รื้อใหญ่ข้อกำหนดบ้านจัดสรรในกทม.เน้นรักษ์โลก
กรมที่ดินรับฟังความคิดเห็น ร่างโครงการ “บ้านจัดสรรรักษ์โลก : สะอาด สะดวก สบาย ปลอดภัย” (Go Green Living)
ประเทศไทยเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจและมีการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ต่าง ๆ มากมาย ซึ่งกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว อาทิ ฝุ่น PM 2.5, ก๊าซเรือนกระจก(Green House Effect), ขยะล้นเมือง, ปัญหาน้ำเน่าเสีย และความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน
ทั้งนี้ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า กรมที่ดินตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับมาตรฐานบ้านจัดสรรให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด “บ้านจัดสรรรักษ์โลก : สะอาด สะดวก สบาย ปลอดภัย” ที่สอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศและก่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) จึงได้จัดทำโครงการ “การปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรม กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2550” ที่ใช้มานานกว่า 10 ปีขึ้นเพื่อยกระดับมาตรฐานบ้านจัดสรรใน 7 เรื่องสำคัญ ได้แก่
1. การลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ด้วยการเพิ่มการปลูกต้นไม้ยืนต้นจากไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 เป็นไม่น้อยกว่า ร้อยละ 35 ในพื้นที่สาธารณะ และในระหว่างก่อสร้างเพื่อป้องกันฝุ่นละอองฟุ้งกระจาย ต้องทำที่ล้างล้อรถบรรทุกขนดินหรือสิ่งก่อสร้างก่อนออกถนนใหญ่
2. การลดโลกร้อนก๊าซเรือนกระจก ด้วยการส่งเสริมให้ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงานที่มีประสิทธิภาพ หรือระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในระบบไฟสาธารณะของหมู่บ้าน
3. การลดปัญหาจราจรในชุมชนหมู่บ้านจัดสรรด้วยการทำลูกระนาดชะลอความเร็ว สำหรับอาคารพาณิชย์ให้เพิ่มที่จอดรถจาก 1 คันต่อ 1 แปลง เป็น 2 คันต่อ 1 แปลง เพื่ออำนวยความสะดวกผู้มาติดต่อธุรกิจ
4. การลดปัญหาขยะล้นเมือง ด้วยการเพิ่มพื้นที่พักขยะและจัดระบบการคัดแยกขยะให้มีเนื้อที่เพิ่มขึ้น
5. การลดปัญหาน้ำเน่าเสีย ด้วยการเพิ่มคุณภาพการบำบัดน้ำเสียครัวเรือนด้วยการเพิ่มคุณภาพบ่อดักไขมันและเพิ่มคุณภาพระบบบำบัดน้ำเสียกลาง
6. การป้องกันน้ำเสียและน้ำท่วมให้เพิ่มขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางท่อระบายน้ำจากเดิมไม่น้อยกว่า 40 ซม. เป็นไม่น้อยกว่า 60 ซม. เพื่อให้มีการระบายน้ำและหน่วงน้ำป้องกันน้ำท่วมในชุมชนหมู่บ้าน
7. การเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของชุมชนหมู่บ้านจัดสรร ด้วยการติดตั้ง CCTV เพิ่มมากขึ้นในจุดที่เหมาะสม
อธิบดีกรมที่ดินกล่าวต่อไปว่า เพื่อสร้างการมีความร่วมของประชาชนอย่างรอบด้าน และนำไปสู่การพัฒนา “บ้านจัดสรรรักษ์โลก : สะอาด สะดวก สบาย ปลอดภัย” ให้ตอบสนองกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง กรมที่ดิน จึงขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่ท่านอยากให้มีพัฒนาขึ้นในบ้านจัดสรรรักษ์โลก ได้ที่นี่ คลิก >> https://bit.ly/2UTclcV #กรมที่ดิน#GoGreenLiving
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อสังหาฯ หดตัวแน่ แต่ราคาบ้านตก10%
สถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) กระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์แน่นอนแล้ว แต่ราคาบ้านจะลดลงตามไปด้วยหรือไม่นั้น นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA ) คาดการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะเปิดตัวลดลง 15% รวม 101,429 หน่วยต่างจังหวัดจะหดตัวยิ่งกว่านี้
