“เฟรเซอร์ส” โชว์การเงินแข็งแกร่ง พร้อมรับมือตลาดชะลอตัว
เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย โชว์แกร่ง ดันรายได้เพิ่มกว่า 10.43 % จากไตรมาสก่อน พร้อมรับมือตลาดชะลอตัวจากวิกฤตไวรัสโคโรนา ยันปริมาณเงินสดจำนวนมาก และ พอร์ตการลงทุนที่สมดุล สามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีงบประมาณ 2563 บริษัทฯมีรายได้รวม 5,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.43 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 7.60 หากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาและเศรษฐกิจในประเทศ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาสนี้ โดยมีกำไรสุทธิรวมสูงถึง 851 ล้านบาท เติบโตกว่าร้อยละ 9.42 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากรายการบันทึกกำไรขายที่ดินและเงินลงทุนมูลค่า 414 ล้านบาท ควบคู่กับการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารลงได้ร้อยละ 6.75” ทั้งนี้ ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท FPT เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติให้ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวนทั้งสิ้นไม่เกินร้อยละ 15 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ที่ราคาต่อหุ้น 10.60 บาท โดยนายโสภณชี้แจงว่า “บริษัทวางแผนนำเงินเพิ่มทุนที่ได้รับไปใช้ในการลงทุนโครงการต่าง ๆ และเสริมความพร้อมสำหรับโอกาสการลงทุนต่อไป” สำหรับระยะเวลาการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนกำหนดไว้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2563
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรม รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2563 มีรายได้จำนวน 443 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว โดยมีการรับรู้รายได้จากการขายหน่วยทรัสต์ FTREIT และการขายที่ดินในพื้นที่อีอีซีให้กับกลุ่มไมเดีย ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติจีนชั้นนำระดับโลก ทั้งนี้บริษัทฯ มียอดพื้นที่เช่าใหม่สะสม 52,000 ตารางเมตร ณ เดือนมีนาคม 2563 ชะลอตัวจากสัญญาเช่าระยะสั้นที่หมดอายุ และข้อจำกัดการทำการตลาดภายใต้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯประเมินผลกระทบต่อลูกค้าหลัก ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิคส์คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32 ของผู้เช่ายังอยู่ในวงจำกัด สำหรับภาพรวมไตรมาสนี้ FPT สามารถรักษาอัตราพื้นที่เช่าได้ที่ร้อยละ 80 โดยพื้นที่โรงงานมีอัตราเช่าเพิ่มสูงถึงร้อยละ 76 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี โดยเพิ่มจากอัตราเช่าร้อยละ 73 ของช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิคส์อัจฉริยะ ยาและเวชภัณฑ์ พลาสติก โลหะและเครื่องจักร ยังมีความต้องการเช่าพื้นที่เพื่อการอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัย บันทึกรายได้ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2563 จำนวน 3,557 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่ลดลงในอัตราร้อยละ 19.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ตามสภาวะการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย ซึ่งได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV และมาตรการล็อคดาวน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า โดยโกลเด้นแลนด์มียอดพรีเซลล์โครงการมูลค่า 7,398 ล้านบาท ณ เดือนมีนาคม 2563 จากโครงการที่ดำเนินงานอยู่ทั้งสิ้น 61 โครงการ และมีแบ็คล็อครอการโอน 2,875 ล้านบาท ทั้งนี้ โกลเด้นแลนด์ได้ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะเดินหน้ากิจกรรมด้านการขายและการตลาดภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ มีรายได้เติบโตอยู่ที่ 248 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.08 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการเพิ่มอัตราค่าเช่าอาคารสำนักงานเกรด A ของสินทรัพย์ศักยภาพทำเลใจกลางเมือง