สยามนุวัตร ผุดมิกซ์ยูส ชี้ดีมานด์ย่านอโศกพุ่ง
“สยามนุวัตร” เปิดแผนผุดมิกซ์ยูส อโศก ชี้ความต้องการสูง แข่งขันต่ำ เหตุเหลือที่ดินให้พัฒนาน้อย ดันราคาพุ่งตร.ว.ละ 3.5 ล้าน พร้อมส่งโครงการคอนโดหรู “วิช ซิกเนเจอร์ 2ฯ” ราชเทวี ชูจุดขาย กลางเมือง-แหล่งชอปปิง เจาะกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่-ต่างชาติ
นายธารธร อักษรานุวัตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามนุวัตร จำกัด ผู้พัฒนาอสังหา ริมทรัพย์ เปิดเผยถึงว่าบริษัทเตรียมจะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บริเวณถนนอโศกตอนต้น เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าว ยังมีความต้องการสูง โดยมีแผนพัฒนาให้มี 3 องค์ประกอบ ในอาคารเดียวกัน คือ คอนโดมิเนียม โรงแรมระดับ 3-4 ดาว และคอมมูนิตี้ มอลล์ โดยคาดว่าจะเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการได้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2561 “อโศกตอนต้นยังเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ในขณะที่ที่ดินที่เหลือให้พัฒนาโครงการมีค่อนข้างน้อย ดังนั้นจึงคาดว่าโครงการใหม่ที่จะพัฒนาน่าจะได้รับการตอบรับที่ดี”
สำหรับความคืบหน้านั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างซื้อที่ดิน โดยตั้งเป้าหมาย รวบรวมที่ดินให้ได้พื้นที่ 2ไร่ ซึ่งขณะนี้ทยอยซื้อได้แล้วกว่า 1 ไร่ โดยซื้อที่ดินมาด้วยต้นทุนราคาประมาณ 3.5 ล้านบาทต่อตร.ว.
นายธารธร กล่าวว่า ส่วนโครงการที่เปิดตัวในขณะนี้ คือ วิช ซิกเนเจอร์ 2 มิดทาวน์ สยาม มูลค่า 3,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บน ที่ดินกว่า 2 ไร่ บริเวณราชเทวี โดยเป็นคอนโดฯไฮไรส์ สูง 41 ชั้น จำนวน 333 ยูนิต ชูจุดขายโครงการตั้งอยู่ในใจกลางเมือง ย่านธุรกิจ เป็นทำเลที่มีศักยภาพและได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาชอปปิง และใช้ชีวิตในย่าน ดังกล่าว อีกทั้งประเมินว่า ปัจจุบันมีซัพพลายเหลือไม่มากนักประมาณ 2,000-3,000 ยูนิต และมีอัตราการดูดซับในตลาดที่ดี โดยตั้งเป้าหมายเจาะกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ เน้นกลุ่มลูกค้าไทย 70-80% ที่เหลืออีก 20-30% เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เช่น ฮ่องกง จีน และไต้หวัน
สำหรับราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34 ตร.ม. ราคา 5.4 ล้านบาทต่อยูนิต แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ราคา 6.8-6.9 ล้านบาทต่อยูนิต แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ เริ่มต้น 10 ล้านบาทต่อยูนิต และห้องเพนท์เฮาส์ ขนาด 235 ตร.ม. ราคา 65 ล้านบาทต่อยูนิต
“โครงการนี้ในราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.8 แสนบาทต่อตร.ม.ส่วนราคาขาย เฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ที่ 2แสนบาทต่อตร.ม. ซึ่งถือว่าเป็นเรทราคาที่ไม่สูง มากนักเมื่อเทียบกับราคาเฉลี่ยปัจจุบัน ที่ขายกัน 2-3แสนบาทต่อตร.ม.” โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นขอ EIA หรือรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โดยจะเริ่มก่อสร้างในช่วงเดือน มี.ค. ปี 2561 คาดสร้างเสร็จในเดือน มี.ค. ปี 2563 โดยจะเริ่มเปิดพรีเซลในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ และคาดว่าจะปิดการขายได้ภายในเดือน ต.ค.
ขณะที่ภาพรวมโครงการวิช ซิกเนเจอร์ มิดทาวน์ สยาม ที่เป็นโครงการแรกของบริษัทบนทำเลราชเทวี มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท จำนวน 623 ยูนิต จะเริ่มโอน ใน เดือน มี.ค.ปี 2561 โดยตอนนี้เหลือขายเพียง 5% หรือประมาณ 30 ยูนิต โดยราคาขายในปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2แสนบาทต่อตร.ม.จากช่วงที่เปิดตัวโครงการ่ 1.5 แสนบาทต่อตร.ม.ส่วนภาพรวมการรับรู้รายได้ของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 500 ล้านบาท
ที่มา หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
REIC เผยราคาอสังหาฯ Q2/2017 คอนโดปรับเพิ่ม 5.8%
REIC (ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์) จัดทำดัชนีราคาห้องชุดรายไตรมาส สำรวจพื้นที่กรุงเทพฯ – เขตปริมณฑล 2 จังหวัด (นนทบุรี และสมุทรปราการ) และดัชนีราคาบ้านแนวราบ (บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์) รายไตรมาส สำรวจครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ – เขตปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ)
ดัชนีราคาห้องชุด
ดัชนีราคาห้องชุดรวมทุกระดับราคา ในพื้นที่กรุงเทพฯ – เขตปริมณฑล 2 จังหวัด (นนทบุรีและสมุทรปราการ) ในไตรมาส 2 ปี 2560 ภาพรวมดัชนีราคาห้องชุดในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.8 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 119.9 จุด หรือ ร้อยละ 5.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 โดยเพิ่มขึ้นจาก 124.9 จุด หรือ ร้อยละ 1.5
เมื่อแยกพิจารณาแต่ละพื้นที่ พบว่า พื้นที่ซึ่งราคาห้องชุดปรับเพิ่มขึ้นมาก 5 ลำดับแรก ได้แก่ พื้นที่สุขุมวิทตอนต้น พื้นที่สุขุมวิทตอนกลาง พื้นที่พญาไท–ราชเทวี พื้นที่ห้วยขวาง–จตุจักร–ดินแดง และพื้นที่นนทบุรี
- พื้นที่สุขุมวิทตอนกลาง (เขตวัฒนา เฉพาะแขวงพระโขนงเหนือ และเขตคลองเตย เฉพาะแขวงพระโขนง) มีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 11.3 – 13.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าพบว่ามีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 6.0 – 8.0
- พื้นที่สุขุมวิทตอนต้น (เขตวัฒนา เฉพาะแขวงคลองเตยเหนือ คลองตันเหนือ และเขตคลองเตย เฉพาะแขวงคลองเตย แขวงคลองตัน) มีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 8.6 – 10.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าพบว่ามีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 0.1 – 1.9
- พื้นที่สุขุมวิทตอนปลาย (เขตพระโขนง เขตบางนา) มีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 8.1 – 10.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าพบว่ามีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 2.1 – 4.1
- พื้นที่เขตพญาไทและเขตราชเทวี มีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 8.0 – 10.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าพบว่ามีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 0.1 – 1.8
- พื้นที่เขตบางซื่อ และเขตดุสิต มีการปรับราคาสูงขึ้นประมาณร้อยละ 7.7 – 9.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าพบว่ามีการปรับราคาลดลงประมาณร้อยละ 7.7 – 9.7
ดัชนีราคาบ้านแนวราบ
ดัชนีราคาบ้านแนวราบ ในพื้นที่กรุงเทพฯ – เขตปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) ในไตรมาส 2 ปี 2560 ดัชนีราคาบ้านแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 จังหวัด มีค่าดัชนีเท่ากับ 116.8 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 114.5 จุด หรือร้อยละ 2.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มีดัชนีราคาปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 116.7 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 เท่านั้น แยกรายละเอียดเป็น
- กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 117.0 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 114.8 จุด หรือร้อยละ 1.9 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 116.8 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 เท่านั้น
- ปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 116.8 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 114.3 จุด หรือร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 116.7 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 เท่านั้น
หากพิจารณาดัชนีราคาที่อยู่อาศัยแนวราบในแต่ละประเภทได้แก่บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์จะพบการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาดังนี้
1. ดัชนีราคาบ้านเดี่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 จังหวัด มีค่าดัชนีเท่ากับ 115.1 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 113.4 จุด หรือร้อยละ 1.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 114.9 จุด หรือ ร้อยละ 0.2 เท่านั้น และเมื่อจำแนกตามพื้นที่แล้ว พบว่า
- กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 115.5 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 113.3 จุด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 115.3 จุด หรือ ร้อยละ 0.2 เท่านั้น
- ปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 114.8 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 113.5 จุด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่มีข้อสังเกตว่า ดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 114.6 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 เท่านั้น
2. ดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 3 จังหวัด มีค่าดัชนีเท่ากับ 118.8 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 115.7 จุด หรือร้อยละ 2.6 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 118.6 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 เท่านั้นและเมื่อจำแนกตามพื้นที่แล้วพบว่า
- กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 118.3 จุด โดยปรับเพิ่มขึ้นจาก 116.2 จุด หรือร้อยละ 1.8 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 118.2 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 เท่านั้น
- ปริมณฑล 3 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 119.4 จุด โดยเพิ่มขึ้นจาก 115.4 จุด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 2560 เพียงเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้นจาก 119.2 จุด หรือ ร้อยละ 0.1 เท่านั้น
โดยสรุปในไตรมาสนี้ ดัชนีราคาบ้านแนวราบปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณร้อยละ 1.0-3.0 โดยเป็นการปรับราคาเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงซึ่งเป็นราคาที่มีการหักราคาส่วนเพิ่มที่เป็นข้อเสนอส่งเสริมการขายที่เป็นส่วนลดเงินสดและของแถมต่างๆซึ่งผู้ประกอบการใช้ในการเร่งรัดการตัดสินใจของผู้บริโภคนอกจากนี้ยังพบว่าดัชนีบ้านเดี่ยวมีการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าดัชนีราคาทาวเฮ้าส์
ที่มา thinkofliving.com
ประกันสังคม เผยผลงาน เพิ่มสิทธิด้านการแพทย์ 12 รายการ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานประกันสังคม แจงบริหารกองทุนประกันสังคมปี 2560 ยอดผลตอบแทนจากการลงทุนสะสมจำนวนเกือบ 5 แสนล้านบาท เพิ่มความมั่นคงให้แก่กองทุนประกันสังคม นอกจากนี้ยังได้เพิ่มสิทธิประโยชน์ ให้กับผู้ประกันตนอย่างต่อเนื่อง พร้อมรองรับค่าใช้จ่ายในการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