จากข้อมูลการเปิดตัวโครงการใหม่ใน 2 เดือนแรกของปี 2563 พบว่ามีการเกิดตัวเฉลี่ยเดือนละ27 โครงการ หรือเดือนละ 6,154 หน่วย มีมูลค่าเฉลี่ย 23,114 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้ราคาเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยอยู่ที่ประมาณ 4.011 ล้านบาทต่อหน่วย
การหดตัวลงของตลาดอสังหาริมทรัพย์นี้เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้เนื่องจากภาวะขณะนี้มีปัจจัยเสี่ยงเกี่ยวกับโรคไวรัสโควิด-19 ทำให้การซื้อขายอาจลดลงบางส่วน แม้แต่มหกรรมที่อยู่อาศัยที่มักจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมของทุกปี ก็ยังเลื่อนออกไป สำหรับในจังหวัดภูมิภาคทั่วประเทศ สถานการณ์การเปิดตัวน่าจะน้อยกว่าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยน่าจะเปิดตัวรวมกันเพียง 75% หรือราว 76,072 หน่วย ส่วนมูลค่าน่าจะเหลือเพียง 65% หรือเพียง 264,418 ล้านบาท หรือเท่ากับหน่วยละ 3.476 ล้านบาทเท่านั้น
อย่างไรก็ตามหากปัญหาโรคโควิด-19 นี้เรื้อรังออกไปเป็นเวลานาน เช่น 1 ปี ก็อาจทำให้การซื้อบ้านหดตัวไปหมด และเผลอๆ อาจทำให้ราคาบ้านตกต่ำลงได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามราคาบ้านคงตกต่ำไม่เกิน 10% ในกรณีที่ค่อนข้างจะเลวร้าย แต่ก็เชื่อว่าสถานการณ์คงไม่ได้เลวร้ายลงไปถึงขนาดนั้น และเชื่อว่าสถานการณ์จะคลื่คลายลงได้ในเร็ววัน แม้วันนี้จะยัง “ไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” ก็ตาม
แต่ถ้ามองในแง่ดีตลาดอสังหาริมทรัพย์และเศรษฐกิจโลกที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดนี้อาจสามารถฟื้นคืนได้ภายในปี 2563 นี้และอาจทำให้กำลังซื้อที่เคย “อั้น” เอาไว้กลับมาอย่างมากในปี 2563-4 อย่างถล่มทะลายก็เป็นไปได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชงลงทุนPPPอีก1.09ล้านล้าน
นายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (คณะกรรมการ PPP) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการ PPP ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันพุธที่ 15 เมษายน 2563 ผ่านระบบ VDO Conference ณ กระทรวงการคลัง โดยมีนายอุตตม สาวนายน รมว. คลัง เป็นประธาน ซึ่งมีผลการประชุมสรุปได้ดังนี้
1. เห็นชอบแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2563 – 2570 (แผนการจัดทำโครงการ PPP) ตามมาตรา 12 แห่ง พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 (พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562) ซึ่งได้นำหลักการสำคัญ รวมถึงนโยบายและทิศทางในการพัฒนาประเทศที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ มาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการดำเนินการ ทั้งนี้ ในแผนการจัดทำโครงการ PPP มีรายการโครงการที่ประสงค์จะร่วมลงทุนทั้งหมดรวม 92 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 1.09 ล้านล้านบาท โดยเป็นโครงการร่วมลงทุนในกลุ่มที่มีความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วน (High Priority PPP Project) จำนวน 18 โครงการ มูลค่าลงทุนรวมประมาณ 472,049 ล้านบาท
ทั้งนี้ แผนการจัดทำโครงการ PPP ข้างต้นจะช่วยสร้างความสนใจและดึงดูดให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในโครงการร่วมลงทุนภายใต้แผนดังกล่าว เพื่อลดข้อจำกัดการลงทุนจากเงินงบประมาณแผ่นดินและเงินกู้จากภาครัฐ ตลอดจนสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชนจากความรู้ ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมของเอกชนในการให้บริการสาธารณะ
2. คณะกรรมการ PPP ได้เห็นชอบร่างกฎหมายลำดับรองภายใต้ พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการเสนอโครงการและการคัดเลือกเอกชน จำนวนรวม 6 เรื่อง ได้แก่
1) เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชน พ.ศ. ….
2) เรื่อง รายละเอียดที่ต้องมีในรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการและหลักเกณฑ์ และวิธีการในการนำความเห็นของหน่วยงานของรัฐและภาคเอกชน มาประกอบการพิจารณาจัดทำรายงานการศึกษาและวิเคราะห์โครงการ พ.ศ. ….
3) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และกรอบระยะเวลาในการเสนอโครงการ พ.ศ. ….
4) เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการคัดเลือกเอกชน พ.ศ. ….
5) เรื่อง รายละเอียดของร่างประกาศเชิญชวน ร่างเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน และสาระสำคัญของร่างสัญญาร่วมลงทุน พ.ศ. ….
6) เรื่อง เงื่อนไขสำคัญของสัญญาร่วมลงทุน พ.ศ. ….
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกำหนดรายละเอียดแนวทางเพื่อรองรับการดำเนินการตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 ในแต่ละเรื่องให้เกิดความชัดเจน และเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ
3. คณะกรรมการ PPP ได้วินิจฉัยกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนฯ ปี 2562 ตามมาตรา 20 (9) ตามที่มีหน่วยงานหารือ ได้แก่ 1) กรณีโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างและบริหารจัดการระบบกำจัดขยะมูลฝอยขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี และ 2) กรณีแนวทางการดำเนินการแก้ไขสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี
ขอบคุณข้อมูล posttoday.com
เก็บมานาน “เมสซี” แจงเหตุปัดซบ “แมนยูฯ”
ลิโอเนล เมสซี ดาวยิงของบาร์เซโลนา เผยเหตุผลสำคัญที่ปฏิเสธการย้ายไปร่วมทีม “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 16 เม.ย. ว่า ลิโอเนล เมสซี กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาของ “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา ระบุ ไม่คิดที่ย้ายออกจากถิ่นคัมป์ นู ตอนที่มีข่าวว่า “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยากได้ตัวเขาไปร่วมทีมเมื่อปี 2008 เพราะตนเองกับครอบครัวแฮปปี้ดีอยู่แล้ว
เวลานั้น เมสซี มีอายุ 20 ปี เท่านั้น แต่ฝีเท้าเก่งกาจจนไปเข้าตา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เต็มๆ แต่สุดท้ายเขาเลือกค้าแข้งอยู่กับบาร์เซโลนาต่อไป และเดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จมากมาย ซัดไปแล้ว 627 ประตู จากการลงเล่น 718 นัด คว้ารางวัลบัลลงดอร์ไปแล้ว 6 สมัย
โดยล่าสุด เมสซี ได้ตอบคำถามของ โฟร์โฟร์ทู ที่ถามถึงกระแสข่าวระหว่างเขากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงเวลานั้นว่า “ผมมีความสุขกับบาร์เซโลนา ทำไมผมจะไม่มีความสุขล่ะ? ผมรู้แล้วว่านี่คือความฝันของผม นี่คือสโมสรที่ดีทีค่สุดในโลกและมีนักเตะชั้นยอดมากมาย และที่สำคัญครอบครัวของผมมีความสุขที่นี่ พวกเขาชอบที่นี่”
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
กทม.เปิดศูนย์ทดสอบคัดกรองโควิด-19
กทม.เปิดศูนย์ Local Quarantine ทดสอบการติดโควิด-19 และใช้เป็นสถานที่กักตัวดูอาการ สำหรับผู้ที่เดินทางผ่านชายแดนเข้าสู่ประเทศ หากพบมีการติดเชื้อจะส่งตัวเพื่อรักษาต่อไป
