ตลาดรับสร้างบ้านปี62โตต่อเนื่องชี้ต้องเร่งใช้เทคโนโลยีช่วย
สมาคมไทยรับสร้างบ้าน วิเคราะห์สถานการณ์ธุรกิจรับสร้างบ้าน ชี้ปี61″บ้านเดี่ยวสร้างเอง” ขยายตัวใกล้เคียงกับปีก่อนหรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย ประเมินมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 1.4 แสนล้าน ด้าน”รับสร้างบ้าน” ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมทั้งในต่างจังหวัด มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาทเศษ แข่งขันรุนแรงตจว.อัดโปรราคา คาดปี62มีแนวโน้มปรับตัวได้ดีขึ้นแต่ต้องบริหารความเสี่ยง เหตุเศรษฐกิจโลกยังไม่ดี
ตามปฏิทิน 12 นักษัตรในปี 2561 ที่ผ่านมา คนไทยถือว่าตรงกับปีจอ ซึ่งผู้ประกอบการรับสร้างบ้านต่างแอบบ่นเป็นเสียงเดียวกัน ถึงสภาพเศรษฐกิจและกำลังซื้อผู้บริโภคที่ผันผวนตลอดปี รวมถึงมูลค่าการสร้างบ้านต่อหน่วยที่ลดลง ส่งผลให้ตลาดรับสร้างบ้านแข่งขันกันรุนแรง ผู้ประกอบการหลาย ๆ รายตัวเลขยอดขายต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลาย ๆ รายยอดขายทรงตัวแต่ก็เหนื่อยหนักกว่าจะได้มา นั่นคือ บทสรุปของภาคธุรกิจรับสร้างบ้านปีจอ และในปี 2562 ที่จะถึงนี้ก็จะตรงกับปีกุนหรือปีหมู แต่ทว่าจะเป็น “หมูในอวย” หรือ “หมูป่าเขี้ยวตัน” ลองมาฟัง สิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน ที่เลี่ยงออกตัวก่อนว่าไม่กล้าฟันธง แต่เลือกจะบอกว่า “ห้าสิบ ห้าสิบ”
ส่องตลาดบ้านสร้างเอง-รับสร้างบ้านปี 61
นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคและประชาชนทั่วประเทศตลอดปี 2561 ประเภท “บ้านเดี่ยวสร้างเอง” ขยายตัวใกล้เคียงกับปีก่อนหรือเติบโตขึ้นเล็กน้อย ประเมินมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท โดยแชร์ส่วนแบ่งตลาดมูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 82% เป็นบ้านขนาดเล็กและบ้านสำเร็จรูปหรือบ้านน็อคดาวน์ ระดับราคาประมาณ 8 แสนบาท – 1.5 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มผู้รับเหมารายย่อยทั่วไปและกลุ่มผู้รับเหมาสร้างบ้านรายเล็ก ๆ ครองแชร์ส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ผลิตวัสดุรายใหญ่ กลุ่มสถาปนิกและผู้รับเหมาขนาดกลาง-ใหญ่ ที่รับออกแบบและรับก่อสร้างบ้านขนาดใหญ่ ระดับราคา 20 ล้านบาท – 200 ล้านบาท มีแชร์ส่วนแบ่งตลาดอยู่อีกประมาณ 8 พันล้านบาทเศษ หรือคิดเป็น 6% ของมูลค่าตลาดรวมบ้านสร้างเอง
ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการ “ธุรกิจรับสร้างบ้าน” ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมทั้งในต่างจังหวัด จำนวนเกือบ 200 ราย มีแชร์ส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาทเศษ คิดเป็น 12% ของตลาดบ้านสร้างเอง โดยผู้บริโภคนิยมใช้บริการสร้างบ้าน ระดับราคา 3-20 ล้านบาท กับผู้ประกอบการกลุ่มนี้มากที่สุดในปีที่ผ่านมา ดังจะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการทั้ง 3 กลุ่ม อันได้แก่ 1. ผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป 2. ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน 3. สถาปนิกและผู้รับเหมารายใหญ่รวมถึงผู้ผลิตวัสดุรายใหญ่ ต่างแบ่งเซ็กเม้นท์ตลาดกันค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ดี เมื่อประเมินจากมูลค่าส่วนแบ่งตลาดของกลุ่ม “ธุรกิจรับสร้างบ้าน” ในปี 2561 ที่ผ่านมาก็ไม่ถือว่าขี้เหร่นัก หากเปรียบเทียบกับกำลังซื้อผู้บริโภคที่ค่อนข้างซบเซา อันเป็นผลมาจากความผันผวนของเศรษฐกิจประเทศ
ภาพรวมการแข่งขันตลาดบ้านสร้างเองในปี 2561 เฉพาะในกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน หากแยกผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้ อาจแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 1.ผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 2.ผู้ประกอบการที่แข่งขันอยู่ในภูมิภาคหรือต่างจังหวัด โดยกลุ่มแรกส่วนใหญ่ถือว่ามีความเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีความเป็นมืออาชีพ มีการใช้กลยุทธ์แข่งขันอย่างรอบด้านและหลากหลายมากกว่ากลุ่มหลัง ทั้งกลยุทธ์การตลาด ดีไซน์ คุณภาพ การให้บริการที่ครบวงจรหรือวันสต็อปเซอร์วิส รวมถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์หรือองค์กร
ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการในต่างจังหวัด จะเน้นแข่งขันราคาถูกหรือจัดโปรโมชั่นลดราคา โดยกลุ่มหลังนี้นิยมเลือกใช้สื่อโซเชียลมีเดียหรือเฟสบุ๊ค ในการสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเฉพาะในพื้นที่หรือจังหวัดที่ให้บริการ อย่างไรก็ดี กลยุทธ์การแข่งขันที่มีความแตกต่างของผู้ประกอบการทั้งสองกลุ่มนั้น ปัจจัยหลัก ๆ เป็นผลมาจากพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายในแต่ละภูมิภาค ทั้งในแง่ของวัฒนธรรมการอยู่อาศัย กำลังซื้อและพฤติกรรมการใช้จ่าย รวมถึงศักยภาพและขีดความสามารถของผู้ประกอบการเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อมในความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง ดังนั้นย่อมหนีไม่พ้นการแข่งขันราคาเป็นสำคัญ ฯลฯ
ทิศทางตลาดปี 62 และปัจจัยที่มีผลกระทบ
สำหรับ ในปี 2562 คาดการณ์ว่าปริมาณและมูลค่าตลาดบ้านสร้างเองมีแนวโน้มปรับตัวได้ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มบ้านระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ปัจจัยหลัก ๆ เป็นผลมาจาก “โครงการบ้านล้านหลัง” ของรัฐบาลคสช.ที่เปิดตัวในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งผู้บริโภคและประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ประเมินว่าโครงการนี้อานิสงค์คงจะตกอยู่เฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย และกลุ่มผู้รับสร้างบ้านน๊อคดาวน์ที่เน้นเจาะตลาดบ้านระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทเป็นส่วนใหญ่ และคาดว่าปริมาณและมูลค่าตลาดจะขยายตัวในต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่
ขณะที่กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านโดยเฉพาะผู้ประกอบการ ที่เน้นจับตลาดสร้างบ้านระดับราคา 3-20 ล้านบาท สมาคมฯ ประเมินว่าความต้องการของผู้บริโภคจะขยายตัวได้สูงกว่าปีก่อน โดยในช่วงต้นปี 2562 นี้ ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แแทนราษฎร (สส.) และกลับเข้าสู่การปกครองในระบบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญและส่งผลดีในแง่ของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อทิศทางการเมืองในอนาคต และจะส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุนเรื่องบ้านหรือที่อยู่อาศัยหลังใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการปลูกสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง (ไม่ซื้อบ้านจัดสรร) ที่พฤติกรรมของกลุ่มนี้จะมีความระมัดระวังและอ่อนไหวต่อแนวโน้มการเมืองและเศรษฐกิจในอนาคต
ข้อควรระวังและปัจจัยเสี่ยง
อย่างไรก็ดี ในปี 2562 อาจมีปัจจัยที่ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านจะต้องบริหารความเสี่ยงอยู่พอสมควร ทั้งภาพรวมเศรษฐกิจประเทศที่อาจหดตัวจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลก ต้นทุนวัสดุที่จะปรับตัวสูงขึ้นอันเนื่องมาจากดีมานส์หรือความต้องการของตลาดสูงขึ้น เป็นผลมาจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐที่ขยายตัว สภาพการแข่งขันราคาของตลาดรับสร้างบ้านที่ยังมีความรุนแรง ปัญหาแรงงานขาดแคลนที่ทวีความรุนแรงขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีก่อสร้างและการสื่อสาร ฯลฯ เหล่านี้เป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการต้องเฝ้าระวัง รวมถึงความน่าเชื่อถือที่ผู้บริโภคมีต่อผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้าน เหตุเพราะปัจจุบันมีผู้เข้ามาแข่งขันอยู่ในธุรกิจนี้จำนวนมาก
โดยมีทั้งประเภทมืออาชีพ มือสมัครเล่น โบรกเกอร์ กระทั่งผู้บริโภคไม่อาจแยกแยะได้ว่ารายใดเป็นมืออาชีพ รายใดเป็นแค่มือสมัครเล่น จนเมื่อตัดสินใจใช้บริการสร้างบ้านแล้วจึงพบว่า คุณภาพไม่ได้มาตรฐาน การให้บริการไม่เป็นไปตามสัญญา ฯลฯ และเกิดปัญหาขัดแย้งกันตามมา ทำให้ผู้บริโภคต่างเหมารวมว่าผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านไม่ดีจริง หรือไม่แตกต่างกับการว่าจ้างผู้รับเหมาทั่วไป ประเด็นดังกล่าวกลายมาเป็นปัญหาย้อนกลับมาในยุค 4.0 นี้อีกครั้ง (ไม่ต่างกับในช่วงก่อนปี 2547) เมื่อข้อมูลของผู้เข้ามาในธุรกิจรับสร้างบ้านที่อยู่บนโลกออนไลน์ มีทั้งเรื่องจริงและเท็จ ดังนั้นผู้ประกอบการมืออาชีพตัวจริงเสียงจริง คงจะต้องหาทางช่วยกันทำให้ผู้บริโภคมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง และเห็นเป็นรูปธรรมว่าองค์ประกอบสำคัญของ “มืออาชีพรับสร้างบ้าน” มีอะไรบ้างและแตกต่างอย่างไรกับผู้รับเหมารายย่อยทั่วไป
