ออริจิ้น เดินเกมรุก กวาดยอดขายแล้ว 9 พันล้าน
“ออริจิ้น” เผยยอดขายพฤษภาคม 2563 แตะ 2,400 ล้านบาท รวมยอดสะสม 5 เดือน 9,000 ล้านบาท โต 18% สวนกระแสตลาดชะลอจากพิษ COVID-19 หลังปรับกลยุทธ์เดินเกมการตลาดเชิงรุก มั่นใจทั้งปีทำได้ทะลุเป้า 21,500 ล้านบาท
นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร บอกว่า ในเดือนพฤษภาคม 2563 บริษัทฯ สามารถทำยอดขาย (Presale) ได้ราว 2,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนกว่า 90% ซึ่งเป็นการเติบโตแรงต่อเนื่องจากเดือนเมษายนที่ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ (New High) กว่า 1,700 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นบ้านจัดสรร 29% และคอนโดมิเนียม 71%
ส่งผลให้ 2 เดือนแรกของไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มียอดขายสะสมแล้วกว่า 4,200 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงไตรมาส 1/2563 และรวม 5 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทฯ มียอดขายสะสมกว่า 9,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนราว 18% แบ่งสัดส่วนเป็นบ้านจัดสรร 34% และคอนโดมิเนียม 66% ซึ่งเบื้องต้นบริษัทฯ คาดว่า ครึ่งแรกของปี 2563 จะสามารถปิดยอดขายได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นกว่า 50% ของเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 21,500 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปีมีโอกาสทำได้มากกว่าเป้าหมาย
สาเหตุสำคัญที่ผลักดันยอดขายของบริษัทฯ ให้เติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง มาจากการปรับกลยุทธ์เดินเกมการตลาดเชิงรุก ควบคู่ไปกับการเดินหน้าขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น อาทิ เปิด Official Store บนแพลตฟอร์ม Shopee และ Lazada ไปพร้อมๆกับการผลักดันพนักงานให้ก้าวสู่ Micro Influencer ขายสินค้าผ่านช่องทางสื่อสารส่วนบุคคล ภายใต้โปรเจ็ค Everyone can sell
นายพีระพงศ์ บอกด้วยว่า บริษัทฯ มีแผนจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 จำนวน 12 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 16,700 ล้านบาท จากแผนทั้งปีมูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรราว 10 โครงการ มูลค่ารวม 12,100 ล้านบาท เติบโตแบบก้าวกระโดดจากปีที่ผ่านมา และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่ารวม 7,900 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 61:49 ตามลำดับ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ ที่จะมีการเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรมากกว่าคอนโดมิเนียม โดยในช่วงครึ่งหลังของปี
ทั้งนี้ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 73 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 114,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
เสนา ลดกระหน่ำ กระตุ้นกำลังซื้อ ผุดแคมเปญ “ถูกสุด ณ จุดนี้ “
SENA กระตุ้นออนดีมานด์ต่อไตรมาส 2 งัดแคมเปญใหม่ “ถูกสุด ณ จุดนี้” 27 โครงการพร้อมอยู่และโปรเจ็กต์ใหม่
ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
หลังจากทางเสนา ปล่อยแคมเปญ SENA ZERO Covid ได้รับกระแสตอบรับที่ดี ล่าสุดได้ออกแคมเปญใหญ่ “ถูกสุด ณ จุดนี้” เพื่อมอบสิทธิประโยชน์สูงสุดคืนกำไรให้แก่ลูกค้าที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยในแพ็คเกจราคาพิเศษและคุ้มที่สุด เหมาะกับการซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือลงทุนเพื่ออนาคต โดยทางเสนาคัดยูนิตพิเศษ วิวสวย และทำเลดีใกล้แนวรถไฟฟ้า กว่า 27 โครงการ ราคาเริ่มต้นที่คุ้มค่าเพียง 7 แสนบาท – 10.8 ล้านบาท พร้อมมอบส่วนลดสูงสุดกว่า 1,900,000 บาท พร้อมรับสิทธิพิเศษรายโครงการอีกมากมาย อาทิ ฟรี!เฟอร์ทั้งห้อง แต่งครบพร้อมอยู่ ,ดาวน์ 0 บาท เป็นต้น เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 ก.ย. 2563 สนใจบ้านและคอนโดฯ ราคาสุดพิเศษในหลายทำเลศักยภาพ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.sena.co.th/promotion-q3-2020/ หรือ สอบถามเพิ่มเติมโทร 1775
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้ แม้มีการคาดการณ์กันว่าจะติดลบ 7.3% จากวิกฤติโรคระบาดโควิด – 19 ที่ฉุดทั้งกำลังซื้อและความเชื่อมั่นก็ตาม แต่ถือเป็นปีทองของผู้ซื้อที่มีความพร้อมทางด้านการเงิน เพราะได้ช้อปสินค้าในราคาที่คุ้มค่า ท่ามกลางการแข่งขันกันด้วยโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม ของแต่บริษัท ประกอบกับดอกเบี้ยธนาคารต่ำสุด และยังมีมาตรการลดค่าโอน ลดค่าจำนองของรัฐที่ต่อโปรฯขยายระยะเวลาถึงปี 2565 ขณะที่ภาพรวมตลาดอสังหาฯช่วงไตรมาส 1/63 อาจมีล้มลุกคลุกคลานบ้าง แต่อย่างไรก็ตามมองว่าไตรมาส 2/63 ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและกำลังซื้อน่าจะกลับมาไม่ยาก เนื่องจากการบริหารจัดการโควิด – 19 ของทำได้ค่อนข้างดีและประชาชนให้ความร่วมมือ ทำให้สถานการณ์คลี่คลายรวดเร็ว แต่ต้องลุ้นกันว่าถ้าหากการระบาดโควิด-19 กลับมาระลอกใหม่ อาจจะทำให้เศรษฐกิจต้องหยุดชะงักอีกครั้ง และต้องใช้เวลานาน 2-3 ปีถึงจะฟื้นตัว
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ไทยพาณิชย์ ประกาศแผน SCB New Normal
ไทยพาณิชย์ ต่อยอด Digital Transformation เปิดตัวแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย “Robinhood”
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์โควิด19 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายอุตสาหกรรม ธนาคารได้เห็นการหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และเริ่มเห็นขนาดของปัญหาและลูกค้าได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง สิ่งที่ต้องทำวันนั้น คือ ทำอย่างไรให้ขวัญและกำลังใจของคนในองค์กรเข้มแข็งที่สุด กระทั่งองค์กรแข็งแรงและนิ่งได้
จากนั้น จึงนำมาสู่การดูแลลูกค้าอย่างเร่งด่วน เพื่อลดภาระของลูกค้าให้มากที่สุด ผ่านมาตรการพักชำระหนี้มากกว่าหลายแสนราย รวมถึงการให้สินเชื่อเพื่อเป็นการเยียวยาลูกค้า โดยเป็นการทำงานคู่กับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยดูแลคนไม่ให้ตกงาน เพราะธุรกิจของลูกค้าเมื่อโควิดหายไป ลูกค้าจะกลับมาได้ ทั้งนี้ ธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมเป็นเสาหลักของสังคมที่จะช่วยลูกค้าเท่าที่จะมีโอกาสได้นั้น
ทั้งนี้ ธนาคารเชื่อว่า วิกฤตโควิด19 ยังไม่จบ และกว่าเศรษฐกิจจะกลับแข็งแรงแบบที่เคยเป็นมา คงต้องใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น ธนาคารจึงใช้ห้วงเวลาดังกล่าวมาเป็นโอกาสในการพัฒนาองค์กรและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ผ่านยุทธศาสตร์ “SCB New Normal” ซึ่งจากรากฐานที่แข็งแรงจากการทำ Digital Transformation ทำให้ธนาคารมีขีดความสามารถในการเป็นองค์กรที่มีความตัวเบา และสามารถกำหนดรูปแบบการทำธุรกิจ (Business Model) การปรับต้นทุนการให้บริการ แนวทางการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Engagement) การให้บริการกับลูกค้าในทุกๆ เซ็กเมนต์ และนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาช่วยพัฒนารูปแบบของผลิตภัณฑ์และบริการ การสร้างคุณค่าใหม่ (Core Value) โดยมีความเข้าใจ หรือ Empathy เป็นแกนหลัก เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้เกิดขึ้นและสำเร็จ และที่สำคัญ คือ การสร้างวัฒนธรรมองค์กรและวิถีการทำงานรูปแบบใหม่ (New Way of Work) ที่มีความคล่องตัว รวดเร็ว ทำงานจากที่ไหนก็ได้ (SCB work from anywhere) กล้าที่จะลองผิดลองถูกเพื่อนำผลไปปรับปรุงและพัฒนาจนได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อันเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำพาองค์กรให้สามารถฝ่าคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงที่กำลังโหมกระหน่ำจากทุกทิศทางได้
ท่ามกลางภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น ธนาคารตระหนักและให้ความสำคัญต่อบทบาทหน้าที่ที่มีต่อลูกค้าและสังคม ด้วยการมุ่งให้ความช่วยเหลือลูกค้าในทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย (SME) เพื่อบรรเทาปัญหาและความเดือดร้อนในส่วนที่ธนาคารสามารถทำได้อย่างเต็มความสามารถ โดยมาตรการช่วยเหลือทางด้านสินเชื่อ การพักหนี้ หรือการลดดอกเบี้ย เป็นการช่วยเหลือในระยะสั้น (short-term solution) ที่ช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าผ่านช่วงเวลายากลำบาก
นอกจากนั้น ธนาคารยังได้คิด long-term solution โดยการผนึกความสามารถทางด้านเทคโนโลยีมาผสานเข้ากับวิถีองค์กรรูปแบบใหม่เพื่อช่วยเหลือลูกค้า สังคมและประเทศชาติ โดยพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมาในเวลาเพียง 3 เดือน ภายใต้ชื่อ “Robinhood” (โรบินฮู้ด) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย โดยไม่เก็บค่าจีพี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือและแก้ปัญหาผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยที่ต้องเจอเมื่อนำร้านขึ้นสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งค่าจีพีนับเป็น Pain Point หลักของผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็กในปัจจุบัน
นายอาทิตย์ กล่าวว่า “ธนาคารหวังว่า Robinhood จะเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยกลุ่มร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงเชนร้านอาหารต่าง ๆ ตลอดจนกลุ่มลูกค้าและคนขับ เพื่อให้เกิดเป็น Ecosystem ที่แข็งแรงและยั่งยืนต่อไป โดยมีภารกิจแรก คือ การเป็นแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่สัญชาติไทย มุ่งมั่นตั้งใจให้เป็นช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่หักค่าจีพีสำหรับร้านอาหารรายย่อย สมัครฟรี ไม่มีชาร์จเพิ่ม เจ้าของร้านได้เงินเร็วภายใน 1 ชั่วโมง รวมถึงการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ตั้งเป้าพร้อมเปิดให้บริการปลายเดือนกรกฎาคม 2563”
“แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ภายใต้ชื่อ “Robinhood” จะดำเนินการภายใต้บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (Purple Ventures) บริษัทน้องใหม่ในเครือเอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) ที่ตั้งขึ้น โดยมีงบการลงทุนต่อปีประมาณหนึ่งร้อยล้านบาท จากความต้องการช่วยเหลือคนไทยให้สามารถทำธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืน Robinhood จึงไม่ใช่เพียงแค่แพลตฟอร์มที่เชื่อมระหว่างคนกับร้านค้า แต่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมความสัมพันธ์ เชื่อมเศรษฐกิจ เป็นแพลตฟอร์มที่สื่อถึงการช่วยเหลือกัน การแบ่งปันความสุขซึ่งกันและกัน ซึ่งการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามยาก คือ จุดแข็งที่ทำให้คนไทย สังคมไทย และประเทศไทยสามารถรอดพ้นทุกวิกฤตที่เผชิญได้” นายอาทิตย์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
สุดเศร้า อดีตตำนาน “แมนยูฯ” ชุดแชมป์ยุโรปปี 1968 เสียชีวิตแล้ว
“โทนี ดันน์” ตำนานแข้งของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ยอดทีมแดนผู้ดี ชุดแชมป์ยุโรปในปี 1968 ได้เสียชีวิตลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยวัย 78 ปี
วันที่ 9 มิ.ย. 63 โทนี ดันน์ ฟูลแบ็กระดับตำนานของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่อยู่ในทีมของเซอร์ แมตต์ บัสบี้ ชุดแชมป์ยุโรปครั้งแรกในปี 1968 ที่สามารถเอาชนะ เบนฟิกา ทีมแกร่งจากโปรตุเกส 4-1 ได้เสียชีวิตลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยวัย 78 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา
แถลงการณ์จากทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ Manchester United (@ManUtd) ที่มียอดฟอลโลว์กว่า 22 ล้านคน ได้ออกมาโพสต์ภาพและข้อความเพื่อแสดงความอาลัยกับหนึ่งในผู้เล่นฟูลแบ็กที่ดีที่สุดคนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสรว่า “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับคนที่เป็นที่รักของ โทนี ดันน์ ขอให้เขาหลับให้สบาย”
สำหรับ โทนี ดันน์ ค้าแข้งกับทีมเป็นระยะเวลา 13 ปีด้วยกัน ในช่วงระหว่างปี 1960-1973 ลงเล่นไปทั้งสิ้น 535 นัดด้วยกัน พร้อมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ได้ 2 ครั้ง, เอฟเอ คัพ 1 ครั้ง และที่ขาดไม่ได้เลยคือ แชมป์ ยูโรเปียน คัพ 1 ครั้ง.
แพ้ยารุนแรง อาจมีอันตรายถึงชีวิต
กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคผิวหนัง เตือนอันตรายจากการแพ้ยา มีได้หลายแบบทั้งชนิดที่ไม่รุนแรงที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต และชนิดที่รุนแรงก่อให้เกิดความพิการ หรือถ้ารุนแรงมากอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ พร้อมแนะนำข้อสังเกตที่ทำให้สงสัยว่าอาจเกิดการแพ้ยาที่รุนแรง
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า จากกรณีการเสนอข่าวจาก เฟซบุ๊ก สาวเตือนอุทาหรณ์ปวดฟันคุด ซื้อยาไอบูโพรเฟนมากินเองจนเกิดอาการแพ้หนัก ผิวหนังไหม้ลอก นอนไอซียู พร้อมโพสต์ภาพผิวหนังลอกทั่วตัวนั้น ข้อมูลดังกล่าวพบว่าเป็นอาการของการแพ้ยา โดยการแพ้ยาส่วนมากมักเกิดภายหลังการรับประทานยาในช่วง 7-21 วันหลังเริ่มทานยาครั้งแรก แต่ถ้าเคยได้รับยาชนิดนั้นๆ ที่แพ้มาก่อนแล้วอาจมีอาการได้รวดเร็วในเวลา 24-48 ชั่วโมงหลังทานยาได้ สำหรับกลุ่มลมพิษหรือมีปฏิกิริยาภูมิแพ้รุนแรงอย่างเฉียบพลัน (Anaphylaxis) อาการจะแสดงได้อย่างรวดเร็วหลังทานยาในเวลาเป็นนาทีถึงชั่วโมง ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีโอกาสแพ้ยาได้มากขึ้น ได้แก่ ปัจจัยทางกรรมพันธุ์ เพศ ซึ่งมักพบการแพ้ยาในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย คนไข้ที่ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) และคนที่มีประวัติเคยแพ้ยามาก่อน
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ยาที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสทำให้เกิดการแพ้ยาได้สูง ได้แก่ ยากันชัก ยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs : Nonsteroidal anti-inflammatory drugs) ยา allopurinol ยา dapsone ยาต้านรีโทรไวรัส (antiretroviral drugs) ยากลุ่มแก้อักเสบฆ่าเชื้อ เช่น กลุ่ม penicillin, cephalosporin, sulfonamides, β-lactam antibiotic, trimethoprim-sulfamethoxazole, minocycline เป็นต้น ข้อสังเกตที่ทำให้สงสัยว่าอาจเกิดการแพ้ยาที่รุนแรง ได้แก่ อาการแสดงทางผิวหนัง กรณีหลังรับประทานยาแล้วมีอาการดังต่อไปนี้ คือ มีผื่นแดงทั้งตัว (Erythroderma), มีหน้าบวม ปากบวม มีผื่นหรือแผลที่ปากหรือเยื่อบุที่อื่นๆ มีอาการแสบ กดเจ็บที่ผิวหนัง มีตุ่มน้ำ มีผิวหนังลอกหลุด มีจุดจ้ำเลือดใต้ผิวหนัง หรือมีตุ่มหนองตามตัวอย่างรวดเร็ว จะทำให้สงสัยว่าน่าจะมีอาการแพ้ยาที่รุนแรงที่ต้องรีบมาพบแพทย์ สำหรับอาการทางร่างกายอื่นๆ ที่มักพบร่วมด้วยในคนที่แพ้ยารุนแรง ได้แก่ ไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดข้อ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น
ในกรณีที่คนไข้ได้รับประทานยาแล้วมีอาการดังกล่าวข้างต้นที่ทำให้สงสัยว่าอาจจะเป็นการแพ้ยาที่รุนแรง ควรหยุดยาในทันที รีบมาพบแพทย์เพื่อดำเนินการรักษาอย่างรวดเร็ว และควรนำยาที่สงสัยว่าจะแพ้มาให้แพทย์ดูร่วมด้วย ซึ่งโดยส่วนมากถ้าอาการเข้าได้กับการแพ้ยาที่รุนแรงมักจะได้รับการรักษาในโรงพยาบาล เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องจนกว่าอาการจะดีขึ้นต่อไป
ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือในกรณีคนไข้เคยแพ้ยาชนิดใดชนิดหนึ่งแล้วนั้นจะแพ้ยาชนิดดังกล่าวไปตลอดชีวิต รวมถึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะแพ้ยาตัวอื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันหรือกลุ่มที่ใกล้เคียงกับยาตัวเดิมที่แพ้ได้ และการได้รับยาที่เคยแพ้อยู่แล้วในครั้งถัดไป อาการที่เกิดจากการแพ้ยาในครั้งใหม่จะเกิดได้อย่างรวดเร็วขึ้นและอาจรุนแรงมากขึ้นด้วย ดังนั้น คนไข้ควรจดจำข้อมูลการแพ้ยาของตนเอง หรือเก็บบัตรแพ้ยาไว้กับตัวเสมอ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้งก่อนการรักษาในครั้งถัดๆ ไป และระมัดระวังเรื่องการซื้อยาเพื่อรับประทานเอง เพื่อลดโอกาสเสี่ยงของการแพ้ยาที่อาจเกิดขึ้นใหม่ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
ภาษาจีนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
ประโยคภาษาจีน | พินอิน | ความหมาย |
1.你好. | 1. Nǐ hǎo. | สวัสดี |
2.你好吗. | 2. Nǐ hǎo ma. | คุณสบายดีไหม |
3.我很好. | 3. Wǒ hěn hǎo. | ฉันสบายดี |
4.你叫什么名? | 4. Nǐ jiào shénme míng? | คุณชื่ออะไร |
5.我叫王美丽. | 5. Wǒ jiào wáng měilì. | ฉันชื่อหวังเหม่ยลี่ |
6.我是泰国人. | 6. Wǒ shì tàiguó rén. | ฉันเป็นคนไหทย |
7.你是哪儿国人? | 7. Nǐ shì nǎ’er guórén? | คุณเป็นคนชาติไหน |
8.我不是中国人。 | 8. Wǒ bùshì zhōngguó rén. | ฉันไม่ใช่คนจีน |
9.你吃饭了吗? | 9. Nǐ chīfànle ma? | คุณทานข้าวแล้วหรือยัง |
10.我吃了. | 10. Wǒ chīle. | ฉันทานแล้ว |
11.你家有几口人? | 11. Nǐ jiā yǒu jǐ kǒu rén? | บ้านคุณมีกี่คน |
12.我家有5个人. | 12. Wǒjiā yǒu 5 gèrén. | บ้านฉันมี5คน |
13.你多大? | 13. Nǐ duōdà? | คุรอายุเท่าไหร่ |
14.我们走吧. | 14. Wǒmen zǒu ba. | พวกเราไปกันเถอะ |
15.我爱你. | 15. Wǒ ài nǐ. | ฉันรักเธอ |
16.你很可爱。 | 16. Nǐ hěn kě’ài. | คุณน่ารักจัง |
17.你家在哪里? | 17. Nǐ jiā zài nǎlǐ? | บ้านคุณอยู่ที่ไหน |
18.你是曼谷人吗。 | 18. Nǐ shì màngǔ rén ma. | คุณเป็นคนกรุงเทพใช่ไหม |
19.对不起. | 19. Duìbùqǐ. | ขอโทษ |
20.谢谢. | 20. Xièxiè. | ขอบคุณ |
21.没关系. | 21. Méiguānxì. | ไม่เป็นไร |
22.不客气. | 22. Bù kèqì. | ไม่ต้องเกรงใจ |
23.你喜欢吃什么? | 23. Nǐ xǐhuan chī shénme? | คุรชอบทานอะไร |
24.你会讲中文吗? | 24. Nǐ huì jiǎng zhōngwén ma? | คุณพูดภาจีนได้ไหม |
25.你要买什么? | 25. Nǐ yāomǎi shénme? | คุณต้องการซื้ออะไร |
26.现在几点了? | 26. Xiànzài jǐ diǎnle? | ตอนนี้กี่โมงแล้ว |
27.现在下午一点。 | 27. Xiànzài xiàwǔ yīdiǎn. | ตอนนี้บ่ายโมง |
28.我们去图书馆巴。 | 28. Wǒmen qù túshū guǎn ba. | พวกเราไปห้องสมุดกันเถอะ |
29.什么时候? | 29. Shénme shíhou? | เวลาเมื่อไหร่ |
30.再见。 | 30. Zàijiàn. | ลาก่อน |
31.祝你生日快乐。 | 31. Zhù nǐ shēngrì kuàilè. | สุขสันต์วันเกิด |
32.等一下。 | 32. Děng yīxià. | รอก่อน รอหน่อย |
33.你重多少? | 33. Nǐ zhòng duōshǎo? | คุณหนักเท่าไหร่ |
34.你去过中国了吗? | 34. Nǐ qùguò zhōngguóle ma? | คุณเคยไปเมืองจีนแล้วหรือยัง |
35.泰语难吗? | 35. Tài yǔ nán ma? | ภาษาไทยยากไหม |
36.你干什么? | 36. Nǐ gànshénme? | คุณทำอะไร |
37.怎么多了。 | 37. Zěnme duōle. | เป็นไงบ้างแล้ว |
38.小心点。 | 38. Xiǎoxīn diǎn. | ระมัดระวังหน่อย |
39.今天他不来了。 | 39. Jīntiān tā bù láile. | วันนี้เขาไม่มา |
40.我想哭。 | 40. Wǒ xiǎng kū. | ฉันอยากร้องไห้ |
41.怎么回事? | 41. Zěnme huí shì? | เกิดไรขึ้น |
42.别走 | 42. Bié zǒu | อย่าเพิ่งไป |
43.你慢慢说点。 | 43. Nǐ màn man shuō diǎn. | คุณชช่วยพูดช้าหน่อย |
44.中文太难。 | 44. Zhōngwén tài nán. | ภาษาจีนยากมาก |
45.你的电话号码是多少? | 45. Nǐ de diànhuà hàomǎ shì duōshǎo? | เบอร์โทรศัพท์ของคุณคืออะไร |
46.今天怎么样。 | 46.Jīntiān zěnme yàng. | วันนี้เป็นไงบ้าง |
47.你有钱吗? | 47. Nǐ yǒu qián ma? | คุณมีเงินไหม |
48.太贵了。 | 48. Tài guìle. | แพงเกินไป |
49.你有女朋友了吗? | 49. Nǐ yǒu nǚ péngyǒule ma? | คุณมีแฟนหรือยัง(แฟนผู้หญิง) |
50.我很想念你。 | 50. Wǒ hěn xiǎngniàn nǐ. | ฉันคิดถึงเธอมาก |
51.好梦。 | 51. Hǎo mèng. | ฝันดีนะ |
52.你从哪来? | 52. Nǐ cóng nǎ lái? | คุณมาจากที่ไหน |
53.吃饱了吗? | 53. Chī bǎole ma? | กินอิ่มหรือยัง |
54.我饿了。 | 54. Wǒ èle. | ฉันหิวแล้ว |
55.你怎么办? | 55. Nǐ zěnme bàn, | คุณจะทำอย่างไร |
56.我明白了。 | 56. Wǒ míngbáile. | ฉันเข้าใจแล้ว |
57.我不干了。 | 57. Wǒ bù gān le. | ฉันไม่ทำแล้ว |
58.我不同意。 | 58. Wǒ bù tóngyì. | ฉันไม่เห็นด้วย |
59.我回来了 | 59. Wǒ huíláile | ฉันกลับมาแล้ว |
60.祝你好运 | 60. Zhù nǐ hǎoyùn | ขอให้คุณโชคดี |
61.当然了. | 61. Dāngránle. | แน่นอน |
62.你有什么事? | 62. Nǐ yǒu shé me shì? | คุณมีธุระอะไร |
63.没问题。 | 63. Méi wèntí. | ไม่มีปัญหา |
64.这个字怎么发声? | 64. Zhège zì zěnme fā shēng? | อักษรตัวนี้ออกเสียงยังไง |
65.你确定吗? | 65. Nǐ quèdìng ma? | คุณน่ใจไหม |
66.你结婚了吗? | 66. Nǐ jiéhūnle ma? | คุณแต่งงานแล้วหรือยัง |
67.真可惜! | 67. Zhēn kěxí! | เสียดาย จริงๆ |
68.你可以帮我妈? | 68. Nǐ kěyǐ bāng wǒ mā? | คุณช่วยฉันได้ไหม |
69.明天可以吗? | 69. Míngtiān kěyǐ ma? | พรุ่งนี้ได้ไหม |
70.麻烦你了? | 70. Máfan nǐle? | ต้องรบกวนคุณแล้ว |
71.他很努力学习。 | 71. Tā hěn nǔlì xuéxí. | เขาขยันเรียนหนังสือมาก |
72. 我找不到。 | 72. Wǒ zhǎo bù dào. | ฉันหาไม่เจอ |
73.你习惯了吗? | 73. Nǐ xíguànle ma? | คุณชินแล้วหรือยัง |
74.我也是这样。 | 74. Wǒ yěshì zhèyàng. | ฉันก็เหมือนกัน |
75.你喜欢踢足球妈? | 75. Nǐ xǐhuan tī zúqiú mā? | คุณชอบเตะฟุตบอลไหม |
76.跑来跑去。 | 76. Pǎo lái pǎo qù. | วิ่งไปวิ่งมา |
77.怪不得。 | 77. Guàibùdé. | มิน่าล่ะ |
78.你会开车吗? | 78. Nǐ huì kāichē ma? | คุรขับรถเป็นไหม |
79.我不会开车。 | 79. Wǒ bù huì kāichē. | ฉันขับรถไม่เป็น |
80.我是清迈人。 | 80. Wǒ shì qīng mài rén. | ฉันเป็นคนเชียงใหม่ |
81.他很帅 | 81. Tā hěn shuài | เขาหล่อมาก |
82.你有兄弟姐妹吗? | 82. Nǐ yǒu xiōngdì jiěmèi ma? | คุณมีพี่น้องไหม |
83.你可以跟我们去。 | 83. Nǐ kěyǐ gēn wǒmen qù. | คุณสามารถไปกับพวกเราได้ |
84.这里是什么地方? | 84. Zhèlǐ shì shénme dìfāng? | ที่นี่คือที่ไหน |
85.下课了. | 85. Xiàkèle. | เลิกเรียนแล้ว |
86.好了吗. | 86. Hǎole ma. | ดีหรือยัง ,เสร็จหรือยัง |
87.真的吗? | 87. Zhēn de ma? | จริงๆเหรอ |
88.我该怎么办? | 88. Wǒ gāi zěnme bàn? | ฉันควรทำอย่างไร |
89.你怎么认为? | 89. Nǐ zěnme rènwéi? | คุณคิดว่ายังไง |
90.谁告诉你的 | 90. Shuí gàosu nǐ de | ใครบอกคุณ |
91.胖胖的人。 | 91. Pàng pàng de rén. | คนที่อ้วนอ้วน |
92.没时间了。 | 92. Méi shíjiānle. | ไม่มีเวลาแล้ว |
93.糟糕了。 | 93. Zāogāole. | แย่แล้ว |
94.今天天气很好。 | 94. Jīntiān tiānqì hěn hǎo. | วันนี้อากาศดีมาก |
95.我的爸爸不舒服。 | 95. Wǒ de bàba bú shūfú. | พ่อของฉันไม่สบาย |
96.车来了。 | 96. Chē láile. | รถมาแล้ว |
97.他很生气 | 97. Tā hěn shēngqì | เขาโกรธมากแล้ว |
98.我很高兴认识你 | 98. Wǒ hěn gāoxìng rènshi nǐ | ยินดีที่ได้รู้จัก |
99.快点吧 | 99. Kuài diǎn ba | เร็วๆหน่อย |
100.中文不难。 | 100. Zhōngwén bù nán. | ภาษาจีนไม่ยากเลย |
ขอบคุณข้อมูลจาก sites.google.com
กสทช. เดินหน้าจัด ประมูลดาวเทียม ครั้งแรกของไทยภายในสิ้นปี
กสทช. เดินหน้าจัด ประมูลดาวเทียม ครั้งแรกของไทย ภายในปลายปีนี้ พร้อมจัด 4 แพ็กเกจแนวทางการประมูล/คัดเลือกผู้ได้รับอนุญาตใช้สิทธิวงโคจร
พล.อ.ท.ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รองเลขาธิการ กสทช.) ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้มีการใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในการจัดชุด (Package) กล่าวว่า วันนี้ (8 มิถุนายน 2563) สำนักงาน กสทช. ได้จัดประชุมเฉพาะกลุ่ม (Focus Group) ต่อ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในลักษณะจัดชุด (Package) หลังจากที่ กสทช.ได้อนุมัติ แผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม และหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจร ดาวเทียม เมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2563 แล้ว สำนักงาน กสทช.จึงได้นำสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมหรือที่เรียกว่าเอกสารข่ายงาน ดาวเทียม (Satellite Network Filing) ทั้งหมดที่ประเทศไทยมีอยู่ มาจัดเป็นชุด (Package) ตามวงโคจร (Slot) ทั้งหมด 4 ชุด เพื่อนำมาจัดสรร โดยได้เสนอแนวทางในการคัดเลือกโดยใช้วิธีการประมูล (Auction) หรือวิธีคัดเลือก (Beauty Contest) หรือวิธีอื่นใด เนื่องจากการจัดสรรสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมกฎหมายไม่ได้บังคับไว้ว่าจะต้องดำเนินการด้วยการ ประมูล เพียงวิธีเดียว นอกจากนั้นสำนักงานฯ ยังได้นำเสนอแนวทางในการประเมินมูลค่าและการคิดค่าธรรมเนียมของแต่ละชุด ตลอดจนเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติมที่สามารถใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกผู้ชนะในการ ประมูลดาวเทียม แต่ละชุดให้สามารถสร้างดาวเทียมไทยตามข่ายงานที่กำหนดได้
ขณะที่การนำสิทธิในการเข้าใช้วงโคจร ดาวเทียม มาประมูลตามที่สำนักงาน กสทช. เสนอโดยตามแผนที่วางไว้สำนักงาน กสทช. ตั้งเป้าที่จะจัดการประมูลสิทธิในการเข้าใช้วงโคจร ดาวเทียม ภายในปลายปีนี้ สำหรับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจร ดาวเทียม ที่นำมาจัดสรร สำนักงาน กสทช.จัดแบ่งโดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ โดยเบื้องต้นจัดแบ่งเป็น 4 ชุด (หรือ 4 Package) ดังนี้
ชุดที่ 1 ประกอบด้วย วงโคจร 50.5E (ข่ายงาน C1 และ N1) และ วงโคจร 51E (ข่ายงาน51)
ชุดที่ 2 ประกอบด้วย วงโคจร 78.5E (ข่ายงาน A2B และ LSX2R)
ชุดที่ 3 ประกอบด้วย วงโคจร 119.5E (ข่ายงาน IP1, P3 และ LSX3R) และ วงโคจร 120E (ข่ายงาน G2K และ 120E)
ชุดที่ 4 ประกอบด้วย วงโคจร 126E (ข่ายงาน 126E) และ วงโคจร 142E (ข่ายงาน G3K และ N5)
ทั้งนี้ ข่ายงาน หรือ Network Filing ทั้งหมดเป็นข่ายงานที่ไม่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานยกเว้น A2B ซึ่งอยู่ภายใต้ ดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งหมดอายุก่อนหมดสัญญาสัมปทานในวันที่ 11 ก.ย. 2564 และ IP1 ของ ไทยคม 4 ซึ่งจะมีอายุทางวิศวกรรมถึงปี 2566 ที่ถือว่าเป็นการจัดสรรล่วงหน้าในลักษณะหลายชุดพร้อมกัน เนื่องจากการสร้าง ดาวเทียม ต้องวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 ปี
อย่างไรก็ตามสำหรับความคิดเห็นต่างๆ ที่สำนักงาน กสทช. ได้รับฟังมากล่าวโดยสรุป ผู้ประกอบการรายเดิมยังมีความกังวลกับข่ายงานที่มีความใกล้เคียงหรือทับซ้อนกับข่ายงานที่อยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานหรือที่ ดาวเทียมไทยคม ใช้งานอยู่ แม้ว่าจะไม่นำมาจัดสรรในครั้งนี้ รวมทั้งเสนอให้แยกชุดแต่ละชุดตามวงโคจรเลย สำหรับผู้ประกอบการรายใหม่เห็นด้วยกับแนวทางการจัดชุด ยกเว้นชุดที่ 4 ที่อาจจะแยกเป็น 2 ชุดได้ เนื่องจากมีวงโคจรที่ห่างกัน แต่มีข้อกังวลเกี่ยวกับการประสานงานและการใช้คลื่นความถี่ที่ไปทับซ้อนกับ ดาวเทียมไทยคม อาจทำให้ไม่สามารถใช้งานได้จริง แต่ทั้งผู้ประกอบการรายเก่าและรายใหม่ไม่เห็นด้วยกับการคัดเลือกโดยวิธี ประมูล ควรจะใช้วิธีอื่นจะทำให้กิจการ ดาวเทียม ไทยสามารถแข่งขันกับนานาชาติได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
มะพูด สรรพคุณและประโยชน์ของต้นมะพูด 17 ข้อ !
มะพูด ชื่อวิทยาศาสตร์ Garcinia dulcis (Roxb.) Kurz (ส่วนอีกข้อมูลระบุว่ามะพูดเป็นพรรณไม้ชนิดที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia vilersiana Pierre[10]) จัดอยู่ในวงศ์มังคุด (CLUSIACEAE หรือ GUTTIFERAE)[1],[2],[3],[4]
สมุนไพรมะพูด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ไข่จระเข้ ตะพูด ส้มปอง ส้มม่วง (จันทบุรี), พะวาใบใหญ่ (จันทบุรี, ชลบุรี), ปะหูด (ภาคเหนือ), ปะหูด มะหูด (ภาคอีสาน), จำพูด มะพูด (ภาคกลาง), ตะพูด พะวา ประหูด ประโหด ประโฮด มะนู (เขมร), ปะพูด เป็นต้น[3],[5],[6],[10]
ลักษณะของมะพูด
- ต้นมะพูด เป็นพันธุ์ไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียเขตร้อน[3] จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงของต้นประมาณ 7-10 เมตร (บ้างว่ามีความสูงประมาณ 15 เมตร) เรือนยอดเป็นกลมกลมหรือเป็นรูปไข่ เป็นทรงพุ่มแน่นทึบ ลำต้นตั้งตรง และอาจมีร่องรอยของแผลเป็น มีลักษณะเป็นปุ่มปมตะปุ่มตะป่ำ ซึ่งเกิดจากการหลุดร่วงของกิ่งก้านทั่วไป โดยจะแตกกิ่งก้านต่ำเป็นพุ่มโปร่ง ก้านจะแตกออกจากลำต้นค่อนข้างถี่ และเปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลเข้ม เรียบ และแตกเป็นร่องตื้น ๆ ตามยาวของลำต้น เมื่อเปลือกต้นเกิดบาดแผลจะมียางสีขาวแล้วเปลี่ยนเป็นสีเหลืองไหลซึมออกมา ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและการใช้กล้าปักชำ มีเขตการกระจายพันธุ์ในป่าดิบชื้น และตามชายห้วยหรือพื้นที่ริมน้ำในป่าเบญจพรรณ โดยจะพบมากทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ และในพื้นที่แถบชายแดนจังหวัดสุรินทร์และศรีสะเกษ ส่วนในต่างประเทศสามารถพบได้ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ชวา ลาว กัมพูชา และบอร์เนียว[1],[2],[3],[5],[6]
- ใบมะพูด ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอกหรือแกมรูปขอบขนาน โคนใบกว้างมนตัดตรง เว้าเล็กน้อยคล้ายกับรูปหัวใจและค่อย ๆ สอบเรียวเล็กไปที่ปลายใบ ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 8-12 เซนติเมตรและยาวประมาณ 15-25 เมตร แผ่นใบมักเป็นคลื่นเล็กน้อย เนื้อใบเหนียวและหนาคล้ายแผ่นหนัง หลังใบเรียบลื่นเป็นมัน สีเขียวเข้ม ส่วนท้องใบมีขนละเอียด แต่บางครั้งก็เกลี้ยง เมื่อแห้งเป็นสีเหลืองอมสีเทา ส่วนก้านใบสั้นย่นขรุขระยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร และมีขนบาง ๆ ขึ้นปกคลุม[1],[2],[3]
- ดอกมะพูด ออกดอกเป็นช่อ ช่อละประมาณ 3-5 ดอก โดยจะออกดอกตามซอกใบหรือตามแผลใบและตามกิ่งก้าน ดอกเป็นสีขาวอมเหลือง ดอกเป็นแบบแยกเพศอยู่ในต้นเดียวกัน ดอกมีกลีบดอก 5 กลีบซ้อนกันอยู่ ดอกมีลักษณะตูมเป็นรูปทรงกลม ส่วนกลีบดอกมีลักษณะเป็นรูปทรงกลม หนาและเป็นสีเหลืองอ่อน เมื่อดอกบานเต็มที่จะกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร บานเป็นรูปถ้วยโถ โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม[1],[3],[7]
- ผลมะพูด ผลมีลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือเป็นรูปไข่ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-6 เซนติเมตร ผิวผลเรียบและเป็นมัน ผลอ่อนสีเขียว เมื่อสุกจะเป็นสีเหลืองสดอมสีส้ม เนื้อในผลเป็นสีเหลือง มีรสเปรี้ยวอมหวาน ภายในผลมีเมล็ดประมาณ 2-5 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดเป็นรูปรี สีน้ำตาล โดยจะติดผลในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน[1],[2],[3],[7]
สรรพคุณของมะพูด
- น้ำคั้นจากผลมีรสเปรี้ยวอมหวาน ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (ผล, น้ำคั้นจากผล)[1],[2],[3]
- รากมีรสจืด เป็นยาแก้ไข้ (ราก)[1],[2],[3]
- ช่วยแก้อาการร้อนใน (ราก)[1],[2],[3]
- ช่วยแก้อาการไอ (ผล, น้ำคั้นจากผล)[1],[2],[3],[4]
- ช่วยแก้อาการเจ็บคอ (ผล, น้ำคั้นจากผล)[1],[2],[3]
- ช่วยขับเสมหะ กัดเสมหะ (ผล, น้ำคั้นจากผล)[1],[2],[3],[4]
- ผลมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ (ผล)[4]
- ช่วยถอนพิษผิดสำแดง (ราก)[1],[2],[3]
- ช่วยขับถ่ายโลหิตเสียให้ตก (ผล)[4]
- เปลือกต้นมีรสฝาด นำไปต้มกรองเอาแต่น้ำใช้ชำระล้างบาดแผล (เปลือกต้น)[2],[3],[4]
- ช่วยแก้อาการช้ำใน (ผล)[4]
- เมล็ดนำมาบดผสมกับน้ำส้มหรือเกลือ ใช้ทาแก้อาการบวม (เมล็ด)[9]
ประโยชน์ของต้นมะพูด
- ผลสุกมีรสหวานอมเปรี้ยว ใช้รับประทานเป็นผลไม้ และในปัจจุบันได้มีการนำไปแปรรูปเป็นน้ำผลไม้และผลไม้กวนจำหน่าย[2],[3],[9]
- ผลดิบมีรสเปรี้ยว ใช้แทนมะนาวในการทำแกงส้มกุ้งสดได้[3]
- ใบและเปลือกต้นใช้สกัดย้อมสีเส้นไหม โดยจะให้สีเหลืองคล้ายสีเหลืองของดอกบวบ[3] ให้สีเหลืองสด หรือ สีน้ำตาล[6]
- ต้นมะพูดเป็นไม้ยืนต้นที่มีทรงพุ่มสวยงาม ใบและผลเด่น จึงใช้ปลูกเป็นไม้ประดับและปลูกเพื่อให้ร่มเงาได้ เช่น ปลูกในบริเวณศาลา ใกล้ทางเดิน ริมน้ำ ในสวนผลไม้ เป็นต้น[3],[7]
- คนไทยโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นมะพูดไว้ในบริเวณบ้านจะช่วยส่งเสริมให้ลูกหลานเป็นคนช่างพูดช่างเจรจา พูดในสิ่งที่ดีงาม พูดจาไพเราะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน แก้เด็กปากหนักไม่ยอมพูดกับใคร โดยจะนิยมปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้าน[3],[5]
คุณค่าทางโภชนาการของผลมะพูด ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 49 Unit
- โปรตีน 0.4 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 12.2 กรัม
- เส้นใยอาหาร 1.0 มิลลิกรัม
- ไขมัน 0.5 กรัม
- ธาตุแคลเซียม 5 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.4 มิลลิกรัม
- ธาตุฟอสฟอรัส 13 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 42 I.U.
- วิตามินบี 1 0.06 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 0.04 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 0.3 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 5 มิลลิกรัม
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,150.00 | 25,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,629.00 | 24,695.64 | 25,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,466.10 | 22,226.08 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,303.20 | 19,756.51 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 733.00 | 11,112.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 570.00 | 8,641.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,688.00 | 25,590.08 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 09/06/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.15 | 21.15 | 21.75 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 | 21.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 20.88 | 20.88 | 21.48 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 | 20.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 19.64 | 19.64 | 20.24 | 19.64 | 19.64 | – | 19.64 | 19.64 | 19.64 | 19.64 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 17.64 | 17.64 | – | – | – | – | – | 17.64 | – | – |
เบนซิน 95 | 28.56 | – | – | – | 29.01 | – | 29.06 | 28.56 | – | 28.56 |
ดีเซล | 21.29 | 21.29 | 21.89 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 | 21.29 |
ดีเซล B10 | 18.29 | 18.29 | 18.89 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 | 18.29 |
ดีเซล B20 | 18.04 | 18.04 | 18.64 | 18.04 | 18.04 | – | 18.04 | 18.04 | – | 18.04 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.44 | 25.46 | 28.04 | 27.44 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 1531 | 1531 | – | – | – | – | – | – | – | – |