ทั้งนี้ สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลต่อกลุ่มธุรกิจพื้นที่เช่ารีเทลในอาคารสามย่านมิตรทาวน์ ซึ่งมีจำนวนคนเดินห้างลดลงตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 กระทั่งภาครัฐได้ออกมาตรการยกระดับการป้องกันโรคระบาด อันนำไปสู่การปิดให้บริการศูนย์การค้าในเดือนเมษายน 2563 เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โกลเด้นแลนด์ได้ดำเนินการมอบความช่วยเหลือให้แก่ผู้เช่าของศูนย์การค้าภายใต้โครงการ “มิตรช่วยมิตร” ด้วยการยกเว้นและลดค่าเช่าของร้านค้าที่ถูกปิดภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สำหรับธุรกิจโรงแรมนั้น รายได้ลดลงอยู่ที่ 113 ล้านบาท หดตัวร้อยละ 21.74 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา และลดลงร้อยละ 26.32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากผลกระทบมาตรการห้ามเดินทางของภาครัฐ
“บริษัทฯ ยังคงเฝ้าระวังและติดตามผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ เราได้เตรียมพร้อมมาตรการด้านความปลอดภัยสำหรับลูกค้าและพนักงานของเรา อาทิ การคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าใช้อาคารสถานที่ทุกโครงการ การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างต่อเนื่อง และการให้บริการแอลกอฮอล์เจลฆ่าเชื้อตามบริเวณต่างๆ ตลอดจนการประกาศใช้นโยบายทำงานจากที่บ้าน ทั้งนี้ บริษัทฯ มั่นใจที่จะสามารถก้าวผ่านอุปสรรคที่เผชิญอยู่ พร้อมขยายศักยภาพเพื่อเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรที่ครอบคลุมสินทรัพย์หลากหลายประเภท” นายโสภณกล่าวสรุป
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
แนวราบมาแรง เอสซีลุย 4 โครงการ ไตรมาสแรกกวาดกำไร 300 ล้าน
เอสซีฯ เผยกระแสตอบรับแนวราบมาแรง ไตรมาส 2 พร้อมลุยเปิดบ้านทำเลดี 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 5,000 ลบ. และโชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก รายได้รวม 3,313 ลบ. กำไรสุทธิ 301 ลบ. พร้อมโชว์ผลการดำเนินงานไตรมาสแรก รายได้รวม 3,313 ลบ. กำไรสุทธิ 301 ลบ.
นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ผู้นำอสังหาริมทรัพย์ Living Solutions Provider กล่าวว่า SC ประสบความสำเร็จจากการพลิก กลยุทธ์การตลาดแนวราบสู่ออนไลน์ ทำให้ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยในไตรมาส 2/63 จะเปิดบ้านเดี่ยวเพิ่มอีก 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท ราคาเริ่ม 5-50 ล้านบาท และ เตรียมปิดการขายโครงการบ้านอีก 6 โครงการ
โดย 2 โครงการแรกที่จะเปิด Pre-sale ในวันที่ 16-17 พ.ค.นี้ ได้แก่
1. บางกอก บูเลอวาร์ด วิภาวดี บ้านหรู 2 ชั้น พื้นที่ 10-2-7.5 ไร่ มูลค่าโครงการ 730 ล้านบาท จำนวน 37 ยูนิต เริ่ม 13.99 – 26 ล้านบาท ทำเลใจกลางเมืองบนถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้ทางด่วนศรีรัช (งามวงศ์วาน) เพียง 3.7 กม. เดินทางสะดวกเข้า-ออกได้หลายเส้นทาง เช่น ถนนงามวงศ์วาน ถนนประชาชื่น และ ถนนวิภาวดี รวมทั้งยังมุ่งสู่สนามบินดอนเมือง ด้วยดอนเมืองโทลเวย์ เพียง 4.3 กม.
2. บางกอก บูเลอวาร์ด พระราม5 บ้านหรู 2 ชั้น 3 แบบ พื้นที่ 44 ไร่ มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท จำนวน 189 ยูนิต ราคาเริ่ม 8.99-15 ล้านบาทในทำเลศักยภาพ ใกล้ด่วนศรีรัช ทั้งเข้า-ออก ได้ 3 เส้นทาง ได้แก่ ถนนนครอินทร์ ถนนกาญจนาภิเษก และ ถนนราชพฤกษ์ ใกล้แหล่งอำนวยสะดวกมากมาย อาทิ ศูนย์การค้า The Walk, เดอะ คริสตัล ตลาดพระราม5 รพ.บางกรวย2 รพ.ธนบุรี และ สถานศึกษา ร.ร. อนุบาลเด่นหล้า ร.ร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี
และ อีก 2 โครงการใหม่ เปิดในวันที่ 23-24 พ.ค. คือ
3. เดอะ เจนริ วิภาวดี วิลล่าหรู 3 ชั้น ดีไซน์ใหม่ รองรับครอบครัวใหญ่ 5 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ พร้อมสระส่วนตัวและลิฟท์ส่วนตัว ภายใต้ความปลอดภัย 24ชม. ในสังคมส่วนตัวเพียง 10 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 27-50 ล้านบาท บนพื้นที่ 4-2-19 ไร่ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ทำเลใกล้ทางด่วน รถไฟฟ้า และ แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา ลาดพร้าว รพ.วิภาวดี และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
4. เวนิว โฟลว์ แจ้งวัฒนะ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 3 แบบ พื้นที่โครงการ 68-1-59 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,710 ล้านบาท จำนวน 254 ยูนิต ราคาเริ่ม 5-10 ล้านบาท ทำเลสะดวก ใกล้ทางด่วนศรีรัช ทางยกระดับอุตราภิมุข และ ใกล้ไฟฟ้า 3 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง-สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ รถไฟฟ้าสายสีชมพู-สถานีแยกปากเกร็ด และ รถไฟฟ้าสายสีแดง-สถานีหลักสี่
นายอรรถพล กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2563 ว่า SC มีรายได้รวม 3,313 ล้านบาท เติบโต 4% (YoY) โดยมาจากรายได้จากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย 3,071 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 93 แบ่งเป็น รายได้แนวราบ 1,829 ล้านบาท และ รายได้คอนโด 1,243 ล้านบาท ส่วนอีกร้อยละ 7 เป็นรายได้จากการเช่าและบริการ มีกำไรสุทธิ 301 ล้านบาท โดยมียอดขายรวม 1,982 ล้านบาท ณ 31 มี.ค. 63 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์และหนี้สินรวม 47,035 ล้านบาท และ 29,142 ล้านบาทตามลำดับ พร้อมกับมีโครงการที่เปิดขายต่อเนื่อง จำนวน 52 โครงการ มูลค่าคงเหลือเพื่อขายรวมกว่า 41,600 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 44 โครงการ และคอนโด 8 โครงการ
ทั้งนี้ บริษัทมีกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 ในอัตราหุ้นละ 0.19 บาท ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2563 ที่มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด32.08 บาทต่อดอลลาร์ เคลื่อนไหวกรอบแคบ
เงินบาทเปิดตลาด 32.08 บาทต่อดอลลาร์ เคลื่อนไหวกรอบแคบตามภูมิภาค หลังดอลล์แข็งจากปธ.เฟดปัดใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ แม้กังวลเศรษฐกิจสหรัฐ
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.08 บาท/ดอลลาร์ จากวันที่ 13 พ.ค. 2563 ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.05/09 บาท/ดอลลาร์
“เมื่อคืนประธานเฟดประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯยังเผชิญกับความไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงในช่วงขาลง แต่เครื่องมือหนึ่งที่เฟดจะไม่เข้าไปแตะคือการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ ทำให้ดอลลาร์ฟื้นตัวเมื่อเทียบกับสกุลหลัก ซึ่งเงินบาทก็เคลื่อนไหวตามภูมิภาค”นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 32.00 – 32.15 บาท/ดอลลาร์
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
เห็นด้วยมั้ย “เจย์ โบธรอยด์” ให้คำนิยาม 5 สตาร์ดัง “ทีมชาติไทย”
“เจย์ โบธรอยด์” ออกมาให้คำนิยาม 5 สตาร์ดังของ “ทีมชาติไทย” ผ่านทางไลฟ์อินสตาแกรมของ “มาริโอ ยูรอฟสกี” อดีตจอมทัพชาวมาซิโดเนีย
วันที่ 14 พ.ค. 63 เจย์ โบธรอยด์ หัวหอกร่างโย่ง ออกมาให้คำนิยาม 5 สตาร์ดังของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่ประกอบไปด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีราทร บุญมาทัน และ ธีรศิลป์ แดงดา ผ่านทางไลฟ์อินสตาแกรมของ “มาริโอ ยูรอฟสกี” อดีตจอมทัพชาวมาซิโดเนีย ไว้ดังนี้
กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร): 1 ต่อ 1 กินขาด
ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (บีจี ปทุม ยูไนเต็ด): พลังเหลือล้น
ชนาธิป สรงกระสินธ์ (ฮอกไกโด คอนซาโดเล ซัปโปโร) : คนพิเศษ
ธีราทร บุญมาทัน (โยโกฮามา เอฟ มารินอส) : ฉลาดเหมือน เทรนท์
ธีรศิลป์ แดงดา (ชิมิสุ เอส-พัลส์) : เคลื่อนที่ยอดเยี่ยม
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
ขอประชาชนดำรงชีวิตวิถีใหม่ ไม่ลืม 5 มาตรการหลัก ยับยั้งโควิด-19
