Blog Post

‘เจเอเอส’แตกไลน์รุกธุรกิจอสังหาฯ-ร้านอาหาร

เจเอเอส แอสเซ็ท จัดทัพธุรกิจใหม่ แตกไลน์อสังหา รุกธุรกิจร้านอาหาร ชิมลางผุดคอนโดย่านเอกมัย-รามอินทรา ตั้งเป้าเปิด 2 โครงการต่อปี แย้มแผนควบกิจการร้านคาซ่า ลาแปง เล็งลงทุนควบขายแฟรนไชส์ดันร้านสู่ตลาดแมส ด้านชอปปิงมอลล์เล็งเปิดเพิ่ม 2 แห่งปีหน้า

บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) เดินหน้าลงทุนในธุรกิจ คอมมูนิตี้ มอลล์ มาทุกปีตั้งแต่ปี 2557 รวม 3 โครงการ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโต และถึงปีนี้บริษัทตัดสินใจที่จะขยายงานออกไปด้วยการเพิ่มหน่วยธุรกิจหลัก 2 หน่วย คือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เริ่มต้นเปิดตัวโครงการแรก คอนโด นีเวร่า เอกมัย-รามอินทรา จำนวน 178 ยูนิต มูลค่า 500 ล้านบาท และการควบรวมกิจการ (M&A) ด้วยการลงทุน 40 ล้านบาท ถือหุ้น 60% จัดตั้งบริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด เพื่อบริหารกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่ม คาซ่า ลาแปง ที่ปัจจุบันมี 8 สาขา

สุพจน์ วรรณา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าการแตกไลน์ไปยังธุรกิจอสังหานั้นเพราะเชื่อว่าจะเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ที่ยั่งยืน อีกทั้งมองเห็นโอกาสเติบโตจากความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น และสำหรับโครงการแรกที่ตั้งอยู่ในย่านรามอินทรา-เอกมัย บนพื้นที่ 2 ไร่นั้น มีจุดเด่นในด้านทำเลที่ใกล้กับระบบรถไฟฟ้าหลายเส้นทางที่กำลังจะพัฒนาในอนาคตอันใกล้

“ปัจจุบัน การลงทุนของบริษัทอสังหาแนวราบ เช่น ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว มีราคาพุ่งสูงขึ้น ขั้นต่ำ 8 ล้านบาท ไปจนถึงหลัก 20 ล้านบาท  ขณะที่ ราคาที่ดินที่ในย่านนี้ปรับตัวมากกว่า 2 เท่าแล้ว เทียบจากราคาซื้อที่ดินปีที่แล้วที่ราว 1 แสนกว่าบาท/ตร.วา เป็น 3 แสนบาท ดังนั้น หากมีการพัฒนาที่พักอาศัยในราคาที่จับต้องได้ในระดับเฉลี่ยเริ่มต้น 2.4 ล้านบาท หรือ 8 หมื่นบาท/ตร.ม. ใกล้เคียงกับคอนโดในย่านเดียวกัน จึงเชื่อว่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดที่มีกำลังซื้อระดับบีขึ้นไป ที่ยังต้องการพักอาศัยในโซนดังกล่าว”

บริษัทมีเป้าหมายระยะยาวว่าจะสร้างรายได้จากหน่วยธุรกิจอสังหา 30-40% จากรายได้ทั้งหมด โดยได้วางแผนรองรับคือการพัฒนาโครงการใหม่ 2 แห่งต่อปี โดยขณะนี้มีที่ดินพร้อมแล้ว 1 แห่งคือย่านดอนเมือง พื้นที่ 7-8 ไร่ คาดใช้งบลงทุนราว 1,000 ล้านบาท สูงกว่าโครงการแรก 100% เบื้องต้นวางแนวคิดสร้างธุรกิจแบบมิกซ์ยูส มีชอปปิงมอลล์ในกลุ่มแจส ภายใต้แบรนด์ฟู้ดวิลล์ ที่เป็นพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็กที่สุดในเครือ ส่วนที่อยู่อาศัยจะเป็นคอนโดหรือที่พักแนวราบอยู่ระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม

“เราตั้งงบลงทุนเฉพาะอสังหา 1,000-1,500 ล้านบาทต่อปี ส่วนธุรกิจเดิมอย่างชอปปิงมอลล์ จะลงทุน 700-800 ล้านบาท โดยในปีหน้าอาจจะเปิดชอปปิงมอลล์ขนาดกลางหรือใหญ่ได้อีก 1 แห่ง และขนาดเล็ก 1 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการหาทำเลในกรุงเทพฯ เช่นกัน”

สุพจน์ กล่าวว่า การขยายงานครั้งนี้ ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีหน่วยธุรกิจ 5 หน่วย โดย 3 หน่วยเดิมประกอบด้วย พื้นที่ให้เช่า (Rental Space) ซึ่งเป็นธุรกิจดั้งเดิมได้แก่ ศูนย์จำหน่ายไอที จังก์ชั่น ที่ร่วมมือกับบิ๊กซี 52 สาขา ซึ่งยังสร้างรายได้ในสัดส่วนมากที่สุด 70% ธุรกิจชอปปิง มอลล์ 3 โครงการ เป็นโครงการขนาดกลาง 5,000-1 หมื่นตร.ม. และขนาดใหญ่ 2 หมื่นตร.ม.ขึ้นไป ประกอบด้วย เดอะแจส วังหิน, เดอะแจส รามอินทรา และแจส เออเบิร์น ศรีนครินทร์ มีสัดส่วนรายได้ 30% โดยตั้งแต่ต้นปีมีลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้น 10-20% มีอัตราการเช่าพื้นที่ 80-100% และที่เหลือเป็นธุรกิจอื่นๆ เช่น สวนสนุก ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่เข้ามาเสริมในชอปปิงมอลล์ แต่ในอนาคตเชื่อว่าสัดส่วนของธุรกิจพื้นที่ให้เช่าไอทีจังก์ชั่นจะลดลง เป็นไปตามการขยายรายได้จากหน่วยธุรกิจอื่นๆ

ส่วนธุรกิจร้านอาหารมีแผนขยายร้านอาหารคาซ่า ลาแปง ทั้งรูปแ

บบลงทุนเอง และขายแฟรนไชส์ เพื่อให้เป็นแบรนด์ที่เปิดกว้างต่อสาธารณะมากขึ้น และมองอนาคตระยะยาวจะสร้าสงโอกาสเติบโตได้ทั้งในและต่างประเทศ และสร้างรายได้ให้ในสัดส่วน 10% ในอีก 3 ปีข้างหน้า

ทั้งนี้ การขยายงานต่างๆ เชื่อว่าจะทำให้ปีนี้รายได้ของบริษัทจะเติบโต 30% ส่วนช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ เจเอเอส รายงานผลกำไรสุทธิ 6.09 ล้านบาท

http://www.bangkokbiznews.com

สนทนากับกูรู: Online Booking กับอสังหาฯ ยุค 4.0

เมื่อทุกอย่างกำลังแปรเปลี่ยนเข้าสู่โลกออนไลน์ ภาคธุรกิจหลาย Segment ต่างคิดหาหนทางกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ดังกล่าว เฉกเช่นเดียวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เพื่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค อันต้องการความสะดวกรวดเร็ว อย่าง Online Booking เพื่อให้เป็นช่องทางการขายอสังหาฯ ในยุคประเทศไทย 4.0 โดยมีดีเวลลอปเปอร์อย่างแสนสิริ ประเดิมนำร่อง พร้อมได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาด ส่งผลให้ “คุณอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)” ผู้อยู่เบื้องหลังของการพัฒนาระบบดังกล่าว จึงเดินหน้าสานต่อช่องทางการขายผ่านโลกออนไลน์เต็มขั้น

แนวโน้มอสังหายุค 4.0 กับโปรเจกต์ทะลุเป้าของ “แสนสิริ”
สำหรับปี 2560 นี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นยุคของประเทศไทย 4.0 อย่างแท้จริง เรียกได้ว่าตั้งแต่ช่วงต้นปีมานี้ เรื่องของออนไลน์จะเข้าแทรกซึมธุรกิจหลายภาคส่วน ไม่เว้นแม้กระทั่งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ถึงแม้ตั้งแต่ปลายปี 59 จนถึงปัจจุบันจะพบการแปรปรวนของเศรษฐกิจประเทศ ทำให้เกิดการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงกระนั้นสำหรับ “แสนสิริ” ดีเวลลอปเปอร์แถวหน้าด้านอสังหาฯ เกือบทุก Segment ก็ได้มีการปรับตัวใหม่เพื่อเข้ายุคสมัยที่เปลี่ยนไป รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยคุณอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้เผยถึงแนวโน้มอสังหาฯ ในยุคนี้ว่า

“สำหรับโปรเจกต์ต่างๆ ของแสนสิริในปี 60 นี้ เราเน้นเปิดตัวโครงการในช่วงครึ่งปีหลัง โดยแบ่งออกเป็นคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า 6 โปรเจกต์ นอกนั้นเป็นทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยว รวมทั้งหมด 14 โปรเจกต์ โดยเรามั่นใจว่าจะสามารถโกยรายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้คือ 40,000 ล้านบาท แม้ช่วงนี้เศรษฐกิจบ้านเราจะชะลอตัว ธนาคารออกมาเข้มงวดสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น แต่ปรากฎว่ายอด Rejection ของเราปีนี้กับลดลงมาก เหลือเพียง 5% มันเลยทำให้เรามั่นใจว่ายอดขายจะสามารถเป็นไปตามเป้าได้ เพราะคนที่สนใจบ้านหรือคอนโดของเรายังเชื่อมั่นในตัวแสนสิริ และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้ออยู่ ประกอบกับครึ่งปีหลังนี้ เราเอา Online Booking มาใช้เป็นช่องทางขายด้วย

คุณอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ผู้อยู่เบื้องหลังของการพัฒนาระบบ Online Booking

เมื่อแสนสิริ ปูช่องทางการขายใหม่ด้วย Online Booking
สำหรับคำว่า “Online Booking” ดูเหมือนจะได้ยินมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กับการเปิดตัวโครงการ เดอะ เบส เพชรเกษม (The Base Phetkasem) ของแสนสิริ ซึ่ง ณ ขณะนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ เรียกได้ว่าสร้างความฮือฮาในภาคธุรกิจดังกล่าวพอสมควร ประกอบกับได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีจากผู้บริโภค อาจเป็นเพราะในยุคสมัยที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว จึงทำให้ช่องทางการขายอสังหาฯ ดังกล่าวค่อนข้างตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคยุคปัจจุบัน ทั้งนี้คุณอุทัย ในฐานะผู้อยู่เบื้องหลังของ Online Booking โครงการแสนสิริ จึงพร้อมสานต่อระบบดังกล่าวต่อไป

“จริงๆ แล้วแสนสิริเราเริ่มปูช่องทางการขายผ่านออนไลน์มาตั้งแต่ช่วงต้นปีแล้ว โดยเราเริ่มใช้กับคอนโดมิเนียมของโครงการเดอะ เบส เพชรเกษม ซึ่งตอนนั้นลองเปิดขาย 50 ยูนิตก่อน ปรากฎว่ามีผู้ลงทะเบียนสนใจ 200-300 คน ถือว่าตอบรับดีเกินกว่าที่เราคาดไว้ ซึ่งเราออกแบบระบบให้ครบทุกขั้นตอนการขาย เรียกว่าจบที่การรูดจ่ายตังค์เลย ที่สำคัญการทำออนไลน์ต้องเร็ว ทำให้เมื่อกลับมาดูการตัดสินใจของลูกค้า ปรากฎว่าเราพบลูกค้าตัดสินใจซื้อเพียง 3 นาทีเท่านั้น ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะชื่นชอบในตัวโครงการและได้ศึกษาข้อมูลมาระดับนึงแล้ว และด้วยสาเหตุนี้เราจึงมองว่าช่องทางการขายรูปแบบ Online Booking นั้นจะค่อนข้างตอบโจทย์กลุ่มผู้ซื้อในยุคปัจจุบัน”

แสนสิริ เปิดช่องทาง Online Booking สนองความต้องการผู้อยู่อาศัยยุคใหม่

Online Booking ในอนาคต กับการตอบสนองกลุ่มผู้บริโภค
นับวันโลกออนไลน์ได้เข้าแทรกซึมในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จนทำให้เกิดการพัฒนาหลายด้านทั้งตัวโปรเจกต์ รวมไปถึงช่องทางการขาย ซื้อบ้าน-คอนโด ที่ใช้ระบบดังกล่าวให้ง่าย รวดเร็ว ผ่านระบบมือถือ ทั้งนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตอันใกล้ ความร้อนแรงของช่องทางการขายดังกล่าวหรือ Online Booking นั้นจะกลายเป็นมาตรฐานที่ผู้ประกอบการต้องพัฒนา สืบเนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคเริ่มหันมาเสพการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น ทั้งนี้คุณอุทัย ยังมองว่าการทำธุรกิจออนไลน์ ใช่ว่าคิดจะทำแล้วลงมือได้หมด จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนระบบให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคเป็นสำคัญด้วย

“โลกความเป็นจริงทุกวันนี้ไม่ใช่ทุกคนจะทำช่องทางการขายอสังหาฯ ผ่านออนไลน์ประสบความสำเร็จได้หมด ทุกวันนี้ที่เห็นคือลูกค้าที่จะซื้อบ้านหรือคอนโด จะนิยมเข้าไปดูที่สำนักงานขายล่วงหน้าแล้ว พอเราเปิดช่องทาง Online Booking จึงมาลงทะเบียนและตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว ดังนั้นการจะทำช่องทางดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องผสมผสานความเป็นออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน และจะดีกว่านี้มาก ถ้าสามารถรวมข้อมูลทุกอย่างที่ช่วยตัดสินใจซื้อไว้ในระบบ Online Booking“

ดูเหมือนเทรนด์ Online Booking ในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะต้องจับตามองต่อไปว่าจะสามารถเป็นมาตรฐานของช่องการขายอสังหาฯ ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคหรือไม่ ทั้งนี้ปัจจุบันเริ่มส่องสัญญาณว่าจะสามารถเป็นไปด้วยดี สืบเนื่องจากกลุ่มผู้อยู่อาศัย ที่เป็นผู้ซื้อคนจริงที่อยากได้ราคาต่ำกว่าวันเปิดตัว ประกอบกับได้ตำแหน่งห้องที่ดี เร็วกว่าคนอื่น หันมานิยมช่องทางการซื้อดังกล่าวมากขึ้น ไม่นับรวมนักลงทุนที่แสวงหาช่องทางออนไลน์อยู่เป็นนิจ

http://www.ddproperty.com

แบงก์ชาติ ฟุ้ง ไตรมาส 4 เริ่มใช้ QR Code ซื้อ-ขายสินค้าได้

  ธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับสถาบันการเงิน เปิดตัวระบบชำระเงินผ่าน QR Code คาดใช้ได้จริงในไตรมาส 4 ปีนี้ หวังช่วยอำนวยความสะดวกประชาชน ลดการถือเงินสด
วันที่ 30 สิงหาคม 2560 นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ประชาชนชาวไทยจะสามารถชำระเงิน ในการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านระบบคิวอาร์โค้ด (QR Code) ได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อลอตเตอรี่ พวงมาลัย จ่ายค่าอาหาร จ่ายค่ารถแท็กซี่ วินจักรยานยนต์รับจ้าง หรือชำระบิลค่าสาธารณูปโภค บิลบัตรเครดิต เป็นต้น

          โดยจะเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ในการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และช่วยลดต้นทุนในการบริหารเงินสด ซึ่งผู้บริโภคเพียงแค่โหลดแอปพลิเคชันของธนาคารพาณิชย์ ที่มีบัญชีเงินฝากและสแกน QR Code จากร้านค้า ซึ่งหากร้านค้านั้นผูก QR Code กับบัญชีพร้อมเพย์ก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียมดังกล่า

ภาพจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย

 นอกจากนี้ การใช้ QR Code ในการชำระเงิน ยังมีประโยชน์สำคัญ 4 ด้าน คือ 

          1. เป็นมาตรฐานกลางที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ที่เปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงและใช้งานร่วมกันได้

          2. เป็นการเพิ่มช่องทางการชำระเงินที่สะดวกและมีต้นทุนต่ำ ซึ่งง่ายกว่าการทำธุรกรรมด้วยเงินสด

          3. เป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงิน โดยเจ้าของบัตรไม่ต้องให้บัตรหรือแก่ลูกค้า

          และ 4. สามารถต่อยอดนวัตกรรมทางการเงินอื่น ๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการขอสินเชื่อ

          ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรต่าง ๆ ได้แก่  American Express, JCB International ( Thailand), UnionPay International, VISA และ สมาคมธนาคารไทย ประกาศความร่วมมือการใช้มาตรฐาน QR Code ร่วมกัน ส่วนการพัฒนาระบบ QR Code จะเปิดให้ธนาคารและผู้ให้บริการเสนอโครงการเข้าพิจารณาเพื่อทดสอบการทำรายการ ซึ่งขณะนี้มีธนาคาร 2 แห่ง อยู่ระหว่างการทดสอบ และมีอีก 6 แห่ง อยู่ระหว่างยื่นคำขอเข้าโครงการ

https://money.kapook.com

6 พฤติกรรมเสี่ยงโจรขึ้นบ้านช่วงวันหยุดยาว

วันหยุดยาวที่รอคอยกำลังใกล้มาถึง ไม่เฉพาะเราที่เตรียมเก็บกระเป๋าออกเดินทางพักผ่อนในวันหยุดยาว แต่โจรขโมยก็นับวันรอช่วงเวลานี้เช่นกัน ก่อนจะไว้ใจทิ้งบ้านไว้กับพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน หรือกล้องวงจรปิด ลองสำรวจตรวจสอบบ้านของเราสักนิดว่า มีความโดดเด่นเข้าตาโจรมากแค่ไหน เพราะบางพฤติกรรมของเราอาจจะทำให้บ้านต้องตกอยู่ในความเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว

– เปิดไฟในบ้าน
เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักเลือกเปิดไฟทิ้งไว้เวลาไม่อยู่บ้าน เพราะเชื่อว่าการเปิดไฟสามารถตบตาหรือหลอกโจรขโมยได้ แต่ในทางตรงกันข้ามมันกลับเป็นการป่าวประกาศให้คนร้ายรู้ว่า บ้านหลังนี้ปลอดคน ยิ่งไปกว่านั้นการเปิดไฟในเวลากลางคืน ขณะที่ข้างนอกมืดมิดจะทำให้ภายในบ้านสว่างมากขึ้น และสามารถมองเห็นจากภายนอกบ้านได้อย่างชัดเจน โดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ ก็สามารถคำนวณมูลค่าทรัพย์สินที่เห็นในบ้านได้

ทางที่ดีหากต้องการเปิดไฟทิ้งไว้ เพื่อให้บ้านสว่าง เราควรเปิดไฟภายนอกบ้านแทนในบ้าน โดยเลือกไฟที่สามารถเปิดอัตโนมัติในเวลากลางคืน ซึ่งมีจำหน่ายตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป และควรเปิดไฟนอกบ้านเป็นประจำทุกคืน ไม่เปิดเฉพาะช่วงเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตหรือให้มิจฉาชีพจับความผิดปกติได้

– ปิดบ้านสนิทมิดชิด
นอกจากการเปิดไฟในบ้านให้สว่างแล้ว เจ้าของบ้านที่จะทิ้งบ้านส่วนใหญ่มักจะพยายามปิดบ้านให้มิดชิดที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะการปิดม่านไม่ให้คนภายนอกมองเห็น ซึ่งในภาษาของโจรขโมย นั่นเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของบ้านที่ไม่มีคนอยู่เช่นเดียวกับการเปิดไฟในบ้านที่คิดว่าจะหลอกคนร้ายได้สำเร็จ

ดังนั้น เราอาจจะต้องซ้อนแผนหลอกโจร แทนที่จะปิดม่านมิดชิดกลายเป็นจุดสังเกตชัดเจน เราควรแง้มผ้าม่านไว้ในบางจุด และให้เป็นธรรมชาติที่สุด โดยเลือกเปิดไฟหน้าบ้านไว้แทนดวงไฟในบ้าน เพื่อไม่ให้คนร้ายเห็นข้าวของภายในและไม่ให้คนร้ายรู้ว่าแท้จริงแล้วบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่

– ขยะหน้าบ้าน
การพยายามกำจัดขยะก่อนไปเที่ยวให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้อาจจะไม่ใช่แผนการที่ดีนัก และไม่ถูกจังหวะเวลาอย่างที่คิด เนื่องจากขยะที่กองอยู่หน้าบ้านมากเกินไปอาจจะเป็นจุดสังเกตให้โจรขโมยที่เตรียมการดูลาดเลาเห็นความผิดปกติและสามารถคาดการณ์ได้ว่า เจ้าของบ้านกำลังจะทิ้งบ้าน จึงต้องจัดการกับขยะในบ้านให้มากที่สุด เพื่อให้รถเก็บขยะในช่วงที่ตัวเองไม่อยู่

นอกจากนั้น เราควรระมัดระวังการทิ้งกล่องใส่ข้าวของราคาแพง โดยเฉพาะสินค้าชิ้นใหญ่ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเหมือนการโฆษณาให้โจรขโมยรู้ว่า ในบ้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเฟอร์นิเจอร์อะไรมาใหม่ และคำนวณความคุ้มค่าในการงัดแงะขโมยทรัพย์สินของเราต่อไปได้

– ต้นไม้ใหญ่พรางตา
การปลูกต้นไม้ใหญ่อาจจะให้ประโยชน์ในแง่ของความร่มรื่นและการพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติ แต่ในความเป็นจริงต้นไม้สูงใหญ่หรือต้นไม้ที่เป็นพุ่มหนาอาจจะกลายเป็นเกราะกำบังไม่ให้บุคคลภายนอกสังเกตเห็นโจรที่กำลังงัดแงะเข้าบ้านเพื่อขโมยทรัพย์สินมีค่าของเรา รวมถึงต้นไม้ขนาดใหญ่เหล่านี้ยังอาจจะกลายเป็นบันไดให้มิจฉาชีพสามารถปีนป่ายเข้าบ้านของเราได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม หากต้องการปลูกต้นไม้ให้บ้านร่มรื่นหรือให้มีธรรมชาติเรียกความสดชื่น เราสามารถแต่งสวนด้วยพุ่มไม้เตี้ยๆ หรือเลือกต้นไม้ที่มีหนามแหลมคม เพื่อเป็นเกราะป้องกันโจรขโมยที่จะบุกบ้านเราได้ชั้นหนึ่ง รวมถึงควรเลือกพันธุ์ไม้ที่สามารถงอกงามได้เป็นอย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องรดน้ำเป็นประจำทุกวัน เพราะหากเราต้องทิ้งบ้านหลายวัน ต้นไม้หรือดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาอาจจะกลายเป็นจุดสังเกตเรียกความสนใจของมิจฉาชีพได้

– ตู้จดหมายหน้าบ้านเป็นเหตุ
อย่าปล่อยให้จดหมายล้นอยู่ในตู้จดหมาย เพราะเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สะท้อนชัดได้ว่า เจ้าของบ้านยังไม่กลับมาไขตู้จดหมาย หรือไม่มีใครตรวจสอบตู้จดหมาย ทั้งที่อาจจะมีสัญญาสำคัญที่จำเป็นต้องรีบดำเนินการ หรือแม้แต่การบอกรับหนังสือพิมพ์ที่เสียบไว้กับตู้จดหมายหน้าบ้านค้างไว้หลายวันจนล้นก็ยิ่งเป็นจุดสนใจของมิจฉาชีพ

ทางที่ดีเราอาจจะใช้วิธีฝากเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ หรือบอกพนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านให้ช่วยเก็บเอกสารในเวลาที่เราไม่อยู่บ้าน และระงับการส่งสินค้าชั่วคราวในช่วงที่เราไม่อยู่

– ลงโซเชียลตลอด
ยุคสมัยนี้ ทำอะไรที่ไหน ต้องประกาศลงโซเชียลให้โลกรู้ แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า การเปิดสาธารณะจะไม่มีมิจฉาชีพเข้ามาสอดส่องเก็บความเคลื่อนไหวของเรา โดยเฉพาะหากเคยเช็กอินตำแหน่งที่ตั้งบ้านไว้อาจจะกลายเป็นอันตรายในภายหลัง เมื่อเราอัพโหลดรูปและเช็กอินสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด

หรือหากตั้งค่าเฉพาะให้เพื่อนของเราเท่านั้นที่เห็น เราต้องมั่นใจว่า เพื่อนในรายชื่อของเราไว้วางใจได้และไม่มีมิจฉาชีพปะปนเข้ามา

ทางที่ดีเราไม่ควรเปิดสาธารณะให้ใครก็ได้เข้ามาแอบส่อง และไม่ควรเช็กอินที่ตั้งบ้านของเราในโลกออนไลน์ เพราะแม้จะตั้งค่าเฉพาะเพื่อนเท่านั้นที่เห็น แต่บนโลกออนไลน์อาจจะมีมิจฉาชีพเข้ามาปะปนหรือถูกล้วงข้อมูลได้ ทั้งยังไม่จำเป็นต้องรายงานความเคลื่อนไหว ทำอะไร ที่ไหนตลอดเวลา หรือหากต้องการลงรูปก็อาจจะลงปิดท้ายในวันกลับทีเดียวน่าจะปลอดภัยต่อทรัพย์สินของเรามากกว่า

http://www.ddproperty.com

เรื่องสั้นสอนใจ เรื่อง เคล็ดลับความสามัคคี

วัดเหนือและวัดใต้ แต่ละแห่งมีพระและเณรอาศัยอยู่ 10 กว่ารูป พระเณรในวัดเหนือสามัคคีกันมาก การปฏิบัติบำเพ็ญก็ค่อนข้างก้าวหน้า ส่วนพระเณรในวัดใต้ต่างก็อิจฉากัน ไม่มีความสามัคคี
พระอาจารย์ฉือหยินเจ้าอาวาสวัดใต้ รู้สึกอัปยศกับเรื่องนี้มาก และนึกชมเชยวัดเหนืออยู่ในใจ ท่านอยากจะทราบถึงสาเหตุแต่จนแล้วจนรอดก็หาสาเหตุไม่พบ

วันหนึ่งเมื่อท่านไปเยี่ยมเยียนวัดเหนือ เลยถือโอกาสถามถึงปัญหานี้

เจ้าอาวาสฝั่งตรงข้ามตอบเรียบๆ ว่า…ก็ไม่มีอะไรหรอกเพียงแต่พระเณรที่นี่ล้วนแต่เป็นคนไม่ดี ต่างจึงให้กำลังใจกันสามัคคีกัน

คำตอบสั้นๆ เช่นนี้ แม้จะเป็นการถ่อมตน แต่ก็ไม่กระจ่างอยู่ดี

ต่อมาขณะที่เจ้าอาวาสวัดใต้ไปเยี่ยมเยียนวัดฝั่งตรงข้ามอีกก็ได้ยินคำพูดตำหนิตนเองดังมาจากในโบสถ์อย่างไม่ตั้งใจ

 “เป็นเพราะผมไม่ดีเอง ถ้าหากผมถูพื้นเร็วกว่านี้หน่อย หลวงพี่ก็คงไม่ลื่นหกล้ม” พระคนแรกกล่าว

“ไม่ ผมสะเพร่าเอง ใจร้อนเดินเร็วเกินไป ถึงได้เดินหกล้ม” พระที่ลื่นหกล้มกล่าว

“ก่อนที่หลวงที่จะเข้ามาในโบสถ์ ถ้าผมเตือนสักคำ ก็คงไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น เป็นเพราะผมไม่ดีเอง”

พระคนที่ 2 กล่าว

“เอาละ อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น ต้องโทษตัวผมเองที่ไม่ระมัดระวัง”
พระที่หกล้มกล่าว

เจ้าอาวาสวัดใต้ตอนนี้จึงเข้าใจความหมายอันแท้จริงของคำว่า…ล้วนแต่เป็นคนไม่ดี

http://www.trueplookpanya.com

ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 1/09/2560

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  1/09/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร
	ปตท PTT	บางจาก BCP	เชลล์ Shell	เอสโซ่ Esso	คาลเท็กซ์ Caltex	ไออาร์พีซี IRPC	พีทีจี เอนเนอยี่ PTG	ซัสโก้ Susco	ระยองเพียว Pure	ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95	27.15	27.15	–	27.15	34.71	27.15	27.15	27.15	27.15	27.15
แก๊สโซฮอล E-20	24.64	24.64	24.64	24.64	24.64	–	24.64	24.64	24.64	24.64
แก๊สโซฮอล E-85	20.24	20.24	–	–	–	–	–	20.24	19.94	–
แก๊สโซฮอล 91	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88	26.88
เบนซิน 95	34.26	–	–	–	34.71	–	34.76	34.26	34.26	34.26
ดีเซลหมุนเร็ว	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99	24.99
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม	27.99	28.67	28.67	28.67	28.67	–	–	–	–	–
มีผลตั้งแต่	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05:00	30 Aug 05: