สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 01 มิถุนายน 2563

ภาษีที่ดิน ซ้ำเติมอสังหาฯติดหล่ม

ผู้ประกอบการโอด ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อีก 2 เดือน รอจัดเก็บ ซ้ำเติมภาวะตลาดขายยาก แบกรับต้นทุนเพิ่มเสนอขอเลื่อนจัดเก็บไปก่อน ขณะศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธอส. ระบุ ห่วงสต๊อกเก่าเหลือขายในตลาด และยังมีรอสะสมใหม่อีกนับ 8 หมื่นหน่วย

แม้วิกฤติโควิด-19 กดดันให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มชะลอแผนเปิดตัวโครงการใหม่ จนคาดตลอดทั้งปี 2563 แค่เฉพาะ กทม.-ปริมณฑล จะมีหน่วยใหม่หายไปเกือบ 20% จากปีก่อนหน้า อีกแง่นอกจากเป็นผลดี ช่วยลดซัพพลายใหม่เกินความต้องการของตลาดแล้ว ยังเปรียบเป็นปีลดเสี่ยง พักเหนื่อยให้ผู้ประกอบการ ล้างไพ่เพื่อเริ่มเกมใหม่ในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการยังต้องเจอกับโจทย์ใหญ่อีกหลายด่าน ระหว่างที่รอตลาดปรับสู่สมดุล โดยเฉพาะการหาทางระบายสต๊อกที่เหลือขายอยู่เป็นจำนวนมาก ผ่านการโหมแคมเปญ ออกโปรโมชัน กระตุ้นต่อเนื่อง แต่ภาวะขายหนืดลูกค้ากู้ไม่ผ่าน วนกลับมาเป็นสต๊อกเก่า น่าห่วงสุดกลุ่มขายไม่หมดเกินระยะ 3 ปี กำลังจะกลายเป็นภาระต้นทุนใหม่ จากการประกาศใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่ พ.ศ 2562 ซึ่งจะดีเดย์ 1 สิงหาคมนี้แน่นอน หลังจากเลื่อนผ่อนปรนมาตั้งแต่ 1 มกราคม 2563

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) หรือ REIC ระบุว่า ขณะนี้มีความกังวลถึงจำนวนสต๊อกเก่า ขายไม่หมด และหน่วยที่อยู่อาศัยใหม่ที่จะแล้วเสร็จจดทะเบียน คาดตลอดทั้งปี 2563 เฉพาะพื้นที่กทม.-ปริมณฑล จะมีเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 80,563 หน่วย ซึ่งหากอัตราดูดซับในตลาดยังลดลงต่ำกว่า 5% จากอดีต 9.5% สะท้อนการขายออกได้ช้า จากปัญหากำลังซื้อของผู้บริโภคนั้น บางส่วนจะกลายเป็นสต๊อกสะสมใหม่ ส่วนสต๊อกเก่ากลุ่มที่ผู้ประกอบการไม่สามารถขายได้หมดในระยะ 3 ปี (นับจากออกใบอนุญาต) จะถูกเรียกเก็บภาษี ในอัตราล้านละ 3,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นปัจจัยลบในช่วงครึ่งปีหลังของตลาด

“การขายได้ช้า ก่อให้เกิดสต๊อก และเมื่อภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้างกำลังจะมีผลบังคับใช้แน่ โปรเจ็กต์เก่าที่ขายไม่หมดในระยะ 3 ปี ย่อมกลายเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการ เบื้องต้นจะทำรายงานเสนอให้ชะลอการจัดเก็บออกไปก่อน เพื่อช่วยผู้ประกอบการซึ่งกระทบหนักอยู่ก่อนแล้วในช่วงนี้”

ส่วนกรณีรัฐ ล่าสุดรัฐขยายมาตรการลดค่าโอน-จดจำนองเหลือ 0.01% เพิ่มไปถึงเดือนมิถุนายน ปี 2565 ในกลุ่มบ้าน-คอนโดฯ หลังแรกไม่เกิน 3 ล้านบาทนั้น อาจยังไม่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ซื้อและผู้ประกอบการ เนื่องจากหากต้องการเพิ่มบรรยากาศการซื้อ-ขาย ให้กลับมาคึกคัก ควรกระตุ้นให้ทุกกลุ่มราคา

ด้าน นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เบื้องต้นบริษัทมีสต๊อกคอนโดฯ เฉพาะแค่กลุ่มที่ขายไม่หมดภายในระยะ 3 ปี ซึ่งเข้าเงื่อนไขกฎหมายจะต้องถูกจัดเก็บภาษีประเภทพาณิชย์ 0.3% หรือ ล้านละ 3,000 บาท นั้น รวมมูลค่าหน่วยประมาณ 3 พันล้านบาท โดยมองว่าเป็นปัจจัยลบตัวใหม่สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยและการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ ณ ปัจจุบัน

“เป็นภาระที่หนัก สำหรับผู้ประกอบการ แม้ตลาดพอจะมีปัจจัยบวกอยู่บ้าง เช่น การขยายลดค่าโอนฯ จดจำนองออกไป 2 ปี แต่เป็นที่ทราบกันว่า ขณะนี้สต๊อกคงค้างในตลาดมีจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุุ่มคอนโดฯ ที่ต้องสร้างเสร็จทั้งตึก ส่วนบ้านเดี่ยว กระทบไม่มาก เพราะทยอยขาย-ทยอยสร้างอยู่ก่อนแล้ว”

นายวงศกรณ์ ยังกล่าวว่า ปัญหาของผู้ประกอบการขณะนี้ คือ ลูกค้ามีความต้องการที่อยู่อาศัย แต่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ โดยมีลูกค้าจำนวนมากถูกธนาคารปฏิเสธสินเชื่อ เพราะคุณสมบัติไม่เข้าเงื่อนไขตามที่ธนาคารเข้มงวด แม้ทุกบริษัทจะยอมเชือดเนื้อลดกำไร อุ้มลูกค้าผ่านการรับภาระ ณ วันโอนฯ และผ่อนให้ฟรียาว 2 ปีก็ตาม ดังนั้น การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว ยิ่งเป็นการซ้ำเติมตลาด

ขณะที่นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ระบุสอดคล้องว่า ต้องการให้รัฐประกาศเลื่อนการจัดเก็บภาษีดังกล่าวออกไปก่อนอีกสักระยะ อย่างน้อยช่วงปีหน้า เนื่องจากขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เพราะผู้ประกอบการต่างอยู่ในภาวะเหนื่อย ตลาดเสียหายจากวิกฤติโควิด-19 มามากแล้ว ขณะเดียวกันอยากให้ทบทวนระยะเวลายกเว้นผ่อนปรน จากเดิมที่นับจากหน่วยเหลือขายในระยะ 3 ปี เปลี่ยนเป็น 5 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีเวลาระบายสินค้า

“ผู้ประกอบการเข้าใจในวัตถุประสงค์การเรียกเก็บภาษี แต่ระยะ 3 ปีต้องขายให้หมด มองว่าน้อยเกินไป และขณะนี้อาจเร็วเกินไปในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะตลาดเพิ่งได้รับผลกระทบจากโควิด”

ทั้งนี้ นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียสเอสเตทแวลู บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ระบุว่า บริษัทอาจได้รับผลกระทบจากภาษีดังกล่าวไม่มาก เพราะคาดจะสามารถระบายสต๊อกขายได้ทัน 70-80% จากสต๊อกที่มีอยู่ราว 2 หมื่นล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คลายล็อกดาวน์ ผ่อนปรน ระยะ3 โรงแรมรับทัวร์จีนซึมยาว

คลายล็อกดาวน์ ผ่อนปรน ระยะ3 กูรูระบุโรงแรม ยังซึมยาว -ขายทิ้ง เหตุทัวร์ต่างชาติ-คนจีน ต่างหยุดเดินทาง สภาพัฒน์ เห็นด้วยสนับสนุนแพ็กเกจเที่ยวข้ามจังหวัด

รัฐบาลคลายล็อกดาวน์ ผ่อนปรนระยะ 3 สถานการณ์โควิด-19 ระยะ 3 วันที่ 1 มิถุนายน 2562 ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศกลับมาขยับตัวได้อีกครั้ง จากนโยบายเที่ยวข้ามจังหวัดรัฐสนับสนุนแพ็กเกจไทยเที่ยวไทย ลดค่าเช่าที่พัก 50% อีกทั้งนำโครงการชิมช็อปใช้ มากระตุ้นการจับจ่ายอีกรอบ

สอดคล้องกับ แหล่งข่าวจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศค.) หรือสภาพัฒน์ ระบุว่า จากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 เห็นด้วยกรณีรัฐบาลจะนำแพ็กเกจ ไทยเที่ยวไทยมาใช้โดยลดค่าเช่าที่พัก 40-50% และนำโครงการชิมช็อปใช้มากระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังคลายล็อกดาวน์ ระยะ 3 ซึ่งประเมินว่าจะส่งผลดีมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาโรงแรมหลายแห่งต้องปิดตัวลงโดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่ จะให้ฟื้นทันทีคงเป็นเรื่องยาก

ด้าน สุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฟินิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด สะท้อนว่าธุรกิจโรงแรมต้องใช้ระยะเวลาฟื้นตัว แม้รัฐบาลจะคลายล็อกดาวน์ แต่ผลกระทบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ แถปยุโรปและ ทัวร์จีนที่ยังไม่กลับมา โรงแรมหลายแห่งที่รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ จำเป็นต้องประกาศปิดกิจการชั่วคราวเพื่อให้พนักงานของตนเองไม่ต้องมาทำงาน

อีกทั้งทางโรงแรมต้องการลดค่าใช้จ่าย เพราะเปิดดำเนินกิจการก็ไม่มีคนเข้าพักอยู่แล้ว บริการบางส่วนของโรงแรมอาจจะเปิดให้บริการอยู่ เช่น ห้องอาหารที่เปิดขายแบบนำกลับไปรับประทานที่บ้าน แต่คงไม่สามารถสร้างรายได้ทดแทนธุรกิจทั้งองค์กรได้

ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่โรงแรมบางแห่งจะประกาศขายหรือเลิกกิจการไปเลย เนื่องจากมีภาระต้นทุนสูงจากการขอสินเชื่อธนาคารมาดำเนินธุรกิจ และเพิ่งเปิดให้บริการไม่นานหรือเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวจีน โรงแรมรูปแบบนี้จึงอาจจะไม่สามารถฝืนแบกรับภาระต่อไปได้จนต้องประกาศขายกิจการ แต่โรงแรมที่เปิดมานานจะยังคงดำเนินกิจการต่อไปหลังจากวิกฤติโควิด-19 คลี่คลาย

ทั้งนี้ผลกระทบโรงแรมทั่วประเทศไทยในช่วง 4 – 5 เดือนที่ผ่านมาประสบปัญหารุนแรง โดยเฉพาะในเดือนเมษายนและพฤษภาคม เพราะต้องปิดการให้บริการ เนื่องจากนโยบายรัฐบาลหรือผู้ว่าราชการจังหวัดออกคำสั่งปิดโรงแรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แม้ว่าบางจังหวัดจะไม่มีคำสั่งปิดโรงแรมแต่ก็แทบไม่มีคนเข้าพัก ยกเว้นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัส บุคลากรทางการแพทย์ หรือผู้ที่ต้องการกักตัว 14 วัน

หากพิจารณาอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในช่วง 3 เดือนแรก เปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปี ที่ผ่านมาลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ตอกย้ำด้วยอัตราการเข้าพักในเดือนเมษายน และพฤษภาคมยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อโรงแรมในหลายจังหวัดต้องปิดชั่วคราวตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดและรัฐบาล ประกอบกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้สะดวกแบบเดิม

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ธปท.บอกค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป

ธปท.บอกค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วเกินไป

ธปท.บอก พร้อมออกทุกมาตรการดูแลค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็วเกินไป

นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในระยะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นเร็วกว่าสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์โควิด 19 ของไทยดีกว่าอีกหลายประเทศและตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 1 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ ซึ่ง ธปท. กังวลว่าการแข็งค่าเร็วของเงินบาทอาจไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ยังเปราะบาง หลายภาคเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโควิด 19 อย่างรุนแรง ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของไตรมาส 2 ในระยะต่อไป

ราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมามีส่วนสร้างแรงกดดันให้เงินบาทแข็งค่า ซึ่ง ธปท. จะตรวจสอบการทำธุรกรรมของกลุ่มผู้ค้าทองคำให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ รวมทั้งพิจารณาแนวทางการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพิ่มเติมเพื่อลดผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน

แนวโน้มสถานการณ์โควิด 19 ในไทยและภูมิภาคที่ปรับดีขึ้น อาจทำให้ค่าเงินสกุลเอเชียและเงินบาทเป็นที่น่าสนใจของนักลงทุนบางกลุ่มที่ใช้ไทยเป็นแหล่งพักเงินระยะสั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ ธปท. ไม่พึงประสงค์ และ ธปท. พร้อมพิจารณาใช้มาตรการที่จำเป็น เพื่อไม่ให้การแข็งค่าของเงินบาทซ้ำเติมความเปราะบางของเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ในช่วงต่อไป สถานการณ์โควิด 19 และสภาวะตลาดการเงินโลกจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับจะมีธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนทางตรงของทั้งภาครัฐและเอกชนที่อาจทำให้ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวกลับทิศได้ในบางช่วง ธปท. จึงขอแนะนำให้ผู้ที่มีธุรกรรมเงินตราต่างประเทศป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อรับมือกับความผันผวนจากการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาททั้ง 2 ทิศทางในระยะข้างหน้า

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


เข้าตาตำนาน “โด้อ้วน” เผย 5 แข้งยุคนี้ที่ชอบดูมากสุด

รนัลโด อดีตยอดดาวยิงทีมชาติบราซิล ออกมาเผยชื่อ 5 นักเตะที่เขาชอบดูมากที่สุดในยุคปัจจุบัน แข้งลิเวอร์พูลติดโผ แต่ไร้เงา คริสเตียโน โรนัลโด

วันที่ 1 มิ.ย. 63 โรนัลโด ตำนานกองหน้าทีมชาติบราซิล ระบุ 5 นักเตะในยุปัจจุบันที่เขาชอบดูการเล่นมากที่สุดคือ ลิโอเนล เมสซี ดาวยิงของบาร์เซโลนา, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกทีมลิเวอร์พูล, เอเดน อาซาร์ด ปีกของเรอัล มาดริด รวมทั้ง เนย์มาร์ และ คีเลียน เอ็มบัปเป 2 แนวรุกของปารีส แซงต์ แชร์กแมง

โรนัลโด กล่าวว่า “แน่นอน ลิโอเนล เมสซี คืออันดับ 1 เขาคือนักเตะพรสวรรค์ที่เราต้องรอ 20 หรือ 30 ปี ถึงจะมีครั้งหนึ่ง นอกจากนั้นผมยังชอบนักเตะอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, เอเดน อาซาร์ด ที่ผมชอบดูพวกเขาเล่น คีเลียน เอ็มบัปเป ก็เช่นกัน มีหลายคนบอกว่าเอ็มบัปเปมีความคล้ายผมนะ เขามีความเร็ว จบสกอร์ได้เยี่ยม การเคลื่อนที่ก็ดี ยิงประตูได้ดีทั้งสองเท้า และมีพัฒนาการที่น่าเหลือเชื่อ เรามีหลายอย่างที่คล้ายกันนะ แต่ผมไม่ชอบการเปรียบเทียบมากนัก โดยเฉพาะการเทียบนักเตะแบบคนละยุค เพราะสถานการณ์มันต่างกัน”

สำหรับ โรนัลโด ปัจจุบันอายุ 43 ปี เป็นเจ้าของและประธานสโมสร เรอัล บายาโดลิด ทีมในศึก ลา ลีกา สเปน โดยสมัยค้าแข้งเคยพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย ในปี 1994 และ 2002.

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


ชวนแบ่งปัน “นม 2 กล่อง ปันสุขในชุมชน” ช่วยเด็กไทยได้ดื่มนมทุกวัน

ชวนแบ่งปัน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กไทยดื่มนมไม่เพียงพอในช่วงสถานการณ์โรคโควิด 19 ชวนร่วมกันแบ่งปันผ่านกิจกรรม “นม 2 กล่อง ปันสุขในชุมชน” โดยส่งต่อนมผ่านตู้ปันสุข ช่วยให้เด็กได้ดื่มนม 2 กล่องทุกวัน เพื่อร่างกายแข็งแรง สูงดีสมส่วน

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรม “นม 2 กล่อง ปันสุขในชุมชน” เนื่องในวันดื่มนมโลก ปี 2563 (World Milk Day 2020) ณ บ้านเอื้ออาทร บางบัวทอง 2 (บางกรวย-ไทรน้อย) จังหวัดนนทบุรี ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อการได้รับนมของเด็กตามที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นได้จัดสรรให้คนละ 1 กล่อง ต่อวันในช่วงปิดเทอมและเปิดเทอม โดยในช่วงนี้ที่โรงเรียนยังคงหยุดการเรียนการสอน เด็กจำเป็นต้องได้ดื่มนม ที่บ้านเพิ่มเติมจากที่ได้รับอีก 1 กล่อง ซึ่งนอกจากพ่อแม่ ผู้ปกครองจะจัดเตรียมให้เด็กได้ดื่มนมที่บ้านเพิ่มอีก 1 กล่องแล้ว การแบ่งปันนมผ่านตู้ปันสุขในชุมชน เพื่อให้เด็กได้ดื่มนม 2 กล่องต่อวัน จึงเป็นแนวคิดที่กรมอนามัยส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมแบ่งปันเนื่องในวันดื่มนมโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 1 มิถุนายนของทุกปี เพื่อให้เด็ก มีร่างกายแข็งแรง สูงดีสมส่วน

จากข้อมูลระบบรายงาน HDC กระทรวงสาธารณสุข ปี 2563 พบว่าเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงอายุ 12 ปี มีความสูงเฉลี่ยเพียง 147.1 เซนติเมตร และ 148.5 เซนติเมตร เท่านั้น จึงต้องรณรงค์การดื่มนมอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรลุเป้าหมายในปี 2565 โดยเด็กผู้ชายมีส่วนสูงเฉลี่ย 154 เซนติเมตร และเด็กผู้หญิง มีส่วนสูงเฉลี่ย 155 เซนติเมตร

“ทั้งนี้ นมเป็นอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี และมีปริมาณแคลเซียมสูง โดยเฉพาะนมโคสด 100 เปอร์เซ็นต์ มีคุณค่าทางโภชนาการดีกว่านมที่มีการปรุงแต่งรสและกลิ่น ช่วยสร้างกระดูกที่มีผลต่อพัฒนาการด้านความสูง อีกทั้งยังมีวิตามินดี ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ดังนั้น ใน 1 วัน เด็กควรได้กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ร่วมกับดื่มนมจืด 2 กล่องทุกวัน กินไข่วันละ 1 ฟอง ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างน้อย 60 นาทีทุกวัน เน้นประเภทที่มีการกระแทกของข้อต่อ เช่น การกระโดด และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 9-11 ชั่วโมง จะทำให้เด็กมีการเจริญเติบโตเต็มศักยภาพและเพิ่มความสูงได้

เนื่องจากช่วงเวลาทอง (Golden period) ของเด็กในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว (Growth spurt) เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงจะแตกต่างกัน โดยเด็กผู้หญิงจะเริ่มในช่วงอายุ 9-10 ปี ความสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงอายุประมาณ 12 ปี จากนั้นอัตราการเพิ่มของความสูงจะลดลงจนกระทั่งถึงอายุประมาณ 16-18 ปี ความสูงจะค่อนข้างคงที่ ส่วนเด็กผู้ชายจะเริ่มในช่วงอายุ 10-12 ปี ความสูง จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนถึงอายุประมาณ 14 ปี จากนั้นอัตราการเพิ่มของความสูงจะลดลงจนถึงอายุประมาณ 18-20 ปี ความสูงจะค่อนข้างคงที่” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


รวมประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้แทนกันแบบสุภาพๆ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การพูดจาสุภาพ มีวาทะศิลป์ที่ดี จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ดีๆ ให้กับคุณนับไม่ถ้วน แน่นอนว่านอกเหนือจากเรื่องภาพลักษณ์ของตัวคุณแล้ว ยังนำไปใช้ในสถานการณ์ที่เป็นทางการ พบปะผู้หลักผู้ใหญ่ได้อีกด้วยนะ

และวันนี้ วอลล์สตรีทอิงลิช ก็ได้รวบรวมประโนคภาษาอังกฤษที่ใช้แทนกันได้ แถมสุภาพ ใครฟังก็เคลิ้มมาฝากกัน!

No way. แทนด้วย I’m afraid I can’t.

ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่เราจะต้องบอกปัด บอกปฎิเสธคำชวนต่างๆ ไป แต่การจะให้พูดว่า Say “No“  หรือบอกปัดแบบห้วนๆ คงทำร้ายน้ำใจคนชวนแน่ แถมไม่สุภาพอีกต่างหาก คราวหน้าถ้าคุณต้องปฏิเสธคำเชิญจากใคร ให้พูดว่า “I’m afraid I can’t.” (ฉันเกรงว่า ฉันคง…ไม่ได้) แล้วอาจจะตามด้วยเหตุผลที่ต้องปฎิเสธแทน จะดูนุ่มนวล และรื่นหูกว่านะ

You’re wrong. แทนด้วย I think you might be mistaken.

คนเราเองก็ทำอะไรผิดพลาดกันได้ แน่นอนว่าการตักเตือน พูดคุยกันตรงๆ เป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณทักท้วง หรือเอ่ยปากผิดจังหวะก็ดูจะเป็นการฉีกหน้า หรือทำลายความรู้สึกของผู้ฟังไม่น้อยเลยล่ะ

เพราะฉะนั้น แทนที่จะบอกว่า “You’re wrong” (เธอผิดนะ) แทนด้วยคำว่า “I think you might be mistaken” (ฉันคิดว่าคุณอาจจะคิดผิดนะ) หรือ อาจจะบอกอ้อมๆ ว่า “I don’t think so…” (ฉันไม่คิดอย่างงั้นนะ…) จะดีกว่า เพราะประโยคนี้ไม่ใช่การโทษอีกฝ่ายว่าผิดทันที แต่ยังเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้อธิบายอีกด้วย

What ? แทนด้วย Pardon me, Could you …

หลายคนมักจะเจอปัญหาว่า เวลาใครพูดแล้วเราไม่เข้าใจ ไม่ได้ยิน ฟังไม่ชัด การยกมือ หรือการเอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายทวนข้อความอีกรอบ, หรืออยากให้พูดเสียงดังมากขึ้นนั้น ให้ลองใช้ประโยคอย่าง

Pardon me, Could you repeat that again? (ขอโทษนะคะ/ครับ รบกวนพูดซ้ำอีกรอบได้ไหม ?)  หรือ Can you speak up, please? (ช่วยพูดเสียงดังขึ้นหน่อยได้ไหมคะ/ครับ ? ) และควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด สำหรับคำว่า “What ?” , “Huh ?” หรือ “come again ?”  จะดีกว่า เพราะดูห้วนเกินไป และดูไม่สุภาพเลยนะ

I want… แทนด้วย I would like…

โดยปรกติแล้ว การพูดคำตรงๆ อย่าง  “I want + สิ่งที่ต้องการ” ถือว่าเป็นประโยคห้วน และไม่ค่อยสุภาพนัก โดยเฉพาะเวลาที่เราต้องการให้คนอื่นทำอะไรให้

ดังนั้น แทนที่จะพูดว่า “I want…” ลองเปลี่ยนไปบอกว่า “I would like…., please” แทน จะดูสุภาพกว่าเดิมเยอะเลยล่ะ แถมใครที่คุณไหว้วาน ก็อาจจะเต็มใจช่วยเหลือมากขึ้นด้วยนะ

Leave me alone. แทนด้วย Could you give me a minute?

บางครั้ง บางจังหวะ ที่คุณอาจจะมีอารมณ์ไม่อยากพบปะใคร อยากจะอยู่เงียบๆ คนเดียว แทนที่เราจะบอกคนที่อยู่กับเราแบบตรงๆ ว่า “Leave me alone.” (ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว) ที่ห้วน และทำร้ายน้ำใจคนฟัง (รวมถึงคนที่เป็นห่วงคุณ) ได้

แบบนี้ คุณอาจจะใช้ประโยคหลีกเลี่ยงให้คนฟังไม่เสียความรู้สึกอย่าง “Could you give me a minute?” (คุณช่วยให้เวลาฉันสักครู่ได้ไหม?) จะดีกว่า

Wait. แทนด้วย Can you hold, please?

การเลือกใช้คำให้สุภาพนั้น จะช่วยให้การสนทนาทั้งเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวเป็นไปอย่างราบรื่น ดังนั้น เมื่อรับโทรศัพท์ หากคุณติดธุระอะไรอยู่ ถ้าไม่ได้พูดกับเพื่อสนิท อย่าบอกเขาแค่ว่า “Wait“ แต่ให้พูดอย่างสุภาพว่า “Can you hold, please?” แทนนะคะ

Stop it! แทนด้วย Would you mind…?

อยากจะเอ่ยปากห้ามอะไรใครสักอย่าง แต่การพูดออกไปตรงๆ หรือหัวร้อน ตะโกนออกไปว่า “Stop talking on your phone in the cinema!” (หยุดคุยมือถือในโรงหนังได้แล้ว!)

แหม เราเข้าใจว่าของแบบนี้ใครก็เดือด แต่ให้ลองถามเขาอย่างสุภาพแทน โดยการใช้ประโยคอย่าง “Would you mind not using your phone in the cinema, please?” (รบกวนอย่าใช้มือถือในโรงหนังได้ไหมครับ/คะ) จะดีกว่า แถมภาพลักษณ์ของคุณยังดีขึ้นกว่าอีกฝ่ายจมเลย

ขอบคุณข้อมูลจาก wallstreetenglish.in.th


จะมือใหม่ หรือเทิร์นโปร “โซนี่ ZV-1” ครบทุกนวัตกรรม

แม้วันนี้ “โทรศัพท์มือถือ” จะเปรียบเหมือนอวัยวะหนึ่งของร่างกาย ที่มีพร้อมสรรพ ทั้งการสื่อสาร ถ่ายภาพ แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเก็บบันทึกเรื่องราว ทั้งภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว อุปกรณ์ที่จะช่วยเติมเต็มย่อมหนีไม่พ้น “กล้อง”

แต่จะเป็นรุ่นไหน แบบใด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่รุ่นล่าสุด ที่น่าจับตามอง ด้วยเทคโนโลยีล้ำๆ ดีไซน์สวยๆ ในราคาจับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มมือใหม่ หรือมือโปร วันนี้อยากให้ลองมองไปที่กล้องคอมแพ็คท์ตระกูลใหม่ล่าสุดในรุ่น ZV-1 “โซนี่” ที่ไม่ว่าจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของโซนี่ หรือกล้องอื่น เมื่อได้ลองแล้วจะต้องบอกต่อ

จุดเด่นของกล้อง ZV-1 อยู่ที่การออกแบบดีไซน์ตัวกล้องใหม่ให้เน้นพกพาได้สะดวก และใช้งานง่าย ด้วยขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา และจับถนัดมือยิ่งขึ้น มาพร้อมสุดยอดเทคโนโลยีถ่ายภาพระดับมืออาชีพที่พัฒนาขึ้นล่าสุด ทำให้ภาพถ่ายคมชัด สะดวกสบายด้วยเซ็นเซอร์รับภาพแบบ 1.0-type Stacked Exmor RS™ CMOS ขนาด 1 นิ้ว โดยมาพร้อมกับชิปประมวลผล DRAM ที่ช่วยให้การส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

ตัวกล้อง ZV-1 ยังเพิ่มความสะดวกสบาย และคล่องตัวในการถ่ายภาพที่ง่ายดายมากขึ้น ด้วยปุ่ม Background Bokeh ที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอ เพื่อเน้นตัวบุคคลที่อยู่ด้านหน้าฉากหรือวัตถุ ซึ่งจะทำให้ตัวบุคคลเด่นขึ้นมา โดยไม่ต้องสลับฟังก์ชั่นการทำงานให้วุ่นวายอีกต่อไป เพราะแค่กดปุ่ม Background Bokeh กล้องก็จะทำการสลับพื้นหลังเป็นโหมดถ่ายภาพหน้าชัดหลังละลายทันที

กล้อง ZV-1 เป็นกล้องคอมแพ็คท์ที่มาพร้อมกับระบบ    ออโต้โฟกัสที่รวดเร็ว ช่วยให้สามารถจับโฟกัสของวัตถุขนาดเล็กได้อย่างทันใจ เมื่อมีวัตถุใด ๆ อยู่ด้านหน้าเลนส์ ระบบโฟกัสก็สามารถจับโฟกัสวัตถุที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างฉับไว และคมชัด อีกทั้งยังมี Real-time Eye AF ซึ่งเป็นระบบโฟกัสเดียวกันกับที่ใช้ในกล้องระดับพรีเมียมของตระกูล Alpha และ RX ที่จะช่วยติดตามดวงตาแม้วัตถุกำลังเคลื่อนไหวได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย

โหมด Face Priority autoexposure ซึ่งจะช่วยปรับความสว่างของแสงให้มีความนุ่มนวล และสวยสดใส ไปตามสภาพแสงที่เปลี่ยนไป ไม่ว่าคุณกำลังถ่ายภาพกลางแดดจัด และเปลี่ยนสถานที่เข้ามาถ่ายในในร่ม หรือที่แสงน้อยทันที ระบบจะทำการตรวจจับ และปรับค่าแสงเพื่อให้ผิวหน้ายังความสว่างได้ และให้สีที่เป็นธรรมชาติ โดยจะปรับโทนสีของผิวที่เหมาะสม แม้กระทั่งในโหมดเซลฟี่ ก็ทำให้ผิวหน้าเนียนเรียบเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงไว้ซึ่งความคมชัดของภาพ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

แม้ตัวกล้องจะเล็กกะทัดรัด แต่ ZV-1 ยังสามารถบันทึกภาพยนตร์ระดับมืออาชีพเพื่อให้คนรักการถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูงระดับ 4K ในรูปแบบ XAVC S มืออาชีพ รองรับการเชื่อมต่อไมโครโฟน 3.5 มม. และการบันทึกไฟล์ HLG, S-Gamut3.Cine, S-Log3, S-Gamut3 และ S-Log 3 มีระบบถ่ายภาพแบบ Super Slow Motion ที่ความละเอียดสูงสุดที่ 960 ภาพต่อวินาที และรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิชั่น movie edit add-on บนสมาร์ทโฟนเพื่อช่วยผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพวิดีโอได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังมีการป้องกันภาพสั่นไหวขณะทำการแก้ไขภาพอีกด้วย หรือจะเป็น Clean HDMI สำหรับการทำ Live Streaming

งานนี้ใครอยากลองเปลี่ยนจากถ่ายภาพ หรือวิดิโอด้วย สมาร์ทโฟน และมองหากล้อง คอมแพคท์คุณภาพสูงแบบตัวเดียวครบจบสวยงาม ก็ลองดูได้ 

หน้า 7 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40  ฉบับที่ 3,579 วันที่ 31 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน พ.ศ. 2563

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ซองแมว สรรพคุณและประโยชน์ของต้นซองแมว 12 ข้อ !

ซองแมว

ซองแมว

ซองแมว ชื่อวิทยาศาสตร์ Gmelina elliptica Sm. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Gmelina asiatica var. villosa (Roxb.) Bakh., Gmelina villosa Roxb.)[1] จัดอยู่ในวงศ์กะเพรา (LAMIACEAE หรือ LABIATAE)

สมุนไพรซองแมว มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ซ้องแมวใหญ่ ซ้องแมวน้ำ (ทั่วไป), ซ้อแมว (ภาคตะวันตกเฉียงเหนือ), ซองแมว ซ้องแมว ซ้องแมวควาย (ภาคกลาง), จิงจาย จิ้งจาย ยองขนุน (ภาคใต้), หนุน (เกาะสมัย), จิงจ้อ (ปัตตานี), ยวงขนุน (สุราษฎ์ธานี), ปะงางอ (มลายู-ปัตตานี) เป็นต้น[1]

ลักษณะของซองแมว

  • ต้นซองแมว จัดเป็นพรรณไม้เลื้อยยืนต้น ที่มีลำเถาเลื้อยแผ่ไปพาดพิงกับต้นไม้อื่นได้ไกล แต่ถ้าไม่มีที่พาดพิงก็จะขึ้นเป็นพุ่ม มีความสูงได้ประมาณ 5.5-9 เมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำกิ่ง เป็นไม้กลางแจ้งที่มักขึ้นอยู่ตามบริเวณป่าราบทั่วไป[1]

ต้นซองแมว

ใบซองแมว ใบมีขนาดเล็กเท่ากับใบพุทรา ลักษณะของกลางใบแหลมแยกออกข้างเป็น 2 แฉก แผ่นใบเป็นสีเขียวสด พื้นผิวใบเรียบ[1]

ใบซองแมว

  • ดอกซองแมว ออกดอกเป็นช่อยาว ดอกเป็นสีเหลืองเข้ม ลักษณะของปากดอกจะบานคล้ายกับกระบอกเขาควาย[1]

ดอกซองแมว

ผลซองแมว ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมรีหรือรูปไข่กลับ ผิวผลเรียบเป็นมัน ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเข้ม

ผลซองแมว

สรรพคุณของซองแมว

  1. รากมีรสขมเย็น ใช้เป็นยาแก้กระษัย (ราก)[1]
  2. รากมีสรรพคุณเป็นยาแก้อาการร้อนใน (ราก)[1]
  3. ใบสดนำมาตำให้ละเอียด ใช้พอกสุมลงบนศีรษะ เป็นยาแก้ปวดศีรษะ (ใบ)[1]
  4. ใช้เป็นยารักษาตา (ราก)[1]
  5. ใบและรากนำมาตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำมาใช้หยอดหู แก้เจ็บหรือปวดหู (ใบและราก)[1]
  6. ใบนำมาต้มเอาน้ำอมหรือใช้บ้วนปาก แก้อาการปวดฟัน แก้เหงือกบวม (ใบ)[1]
  7. ใบใช้รับประทานเป็นยาถ่ายพยาธิ (ใบ)[1]
  8. รากใช้เป็นยาแก้พิษฝีภายใน (ราก)[1]
  9. ใบและรากนำมาตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาน้ำช่วยรักษาบาดแผล (ใบและราก)[1]
  10. รากใช้เป็นยาดับพิษทุกชนิด (ราก)[1]
  11. ใบใช้รับประทานเป็นยาแก้บวม (ใบ)[1]

ประโยชน์ของซองแมว

  • ใบสดนำมาตำให้ละเอียด ใช้พอกศีรษะกันผมร่วง[1]

ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 26,050.00 26,150.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,687.00 25,574.92 26,650.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,518.30 23,017.43 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,349.60 20,459.94 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 759.00 11,506.44 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 590.00 8,944.40 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,748.00 26,499.68 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 01/06/2563  

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 19.95 19.95 20.25 19.95 19.95 19.95 19.95 19.95 19.95 19.95
แก๊สโซฮอล์ 91 19.68 19.68 19.98 19.68 19.68 19.68 19.68 19.68 19.68 19.68
แก๊สโซฮอล์ E20 18.44 18.44 18.74 18.44 18.44 18.44 18.44 18.44 18.44
แก๊สโซฮอล์ E85 16.84 16.84 16.84
เบนซิน 95 27.36 27.81 27.86 27.36 27.36
ดีเซล 20.09 20.09 20.39 20.09 20.09 20.09 20.09 20.09 20.09 20.09
ดีเซล B10 17.09 17.09 17.39 17.09 17.09 17.09 17.09 17.09 17.09 17.09
ดีเซล B20 16.84 16.84 17.14 16.84 16.84 16.84 16.84 16.84
ดีเซลพรีเมี่ยม 24.24 24.26 26.24 26.24
แก๊ส NGV 15.31 15.31
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า