สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 13 พฤษภาคม 2562

ที่ห้าแยกลาดพร้าวพุ่ง10 เท่าเฉียดตารางวาละ 1.5 ล้าน

ห้าแยกลาดพร้าวปะทุเดือด บีทีเอสเดินรถ “หมอชิต-เซ็นทรัล” 1 สถานี สิงหาคมนี้ เอสซีสร้างปรากฏ การณ์ซื้อที่แพงสุด ตร.ว.ละ 1.45 ล้านบาท เทียบ 10 ปีก่อนแสนเดียวต่อตร.ว. ดันที่ดินย่านพหลโยธินพุ่งยกแผง

บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SC) สร้างปรากฏการณ์ปั่นราคาที่ดินทำเลห้าแยกลาดพร้าว ทะลุ 1.45 ล้านบาทต่อตารางวาจากการชิงเดือดซื้อตึกแถว, ตลาดสด, ร้านทองเกือบ 2 ไร่หัวมุมถนนลาดพร้าว-พหลโยธิน ติด “ยูเนี่ยนมอลล์” เยื้องห้างยักษ์เซ็นทรัลลาดพร้าว ทำให้ย่านนี้กลายเป็นทำเลทองคำฝังเพชรสร้างความมั่งคั่งในผู้ถือครองไม่ต่างจาก“แยกอโศก” ช่วงไม่กี่ปีก่อน ด้วยทำเลเด่น เป็นจุดตัดของรถไฟฟ้า 2 สายสำคัญบีทีเอส-เอ็มอาร์ที จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ราคาที่ดินทำเลนี้จะวิ่งไปแตะตารางวาละ 2 ล้านบาท ในอนาคตอันใกล้ เมื่อรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) จะเปิดให้บริการเดินรถ ช่วงแรก 1 สถานีจากหมอชิตไปเซ็นทรัลภายในเดือนสิงหาคม 2562 และขยับเปิดอีกระลอกปลายปีนี้ ถึงมหาวิทยาลัยเกษตร ศาสตร์

นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ อุปนายกและเลขา ธิการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ระบุว่าทำเลห้าแยกลาดพร้าว บริเวณ อีควิน็อกซ์) คอนโดมิเนียมหรู ของค่ายเมเจอร์ เดิมเป็นร้านจิตรโภชนาใกล้กันมีที่ดินของกลุ่มบีทีเอสกรุ๊ป บริเวณ สถานีบีทีเอส หมอชิต เมื่อ 10 ปีก่อนราคาเพียง 1-1.5แสนบาทต่อตารางวา ปัจจุบันแตะ 1 ล้านบาทต่อตารางวา เช่นเดียวกับฝั่งห้าแยกลาดพร้าว โซนห้าง เซ็นทรัล เรียกว่า 10 ปีขยับขึ้น 10 เท่า

นายเลิศมงคลกล่าวต่อว่า เมื่อมีส่วนต่อขยายสายเขียวเหนือ ทำให้เส้นทางนี้มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะที่ดินติดสถานี ราคาจะขยับ 100% ต่อปี ขณะแยกรัชโยธิน ค่ายออริจิ้น ขึ้นโครงการไนท์บริดจ์ ซื้อที่ดินในราคา 7 แสนบาทต่อตารางวาแต่ปัจจุบัน ใกล้ 1 ล้านบาทต่อตารางวา เช่นเดียวกับ นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โมเดอร์น พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแตนท์ จำกัด มองว่ารถไฟฟ้าและผังเมือง ทำให้ราคาที่ดินขยับสูง โดยเฉพาะ ผังเมืองกทม.ใหม่ ปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

 ส่วนราคาที่ดินฝั่งวิภาวดีรังสิต ติดเซนต์จอห์นเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของ โครงการเดอะเซนต์ เรสิเดนเซส พฤกษาซื้อที่ดิน ขึ้นคอนโดมิเนียมในราคา 5-6 แสนบาทต่อตารางวา เพียงชั่วพริบตาเดียวราคาที่ดินทะยาน แตะ 1 ล้านบาทต่อตารางวาในปัจจุบัน นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจพฤกษา อธิบายว่า ทำเลห้าแยกลาดพร้าวมีศักยภาพสูง เหมาะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม เดินทางสะดวก ทั้งรถไฟฟ้าและ ทางถนน สำหรับพฤกษา ซื้อที่ดินได้ในราคาไม่แพง แต่ปัจจุบันราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวาแทบหาซื้อไม่ได้สำหรับย่านนี้

ด้านมุมสะท้อนของนายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กร และสร้างสรรค์ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ดีเวลอปเปอร์ยังคงมุ่งไปในทำเลแนวรถไฟฟ้าเส้นทางเข้าเมืองที่เปิดให้บริการแล้ว คือ สายสีเขียว และสายสีนํ้าเงิน ฉะนั้นพื้นที่ที่เป็นส่วนต่อขยายของทั้ง 2 เส้นทาง เช่น สายสีเขียว (เหนือ) หมอชิต -สะพานใหม่ -คูคต จึงเป็นเป้าหมายหลักในการทำตลาดมากกว่าไปเสี่ยงกับทำเลตามรถไฟฟ้าสายอื่นๆที่วิ่งหลบเมือง หรือเฉี่ยวเมือง ขณะที่ช่วงต่อขยายไปยังด้านตะวันออก ขณะนี้เริ่มเต็มพื้นที่ จากการที่ดีเวลอปเปอร์เข้าไปจับจองและพัฒนาโครงการรอกันจำนวนมาก จนไกลออกไปถึงสมุทรปราการแล้ว

 “ช่วงลาดพร้าว-รัชโยธิน การแข่งขันสูงมาก เปิดเต็มไปหมด โดยเฉพาะฝั่งที่ข้ามมายังรัชดาฯ”

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คอนโดส่อวิกฤติ คนหมดแรงผ่อน ยอดหลุดโอนพุ่ง

ดีเวลอปเปอร์เร่งระบายสต๊อก งัดแคมเปญ “โปรหลุดดาวน์” แบงก์ ชี้ผลกระทบจิตวิทยามาตรการ LTV ทำลูกค้าซื้อลงทุน ปล่อยเช่าเก็งกำไรเผ่นทิ้งดาวน์ หวั่นกู้ไม่ผ่าน-ผ่อนไม่ไหว “กรุงศรีอยุธยา” แนะคนซื้อดูให้ดี อาจแค่กิมมิกการตลาด 

แหล่งข่าวจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า ตลาดในภาพรวมปีนี้ค่อนข้างชะลอตัว ผลข้างเคียงจากมาตรการคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยใช้เกณฑ์ LTV และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว กระทบต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคทุกกลุ่ม แต่ที่น่าจับตาคือตลาดคอนโดมิเนียม นอกจากระดับราคา กลุ่มกลางล่างที่มีปัญหายอดขายลดแล้ว วันนี้ตลาดลักชัวรีหรือกลุ่ม บนเริ่มมีสัญญาณชะลอตัวด้วยเช่นกัน ซึ่งลูกค้าในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะซื้อลงทุนเพื่อปล่อยเช่า เมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดี ปรับ พฤติกรรมการซื้อลงทุนระมัดระวังมากขึ้น บางรายไม่รับโอนห้องชุด ทำให้ผู้ประกอบการต้องนำห้อง ชุดเหล่านี้กลับมาขายใหม่ จนเกิดแคมเปญคอนโดฯหลุดโอน

“ที่ผ่านมากลุ่มที่ซื้อลงทุนจะจองจำนวนมาก และไม่ใช่ซื้อเพียงโครงการเดียว แต่จะเป็นแฟนคลับของดีเวลอปเปอร์ชั้นนำ เมื่อมีสถานการณ์ตลาดเปลี่ยน หากคำนวณแล้วลงทุนไม่คุ้ม ก็เลือกที่จะไม่โอนห้องชุด โดยต่อรองกับเจ้าของโครงการขอคืนส่วนหนึ่ง ซึ่งผู้ประกอบการก็อะลุ้มอล่วยในฐานะลูกค้าประจำ”

สำหรับดีเวลอปเปอร์ที่จัดแคมเปญแรงก็มี บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ผู้นำตลาดบ้านหรูของวงการ นำคอนโดฯหลุดโอนแบรนด์ระดับบน มี เดอะ แบ็งคอก, เดอะ รูม และเดอะคีย์ รวม 5 โครงการ 5 ทำเล โดยมีห้องหลุดโอนรวมประมาณ 200 ยูนิต จากจำนวนหน่วยทั้งหมดประมาณกว่า 2,000 หน่วย คิดเป็นห้องหลุดโอนประมาณ 10% สำหรับห้องหลุดโอนนี้มีราคาลดมากกว่า 20% หวังจูงใจลูกค้าที่มีเงินเย็น อีกราย บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ นำโครงการแอชตัน สีลม จัดโปรอยู่ฟรี 2 ปี รับส่วนลดสูงสุด 2 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวถึงการระบายสต๊อกโครงการที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่มีสัญญาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ต้องการแบกรับภาระต้นทุน จึงเร่งระบายสินค้า ออกมาผ่านการจัดแคมเปญที่เรียกว่า “โปรหลุดดาวน์” ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มคอนโดมิเนียมเป็นหลัก ส่วนแนวราบราคาแพงอาจจะมีน้อย เนื่องจากแนวราบราคาเกิน 10 ล้านบาท จะเข้าข่ายเป็นบ้านหลังที่ 2 และ 3 ซึ่งอดีตสามารถขอกู้เต็ม 100% แต่หลังจากมีหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) จะต้องวางดาวน์ 20% ทำให้ลูกค้าจะต้องมีเงินวางดาวน์ 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะมีวงเงินในจำนวนดังกล่าว

สัญญาณยอดหลุดจองที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากเชิงจิตวิทยา ในกลุ่มลูกค้าที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าที่อาจจะทำได้ยากขึ้น โดยมาจากปัจจัย 2-3 ข้อ คือ 1.ลูกค้าบางคนที่ตัดสินใจซื้อแล้ว แต่การซื้อนั้นส่งผลกระทบต่อลูกค้า เช่น ภาระเงินที่จะนำมาผ่อนชำระ ทั้งการซื้อเงินสด หรือการใช้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ซึ่งภายหลังมีหลักเกณฑ์ LTV เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้การขอสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ยากขึ้น 2.ลูกค้าไม่โอนบางโครงการในตลาดคอนโดมิเนียม ภายหลังจากตัดสินใจซื้อช่วง Presale ก่อนโครงการยังสร้างไม่เสร็จ แต่ปัจจุบัน โครงการสร้างแล้วเสร็จพบว่าสภาพ แวดล้อมสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ทำให้ลูกค้าชะลอตัดสินใจซื้อ และ 3.มาตรการ LTV ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อที่ไม่ใช่บ้านหลังแรก ส่งผลให้มีเงินไม่เพียงพอ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อยอดการหลุดจองดาวน์ที่เพิ่มขึ้น

“สถานการณ์ที่ลูกค้าปล่อย หลุดดาวน์ เพราะลูกค้าที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าต่อมองว่าจะทำได้ยากขึ้น เมื่อเทียบกับราคาแล้วไม่คุ้ม จึงปล่อยให้หลุดดาวน์ ถ้าถามว่าแบงก์เข้มงวดปล่อยสินเชื่อหรือไม่ จะเห็นว่าแบงก์เข้มงวดและระมัดระวังมากขึ้น แต่ไม่ได้เป็นเหตุผลเดียวที่ลูกค้าทิ้งดาวน์”

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาทำโปรหลุดดาวน์ มองว่า เป็นแค่ลูกเล่น (Gimmick) ในการทำการตลาดเพื่อดึงดูง ซึ่งผู้ประกอบการสามารถจะเสนอโปรโมชันให้กับลูกค้าได้ในราคาที่ถูกลง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นการหลุดดาวน์จริงหรือไม่ และหากดูโปรโมชัน เช่น เดิมราคาขายตารางเมตรละ 1 แสนบาท มาเหลือ 8 หมื่นบาท อาจจะหลุดดาวน์จริง แต่หากยังขายในราคาเดิม แต่อาจจะเสนอของแถมอย่างอื่นให้ อาจจะไม่ใช่หลุดดาวน์ แต่เป็นการกระตุ้นยอดขายเท่านั้น

นางสาวอรอนงค์ อุดมก้านตรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิต ภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวเสริมว่า มาตรการ LTV อาจจะมีผลกระทบบ้างในช่วงระยะแรก แต่ในท้ายที่สุดจะช่วยคัดกรองผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริง และลูกค้าได้ราคาที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อภาพรวมทั้งระบบในระยะยาว

สำหรับอุปทานคอนโดมิเนียม ที่อยู่ระหว่างการขาย จากข้อมูลฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย ณ สิ้นไตรมาส 1 /62 ในกรุงเทพมหานครมีจำนวนคอนโดฯที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 198,460 ยูนิต แต่ขายได้แล้ว 78% หรือประมาณ 154,925 ยูนิต เหลือขายอีกประมาณ 43,535 ยูนิต 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ตลาดหุ้นหวั่น เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนยืดเยื้อ

ตลาดหุ้นหวั่น เจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนยืดเยื้อ

สัญญาณเงินทุนเคลื่อนย้ายไม่ดี นักวิเคราะห์ฯให้ดัชนีแนวรับ 1,638 แนวต้าน 1,656-1,660 จุด ไม่ควรหลุดแนว 1,640 จุด
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ไทยพาณิชย์ ชี้ปัจจัยกดดันการลงทุนวันนี้ (13 พ.ค.) ยังเป็นเรื่องสงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน อย่างไรก็ตามล่าสุดสถานการณ์ยังตึงเครียด หลังสิ้นสุดการเจรจาการค้าไปแล้ว และยังไม่ได้ข้อสรุป เป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดภูมิภาค สำหรับหุ้นไทยคาด SET จะเผชิญปัจจัยกดดันนี้ต่อ ให้แนวรับอยู่ที่ 1,640 และ 1,634 จุดอย่างไรก็ตาม บล.ไทยพาณิชย์ มองว่าสงครามการค้ากระทบต่อเศรษฐกิจจำกัด (บนสมมติฐานไม่มีการขึ้นภาษีสินค้าจีนอีกมูลค่า 3.25 แสนล้านดอลลาร์ตามคำขู่) เนื่องจากทั้งสหรัฐฯ และจีน พร้อมใช้มาตรการกระตุ้น ดังนั้น การปรับลงของตลาดมาระดับหนึ่งแล้ว มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมหุ้น โดยแนะนำกลุ่มพลังงาน และปิโตรฯ (PTTEP, TOP, IRPC, IVL) ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวกลับได้ดี หากประเด็นนี้ผ่านพ้นไปส่วนความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล จะสร้างปัจจัยบวก แนะนำ”ซื้อเก็งกำไร”ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง CK SEAFCO และ STECสำหรับนักลงทุนต่างชาติทยอยปิด Long ต่อเนื่อง เมื่อวันศุกร์ (10 พ.ค.) ต่างชาติมีสถานะ Short สุทธิ -1.6 หมื่นสัญญา ซึ่งบล.ไทยพาณิชย์ มองเป็นการปิดสถานะ Long (Short Close) ด้านยอดสะสม Long ของนักลงทุนต่างชาติตั้งแต่เม.ย.ลดลงเหลือประมาณ 2.1 หมื่นสัญญา ซึ่งหากยอดจำนวนนี้หมดลง จะเป็นลบต่อทิศทางกระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย(ฟันด์โฟลว์) ในตลาดหุ้นมากขึ้นนายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างติดลบกันราว 0.3-0.6% เนื่องจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจจะยืดเยื้อออกไป หลังจากที่การเจรจายังไม่สามารถจบได้ และอาจจะมีการออกมาตรการตอบโต้ระหว่างกันด้วย อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ยังมีความไม่แน่นอนต่อไป ซึ่งการลงทุนก็คงจะเลือกลงทุนในหุ้นเป็นรายตัวไป พร้อมให้แนวรับ 1,638 จุด ส่วนแนวต้าน 1,656-1,660 จุด ทั้งนี้ดัชนีฯไม่ควรหลุดแนว 1,640 จุด
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

สธ. ตั้งเป้าคนไทย 10 ล้านคน ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานได้

สธ. ตั้งเป้าคนไทย 10 ล้านคน ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานได้ thaihealth

ศูนย์อำนวยการใหญ่ จิตอาสาพระราชทาน 904 มอบกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนโครงการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน ตั้งเป้าคนไทย 10 ล้านคน มีความรู้และใช้เครื่องฟื้นคืนคลื่นไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติเพื่อช่วยชีวิตได้นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจเยี่ยมการสอนกู้ชีพขั้นพื้นฐานว่า ศูนย์อำนวยการใหญ่   จิตอาสาพระราชทาน 904 ได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข จัดทำและขับเคลื่อนโครงการ “ฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานแก่ประชาชน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ “แพทย์อาสาเฉพาะทางเฉลิมพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 10 ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก” กระทรวงสาธารณสุขจึงได้รับมาดำเนินการจัดทำเป็นหลักสูตรมาตรฐานสอนการทำ CPR และการใช้เครื่อง AED ที่มีความเหมาะสมสำหรับใช้อบรมประชาชน และเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อเป็นการสื่อสารถึงประชาชนเป็นวงกว้าง โดยตั้งเป้าหมายให้คนไทย 10 ล้านคน มีความรู้สามารถช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน และ 3.5  ล้านคน หรือ 1 ใน 20 สามารถปฏิบัติการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานและใช้เครื่องคืนคลื่นไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator : AED) ได้ชนายแพทย์สุขุม กล่าวต่อว่า การจัดฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่ แพทยสภา ร่วมกับมูลนิธิธรรมาภิบาลทางการแพทย์ และได้รับความร่วมมือของแพทย์จิตอาสา จากคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ หน่วยแพทย์ 4 เหล่าทัพ แพทย์ภาครัฐและเอกชน จัดหน่วยแพทย์อาสาออกตรวจรักษาประชาชนที่เจ็บป่วยด้วยโรคทั่วไป โรคซับซ้อนขั้นสูง ส่งเสริมสุขภาพประชาชนในพื้นที่ และสอนการทำ CPR และการใช้เครื่อง AED โดยมีผู้เข้ารับการอบรมประมาณ 2,500 คน ซึ่งผู้อบรมจะมีความรู้ในการช่วยชีวิตไปตลอดชีวิต และยังนำความรู้ไปสอนคนในครอบครัวและคนอื่นๆให้มีความรู้ฟื้นคืนชีพเบื้องต้นได้ทั้งนี้ แต่ละปีคนไทยเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันกว่า 54,000 คน หรือเฉลี่ย 1 ชั่วโมงละ 6 คน แต่หากได้รับการช่วยเหลือด้วยการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR) อย่างถูกต้อง ภายในระยะเวลา 4 นาทีหลังจากหัวใจหยุดเต้น  จะลดอาการบาดเจ็บ ความพิการ ตลอดจนการสูญเสียชีวิตได้ โดยผู้ให้การช่วยเหลือจะต้องมีความรู้ความเข้าใจ    มีทักษะการช่วยเหลือ และปฏิบัติอย่างถูกต้อง ซึ่งวิธีการปฐมพยาบาลช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเบื้องต้น จำเป็นต้องมีการอบรมเพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถทำได้อย่างถูกต้องและสามารถทำต่อเนื่องไป จนกระทั่งเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจมาถึง และพร้อมใช้งาน หรือมีบุคลากรทางการแพทย์เข้ามาดูแลผู้ป่วยต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th

เรียนรู้คำศัพท์ภาษาลาว (ພາສາລາວ)

คำศัพท์ ประเทศลาว ภาษาลาว เรียนรู้ภาษาลาว ພາສາລາວ

มาฝึกเรียนรู้ ภาษาลาว (ພາສາລາວ) ประเทศเพื่อนบ้านของไทยกันบ้างค่ะ เผื่อใครมีโอกาสเดินทางไปเที่ยว หรือมีคนรู้จักเป็นคนลาว เราจะได้สื่อสารได้เข้าใจและถูกต้อง บอกเลยว่าเรียนรู้ไม่ยาก เพราะภาษาลาวใกล้เคียงกับภาษาทางอีสานบ้านเรา ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ ว่ามีคำอะไรและพูดอย่างไรบ้าง

เรียนรู้คำศัพท์ภาษาลาว (ພາສາລາວ)

สวัสดี (ทักทาย) = สบายดีคุณชื่ออะไร = เจ้าซื่อหยังฉันชื่อ = ข่อยซื่อฉันรักเธอ = ข้อยฮักเจ้าต้อนรับ = ฮับต้อนช่วยเหลือ, สนับสนุน = ซุกยู้พูดคุย, สนทนา = โอ้ลมพระมหากษัตริย์ = เจ้าชีวิตสถานที่ท่องเที่ยว = บ่อนท่องเที่ยว

ขายสินค้า = ขายเคื้องซื้อสินค้า = ซื้อเคื้องปากกา = บิ๊กดินสอ = สอจิ้งจก = กีเกี้ยมตุ๊กแก = กับแก๊คางคก = ขี้คันคากแพะ = แบ้แอ๊ดซัง = เบนซินกาซวน = โซล่าปิล็อต = นักบิน, กัปตันบ่., บ่แม่น = ไม่ใช่ไปนอก = ไปห้องน้ำแพ้ = ชนะเสียให้ = แพ้เสื้อกันฝนตัวน้อย = ถุงยางอนามัยเซินซาบ = โปรดทราบขายโต, ขายของ = ค้าประเวณีใบยั่งยืน = ใบประกาศเกียรติคุณใบประหยัด = ระวังไฟอำนาจ = ไฟแดงไฟเกียม = ไฟเหลืองไฟเสรี = ไฟเขียวบ่อนนั่ง = ที่นั่งห้ามสูบยา = ห้ามสูบบุหรี่ตาด = น้ำตกทุ่งเพียง = ที่ราบพูเพียง = ที่สูงพูดอย = ภูเขา

ร้านถ่ายรูป = ร้านแหกตผ้าเย็น = ผ้า อนามัยผู้ชายมีหนวด = ผู้ชายปากหมอยผ้าอนามัย = ผ้ายันต์กันโลหิต หรือ ผ้าดูดโลหิตไทยถุงยางอนามัย  = ถุงปลิดชีวิตเพื่อนรัก, เพื่อนสนิท = เสี่ยวครูผู้ชาย = นายคูครูผู้หญิง = สาวคูไปปัสสาวะ = ไปเบาไปอุจจาระ = ไปหนักสะพาน = ขัวหน้าต่าง = ป่องเยี่ยมประตู = ป่องประตูดวงอาทิตย์ = ตะเว็นโรงแรม = โฮงแฮมเกสต์เฮาส์ = เฮือนพักธนาคาร = ทะนาคานกางเกงชั้นใน = สลิบขอโทษ = ขอโทดอยู่ที่ไหน = อยู่ไส อยู่บ่อนใดทำอะไร = เฮ็ดหยังขอบคุณ (มาก) = ขอบใจ (หลาย)คุณเป็นอย่างไรบ้าง = สบายดีบ่เป็นเงินเท่าไหร่ = ถึกเท่าได๋ถูก = ถืกเครื่องคิดเลข = จักคิดไล่ลดได้หรือเปล่า = ลุดได้บ่ชอบมาก = มักหลายมากเกินไป = หลายโพดนี่อะไร = อันนี้แม่นหยังรถมอเตอร์ไซด์ = ลดจักสนามบิน = เดิ่นบิน, เดิ่นยนโชคดี = โซกดีไม่ดี = บ่งามใช่แล้ว = แม่นแล้วรักษา = ปิ่นปัวขอให้มีสุขภาพดี = ขอให้เข้มแข็งไม่เป็นไร = บ่เป็นหยังไม่กลัว = บ่ย่านเหมือนกัน = คือกันไหว้ = นบวิ่ง = แล่นผลัก = ยู้เปิดประตู = ไขปิดประตู = อัดปิดไฟ = มอดปิ้ง = ดาดทำกับข้าว = คั่วกินเที่ยว = หลิ้น
วันนี้ = มื้อนี้พรุ่งนี้ = มื้ออื่นมะรืนนี้ = มื้อฮือเมื่อวาน = มื้อวานกี่โมงแล้ว = จักโมงแล้วร้านเบียร์ = ฮ้านกินดื่มชนแก้ว = ตำจอกน้ำแข็งหลอด = น้ำก้อนอนามัยผู้หญิง = แม่หยิงผ้าถุง = ผ้าซิ่นกางเกง = โส้งนาฬิกา = โมงบาสเกตบอล = บานบ้วงวอลเลย์บอล = บานส่งโรงพยาบาล = โฮงหมอสถานีอนามัย = สุกสาลาร้านปะยาง = ฮ้านจอดยางโรงภาพยนตร์ = วิสาหกิจฮูปเงาห้องไอซียู = ห้องมรสุมแม่น้ำโขง = แม่น้ำของผงชูรส แป้งนัวพริก = หมากเผ็ดเนื้อย่าง = ชี้นดาดน้ำแข็ง = น้ำก้อนไอศกรีม = กะแล่มกระดาษ = เจ้ยตะเกียบ = ไม้ทู่หน้าต่าง = ป่องเยี่ยมผลไม้ = หมากไม้แตงโม = หมากโมฝรั่ง = หมากสีดาน้อยหน่า = หมากเขียบมะละกอ = หมากฮุ่งสับปะรด = หมากนัดส้มโอ = หมากเกี้ยง (ใหญ่)ชมพู่ = หมากจองมะละกอ/ส้มตำ = หมากฮุ่ง/ตำหมากฮุ่งมะม่วง = หมากม่วงก๋วยเตี๋ยว = เฝอขนมจีน = เข้าปุ้นช้อน = บ่วงทอด = จืนขนมปัง = เข้าจี่ไม่อร่อย = บ่แซบอร่อยมาก = แซบหลายหลอดดูด = ท่อดูดกระดาษทิชชู่ = เจี้ยก่อ, เจี้ยอนามัยเก้าอี้ = ตั่งเปรี้ยว = ส้มปาท่องโก๋ = ขนมคู่รถสามล้อ = จัมโบ้/ตุ๊กๆนางพยาบาล = นางแพดแบดมินตัน = ดอกปีกไก่หนังสือ/สมุด = ปึ้ม/ปึ้มเขียนไม้จิ้มฟัน = ไม้จิ้มแข่วยาสีฟัน = ยาถูแข่วถุงพลาสติก = ถงยางเยี่ยมเยือน = เยี่ยมยามSuperman  = บักอึดถลาลม
ขอบคุณข้อมูลจาก teen.mthai.com

ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,200.00 19,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,244.00 18,859.04 19,800.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,119.60 16,973.14 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 995.20 15,087.23 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 560.00 8,489.60 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 435.00 6,594.60 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,289.00 19,541.24 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 13/05/2562 

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15 29.15
แก๊สโซฮอล์ 91 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88 28.88
แก๊สโซฮอล์ E20 26.14 26.14 26.54 26.54 26.54 26.14 26.14 26.54 26.14
แก๊สโซฮอล์ E85 20.79 20.79 20.79
เบนซิน 95 36.56 37.01 37.06 36.86 36.86
ดีเซล 27.79 27.79 27.79 27.79 27.79 27.79 27.79 27.79 27.79 27.79
ดีเซลพรีเมี่ยม 31.39 31.66 31.85 31.85 31.85
แก๊ส NGV 16.01 27.79
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า