โฆษก ศบค. ย้ำ ไทยจะเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อโควิด-19 เมื่อจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ 0 คน เป็นเวลา 14 หรือ 21 วัน ขอประชาชนดำรงชีวิตวิถีใหม่ ไม่ลืม 5 มาตรการหลัก
นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวว่า ยืนยันถึงแม้ว่าในวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยมีจำนวน 0 คน ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าประเทศไทยปลอดเชื้อแล้ว เนื่องจากอาจมีบางคนที่ใกล้ชิด สัมผัส กับผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันก่อนหน้า และอยู่ในระยะการฟักตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตัวอย่างเช่น ประเทศเกาหลีใต้ ที่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 1 คน แต่สามารถแพร่กระจายเชื้อไปอีก 100 กว่าคน และตรวจค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติมอีก 2,000 กว่าคน ซึ่งประเทศไทย เป็นหน้าที่ของกรมควบคุมโรคและคนในท้องถิ่นที่จะต้องช่วยกันสังเกตอาการคนใกล้เคียง รวมถึงสังเกตอาการตนเองด้วย
โฆษก ศบค. ย้ำว่าประเทศไทยจะเป็นพื้นที่ปลอดเชื้อได้ก็ต่อเมื่อมีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ 0 คน เป็นระยะเวลา 14 วัน หรือ 21 วัน แม้แต่ เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนที่มีจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อเป็น 0 คนมาหลายวันก็ยังมีการแพร่ระบาดซ้ำ ดังนั้นสถานการณ์ในตอนนี้เบาใจได้แต่ไม่สามารถวางใจได้
กรณีตู้ปันสุข ที่ประชาชนหลายคนนำอาหาร สิ่งของจำเป็นมาบริจาคแก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากเป็นการสัมผัสสิ่งของต่อกัน โฆษก ศบค. ชี้แจงว่ามีหลายภาพปรากฏให้เห็นถึงความแออัด และความชุลมุนในการรับสิ่งของ
ดังนั้น ขอให้ประชาชนไม่ลืมวิถี New Normal และคำนึงถึง 5 มาตรการหลัก ได้แก่ ล้างมือ สวมใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ซึ่งผู้ที่นำของไปบริจาคควรล้างมือก่อนที่จะสัมผัสกับสิ่งของ ไม่ลืมที่จะสวมใส่หน้ากากอนามัย เช่นเดียวกันกับผู้รับ รวมถึงเน้นการเว้นระยะห่าง ต่อคิวกันเพื่อรับสิ่งของจากในตู้ อีก 2 มาตรการคือ ทำความสะอาดพื้นผิวของตู้ และที่สำคัญคือไม่ไปในที่ที่มีคนแออัด เพราะในขณะนี้มีตู้ปันสุขในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หรือ บางสถานที่ที่มีการบริจาคสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เช่น วัด ร้านอาหาร ทั้งนี้ ขอให้ช่วยกันดูแลสุขภาพ ดูแลความสะอาดของอาหาร เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะคนในวัยทำงานที่มักเป็นผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ
โฆษก ศบค. กล่าวชื่นชมที่ในวันนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวน 0 คน ขอให้ทุกคนดำรงชีวิตวิถีใหม่ New Normal และไม่ลืม 5 มาตรการหลัก เพื่อช่วยกันให้ประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเร็ววัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
Non-Finite Verbs
Non-Finite Verbs
ไอบีเอ็มส่ง 3 เทคโนโลยีใหม่ หนุนองค์กรฟื้นตัวสู้โควิด
ซีอีโอไอบีเอ็ม เผยโควิด-19 จุดเปลี่ยนองค์กรทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ล่าสุดเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ดึงศักยภาพ “เอไอ” “เอ็ดจ์” และ “คลาวด์” ช่วยองค์กรเร่งฟื้นตัว
นายอาร์วินด์ กฤษณะ ซีอีโอ บริษัท ไอบีเอ็มฯ กล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน IBM Think Digital ที่มีลูกค้า คู่ค้า และผู้บริหารจากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 90,000 คน ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ของหลายองค์กร โดยเป็นทั้งตัวขับเคลื่อนดิสรัปชันที่ทรงพลังและโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด จึงถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่องค์กรต้องสร้างธุรกิจและเครือข่ายให้ยืดหยุ่นพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อพร้อมรับความท้าทายที่คาดไม่ถึงจากผลกระทบโควิด-19
อาร์วินด์ กฤษณะ
