรับแหล่งโปรตีนไม่ติดมัน เลือกเนื้อไม่ติดมัน เช่น อกไก่ ไก่งวง ปลา หรือโยเกิร์ตกรีก รวมถึงพืชตระกูลถั่วชนิดต่าง ๆ
  • ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส นมสด และโยเกิร์ตธรรมชาติ ก็เป็นแหล่งโปรตีนที่ดีเช่นกัน

หนุ่ม ๆ ที่เพิ่งเริ่มทานอาหารคลีน อาจจะปรับตัวไม่ได้ในตอนแรก เนื่องจากอาจไม่คุ้นเคยกับรสชาติของวัตถุดิบ แต่เชื่อว่าถ้าคุณได้ลองทานไปสักพัก คุณจะต้องติดใจอย่างแน่นอน ไม่เพียงแต่จะอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณอีกด้วย เหมาะสำหรับผู้ชายที่ต้องการควบคุมอาหารหรือลดน้ำหนัก

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com


ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28/10/2567

ชนิดทองราคารับซื้อ กรัมละราคารับซื้อ บาทละราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%n/a43,600.0043,700.00
ทองรูปพรรณ 96.5%2,824.0042,811.8444,200.00
ทองรูปพรรณ 90%2,541.6038,530.66n/a
ทองรูปพรรณ 80%2,259.2034,249.47n/a
ทองรูปพรรณ 50%1,271.0019,268.36n/a
ทองรูปพรรณ 40%988.0014,978.08n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%2,926.0044,358.16n/a

ราคาน้ำมันประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 28/10/2567



ปตท.

บางจาก

เชลล์

เอสโซ่

คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี

พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้
แก๊สโซฮอล์ 9535.7535.7536.3535.7535.7535.7535.7535.7535.7535.75
แก๊สโซฮอล์ 9135.3835.3835.9835.3835.3835.3835.3835.3835.3835.38
แก๊สโซฮอล์ E2033.6433.6434.2433.6433.6433.6433.6433.6433.64
แก๊สโซฮอล์ E8533.3933.3933.39
แก๊สโซฮอล์ 95 พรีเมี่ยม44.3449.8449.8449.8444.34
เบนซิน 9543.9449.8144.4444.0943.94
ดีเซล32.9432.9433.4432.9432.9432.9432.9432.9432.9432.94
ดีเซลพรีเมี่ยม44.9447.1449.8447.1447.1444.94
แก๊ส NGV18.5918.5918.59
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า