Blog Post

 คนอ้วนต้องระวัง!! ผลวิจัยชี้ ไขมันในร่างกายมากเกินไป ส่งผลให้สมองมีขนาดลดลง

ช่างเป็นการสแกนสมองที่น่าสนใจเพราะนักวิจัยได้พบว่าความอ้วนส่งผลต่อโครงสร้างของสมอง การศึกษาครั้งนี้ได้รวบรวมผลการสแกน MRI ของคนหลายพันคน เพื่อตรวจสอบว่าโรคอ้วนมีผลต่อสมองอย่างไร การวิจัยนี้ได้ดำเนินการโดยศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Leiden ในเนเธอร์แลนด์ โดยสแกนสมองของผู้เข้าร่วมงานวิจัยกว่า 12,087 คน โดยการตรวจด้วยเครื่อง MRI

สมองของคนเราประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลักคือ สมองเนื้อสีเทา (grey matter) เป็นเนื้อเยื่อสมองที่อยู่ส่วนด้านนอกซึ่งมีเซลล์ประสาทเป็นจำนวนมาก และ สมองเนื้อสีขาว (white matter) เป็นเนื้อเยื่อสมองที่อยู่ด้านในมีหน้าที่ส่งสัญญาณระหว่างเซลล์ประสาท

ภาพ MRI สแกนให้เห็นถึงสมองของผู้หญิงอายุ 65 ปีทั้งสองคน คนซ้ายมีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายเพียง 13 % ในขณะที่คนขวามีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายถึง 49 % เป็นการแสดงให้เห็นว่าปริมาณของโครงสร้างสมองเนื้อสีเทาลดลง

ภาพต่อมาจะแสดงให้เห็นถึงสมองเนื้อสีเทาที่ลดลงอย่างมากของผู้หญิงคนขวา

การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสมองระหว่างผู้หญิงที่ผอมบาง (คนซ้าย) และผู้หญิงอ้วนกว่า (คนขวา) เมื่อมองจากมุมด้านข้างจะเห็นได้ว่าสมองเนื้อสีเทาน้อยลงแสดงว่ามีเซลล์ประสาทน้อยลง

นักวิจัยพบว่าคนอ้วนมีสมองส่วนเนื้อสีเทาขนาดลดลง ซึ่งการที่สมองเนื้อสีเทาน้อยลงอาจทำให้เกิดการสูญเสียของเซลล์ประสาท ส่วนผลกระทบของสมองเนื้อสีขาวนั้นอาจจะส่งผลต่อวิธีการที่สมองส่งสัญญาณไปยังอวัยวะสำคัญต่างๆ อีกทั้งความอ้วนอาจนำไปสู่การอักเสบจนทำลายเนื้อเยื่อสมองได้

ผู้นำทีมการวิจัยโดย ดร. Ilona Dekkers นักรังสีวิทยา กล่าวว่า เราพบว่าการมีไขมันในร่างกายมากเกินไปนั้นเกี่ยวข้องกับโครงสร้างที่สำคัญของสมอง รวมถึงโครงสร้างของสมองเนื้อสีเทา 

ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com

---

วิธีกำราบหงส์แดง

ผ่านไป 10 นัดแล้วนะครับสำหรับสงครามแข้งพรีเมียร์ลีกประจำฤดูกาล 2019-20

ลิเวอร์พูล นำเป็นจ่าฝูงด้วยความเร็วแรงแบบทะลุส้นตีน โดยทำสถิติ ชนะ 9 เสมอ 1 แพ้ 0 ยิงได้ 23 และเสีย 8 ประตู ทิ้งห่างทีมตามอย่าง แมนฯ ซิตี้ อยู่ถึง 6 แต้ม

ทีนี้ลองนำไปเทียบกับ 10 นัดแรกของเมื่อฤดูกาลที่แล้วดูนะครับ

อืมมมมม…นะ

ผ่าน 10 นัดแรกของฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูลเก็บได้มากกว่าฤดูกาลที่แล้ว 2 แต้ม คิดง่ายๆ ตามหลักคณิตศาสตร์ ดีไม่ดีพวกพี่ๆ เขาอาจสะสมได้ถึง 100 แต้มเลยทีเดียว !!!

