ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,750.00 | 19,850.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,279.00 | 19,389.64 | 20,350.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,151.10 | 17,450.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 576.00 | 8,732.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 448.00 | 6,791.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,325.00 | 20,087.00 | n/a |
อสังหาฯลุยลงทุน‘อีอีซี’ชิงดีมานด์คนทำงาน-ต่างชาติ
ภายใต้การลงทุน เมกะโปรเจค อีอีซี ของภาครัฐจะช่วยยกระดับเศรษฐกิจประเทศไทยให้เป็นเขตเศรษฐกิจชั้นนำของอาเซียน สร้างการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมและบริการ 1 แสนอัตราต่อปี ส่งผลต่อโอกาสการขยายตัวในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และความต้องการที่อยู่อาศัยจำนวนมาก
สุรเชษฐ กองชีพ นักวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าแนวทางการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่อีอีซี ถือเป็นทำเลศักยภาพ ที่มีทั้งตลาดที่อยู่อาศัยและโครงการรูปแบบอื่นๆ ที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการขยายตัวของคนที่เข้ามาทำงานที่อาจจะเป็นการเข้ามาทำงานแบบชั่วคราว รวมไปถึงมีชาวต่างชาติที่อาจจะไม่เลือกพักอาศัยในโครงการที่อยู่อาศัยรูปแบบอื่นๆ ที่คนไทยเลือกซื้อ เช่น โครงการบ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม
ดังนั้นในทำเลอีอีซี จึงมีโครงการโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์ และอพาร์ตเม้นต์ เกิดขึ้นต่อเนื่องแต่จำนวนไม่มากนัก เนื่องจากนักลงทุนและผู้ประกอบการอาจยังไม่มั่นใจในจำนวนของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่อีอีซี
ทั้งนี้ การพัฒนาโครงการที่เกิดขึ้นมากที่สุด คือ บ้านจัดสรรที่เข้ามารองรับคนทำงานในโรงงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ที่อาจจะมีอยู่ก่อนแล้วและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก อีกทั้งสามารถพัฒนาเป็นเฟสหรือทยอยสร้างได้ ส่วนคอนโด อาจจะมีโครงการเกิดขึ้นค่อนข้างมากในบางทำเลของอีอีซีเท่านั้น เช่น บางแสน ศรีราชา พัทยา เป็นต้น
การลงทุนโครงการอสังหาฯในอีอีซี อาจจะมีมูลค่าปีละไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่ยังคงเป็นโครงการที่อยู่อาศัย ส่วนโรงแรมหรือเซอร์วิสอพาร์ตเม้นต์จะอยู่ในพื้นที่ ศรีราชา บางแสนหรือบางทำเลของพัทยาเท่านั้น แต่เมื่อโครงการอีอีซีเดินหน้า เชื่อว่ามูลค่าการลงทุนอสังหาฯ จะเพิ่มมากนี้ตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม
หากไม่นับพื้นที่ปริมณฑลถือได้ว่าพื้นที่อีอีซี “ชลบุรีและระยอง”เป็นจังหวัดที่มีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่มากเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศไทย เพราะปัจจัยเรื่องของนิคมอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวต่อเนื่องแม้ว่าจะมีอัตราการขยายตัวที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีโรงงานใหม่ๆ เปิดกิจการต่อเนื่อง แรงงานทุกระดับชั้นก็มีแต่เพิ่มขึ้นทุกปีๆ
ดังนั้นตลาดที่อยู่อาศัยจึงมีการขยายตัวมาโดยตลอดเช่นกันและในอนาคตโครงการภาครัฐที่กำลังจะเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของพื้นที่อีอีซีมีความชัดเจนมากขึ้นด้านการลงทุน จำนวนโครงการอสังหาฯก็จะมากขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่รอบๆ นิคมอุตสาหกรรมและเขตเมืองใหม่ที่อยู่ในแผนการพัฒนาของทางรัฐบบาล
สำหรับที่อยู่อาศัยในชลบุรี แบ่งออกเป็นตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับคนในพื้นที่และคนที่เข้ามาทำงาน โดยตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับคนในพื้นที่ ทำเลของโครงการในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในอำเภอเมืองหรือพื้นที่อยู่รอบๆ นิคมอุตสาหกรรมที่มีคนต่างถิ่นเข้ามาทำงานจำนวนมาก รูปแบบโครงการจะมีทั้งบ้านจัดสรรและคอนโด โดยโครงการบ้านจัดสรรอาจจะมีหลากหลายรูปแบบทั้งทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ เพราะว่ากลุ่มผู้ซื้อมีความหลากหลาย
ขณะที่คอนโด จะมีจำนวนน้อยกว่าชัดเจนและกระจายอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูงหรือมีการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวก เช่น ศรีราชา พัทยา บางแสน เป็นต้น
อีกกลุ่มคือ ตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อน เป็นโครงการที่อยู่ติดทะเล หรือไม่ไกลจากทะเล ส่วนใหญ่เป็นคอนโด ที่ราคาขายแตกต่างกันโดยเริ่มจาก 1 ล้านบาทต่อยูนิตขึ้นไปถึงมากกว่า 10 ล้านบาทต่อยูนิตไม่ได้แตกต่างจากตลาดกรุงเทพฯ โครงการที่อยู่ติดทะเลหรือไม่ไกลจากทะเล จะมีราคาขายมากกว่าโครงการที่ไกลออกไปอยู่แล้วเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น ราคาขายของโครงการจึงมีให้เลือกหลากหลาย
ตลาดคอนโดอีกรูปแบบหนึ่งคือ กลุ่มผู้ซื้อที่ซื้อคอนโด เพื่อการปล่อยเช่า ก่อนหน้านี้อาจจะได้รับความนิยมค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันเริ่มมีคนลงทุนรูปแบบนี้ลดลง เพราะว่าจำนวนคอนโดในตลาดมีมากเกินไป เกิดการแข่งขันค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องการตั้งราคาขายหรือเช่าที่อาจจะต่ำกว่าในอดีต ทำให้ผลตอบแทนที่ได้รับลดลงตามไปด้วย ดังนั้นการลงทุนรูปแบบนี้จึงไม่มากเหมือนในอดีต หลายโครงการที่เน้นผู้ซื้อกลุ่มนี้จึงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับในอดีต
ทางด้าน“ระยอง” รูปแบบโครงการที่เปิดขายมีรูปแบบเดียวกับชลบุรี เพียงแต่กลุ่มของที่อยู่อาศัยเพื่อการพักผ่อนนั้นจะมีขนาดตลาดและจำนวนโครงการน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด โดยโครงการในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ตามแนวชายหาดและมีไม่กี่โครงการเท่านั้น แต่มีผู้ประกอบการต่างชาติบางรายที่เลือกทำเลตามแนวชายหาดเปิดขายโครงการต่อเนื่องมาหลายปี เพราะมีชาวต่างชาติบางกลุ่มเลือกมาพักที่ระยองแทนพัทยาที่ค่อนข้างวุ่นวายช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ขณะที่ “ฉะเชิงเทรา” โครงการบ้านจัดสรรเป็นรูปแบบที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อมากที่สุดและแทบไม่มีโครงการคอนโด เพราะที่ดินราคาไม่สูง ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงเน้นพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลัก อาจจะเป็นจังหวัดที่มีการขยายตัวต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับอีก 2 จังหวัดในอีอีซี แต่ในอนาคตถ้าโครงการการพัฒนาเมืองใหม่ควบคู่ไปกับโครงการอีอีซีเกิดขึ้นเป็นรูปธรรมเชื่อว่าฉะเชิงเทรา จะมีการพัฒนามากกว่าทีเป็นอยู่ ด้วยความที่ใกล้กรุงเทพฯ
ก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการในพื้นที่อีอีซีส่วนใหญ่เป็นกลุ่มท้องถิ่นที่เปิดขายโครงการกันมานานแล้ว แต่ช่วงหลายปีที่ผ่านมามีรายใหญ่เข้าไปในพื้นที่และเปิดขายโครงการที่อยู่อาศัยมากขึ้น และเกือบทุกรายเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบันครองสัดส่วนเกือบ 70%
http://www.bangkokbiznews.com
ปชป.อัดทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ชี้หยุดโฆษณาชวนเชื่อ เร่งแก้ปัญหาปากท้องปชช.