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2563 นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำ ศูนย์ Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่กักกันโควิด – 19 สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศทางด่านบก และเป็นสถานที่ทดสอบการติดเชื้อ (SWAB) โควิด – 19 โดยตั้งอยู่ในพื้นที่เขตจตุจักร ซึ่งกรุงเทพมหานครร่วมกับเพจหมอแล็บแพนด้า จัดรถตรวจโควิด–19 เคลื่อนที่ ลงพื้นที่ให้บริการทดสอบการติดเชื้อ (SWAB) โควิด – 19 ที่ศูนย์ฯ โดยมี นายชวินทร์ ศิรินาค ผู้อำนวยการสำนักอนามัย นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร ร่วมลงพื้นที่
ศูนย์ Local Quarantine กรุงเทพมหานคร เป็นสถานที่พักกักโรคโควิด–19 ซึ่งรับประชาชนที่เดินทางผ่านชายแดนเข้าสู่ประเทศไทยทางบก จากด่านอรัญประเทศ จำนวน 104 ราย เข้ากักกันโรค โดยประชาชนกลุ่มแรกที่กักโรคครบ 14 วัน และกลับบ้านได้ในวันที่ 16 เม.ย. 63 จำนวน 77 ราย และกลุ่มที่ 2 กักโรคครบ 14 วัน และกลับบ้านได้ในวันที่ 18 เม.ย. จำนวน 27 ราย
สำหรับวันนี้ศูนย์ Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ได้ทำการทดสอบการติดเชื้อ (SWAB) โควิด–19 ในผู้ที่กักกันโรคที่ศูนย์ Local Quarantine กรุงเทพมหานคร ก่อนครบกำหนด 14 วัน รวมถึงได้นัดให้ผู้ที่ต้องกักกันโรคที่บ้าน (Home Quarantine) จำนวน 42 ราย มาทำการทดสอบการติดเชื้อ (SWAB) ด้วย ซึ่งจะสามารถทราบผลตรวจได้ภายใน 1 วัน หากไม่พบการติดเชื้อ ก็จะได้รับหนังสือรับรองผลจากทางราชการ แต่หากพบว่ามีการติดเชื้อโควิด – 19 ก็จะส่งต่อเข้าสู่กระบวนการรักษาตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้เสียสละทำงานกันอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังต้องทำหน้าที่อย่างเข้มข้นต่อไป เพื่อให้สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด–19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ปลัดกรุงเทพมหานครได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตนและการดูแลรักษาสุขภาพ เมื่อกลับไปอยู่บ้านแก่ผู้ที่กักกันโรคทุกคนได้รับทราบ และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อีกทั้งแจกชุดอุปกรณ์ดูแลสุขภาพให้ผู้ที่ผ่านการกักกันโรคนำกลับไปใช้ที่บ้านด้วย ซึ่งหลังจากผู้กักกันโรคออกจากศูนย์ฯ แล้ว กรุงเทพมหานครจะดำเนินการทำความสะอาด และฆ่าเชื้อเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ และห้องพักต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
คำศัพท์กระทรวงต่างๆที่เราควรทราบ
คำศัพท์ (Vocabulary) | คำอ่าน (Reading) | ความหมาย (Meaning) |
Ministries of Agriculture and Cooperatives | มินิสทรีส ออฟ แอกริคัลเชอร์ แอนด์ โคโอเพอเรทีฝส์ | กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ |
Ministries ofCommerce | มินิสทรีส ออฟ คอมเมิร์ส | กระทรวงพาณิชย์ |
Ministries of Culture | มินิสทรีส ออฟ คัลเชอร์ | กระทรวงวัฒนธรรม |
Ministries of Education | มินิสทรีส ออฟ อีดิวเคชั่น | กระทรวงศึกษาธิการ |
Ministries of Defence | มินิสทรีส ออฟ ดีเฟ๊นซ์ | กระทรวงกลาโหม |
Ministries of Energy | มินิสทรีส ออฟ เอนเนอร์จี้ | กระทรวงพลังงาน |
Ministries of Finance | มินิสทรีส ออฟ ไฟแน๊นซ์ | กระทรวงการคลัง |
Ministries of Foreign Affairs | มินิสทรีส ออฟ ฟอเรนจ์ แอฟแฟร์ส | กระทรวงการต่างประเทศ |
Ministries of Industry | มินิสทรีส ออฟ อินดัสทรี | กระทรวงอุตสาหกรรม |
Ministries of Justice | มินิสทรีส ออฟ จัสทิส | กระทรวงยุติธรรม |
Ministries of Labour | มินิสทรีส ออฟ เลเบอร์ | กระทรวงแรงงาน |
Ministries of Interior | มินิสทรีส ออฟ อินทีเรีย | กระทรวงมหาดไทย |
Ministries of Public Health | มินิสทรีส ออฟ พับบลิค เฮ้ลธ์ | กระทรวงสาธารณสุข |
Ministries of Transport and Communications | มินิสทรีส ออฟ ทรานสปอร์ท คอมมิวนิเคชั่น | กระทรวงคมนาคม |
Ministries of National Resources and Environment | มินิสทรีส ออฟ เนชั่นนัล รีซอร์สเซส แอนด์ เอนไวรอนเม้นท์ | กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม |
Ministries of Science and Technology | มินิสทรีส ออฟ ไซเอ้นส์ แอนด์ เทคนอลอจี | กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี |
Ministries of Social Development and Human Security | มินิสทรีส ออฟ โซเชียล เดเวลอพเม้นท์ แอนด์ ฮิวแมน เซเคียวริที | กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ |
Ministries of Tourism and Sport | มินิสทรีส ออฟ ทัวริสซึ่ม แอนด์ สปอร์ต | กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา |
Ministries of Information and Communication Technology | มินิสทรีส ออฟ อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เทคนอลอจี | กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร |
Office of the Prime Minister | ออฟฟิศ ออฟ เดอะ ไพรม์ มินิสเทอร์ | สำนักนายกรัฐมนตรี |
State Enterprises | สเตท เอ็นเทอร์ไพร๊ส์ | รัฐวิสาหกิจ |
ขอบคุณข้อมูลจาก pasa24.com
กลุ่มสามารถรุกตลาดภัยคุกคามไซเบอร์
กลุ่มสามารถ ผนึก ไอบีเอ็ม รุกตลาดภัยคุกคามไซเบอร์เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยถึงเรื่องภัยคุกคามทางไซเบอร์ในปัจจุบันว่า “มาตรการ Social Distancing ทำให้ผู้คนใช้ชีวิตบนโลก Digital มากขึ้น เช่น การ VDO Conference ผ่าน Application Zoom ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มจาก 10 ล้านคน เป็นมากกว่า 200 ล้านคนในเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงตัวเลขธุรกรรมออนไลน์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่หน่วยงานภาครัฐก็ปรับบริการหลายอย่างมาอยู่บน Online Platform …เมื่อผู้คนทำกิจกรรมบนโลก Digital มากขึ้น ภัยคุกคามทางไซเบอร์ จึงเป็นประเด็นที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง
จากปี 2019 ทั่วโลกลงทุนด้านระบบรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ สูงถึงกว่าแสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ ..ส่วนในไทยมีมูลค่าการลงทุนราว 7 พันล้านบาท รวมถึงมีการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ. 2562” สะท้อนให้เห็นว่า Cyber Security มีความสำคัญอย่างยิ่ง