“ช่วงเวลานี้จะได้รับการจารึกในหน้าประวัติศาสตร์ ว่าเป็นช่วงที่โลกธุรกิจและสังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงและก้าวสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอย่างฉับพลันเร่งด่วนชนิดไม่ทันตั้งตัว”
นายอาร์วินด์ กล่าวว่า “เวลานี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ธุรกิจต่างๆ จะหันมาพัฒนาโซลูชันใหม่ รูปแบบการทำงานใหม่ และความร่วมมือรูปแบบใหม่ๆ ที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งองค์กรและลูกค้า ไม่เพียงเฉพาะสำหรับวันนี้ แต่ยังยาวไปถึงอีกหลายปีข้างหน้าด้วย”
นายอาร์วินด์ ยังได้เน้นยํ้าว่าไฮบริดคลาวด์และเอไอ “จะเป็นพลังหลักที่ขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน” พร้อมได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยให้ลูกค้านำพาองค์กรเดินหน้า ประกอบด้วย
เครื่องมือ ‘เอไอ’ ใหม่ ช่วยแบ่งเบาภาระผู้บริหารด้านไอที ด้วยการนำระบบอัตโนมัติเข้าช่วยบริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีให้ยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึงช่วยองค์กรลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยโซลูชัน IBM Watson AIOps นี้ ใช้เอไอช่วยตรวจจับเหตุผิดปกติของระบบไอทีแบบอัตโนมัติ พร้อมวิเคราะห์และทำการตอบสนองต่อปัญหาแบบเรียลไทม์
Watson AIOps ได้รับการพัฒนาขึ้นบน Red Hat OpenShift ที่สามารถทำงานได้บนทุกสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์ รวมถึงทำงานร่วมกับเทคโนโลยีอย่าง Slack และ Box ที่รองรับรูปแบบการทำงานในปัจจุบันที่ผู้ใช้งานต่างอยู่กันคนละที่
โซลูชันและบริการเอ็ดจ์ คอมพิวติ้ง (Edge Computing) รองรับยุค 5G ที่พัฒนาขึ้นบน Red Hat OpenShift เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการเวิร์กโหลดจากอุปกรณ์เอ็ดจ์มากมายหลายยี่ห้อที่มีจำนวนมหาศาลได้อย่างคล่องตัว โดยผู้ให้บริการโทรคมนาคมจะสามารถควบคุมฟังก์ชันเน็ตเวิร์กทั้งแบบเวอร์ชวลและแบบคอนเทนเนอร์ได้ในเวลาไม่กี่นาที เพื่อที่จะสามารถให้บริการบนพื้นฐานของเทคโนโลยีเอ็ดจ์แก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วเมื่อเริ่มมีการใช้งาน 5G เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังเปิดตัวโซลูชัน IBM Edge Application Manager ที่ช่วยให้สามารถ deploy เวิร์กโหลดเอไอ อนาไลติกส์ และไอโอที ได้จากระยะไกล ทำให้การวิเคราะห์และแสดงมุมมองเชิงลึกต่างๆ เป็นไปในแบบเรียลไทม์ และช่วยให้ผู้ดูแลระบบหนึ่งคนสามารถบริหารจัดการเอ็ดจ์ได้ถึง 10,000 โหนด ภายใต้ระบบที่มีความปลอดภัย
กลุ่ม Independent Software Vendors (ISVs) และผู้ให้บริการ Software-as-a-Service (SaaS) กลุ่มแรกที่เปิดให้บริการบนคลาวด์สาธารณะสำหรับบริการด้านการเงิน ประกอบด้วย Assima, C3.ai, Finacle, Intellect Design และThought Machine เพื่อให้ธนาคารที่เข้ามาใช้บริการมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการจากเวนเดอร์ที่น่าเชื่อถือและไว้ใจได้
“แพลตฟอร์มเทคโนโลยีถือเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในศตวรรษที่ 21 เพราะจะเป็นเครื่องตัดสินว่าองค์กรจะตั้งหลักเพื่อคว้าโอกาสใหม่ๆ ในตลาดได้เร็วแค่ไหน จะให้บริการลูกค้าได้ดีเพียงใด จะเติบโต ได้มากแค่ไหน และจะตอบสนองต่อวิกฤตการณ์อย่างที่เรากำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ได้เร็วเพียงใด”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
“ปลาไหลเผือก” สรรพคุณ-ประโยชน์…สุดยอดสมุนไพรไทย ไวอากร้าจากธรรมชาติ
“ปลาไหลเผือก” สมุนไพรไทยชื่อแปลก ที่บางคนอาจจะสงสัยว่าเอ๊ะ ตกลงเป็นปลาไหลจริงๆ หรือเป็นแค่ชื่อของสมุนไพรกันแน่ ด้วยสมุนไพรชนิดนี้ที่บางคนเกิดมาอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อเสียด้วยซ้ำ แต่กลับมีประโยชน์หลายอย่าง ซึ่งสรรพคุณในบางข้อนั้นหากท่านชายหลายๆ ท่านทราบ อาจจะตาลุกวาวกันเลยทีเดียว ว่าแต่ว่าจริงๆ แล้วปลาไหลเผือกเป็นอะไรกันแน่ มีสรรพคุณทางยาอย่างไร อยากจะกระซิบให้ฟังว่า เป็นสมุนไพรที่น่าจับตามองไม่น้อย ใครอยากรู้สรรพคุณ ประโยชน์ของปลาไหลเผือกให้มากขึ้น ตามมาได้เลยค่ะ
ปลาไหลเผือก คือ?
“ปลาไหลเผือก” เป็นชื่อเรียกของพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งสาเหตุที่เรียกกันว่าปลาไหลเผือกก็เพราะว่า พืชชนิดนี้มีรากที่ยาวมากและมีสีขาว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับปลาไหลเผือกจริงๆ นั่นเอง
นอกจากชื่อ “ปลาไหลเผือก” แล้ว สมุนไพรนี้ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อซึ่งส่วนใหญ่มาจากลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนสมุนไพรอื่นเช่น “พญารากเดียว” มีที่มาจากต้นปลาไหลเผือกมีรากยาวเพียงแค่รากเดียวหรือ “ตรึงบาดาล” “กรุงบาดาล” เพราะรากปลาไหลเผือกนี้อาจจะยาวได้มากถึง 2 เมตร
ที่มา ต้นกำเนิดของปลาไหลเผือก
ปลาไหลเผือก มีชื่อวิทยาศาสตร์ Eurycoma longifolia จัดเป็นไม้ยืนต้นที่อยู่ในวงศ์ Simaroubaceae เป็นพืชท้องถิ่นของภาคใต้และประเทศใกล้เคียงอย่างมาเลเซีย ชาวมุสลิมทางใต้จะเรียกต้นปลาไหลเผือกว่า “ตงกัตอาลี” ปัจจุบันมีชื่อเสียงโด่งดังมากในฐานะ “ไวอากร้าจากธรรมชาติ” เพราะจัดเป็นสมุนไพรหายากที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในการบำรุงสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้ท่านชายแข็งแรงฟิตปั๋งได้ภายใน จึงมีการนำมาปรุงและพัฒนาเพื่อเป็นยาบำรุงและกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ รวมถึงนำไปแปรรูปเป็นส่วนของกาแฟ ซึ่งฮอตฮิตมากจนหลายฝ่ายถึงกับกังวลว่าสมุนไพรชนิดนี้จะหายไปเลยทีเดียว
นอกจากสรรพคุณทางด้านเพิ่มสมรรถภาพทางเพศแล้ว ยังมีเรื่องเล่าทางภาคอีสานที่หลายฝ่ายเล่าตรงกันว่า ผู้ชายที่ออกไปรบจะนำรากปลาไหลเผือกที่ผ่านการปลุกเสกแล้วติดตัวไปด้วย เมื่อถึงเวลารบจะนำมาเคี้ยวเพราะเชื่อว่าจะช่วยให้หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า จึงเป็นที่มาอีกชื่อของปลาไหลเผือกคือ “หยิกบ่ถอง” ซึ่งแปลว่า หนังเหนียวไม่มีความรู้ใดๆนั่นเอง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของปลาไหลเผือก
ราก รากจะแทงลึกลงดินโดยมีลักษณะกลมโตและสีขาวนวล รากที่มีอายุมากๆอาจจะยาวได้ถึง 2 เมตร รากเป็นส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพร มีรสขมและเบื่อเมาเล็กน้อย
ลำต้น เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงตั้งแต่ 1-10 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลือกลำต้นสีน้ำตาล กิ่งอ่อนมีขน แตกกิ่งก้านไม่มากแต่จะจะแตกกิ่งก้านเป็นกระจุกรวมกันที่ปลายกิ่ง กิ่งมีสีน้ำตาลอมแดง ลำต้นมีแผลที่เกิดจากการหลุดของกิ่งก้าน ต้นปลาไหลเผือกขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ดและสามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินทุกประเภท
ใบ ปลาไหลเผือกเป็นพันธุ์ไม้ที่ไม่ผลัดใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกชนิดปลายคี่ ก้านในสีเหลือง มีใบประกอบประมาณ 8-13 คู่ ออกตรงข้ามกัน ใบย่อยรูปไข่ โคนใบมน ปลายใบแหลม สีเขียวสด ผิวใบเรียบเป็นมัน ท้องใบมีขนเล็กน้อย ขอบใบเรียบ แผ่นใบค่อนข้าง เส้นกลางใบด้านบนเห็นไม่ชัดแต่ตรงท้องใบนูนเห็นได้ชัดเจน
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกหรือปลายกิ่ง ช่อมีลักษณะเป็นช่อดอกขนาดใหญ่และช่อดอกเล็กๆแยกออกจากกัน ดอกเป็นดอกแบบแยกเพศที่อาศัยอยู่บนต้นเดียวกัน กลีบดอกมี 5 กลีบมีสีชมพูอมม่วงโดยกลีบแยกจากกัน กลีบเลี้ยงก็มี 5 กลีบ ส่วนใบประดับมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมและหลุดร่วงได้ง่าย ดอก ก้านดอกและก้านช่อดอกทั้งหมดมีขนอ่อนสีน้ำตาลทอง ก้านช่อดอกใหญ่และช่อดอกย่อยมีสีเหลือง ส่วนก้านดอกมีสีออกแดงและจะงองุ้มลง แต่ละดอกจะมีเกสรตัวผู้ประมาณ 5-6 ก้าน ส่วนเกสรตัวผู้ในดอกเพศเมียบางก้านจะเป็นหมัน
ผล ออกผลเป็นพวงที่ปลายกิ่ง หนึ่งพวงมีผลย่อย 1-5 ผล ผลรูปทรงกลมรี ผิวเรียบสีแดงอมชมพู เปลือกบาง ผนังผลด้านในแข็ง ผลแก่มีสีม่วงเข้มจนถึงดำ ผล 1 ผลมีเมล็ด 1 เมล็ด
14 สรรพคุณ-ประโยชน์ของปลาไหลเผือก
1. บำรุงสมรรถภาพทางเพศ ถือเป็นสรรพคุณที่โดดเด่นที่สุดเลยทีเดียวสำหรับรากปลาไหลเผือก เพราะช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ บำรุงกำลัง เพิ่มความทนทานให้ท่านชาย
2. บำรุงร่างกาย ในสมัยก่อนผู้ที่ต้องเดินป่าบ่อยๆ นิยมนำรากปลาไหลเผือกมาต้มกิน เพื่อบำรุงกำลัง ทำให้ร่างกายแข็งแรง ลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
3. แก้ไข้ นำมาใช้ลดไข้ได้ทุกประเภทเช่น ไข้มาลาเรีย ไข้หวัด เป็นต้นโดยนำรากแห้งมาต้มกับน้ำแล้วดื่ม ชาวใต้ในสมัยก่อนนิยมดื่มก่อนเข้าป่าเพราะช่วยป้องกันและรักษาไข้ป่าได้
4. ใช้เป็นยาถอนพิษ สำหรับผู้ที่ต้องการเลิกเหล้าหรือยาเสพติด โดยมีส่วนผสม 3 ชนิดคือ รากปลาไหลเผือก พญาไฟ รากโลดทะนงแดง นำมาฝนกับน้ำผสมกันแล้วกิน ช่วยทำให้อาเจียน เป็นตัวช่วยในการเลิกยาเสพติดสำหรับผู้บำบัดและผู้ที่ลงแดงจากการขาดยา
5. บำรุงเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก รักษาสมดุลของระดับความดันเลือด
6. รักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย โดยช่วยบรรเทาอาการปวดท้องจากโรคกระเพาะ กระเพาะอักเสบ ท้องมาน ท้องร่วงและท้องผูก
7. ขับปัสสาวะ รักษาโรคขัดเบา ปัสสาวะกระปริดกระปรอย
8. รักษาโรคผิวหนัง เช่น ผดผื่นคันจากการแพ้อากาศ โรคเชื้อรา โดยนำรากมาต้มกับน้ำแล้วมาผสมน้ำอาบ
9. ถอนพิษจากสัตว์ ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมจากแมงสัตว์มีพิษกัดต่อย
10. ดับพิษร้อน ขับพิษไข้ ขับเหงื่อ แก้ร้อนใน แก้ปวดศีรษะ คออักเสบ
11. รักษาแผล ใช้เป็นยาพอกภายนอกสำหรับแผลพุพอง แผลที่เกิดจากฝี แผลเรื้อรัง
12. แก้ปวด นำรากมาต้มกับน้ำดื่ม บรรเทาปวดตามข้อ ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดเอว ลดบวม
13. สรรพคุณอื่นๆ เช่น ใช้เป็นยาบำรุงสตรีหลังคลอดบุตร ใช้ขับพยาธิ รักษาโรควัณโรค เป็นต้น
14. กระตุ้นฮอร์โมนเพศชาย ช่วยเพิ่มความแข็งแรง ความอดทนของกล้ามเนื้อให้กับนักกีฬา
ปลาไหลเผือกช่วยเพิ่มขนาดได้จริงหรือ?