เผยสถิติผู้ประกันตนสูงกว่า 10 ล้านคน
กองทุนประกันสังคม มีจำนวนผู้ประกันตน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2560 ภาคบังคับหรือผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 10,543,612 คน ภาคสมัครใจหรือผู้ประกันตนมาตรา 39 จำนวน 1,322,782 คน มาตรา 40 จำนวน 2,281,916 คน ในปี 2559 มีผู้ใช้สิทธิ์กรณีเจ็บป่วย จำนวน 33,070,163 คน กรณีทุพพลภาพ 1,726 คน กรณีเสียชีวิต 26,314 คน กรณีคลอดบุตร 294,169 คน กรณีชราภาพ บำเหน็จ 265,690 คน บำนาญ 79,247 คน กรณีสงเคราะห์บุตร 1,326,518 คน และกรณีว่างงาน 141,267 คน มีอัตราการใช้บริการทางการแพทย์ในปี 2558 ผู้ป่วยนอก 2.54 ครั้ง/คน/ปี แบ่งเป็นในโรงพยาบาลรัฐ 2.38 ครั้ง/คน/ปี โรงพยาบาลเอกชน 2.71 ครั้ง/คน/ปี ผู้ป่วยใน 0.06 ครั้ง/คน/ปี แบ่งเป็นในโรงพยาบาลรัฐ 0.05 ครั้ง/คน/ปี โรงพยาบาลเอกชน 0.06 ครั้ง/คน/ปี
กองทุนฯ มีเงินสะสม 1.6 ล้านล้านบาท
โดยตัวเลข ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2560 กองทุนประกันสังคม มีเงินลงทุนสะสมทั้งสิ้น 1.6 ล้านล้านบาทประกอบด้วยเงินสมทบสะสมจากฝ่ายนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล จำนวน 1.13 ล้านล้านบาท และผลตอบแทนจากการลงทุนสะสมจำนวน 490,885 ล้านบาท ซึ่งสำนักงานประกันสังคมได้บริหารกองทุนและสร้างผลตอบแทนสะสมอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความมั่นคงให้แก่กองทุนประกันสังคม สามารถรองรับค่าใช้จ่ายในการดูแลสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนทั้งในปัจจุบันและในอนาคต
เพิ่มสิทธิประโยชน์การบริการทางการแพทย์ 12 รายการ
ระหว่างปี 2558-2560 สำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มประโยชน์การบริการทางการแพทย์ จำนวน 12 รายการ ดังนี้
1. ปรับเงื่อนไขคุณสมบัติสถานพยาบาลที่ผ่าตัดใส่เครื่องกระตุกไฟฟ้าอัตโนมัติเพื่อเพิ่มจำนวนสถานพยาบาล
2. เพิ่มวงเงินสำหรับการผ่าตัดเตรียมเส้นเลือดเพื่อการฟอกไตหรือวางท่อรับ-ส่งน้ำยาล้างช่องท้อง (เพิ่ม 10,000 บาท จากเดิม 20,000 บาท ต่อ 2 ปี)
3. เพิ่มการเข้าถึงยากระตุ้นเม็ดเลือดแดงในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายโดยเพิ่มรายการยาจากเดิม 9 รายการ เป็น 11 รายการ
4. เพิ่มการเข้าถึงยาของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV/เอดส์ ในระยะแรกเพื่อให้ผู้ประกันตนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถทำงานและใช้ชีวิตเช่นคนปกติ
5. เพิ่มการเข้าถึงยาละลายลิ่มเลือดในผู้ป่วยหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Stroke) และผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลับ (STEMI) โดยจ่ายค่ายาให้แก่สถานพยาบาล
6. การปรับปรุงสิทธิประโยชน์ทันตกรรมกรณี อุดฟัน ขูดหินปูน ถอนฟัน จากเดิม 600 บาท เป็น 900 บาทต่อคนต่อปี และให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษา ในสถานพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงานประกันสังคมโดยไม่ต้องสำรองเงินจ่าย
7. เพิ่มอัตราการผ่าตัดอวัยวะกระจกตา จากเดิม 25,000 บาท เป็น 50,000 บาท
8. ปรับปรุงรายการอุปกรณ์อวัยวะเทียม เพิ่มจาก 31 รายการ เป็น 95 รายการ โดยไม่ต้องสำรองจ่าย
9. เพิ่มสิทธิประโยชน์เงินทดแทนการขาดรายได้สำหรับผู้ประกันตนที่มีการสูญเสียอวัยวะตั้งแต่ ร้อยละ 35 ขึ้นไป จากเดิมตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป
10. การตรวจสุขภาพฟรีในสถานพยาบาลตามบัตรฯ
11. เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดให้ครอบคลุมทั้ง กรณีใช้เนื้อเยื่อของตนเองเนื้อเยื่อของพี่น้อง และเนื้อเยื่อของผู้บริจาค จาก 750,000 บาท เป็น 1,300,000 บาท
12. กรณีคลอดบุตร เพิ่มสิทธิจากการเบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง เป็นไม่จำกัดจำนวน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ากระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม ไม่หยุดนิ่งในการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ เพิ่มค่าบริการทางการแพทย์ และให้ความคุ้มครองต่าง ๆ กับผู้ประกันตน เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายรัฐบาลในการยกระดับพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยรวมของประเทศอย่างยั่งยืน
ที่มา ddproperty.com
ไอเดียจัดสวนลอยฟ้าบนระเบียงคอนโดฯ
ถึงจะอยู่คอนโดฯ ก็อยากจะมีพื้นที่เขียวๆ กับเขาบ้าง แต่จะทำสวนบนระเบียงเล็กๆ ได้อย่างไร ยิ่งหลายคอนโดมิเนียมใหม่ๆ พื้นที่ระเบียงเล็กลงมาก จะเริ่มต้นยังไง แล้วจะดูแลมันยังไงดี เราจึงมีไอเดียในการทำสวนเก๋ๆ และการดูแลสวนบนระเบียงคอนโดฯ มานำเสนอ โดยขอแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ก็คือ กลุ่มสวนแนวตั้ง และกลุ่มสวนแนวนอน เริ่มด้วย
กลุ่มที่ 1 สวนแนวตั้ง
1. สวนแขวนกำแพงระเบียง
วิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมเป็นอันดับต้นๆ ของสวนลอยฟ้าบนคอนโดมิเนียม เพราะว่าใช้พื้นที่น้อยมาก ติดกับกำแพงไปเลย สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์แขวนตามแหล่งขายต้นไม้ ซึ่งถ้าเป็นแหล่งใหญ่ๆ เช่น สวนจตุจักร (วันพุธ กับวันพฤหัสฯ เท่านั้น) หรือตลาดสนามหลวง 2 ตรงพุทธมณฑลสาย 3 (วันเสาร์-อาทิตย์ ก็มีขาย) เป็นต้น ก็จะมีอุปกรณ์แขวนต้นไม้ ทั้งแบบไม้ แบบพลาสติก ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมาก ตามชอบความเลย
ในส่วนของต้นไม้ ถ้าเป็นแบบแขวนระเบียง อาจมีข้อจำกัดว่าสามารถเลือกได้เฉพาะต้นไม้ขนาดเล็ก หรือจะเป็นกลุ่มกล้วยไม้ เพราะถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ จะมีน้ำหนักมากเกินไป ซึ่งต้นไม้เล็กๆ ตามแหล่งขายต้นไม้ก็มีให้เลือกหลากหลายมาก สามารถเลือกได้ตามความชอบ
แต่ข้อเสียของสวนลักษณะนี้ คือ ต้องตอกตะปูติดกำแพงเพื่อแขวน ทำให้ไม่ยืดหยุ่นในการโยกย้ายเปลี่ยนมุม และกำแพงเป็นรอยรูตะปู ไม่สวยงาม
2. สวนแขวนบนราวระเบียง
สวนแขวนลักษณะนี้ ก็เป็นที่นิยมเป็นอันดับต้นๆ เช่นกัน เพราะใช้พื้นที่ไม่มาก โดยปัจจุบันตามแหล่งขายต้นไม้ มีอุปกรณ์แขวนพร้อมกระถางให้เลือกเยอะมาก เราสามารถซื้ออุปกรณ์เหล่านี้แล้วมาเลือกต้นไม้เอง หรือบางร้าน ก็ขายอุปกรณ์พร้อมต้นไม้ หรือจะเป็นกลุ่มต้นไม้แขวนที่ขายเป็นแยกเป็นต้นๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อย เช่น กลุ่มไม้ดอกประดับอย่างกล้วยไม้ เวอร์บีน่า ฯลฯ หรือกลุ่มไม้ใบประดับที่มีกิ่งก้านห้อยย้อยลงมาได้ เช่น สายป่านดวงใจ ริบบิ้นชาลี หรือจะเป็น ต้นคุณนายตื่นสาย เป็นต้น
วิธีนี้มีข้อดีกว่าสวนข้อ 1 คือ ไม่ต้องตอกตะปูกำแพง และโยกย้ายได้ง่าย ปรับเปลี่ยนได้ตามชอบ
ทั้งนี้วิธีการดูแลสวนข้อ 1 และข้อ 2 : ส่วนใหญ่จะใช้ฟ็อกกี้ในการฉีดน้ำ ไม่ได้ใช้สายยาง หรือใช้บัวรดน้ำ เพราะนอกจากจะเป็นต้นไม้ขนาดเล็กแล้ว การใช้สายยาง หรือราดน้ำ อาจกระทบกับผู้อยู่อาศัยห้องด้านล่างได้ เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวังด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้นไม้ที่ใช้กับสวนข้อ 1 และข้อ 2 ส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่ถูกตัดมา หรือเพาะมาขายในปริมาณมากๆ คุณภาพของต้นไม้ อาจจะไม่ดีมากนัก มีโอกาสจะตายเร็ว หากต้องการให้ต้นไม้เหล่านี้อยู่ได้นานขึ้น ขอแนะนำว่า ในทุกอาทิตย์ ควรนำต้นไม้เหล่านี้มาจุ่มน้ำหรือแช่น้ำสัก 15 วินาที ให้ได้รับความชุ่มฉ่ำของน้ำอย่างเต็มที่ เพราะการฉีดฟ็อกกี้ จะทำให้ต้นไม้และดินได้รับน้ำอย่างไม่ทั่วถึง
3. กระถางต้นไม้แนวตั้ง