บริษัท ซีเคียวอินโฟ จำกัด (SECUREiNFO) หนึ่งในกลุ่มบริษัทสามารถ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Cyber Security แบบครบวงจร โดยเป็น Partner กับ IBM Security ผู้ให้บริการ Cyber Security Solution ระดับโลก และมีการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังการคุกคามทางไซเบอร์ หรือ “Cyber Security Operation Center (CSOC)” ที่ให้บริการเฝ้าระวังภัยให้กับลูกค้าตลอด 24 ชม.ทั้ง 7 วัน (24×7) พร้อมนำเทคโนโลยี AI : Watson for Cyber Security ของ IBM มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเป็นรายแรกในประเทศไทย จึงเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเฝ้าระวังที่ครอบคลุมขึ้น
“ความสำคัญของศูนย์เฝ้าระวังการคุกคามทางไซเบอร์ หรือ Cyber Security Operation Center (CSOC) ที่นอกจากช่วยเฝ้าระวังภัยให้กับลูกค้าตลอด 24 ชม.ทั้ง 7 วันแล้ว ยังสร้างความคุ้มค่าสูงสุดให้กับองค์กรที่ใช้บริการ โดยองค์กรไม่ต้องลงทุนในการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังด้าน Cyber Security ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีตลอดเวลา และยังช่วยลดภาระในการสรรหาบุคลากรที่มีความชำนาญด้านนี้โดยตรง ที่สำคัญยังสามารถตรวจสอบ เรียกดูข้อมูลด้านความปลอดภัยได้ทันทีตามความต้องการของผู้ใช้งานด้วย”
นายวัฒน์ชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ องค์กรต่างๆต้องเริ่มหันมากำหนดแนวทางและนโยบายที่เข้มงวดในการดูแลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพราะยุคนี้แค่ตระหนักเรื่องสุขภาพอาจไม่เพียงพอ ต้องเฝ้าระวังสุขภาพองค์กรที่อาจถูกคุกคามจากภัยไซเบอร์ด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
พลับพลึง สรรพคุณและประโยชน์ของพลับพลึงดอกขาว 26 ข้อ !
พลับพลึงดอกขาว
พลับพลึงขาว หรือ พลับพลึง ชื่อสามัญ Crinum lily หรือ Cape lily, Spider lily, Poison bulb
พลับพลึง ชื่อวิทยาศาสตร์ Crinum asiaticum L. จัดอยู่ในวงศ์พลับพลึง (AMARYLLIDACEAE)
สมุนไพรพลับพลึงขาว มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ลิลัว (ภาคเหนือ), ว่านชน (อีสาน), วิรงรอง (ชวา), พลับพลึงขาว, พลับพลึงดอกขาว เป็นต้น
ลักษณะของพลับพลึง
- ต้นพลับพลึง จัดเป็นพรรณไม้ล้มลุกที่ขึ้นเป็นกอ มีหัวอยู่ใต้ดิน ลำต้นกลม เมื่อเติบโตเต็มที่จะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12-15 เซนติเมตร และมีความสูงราว 90-120 เซนติเมตร ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการแยกหน่อที่ขึ้นบริเวณโคนต้นและวิธีการเพาะเมล็ด จัดเป็นพรรณไม้ที่สามารถพบได้ในประเทศจีน อินเดีย ญี่ปุ่น และฮ่องกง
- ใบพลับพลึง ใบมีสีเขียวจะออกรอบ ๆ ลำต้น ลักษณะของใบมีลักษณะใบแคบ เรียวยาว ขอบใบจะเป็นคลื่น ปลายใบแหลม ใบหนาอวบน้ำ ความกว้างของใบประมาณ 10-15 เซนติเมตร และยาวประมาณ 60-90 เซนติเมตร