มีการวิจัยและศึกษาทดลองกับหนูทดลองสูงอายุ หนูอายุปานกลางและหนูที่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ผลที่ได้คือรากปลาเผือกช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศจริง โดยช่วยปลุกเร้าอารมณ์ เพิ่มระยะเวลาความทนทานในการมีเพศสัมพันธ์ แต่ยังไม่มีการทดลองนี้ในคน จากการทดลองต่างๆ มีการพัฒนาต่อยอดมาจนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่ถูกจดสิทธิบัตรไปแล้วในต่างประเทศเช่น ช่วยเพิ่มความแข็งแรงในนักกีฬา ช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย ช่วยรักษาอาการหัวล้านในผู้ชาย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอาหารเสริมอีกหลายตัวแต่สรรพคุณจะมุ่งเน้นไปทางการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศเกือบทั้งหมด
โทษ-ผลข้างเคียง-ข้อระวังในการทานปลาไหลเผือก
1. หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานอาจจะมีผลต่อตับ ทำให้ตับอักเสบ
2.รากปลาไหลเผือกมีฤทธิ์เบื่อเมา ดังนั้นอาจจะมีผลข้างเคียงทำให้ปวดศีรษะ วิงเวียน มีไข้หรืออ่อนเพลียได้
3. ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน เมื่อรับประทานแล้วควรหยุดเป็นระยะๆ โดยระยะเวลาที่หยุดต้องนานเท่ากับระยะเวลาที่ทาน
4. หากรับประทานนานๆ อาจมีผลต่อฮอร์โมนแอนโดรเจน ทำให้นอนไม่หลับ เพิ่มความเสี่ยงในการทำให้ต่อมลูกหมากโต
5. สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยทาน ควรเริ่มทานแต่น้อย เพื่อลดผลข้างเคียงที่อาจจะตามมา
6.ไม่ควรทานแบบใช้ดองกับเหล้า เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้มีสารอัลคาลอยด์ซึ่งมีความเป็นพิษประกอบอยู่ปริมาณมาก ซึ่งสารนี้สามารถละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ จึงไม่ควรนำมาดองกับเหล้ารับประทาน
ปลาไหลเผือกถือเป็นสมุนไพรที่คนทั่วๆ ไปไม่ค่อยรู้จักกันมากนัก แต่จากสรรพคุณและประโยชน์ของปลาไหลเผือกที่มีมาก ไม่เฉพาะด้านการบำรุงสมรรถภาพทางเพศเท่านั้น ยังช่วยบำรุงร่างกาย ถอนพิษไข้ ถอนพิษสัตว์ร้ายต่างๆ รวมไปถึงยังสามารถใช้บำบัดยาเสพติดได้อีกด้วย เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมหัศจรรย์จนน่าทึ่งขนิดหนึ่งเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,850.00 | 26,050.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,674.00 | 25,377.84 | 26,550.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,506.60 | 22,840.06 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,339.20 | 20,302.27 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 753.00 | 11,415.48 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 586.00 | 8,883.76 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,735.00 | 26,302.60 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 14/05/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 17.74 | 17.74 | 17.74 | 17.74 | 17.74 | – | 17.74 | 17.74 | 17.74 | 17.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 16.39 | 16.39 | – | – | – | – | – | 16.39 | – | – |
เบนซิน 95 | 26.66 | – | – | – | 27.11 | – | 27.16 | 26.66 | – | 26.66 |
ดีเซล | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 |
ดีเซล B10 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | – | 15.79 |
ดีเซล B20 | 15.54 | 15.54 | 15.54 | 15.54 | 15.54 | – | 15.54 | 15.54 | – | 15.54 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 22.64 | 22.66 | 24.64 | 24.64 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |