พัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาฯมือสอง หวังเกิดตลาดกลางการซื้อ-ขายแบบดิจิทัล
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธอส. กับกรมบังคับคดี เร่งพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาฯมือสอง หวังเกิดตลาดกลางการซื้อ-ขายแบบดิจิทัล
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง กับ กรมบังคับคดี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมมือกันพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง กำหนดแนวทางการพัฒนาให้เกิดตลาดกลางในการซื้อ และขาย อสังหาริมทรัพย์มือสองในรูปแบบ Digital Virtual Market
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2561 มีพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในการพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง ระหว่าง ธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กับกรมบังคับคดี โดยนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี และมีพิธีแลกเปลี่ยนบันทึกความร่วมมือดังกล่าว ณ ห้อง Plenary Hall 1 – 3 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี และมีนายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล ประธานกรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวในฐานะประธานกรรมการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ว่าความร่วมมือกันระหว่างกรมบังคับคดี และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการพัฒนาระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสอง เพื่อกำหนดแนวทางการพัฒนาให้เกิดตลาดกลางในการซื้อ และการขายอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Digital Virtual Market ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์อุปสงค์และอุปทานในภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัย ให้สามารถวางแผนการลงทุนของภาครัฐและภาคเอกชน รวมทั้งยังเป็นการก่อให้เกิดสภาพคล่องของตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสอง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนสินเชื่อ Reverse Mortgage ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายภาครัฐ และสร้างทางเลือกที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้มีรายได้น้อย
การลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ จะสามารถถ่ายทอดการขายทอดตลาดทรัพย์ที่กรมบังคับคดีจัดให้มีขึ้นทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยกรมบังคับคดีจะส่งข้อมูลและรายละเอียดทรัพย์ที่อยู่ระหว่างการประกาศขายทอดตลาดให้แก่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เพื่อบันทึกเข้าระบบฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์มือสองที่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์กำลังพัฒนาขึ้น ความร่วมมือในครั้งนี้ครอบคลุมถึงการพัฒนาระบบการขายทอดตลาดทรัพย์ผ่านช่องทางออนไลน์ และด้านการจัดการข้อมูลและด้านอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าประมูลซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดได้ ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึง และมีที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมเป็นของตนเองได้
http://www.bangkokbiznews.com
สกว.ผนึกพันธมิตรอสังหาฯ จัด ‘ไทยแลนด์แพลนนิ่งอวอร์ด’ สร้างมาตรฐานเมือง
สกว.เดินหน้ายกระดับคุณภาพเมือง จัดยิ่งใหญ่ระดับชาติชิงรางวัล “ไทยแลนด์แพลนนิ่งอวอร์ด” ให้หน่วยงานภาครัฐ-เอกชนที่โดดเด่นด้านการพัฒนาเมืองตามเกณฑ์ด้านการวางแผนและการออกแบบโครงการ
แหล่งข่าวระดับสูงของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้ให้การสนับสนุนการวิจัยด้านนวัตกรรมเมืองเพื่อยกระดับมาตรฐานการวางแผนเมืองและการออกแบบเมืองให้ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อให้เมืองซึ่งเป็นหน่วยสร้างเศรษฐกิจและศูนย์รวมการจ้างงานมีศักยภาพสูงสุดในการพัฒนานวัตกรรมด้านวางแผนชุมชน การวางแผนคมนาคมขนส่ง การวางแผนโครงสร้างและสาธารณูปโภค การวางแผนด้านสิ่งแวดล้อม การวางแผนด้านพลังงาน และการวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวิต
โดยร่วมมือกับสมาคมการผังเมืองไทย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมวิศวกรรมการขนส่งทางรางไทย เตรียมออกแบบรางวัลการวางแผนแห่งชาติให้เทียบเท่าประเทศสหรัฐ อเมริกา ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ อีกทั้งยังจะจัดตั้งคณะกรรมการยกร่างรางวัลการวางแผนแห่งชาติ และจัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ประจำปีระดับชาติ เพื่อมอบรางวัล “Thailand Planning Award-TPA : ไทยแลนด์แพลนนิ่งอวอร์ด” โดยจะเริ่มต้นออก แบบรางวัลในปี 2561 และ พิจารณามอบรางวัลในปี 2562
ด้านนายฐาปนา บุณยประวิตร นายกสมาคมการผังเมืองไทย และในฐานะผู้จัดการโครงการกล่าวเสริมว่า คาดว่าสกว.จะเร่งจัดตั้งคณะกรรมการยกร่างรางวัลการวางแผนแห่งชาติ หรือ TPA ให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2561 โดยใช้เวลาในการศึกษาวิจัยพร้อมสร้างเกณฑ์มาตรฐานการวางแผนที่นำมาใช้เป็นตัวชี้วัดรางวัล TPA โดยคณะกรรมการจะมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนเมือง การวางแผนโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม สถาบันการศึกษา สมาคมวิชาชีพ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง
เช่น กรมโยธาธิการและผังเมืองสำนักผังเมืองกรุงเทพมหานคร สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร การเคหะแห่งชาติ การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เป็นต้น
โดยรูปแบบจะคล้ายกับรางวัลโลกสีเขียว แต่ TPA จะเน้นการออกแบบตามเกณฑ์สมาร์ทโกรว์ธ (Smart Growth) และเกณฑ์ความเป็นผู้นำการออกแบบด้านพลังงานและสภาพแวดล้อมระดับย่าน หรือที่เรียกกันว่า LEED-ND ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการมอบรางวัลให้กับหน่วยงานใดในประเทศไทย ในเบื้องต้นจะเลือกเมืองหรือโครงการที่ประสบความสำเร็จที่ปฏิบัติตามเกณฑ์มาตรฐานก็จะได้รับรางวัล ทั้งนี้สามารถใช้แผนงานหรือโครงการออกแบบที่ผ่านการพิจารณาตรวจรับงานจากหน่วยงานแล้ว หรือโครงการที่นำไปสู่การปฏิบัติแล้ว เข้าเสนอขอรับรางวัลได้
“ผู้ที่มีสิทธิ์จะเข้ารับรางวัลจะเป็นหน่วยงานของรัฐ เช่น กระทรวง กรม เทศบาล หรือบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่นำโครงการของแต่ละบริษัทเข้ามาขอเทียบตามเกณฑ์ ซึ่งอาจจะใช้เกณฑ์ Smart Growth หรือเกณฑ์ LEED-ND ไปดำเนินการหรือไม่ก็ได้ แต่จะเน้นหน่วยงานมากกว่าบุคคล”
ทั้งนี้ โครงการที่เสนอเพื่อพิจารณารับรางวัลจะต้องมีจุดเด่นในหลายๆ ด้านประกอบกัน เช่น ด้านการวางแผนและออกแบบศูนย์เศรษฐกิจ การออกแบบเมืองเขียว (greenest city) การออกแบบเมืองประหยัดการใช้พลังงาน การออกแบบปรับปรุงฟื้นฟูเมืองเก่าหรือชุมชนดั้งเดิม เป็นต้น โดยสามารถเสนอโครงการเข้าประกวด เบื้องต้นกำหนดไว้ 2 รางวัลคือชนะเลิศ และรางวัลชมเชย จัดเป็นรางวัลใหญ่แห่งปีที่ปฏิบัติตามเกณฑ์วางแผนและการออกแบบโครงการ ซึ่งกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือนกรกฎาคมนี้
http://www.thansettakij.com
“แบงก์ชาติ” เตรียมใช้ธนบัตรรุ่นใหม่ราคา 500 และ 1,000 บาท ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ธนาคารแห่งประเทศไทยเตรียมออกใช้ธนบัตร รัชกาลที่ 10 ชนิด 500 บาท และ 1,000 บาท ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2561
นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงว่า ธปท. จะออกใช้ธนบัตรแบบใหม่ แบบ 17 ชนิดราคา 500 บาท และ 1,000 บาท ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร วันที่ 28 กรกฎาคม 2561 ตามที่ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ให้จัดพิมพ์และออกใช้ธนบัตรแบบใหม่ เพื่อใช้เป็นธนบัตรหมุนเวียนทั่วไป
>> “แบงก์ชาติ” เตรียมออกใช้ธนบัตรแบบใหม่ ครั้งแรกในสมัย ร.10
โดยด้านหน้าของธนบัตรทุกชนิดราคา เชิญพระสาทิสลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศของกองทัพอากาศ เป็นภาพประธาน
ขณะที่ด้านหลังของธนบัตรแต่ละชนิดราคา เชิญพระบรมสาทิสลักษณ์พระมหากษัตริย์ 2 พระองค์ เรียงตามลำดับรัชกาล พร้อมภาพประกอบที่เป็นภาพหนึ่งในพระราชกรณียกิจสำคัญของแต่ละพระองค์
- ธนบัตรชนิดราคา 500 บาท แสดงพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว คู่กับพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล
- ธนบัตรชนิดราคา 1,000 บาท แสดงพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คู่กับพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
ทั้งนี้ ธนบัตรทั้งสองชนิดราคาดังกล่าว ได้นำเทคโนโลยีต่อต้านการปลอมแปลงแบบพิเศษมาใช้ ดังนี้
- ลายประดิษฐ์ พิมพ์ด้วยเทคโนโลยีหมึกพิมพ์แม่เหล็กสามมิติเปลี่ยนสีได้ ทำให้เกิดลวดลายสามมิติเคลื่อนไหวเมื่อพลิกเปลี่ยนมุมมอง และเปลี่ยนสลับจากสีทองเป็นสีเขียวได้
- แถบสีที่ฝังในเนื้อกระดาษจะมีบางส่วนปรากฏให้เห็นเป็นระยะ เมื่อเปลี่ยนมุมมองจะเปลี่ยนสี และเห็นรูปเคลื่อนไหว
- ลายประดิษฐ์ ที่เรียงกันในแนวตั้ง ใกล้กับบริเวณลายน้ำ พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์พิเศษสีเหลือบเหลือง
>> “แบงก์ชาติ” แนะ 8 จุดต้องรู้ วิธีสังเกตธนบัตร ร.10
สำหรับลักษณะต่อต้านการปลอมแปลงอื่นๆ ของธนบัตรยังคงไว้เช่นเดิม โดยประชาชนสามารถเบิกถอนธนบัตรชนิดราคา 500 บาท และ 1,000 บาท แบบใหม่ ได้ตามช่องทางปกติ ผ่านธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง รวมถึงธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนบัตรทุกแบบที่ออกใช้ก่อนหน้านี้ยังสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
https://www.sanook.com
ครม. ไฟเขียว “กองทุนประชารัฐ” ดึงงบ 2,700 ล้าน ช่วยคนจน
คณะรัฐมนตรี ไฟเขียว กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ดึงงบประมาณ 2,700 ล้านบาท แก้ปัญหาความยากจน ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น
วันที่ 3 กรกฎาคม 2561 นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริการทางสังคม มูลนิธิ องค์กรการกุศล ในการช่วยเหลือประชาชนในภาวะลำบาก รวมถึงการจัดประชารัฐสวัสดิการ เพื่อศักยภาพประชาชนผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร
โดยเบื้องต้นรัฐบาลจะแบ่งเงินจากการจัดสรรงบประมาณกลาง จำนวน 2,730 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนนำร่องให้กับกองทุน และจะมีการจัดสรรเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี รวมถึงเปิดรับเงินบริจาค และรับเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศด้วย
นายณัฐพร กล่าวอีกว่า ข้อดีของการจัดตั้งกองทุน จะเข้ามาแก้ปัญหากรณีระหว่างปีเกิดต้องการเงินเพิ่ม เพื่อไปช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ก็จะสามารถจัดสรรเงินเข้ามาในกองทุนได้สะดวกขึ้น ต่างจากเมื่อก่อนที่รัฐบาลได้มีการจัดทำกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก แต่อยู่ภายใต้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี ซึ่งต้องผ่านหลายขั้นตอนกว่าจะอนุมัติเงินเข้ากองทุนได้
https://money.kapook.com
10 เทรนด์เทคโนโลยี เปลี่ยนโลก-สร้างชีวิตใหม่
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทุกปี ผู้อำนวยการ สวทช. ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเทคโนโลยีแกนหลักของประเทศ จะอัพเดตเทรนด์เทคโนโลยี “10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง” ส่งสัญญาณให้นักลงทุนเลือกพิจารณาลงทุนให้เหมาะสม
นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง” ที่ สวทช. นำเสนอเป็นประจำทุกปีในงาน NSTDA Investors’ Day เพื่อส่งสัญญาณให้นักลงทุนทำความเข้าใจทิศทางแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ และเลือกพิจารณาลงทุนให้เหมาะสม ล้วนแต่อยู่ใกล้ตัวเรา เปลี่ยนแปลงก้าวหน้ารวดเร็วมาก จะส่งผลต่อวิถีชีวิตใน 5-10 ปีข้างหน้าและปราศจากพรมแดน ไม่ได้เป็นของชาติใดชาติหนึ่ง โดยเห็นได้จากนักวิจัยหรือหน่วยงานวิจัยจับมือกันทำงานข้ามประเทศ
10 เทคโนโลยีนี้อยู่ในกลุ่มการแพทย์และสุขภาพมากสุดถึง 6 เรื่อง ส่วนที่เหลืออยู่ในกลุ่มวัสดุศาสตร์และดิจิทัล อย่างละ 2 เรื่อง เริ่มด้วย
1.แบคทีเรียลดยุงพาหะ เป็นการศึกษาทำให้ยุงติดเชื้อแบคทีเรียสกุลโวลบาเชีย (Wolbachia) ซึ่งออกฤทธิ์ทำให้ไข่ฝ่อ ฟักไม่ได้ ทั้งยังทำให้ยุงพาหะไม่สามารถนำโรค เพราะเชื้อก่อโรคไม่อาจเติบโตในตัวพวกมัน ขณะนี้เริ่มทำการทดสอบแล้วใน 2 ประเทศคือสิงคโปร์และออสเตรเลีย
2.วัคซีนกินได้โดยนำสารพันธุกรรมของเชื้อโรคที่ไม่เกี่ยวกับการก่อโรคมาใส่เข้าไปในพืช เช่น มันฝรั่ง ยาสูบ กล้วย มะเขือเทศ ผักกาดหอม ข้าวโพด ถั่วและข้าว แล้วปลูกในกระบวนการเพาะเลี้ยงที่มีประสิทธิภาพสูงในที่ปิด ที่เรียกว่า plant factory ก็จะได้พืชผักที่กินเป็นวัคซีนได้
3.เซลล์สำหรับทดสอบยา เป็นแนวคิดในการนำเซลล์ผู้ป่วยมาทำให้เป็นสเต็มเซลล์แบบพิเศษ iPSC แล้วนำมาทดสอบยาได้โดยตรงก็จะได้คำตอบที่รวบรัดชัดเจนว่า ยานั้นก่อปฏิกิริยาทางลบหรือการแพ้ยาหรือไม่ เป็น 1 ในแนวทางของการแพทย์ส่วนบุคคล ล่าสุดมีการศึกษาวิจัยอยู่ในบริษัท Elveflow ฝรั่งเศส
4. การบำบัดส่วนบุคคล เมื่อนักวิจัยชาวญี่ปุ่น ชินยะ ยามานะกะ ค้นพบวิธีการสร้าง “ตั้งโปรแกรมเซลล์ใหม่” หรือ reprogramming cell ซึ่งช่วยเปลี่ยนเซลล์ร่างกายแบบอื่นๆ ที่มีจำนวนมาก เช่น เซลล์ผิวหนังให้กลายเป็นสเต็มเซลล์ iPSC ทำให้ได้รับรางวัลโนเบลจากการค้นพบนี้ในปี 2555 รวมถึงยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีแก้ไขดีเอ็นเอ/ดัดแปลงยีน หรือที่เรียกว่า CRIPR/Cas9 (คริสเพอร์แคส 9) จะทำให้แก้ไขโรคต่างๆ ได้ รวมทั้งโรคพันธุกรรมที่เดิมไม่เคยรักษาได้มาก่อนเลย โดยตัวอย่างโรคแรกๆ ที่ทดลองไปคือ โรคจอตาเสื่อม
5. เข็มจิ๋วอัจฉริยะ จากเข็มจิ๋วระดับนาโนได้รับการพัฒนาให้ฉลาดขึ้น ทำงานได้อย่างอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น เช่น การเชื่อมต่อกับตัวรับสัญญาณหรือเซนเซอร์ ทำให้สามารถตรวจวัดการทำงานระบบต่างๆ ของร่างกายตามเวลาจริง ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องตรวจวัดระดับน้ำตาลอยู่ตลอดเวลา ก็อาจต้องอาศัยเข็มแบบนาโนนี้แปะติดกับผิวหนัง ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่เข็มฉีดยา แต่กลายเป็น ชุดวัดระดับน้ำตาลไปด้วยในตัว
6. นาโนวาล์วส่งยา ระบบนำส่งโมเลกุลหรือยาไปสู่เซลล์เป้าหมายและควบคุมการปลดปล่อย ณ ตำแหน่งเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ส่วนการควบคุมการปิด-เปิดของวาล์วนั้น อาจจะอาศัยกลไกการเปลี่ยนแปลงค่าพีเอช หรือ สารจำเพาะบางอย่างในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะเป้าหมาย เช่น เซลล์เนื้องอกหรือมะเร็งมีค่าพีเอช หรือสารจำเพาะที่ต่างจากเซลล์ปกติ ทำให้วาล์วเปิดและปล่อยสารหรือยาที่อยู่ภายในออกมา แถมยังสามารถควบคุมได้จากภายนอกร่างกาย หรือภายนอกเซลล์ เช่น ใช้การกระตุ้นด้วยแสง ความร้อน หรือ สนามแม่เหล็ก จึงเป็นอีกทางหนึ่งในการรักษาโรคในอนาคต
7. การพิมพ์โลหะ 3 มิติ คาดว่าภายในไตรมาส 3 ของปี 2562 จะมีเครื่องพิมพ์โลหะ 3 มิติไว้ใช้ตามออฟฟิศได้ โดยใช้พิมพ์ชิ้นส่วนโลหะสำหรับใช้ซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาที่ไม่ต้องการการผลิตจำนวนมาก แต่ต้องมีความจำเพาะเจาะจง เช่น ในทางการแพทย์ การพิมพ์ในสถานที่เข้าถึงยาก เช่น เรือดำน้ำ ยานอวกาศ
8. วัสดุดูดซับเสียงออกแบบได้ เกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเสียงดังจากยานพาหนะ เครื่องมือ เครื่องจักร ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่ใกล้เคียง โดย “โฟมอะลูมิเนียม” เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติดูดซับเสียง ลดระดับเสียงจาก 90 เดซิเบล เป็น 64 เดซิเบล แข็งแรง ทนแรงกระแทก น้ำหนักเบา ไม่ลุกติดไฟ ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยลดการนำเข้าจากต่างประเทศได้อีกด้วย
9. เทคโนโลยีไซเบอร์-ฟิสิคัล ตอบเทรนด์การเพิ่มจำนวนของประชากรในเขตเมือง โดยเมืองกายภาพ หรือ physical city และเมืองไซเบอร์ หรือ cyber city จะเชื่อมโยงกันผ่านเครือข่ายเซนเซอร์ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์หลากหลายชนิดเกิดความเป็น “เมืองแบบไซเบอร์-ฟิสิคัล” ซึ่งจะเกิดโอกาสทางธุรกิจแบบใหม่จำนวนมากเช่น ระบบบริการรถของอูเบอร์ ร้านสะดวกซื้อที่ไม่มีแคชเชียร์ (อะเมซอน โก) หรือระบบจัดการจราจรที่เรียกว่า City Brain ของอาลีบาบาที่ทำงานผ่านกล้องซีซีทีวี และ Cloud Computing AI ทำให้การจราจรเมืองหางโจวของจีนคล่องตัวขึ้น 15% และกำลังขยายมาสู่ประเทศอาเซียน เช่น มาเลเซียการผนวกสองมิติของเมืองเข้าด้วยกัน เริ่มจากการเชื่อมต่อของสิ่งต่างๆ ในโลกกายภาพแบบเป็นเครือข่าย ซึ่งเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ IoT เป็นตัวช่วยสำคัญ ปัจจุบัน สวทช. กำลังสร้างฐานเทคโนโลยีระบบนี้ผ่านโครงการเน็ตพาย (NETPIE) และโครงการเมืองอัจฉริยะ โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน
10. เทคโนโลยีแชทบอต ทุกวันนี้โลกกำลังขยับจากยุคดิจิทัลเข้าสู่ยุคอัจฉริยะ คนจำนวนมากมีเครื่องคอมพิวเตอร์พลังสูงพกติดตัว เชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ดึงข้อมูลจากทั่วโลกได้ทุกที่ทุกเวลา สมาร์ทโฟนสมาร์ทโฮม ตลอดจนหุ่นยนต์ถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้มนุษย์ในหลากหลายรูปแบบ และในอนาคตอันใกล้ วิธีการสำคัญที่มนุษย์จะใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ใช่คีย์บอร์ด เมาส์ หรือทัชสกรีน แต่เป็นการสนทนาด้วยภาษาธรรมชาติ (Seamless Conversation) ผ่านเทคโนโลยีแชทบอต ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยให้มนุษย์พูดคุย สั่งงานและสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้เช่นเดียวกับการสนทนากับคนด้วยกันเอง ปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีแบบนี้มาประยุกต์ใช้งานหลายรูปแบบ เช่น แชทบอตสำหรับบริการลูกค้า (Customer Service Chatbot) เช่น Line@ และ Siri ระบบในลำโพงอัจฉริยะ เช่น HomePodและ Echo ระบบในหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ เช่น หุ่นยนต์ดินสอ และ Pepper ในระบบสนทนาด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบต้องรู้จำเสียงพูด ทำความเข้าใจภาษาได้ สนทนากับคนได้ และมีระบบสืบค้นข้อมูล ระบบสังเคราะห์ภาษา รวมถึงระบบสังเคราะห์เสียงพูด ซึ่งใกล้เคียงกับคนจริงๆ มากขึ้นเรื่อยๆ
ทั้งนี้ หน่วยวิจัยวิทยาการสื่อสารของมนุษย์และคอมพิวเตอร์ (HCCRU) เนคเทค สวทช. ทำวิจัยส่วนประกอบต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วอย่างต่อเนื่องมากว่า 20 ปีปัจจุบันมีระบบรู้จำเสียงพูดภาษาไทยที่รองรับคำศัพท์หลากหลาย มีระบบจัดการการสนทนา และระบบสังเคราะห์เสียงพูดที่เป็นธรรมชาติ หน่วยวิจัยฯ ร่วมงานกับพันธมิตรภาคธุรกิจเพื่อวิจัยและพัฒนา รวมถึงประยุกต์ใช้ในงานบริการลูกค้าแบบเฉพาะด้านอีกด้วย
“ประเทศไทยสามารถมีส่วนร่วมในการคิดค้นเทคโนโลยีต่างๆ นี้ได้มากบ้างน้อยบ้าง นอกจากเป็นประโยชน์สำหรับนักลงทุนในการทำความเข้าใจทิศทางและแนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งอาจจะเข้าไปเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจในปัจจุบัน ข้อมูลเหล่านี้ยังมีความสำคัญสำหรับบุคคลทั่วไปเช่นกัน เพื่อให้ทันรับมือกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เข้ามาใกล้ชิดกับเราโดยคาดไม่ถึงในทุกมิติของชีวิต” นายณรงค์ กล่าว
http://www.bangkokbiznews.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 10/07/2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง
|
ราคารับซื้อต่อกรัม
|
ราคารับซื้อ/บาท
|
ราคาขายออก/บาท
|
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
19,650.00 |
19,750.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,273.00 |
19,298.68 |
20,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,145.70 |
17,368.81 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
573.00 |
8,686.68 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
446.00 |
6,761.36 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,319.00 |
19,996.04 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 10/07/2561
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปตท
PTT |
บางจาก
BCP |
เชลล์
Shell |
เอสโซ่
Esso |
คาลเท็กซ์
Caltex |
ไออาร์พีซี
IRPC |
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG |
ซัสโก้
Susco |
ระยองเพียว
Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers |
แก๊สโซฮอล 95 |
29.65
|
29.65
|
34.29
|
29.65
|
29.65
|
29.25
|
29.65
|
29.65
|
30.30
|
29.65
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
|
26.74
|
27.39
|
26.74
|
26.74
|
– |
26.74
|
26.74
|
27.79
|
26.74
|
แก๊สโซฮอล E-85 |
21.14 |
21.14 |
– |
– |
– |
– |
– |
21.14 |
21.14 |
– |
แก๊สโซฮอล 91 |
29.38 |
29.38 |
29.63 |
29.38 |
29.38 |
28.98 |
29.38 |
29.38 |
30.30 |
29.38 |
เบนซิน 95 |
36.76 |
– |
– |
– |
37.21
|
– |
37.26 |
36.76 |
– |
36.76 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
28.79
|
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม |
32.19 |
33.06 |
33.01 |
32.96 |
33.06 |
– |
– |
– |
– |
– |
มีผลตั้งแต่ |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |
10 July 05:00 |