สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2562

ส่องคาแร็กเตอร์คอนโดฯ รีเซล ทำเลไหนเหมาะกับใคร ทำเลไหนฮอต

ส่องคาแร็กเตอร์คอนโดฯ รีเซล ทำเลไหนเหมาะกับใคร ทำเลไหนฮอต

คอนโดมิเนียมรีเซลในกรุงเทพฯ หลาย ๆ ทำเล เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นจากปัจจัยสำคัญคือ ราคาที่ถูกกว่าโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ ซึ่งตอบโจทย์กับผู้ซื้อกลุ่ม Real Demand หรือกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง นอกจากจะมีราคาที่ถูกกว่าแล้ว ยังเป็นโครงการสร้างแล้วเสร็จ ผู้ซื้อได้เห็นห้องจริง และได้เห็นรูปแบบโครงการได้โดยไม่ต้องนึกภาพเองหรือดูจากโบรชัวร์เท่านั้น รวมทั้งยังสามารถเข้าอยู่หรือลงทุนได้ทันทีด้วย 

7 ทำเล 7 คาแร็กเตอร์คอนโดฯ รีเซล

ทำเลที่โครงการคอนโดมิเนียมรีเซลได้รับความสนใจหากพิจารณาเฉพาะคอนโดมิเนียมทำเลศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ หรือ CBD และคอนโดมิเนียมแนวรถไฟฟ้า จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 7 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย

  • พหลโยธิน อารีย์ ลาดพร้าว ทำเลที่ Young Achiever ให้ความสนใจเลือกอยู่อาศัยมากที่สุด เนื่องจากยังเป็นทำเลที่ราคาคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมกลางเมืองอื่น ๆ
  • อโศก พระราม 9 รัชดา New CBD ใหม่ ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่ไฟแรง เน้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า รวมถึงเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยหรือกลุ่ม Expat ชาวเอเชียสนใจเป็นพิเศษ
  • เพลินจิต ชิดลม ทำเลที่อยู่อาศัยสุดหรู เป็นที่ชื่นชอบของนักธุรกิจ ระดับผู้บริหารระดับสูงหรือ CEO
  • สุขุมวิท เป็นทำเลอันดับต้น ๆ ที่ Expat หลากหลายเชื้อชาติเลือกเป็นที่อยู่อาศัย ทำให้ทำเลสุขุมวิทเป็นย่าน Cosmopolitan ตัวจริง
  • ริมน้ำ กลุ่มคนที่สร้างสุนทรียภาพในการอยู่อาศัยด้วยการชมวิวริมน้ำในทุกวัน
  • สีลม สาทร ย่านเศรษฐกิจหลักของกรุงเทพฯ มาหลาย 10 ปี เป็นศูนย์รวมอาคารสำนักงานชั้นนำและยังเป็นย่านที่มีสถาบันการศึกษามากมายทำให้ เป็นอีกทำเลที่เป็นที่นิยมของกลุ่มครอบครัวและพนักงานออฟฟิศระดับหัวหน้างานหรือ Senior และระดับ CEO
  • พญาไท ราชเทวี ทำเลที่มีสถาบันการศึกษา และสถานที่ราชการกระจายอยู่บริเวณโดยรอบ ทำให้เป็นอีกทำเลที่มีการหมุนเวียนของกลุ่มนักศึกษาและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

คอนโดฯ สีลม-สาทร ทำเลยอดนิยมของคนทำงาน

5 ทำเลฮอตที่คนหาคอนโดฯ รีเซลมากที่สุด

ส่วนทำเลฮอตที่มีผู้คนถามหาคอนโดมิเนียมรีเซลมากที่สุดจากข้อมูลของบริษัท บางกอกซิตี้สมาร์ท จำกัด ในเครือ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในทำเลพหลโยธิน-ลาดพร้าว, อโศก-พระราม 9, สุขุมวิทตอนกลาง, สุขุมวิทตอนปลาย และเพลินจิต-ชิดลม ซึ่งแต่ละทำเลก็มีจุดเด่นต่างกัน ดังนี้

  • พหลโยธิน-ลาดพร้าว เป็นทำเลกรุงเทพฯ ทางตอนเหนือที่มีการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต โดยจะเปิดให้บริการสถานีห้าแยกลาดพร้าวในช่วงมีนาคมที่จะถึงนี้เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการกันก่อน ซึ่งสถานีนี้จะอยู่บริเวณเซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว
  • อโศก-พระราม 9 เป็นทำเลที่นิยมของชาวต่างชาติโดยมีสัดส่วนของชาวจีนมากที่สุด โดยเข้ามาเป็นเจ้าของทั้งซื้อเพื่อลงทุน หรือเพื่อการอยู่อาศัยเอง รวมถึงยังเป็นทำเลที่พนักงานออฟฟิศที่มีที่ทำงานอยู่ในแนวรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ให้ความสนใจด้วย แถมยังเดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้า BTS และรถไฟแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ทำให้ทำเลอโศกนี้ดึงดูดการอยู่อาศัย และสร้าง Work Life Balance ได้เป็นอย่างดี
  • สุขุมวิทตอนกลาง เป็นที่สุดของทำเลกลางเมืองที่หลายคนต้องการอยู่อาศัย และเป็นทำเลที่ไว้วางใจของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและยุโรป เนื่องจากเป็นย่านไลฟ์สไตล์ของเมือง มีศูนย์การค้า เช่น ดิเอ็มดิสทริค เรนฮิลล์ และดับเบิลยู ดิสทริค มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกินดื่มหลากหลายสไตล์ มีการเดินทางที่สะดวกทั้งรถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และหากเลือกคอนโดมิเนียมในทำเลสุขุมวิทเพื่อลงทุนปล่อยเช่าจะเป็นทำเลที่สามารถทำผลตอบแทนได้สูง ทำให้มีคอนโดมิเนียมจำนวนมากในทำเลนี้
  • สุขุมวิทตอนปลาย ขยับออกจากความวุ่นวายภายในเมือง มาสู่สุขุมวิทตอนปลาย ซึ่งมีความเป็นส่วนตัวแม้จะอยู่ใกล้เมือง สะดวกในการเดินทาง
  • เพลินจิต-ชิดลม ย่านที่เป็นนิยามของคำว่า Ultimate Luxury ที่แท้จริง จากการเป็นที่ตั้งของสถานทูต และการรวมตัวกันของการพัฒนาระดับ Hi-end ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า เช่น เซ็นทรัลเอ็มบาสซี โรงแรมชื่อดัง อาคารสำนักงานเกรดเอ คอนโดมิเนียมในย่านนี้จึงควรค่าแก่การครอบครอง และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผู้ถือครองได้ไม่รู้จบ โดยโครงการส่วนใหญ่ในย่านนี้ราคาสูงเกือบ 200,000 บาทต่อตารางเมตร

อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาที่ต่างกันในแต่ละทำเล ทำให้ผู้ซื้ออาจไม่รู้ราคาคอนโดมิเนียมรีเซลจริง ๆ ในทำเลนั้นได้ ทำให้การซื้อขายในแต่ละครั้ง ผู้ขายและผู้ซื้ออาจไม่ได้ราคากลางที่เหมาะสมกับโครงการ หรือทำเลนั้น ๆ ซึ่งผู้ซื้ออาจจะต้องพึ่งตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการหายูนิตที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า พร้อมราคาและดีลพิเศษอื่น ๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก ddproperty.com


พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยอุปสงค์คอนโดกรุงเทพฯชั้นในโต โซนตากอากาศภูเก็ต-หัวหิน ยังไปได้

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่าตลาดคอนโดมิเนียมยังมีการเติบโตจากความต้องการซื้ออยู่อาศัยจริงและเพื่อลงทุน โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน พบตัวเลข 4 ปีย้อนหลัง โซนเพลินจิต-ชิดลม อุปสงค์โตเกือบ 80% อุปทานโตเกือบ 20% โซนสุขุมวิทอุปสงค์โตกว่า 50% อุปทานโตกว่า 30%, พญาไท-ราชเทวี อุปสงค์โต 570% อุปทานโต 240% นอกจากนี้คอนโดโซนเมืองตากอากาศอย่างภูเก็ต-หัวหิน ยังเติบโตได้จากปัจจัยขับเคลื่อนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ คาดช่วงต้นปี 2562 คอนโดฯ รีเซลคึกคัก เหตุผู้ซื้อเร่งตัดสินใจก่อนบังคับใช้มาตรการ LTV เนื่องจากราคาต่ำกว่าโครงการเปิดใหม่และเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการสำรวจข้อมูลฝ่ายวิจัยและพัฒนากลยุทธ์ ของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าตลาดที่อยู่อาศัยในเขตศูนย์กลางธุรกิจและโซนใกล้เคียงที่เป็นทำเลแนวรถไฟฟ้า ยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความนิยม อีกทั้งการขยายตัวของเมือง ประกอบกับระบบการคมนาคมที่ครอบคลุมมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยขยายตัวไปหลายพื้นที่ อย่างไรก็ตามคอนโดมิเนียมยังถือเป็นที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ส่งผลให้ที่ดินตามแนวรถไฟฟ้าและส่วนต่อขยายปรับราคาเพิ่มขึ้นและกระทบต่อราคาของโครงการใหม่ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น นอกจากปัจจัยด้านระบบคมนาคมแล้ว พื้นที่แนวรถไฟฟ้ายังมีศักยภาพของพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะตัวเช่นเป็นศูนย์รวมแหล่งการค้า คอมมูนิตี้มอลล์ แหล่งงาน และอาคาร ก็เป็นหนึ่งในอีกปัจจัยที่ทำให้ความต้องการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น
จากการเก็บข้อมูลย้อนหลัง 4 ปี (ปี 2558 – 2561) พบว่าทำเลสุขุมวิท มีอุปสงค์เติบโตเฉลี่ยกว่า 50% ขณะที่อุปทานเติบโตเพียง 30% ขณะที่โซนพญาไท-ราชเทวี อุปสงค์เติบโตเฉลี่ยกว่า 570% อุปทานเติบโต 240% เนื่องจากมีจำนวนโครงการไม่มากและบางปีไม่มีการเสนอขายใหม่ เมื่อมีโครงการเปิดใหม่ความต้องการจึงมีตัวเลขการเติบโตที่ก้าวกระโดด  ด้านโซนเพลินจิต-ชิดลม อุปสงค์เติบโตเฉลี่ย 80% อุปทานเติบโต 20% จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าอุปสงค์เติบโตแซงหน้าอุปทานค่อนข้างมาก ปัจจัยหลักมาจากพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในและโซน CBD ในปัจจุบันเริ่มมีพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการใหม่อย่างจำกัด แม้จะมีความต้องการจากผู้ซื้อสูงเพียงใดแต่การพัฒนาโครงการใหม่ทำได้ยาก ดังนั้นคอนโดมิเนียมจากโครงการที่สร้างเสร็จแล้วและถูกนำกลับมาขายใหม่ (รีเซล) จึงน่าจับตามอง เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลกลางเมืองได้ โดยโครงการในเขตพญาไท อโศก และสุขุมวิท พบว่าราคาโครงการใหม่สูงกว่าราคาโครงการรีเซลเกือบ 10% ด้วยศักยภาพของพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางความเจริญ แหล่งงาน และร้านอาหาร อีกทั้งด้วยข้อจำกัดของพื้นที่ ทำให้การพัฒนาโครงการใหม่ๆ เริ่มลดลง ส่งผลให้ระดับราคารีเซลยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้นราคาระหว่างโครงการใหม่กับโครงการรีเซลจึงมีความแตกต่างน้อยกว่าพื้นที่รอบนอก
ปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนให้คอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพฯชั้นในได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลาย มาจากผลตอบแทนรวมจากการลงทุน ทั้งผลตอบแทนการขายต่อ (Capital Gain) และ ผลตอบแทนจากค่าเช่า (Rental Yield) ที่อยู่ในระดับสูง โดยโครงการที่ได้รับผลตอบแทนในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนรวม ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการในพื้นที่สุขุมวิทและสุขุมวิทรอบนอกที่มีผลตอบแทนรวมอยู่ที่ 10% ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าโครงการที่เพิ่งเปิดใหม่ในช่วง 2-3 ปี มี Capital Gain ลดลง จึงอาจคาดการณ์ได้ว่าระดับราคาของโครงการใหม่ๆ มีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปี หากนักลงทุนต้องการได้ผลกำไรจากส่วนต่างของราคาอาจต้องใช้เวลาในการถือครองอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป โดยผลตอบแทนจากค่าเช่าที่ 4-6% แต่จากราคาที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจะทำให้ผลตอบแทนโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ การขยายตัวของความเจริญและโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคมนาคมจากภาครัฐให้กระจายไปยังเมืองท่องเที่ยวหลักก็เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมเช่นกัน โดยเฉพาะโซนภูเก็ตที่มีโครงการการพัฒนาสนามบินภูเก็ต เฟส 3, โครงการภูเก็ต สมาร์ทซิตี้, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม รองรับการขยายตัวของเมืองภูเก็ตในอนาคต ราคาเสนอขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่ภูเก็ตจึงมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใน 3 ปี มีการปรับเพิ่มขึ้น 12% และโซนหัวหิน ที่มีโครงการพัฒนาการเชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพฯ ทางรถไฟความเร็วสูงและโครงการทางพิเศษ รวมทั้งศักยภาพความพร้อมด้านการอยู่อาศัยของตัวพื้นที่ ส่งผลให้อุปสงค์ด้านอสังหาริมทรัพย์เติบโตต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่หัวหินในภาพรวม ราคาที่ดินรอบบัญชี 2559 – 2562 เทียบกับ 2555 – 2558 เพิ่มขึ้นเกือบ 30% ทำให้ตลาดรีเซลช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา พบว่าราคาเติบโตต่อเนื่อง มีผลตอบแทนการขายต่อสูงถึง 60% ส่วนการปล่อยเช่าก็ยังสร้างผลตอบแทนสูงราว 4-5% ต่อปี ตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวตากอากาศจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
“ประเมินได้ว่าช่วงต้นปี 2562 ก่อนมาตรการลดลดวงเงินสินเชื่อต่อมูลค่าที่อยู่อาศัยหรือ LTV (Loan to Value) ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนเมษายนปีนี้ โครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วและรีเซลจะกลับมาคึกคัก เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง สามารถเห็นรูปแบบโครงการ สภาพห้อง และพร้อมเข้าอยู่ หรือหากจะลงทุนปล่อยเช่าต่อก็สามารถรับผลตอบแทนได้เลยไม่ต้องรอให้โครงการแล้วเสร็จ ผนวกกับขณะนี้ผู้ประกอบการมีการทำโปรโมชั่นพิเศษออกมากอย่างต่อเนื่อง ฉะนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ก่อนช่วงเวลาบังคับใช้มาตรการลด LTV และจะได้ประโยชน์จากราคาที่ขยับเพิ่มขึ้นในอนาคต” นายอนุกูล กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก thinkofliving.com

สศช.สั่งเกาะติดพฤติกรรมธุรกิจรายใหญ่เอาเปรียบรายย่อยผูกขาดการค้า

สศช.สั่งเกาะติดพฤติกรรมธุรกิจรายใหญ่เอาเปรียบรายย่อยผูกขาดการค้า

สภาพัฒน์ฯสั่งสำนักงานแข่งขันทางการค้า เกาะติดพฤติกรรมธุรกิจรายใหญ่เอาเปรียบรายย่อย

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่แยกตัวออกจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ มาเป็นองค์กรอิสระเริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2562 ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบกรอบวงเงินตามคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ของสำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า วงเงินรวม 404 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 และสำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ต่อไป

ขณะที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้มีความเห็นในที่ประชุม ครม.ว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าจะต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกกับการกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้าที่มีผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและรายย่อย ติดตามพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจที่มีแนวโน้มจะก่อให้เกิดการผูกขาด การส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาค สะดวก และรวดเร็ว เพื่อสนับสนุนให้เกิดการแข่งขันทางการค้าที่เสรีและเป็นธรรม ส่งเสริมบรรยากาศการค้าและการลงทุน

ขณะที่ด้านกระทรวงการคลัง ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าต้องให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับดูแลการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับยุทธศาสตร์การกำกับการแข่งขันทางการค้า ในปี 2563-2564 มี 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.กำกับดูแลโครงสร้างตลาดและการประกอบธุรกิจให้มีการแข่งขันเสรีและเป็นธรรม ใช้งบประมาณ 30.16 ล้านบาท 2.เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับมาตรฐานการบังคับใช้กฎหมายให้เป็นสากล 18.06 ล้านบาท 3.ส่งเสริมการสร้างเครือข่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าทั้งในและนอกประเทศ 12.62 ล้านบาท 4.ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการประกอบธุรกิจและผู้เกี่ยวข้องมีความรู้ความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายแข่งขันทางการค้า 95.49 ล้านบาท และ 5.สร้างระบบการบริหารจัดการและพัฒนาบุคลากร 78.10 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าที่ตั้งขึ้นภายใต้ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ซึ่งปรับปรุงจากกฎหมายปี 2542 สามารถสรรหาคณะกรรมการครบ 7 คน เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2561 ซึ่งความจำเป็นในการแก้ไขกฎหมายและแยกตัวออกมานี้ เนื่องจากกฎหมายเดิมไม่สอดคล้องกับธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ขาดเครื่องมือในการดูแลให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและเป็นสากล รวมถึงการถูกแทรกแซงซึ่งกระทบต่อประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 12/02/2562

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง ราคาขาย/บาท ราคารับซื้อ/บาท ราคารับซื้อ/กรัม
ทองคำแท่ง 96.5% 19,450.00 19,350.00 n/a
ทองรูปพรรณ 96.5% 19,950.00 18,995.48 1,253.00
ทองรูปพรรณ 99.99% n/a 19,677.68 1,298.00
ทองรูปพรรณ 90% n/a 17,095.93 1,127.70
ทองรูปพรรณ 80% n/a 15,196.38 1,002.40
ทองรูปพรรณ 50% n/a 8,550.24 564.00
ทองรูปพรรณ 40% n/a 6,655.24 439.00

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 12/02/2562

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 26.75 26.75 26.75 26.75 26.75 26.75 26.75 26.75 26.75 26.75
แก๊สโซฮอล์ 91 26.48 26.48 26.48 26.48 26.48 26.48 26.48 26.48 26.48 26.48
แก๊สโซฮอล์ E20 23.74 23.74 24.14 23.74 23.74 23.74 23.74 23.74 23.74
แก๊สโซฮอล์ E85 19.54 19.54 19.54
เบนซิน 95 34.16 34.61 34.66 34.46 34.46
ดีเซล 25.09 25.09 25.09 25.09 25.09 25.09 25.09 25.09 25.09 25.09
ดีเซลพรีเมี่ยม 28.69 28.96 30.15 30.15 29.15
แก๊ส NGV 16.07 16.07
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า