คาดการณ์มูลค่าตลาดบ้านสร้างเอง-รับสร้างบ้าน
สำหรับปริมาณและมูลค่า “ตลาดบ้านสร้างเอง” ในปี 2562 สมาคมฯ ประเมินว่าน่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงหรือเติบโตกว่าเล็กน้อย หากเปรียบเทียบกับในปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.4-1.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้คาดการณ์ว่า “กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้าน” จะมีแชร์ส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาทเศษ เติบโตเฉลี่ย 7-8% และสัดส่วนการขยายตัวของตลาดรับสร้างบ้านในภูมิภาค มีแนวโน้มขยายตัวสูงกว่าตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคอีสานคาดว่าจะขยายตัวสูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ นอกจากนี้กลุ่มผู้ผลิตวัสดุรายใหญ่ กลุ่มสถาปนิกออกแบบและผู้รับเหมาขนาดกลาง-ใหญ่ที่ให้บริการรับสร้างบ้าน คาดว่าแชร์ส่วนแบ่งตลาดน่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 8.5-9 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ ประเมินว่า แรงกดดันจากผู้บริโภคในยุค 4.0 และการปรับตัวของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง จะส่งผลให้มูลค่าบ้านและกำไรต่อหน่วยของผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน ปรับตัวลดลงไม่น้อยกว่า 2-3% โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ชื่อเสียงของแบรนด์หรือองค์กร ยังไม่เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือดีพอ กำไรต่อหน่วยอาจปรับตัวลดลงมากกว่านี้
โอกาสและการปรับตัว
นายสิทธิพร กล่าวต่อว่า ในปี 2561 ที่ผ่านมา แม้ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านจะมีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะการมุ่งแข่งขันตัดราคาและโจมตีกัน แต่บรรดาสมาชิกสมาคมฯ ก็สามารถปรับตัวและมีตัวเลขยอดขายรวมเติบโตกว่าปีก่อน โดยเฉพาะตลาดรับสร้างบ้านในภูมิภาคช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปี ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการสร้างบ้านในช่วงปลายปี 2561 และต้นปี 2562 เติบโตตามกัน และกลายเป็นโอกาสของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์และเครื่องมือช่าง รวมถึงผู้ให้บริการต่าง ๆ ในงานก่อสร้างเชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัวและเติบโตด้วยเช่นกัน
สำหรับโอกาสและการปรับตัว เพื่อรับมือกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการแข่งขันในธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2562 นี้ มองว่าผู้ประกอบการควรนำเทคโนโลยีก่อสร้าง เทคโนโลยีการสื่อสาร มาปรับใช้ในงานมากขึ้นและเกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะระบบปฏิบัติงานภายในองค์กร ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นให้เลือกนำมาใช้ปฏิบัติงาน เพื่อความคล่องตัวในการทำงานได้ทุกที่ทุกเวลา ทั้งในส่วนของฝ่ายบริหารและฝ่ายปฎิบัติการ แทนรูปแบบการทำงานแบบเดิม ๆ ด้วยเพราะหัวใจของการตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคและการแข่งขันในยุคนี้คือ “ความสะดวกและรวดเร็ว” นอกจากนี้ แรงกดดันของผู้บริโภคอาจทำให้กำไรต่อหน่วยมีแนวโน้มลดลง ผู้ประกอบการอาจต้องเพิ่มปริมาณการผลิตหรือจำนวนหน่วยก่อสร้างมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งการนำเทคโนโลยีก่อสร้าง เครื่องมือและอุปกรณ์ก่อสร้างที่ช่วยลดการใช้แรงงานคน น่าจะเป็นทางออกทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการควรหันมาพิจารณาและปรับตัว
ช่วงต้นปี 2562 ประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และกลับเข้าสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอีกครั้งในรอบเกือบ 5 ปี ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญทางจิตวิทยาที่มีผลต่อผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน แม้ว่าเศรษฐกิจและกำลังซื้อจะยังไม่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายหลังมีการเลือกตั้งแล้วก็ตาม นั่นเพราะผู้ประกอบการต่างเห็นตรงกันว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่มีความต้องการสร้างบ้าน หากเกิดความเชื่อมั่นต่อทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ย่อมจะเป็นปัจจัยที่หนุนให้เกิดการตัดสินใจใช้จ่าย หรือกล้านำเงินมาลงทุนสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัย แต่หากความเชื่อมั่นหดหายก็จะส่งผลให้เกิดการชะลอตัดสินใจหรือลงทุน สะท้อนได้จากเหตุการณ์รัฐประหารที่เกิดขึ้นในปี 2535 ปี 2549 และปี 2557 ที่ผ่านมา ตลาดรับสร้างบ้านเกิดการชะลอตัวและซบเซาลงทุกครั้ง และในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดรับสร้างบ้านก็ซบเซาไม่ต่างกับครั้งก่อน ๆ นายสิทธิพร กล่าวทิ้งท้าย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สิทธิประโยชน์กระตุ้นการใช้ที่ดิน
