คอนโดทะเลเดือด ‘บิ๊กเนม’จุดไฟ สงครามราคา
ตลาดคอนโดมิเนียมเดือด รายใหญ่งัดกลยุทธ์ราคาเรียกลูกค้า ชี้ไตรมาส 4 เล่นหนัก พบทำเลจรัญสนิทวงศ์ช่วงบางอ้อ สุขุมวิท-พระราม 4 โอกาสดีลูกค้าเงินเย็นและซื้อลงทุน
ภัทรชัย ทวีวงศ์
อย่างไรก็ตาม พบสัญญาณน่ากังวลอีกประการ ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา ตลาดมีความเปลี่ยนแปลง เรื่องราคา โดยผู้ประกอบการส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะรายใหญ่ เริ่มนำกลยุทธ์สงครามด้านราคามาใช้ในการเพิ่มยอดขาย ตั้งราคาขายตํ่ากว่าตลาด และตํ่ากว่าราคาที่คู่แข่งเปิดตัว ซึ่งคาดว่าจะมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากในช่วงโค้งสุดท้ายของปี แม้จะเป็นจังหวะที่ดีของผู้บริโภค ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และนักลงทุนปล่อยเช่าระยะยาว มีโอกาสเลือกซื้อโปรดักต์หลากหลายในราคาไม่แพงมากนัก จากโครงการที่เปิดขายในราคาตํ่ามาก เทียบเท่ากับราคาย้อนหลังเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
แต่ในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อตลาดได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อซัพพลายที่เปิดขายก่อนหน้า โดยเฉพาะสินค้าราคาสูงที่คงค้างรอขายหลายโครงการ นอกจากผู้ประกอบการนั้นๆ จะพับแผนปิดโครงการไป หรือ ปรับรูปแบบ และราคาให้ตํ่าลง ซึ่งถือเป็นเรื่องยาก เพราะมีต้นทุนราคาที่ดินที่ซื้อมาเป็นข้อจำกัดอยู่
นายภัทรชัย ยังกล่าวว่า ทำเลที่น่ากังวลถึงซัพพลายเกิดใหม่ คือ โซนแนวรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินส่วนต่อขยาย โดยเฉพาะช่วง สถานีภาษีเจริญ (ซีคอน บางแค) เพราะมีโครงการขนาดใหญ่เตรียมเปิดขายอีก 3 โครงการ นับจำนวน 6 พันหน่วย ซึ่งจะเป็นการซํ้าเติมตลาด เพราะปัจจุบันโซนดังกล่าว ยังมีซัพพลายสะสมคงค้างจำนวนมากประมาณ 8 พันหน่วยที่รอระบายขายออก
ทั้งนี้ ระดับราคาคอนโดฯ ที่น่าสนใจ และยังเป็นที่ตอบรับของตลาด คือ 1-1.2 แสนบาท/ตร.ม.และ 1.5-2 แสนบาท/ตร.ม. หรือ ตลาดกลางบนถึงตลาดบน เพราะยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ โดยเฉพาะตลาดคอนโดฯย่านเอกมัย -สุขุมวิท 71 พบจำนวนซัพพลายสะสมไม่มาก และตลาดเริ่มมีความคึกคัก จากผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่ที่เข้ามาแย่งชิงกำลังซื้อทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ส่งผลให้ราคาขายปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ที่เป็นโอกาสจริงๆ คือ กลุ่มคอนโดฯโลว์ไรส์ ช่วงราคาตํ่ากว่า 1.55 แสนบาท/ตร.ม. พบผลกำไรจากการลงทุนในตลาดโซนนี้ ขึ้นมา 70% หรือ ปีละ 7% ถือว่าสูงมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อสังหากัมพูชาบูม ตลาดลิฟต์ระอุ
ฮิตาชิลุยตลาดลิฟต์กัมพูชารองรับการขยายตัวของอสังหาฯ มิกซ์ยูส กาสิโน ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 25%
การเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศกัมพูชาเติบโต 6-7% ติดต่อกันต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี โดยเฉพาะอุตสาหกรรมสิ่งก่อสร้างมีการลงทุนในธุรกิจต่างๆ รวมทั้งอาคารสำนักงาน อาคารสูง คอนโดฯ หรู ห้างสรรพสินค้า ซึ่งผู้ลงทุนรายใหญ่กว่าครึ่งคือจีน และส่วนใหญ่จะมาลงทุนในแบบคอนโดฯ ที่พักอาศัย ที่ขายเสร็จแล้วกลับทำให้ช่องว่างในกลุ่มห้างสรรพสินค้า กาสิโน มิกซ์ยูส อาคารอื่นๆ ยังมีโอกาส เราจึงเดินหน้าลุยตลาดลิฟต์ในกัมพูชามาตลอด 2 – 3 ปีที่ผ่านมา
นายศักดิ์ชาย วรสง่าศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (กัมพูชา) จำกัด เผยว่าความต้องการใช้ลิฟต์และบันไดเลื่อนในกัมพูชาเติบโตต่อเนื่องปีละ 10% จากดีมานด์ที่มีอยู่ 1,500 ยูนิต บริษัท ฮิตาชิ เอลลิเวเตอร์ (กัมพูชา) จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จำหน่าย และให้บริการลิฟต์และบันไดเลื่อนภายในกรุงพนมเปญ โดยนำเอาลิฟต์ที่ผลิตในไทยเข้าไปจัดจำหน่าย และโครงการแรกที่เรารุกตลาดกัมพูชา คือ ห้าง AEON Mall กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งในปีแรกที่เข้าไปดำเนินธุรกิจคือปี 2560 บริษัททำยอดขายได้ 50 ยูนิต และขยายตัวขึ้นในปี 2561 เป็น 100 ยูนิต
ศักดิ์ชาย วรสง่าศิลป์
นายศักดิ์ชาย เผยอีกว่า กัมพูชาลิฟต์ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้บริโภค เพราะชาวกัมพูชามีประสบการณ์ร่วมในการใช้ลิฟต์ยังน้อยหรือประมาณ 5-10 ปี หากเทียบกับไทยที่มีประสบการณ์รวมมาแล้วกว่า 40 ปี อีกหนึ่งช่องว่างที่ทำให้ตลาดลิฟต์ในกัมพูชารุกแบบต่อเนื่อง คือ เป็นตลาดเปิด ยังไม่มีกฎหมาย หรือข้อกำหนด มาตรฐาน ควบคุมการซื้อ ขายติดตั้ง ลิฟต์ และบันไดเลื่อน ดังนั้นการนำเข้าจากประเทศต่างๆ สามารถนำเข้ามาขายได้อย่างเสรี ลูกค้ามีสิทธิ์เลือกซื้อ ได้จากผู้แทนจำหน่ายที่มีจำนวนมากมายในประเทศ รวมถึงสามารถสั่งซื้อตรงได้จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศ จีน และ เวียดนาม ซึ่งมีราคาถูกมาก
“สำหรับกลุ่มลูกค้าของเรา ฮิตาชิ เน้นความปลอดภัยและคุณภาพของสินค้า ดังนั้นการทำธุรกิจในกัมพูชาต้องมีความจริงใจกับผู้บริโภค ขายสินค้าที่มีคุณภาพ การสร้างความพึงพอใจของบริการหลังการขาย และการใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ที่เหมาะสม ซึ่งผมเลือกใช้การสร้างเครือข่ายกับกลุ่มผู้ประกอบการภาคก่อสร้าง นักลงทุน วิศวกร และสถาปนิกรุ่นใหม่เป็นหลัก ซึ่งสินค้า ฮิตาชิ แบรนด์ ญี่ปุ่น ที่ผลิตจากประเทศไทยเป็นจุดแข็งที่สร้างความมั่นใจ ให้แก่ลูกค้า” นายศักดิ์ชาย กล่าวเสริม
ด้านแผนพัฒนาการรุกธุรกิจต่อจากนี้ ในปี 2562 ตั้งเป้าไว้ที่ 150 ตัว สำหรับยอดขาย โดยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสามารถจำหน่ายไปได้แล้วกว่าครึ่งหรือประมาณ 80 ตัว และภายในปี 2564 ฮิตาชิคาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดลิฟต์ในกัมพูชา 25% และจะขยายอย่างต่อเนื่องด้วยการบริการที่ดีของเรา
อย่างไรก็ดี เมื่อสอบถามไปยังตลาดลิฟต์ในประเทศไทยเป็นอย่างไร ทางผู้บริหารให้ความเห็นกลับมาว่า น่าจะทรงตัว เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ไม่ลงทุนโครงการตึกสูง ทำให้ภาพรวมตลาดลิฟต์ทุกยี่ห้อ มีความต้องการ (ดีมานด์) ลดลง จากปัจจุบันมีดีมานด์ปีละ 7,000-8,000 ยูนิต โดยฮิตาชิ มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ปีที่ผ่านมามียอดขาย 800 ยูนิต ด้านตลาดลิฟต์ในกลุ่มซีแอลเอ็มวี เป็นอย่างไร ทางผู้บริหารให้ความเห็นว่า มีโอกาสขยายตัวโดยเฉพาะที่กัมพูชามีโอกาสสูง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สรรพสามิตเดินหน้าขึ้นภาษีบุหรี่40%
สรรพสามิตเมินข้อเสนอชาวไร่ยาสูบ เลื่อนขึ้นภาษีบุหรี่ 40% สะเทือนผลการดำเนินงาน ยสท. หนัก
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของชาวไร่ยาสูบให้ขยายเวลาการขึ้นภาษีบหรี่เป็นอัตราเดียว 40% ในวันที่ 1 ต.ค. 2563 ออกไปอีก ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความชัดเจนมานานแล้ว และที่ผ่านมากรมสรรพสามิตก็ขยายเวลาให้มาอีก 1 ปี จากเดิมที่ต้องขึ้นในวันที่ ต.ค. 2562 ถือว่าให้เวลาผู้ประกอบการรวมถึงชาวไร่มากพอสมควร ดังนั้นกรมสรรพสามิตจึงยืนยันการขึ้นภาษีบุหรี่ตามเวลาที่กำหนดไว้เดิม
“ใกล้ๆ ค่อยว่ากัน อาจจะมีการพิจารณาอีกครั้ง คือถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งทุกฝ่ายกำลังดูกันอยู่ เพราะมันเกี่ยวข้องกับการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ได้รับผลกระทบ ทำให้การขึ้นภาษีบุหรี่มีปัญหา” นายพชร กล่าว
นายพชร กล่าวว่า สำหรับการที่ชาวไร่ยาสูบอ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะรัฐบาลยกเว้นการเก็บภาษียาเส้น แต่ไม่ยกเส้นการขึ้นภาษีบุหรี่นั้น ทางกรมสรรพสามิตยืนยันว่ายาเส้นไม่มีการขึ้นภาษีมานาน การขึ้นที่ผ่านมาอัตราสูงแต่คิดเป็นจำนวนเงินที่เสียเพิ่มขึ้นนิดเดียว จากราคาขายปลีกห่อละ 13 บาท มาเป็น 15 บาท แต่ว่ามีปัญหาในทางปฏิบัติมีกระบวนการไม่ได้ผลัดต้นทุนภาษีที่เพิ่มขึ้นไปที่ราคา ทำให้ระบบขายยาเส้นมีปัญหา ทำให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแนวทางแก้ไข ให้มีการยกเว้นการเก็บภาษียาเส้นเป็นการชั่วคราวไปก่อน
“เมื่อเทียบราคาบุหรี่ของประเทศไทย กับประเทศอื่นก็ไม่ได้สูง ให้มีการขึ้นภาษีบุหรี่เป็น 40% ราคาบุหรี่ไทยก็ยังอยู่ในราคาที่เหมาะสม ทาง ยสท. จะปรับตัวกับภาษีบุหรี่ที่ขึ้นได้หรือไม่ ก็ต้องฝากความหวังไว้กับการบริหารจัดการของ ยสท. ไม่นั้นระบบการขึ้นภาษีบุหรี่ก็จะรวน” นายพชร กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ความหวังใหม่!! วัคซีนต้านมะเร็ง ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม
ได้มีการรายงานเกี่ยวกับวัคซีนซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบที่ Mayo Clinic วัคซีนชนิดนี้สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมได้
Lee Mercker สาวฟลอริด้า เป็นผู้ป่วยรายแรกที่เข้าร่วมการทดลองกับทางคลินิกแห่งนี้สำหรับวัคซีนใหม่ล่าสุด หลังจากที่เธอได้รับการวินิจฉัยเมื่อเดือนมีนาคมว่ากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะแรก เธอเป็นมะเร็งเต้านมระยะศูนย์ “DCIS stage zero” ซึ่งหมายความว่าเซลล์มะเร็งยังไม่แพร่กระจายลุกลามออกไปเป็นมะเร็งที่อยู่เฉพาะที่เท่านั้น ซึ่งเธอมีทางเลือกอยู่ 3 ทาง การผ่าตัดเอาเซลล์มะเร็งออกไป, การผ่าตัดออกทั้งเต้านม หรือเข้าร่วมการทดลองกับทางคลินิก เพื่อรับวัคซีนที่อาจช่วยชีวิตเธอโดยการฆ่าเซลล์มะเร็งและยังช่วยป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
วัคซีนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบซึ่งได้มีผลรายงานว่าวัคซีนมีส่วนช่วยในการฆ่าเซลล์มะเร็งในผู้ป่วยมะเร็งเต้านมได้แล้ว นักวิจัยจากทางคลินิก Mayo ดร. Keith L. Knutson กล่าวว่า เนื่องจากการวิจัยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ถึงจะมีการทดลองวัคซีนระยะที่ 3 สำหรับผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมาก อีกทั้งกระบวนการทดสอบมีค่าใช้จ่ายที่สูง จากการทดลองวัคซีนในระยะที่ 2 มีค่าใช้จ่ายถึง 12-20 ล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการทำการทดลอง และการทดลองวัคซีนระยะที่ 3 นั้นมีค่าใช้จ่ายเป็น 2 เท่า
“วัคซีนจะกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยเพื่อให้เซลล์ภูมิคุ้มกัน เช่น T-cell (ทีเซลล์) มุ่งเข้าไปโจมตีเซลล์มะเร็งโดยตรง” ดร. ศรัญญา ชุมศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งจากศูนย์การแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกกล่าว
แต่ทั้งนี้ Mercker เธอยังคงต้องได้รับการผ่าตัดเต้านมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเซลล์มะเร็งที่อาจหลงเหลืออยู่ อีกทั้งนักวิจัยจะได้ตรวจสอบดูเนื้อเยื่อเต้านมเพื่อตรวจสอบถึงการออกฤทธิ์ของวัคซีนอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com
“เจ็ตสกีไทย” กระหึ่มสหรัฐฯ วันเดียวผงาดคว้า 2 แชมป์โลก
ทัพเจ็ตสกีไทย ผลงานเยี่ยมคว้าวันเดียว 2 แชมป์โลกในรุ่นระดับอาชีพของการแข่งขัน “การบินไทย เจ็ตสกี เวิลด์ ไฟนอล 2019” ที่เมืองเลค ฮาวาซู รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐฯเมื่อวันที่ 12 ต.ค. อรรถพล คุณสา ได้แชมป์รุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี ตามคาด ขณะที่ อรพรรณ ธีรพัฒน์พาณิชย์ คว้าแชมป์เจ็ตสกีนั่งประเภทหญิง
วันที่ 13 ต.ค. 62 ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์โลกรายการ “การบินไทย เจ็ตสกี เวิลด์ ไฟนอล 2019” ซึ่งเป็นสนามที่ 2 ของ “เจ็ตสกี เวิลด์ ซีรีส์ 2019” จำนวน 3 สนาม (เบลเยียม, สหรัฐฯ, ไทย) ภายใต้ลิขสิทธิ์จัดการแข่งขันของคนไทย ทำการแข่งขันในรุ่นอาชีพที่มีแชมป์โลกเป็นเดิมพันมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ตามเวลาท้องถิ่นเมืองเลค ฮาวาซู ซิตี้ รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐฯ
โดยทัพเจ็ตสกีไทยคว้าแชมป์โลกในรุ่นสำคัญเพิ่มมาได้อีก 2 รุ่น โดยเฉพาะรุ่นสำคัญระดับอาชีพ และเป็น 1 ใน 16 รุ่นที่จะคิดคะแนน 3 สนาม เบลเยียม, สหรัฐฯ และไทย เพื่อหาตำแหน่งแชมป์โลกตัวจริง ในเรือนั่งในรุ่นอาชีพเจ็ตสกีนั่ง 1,100 ซีซี ห้ามแต่งเครื่องยนต์ (Pro-Am Runabout 1,100 Stock) ที่ทำการแข่งขัน 2 โมโต
หลังจากที่โมโตแรกเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม “ออย” อรรถพล คุณสา เจ้าของเหรียญทองเอเชี่ยน เกมส์ ที่จาการ์ตา เข้าที่ 1 และมี เพิ่มพล ธีรพัฒน์พาณิชย์ เป็นอันดับ 2 ก่อนโมโต 2 ทั้งคู่ก็ยังทำผลงานได้ดี อรรถพล ออกนำตั้งแต่ต้น ขณะที่ เพิ่มพล ออกมาเป็นอันดับ 3
ทำให้ อรรถพล เข้าที่ 1 ได้อีกโมโต ขณะที่ เพิ่มพล ไล่แซง บีเจ อัง จากฟิลิปปินส์ เข้าที่ 2 ได้ รวมคะแนน 2 โมโต อรรถพล จึงคว้าแชมป์แบบเอกฉันท์ได้แชมป์โลกรุ่นนี้ เพิ่มพล เป็นรองแชมป์โลก และอันดับ 3 บีเจ อัง
ส่งผลให้นักแข่งไทยยังมีลุ้นคว้าแชมป์ เวิลด์ ซีรีส์ 3 สนามเพื่อเป็นแชมป์โลกตัวจริงครั้งแรกของโลก โดยล่าสุด อรรถพล มีคะแนนนำ 60 คะแนนเท่ากับ อับดุลลาห์ อัล ฮามานี่ นักแข่งยูเออีแชมป์ที่เบลเยียม ขณะที่ เพิ่มพล ตามอยู่เพียงแค่ 7 คะแนนเท่ากับ วิลเฟรด กูร์โนต์ จากฝรั่งเศส
อีกรุ่นที่ไทยคว้าแชมป์โลกได้ในวันเดียวกันคือรุ่นเจ็ตสกีนั่งหญิง 1,600 ซีซี (Women Runabout) “น้ำ” สาวสวยทีมชาติไทยปลดล็อกคว้าแชมป์โลกที่ เลค ฮาวาซู ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต โดยรุ่นนี้ทำการแข่งขัน 2 โมโต ในโมโตแรกเป็น แทมมี เรริค จาก แคนาดา ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ส่วน อรพรรณ เป็นที่ 2
แต่ในโมโต 2 อรพรรณ แก้ตัวออกนำตั้งแต่ต้นและไปจบสุดทางเข้าที่ 1 มี โซเฟีย ฟรานซิส นักแข่งอเมริกันเป็นอันดับ 2 และ เรริค เป็นอันดับ 2 เมื่อรวมคะแนน 2 โมโต อรพรรณ คว้าแชมป์ไปครองมี 3 คะแนนจากกติกาเวิลด์ ไฟนอล ที่คนคะแนนน้อยที่สุดได้แชมป์ อันดับ 2 เป็น เรริค 4 คะแนน และอันดับ 3 ฟรานซิส 5 คะแนน
นอกจากนี้ยังมีนักแข่งไทยที่ทำผลงานได้ดีในรุ่นเยาวชนเจ็ตสกียืน อายุ 10-12 ปี ด.ช.ภูริภัทร ทองก้อน ได้ตำแหน่งรองแชมป์โลก ขณะที่รุ่นสำคัญทั้งเวิลด์ ไฟนอล และเวิลด์ ซีรีส์ คือเจ็ตสกีที่แรงและเร็วที่สุดในโลก รุ่นโปรเจ็ตสกีนั่ง จีพี (Pro Runabout GP) ที่นักแข่งระดับพระกาฬของโลกลงแข่งเกือบครบครันรวมทั้ง เจมส์ บุชเชลล์ อดีตนักแข่งอันดับ 1 ของโลกจาก สหราชอาณาจักร
โมโตแรกเป็น โมฮาเหม็ด เบอร์บาย่า แชมป์เวิลด์ ซีรีส์ สนามแรกที่เบลเยี่ยมจากคูเวตออกนำ และทำท่าว่าจะเข้าวินแต่เกิดเรือมีปัญหา ทำให้เข้าเพียงแค่อันดับ 4 ที่ 1 เป็นของ วาลีด อัลชาร์ชานี จากกาตาร์ ตามด้วย โมฮัมเหม็ด อัลบาซ เพื่อนร่วมชาติ และ บุชเชลล์ เป็นที่ 3
ก่อนโมโต 2 เบอร์บาย่า กลับมาได้ดีเข้าเป็นที่ 1 โจนาธาน อาเรียล จากอาร์เจนตินาเป็นที่ 2 และ อัลชาร์ชานี เป็นที่ 3 รวมคะแนนตามกติกาของเวิลด์ ซีรีส์ เป็น อัล ชาร์ชานี่ คว้าแชมป์ไปครองได้ 4 คะแนน เบอร์บาย่า เป็นรองแชมป์ 5 คะแนน และ อาเรียล เป็นอันดับ 3 มี 6 คะแนน
ทั้งนี้คะแนน 2 สนามเวิลด์ ซีรีส์ ของรุ่นนี้ เบอร์บาย่า ยังเป็นผู้นำ 113 คะแนน ตามด้วย อัล ชาร์ชานี่ 96 คะแนน และ อัลบาซ 83 คะแนน สรุปผลงานของนักแข่งไทยในเจ็ตสกีชิงแชมป์โลกที่สหรัฐฯ ทัพนักกีฬาไทยคว้าไปแล้ว 4 แชมป์โลก 5 รองแชมป์โลก และอันดับ 3 อีก 2 รุ่น
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
ดัน4แอพเทเลเฮลธ์ หนุนแพทย์ทางไกล
กทปส. หนุนงบดัน 4 แอพพลิเคชันเทเลเฮลธ์ บริการแพทย์ทางไกลในพื้นที่ชนบท แก้ปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ เชื่อมสถานพยาบาลแล้วกว่า 289 แห่ง
นายนิพนธ์ จงวิชิต รักษาการผู้จัดการกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ กล่าวว่า จากปัญหาการขาด แคลนแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่ชนบท พื้นที่ห่างไกล กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ กทปส. จึงได้มีการมอบทุนสนับสนุนด้าน Tele Health แบบครบวงจรให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลกได้ยื่นขอทุนต่อเนื่องเพื่อขยายโครงการต่อในปี 2561 ในโครงการพัฒนาต้นแบบของเทคโนโลยีที่ช่วยในการพัฒนาคุณภาพการให้บริการทางการแพทย์ฉุกเฉินทางไกลในชนบท โดยผ่านเครือข่ายดิจิทัลความเร็วสูง (ระยะที่ 2) เพื่อเชื่อมโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัด ซึ่งขณะนี้มีโรงพยาบาลเข้าร่วมโครงการ และเชื่อมกับระบบประมาณ 289 แห่ง จากในระยะแรกมี 13 แห่ง แบ่งเป็น โรงพยาบาลในจังหวัดพิษณุโลก 157 แห่ง และโรงพยาบาลในจังหวัดสุโขทัย 132 แห่ง
ด้านนพ.ปิยะ ศิริลักษณ์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่าปัจจุบันจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ต่อประชาชน ในจังหวัดกรุงเทพมหานครมี 1 ต่อ 700 คน ในส่วนภูมิภาค 1 ต่อ 1,200 คน ในพื้นที่ภาคอีสาน 1 ต่อ 3,000 คน ซึ่งจากงานวิจัยจำนวนที่เหมาะสมคือ 1 ต่อ 300-500 คน สำหรับแอพพลิเคชันที่ได้พัฒนาขึ้นนั้นเป็นแอพในเครือข่ายหมอรู้จักคุณ ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วกว่า 4,334 ราย ซึ่งผู้ป่วยกว่า 50% ไม่จำเป็นต้องหาหมอแต่ต้องมีการพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นเพื่อดูแลความเจ็บป่วยจะช่วยให้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ลดลง แต่สิ่งที่สำคัญคือการทำอย่างไรไม่ให้เกิดความเจ็บป่วยด้วยการเพิ่มความรู้ในการดูแลสุขภาพให้กับประชาชน
ทั้งนี้แอพพลิเคชันในเครือข่ายหมอรู้จักคุณประกอบด้วย 4 แอพหลักคือ 1.หมอครอบครัว (PCC Team) สำหรับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และทีมแพทย์หมอครอบครัว เพื่อการทำงานด้านการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค รวมถึงใช้ในการติดต่อผู้ป่วย บันทึกข้อมูลผู้ป่วยลงในระบบเพื่อลดความซํ้าซ้อนในการบันทึกประวัติ โดยบุคลากรทางการแพทย์สามารถค้นหาผู้ป่วยด้วย Face ID หรือรหัสบัตรประชาชนที่เคยได้รับการรักษาและมีประวัติอยู่ในระบบสามารถติดต่อสื่อสารกันผ่านช่องทางการแชตได้ 2.แอพ อสม. สำหรับเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่ใช้สำหรับเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค ติดตามการคุ้มครองและฟื้นฟูสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ชุมชน ทั้งนี้แอพ อสม. จะใช้บันทึกข้อมูลกการทำงานของเจ้าหน้าที่ อสม. เพื่อส่งเป็นรายงานให้กับหัวหน้า อสม. เช่น การบันทึกข้อมูล รายงานลูกนํ้ายุงลาย โดยข้อมูลราย งานดังกล่าวจะถูกนำมาใช้เมื่อมีผู้ป่วยไข้เลือดออกระบาดในพื้นที่นั้นๆ และสามารถติดต่อสื่อสารกันระหว่าง อสม.และบุคลากรทางการแพทย์ผ่านช่องทางการแชตได้อีกด้วย
3. NUMED แอพให้คำปรึกษาทางการแพทย์ เพื่อเชื่อมโยงระหว่างแพทย์และผู้ป่วย โดยที่ผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงข้อมูลทางการแพทย์ของตนเองไม่ว่าจะมีประวัติการรักษาจากที่ใดก็ตาม มีการพัฒนาฟังก์ชันการเชื่อมต่อบริการในการจัดตารางเวรเพื่อให้คำปรึกษา ฟังก์ชันการสนทนา (Chat) ที่สามารถส่งข้อมูลภาพและวิดีโอแบบกลุ่มได้ โดยได้พัฒนาระบบการปรึกษาแบบแยกตามกลุ่มความเชี่ยวชาญของแพทย์ รวมทั้งทำการจัดเก็บ (backup data) และบริหารจัดการข้อมูลจากระบบ ศูนย์ข้อมูลบนคลาวด์มายังเซิร์ฟเวอร์ประจำสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ให้สามารถใช้ข้อมูลได้สะดวกยิ่งขึ้น และ 4.HEALTH ประชาชน แอพพลิเคชันให้บริการประชาชนสามารถติดตามดูแลสุขภาพของตนเองผ่านสมาร์ทโฟน รายงานประวัติทางการแพทย์ ประวัติ การจ่ายยาที่ผ่านมา สามารถใช้ในการพูดคุยหรือปรึกษาเจ้าหน้าที่หรือบุคลากรทางการแพทย์ โดยตรงจากโรงพยาบาลที่ได้รับการรักษา รวมถึง จองคิวกับสถานพยาบาลเพื่อความสะดวกในการเข้ารับการรักษา
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 21,400.00 | 21,500.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,386.00 | 21,011.76 | 22,000.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,247.40 | 18,910.58 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,108.80 | 16,809.41 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 624.00 | 9,459.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 485.00 | 7,352.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,436.00 | 21,769.76 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 15/10/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 | 27.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 | 26.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.24 | 24.24 | 24.24 | 24.24 | 24.24 | – | 24.24 | 24.24 | 24.24 | 24.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.84 | 19.84 | – | – | – | – | – | 19.84 | – | – |
เบนซิน 95 | 34.66 | – | – | – | 35.11 | – | 35.16 | 34.96 | – | 34.96 |
ดีเซล | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 | 25.69 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 23.69 | 23.69 | – | – | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.49 | 15.49 | – | – | – | – | – | – | – | – |