- ดอกพลับพลึง ดอกเป็นช่อใหญ่ มีกลิ่นหอม แต่ละช่อมีดอกประมาณ 15-40 ดอก ก้านดอกชูขึ้นจากตรงกลางลำต้น มีความยาวประมาณ 90 เซนติเมตร และสูงราว 90-120 เซนติเมตร กลีบดอกมีสีขาวแคบเรียวยาวประมาณ 15 เซนติเมตร หนึ่งดอกมีกลีบ 6 กลีบ เมื่อดอกบานเต็มที่กลีบดอกจะโค้งเข้าหาก้านดอก ที่ดอกมีเกสรตัวผู้มี 6 ก้าน ชูสูงขึ้นจากดอก ที่ปลายเกสรมีสีแดง และจะทยอยออกดอกเรื่อย ๆ
- ผลพลับพลึง จะเป็นผลสีเขียวอ่อน ลักษณะของผลค่อนข้างกลม
สมุนไพรพลับพลึง เป็นพืชที่มีอายุยืนยาวนับสิบปี มีความแข็งแรงทนทาน ไม่ค่อยมีโรคและแมลงมารบกวน เป็นพืชที่ดูแลง่าย ไม่ต้องมีการบำรุงรักษามากนัก และยังเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้เร็วอีกด้วย โดยสายพันธุ์ของพลับพลึงก็ได้แก่ พลับพลึงด่าง (Crinum variegates), พลับพลึงแดง (Crinum augustum), พลับพลึงเตือน (Crinum rubra), พลับพลึงแมงมุม (Hymenocallis caribaea), พลับพลึงใหญ่ (Crinum amabille) และพลับพลึงทอง (Crinum asiaticum L.) ที่เป็นสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์มาจากต้น Poison bulb
พลับพลึง มีสรรพคุณทางยาอยู่หลายประการ โดยส่วนที่นำมาใช้ก็ได้แก่ ใบ ราก และเมล็ด ถึงแม้ว่าพลับพลึงจะมีประโยชน์อยู่มากมาย แต่ก็นำมาใช้ได้แค่ภายนอกเท่านั้น เราจะไม่ใช้พลับพลึงเป็นยากินหรือใช้ภายในเนื่องจากมีพิษนั่นเอง
สรรพคุณของพลับพลึง
- พลับพลึงมีสรรพคุณใช้เป็นยาบำรุงกำลัง (ใบ)
- ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ด้วยการใช้ใบมาอังไฟแล้วใช้พันรอบศีรษะไว้ อาการปวดศีรษะก็จะทุเลาลง (ใบ)
- ช่วยขับเสมหะ (ใบ)
- ราก เมื่อนำไปเคี่ยวให้แหลกจนเป็นน้ำ แล้วกลืนเอาแต่น้ำเข้าไปจะช่วยทำให้อาเจียน (ราก)
- ช่วยทำให้คลื่นเหียนอาเจียน (ใบ)
- ใช้เป็นยาระบาย (ใบ)
- ใบใช้ลนไฟ ช่วยรักษาโรคไส้เลื่อนได้ (ใช้กันในแถบจังหวัดสุพรรณบุรี)
- ช่วยรักษาโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะและน้ำดีได้ (ใบ)
- ช่วยขับเลือดประจำเดือนให้ออกมาจนหมด (เมล็ด)
- ใบพลับพลึงสามารถนำมาใช้รักษาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย กล้ามเนื้ออักเสบ (ใบ)
- ใบใช้ทำเป็นยาประคบ สูตรแก้ปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก แก้อาการวิงเวียนศีรษะ ช่วยบำรุงผิว ด้วยการใช้ใบพลับพลึง / ใบมะขาม / ใบส้มป่อย / ใบเปล้า / ใบหนาด / ขมิ้นชัน / ไพล / การบูร / ผิวมะกรูด / เกลือแกง นำมาตำผสมกันแล้วทำเป็นยาประคบ (ใบ)
- ใบใช้ทำเป็นยาประคบเพื่อคลายเส้น ด้วยการใช้ใบพลับพลึง 8 บาท / ไพล 4 บาท / อบเชย 2 บาท / ใบมะขาม 12 บาท / เทียนดำ 1 บาท / เกลือ 1 บาท นำมาตำห่อผ้าแล้วนึ่งให้ร้อน แล้วนำมาใช้ประคบเส้นที่ตึงให้คลายได้ (ใบ)
- ช่วยแก้อาการปวดบวม ฟกช้ำดำเขียว อาการเคล็ดขัดยอก ข้อเท้าพลิกแพลงได้ ด้วยการใช้ใบพลับพลึงนำมานึ่งไฟให้ใบอ่อนตัวลง แล้วนำมาพันรอบบริเวณที่เจ็บ (ใบ)
- ใช้ทำเป็นยาย่างช่วยรักษาอาการเลือดตกใน ตกต้นไม้ หรือควายชน ด้วยการใช้ ใบพลับพลึง / ใบชมชื่น / ใบหนาด / ใบเปล้าใหญ่ / ใบส้มป่อย นำมาหั่นและตำแล้วนำไปทำยาย่าง (ใบ)