การจัดสวนลักษณะนี้ จะใช้วิธีการวางพื้นที่ แต่เลือกใช้อุปกรณ์ที่เป็นแนวตั้ง เพื่อประหยัดพื้นที่ โดยอาจจะใช้กระถางที่เรามี ซ้อนกันเรียงขึ้นไปตามขนาดของกระถาง เช่น กระถางใหญ่สุดอยู่ด้านล่าง ไล่ขึ้นไปจนถึงกระถางที่เล็กสุด หรือจะใช้วิธีเลือกซื้ออุปกรณ์ที่เป็นกระถางแนวตั้งมาวางไว้แล้วเลือกต้นไม้มาใส่ ก็สะดวกไปอีกแบบ โดยปัจจุบันตามแหล่งขายต้นไม้ ขายของที่ระลึก ร้านจักสานบางแห่ง ก็มีขายกระถางต้นไม้แนวตั้งให้เลือกตามความชอบเลย
วิธีการการดูแล : ถ้าเป็นกระถางลักษณะนี้ ส่วนใหญ่จะสามารถเลือกต้นไม้ที่เป็นต้นขนาดกลาง (ใหญ่กว่ากลุ่มต้นไม้แขวน) ได้ การรดน้ำ ก็อาจจะใช้สายยาง หรือบัวรดน้ำได้ แต่ต้องระวังว่าจะกระทบผู้อยู่อาศัยห้องข้างล่างด้วย โดยเฉพาะกรณีที่ห้องด้านล่างตากผ้าไว้ แล้วเจอน้ำที่เรารดต้นไม้ อาจจะทำให้เสื้อผ้าของเพื่อนบ้านเปียกได้
4. สวนขั้นบันได
การจัดสวนด้วยวิธีการนี้จะคล้ายกับสวนข้อ 3 แต่แตกต่างกันที่เราจะเรียงให้เป็นขั้นบันได ซึ่งเราอาจจะเลือกอุปกรณ์ที่เป็นกระถางแนวนอน (ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส) แล้วนำมาเรียงกันเป็นลักษณะขั้นบันได ใช้อิฐบล็อก หรือก้อนหินมารอง ก็จะเก๋ไปอีกแบบ ซึ่งสวนลักษณะนี้อาจจะต้องซื้ออุปกรณ์หลายๆ อย่าง หรือหาจากที่เราเคยมีอยู่แล้ว มาปรับๆ ให้เป็นไปตามแบบที่เราชอบและพอเหมาะกับพื้นที่ของเรา
กลุ่มที่ 2 สวนแนวนอน (สำหรับห้องชุดที่มีพื้นที่ระเบียงมากหน่อย)
1. สร้างสวน ปูหญ้าเทียม / ปูพรมหญ้าให้ระเบียง
การสร้างสีเขียวให้กับห้องชุดด้วยการปูหญ้าก็ช่วยให้มุมระเบียงของเรามีความเป็นสวนจริงจังมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้ง หญ้าเทียม พรมหญ้า หรือแผ่นปูพื้นสีเขียว ที่นำมาทำให้ระเบียงของเรามีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น แล้วเราก็จัดเป็นสวนขนาดย่อมๆ เติมด้วยกระถางต้นไม้ จะแบบแขวน หรือแบบตั้งพื้น พร้อมด้วยชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ มาวาง ก็จะช่วยให้เรามีพื้นที่พักผ่อนเพิ่มขึ้น
วิธีการดูแล : ควรทำความสะอาด ทั้งตัวหญ้าเทียมเอง และพื้นระเบียงของเราอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง เพื่อความสะอาดของระเบียงเราเอง
ข้อเสียของการใช้หญ้าเทียม คือ นอกจากเรื่องความไม่เป็นธรรมชาติเหมือนหญ้าจริงแล้ว หญ้าเทียมจะดูดความร้อน ในช่วงหน้าร้อน พื้นหญ้าเทียมจึงจะร้อนมากกว่าเมื่อเทียบกับหญ้าจริง อีกทั้ง หญ้าเทียมอาจมีสารเคมีจากการผลิต ซึ่งผู้ใช้ที่มีความอ่อนไหวในเรื่องสารเคมีควรศึกษาก่อน
2. วางกระถางต้นไม้ใหญ่
สำหรับใครที่ชื่นชอบต้นไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ อาจจะเลือกเป็นกระถางต้นไม้แบบตั้งพื้น ซึ่งควรเลือกกระถางที่ไม่ใหญ่เกินไป เพราะมีผลกับเรื่องการรับน้ำหนักทั้งตัวกระถางเอง และต้นไม้ที่อาจจะใหญ่ขึ้น โดยกรณีที่มีหลายกระถาง ควรวางแบบกระจายๆ ไม่ควรวางมุมใดมุมหนึ่ง เพราะจะทำให้พื้นที่ส่วนนั้นรับน้ำหนักมากเกินไป
วิธีการดูแล : การรดน้ำต้นไม้ขนาดกลาง-ใหญ่ ส่วนใหญ่ต้องใช้สายยาง หรือบัวรดน้ำ ควรระวังจะกระทบกับผู้อยู่อาศัยห้องข้างล่าง
3. บ่อบัวขนาดเล็ก
บ่อบัวเล็กๆ ที่อาจจะมีปลาหางนกยูงอยู่ด้วย ก็ช่วยเพิ่มความรื่นรมย์ให้กับระเบียงของเราได้มาก และควรเลือกบ่อน้ำที่ไม่ใหญ่มาก เพราะมีผลกับเรื่องการรับน้ำหนักด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะบ่อบัวจะต้องใส่น้ำ ยิ่งต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยกรณีที่เรามีกระถางต้นไม้ใหญ่หลายต้นแล้ว ไม่ควรเพิ่มน้ำหนักให้กับระเบียงด้วยบ่อบัวอีก เพราะจะทำให้ระเบียงรับน้ำหนักมากเกินไป จนเป็นอันตรายได้
หมายเหตุ: การตกแต่งสวนกระถางต้นไม้ใหญ่และบ่อบัว เจ้าของห้องชุด หรือผู้เช่าห้องชุด ควรขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่นิติบุคคลที่ดูแลโครงการว่า ระเบียงห้องชุดรองรับน้ำหนักได้มากแค่ไหน เพื่อเลือกขนาดต้นไม้ที่จะนำมาใช้บนระเบียงได้อย่างเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่อยู่อาศัยในโครงการ
ที่มา ddproperty.com
บอกทางภาษาอังกฤษ…ง่ายนิดเดียว
คนไทยอย่างเราก็โชคดีนะครับที่ประเทศเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวไหลเข้ามาจากต่างแดนเต็มไปหมด ทั้งชาวยุโรป อเมริกัน หรือแม้แต่คนเอเชีย (โดยเฉพาะพี่จีน) ทำให้เศรษฐกิจคึกคัก พ่อค้าแม่ค้ายิ้มกันถ้วนหน้า
แต่สำหรับบางคนที่ไม่ช่ำชองเรื่องภาษา การเผชิญหน้ากับฝรั่งที่ถือแผนที่เข้ามาถึงกับทำให้หน้าถอดสีเลยทีเดียว อะอ้าววว คนอื่นมีตั้งเยอะแยะไม่ถาม ทำไม๊ทำไมต้องเป็นเราด้วย(วะ)เนี่ย วันนี้ผมจึงมาบอกวิธีง่ายแสนง่ายที่จะทำให้เราตอบคำถาม หรือให้ทิศให้ทางกับนักท่องเที่ยวแบบไม่มีการขายหน้าอย่างแน่นอน ขอแบ่งเป็น 2 กรณีละกันนะครับ
1. คุณรู้ทาง…จัดไปเลย
———————————————————————————————
Where do you want to go? I’ll help you. (อยากไปไหนครับ เดี๋ยวผมบอกทางให้)
———————————————————————————————
ร้อนก็ร้อน แผนที่ก็ดูไม่รู้เรื่อง ถามใครก็เบือนหน้าหนีกันหมด พอเจอเราออกตัวแบบนี้นักท่องเที่ยวรักตายเลยครับ ถ้าสถานที่อยู่ใกล้แถมเรารู้ทางด้วยทุกอย่างก็ง่ายมาก เพียงจำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับการบอกทิศทางให้ได้ก็พอ ซึ่งหลักๆก็คือตรงไปกับให้เลี้ยวนั่นเอง หลายคนคงพอรู้อยู่แล้วนะครับ เอ้าเรามาทวนกันดู
- You need to go straight ahead (เดินตรงไปเลย)
- Then make a right/left turn (จากนั้นเลี้ยวซ้าย/ขวานะ)
————————————–
We’re at… – ตอนนี้พวกเราอยู่ที่…
————————————–
พอเสนอตัวแล้วก็บอกเค้าไปซะว่าเราอยู่ไหนกันแน่ ฝรั่งบางคนมาเที่ยวครั้งแรกเนาะ ก็ต้องเข้าใจว่าเค้าคงไม่รู้จริงๆหรอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้ว ถึงเวลาทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีก็คราวเนี้ย เล็งจุดบนแผนที่ให้ดีแล้วก็จิ้มบอกเค้าไปซะว่า “Right now, we’re at Huaykaew Road” (คือตอนนี้เราอยู่บนถนนห้วยแก้วนะครับ)
————————————————————————
It’s just around the corner – ใกล้แล้วๆ ตรงหัวมุมข้างหน้านี่เอง
————————————————————————
กรณีสถานที่อยู่ในระยะเผาขนก็พูดง่ายๆแบบนี้แหละครับ ไหนๆก็ไหนๆเดินไปส่งเค้าด้วยสิ (Let me walk you there.) โอ้โหน่าประทับใจขนาดนี้ สร้างภาพลักษณ์ดีๆได้สบาย งานนี้ฝรั่งได้รู้เลยว่าคนไทยมีน้ำใจจริงๆนะ
——————————————————————–
You have to go that way – เดินไปทางนั้นเลย (ชี้นิ้วไปด้วย)
——————————————————————–
สำหรับระยะกลางๆพอเดินเท้าได้ อย่าลืมบอกระยะทางคร่าวๆด้วยนะ เดี๋ยวแทนที่จะช่วยกลับทำให้ฝรั่งหลงทาง เช่น Go that way for about 500 meters, then turn left. (เดินไปทางนั้นซักครึ่งกิโลนะคุณ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเลย) จังหวะนี้จะไปตรง-ซ้าย-ขวายังไงก็แล้วแต่สถานการณ์
———————————————————————————————————
It’s too far to walk. You should take a cab. (ไกลขนาดนี้เดินไม่ไหวมั้ง เรียกแท็กซี่ดีกว่าจ้ะ)
———————————————————————————————————
แต่ถ้าจุดหมายมันไกล๊…ไกลเหลือเกิน ก็ให้เค้านั่งแท็กซี่ไปเถอะครับ ประหยัดทั้งเรี่ยวแรงและเวลาด้วย cab ในที่นี้คือรถแท็กซี่ จะเปลี่ยนเป็น bus, van, sky train etc. ได้ตามสะดวกเลยนะครับ อย่างว่าแหละ มันมีช่องทางให้เลือกเยอะแยะ จากนั้นก็ปล่อยให้คนขับเค้าสานต่อ เราทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมแล้ว
Tips: แถมคำศัพท์เกี่ยวกับเส้นทางนิดนึง ที่เจอบ่อยๆก็มี junction (สามแยก) intersection (สี่แยก) traffic light (ไฟจราจร) lane (ซอย) on the other side of the road (อยู่บนฝั่งตรงข้ามถนน)
2. งงด้วยคน ไปทางไหนเนี่ย??
ในทางกลับกันถ้าคุณไม่รู้ทางเลยก็อย่าทะลึ่งพยายามไปบอกทางเค้านะครับ มันมีหลายวิธีที่จะช่วยเค้าได้ อย่าเพิ่งยอมแพ้แล้วโพล่งออกไปว่า “Sorry, I don’t speak English” (โทดทีครับ ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้) แหม่…แล้วที่พูดออกมานี่มันไม่ใช่ภาษาอังกฤษรึไงกัน….ไม่ได้ๆ เราต้องรักษาฟอร์มไว้ก่อน
————————————————————————————————–
I don’t know the way. But I’ll try to help you. (ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมจะลองช่วยดูนะ)
————————————————————————————————–
จากนี้ไปจะเป็นวลีเด็ดๆที่ใช้เพื่อ “เอาตัวรอด” ล้วนๆครับ ปกติแล้วเราจะพูดว่า “I don’t know” เฉยๆเวลาไม่รู้ แบบนี้เสียหน้าแย่เลย แค่เสริมไปหน่อยว่าเราจะพยายามช่วย แค่นี้นักท่องเที่ยวก็ซึ้งใจแล้วครับ จากนี้ไปพยายามงดพูดว่า “ไอ ด๊อนท์ โนว์” หัวชนฝาแล้วเดินจากไปแบบนี้นะครับ
——————————————————————-
Let me ask someone who knows. (เดี๋ยวถามผู้รู้ให้แล้วกัน)
——————————————————————-
เฮ้ย นี่มันโบ้ยความรับผิดชอบให้คนอื่นนี่นา…. ไม่ใช่หรอกครับ มันเหมือนกับการ “ส่งไม้ต่อ” ต่างหาก อย่างน้อยถ้าเราไม่รู้ก็ช่วยถามคนแถวๆนั้นดูก็ได้ ว่าแล้วก็บอกฝรั่งว่า Just a moment. (รอแป๊บนึงนะ) ไปถามคนแถวนั้นเป็นภาษาไทยมาให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับมาบอกทางให้ตามข้อ 1. ต่อไป ห้า่มชิ่งนะครับ (ฮ่าๆๆ)
———————————————————————-
You should ask a tourism officer. (ถามเจ้าหน้าที่ดีกว่าครับ)
———————————————————————-
สุดท้ายถ้าไม่รู้จริงๆก็ให้เค้าโทรถาม call center ดีกว่าครับ เบอร์โทรของบริการให้ข้อมูลการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคือ 1672 (ไปสืบมาเรียบร้อย) อาจพูดว่า “The number is 1672.” แล้วก็ส่งไม้ต่อให้เจ้าหน้าที่อีกที
เป็นไงบ้างครับ แค่เรื่องถามทางนี่จิ๊บๆมากเลยใช่มั้ย คราวหน้าเจอนักท่องเที่ยวหลงทางอย่าลังเลครับ เข้าไปช่วยเล้ย นอกจากจะได้ความรู้สึกดีๆกลับมาแล้วยังมีโอกาสได้ฝึกภาษาอังกฤษฟรีๆด้วย แบบนี้เรียกว่าคุ้มสุดๆ!
ที่มา dailyenglish.in.th
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 11/07/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,550.00 | 19,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,266.00 | 19,192.56 | 20,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,139.40 | 17,273.30 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 570.00 | 8,641.20 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 443.00 | 6,715.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,312.00 | 19,889.92 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 11/07/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 25.55 | 25.55 | – | 25.55 | 25.55 | 25.55 | 25.55 | 25.55 | 25.55 | 25.55 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 23.04 | 23.04 | 23.04 | 23.04 | 23.04 | – | 23.04 | 23.04 | 23.04 | 23.04 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 19.24 | 19.24 | – | – | – | – | – | 19.24 | 19.24 | – |
แก๊สโซฮอล 91 | 25.28 | 25.28 | 25.28 | 25.28 | 25.28 | 25.28 | 25.28 | 25.28 | 25.28 | 25.28 |
เบนซิน 95 | 32.66 | – | – | 33.11 | 33.11 | – | 33.16 | 32.66 | 32.66 | 32.66 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 24.49 | 24.49 | 24.49 | 23.99 | 23.99 | 23.99 | 23.99 | 23.99 | 23.99 | 23.99 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 27.49 | 28.17 | 28.17 | 28.17 | 28.17 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 | 05 Jul 05:00 |