สมาคมการวางแผนอเมริกัน (American Planning Association) หรือ APA ได้สำรวจความสำเร็จการวางแผนการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยพบปัจจัยกระตุ้นการเข้าใช้ประโยชน์ที่ดินของภาคเอกชน อันดับที่หนึ่งเป็น ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค อันดับที่สอง ตำแหน่งที่ตั้งและการเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมขนส่ง อันดับที่สาม การกระตุ้นด้วยสิทธิประโยชน์การใช้ที่ดินหรือ (Incentive Zoning Bonus)
ปัจจัยกระตุ้นการใช้ที่ดินกับตำแหน่งที่ตั้งและระบบการเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมขนส่งนั้น ในบางพื้นที่จะสลับลำดับกัน ตัวแปรที่ชี้ว่าปัจจัยใดมีความสำคัญมากในการกระตุ้นการใช้ที่ดินได้แก่ บทบาทและศักยภาพของที่ดินในอนาคตที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทางรางของรัฐและเอกชน
ในส่วนของปัจจัยกระตุ้นด้วยสิทธิประโยชน์นั้น แม้จะมีความสำคัญลำดับที่สาม แต่ก็นับว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านของ APA กล่าวตรงกันว่า การกระตุ้นการใช้ที่ดินด้วยสิทธิประโยชน์ทั้งด้านการเงินและมาตรการผังเมืองนั้นจะเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดประสิทธิภาพการใช้ที่ดินมากขึ้น
โดยที่ดินที่มีตำแหน่งที่ตั้งและระบบการเชื่อมต่อด้วยโครงข่ายคมนาคมขนส่งและมีความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานสมบูรณ์อยู่แล้ว หากได้รับการกระตุ้นด้วยสิทธิประโยชน์การใช้ที่ดินเข้าไปอีก ก็จะทำให้ที่ดินดังกล่าวมีศักยภาพและมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น
ในสหรัฐอเมริกา ระบบสิทธิประโยชน์การใช้ที่ดินจะได้รับการออกแบบให้ใช้ควบคู่กับการวางผังและการออกแบบชุมชนเมือง โดยภารกิจของระบบสิทธิ์ประโยชน์ประกอบด้วย
ภารกิจแรก การกระตุ้นการใช้ที่ดินในแปลงที่รัฐประกาศนโยบายสนับสนุน เช่น ที่ดินบางย่านในพื้นที่พัฒนาพิเศษ ที่ดินที่รัฐประสงค์ให้เกิดการลงทุนในกิจกรรมเศรษฐกิจที่กำหนด หรือที่ดินที่รัฐมีนโยบายพิเศษจัดทำขึ้นเพื่อสร้างภาษีตามเป้าหมายจากแผนยุทธศาสตร์
ภารกิจที่สอง การกระตุ้นการใช้ที่ดินประเภทที่รัฐหรือเอกชนปรับปรุงจากพื้นที่ทิ้งร้าง ที่ดินเสื่อมสภาพ หรือที่ดินเคยอยู่ในสภาพอันตรายมีความเสี่ยง (Brownfields)
ภารกิจที่สาม กระตุ้นการใช้ที่ดินเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงฟื้นฟูเมือง ได้แก่ การกระตุ้นการใช้ที่ดินในพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน (TOD) เพื่อสร้างความหนาแน่นประชากรและกิจกรรมเศรษฐกิจ
เมืองในสหรัฐฯที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุดในการใช้นโยบายการกระตุ้นด้วยระบบสิทธิประโยชน์ได้แก่ เมืองซีแอตเติล เมืองเดนเวอร์ และเมืองพอร์ตแลนด์
กรณีของไทย ระบบสิทธิประโยชน์กระตุ้นการใช้ที่ดินยังเป็นเรื่องใหม่ มีการประยุกต์ใช้เฉพาะโบนัสความหนาแน่น (Density Bonus) FAR Bonus และโบนัสพื้นที่สีเขียว โดยพบในผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร แต่ยังไม่พบในลักษณะของ Incentive Zoning Bonus อย่างเป็นรูปธรรมในผังและแผนอื่นๆ
เนื่องจากสิทธิประโยชน์การใช้ที่ดินเป็นระบบมาตรฐานการผังเมือง จึงขอเสนอให้หน่วยงานที่มีกฎหมายการพัฒนาโดยเฉพาะได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ได้พิจารณานำเอาระบบสิทธิประโยชน์การใช้ที่ดินประยุกต์ใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่พาณิชยกรรมและพื้นที่ที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก โดยเลือกใช้ระบบสิทธิประโยชน์ให้สอดคล้องกับมาตรการสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนและหน่วยงานด้านนวัตกรรม เช่น สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งจะก่อให้เกิดความคุ้มค่า สามารถสร้างเสริมมูลค่าในการใช้ที่ดินแก่ประเทศต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก tatp.or.th
ประกาศสงคราม “ความเครียด” อย่ามาให้เจออีกเลย
ใครที่ปล่อยให้ “ความเครียด” เป็นไม้เบื่อไม้เมา กวนใจมาข้ามปี ถือโอกาสเริ่มต้นปีใหม่นี้ ประกาศสงคราม จัดการความเครียดให้ราบคาบ พอกันทีกับคำว่า งานล้นมือ 24 ชั่วโมงไม่เคยพอ ด้วย 6 วิธีกำราบความเครียดให้อยู่หมัด แต่ละข้อคัดมาแล้วว่าอานุภาพร้ายแรง ที่สำคัญใครๆ ก็ทำได้ถ้าใจพร้อม…
1.ออกกำลังกาย อย่าปล่อยให้คำว่า “ไม่มีเวลา” เป็นข้ออ้าง ต่อให้จันทร์-ศุกร์ เวลาของคุณจะหมดไปกับการทำงาน งาน และ งาน แต่อย่างน้อยคุณยังมีอีก 48 ชั่วโมงในช่วงสุดสัปดาห์ให้คุณได้พาตัวเองไปออกกำลังกาย
รู้หรือไม่ว่า การเปิดโอกาสให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวเพียง 10 นาที ช่วยกระตุ้นให้ “กาบา” ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยส่งข้อความสื่อสารระหว่างสมองและระบบประสาทหลั่งออกมา คุณสมบัติของกาบา คือ ช่วยลดการทำงานของเซลล์ประสาทในระบบประสาท จึงบรรเทาอาการเครียด วิตกกังวล โรคซึมเศร้าได้
2.ลดภาระงานบ้านลง ถ้าเวลาส่วนใหญ่ของคุณ นอกจากจะอุทิศให้กับงานประจำแล้ว เวลาที่เหลือยังถูกใช้ไปกับการทำงานบ้าน เห็นทีต้องหาทางออกใหม่ให้กับชีวิตได้สลัดตัวเองออกจากคำว่างานดูบ้าง ด้วยการจัดตารางในการทำงานบ้านเสียใหม่ๆ หรือหาตัวช่วยเพื่อสะสางงานบ้านแทน
3.เลิกเก็บตัว ไปเจอเพื่อนฝูงบ้าง หนึ่งในตัวการของความเครียดอันดับต้นๆ เกิดจาก การกีดกันตัวเองออกจากสังคม ไม่พบปะเพื่อนฝูง ฝังตัวเองให้จมอยู่กับภูเขางานที่สูงตระหง่านราวกับยอดเขาเอเวอร์เรสต์ ลองเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตใหม่ ด้วยมุมมองใหม่ บอกตัวเองว่า แม้งานตรงหน้าจะมีเดทไลน์ที่รออยู่ แต่การแบ่งเวลาให้หัวสมองและร่างกายได้พักผ่อนก็สำคัญไม่แพ้กัน ต่อให้ยุ่งแค่ไหน คุณก็ต้องไม่ใจร้ายกับตัวเองเกินไป อย่างน้อยก็ควรเจียดเวลาให้ตัวเองได้ทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น ไปทำผม ทำเล็บ ดินเนอร์กับเพื่อนหรือครอบครัว
4.ไล่ตามแพชชั่น เปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำในสิ่งที่หลงใหลและมีแพชชั่น นอกจากจะทำให้คุณได้พบกับผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์จนคุณเองยังแปลกใจ ยังเป็นหนึ่งในวิธีปลดล็อกความเครียดที่หลายคนมองผ่าน ถามตัวเองดูซิว่าคุณมีแพชชั่นในสิ่งไหน แล้วเปิดโอกาสให้หัวใจและสมองนำทางไป ความเครียดที่แบกอยู่เต็มสองบ่าค่อยๆ สลายไปอย่างไม่น่าเชื่อ
5.เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเอง ลองซื้อตั๋วคอนเสิร์ตหรือการแสดงที่ชอบ จองโรงแรมสุดคูลที่คุณหมายตามานานเพื่อเก็บกกระเป๋าออกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ชีวิตดูสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่าโลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ และน่าอยู่กว่าที่คิด หรือ ถ้าให้ง่ายและสะดวกกว่านั้น อาจเริ่มจากกิจวัตรประจำวัน เช่น แทนที่จะวิ่งบนลู่ในยิม ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปเข้าคลาสชกมวย หรือ ลองทำกิจกรรมที่ไม่เคยทำมาก่อน หรือ เคยทำเมื่อนานมาแล้ว เพื่อสร้างความตื่นเต้นและสีสันให้กับชีวิตที่เรียบง่ายอีกครั้ง แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่ได้สร้างความสุขทางใจเฉพาะโมเมนต์นั้น แต่ยังส่งผลระยะยาว ให้จิตใจคุณผ่องใสและชื่นบานไปตลอดสัปดาห์
6.เตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์ถัดไป หนึ่งในสาเหตุของความเครียดเกิดจากการที่ไม่สามารถจัดการสิ่งต่างๆ อย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นถ้าไม่อยากปวดหัวกับการเผชิญหน้าวันจันทร์ที่แสนอลหม่าน คุณอาจสละเวลา 30 นาทีของวันหยุดสุดสัปดาห์เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการวางแผนสำหรับภาระหน้าที่การงานที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า อย่างน้อยการที่ได้เตรียมตัวให้พร้อมก็เหมือนการที่คุณได้นำหน้าคนอื่นไปหนึ่งก้าว
ทุกความสำเร็จ ล้วนต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรก ไม่สำคัญว่าคุณจะเป็นคนที่จัดการกับความเครียดได้เก่งที่สุดหรือเปล่า แต่อยู่ที่ว่าวันนี้คุณได้เริ่มต้นลงมือทำหรือยัง?…
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
10 “ที่เที่ยววันเด็ก” ในกรุงเทพฯ รับปีหมู 2019 ห้ามพลาด!
แนะนำสถานที่จัดงานวันเด็ก ประจำปี 2562 ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในส่วนของภาครัฐที่จัดงานวันเด็กได้คึกคักสนุกสนานในทุกๆ ปี สำหรับปีนี้ก็เช่นกัน คุณหนูทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อม
1. ทำเนียบรัฐบาล
ไม่ว่าวันเด็กในปีไหนๆ เด็กน้อยทั้งหลายก็ต้องอยากไปเที่ยวชม “ทำเนียบรัฐบาล” สักครั้งในชีวิต เพราะจะได้ไปเห็นสถานที่ทำงานจริงของนายกรัฐมนตรี เด็กๆ คนไหนที่มีความฝันว่า เมื่อโตขึ้น…อยากเป็นนายกฯ ต้องห้ามพลาดไปชมของจริง แถมยังจะเปิดโอกาสให้น้องๆ หนูๆ ได้ลองนั่งเก้าอี้นายกฯ อีกด้วย แถมยังมีกิจกรรมสนุกต่างๆ มากมาย
ในปี 2562 ทางทำเนียบรัฐบาล ได้เตรียมกิจกรรมและของรางวัลมาแจกมากมายเหมือนเช่นทุกปี โดยเด็ก ๆ จะได้รับของแจกเป็นอุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ทั้งสมุด ดินสอ และไม้บรรทัด ซึ่งมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ได้นำมามอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไว้สำหรับเป็นของขวัญแจกให้กับเด็กและเยาวชนรวม 120,000 ชิ้น
2. กองบัญชาการกองทัพไทย
ถัดมาอยากจะชวนไปเที่ยวงานวันเด็ก จัดโดยกองบัญชาการกองทัพไทย ชวนน้องๆ เข้าร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 ปีนี้จัดขึ้นในตอน “ตะลุยกองทัพไทย” ภายในงานพบกับพี่ๆ นักเรียนเตรียมทหารและนักเรียนพยาบาล 3 เหล่าทัพ อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ กองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
พบกับสถานีการเรียนรู้ และกิจกรรมที่น่าสนใจภายใต้แนวคิด Edutainment (ความรู้คู่บันเทิง) โดยแบ่งเป็น 4 พื้นที่ ประกอบด้วย
– ฐานเรียนรู้ 1 “ศาสตร์แห่งองค์พระราชา ตอน สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์”
– ฐานเรียนรู้ 2 “ทางไปสู่เกียรติศักดิ์ ตอน สุภาพบุรุษจักรดาว”
– ฐานเรียนรู้ 3 “มหัศจรรย์พลังสามัคคี”
– ฐานเรียนรู้ 4 “หนูน้อยนักพัฒนา”
จัดเต็มกับการแสดงยุทโธปกรณ์ เช่น รถถัง VT – 4, รถถัง OPLOT, ยานเกราะล้อยาง (BTR 3E1), รถยนต์บรรทุก (ฮัมวี่) ติดตั้งอาวุธ เป็นต้น รวมทั้งการแสดงท่าอาวุธประกอบดนตรี ขบวนพาเหรด พร้อมของขวัญของรางวัลมากมาย อิ่มไม่อั้นกับการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มฟรีตลอดงาน
3. พิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย
สภากาชาดไทยเชิญชวนเด็กและเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 เวลา 08.30-15.30 น. ณ พิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ เพื่อให้เด็ก เยาวชน และผู้ปกครองได้เรียนรู้และทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบต่างๆ จะได้รับความรู้ ความสนุกสนาน ความบันเทิง อีกทั้งสอดแทรกความรู้และภารกิจหลักของสภากาชาดไทย รวมทั้งปลูกฝังการมีจิตอาสา
กิจกรรมภายในงาน ได้แก่ กิจกรรม Like & Share, “เรียนรู้…สนุก KID” กับพิพิธภัณฑ์สภากาชาดไทย, กิจกรรม Paper dolls, เกมบันไดงู, กิจกรรมให้ความรู้เรื่องเครื่องหมายกาชาด, การช่วยชีวิตเบื้องต้น, เที่ยวชมสวนงู สถานเสาวภา นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบันเทิง มีบริการอาหารและเครื่องดื่ม ฟรีตลอดงาน สอบถามเพิ่มเติม โทร.1664
4. พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ปทุมธานี
วันเด็กแห่งชาติ 12 มกราคม 2562 พบกับงานวันเด็กแห่งชาติ เมล็ดพันธุ์ของพระราชา ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ เรียนรู้ทักษะเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงผ่านกิจกรรม Walk Rally วิถีเกษตร เช่น เพาะพันธุ์กล้าข้าว ตามล่าหาเมล็ดพันธุ์ นาปาเป้า ประดิษฐ์ว่าว และกิจกรรมเกษตรน่ารู้อื่นๆ อีกมากมาย พร้อมแลกรับของรางวัล สนุกตื่นเต้นกับภาพยนตร์แอนิเมชั่น 3 มิติ เป็นต้น
5. ท้องฟ้าจำลอง
วันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2562 ชวนเที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ.2562 ภายใต้แนวคิด Food Science for Kids by “SCE” เวลา 08.30-16.30 น. ณ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) บูรณาการความรู้วิชาเคมีกับวิทยาศาสตร์อาหาร ในรูปแบบที่มีความสนุกสนาน ที่เด็กๆ สามารถเรียนรู้จากการทดลองด้วยตนเอง
เสริมจินตนาการด้านดาราศาสตร์กับการแสดงท้องฟ้าจำลอง ด้วยภาพยนตร์แอนิเมชั่น เรื่อง “โคโคมง ผจญภัยในอวกาศ (COCOMONG A Space Adventure)” สนุกเรียนรู้กับกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากหน่วยงานภาคีเครือข่ายหลายแห่ง และกิจกรรมเวทีกลาง เข้าเที่ยวชมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (ผู้ใหญ่เสียค่าใช้จ่ายในอัตราปกติ)
6. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
วันที่ 12 มกราคม 2562 ชวนเที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติ “วันเด็กศิลป์ @bacc2562” ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เวลา 10.00 – 16.00 น. มีกิจกรรมสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบให้น้องๆ มาสนุกกัน ปีนี้นำเสนอตอน “คิด(ส์) หลาก หลาย : Everybody is Unique” ให้ศิลปะเป็นอีกหนึ่งช่องทางเรียนรู้
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความหลากหลายของผู้คนและสังคม ทั้งเรื่องวัฒนธรรม ภาษา ศาสนา เชื้อชาติ อาหาร รวมทั้งความหลากหลายทางความคิด ผ่านกิจกรรมที่เน้นการลงมือทำและมีส่วนร่วม จำนวนกว่า 10 ฐานด้วยกัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ไฮไลต์ภายในงาน ได้แก่ การจัดแสดงผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดังจากทั่วโลก กว่า 40 ชิ้น จากนิทรรศการ Bangkok Art Biennale 2018 ที่นำเสนอเรื่องราวความสุขผ่านมุมมอง วิธีคิด และวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีฐานเล่นเกมตั้งอยู่ทุกชั้น ตั้งแต่ชั้น L จนถึงชั้น 9 มีเวทีเล่นเกมแจกของรางวัลบริเวณมุมสามเหลี่ยม ที่ชั้น 1 เป็นต้น
7. พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร จตุจักร
วันที่ 12 มกราคม 2562 ชวนน้องๆ หนูๆ เข้าร่วมกิจกรรมวันเด็ก ปี 2562 พบกับกิจกรรมและของรางวัลมากมาย ร่วมเล่นเกมตอบปัญหาชิงรางวัล ลุ้นรับโชคกับ Lucky Draw และร่วมชมการแสดงความสามารถของเด็กๆ ได้ที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร) เข้าเที่ยวได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
8. บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์
วันที่ 9-10 มกราคม 2562 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กำหนดจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 ในชื่องาน “ตะลุยวันเด็ก! บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร ปี’62” ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี
มหกรรมแห่งความสนุกของน้องๆ เยาวชน ที่ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ในดินแดนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านกิจกรรมกิจกรรมวิทยาศาสตร์มากมาย ตั้งแต่เวลา 09.00 – 15.30 น.
ภายในงาน พบกิจกรรมสนุกๆ มากมาย เช่น ธัญพืชอะตอมสำหรับนก, โรงงานระบบย่อยอาหาร, รถพลังงานลม, “แมง” หรือ “แมลง” , ใบไม้จอมเขมือบ, ไม้ดอกไม้ประดับในบ้าน, หุ่นยนต์บุกเมือง, บูมเมอแรง, EV Racing, Bioeconomic Decryption, วิทยาศาสตร์ในป๊อปคอร์นและสลัด, พลาสติกแปลงร่าง, คัดแยกขยะ เป็นต้น
9. มิวเซียมสยาม
วันที่ 12 มกราคม 2562 ชวนคุณหนูๆ และครอบครัว มาร่วมถอดรหัสความเป็นไทย ผ่านเมนูอาหารไทยยอดนิยม ในกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ตอน “ผจญภัยในห้องครัว” ภายในงานจะพบกับเกมสนุกๆ มากมาย เช่น เกมจาก 5 เมนูอาหารไทยในห้องไทยชิม ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเรื่องอาหารไทยเมนูต่างๆ ประกอบด้วยเมนู ต้มยำกุ้ง ส้มตำ แกงเขียวหวาน บัวลอย และไข่เจียว
โดยกุ๊กตัวน้อยจะต้องช่วยกันออกตามหาวัตถุดิบจากทั้ง 5 เมนู โดยจะจำลองพื้นที่ด้านหน้าอาคารนิทรรศการให้เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบ ในรูปแบบฐาน ดังนี้ ฐานฟาร์ม, ฐานตลาด, ฐานสวนผัก, ฐานสวนผลไม้
นอกจากนี้ยังมีเกมสำหรับเด็กที่ไม่ต้องแข่งขันกัน เช่น จิ๊กซอว์ลูกเต๋าเรื่องข้าวเรื่องไผ่, เกมเลื่อนภาพอาหาร, ระบายสีขนมไทย, ศิลปะบนจานอาหาร, ทำการ์ดจากเมล็ดข้าว, ตกแต่งที่คั่นหนังสือ และกิจกรรมตอบคำถามในห้องนิทรรศการ พร้อมของรางวัลพิเศษมากมาย สามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.
10. สวนสนุก Dream World
วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 ชวนเด็กมาเที่ยวสวนสนุกดรีมเวิลด์ เพื่อฉลองวันเด็กแห่งชาติ 2562 กับโปรโมชั่นสุดพิเศษ เด็กสูงไม่เกิน 145 ซม. จ่ายค่าบัตรผ่านประตู เพียง 80 บาทเท่านั้น (จากปกติ 200 บาท) พิเศษสำหรับเด็กๆ ที่อยากไปเที่ยวสนุกกับเมืองหิมะ จ่ายค่าตั๋วเพิ่มเพียง 99 บาท (จากปกติ 130 บาท)
และสำหรับน้องๆ หนูๆ ที่มีวันเกิดตรงกับวันที่ 12 มกราคม ให้เตรียมบัตรประชาชนหรือสูติบัตร มาแสดงที่เคาน์เตอร์ซื้อตั๋ว รับทันทีบัตรดรีมเวิลด์ วีซ่า ฟรี! ให้ไปสนุกกับเครื่องเล่นไม่จำกัดรอบตลอดทั้งวัน *หมายเหตุ ผู้ที่จะใช้สิทธิ์วันเกิดลงทะเบียนล่วงหน้า คลิก ที่นี่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
เวลา “ไม่อยู่ออฟฟิศ” หรือ “ไม่อยู่ที่โต๊ะ” เราจะพูดเป็นภาษาอังกฤษว่าอย่างไรดีนะ
สำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ทำงานแล้ว วันนี้อาจมีบ้างที่เพื่อนโต๊ะข้างๆ เราหรือนายเรายังไม่กลับมาจากวันหยุดกันนะคะ
หากมีใครถามหาเค้าแล้วเราอยากจะบอกว่า “เค้าไม่อยู่น่ะค่ะ/ครับ” เราจะพูดว่าอะไรดีนะ
จะว่าไปก็มีพูดได้หลายแบบนะคะ แต่ถ้าแนะนำแบบทั่วไปใช้ได้ทุกกรณีก็ Out of office ค่ะ เช่น
She is out of office.
He is out of office.
การบอกว่า out of office เนี่ยจะหมายถึง ยังไม่กลับจากพักร้อน ไม่อยู่ที่โต๊ะ (แบบเดินไปไหนไม่รู้ หรือไปประชุม) หรือเหตุผลอะไรก็ได้ที่เราเห็นว่าไม่จำเป็นต้องบอกให้คนที่ถาม แต่ก็เป็นอันรู้กันว่า “ไม่อยู่จ้า”
ส่วนแบบอื่นถ้าจะใช้ก็ลองประโยคแบบนี้นะคะ
She is away from her desk. เค้าไม่อยู่ที่โต๊ะน่ะ
He is on leave. เค้าลาวันนี้น่ะ
He is on sick leave today. วันนี้เค้าลาป่วยนะคะ
เป็นต้น
ออกเสียง: out of office – เอ้า-ถอฟ-ฟ้อฟ-ฝิซ
Tip: คำว่า “office” นี่ใช้ได้โดยไม่ต้องเคอะเขินในทุกกรณีไม่ว่าคนๆ นั้นจะมีห้องทำงานสวยๆ หรือเป็นโต๊ะทำงานทั่วไปก็ได้นะคะ ฝรั่งถือรวมว่าไม่อยู่ office จ้าา
พกไว้ได้ใช้แน่นอน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก OH.FAB.English
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 9/1/
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 19,500.00 | 19,450.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 20,050.00 | 19,101.60 | 1,260.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 19,798.96 | 1,306.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 17,191.44 | 1,134.00 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 15,281.28 | 1,008.00 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,595.72 | 567.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,685.56 | 441.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 9/1/
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 | 26.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 | 26.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 23.74 | 23.74 | 23.74 | 23.74 | 23.74 | – | 23.74 | 23.74 | 23.74 | 23.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.54 | 19.54 | – | – | – | – | – | 19.54 | – | – |
เบนซิน 95 | 34.16 | – | – | – | 34.61 | – | 34.66 | 34.46 | – | 34.46 |
ดีเซล | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 29.29 | 29.56 | 29.75 | 29.75 | 29.75 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.06 | 16.06 | – | – | – | – | – | – | – | – |