ฟอร์มการเล่นโดยรวมตลอด 10 นัดที่ผ่านมาก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ถ้าคะแนนเต็ม 10 ผมให้ 7.5 แบบไม่ต้องบอกผ่าน โดย 2.5 คะแนนที่ถูกตัดออกไป เหตุเพราะมันมีอยู่ประมาณ 3-4 นัดที่พวกเขาโชว์ฟอร์มไม่น่าประทับใจเท่าไหร่ และตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องกระเสือกกระสน

แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดได้อย่างหวุดหวิดอยู่ดี

ดังฉะนั้นจึงไม่ต้องห่วง (ม่องห่วง) ในเรื่องคุณสมบัติของทีมที่จะประสบความสำเร็จ เพราะมันอัดแน่นอยู่ในทุกอณู

เหตุผลสำคัญที่บอกว่าทำไม ผลงานของ ลิเวอร์พูล ถึงไฉไลเป็นบ้ามีหลักๆ อยู่ 2 ประการ หนึ่งคือเกมรุกอันดุดัน เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ และสองคือเกมรับอันเหนียวแน่นแข็งแกร่ง

พวกเขามีความช่ำชองในการทำลายตาข่าย และรู้วิธีเอาชนะคู่แข่งด้วยเกมรุกที่หลากหลายรูปแบบ มิหนำยังเพียบด้วยอาวุธแบบครบมือทั้งระเบิดน้อยหน่า, บาซูก้า, เอ็ม 16, แม็กนั่ม จุด 45 ที่ขอยืมมาจาก คลินท์ อิสต์วู๊ด จากภาพยนตร์เรื่องนั้น – Dirty Harry, ค้อนปอนด์, ขวาน, สปาร์ต้า, มีดทำครัว, ส้อม, ไม้เสียบลูกชิ้น และโดยไม่เว้นแม้แต่เอาผ้าเช็ดหน้าไปชุบน้ำให้ชุ่มแล้วหมุนให้เป็นเกลียว ก่อนดีดใส่คู่แข่ง

10 นัดแรกที่ผ่านมา สารภาพตามตรงเลยแล้วกันว่าเด็กผีอย่างผมพลาดชมเกมของพวกเขาไปแค่ 2 นัดครึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุจำเป็นบางประการ

เกมที่อัด นิวคาสเซิ่ล 3-1 ผมอยู่ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด พอดี – เลยไม่ได้ดู ขณะเกมเชือด เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0 ผมดูครึ่งแรกไม่ทัน เพราะการจราจรที่วายป่วงของกรุงเทพเมืองนรกไม่อนุญาตให้ผมเดินทางกลับถึงบ้านทันเวลา และเกมล่าสุดกับ
สเปอร์ส ที่ดันแข่งเวลาเดียวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งก็พยายามเหวี่ยงสายตามาดูอีกจอเป็นระยะ

ตามสายตาของท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผม มันมีเกมที่ ลิเวอร์พูล เกือบเอาตัวไม่รอดอยู่ 3 นัดด้วยกัน

1. เกมบุกเชือด เชลซี 2-1

2. เกมที่เฉือน เลสเตอร์ 2-1 ในบ้าน

3. ศึกแดงเดือดที่เสมอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1

ในการศึกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ พวกเขาชิงจังหวะขึ้นนำก่อนถึง 2 ประตู จากลูกเซ็ตพีซล้วนๆ ทั้งที่รูปเกมถือว่าไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แถมครึ่งหลังยังถูกเจ้าถิ่นพับสนามบุกใส่จนโงนเงน

เกมที่เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ พวกเขาเหนือกว่าในครึ่งแรกพลางกะซวกประตูขึ้นนำ 1-0 ก่อนกุนซือเก่าอย่าง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะแก้หมากเตะออกมาได้ดีจนสามารถตามตีเสมอได้ในครึ่งหลัง และทำท่าว่าจะแบ่งแต้มได้อยู่รอมร่อ

ทว่าด้วยความสะเพร่าของตัวเอง ลิเวอร์พูล จึงได้จุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ในศึกแดงเดือดก็เป็นผู้เล่นสายพันธุ์อสูรที่เข้าปะทะด้วยความหน่วงหนักอย่างถึงลูกถึงเมียพลางวางหลังสามให้เกมรับแน่นหนาแล้วชิงจังหวะขึ้นนำได้สำเร็จ ก่อนจะยื้อไปถึงช่วงท้ายเกม ซึ่งดูแล้วความปราชัยเป็นเกมแรกของฤดูกาลกำลังอ้าแขนต้อนรับพลางยักคิ้วใส่พลพรรคหงส์แดงอย่างเย้ยหยัน

บัดดล ลิเวอร์พูล ก็มีดีพอที่จะเอาตัวรอดจากความพ่ายแพ้

ส่วนอีกหนึ่งเกมที่สร้างความลำบากใจให้พวกเขาอย่างจงหนัก คือเกมที่บุกไปอัด เชฟฯ ยูไนเต็ด 1-0

เกมนั้น “เครื่องจักรสีแดง” เจอวิธีการเล่นแบบรถบัสจากเจ้าถิ่นจนเจาะไม่เข้า โดยขนเอาอาวุธทุกอย่างที่มีออกมาใช้แล้วก็ยังไม่ได้ผล

สุดท้ายดันมาได้ประตูชัยแบบง่ายๆ ซะอย่างนั้น จากความผิดพลาดของนายทวารเจ้าถิ่นที่ดันรับลูกหลุดมือลอดเหง้าดากส์ตัวเองเข้าประตูแบบไม่มีเหตุผล และไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น

ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สเปอร์ส ชิงจังหวะขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีแรกเป็นโบนัส ประหนึ่งเจ้าถิ่นต่อให้ก่อน 1 ประตู ซึ่งมันกลับกลายเป็นดาบ 2 คม

การขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วย่อมดีอยู่แล้วนะครับ เพียงทว่ามันกลับกลายเเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ ลิเวอร์พูล ต้องเหยียบคันเร่งแล้วโหมกระหน่ำใส่แบบไม่ลืมหูลืมตา

หลังตกเป็นฝ่ายตามหลังอย่างรวดเร็ว “เรด แมชชีน” บุกมาเป็นระลอก รัวเป็นชุดๆ ดูอย่างไร “กุ๊กไก่” ก็ไม่รอด ซึ่งหากยังเสมอกันอยู่ ลิเวอร์พูล ก็คงไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งแบบจมตีนซะขนาดนั้น

แล้วน้องไก่ก็ไม่รอดจริงๆ

อย่างไรก็ตาม

เกมหักคอระกาเมื่อวันอาทิตย์เป็นอีกครั้งที่ท่านผู้ชมทางบ้านอย่างผมสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง

ผมมองว่า ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ มีเกมรุกที่เข้าขั้นกะซวกไส้ทีมหนึ่ง แถมจัดอยู่ในประเภทถอยหลังไม่เป็น แต่พอขึ้นนำเร็ว พวกเขาดันถอยลงไปตั้งรับมากเกินไป ซึ่งนั่นไม่ต่างจากการ
กวักมือเรียกให้ ลิเวอร์พูล บุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว

ต่อเมื่อตกเป็นฝ่ายตามหลังบ้าง ลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็เปลี่ยนวิธีการเล่นด้วยถูกสถานการณ์บังคับ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าถ้าคิดจะบุก มึงก็บุกได้นี่หว่า แถมยังเกือบยิงประตูคืนได้เช่นกัน

สังเกตเห็นอะไรไหมครับ ???

คือผมค้นพบว่าหลายทีมที่พยายามอุดประตูแบบ “พาร์ค เดอะ บัส” กับ ลิเวอร์พูล ส่วนใหญ่มักจะทำได้แค่เกือบ…เกือบจะรอด

อาร์เซน่อล ใช้วิธีถอยและหุบลงมากองรวมกันในกรอบเขตโทษ เพื่อปิดพื้นที่ให้แน่นหนามากที่สุด โดยออกวีซ่าให้ฟูลแบ็คทั้ง 2 ข้างของ ลิเวอร์พูล ขึ้นมาเปิดบอลได้ตามอัธยาศัยด้วยมั่นใจว่าน่าจะเอาอยู่

เกมรุกที่ ลิเวอร์พูล ประเคนเข้าใส่ ยัดบอลเข้าไปในเขตโทษ ถ้าไม่ติดหัว ก็ติดตัว และติดแข้ง-ติดขาผู้เล่นของทีมปืนใหญ่ เหตุเพราะการจราจรในกรอบเขตโทษหนาแน่นเกินไปจนแทบไม่มีพื้นที่

วิธีการเล่นของ อาร์เซน่อล เหมือนจะ “เอาอยู่”

แต่แล้ว ลิเวอร์พูล ก็ยังอุตส่าห์มาได้ประตูปลดล็อคจากลูกเตะมุม ด้วยบอลที่ล่องลอยมากลางอากาศ หากมันแม่นยำ และลงล็อคพอดี มันก็ป้องกันได้ยาก ซึ่งนี่คือหลักฐานแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความชำนิชำนาญในการทำประตูทุกรูปแบบจริงๆ

เส้นทางสู่ความสำเร็จยังเหลืออีกยาวไกลถึง 28 นัด

10 นัดแรก ลิเวอร์พูล เจอคู่แข่งในระดับพญายักษ์ไปแล้ว 4 ทีมคือ อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนฯ ยูไนเต็ด และสเปอร์ส โดยเก็บได้ทั้งหมดถึง 10 แต้ม ขณะที่คู่ขับเคี่ยวของตัวเองอย่าง แมนฯ ซิตี้ เพิ่งเจอ สเปอร์ส ไปทีมเดียวเท่านั้นเอง

ในเมื่อคุณบรรลุวิธีการตบเด็กแบบไม่มีปัญหา ผลงานในการเจอกันเองของทีมในวรรณะเดียวกันนี่แหละที่จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ซึ่งถึงตรงนี้ ลิเวอร์พูล ทำได้ยอดเยี่ยมดีนักแล

ถ้าผมยกวลีสุดฮิตของ เดอะ ค็อป ในอดีตมาบอกว่าฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล แชมป์แน่ – เด็กหงส์ตัวจริงที่ไม่ใช่พวกกะโหลกกะลาก็มักจะถ่อมตัวบอกว่ายังไม่กล้ามั่นใจแบบเต็มประดาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว เนื่องจากผ่านมาเยอะ แล้วก็เจ็บมาเยอะ ต่อให้นำห่างกว่านี้ก็ไม่กล้ามั่นใจ

ว่าแล้วจึงไม่ขอบอกแบบนั้นดีกว่า โดยขอเปลี่ยนเป็นการตั้งสมมุติฐานว่าหากคิดจะหยุด ลิเวอร์พูล ไม่ให้เป็นแชมป์ เพื่อความสงบสุขของชาวโลก ต้องทำอย่างไร ???

แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวที่สาธิตวิธีการหยุด ลิเวอร์พูล ให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดว่านั่นไม่ใช่การถอยลงไปตั้งรับลึกๆ หรืออุดประตูแบบรถบัส

แต่เป็นการชิงจังหวะเข้าปะทะอย่างรวดเร็วและหน่วงหนักต่างหาก ในเมื่อจุดเด่นของ ลิเวอร์พูล คือการ “เพรสซิ่ง” มึงก็ต้องเพรสซิ่งกลับตามสุภาษิตหนามยอกเอาหนามบ่งนั่นแหละแล้วพยายามหาจังหวะจู่โจมแบบกองโจรมูจาฮีดีน

น่าเสียดายที่ความฟิตของผู้เล่นปีศาจแดงไม่อนุญาตให้พวกเขาทำอะไรแบบนั้นตลอดทั้งเกม เพราะไม่ใช่สไตล์การเล่นหลักของตัวเอง – ต่อเมื่อเปลี่ยนวิธีการเล่นในครึ่งหลังมาเป็นการตั้งรับอย่างรัดกุมและระมัดระวังยังก็ต้านไม่อยู่

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ก็ใช้วิธีคล้ายๆ กันคือเดินเข้าปะทะพลางเปิดหน้าเข้าหาเลย เพียงแต่ดันพลาดท่าเสียไปก่อน 2 ประตูที่ไม่ได้มาจากการเข้าทำแบบโอเพ่น เพลย์ ของ ลิเวอร์พูล ก่อนเปิดเกมรุกบุกกระหน่ำใส่จนโงนเงน สถิติหลังเกมเหนือกว่าทั้งเปอร์เซนต์การครองบอลและจังหวะทำประตู

ทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี สามารถเล่นงาน ลิเวอร์พูล ได้ในระดับหนึ่ง ถึงขนาดนั้นก็ไม่เพียงพอที่จะโค่นลูกทีมของ
เจอร์เก้น คล็อปป์ ลงได้

เมื่อตกอยู่ในสภาวะฉุกเฉิน สเปอร์ส ก็จำเป็นต้องบุกใส่แบบไม่มีอะไรจะเสีย

เพียงแต่เวลามันเหลือน้อยไปหน่อย เพราะมัวแต่ตาขาวแล้วถอยตั้งรับมากเกินไปนั่นแหละ

การเจอกับ “เครื่องจักรสีแดงผู้อหังการ” และนาทีนี้เป็นอะไรที่ลำบากและระทมกบาลมากนะครับ

ถ้าอุดประตูก็รอโดนได้เลย เพราะ ลิเวอร์พูล หาวิธีทำลายตาข่ายได้เก่งฉกาจยิ่งนัก

ถ้าเปิดหน้าแลกก็จะกลายเป็นเข้าทาง เฮฟวี่ เมตัล ฟุตบอล ของพวกเขาเสียเปล่าๆ

ย้อนกลับไปในเกมที่เซิ้งกับ เลสเตอร์ ซิตี้ หลังจากตีเสมอได้สำเร็จ พลพรรคจิ้งจอกสยามเหิมเกริมด้วยคิดจะบุกมาเหยียบจมูกหงส์แดงถึงถิ่น ซึ่งสุดท้ายพวกเขาก็ตายตอนจบ เพียงแต่การเล่นแบบเอาตายของ เลสเตอร์ ไม่ใช่เหตุผลแห่งความปราชัย มันก็เกิดจากความผิดพลาดของตัวเองซะมากกว่า

ทั้งนี้ทั้งนั้น

เมื่อพิจารณาจากสิ่งที่เกิดขึ้นใน 10 นัดแรกอย่างละเอียดถี้ถ้วน มันบอกเราอย่างนั้น คืออย่าไปกลัว อย่าไปกลัว ลิเวอร์พูล จนเกินไป

เพราะถ้าปอดแหกเมื่อไหร่ก็ตายเมื่อนั้น

ถ้าไม่กลัว ถ้ากล้าๆ มันก็อาจจะเด๊ดห่าได้เช่นกัน แต่อย่างน้อยก็ยังได้สู้

…ว่าแล้วก็ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงกันและเสี่ยงตายบ้างครับ สังเกตได้ว่าฤดูกาลนี้พวกเขาเสียประตูง่ายขึ้น และเสียประตูมากขึ้น อย่าไปงอมืองอตีนรอให้ ลิเวอร์พูล กระทำชำเราอยู่ข้างเดียว

เพราะนั่นมีค่าเท่ากับตายกับตาย !!   

ขอบคุณข้อมูลจาก siamsport.co.th

---

จบแล้ว! Netpreneur รุ่นบุกเบิกอาลีบาบา

อาลีบาบา บิซิเนส สคูล สถาบันอบรมภายใต้อาลีบาบากรุ๊ป ประกาศการจบหลักสูตรอบรม Netpreneur ประเทศไทยของผู้ประกอบการจำนวน 43  ราย ซึ่งจัดขึ้นร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) (NIA) และบริษัทกองทุนร่วมลงทุนข้ามชาติ Gobi Partners

หลักสูตรอบรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-30 ตุลาคม 2562 ที่สำนักงานใหญ่อาลีบาบา ณ เมืองหังโจว ประเทศจีน มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทั้งรูปแบบธุรกิจดั้งเดิมและรูปแบบดิจิทัลให้สามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำประโยชน์จากวิธีการบริหารธุรกิจที่หลากหลายของอาลีบาบามาผลักดันการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศไทย   มีผู้ประกอบการทั้งสิ้น 43  รายที่ผ่านกระบวนการคัดเลือก ผู้เข้าร่วมหลักสูตรมาจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ธุรกิจค้าปลีก บริการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมาย (Enabling Services) อสังหาริมทรัพย์ การศึกษา ฟินเทค ท่องเที่ยว ซึ่งมาจากกลุ่มธุรกิจดั้งเดิมที่พร้อมจะปรับตัวไปสู่ดิจิทัลและกลุ่มธุรกิจดิจิทัลที่พร้อมจะปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเต็มรูปแบบ

นายไบรอัน เอ หว่อง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ด้านโครงการระดับโลกของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวว่า “เราต้อนรับผู้เข้าร่วมโครงการจากประเทศไทยเข้าสู่โครงการ Netpreneur ของอาลีบาบา เรารู้สึกยินดีที่มีโอกาสได้แบ่งปันประสบการณ์ในการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัลให้แก่ผู้ประกอบการที่มีความสามารถเหล่านี้ การจบหลักสูตรเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เราหวังว่าผู้เข้าร่วมหลักสูตรจะนำสิ่งที่เรียนรู้มาปรับใช้และกลายเป็นผู้ขับเคลื่อนทางดิจิทัล สร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการรายอื่นให้พัฒนาธุรกิจไปสู่ธุรกิจดิจิทัล”

ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวว่าโครงการ Netpreneur ช่วยเติมเต็มแนวคิดแบบดิจิทัลแก่กลุ่มผู้ประกอบการ การเรียนรู้อันเป็นประโยชน์จากอีโคซิสเท็มของอาลีบาบา ผนวกกับโอกาสที่ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิดกับผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องและเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ทำให้ผู้เข้าร่วมหลักสูตรเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลชัดเจนยิ่งขึ้น depa ตั้งใจที่จะร่วมกับ อาลีบาบา บิซิเนส สคูล และพันธมิตรจากหลักสูตรอบรมอื่นๆ เพื่อให้คำปรึกษาและสนับสนุนผู้เข้าร่วมหลักสูตรให้บรรลุเป้าหมายด้านดิจิทัลที่ได้ตั้งไว้”

“เป้าหมายของ NIA คือการสนับสนุนและพัฒนาระบบนวัตรรมของประเทศไทย เรามีหน้าที่เป็นหัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมของชาติ NIA ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมก่อตั้งหลักสูตรอบรม Netpreneur หลักสูตรดังกล่าวนับเป็นโอกาสที่ดีในการสนับสนุนให้เกิดการเปลี่ยนกระบวนการคิดของกลุ่มผู้ประกอบการ การสร้างความเข้าใจในดิจิทัลอีโคซิสเท็ม ของอาลีบาบาจะทำให้กลุ่มผู้ประกอบการมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยอาศัยนวัตกรรมดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น เราหวังว่าเมื่อกลับไปยังประเทศไทย กลุ่มผู้ประกอบการทั้งสตาร์ทอัพและSMEs ที่ผ่านการอบรมจากหลักสูตรนี้ จะสามารถนำองค์ความรู้และมุมมองเกี่ยวกับการนำมิติของดิจิทัลไปช่วยพัฒนารูปแบบธุรกิจเดิมให้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) กล่าวเสริม

“เป้าหมายของหลักสูตรอบรม Netpreneur ของอาลีบาบา สอดคล้องกับพันธกิจของ Gobi Partners ด้านการสนับสนุนแต่ละบุคคลในการทำตามความฝันและสร้างสังคมที่ดีกว่า เราพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการรูปแบบนี้ในประเทศไทย ซึ่งมีส่วนผลักดันให้ผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์พัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ โดยการใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ” แชนน่อน กัลยาณมิตร Venture Partner จาก Gobi Partners กล่าว

ผู้เข้าร่วมหลักสูตรอบรม Netpreneur ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของอาลีบาบาที่พัฒนาจากบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กมาเป็นดิจิทัลอีโคซิสเท็มเต็มรูปแบบ ที่สนับสนุนเครือข่าย SMEs และผู้บริโภคจากทั่วโลก รวมไปถึงพันธกิจ วิสัยทัศน์ ค่านิยม กลยุทธ์และวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนบริษัทไปข้างหน้า นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้การใช้ insight มาวางกลยุทธ์บนแพลตฟอร์มต่างๆ ของอาลีบาบาและกลุ่มธุรกิจหลักและศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศจีน จากการร่วมพูดคุยกับผู้บริหารอาลีบาบาและพาร์ทเนอร์ในอีโคซิสเท็มของอาลีบาบา

นอกจากนี้ Netpreneur ได้เยี่ยมชมร้านค้าอีคอมเมิร์ซ บริษัทไลฟ์สตรีม หมู่บ้านอีคอมเมิร์ซ และเฟรชชิปโป ธุรกิจนิวรีเทล ซูเปอร์มาร์เก็ต ของอาลีบาบา ทำให้เกิดความเข้าใจและมองเห็นโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจ สังคมและชุมชนในชนบทพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดดจากการมีดิจิทัลอีโคซิสเท็มที่พัฒนาเต็มรูปแบบ ตัวแทนจากอาลีบาบาได้รับความร่วมมือจากที่ปรึกษาอย่าง depa NIA และ Gobi Partners ที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับ ดิจิทัลอีโคซิสเท็มในประเทศไทยและวิธีการสนับสนุนจากแต่ละองค์กรในการก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

พิชย วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและพาร์ทเนอร์ชิพ บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการในรูปแบบ Software-­as-­a-­Service (SaaS) สำหรับธุรกิจดิจิทัล กล่าวว่า“การเรียนรู้สำคัญที่ผู้เข้าร่วมอบรมหลักสูตรได้รับคือการสร้างความไว้วางใจกับลูกค้า พนักงานและพาร์ทเนอร์ หากปราศจากความไว้วางใจ เราจะไม่สามารถสร้างอีโคซิสเท็มได้อย่างที่อาลีบาบาทำ ที่สำคัญหลักสูตรเปิดโอกาสให้บริษัทไทยจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจพูดคุยถกเถียงเกี่ยวกับปัญหาอย่างตรงไปตรงมาและหาทางแก้ไขร่วมกัน”  

ข้าวโพด ธรรมพัฒนาภรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ฮอนกฮูก คอมเมิร์ซ จำกัด ผู้ให้บริการ one-stop service solution เพื่อการขยายธุรกิจโดยการขายบนแพลตฟอร์มลาซมอลล์ของลาซาด้า กล่าวเสริมว่าหลังจากเข้าร่วมหลักสูตร ทำให้เชื่อว่ายิ่งผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ประสบความสำเร็จ ยิ่งต้องคืนกลับสู่สังคมมากขึ้น เราควรช่วยเหลือชุมชนในชนบทให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 จะทำให้ประเทศไทยพัฒนาได้อีกมาก”

หลักสูตรอบรม Netpreneur ของอาลีบาบาเป็นโครงการล่าสุดที่ริเริ่มโดยอาลีบาบา บิซิเนส สคูล เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและผู้ประกอบการที่มีความสามารถในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2560 อาลีบาบา บิซิเนส สคูล ร่วมกับหลากหลายพาร์ทเนอร์เพื่อเปิดตัวหลักสูตรอบรม โดยมีเป้าหมายไปที่ภาคส่วนที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจดิจัทัล หลักสูตรอบรมได้แก่ New Economy Workshop สำหรับผู้กำหนดนโยบาย หลักสูตรอบรม eFounders สำหรับผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพที่ต้องการสร้างดิจิทัลอีโคซิสเท็ม (eFounders Fellowship program) เครือข่ายบุคลากรด้านอีคอมเมิร์ซ (Global eCommerce Talent – GET) การฟังบรรยายต่อเนื่องภายใต้หลักสูตร Alibaba Global Course (AGC) และหลักสูตรอื่นๆ เพื่อนักธุรกิจไทย  หลักสูตรอบรม Netpreneur รุ่นที่ 2 จะจัดขึ้นในเดือนเมษายน 2563 เปิดรับสมัครระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงกุมภาพันธ์ 256

---

ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 01/11/2562

ชนิดทอง	ราคารับซื้อ กรัมละ	ราคารับซื้อ บาทละ	ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5%	n/a	21,450.00	21,550.00
ทองรูปพรรณ 96.5%	1,389.00	21,057.24	22,050.00
ทองรูปพรรณ 90%	1,250.10	18,951.52	n/a
ทองรูปพรรณ 80%	1,111.20	16,845.79	n/a
ทองรูปพรรณ 50%	625.00	9,475.00	n/a
ทองรูปพรรณ 40%	486.00	7,367.76	n/a
ทองรูปพรรณ 99.99%	1,439.00	21,815.24	n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/11/2562

	ปตท.	บางจาก	เชลล์	เอสโซ่	คาลเท็กซ์	ไออาร์พีซี	พีที	ซัสโก้	เพียว	ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95	26.25	26.25	26.25	26.25	26.25	26.55	26.25	26.25	26.25	26.25
แก๊สโซฮอล์ 91	25.98	25.98	25.98	25.98	25.98	26.28	25.98	25.98	25.98	25.98
แก๊สโซฮอล์ E20	23.24	23.24	23.24	23.24	23.24	–	23.24	23.24	23.24	23.24
แก๊สโซฮอล์ E85	19.34	19.34	–	–	–	–	–	19.34	–	–
เบนซิน 95	33.66	–	–	–	34.11	–	34.16	33.96	–	33.96
ดีเซล	25.59	25.59	25.59	25.59	25.59	25.89	25.59	25.59	25.59	25.59
ดีเซล B10	23.59	23.59	23.59	–	–	–	23.59	–	–	–
ดีเซล B20	22.59	22.59	22.59	22.59	22.59	–	22.59	22.59	–	22.59
ดีเซลพรีเมี่ยม	29.44	29.46	29.84	29.84	29.84	–	–	–	–	–
แก๊ส NGV	15.73	15.73	–	–	–	–	–	–	–	–