‘เหนือกว่า-ถูกกว่า-สะดวกกว่า’ ทีเด็ด ‘เอสเตทกูรู’
ปัจจุบันธุรกิจอสังหาฯ ต้องผจญกับปัจจัยลบ ทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย กำลังซื้อหดตัว สถาบันการเงินเข้มงวด ซํ้าเติมด้วยมาตรการคุมเข้มสินเชื่อใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้หลายค่ายต่างตั้งรับและปรับตัว เน้นกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่จริง ไม่ขยายโปรเจ็กต์ใหญ่เกินตัว เพราะเชื่อว่า “หากลูกค้าอยากได้บ้าน…แม้จะมีกฎเกณฑ์มากมาย มากีดขวางเขาก็ซื้อ” ไม่ต่างกับมุมคิดของ นายสรวุฒิ มานะสมจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเตท กูรู จำกัด ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า
สรวุฒิ มานะสมจิตร
“เหนือกว่า-ถูกกว่า-สะดวกกว่า”
ผลกระทบจาก LTV ของแบงก์ชาติ ไม่กระทบเนื่องจากเน้นโครงการบ้านหลังแรก พัฒนาโครงการแบบค่อยเป็นค่อยไป หัวใจสำคัญคือ ต้องให้มากกว่าคู่แข่ง ที่ยึดมาโดยตลอด 10 ปี นับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่แวดวงอสังหาฯ คือ “เหนือกว่า-ถูกกว่า-สะดวกกว่า” ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ไม่ว่าบ้านหรือคอนโดมิเนียม ยกตัวอย่าง ทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ราคา 1 ล้านบาทปลายๆ ทำเลต่างจังหวัด ทุกโครงการมีซุ้มประตูสระว่ายนํ้า สโมสร วัสดุดีเยี่ยมไม่ลดสเปก ถนนในโครงการกว้าง ซึ่งในทำเลเดียวกัน คู่แข่งไม่มี นี่คือข้อได้เปรียบ แม้แต่ค่ายใหญ่ ก็ไม่สามารถแย่งลูกค้าได้
ที่ผ่านมา บริษัทมักเน้นพัฒนาโครงการที่มีคู่แข่ง เนื่องจาก มีความท้าทาย และแสดงให้เห็นข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจน การแชร์มาร์เก็ตติ้ง ทำให้ดึงคนเข้ามาดูในโครงการ ที่สำคัญยังเน้น พัฒนาโครงการ ตามต่างจังหวัดมากกว่า เนื่องจากต้นทุนที่ดินตํ่า เช่นโครงการที่ปลวกแดงจังหวัดระยอง เน้นสมาร์ทโฮมซิเคียวริตี เพราะเชื่อว่าผู้บริโภคต้องการความปลอดภัย ส่วน โครงการแปลงข้างเคียงให้เพียงซีซีทีวี ซึ่งมองว่า “ธรรมดา”
ขณะที่ทำเลพัทยา บริษัทเน้นบ้านแนวราบ เจาะคนพื้นที่ขณะ ค่ายใหญ่และคู่แข่งเน้นคอนโดมิเนียมเจาะคนกรุงเทพฯและนักท่องเที่ยว สุดท้ายผู้บริโภคกลับมาสนใจ บ้านมากกว่า นายสรวุฒิ มองว่าทำเลเดียวกันไม่ติดทะเลเหมือนกัน หาก พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม เชื่อว่าจะเสียเปรียบ เพราะราคาและพื้นที่ใช้สอย คนจะเลือกบ้านมากกว่าทำให้โครงการที่ผ่านมาขายค่อนข้างดี
เทรนด์ลูกค้า
สไตล์บ้าน ส่วนใหญ่เน้นสไตล์โมเดิร์นเรียบง่ายเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายเพราะเป็นกลุ่มตลาดกลางล่าง ที่เข้ามาหลายกลุ่มมากกว่า โดยบริษัทไม่กล้าฉีกแนวไปมาก เช่น แนวอังกฤษ เนื่องจากกลุ่มคนมีน้อยที่ชอบลักษณะนี้ หลายคนอาจไม่ชอบ บัว ปูนปั้น แบบโรมัน ฯลฯ การแข่งขัน ชอบเปิดโครงการที่มีคนเปิดแข่งขันด้วย มันเหมือนการแชร์มาร์เก็ตติ้งคือการดึงคน ทั้งนี้หาก เหนือกว่าก็ย่อมขายได้
สำหรับความได้เปรียบ เอ็มดีหนุ่มอธิบายว่า ที่ผ่านมา มีแลนด์แบงก์สะสม รอพัฒนา และมีบางแปลงซื้อเพิ่มเติม เพื่อความเหมาะสมด้านการตลาด หากเห็นว่ามีลูกค้าเป้าหมาย ล่าสุดเตรียมพัฒนาบ้านแนวราบ เช่น อยุธยา ติดนิคมอุตสาหกรรม มีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก
ปั้นพระราม 2 ชนคู่แข่ง
นายสรวุฒิ ย้อนอดีตให้ฟังว่า ก่อนเข้าสู่วงการอสังหาฯ เคยเป็นโบรเกอร์ขายบ้าน เนื่องจากดูโปรเจ็กต์มากกว่า 20 โครงการในมือ จึงเริ่มเปิดโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรก แบรนด์ “ออริจิ้น” ทำเลพระราม 2 ติดถนน เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นคอนโดมิเนียมยังไม่บูม ยังไม่มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้น ไม่มีข้อเปรียบเทียบกับคู่แข่งจึงสามารถวางแผนเปิดตัว 500 หน่วย หลังจากนั้นพัฒนามาทั้งแนวสูงแนวราบ เรื่อยมา แต่หลักๆ บริษัทจะเน้นแนวราบ มองตลาดแนวราบ เนื่องจากความเสี่ยงน้อยกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
GDP เข็มทิศอสังหาฯ 6 แสนล้าน จี้รัฐกระตุ้นเศรษฐกิจ
คอลัมน์ผ่ามุมคิด
จากแนวโน้มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) ถูกหลายปัจจัยกดดัน ทั้งทิศทางเศรษฐกิจโลก เงินบาทแข็งค่า การส่งออกทรุด และจำนวนนักท่องเที่ยวในประเทศขยายตัวตํ่าลงส่งผลหลายสถาบัน รวมถึงคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ล่าสุดปรับกรอบประมาณการ GDP ไทยในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.9-3.3% จากเดิม 3.7-4.0% ยิ่งตอกยํ้าความน่ากังวลในการทำธุรกิจของภาคเอกชน รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่เริ่มตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันยังไร้ปัจจัยสนับสนุน
จี้รัฐบาลสร้างความเชื่อมั่น
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้บริษัทยังไม่มีความชัดเจนถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2562 เนื่องจากต้องการรอดูแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เพิ่งผ่านกระบวนการจัดตั้งเสร็จสิ้นแล้ว โดยคาดหวังว่ารัฐบาลจะเร่งออกมาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมในประเทศเป็นอันดับแรก เพราะถือเป็นผลงานสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนได้ อย่างไรก็ตามจะช่วยพยุงการเติบโตของตลาดอสังหาฯด้วย หลังจากที่ผ่านมาปฏิิเสธไม่ได้ว่าตลาดอสังหาฯ ผูกติดกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ มีมูลค่าการซื้อ-ขาย แต่ละปี 6 แสนล้านบาท หรือ 2 เท่าตัว ของ GDP เช่น ปีที่ GDP เติบโตสูง 4% ได้ผลักดันให้ตลาด อสังหาฯเติบโตสูงถึง 8% ในทางกลับกันครั้งที่เกิดอุบัติเหตุทาง การเมือง GDP ประเทศทรุดเหลือ 2% ก็ทำให้ตลาดชะลอตัวเติบโตเพียง 3-4% เท่านั้น ไม่นับรวมผลกระทบปลายนํ้าถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่อง อีก 5เท่าตัว ทั้งธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และของใช้ภายในบ้าน เป็นต้น
อุทัย อุทัยแสงสุข
นอกจากนี้ยังระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนของไทยที่แข็งค่า นอกจากจะส่งผลให้การส่งออกหดตัว นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศลดน้อยลงแล้ว ยังทำให้จำนวนนักลงทุนต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในอสังหาฯไทย ลดความสนใจลงด้วย เช่น กลุ่มผู้ซื้อคนจีน ที่เดิมทีเผชิญกับปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐฯอยู่ก่อนแล้ว เงินลงทุนสูงขึ้นความคุ้มค่าลดลง
นอกจากนี้ยังระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนของไทยที่แข็งค่า นอกจากจะส่งผลให้การส่งออกหดตัว นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศลดน้อยลงแล้ว ยังทำให้จำนวนนักลงทุนต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในอสังหาฯไทย ลดความสนใจลงด้วย เช่น กลุ่มผู้ซื้อคนจีน ที่เดิมทีเผชิญกับปัญหาสงครามการค้ากับสหรัฐฯอยู่ก่อนแล้ว เงินลงทุนสูงขึ้นความคุ้มค่าลดลง
LTV ฉุดตลาดรูด
ขณะที่ปัจจัยเรื่องหลักเกณฑ์การกำกับดูแล สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ยอมรับว่าขณะนี้ได้ส่งผลต่อตลาดและภาพรวมของเศรษฐกิจแล้ว ซึ่งจากปัจจัยต่างๆ ทำให้หลายบริษัทชะลอความเร็วที่จะมีการเปิดโครงการใหม่ลง เช่นเดียวกับแสนสิริ ที่กำหนดตัวเองอยู่ในช่วงตั้งรับ ก่อนตัดสินใจเดินเครื่อง หรือถอยหลังปรับเป้าหมายต่างๆ ลดลง ตามทิศทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้
“ที่ผ่านมารัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการลดดอกเบี้ย หรือกระตุ้นอสังหาฯ คราวนี้ยังรอดูนโยบายว่าจะสนับสนุนอย่างไร คาดภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะเห็นภาพชัด เลวร้ายสุด แผนการเปิดโครงการใหม่อาจไม่เป็นไปตามเป้า หรือคงเท่าเดิม ขณะนี้ทุกรายพากันชะลอความเร็วกันหมดก่อนตัดสินใจจะเดินไปซ้ายหรือขวาขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ”
นายอุทัย ยังเปิดเผยว่า ช่วงครึ่งแรกปี 2562 แสนสิริ เปิดตัวโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่า 1.4หมื่นล้านบาท จากเป้าทั้งปี 28 โครงการ มูลค่า 4.66 หมื่นล้านบาท ส่วนเป้ายอดขายยังคงไว้ที่3.6 หมื่นล้านบาท ล่าสุด 6 เดือน ทำได้ 1 หมื่นล้านบาท โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ 3 ปี(backlog) จำนวน 5.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากโครงการแนวสูง
ทั้งนี้ ล่าสุดจับมือหลักกับ บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (GC) และพันธมิตรธุรกิจด้านเฟอร์นิเจอร์ ร่วมพัฒนาเฟอร์นิเจอร์ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า นำร่อง 32 โครงการ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
การปรับตัวของตลาดก่อนมาตรการป้องปรามเก็งกำไรเงินบาทมีผลบังคับใช้
ในส่วนของกระแสเงินทุนต่างชาติในสัปดาห์ที่ผ่านมาไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิประมาณ 17,676 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น 19,523 ล้านบาท ซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว 2,147 ล้านบาท และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ 300 ล้านบาท
พบคนป่วยอาหารเป็นพิษ 7 เดือน 5.7 หมื่นราย
จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค สถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-8 กรกฎาคม 2562 พบผู้ป่วยแล้ว 57,140 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คืออายุ 15-24 ปี รองลงมาอายุ 65 ปีขึ้นไป และอายุ 55-64 ปี ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ยอมเกินงบ “ปืนใหญ่” ทำช็อก ยื่นซื้อเป้าหมายหงส์-ผี 71.8 ล้านปอนด์
ติดเทคโนโลยีดูแลผู้สูงอายุเล็งขยายผล 200 แห่งทั่วประเทศ
เนคเทค ผนึกสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทย“การพัฒนาและขยายผลการใช้ประโยชน์ระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุ”เพื่อเป็นการยกระดับการดูแลและการให้บริการผู้สูงอายุในสถานดูแลผู้สูงอายุที่เป็นสมาชิกของสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลรองรับสังคมสูงอายุคุณภาพในอนาคต
ดร.กัลยา อุดมวิทิต รองผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(เนคเทค) สวทช. เปิดเผยว่าการลงนามความร่วมมือการพัฒนาและขยายผลการใช้ประโยชน์ระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุเพื่อยกระดับการบริหารจัดการสถานดูแลผู้สูงอายุและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการปฏิบัติงานของผู้ดูแลผู้สูงอายุซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุให้ได้รับการดูแลที่ดีด้วยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุที่เหมาะสมอีกทั้งยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถด้านการวิจัยพัฒนาทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุเพื่อสร้างอุตสาหกรรมการบริการและดูแลผู้สูงอายุของประเทศให้มีศักยภาพในการรองรับสังคมผู้สูงวัยในอนาคต
ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์(Aged Society) ในปี2564 ซึ่งจะมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปถึงร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมดจากนั้นจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุระดับสูงสุด(Super Aged Society) ในปี2574 จะมีประชากรสูงอายุถึงร้อยละ28 ทำให้หลายฝ่ายตระหนักและให้ความสำคัญกับการเตรียมการรองรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังจะมาถึงในระยะเวลาอันใกล้นี้รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญต่อการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัยและมีแผนงานบูรณาการซึ่งดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องและมีความก้าวหน้ามาโดยลำดับผ่านโครงการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่ออนาคตสังคมสูงวัยส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีการบริการที่เหมาะสมและเอื้อต่อการดำรงชีวิต
ดร.กัลยา กล่าวว่าสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม(อว.) โดยศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยีร่วมกับศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ดำเนินการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อผู้สูงอายุร่วมมือกับสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทยซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทยของผู้ประกอบการกิจการผู้สูงอายุในประเทศเพื่อนำระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุไปใช้งานมุ่งหวังให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาโดยนักนวัตกรและนักวิจัยไทยสามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาธุรกิจการให้บริการและดูแลผู้สูงอายุพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับผู้ดูแลผู้สูงอายุ(ผู้ใช้งาน) และผู้สูงอายุ(ผู้รับบริการ) ได้อย่างแท้จริง
สวทช. โดยทีมนักวิจัยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์(A-MED) และสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทยได้นำระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุไปใช้ในระยะนำร่องปี2562 ที่บ้านทิพย์รดาเอลเดอรี่แคร์ซึ่งมีความพร้อมในการร่วมพัฒนาและขยายผลการใช้งานระบบบริหารสถานดูแลผู้สูงอายุร่วมกับทีมวิจัยนวัตกรรมและข้อมูลเพื่อสุขภาพเสริมสร้างการให้บริการดูแลผู้สูงอายุให้มีประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น
“จากการที่ได้สำรวจพื้นที่และความต้องการในเบื้องต้นจึงมีแผนพัฒนาระบบเช่นระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพของผู้สูงอายุข้อมูลทางสุขภาพของผู้สูงอายุจะได้รับการติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดโดยจะมีการพัฒนาเครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสุขภาพในรายบุคคลและจะแจ้งเตือนหรือแนะนำผู้ดูแลให้ดำเนินการแก้ไขได้อย่างเหมาะสมระบบบริหารการดูแลผู้สูงอายุ(Care Plan Management)เป็นเครื่องมือในการช่วยการวางแผนติดตามควบคุมคุณภาพการดูแลผู้สูงอายุสร้างความมั่นใจในบริการสำหรับญาติหรือผู้เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุระบบบริหารจัดการด้านโภชนาการของผู้สูงอายุเพื่อคำนวณอาหารที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุที่ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์และครบถ้วนและระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นผู้ดูแลสถานดูแลสามารถแจ้งไปที่สายด่วน1669 ซึ่งจะมีการส่งข้อมูลพิกัดสถานดูแลผู้สูงอายุพร้อมกับข้อมูลพื้นฐานทางสุขภาพของผู้สูงอายุไปพร้อมกันด้วยทำให้การตอบสนองให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น”
อย่างไรก็ตามการร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญในการนำงานวิจัยไปพัฒนาต่อยอดและร่วมแก้ปัญหาที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานอีกทั้งยังสามารถขยายผลให้ครอบคลุมไปยังผู้ประกอบการกิจการผู้สูงอายุรายอื่นซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทยอีกกว่า200 แห่งทั่วประเทศอันจะเป็นการยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมการให้บริการและดูแลผู้สูงอายุไทยได้อย่างครอบคลุมทั้งมิติทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อคุณภาพของผู้สูงอายุที่ดีขึ้นสร้างโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจยุคเศรษฐกิจสูงวัยให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนต่อไป
นายแพทย์ฆนัท ครุธกุล นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจบริการผู้สูงอายุไทยกล่าวว่าสมาคมฯมีผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกประมาณ300 คนโดยสมาคมฯทำหน้าที่ในการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานบริการของสมาชิกเพื่อส่งเสริมให้เกิดคุณภาพที่เป็นมาตรฐานในการบริการที่ดีซึ่งจะส่งต่อการดูแลผู้สูงอายุที่ดีขึ้นด้วยทั้งนี้สมาคมฯได้หารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการจัดทำมาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องเพราะผู้สูงอายุจำเป็นต้องรับทราบว่าสถานบริการไหนมีมาตรฐานทั้งในเรื่องคุณภาพบริการและการไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคนอกจากนั้นแล้วสมาคมฯเตรียมที่จะทำป้ายสัญลักษณ์ให้ทราบว่าสถานบริการดังกล่าวเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ซึ่งในกรณีที่มีปัญหาสามารถประสานมาที่สมาคมฯเพื่อเป็นตัวกลางในการประสานงานเรื่องต่างๆได้รวมทั้งเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆจากสวทช. เพื่อนำงานวิจัยมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคมผู้สูงอายุซึ่งสมาคมฯจะหารือร่วมกับสมาชิกเพื่อมีการถ่ายทอดองค์ความรู้และใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเพื่อดูแลผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 20,550.00 | 20,650.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,331.00 | 20,177.96 | 21,150.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,197.90 | 18,160.16 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,064.80 | 16,142.37 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 599.00 | 9,080.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 466.00 | 7,064.56 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,379.00 | 20,905.64 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/07/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 27.85 | 28.35 | 28.35 | 28.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 27.58 | 28.08 | 28.08 | 28.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | – | 24.84 | 25.34 | 25.34 | 25.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.39 | 20.39 | – | – | – | – | – | 20.39 | – | – |
เบนซิน 95 | 35.76 | – | – | – | 36.21 | – | 35.76 | 36.06 | – | 36.06 |
ดีเซล | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 26.59 | 27.09 | 27.09 | 27.09 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.09 | 26.09 | – | – | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.88 | 15.88 | – | – | – | – | – | – | – | – |