“จุติ” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ หวั่นงานผักชีโรยหน้า อัดทีมเศรษฐกิจรัฐบาลคมช. หยุดทำการตลาดโฆษณาชวนเชื่อ เร่งแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน
นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอเรียกร้องให้ทีมเศรษฐกิจที่โฆษณาว่าเป็นดรีมทีมเศรษฐกิจทีมนี้หันมาดูแลปัญหาคนจนในเมืองและเกษตรกรในต่างจังหวัดเป็นพิเศษ ซึ่งพรรคมีความห่วงใยว่าทีมเศรษฐกิจเน้นทำการตลาดโฆษณาชวนเชื่อมากกว่าแก้ปัญหาปากท้องและการทำมาหากินของประชาชนระดับกลางและระดับล่าง ไม่ว่าจะเป็นโครงการเดินหน้าพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่อยอดสู่ผู้ประกอบการตั้งเป้าผลิต 3,000 รายในปี 2561 ในขณะที่ยังมีเกษตรกรที่ยากจนอยู่อีกเป็นล้านรายที่รอความช่วยเหลือของทีมเศรษฐกิจรัฐบาล ท่านคิดอะไรอยู่ท่านรู้ปัญหาแท้จริงของประเทศหรือไม่
นายจุติ กล่าวว่า ตนเห็นว่า เศรษฐกิจประเทศไม่ได้ดีอย่างที่คิด ถ้าดูตัวเลขผลประกอบการของกลุ่มธนาคารพาณิชย์มีปัญหาการกันสำรองหนี้สูงขึ้น หมายถึงรากหญ้าและเอสเอ็มอีผิดชำระหนี้เพิ่มขึ้น ถ้าไม่แก้ตรงนี้จะกลายเป็นดินพอกหางหมูจาก ผิดชำระหนี้เป็นกลุ่มหนี้เสีย นอกจากนี้ในปี 2559ที่สร้างฝันว่าคนไทยจะได้ใช้รถไฟความเร็วสูงในอีกสี่ปีข้างหน้าวันนี้ต้องการความชัดเจนจากทีมเศรษฐกิจว่าทำไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ ต้องเปลี่ยนเป็นระบบรางคู่และไม่เน้นไม่พูดถึงรถไฟความเร็วสูงเหมือนเมื่อสองปีก่อนเลย นักลงทุนในต่างจังหวัดสับสนกับการลำดับความสำคัญและทิศทางของทีมเศรษฐกิจในการพัฒนาประเทศ ปี 2559 พูดอย่างหนึ่ง ปี 2561 พูดอีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้กลายเป็นหายใจเข้าหายใจออกเป็นอีอีซีแล้วเปลี่ยนของเล่นใหม่จนประชาชนและนัก ธุรกิจตามไม่ทัน
นายจุติ กล่าวว่า หากเดินหน้าแต่ปล่อยปัญหาทิ้งไว้ข้างหลัง วันนี้ดึงต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทยเปิดประเทศแต่ไม่มีกฎหมายคุ้มครองอาชีพคนไทยเลย กว่ารัฐบาลจะผ่านกฎหมายไป คุ้มครอง คนไทยโดนแย่งอาชีพ เจ๊ง ล้มละลายกันหมดแล้ว อยากให้ทีมเศรษฐกิจรัฐบาลและ สนช.ให้ความสำคัญเร่งแก้กฏหมายให้ความคุ้มครองธุรกิจและอาชีพของคนไทยอย่างที่นายกประกาศว่า ประเทศไทย คนไทยต้องมาก่อน นอกจากจากนี้ประสิทธิภาพการบริหารงานแย่มากปล่อยให้บริษัทก่อสร้างรัฐสภาต่ออายุสัญญาสร้างรัฐสภาเป็นรอบที่สี่ ขอแก้สัญญาเพิ่มเวลาก่อสร้างอีก 674 วัน
“อยากให้ทีมเศรษฐกิจหยุดเปิดหน้างานใหม่และหันมาชำระสะสางงานเก่าที่คั่งค้างให้สำเร็จสมบูรณ์ให้คนมีงานทำมีกินมีใช้พอเพียงก่อน ค่อยไปทำโครงการ “หรู” ในวันหน้า เป็นงานผักชีโรยหน้าทั้งนั้น ” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com
ญี่ปุ่นปฏิเสธลงทุนรถไฟความเร็วสูงในไทย แต่ให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแทน
สำนักข่าว Straits Times ของสิงคโปร์รายงานโดยอ้างจากหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ของไทยว่า ตัวแทนจากรัฐบาลไทย นำโดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ร่วมประชุมกับตัวแทนภาครัฐของประเทศญี่ปุ่น นำโดยนายโนริโยชิ ยามากามิ ผู้แทนจากกรมการรถไฟ กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐานการขนส่งและการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น
หลังจากที่มีการเจรจาถึงความพร้อมและการทบทวนเรื่องการเข้ามาลงทุนของรัฐบาลญี่ปุ่นในการจัดสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ – เชียงใหม่ ระยะทางทั้งสิ้น 670 กิโลเมตร จำนวน 12 สถานี ใช้เวลาในการเดินทาง 3 ชั่วโมงเต็ม ด้วยความเร็วในการเดินรถ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และคาดว่าราคาบัตรโดยสารน่าจะอยู่ที่ประมาณเที่ยวละ 1,200 บาทต่อคน
หลังจากพิจารณาเรื่องของความคุ้มทุน ปัจจัยของสภาวะเศรษฐกิจ และองค์ประกอบโดยรวม ผลปรากฏว่าญี่ปุ่นขอปฏิเสธที่จะเข้ามาร่วมลงทุนในการสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพ – เชียงใหม่กับรัฐบาลไทย และยืนยันที่จะให้ไทยเป็นผู้ลงทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานนี้แต่เพียงผู้เดียว
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นยินดีที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยวิธีการให้ทางการไทยกู้ยืมเงิน แต่สิ่งที่รัฐบาลไทยพยายามมาโดยตลอดคือ การลดปริมาณการกู้หนี้จากต่างประเทศ ด้วยการหาผู้ร่วมลงทุนแทน อย่างไรก็ตาม เมื่อการร่วมลงทุนไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น สิ่งที่ทางรัฐบาลไทยจะทำได้คือการเจรจาเพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยในการกู้ยืมเงินเพื่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเส้นทางนี้
ตามข้อมูลจากศึกษารายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูงของทางการญี่ปุ่นระบุว่า เส้นทางรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพ – เชียงใหม่ ความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะต้องใช้งบประมาณในการสร้างราว 420,000 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแผนที่จะเสนอขอลดความเร็วของรถไฟให้เหลือเพียง 180-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อลดต้นทุนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่การศึกษาชี้ว่าจะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่งที่จะสร้างรถไฟความเร็วปานกลางด้วยต้นทุนที่สูงขนาดนี้
ขณะที่ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันว่าการสร้างรถไฟครั้งนี้จะยึดความเร็วสูงสุดตามเดิม คือ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ากับรถไฟ Shinkansen ของญี่ปุ่น ซึ่งนายอาคมระบุว่าก่อนหน้านี้เคยเสนอแนะวิธีการลดต้นทุนด้วยการตัดสถานีบางแห่งออกแทนการลดความเร็วของรถไฟ
แต่ทางการญี่ปุ่นยืนยันว่าการลดจำนวนสถานีจะไม่ส่งผลดี เพราะตลอดสายมีเพียงแค่ 12 สถานีเท่านั้น การลดจำนวนสถานียิ่งส่งผลให้ผู้ที่จะใช้บริการโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในเขตที่ใกล้กับสถานีลดจำนวนลงตามไปด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ และการเจรจาจะยังคงดำเนินต่อไป โดยจะมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อหารือทางออกในเร็ว ๆ นี้อีกครั้ง
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมรถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพ – เชียงใหม่ วงเงิน 276,000 ล้านบาท ว่าคณะทำงานฝ่ายญี่ปุ่นได้รายงานผลการศึกษาและความสำคัญของโครงการฯ โดยเน้นการพิจารณา 3 ประเด็นหลัก
หนึ่ง เรื่องต้นทุนของโครงการ คณะทำงานของทั้งฝ่ายไทยและญี่ปุ่นได้พิจารณาถึงความจำเป็น เพื่อลดต้นทุนในการก่อสร้าง อาทิ ในเส้นทางกรุงเทพ – พิษณุโลก อาจจะมีการตัดสถานีพิจิตร และสถานีลพบุรีออกไป แต่ต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบถึงความคุ้มค่า เนื่องจากจะส่งผลทำให้จำนวนผู้โดยสารหายไปด้วย
สอง ความเร็วของรถไฟ รมว.คมนาคมยืนยันว่าจะยังคงใช้ระบบและเทคโนโลยีของรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นที่ความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานของญี่ปุ่น เนื่องจากหากความเร็วต่ำกว่านี้ ประชาชนส่วนใหญ่จะเลือกใช้การเดินทางรูปแบบอื่น อีกทั้งจากรายงานการศึกษายังระบุอีกว่า ถ้าระยะทาง 500 กิโลเมตร การเดินทางโดยรถยนต์จะเกิดความคุ้มค่า และหากเป็นรถไฟความเร็วสูงควรมีระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร และจุดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 749 กิโลเมตร
สาม สร้างความเชื่อมโยง (connectivity) การก่อสร้างต้องคำนึงถึงการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ เช่นเดียวกับโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ที่คาดการณ์ว่าการเดินทางของประชาชนจีนจะมีปริมาณสูง ด้วยเหตุนี้จึงเสนอให้พิจารณาความเชื่อมโยงฝั่งตะวันออก-ตะวันตก ในเส้นทางบ้านไผ่-มุกดาหาร ที่เชื่อว่าในอนาคตจะมีศักยภาพอย่างแน่นอน โดยทางญี่ปุ่นจะเข้ามาช่วยทำการศึกษาในเส้นทางบ้านไผ่-นครสวรรค์ ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จะศึกษาในเส้นทางนครสวรรค์-แม่สอด
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาพื้นที่ตามแนวเส้นทางของโครงการและบริเวณสถานีถือเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้โครงการมีความคุ้มค่าสูงสุด ซึ่งหากเน้นเฉพาะการขนส่งผู้โดยสารด้วยรถไฟความเร็วสูง จะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (IRR) อยู่ที่ประมาณ 7% และถ้ามีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว จะอยู่ที่ประมาณ 14%
“สำหรับเรื่องการลงทุน อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงการคลังเพื่อหาแหล่งเงินทุนของโครงการ ซึ่งเบื้องต้นอาจจะเป็นรูปแบบของการร่วมทุนทั้งโครงการระหว่างไทยและญี่ปุ่น” นายอาคมกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องมีการหารือร่วมกับญี่ปุ่นอีกครั้ง และเตรียมเสนอความเป็นได้ของโครงการรถไฟไทย-ญี่ปุ่น เส้นทางกรุงเทพ – เชียงใหม่ ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพ – พิษณุโลก ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน มี.ค.นี้
https://money.sanook.com
ศักราชใหม่โลกไอที โจทย์ท้าทายธุรกิจยุค4.0
เชื่อหรือไม่ว่าภายในปี 2573 โลกไอทีที่รู้จักทุกวันนี้จะไม่พบเห็นกันอีกต่อไป
สตีเฟ่น ไมล์ ประธานเจ้าหน้าฝ่ายเทคโนโลยี ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคและญี่ปุ่น ซีเอเทคโนโลยี เปิดประเด็นไว้อย่างน่าสนใจ
เขาคาดการณ์ว่า ปีดังกล่าวสิ่งที่รู้จักว่าเป็นโลกไอทีในทุกวันนี้ จะเปลี่ยนแปลงจนไม่เหลือโฉมหน้าเดิมอีกต่อไป ระบบไอทีในวันข้างหน้าจะกลายเป็น “ลูกผสมระหว่างคนและจักรกล”
โดยรูปแบบของสิ่งแวดล้อมการทำงานระหว่างคนเทคโนโลยีจะมีปรากฏทั้งในธุรกิจปัจจุบันและธุรกิจที่เกิดใหม่ในอนาคต พลิกผันได้ในแบบเรียลไทม์ เพื่อมุ่งสู่ความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ
“ตัวแปรเหล่านี้จะมีบทบาทในอนาคต เป็นจุดเริ่มต้นของการปูทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย พร้อมกดดันให้โครงสร้างบริษัทเอ็นเทอร์ไพรซ์ขนาดใหญ่แบบเก่าได้รับผลกระทบโดยเศรษฐกิจแบบรายเล็กย่อยอิสระจะเริ่มกรุยทางให้เกิดโมเดลใหม่ๆ ที่อาจจะก่อตัวเป็นระบบเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ในระดับชาติก็ได้”
ที่น่าสนใจ เกิด “ซอฟต์แวร์ที่ไม่ได้ใช้โค้ด” โดยแทนที่ด้วยระบบแพลตฟอร์มหรือใช้โค้ดซอฟต์แวร์ในระดับต่ำ โดยการประกอบบล็อกของโค้ดเข้าด้วยกันเพื่อเป็นแอพพลิเคชั่นใหม่สามารถทำได้โดยไม่ต้องมานั่งแก้ไขตัวโค้ดที่อยู่ด้านหลังการทำงานโดยตรง มีการเรียนรู้โดยอัตโนมัติ สามารถเขียนได้ด้วยตัวเองและวิวัฒนาการตัวเองผ่านการเรียนรู้
ทั้งนี้ ต่อไปศูนย์กลางและความสำคัญของการตัดสินใจในองค์กรจะย้ายจากการสั่งการจากเบื้องบนของโครงสร้างบริหารระบบไอทีแบบเดิม ไปเป็นการใช้แบบรับฟังความเห็นจากเบื้องล่าง แอพพลิเคชั่นแบบเดิมที่รวมศูนย์เป็นหนึ่งเดียวจะเปิดทางให้มีการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ที่เน้นการกระจายตัวและยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง นวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีผลักดันจะเกิดได้จากทุกแห่งทุกหน่วยงานไม่จำเป็นต้องมาจากหน่วยงานไอทีเสมอไป
อัตโนมัติ-เรียลไทม์
เขากล่าวต่อว่า ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นเรื่องของอนาคตในระยะไกล ส่วนระยะใกล้ ระบบข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลจะเดินหน้าปฏิวัติการบริหารจัดการแบบยืดหยุ่นในปัจจุบัน โดยการนำเสนอโมเดลวิเคราะห์ใหม่ๆ ซึ่งจะขยายตัวและเร่งการทำงานมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันต้องการข้อมูลการวิเคราะห์เชิงลึกมากขึ้น กลายมาเป็นส่วนสำคัญของการสร้างคุณค่าใหม่ๆ ทางธุรกิจ นำเสนอได้ในแบบเรียลไทม์ทั้งมาตรวัดทางการเงินและธุรกิจที่ต้องการ ต่อไปจะสามารถคาดการณ์และตรวจวัดผลของการลงทุนและการใช้งานซอฟต์แวร์ว่าดีและจำเป็นแค่ไหนเพียงไรรวมทั้งคาดการณ์ได้ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
นอกจากนี้ ที่จะได้เห็นระบบอัตโนมัติที่ใช้งานอยู่ทุกวันนี้จะผ่านการใช้งาน มีการทดสอบ เรียนรู้และเกิดเป็นกระบวนการทางธุรกิจที่เป็นระบบอัตโนมัติ แต่ทั้งนี้การจะใช้ประโยชน์สูงสุดจำเป็นที่จะต้องวางมาตรฐานและเชื่อมต่อระบบเวิร์กโฟลว์อย่างราบรื่น ผ่านทั้งกระบวนการการพัฒนาระบบ รวมถึงเครื่องมือที่ใช้งานระบบวิเคราะห์จะช่วยให้ค้นพบปัญหาคอขวดหรือจุดอ่อนที่มีในระบบการทำงานของซอฟต์แวร์
“อนาคตของระบบอัตโนมัติคือปัญญาอัจฉริยะซึ่งจะเรียนรู้ ปรับตัว และใช้งานสูงสุดจากระบบที่มีทั้งหมด โดยที่จะเริ่มเห็นซอฟต์แวร์ที่จะพัฒนาตัวเองได้ในบางส่วนของการใช้งานแทนที่จะพัฒนาขึ้นจากมนุษย์แต่อย่างเดียว”
ท้าทายยุคเฟื่องเอไอ
ไมล์ชี้ว่า ปีนี้จะเห็นระบบปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่มีการพัฒนาดีขึ้น โดยไม่ใช่หมายถึงแค่ หุ่นยนต์ที่พูดได้อีกต่อไป แต่จะเป็นชุดของอัลกอริทึมส์ ที่แสดงออกผ่านโค้ดที่ใช้งานกับระบบข้อมูลต่างๆ ที่มีโดยระบบเอ็นจินเชิงวิเคราะห์ระดับสูง ระบบเอไอและการเรียนรู้โดยจักรกลจะผลักดันแนวทางที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงในการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยระบบจักรกลอัจฉริยะจะนำเสนอความฝันที่ตั้งใจไว้ของการใช้งานบิ๊กดาต้า และระบบที่สามารถเรียนรู้ได้ตัวเองจะพัฒนาและนำเสนอซอฟต์แวร์ออกมาได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของการบริหารจัดการและการรักษาความปลอดภัยของเทคโนโลยีจะไม่หายไปไหนแต่จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการใช้งานผ่านระบบอัตโนมัติและดำเนินการในแบบอัจฉริยะซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้สามารถเน้นหนักไปที่เรื่องอื่นที่มีความสำคัญและสร้างคุณค่าใหม่ๆ เพื่อผลักดันธุรกิจให้ก้าวต่อไป
ยุคสมัยที่ซอฟต์แวร์กลายเป็นเครื่องมือในการติดต่อสัมพันธ์หลักกับลูกค้าของแบรนด์และบริษัทต่างๆ การรักษาความปลอดภัย คือเรื่องเดียว กับคำว่าไว้วางใจ หรือกล่าวได้ว่า จะต้องรักษาความปลอดภัยให้กับทั้งระบบเชื่อมโยงทั้งบริษัทและแบรนด์ มิใช่แค่รักษาความปลอดภัยของตัวข้อมูลแต่เพียงอย่างเดียว
ดังนั้น การลดความเสี่ยงทำได้โดยการนำระบบอัจฉริยะมาช่วยจัดการระบบไอดีและเดินหน้าระบบการวิเคราะห์ซับซ้อนที่จะช่วยพัฒนาการรักษาความปลอดภัยในอนาคตแต่อย่างไรก็ตาม พวกแฮกเกอร์เจาะระบบก็มีขีดความสามารถด้านนี้เพิ่มด้วย เช่นกันกันการเรียนรู้ด้วยจักรกลและเอไอจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการรักษาความปลอดภัย
พร้อมระบุ ปัญหาความเสี่ยงที่บริษัทระดับเอนเทอร์ไพรซ์กำลังเผชิญปัจจุบันจะยังเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความเสี่ยงต่อข้อมูลและความต่อเนื่องทางธุรกิจโดยระบบเอไอจะเป็นภัยคุกคามใหม่ที่ต้องรับมือ
http://www.bangkokbiznews.com
14 อาหารล้างพิษตับ
การใช้ชีวิตในสังคมสมัยใหม่ทำให้ตับในร่างกายของเราทำงานมากเกินไป เมื่อเรากินมากเกินหรือทานอาหารแปรรูปมากเกิน กินแต่อาหารทอด การเผชิญกับมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความเครียด ตับก็จะทำงานหนักจนเกินกำลัง เมื่อถึงจุดหนึ่งตับก็จะหมดความสามารถในการกรองสารพิษและไขมันต่างๆ แต่มีอาหารอยู่หลายชนิดที่ช่วยชำระล้างพิษในตับ โดยกระตุ้นความสามารถตามธรรมชาติเพื่อขับไล่ของเสียที่เป็นพิษออกจากร่างกาย
โดยรายการอาหารในบทความนี้จะเน้นเฉพาะอาหารที่สามารถล้างพิษตับได้ เพื่อบำรุงสุขภาพตับให้กลับมาเป็นปกติ ลองหาอาหารตามรายการเหล่านี้มาทานจะช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น และแนะนำว่าควรเพิ่มอาหารเหล่านี้เข้าไปในอาหารประจำวันด้วย เป็นการดูแลตับให้สุขภาพดีและทำงานได้อย่างไม่บกพร่องไปตลอดชีวิตได้
1. กระเทียม
แค่ทานพืชหัวสีขาวนี้วันละเล็กน้อยก็ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ในตับซึ่งช่วยให้ร่างกายขับสารพิษออกมาได้แล้ว ในกระเทียมยังมีสารอัลลิซินและซีลีเนียมอยู่ สารสองชนิดนี้มีส่วนประกอบในการช่วยล้างพิษตับได้
2. เกรปฟรุต (ผลไม้ตระกูลส้ม)
เกรปฟรุต
ในเกรปฟรุตอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ผลไม้ตระกูลซิตรัสนี้ นอกจากเกรปฟรุตแล้วก็ยังรวมไปถึง ส้ม มะนาว และเลม่อน ต่างก็ช่วยสนับสนุนกระบวนการล้างพิษตามธรรมชาติของตับ แค่ดื่มน้ำเกรปฟรุตคั้นสดๆ วันละแก้ว จะช่วยกระตุ้นการผลิตของเอนไซม์ล้างพิษในตับ และช่วยชะล้างสารก่อมะเร็งและสารพิษอื่นๆ ได้
3. บีทรูทและแครอท
ผักทั้งสองชนิดนี้เต็มไปด้วยฟลาโวนอยด์และเบต้าแคโรทีนปริมาณสูงมาก การทานหัวบีทรูทและแครอทช่วยกระตุ้นและส่งเสริมการทำงานโดยรวมของตับได้
4. ชาเขียว
ชาเขียวจัดเป็นเครื่องดื่มที่คู่ควรกับตับมากที่สุด เพราะในชาเขียวอุดมไปด้วยคาเทชิน สารต้านอนุมูลอิสระ สารประกอบนี้เป็นที่รู้กันดีกว่าช่วยการทำงานของตับได้ ชาเขียวยังมีรสชาติอร่อย นำมาปรุงอาหารหรือปรุงเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพได้ (ชาเขียวที่ชงจากใบชาจะดีกว่าแบบสกัด)
5. ผักใบเขียว
หนึ่งในอาหารที่เป็นมิตรมากในการล้างพิษตับ ผักใบเขียวสามารถทานได้ทั้งแบบดิบ แบบสุก หรือแบบคั้นน้ำก็ยังได้ ให้สารคลอโรฟิลล์สูงมาก ผักใบเขียวช่วยดูดซับสารพิษจากสภาพแวดล้อมที่อยู่ในกระแสเลือด อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการต้านทานโลหะหนักของสารเคมีและสารกำจัดศัตรูพืช ผักใบเขียวจึงจัดได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการปกป้องตับนั่นเอง
ในแต่ละมื้อควรเพิ่มผักใบเขียวเข้าไปในอาหารด้วย ยกตัวอย่างเช่น มะระขี้นก, ผักร็อคเก็ต, ผักโขม, ผักกาดเขียวปลี ฯลฯ จะช่วยเพิ่มการสร้างน้ำดีและช่วยให้น้ำดีไหลเวียนดีขึ้น ซึ่งจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกจากอวัยวะต่างๆ รวมไปถึงเลือดได้
6. อะโวคาโด
อะโวคาโด
เป็นผลไม้ที่หนาแน่นไปด้วยสารอาหารทุกอนู ช่วยให้ร่างกายผลิตกลูต้าไธโอน ซึ่งเป็นสารประกอบที่ทำให้ตับกำจัดสารพิษที่เป็นอันตรายได้ดีขึ้น
7. แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ล
มีเพคตินอยู่เยอะมาก แอปเปิ้ลเป็นแหล่งของสารเคมีที่จำเป็นสำหรับร่างกายในการชำระล้างและกำจัดสารพิษออกไปจากระบบย่อยอาหาร และในทางกลับกันก็ช่วยให้ตับนั้นจัดการกับสารพิษได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
8. น้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอก น้ำมันกัญชง และน้ำมันเมล็ดลินิน มีประโยชน์มากสำหรับตับ โดยน้ำมันเหล่านี้จะให้ไขมันดีๆ ที่ช่วยในการดูดซับสารพิษที่เป็นอันตรายจากร่างกาย ซึ่งเป็นการลดภาระของตับได้อีกทางหนึ่ง
9. ธัญพืชทางเลือก
ถ้าอาหารของคุณประกอบไปด้วยข้าวสาลี, แป้งขาว หรือธัญพืชมาตรฐานอื่นๆ ตอนนี้ก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนเป็นธัญพืชทางเลือกอื่นๆ แล้วอย่างเช่น ควินัว, ข้าวฟ่าง หรือบัควีท ก็จะช่วยการทำงานของตับได้
ตับทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวกรองสารพิษในร่างกาย แต่หากคุณเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนไหวกับเมล็ดพืชชนิดที่มีกลูเตนอยู่ ก็อาจเป็นการเพิ่มพิษในร่างกายแทน มีการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ชี้ว่า ผู้ที่เคยมีประสบการณ์แพ้กลูเต็น จะพบความผิดปกติในผลการทดสอบเอนไซม์ในตับด้วย
10. ผักตระกูลกะหล่ำ
บร็อคโคลีและดอกกะหล่ำ เป็นแหล่งของกลูโคซิโนเลต ซึ่งช่วยสนับสนุนกระบวนการผลิตเอนไซม์ในตับ โดยเอนไซม์ตามธรรมชาติชนิดนี้จะช่วยชะล้างสารก่อมะเร็งและสารพิษอื่นๆ ออกจากร่างกาย และนอกจากนี้การทานผักตระกูลนี้ ยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งให้น้อยลงอีกด้วย
11. เลมอนและมะนาว
ผลไม้ตระกูลซิตรัสเหล่านี้อุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งช่วยให้ร่างกายได้สังเคราะห์สารพิษต่างๆ ให้ละลายน้ำได้ การดื่มน้ำเลมอนหรือน้ำมะนาวคั้นสดๆ ในตอนเช้า ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของตับได้อีกด้วย
12. วอลนัท
ถั่วชนิดนี้เต็มไปด้วยกรดอะมิโนอาร์จีนีน วอลนัทช่วยเสริมการทำงานของตับในการล้างสารแอมโมเนียที่เป็นพิษ วอลนัทยังเต็มไปด้วยกลูต้าไธโอนและกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยล้างพิษตับได้เช่นกัน แนะนำว่าเวลาเคี้ยวถั่ววอลนัทในปากให้เคี้ยวจนแหลกเป็นน้ำก่อนกลืนเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
13. กะหล่ำปลี
เหมือนกับบร็อกโคลีและดอกกะหล่ำ การทานกะหล่ำปลีช่วยกระตุ้นเอนไซม์การล้างพิษในตับออกมาขจัดสารพิษต่างๆ ลองทานหรือเพิ่มอาหารจำพวก กิมจิ, โคลสลอว์ หรือซุปกะหล่ำปลี คู่กับอาหารปกติของคุณดู
14. ขมิ้น
ขมิ้นจัดเป็นเครื่องเทศสุดโปรดของตับเลยก็ว่าได้ ให้ลองผสมผงขมิ้นนี้ลงในสตูว์ หรืออาหารชนิดอื่นๆ ตับจะได้รับคุณค่าจากขมิ้นแทบจะในทันที ขมิ้นช่วยเพิ่มพลังการล้างพิษ โดยทำหน้าที่เหมือนเป็นเอนไซม์ช่วยกระตุ้นการชะล้างสารพิษออกไปจากอาหารต่างๆ
เครื่องเทศสีทองชนิดนี้มีรสชาติที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะทานกับอาหารชนิดใด แต่ควรระวังในการเลือกซื้อ เพราะขมิ้นที่คุณภาพต่ำอาจจะปนเปื้อนสารอันตรายมาได้
https://www.health-th.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 12/02/2561
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 12/02/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 28.05 | 28.05 | 28.05 | 28.45 | 28.05 | 28.05 | 28.05 | 28.05 | 28.05 | 28.05 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 25.54 | 25.54 | 25.54 | 25.54 | 25.54 | – | 25.54 | 25.54 | 25.54 | 25.54 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 20.74 | 20.74 | – | – | – | – | – | 20.74 | 20.74 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 27.78 | 27.78 | 27.88 | 28.18 | 27.78 | 27.78 | 27.78 | 27.78 | 27.78 | 27.78 |
เบนซิน 95 | 35.16 | – | – | – | 35.16 | – | 35.66 | 35.16 | 34.66 | 35.16 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 27.19 | 27.19 | 27.19 | 27.19 | 27.19 | 27.19 | 27.19 | 27.19 | 27.19 | 27.19 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 30.19 | 30.19 | 30.19 | 30.19 | 30.19 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 | 09 Feb 05:00 |