- ช่วยแก้อาการปวดกระดูก ด้วยการใช้ใบพลับพลึงตำผสมกับข่าและตะไคร้ นำไปหมกไฟแล้วนำมาพอกบริเวณที่ปวดกระดูก (ใบ)
- รากพลับพลึงใช้พอกแผลได้ ด้วยการนำรากมาตำแล้วพอกบริเวณบาดแผล (ราก)
- ใบใช้ประคบแก้ถอนพิษได้ดี (ใบ)
- รากพลับพลึงสามารถใช้รักษาพิษจากยางน่องได้ (ราก)
- ใบพลับพลึงสามารถนำมาใช้กับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรหรือการอยู่ไฟได้ ด้วยการใช้ใบประคบบริเวณหน้าท้อง จะช่วยทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว ทำให้น้ำคาวปลาแห้ง ช่วยขับของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกายได้ นอกจากนี้ยังช่วยขจัดไขมันส่วนเกินได้อีกด้วย (ใบ)
- ใบพลับพลึงมีสารในกลุ่มอัลคาลอยด์ที่ชื่อว่า Lycorine ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคโปลิโอและโรคหัด (ใบ)
ประโยชน์ของพลับพลึง
- ใช้ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับเพื่อความสวยงามและให้กลิ่นหอม
- ประโยชน์ในด้านของพิธีกรรมความเชื่อ ก็มีการใช้ใบพลับพลึงนำมาซอยแล้วใส่ลงในขันน้ำมนต์ นำมาใช้ประพรมตัวเพื่อขับไล่ผีสางหรือสิ่งอัปมงคล
- ในด้านของความเป็นศิริมงคล มีการปลูกต้นพลับพลึงไว้ในบ้านเพื่อแก้เคล็ด ช่วยขับไล่สิ่งที่ไม่เป็นมงคล ช่วยให้ชนะสิ่งไม่ดีทั้งปวงได้
- กาบใบสีเขียวของพลับพลึงมีคุณสมบัติคล้ายใบตอง สามารถนำมาใช้ทำเป็นงานฝีมือหรืองานประดิษฐ์ดอกไม้ได้ เช่น การทำกระทง งานแกะสลัก เป็นต้น
- ดอกพลับพลึงสามารถนำไปวัดหรือใช้บูชาพระได้ (ลั้วะ)
- ดอกพลับพลึงมีกลิ่นหอม ช่อใหญ่และยาว นิยมนำมาใช้จัดแจกัน ทำกระเช้าดอกไม้ หรือมอบให้เป็นช่อเดี่ยว ๆ แทนดอกลิลี่ก็ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,000.00 | 26,200.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,684.00 | 25,529.44 | 26,700.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,515.60 | 22,976.50 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,347.20 | 20,423.55 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 758.00 | 11,491.28 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 589.00 | 8,929.24 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,745.00 | 26,454.20 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 16/04/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 15.24 | 15.24 | 15.24 | 15.24 | 15.24 | – | 15.24 | 15.24 | 15.24 | 15.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 14.84 | 14.84 | – | – | – | – | – | 14.84 | – | – |
เบนซิน 95 | 24.46 | – | – | – | 24.91 | – | 24.96 | 24.46 | – | 24.46 |
ดีเซล | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 |
ดีเซล B10 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | – | 16.59 |
ดีเซล B20 | 16.34 | 16.34 | 16.34 | 16.34 | 16.34 | – | 16.34 | 16.34 | – | 16.34 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 23.44 | 23.46 | 25.44 | 25.44 | 25.44 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |