Blog Post

ค้าปลีกปลุกอสังหาฯ บางนา ฮับกรุงเทพฯ ตะวันออก

ทำเลบางนา หรือแนว ถ.บางนา-ตราด ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีต โดยเป็นถนนที่เชื่อมต่อการคมนาคมที่หลากหลาย ใกล้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ถ.กาญจนาภิเษก และทางพิเศษบูรพาวิถี ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ จึงทำให้ทำเลนี้กลายเป็นฮับของกรุงเทพฯ ตะวันออก อีกปัจจัยสำคัญคือการพัฒนาห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตลอดแนว ถ.บางนา-ตราด ซึ่งมีส่วนผลักดันให้อสังหาริมทรัพย์ในทำเลนี้เติบโตควบคู่ไปด้วย

บางนาทำเลเอื้อแก่การอยู่อาศัย
ทำเลบางนา และพื้นที่ใกล้เคียงมีจำนวนประชากรกว่า 1 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง และเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนด้านโครงสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่เชื่อมต่อทั้งที่อยู่อาศัย ศูนย์อุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด และโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี นอกจากนี้ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและรถไฟฟ้ารางเบา บางนา-สุวรรณภูมิ ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ทำเลนี้มีการเติบโต และกลายเป็นทำเลยุทธศาสตร์สำคัญของกรุงเทพฯ ตะวันออก

ค้าปลีก ปลุกทำเลบางนาบูม
จากจำนวนประชากรที่อยู่อาศัยอย่างหนาแน่นจึงมีห้างสรรพสินค้าถูกพัฒนาในทำเลนี้อย่างต่อเนื่อง อาทิ เซ็นทรัล บางนา และโครงการขนาดใหญ่บริเวณสี่แยกบางนาอย่าง “แบงค็อก มอลล์” ของเดอะมอลล์กรุ๊ป เนื้อที่กว่า 100 ไร่ ด้วยงบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วยห้างสรรพสินค้า ที่อยู่อาศัย และอาคารสำนักงานแบบครบวงจร

ล่าสุด เมกาบางนา เตรียมยกระดับเป็น “เมกาซิตี้” สร้างเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจ ค้าปลีก โรงแรม อาคารสำนักงาน ที่พักอาศัย และสวนพักผ่อน บนพื้นที่ 400 ไร่ รองรับผู้ใช้บริการได้มากกว่า 250,000 คน/วัน พร้อมเผยโฉม “เดอะ มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวบันเทิงแบบอินเตอร์แอคทีฟ พร้อมเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคมนี้ และโรงเรียนประถมศึกษานานาชาติดิษยะศริน กรุงเทพ ในเครือเดียวกับโรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก ที่จะเปิดเรียนปีการศึกษาแรกในเดือนสิงหาคมนี้

นอกจากนี้ยังมีส่วนต่อขยายเพื่อเพิ่มพื้นที่กิจกรรมความบันเทิงกึ่งการเรียนรู้ สำหรับเด็ก ๆ และสมาชิกในครอบครัว โดยงบลงทุนทั้งหมดรวม 3,000 ล้านบาท

อสังหาฯ บูม แนวราบ-คอนโดฯ
จากการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ทำให้ทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จับจองที่ดินพัฒนาโครงการหลายโครงการ โดยส่วนใหญ่จะเป็นโครงการแนวราบ เนื่องจากมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาอีกเป็นจำนวนมาก เจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมมีการพัฒนาบริเวณแนว ถ.บางนา-ตราด และใกล้ห้างสรรพสินค้าหลายโครงการ ด้านตลาดอาคารสำนักงานในบริเวณบางนา มีความต้องการพื้นที่ให้เช่าของอาคารสำนักงานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และใกล้ย่านอุตสาหกรรม อาทิ สมุทรปราการ บางปู และบางปะกง จึงเหมาะสำหรับธุรกิจที่หลากหลาย

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าการขับเคลื่อนของเมกาซิตี้จะสร้างแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ที่ทำให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในทำเลบางนาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม กลายเป็นที่อยู่อาศัยรูปแบบคอนโดมิเนียมใกล้ห้างมากขึ้น หากนับเฉพาะที่ทางบริษัท เอสเอฟ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารเมกาบางนา จับมือกับบริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 2 อาคาร ก็มีจำนวนมากถึง 1,300 ยูนิตแล้ว หากมีการก่อสร้างโรงแรม อาคารสำนักงานเพิ่มขึ้น จะทำให้ทำเลนี้คึกคักมากยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต

https://www.ddproperty.com

บ.ผู้เช่าออฟฟิศ รับผลกระทบหนัก ภาวะกรุงเทพฯขาดแคลนพื้นที่สนง.เกรดเอ

“เจแอลแอล” เผยบริษัทผู้เช่าออฟฟิศ รับผลกระทบหนักจากภาวะกรุงเทพฯขาดแคลนพื้นที่สำนักงานเกรดเอ คาดสถานการณ์จะดำเนินต่อไปอีกจนถึงปี 2565

สถานการณ์ที่กรุงเทพฯ มีพื้นที่สำนักงานเกรดเอไม่เพียงพอรองรับความต้องการของบริษัทผู้เช่ากำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทหลายๆ บริษัทที่จำเป็นต้องขยายออฟฟิศเพื่อรองรับพนักงานเพิ่มจำเป็นต้องพิจารณาการย้ายสำนักงานไปยังอาคารอื่นที่มีพื้นที่ว่างมากพอ แม้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งสำนักงานใหม่ ตามการรายงานจากบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล

นางสาวยุพา เสถียรภาพอยุทธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการธุรกิจอาคารสำนักงาน เจแอลแอล กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีก่อนหน้า เมื่อค่าเช่าสำนักงานในกรุงเทพฯ ปรับตัวสูงขึ้น มีบริษัทผู้เช่าหลายๆ บริษัทย้ายออฟฟิศออกจากอาคารเดิมไปยังอาคารอื่นที่เสนอค่าเช่าถูกกว่า โดยเฉพาะอาคารในทำเลนอกย่านศูนย์กลางธุรกิจหลัก แต่ในขณะนี้ พบว่า แม้ค่าเช่าสำนักงานจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น แต่ปัจจัยที่ผลักดันให้บริษัทหลายๆ บริษัทต้องย้ายออฟฟิศ คือการที่อาคารที่อยู่เดิมไม่มีพื้นที่เพียงพอรองรับการเติบโตของบริษัทได้ โดยเฉพาะอาคารสำนักงานเกรดเอซึ่งกำลังประสบภาวะพื้นที่ขาดแคลน”

ศูนย์บริการข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ไทยของเจแอลแอล ระบุว่า ขณะนี้ กรุงเทพฯ มีอาคารสำนักงานคิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้น 8.9 ล้านตารางเมตร ในจำนวนนี้เป็นอาคารเกรดเอคิดเป็นพื้นที่รวมประมาณ 3.2 ล้านตารางเมตรซึ่งมีพื้นที่ว่างเหลือเช่าเพียงประมาณ 6.3% หรือราว 200,000 ตารางเมตร

นางสาวยุพากล่าวว่า “พื้นที่เหลือเช่า 200,000 ตารางเมตร อาจฟังดูเป็นปริมาณที่มาก แต่ในความเป็นจริง พื้นที่ว่างเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ขนาดเล็กซึ่งกระจายอยู่ตามชั้นต่างๆ ของอาคาร ในขณะที่พื้นที่ต่อเนื่องขนาดใหญ่ในชั้นเดียวกัน ส่วนใหญ่มีผู้เช่าเต็มแล้ว และมักมีผู้เช่ารายใหม่เข้ามาเช่าต่อทันทีที่ผู้เช่ารายเดิมย้ายออก ดังนั้น การเช่าหรือขยายออฟฟิศในอาคารสำนักงานเกรดเอที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงกลายเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับบริษัท/องค์กรขนาดใหญ่”

คาดว่า สถานการณ์เช่นนี้จะดำเนินต่อไปอีกอย่างน้อยจนถึงปี 2565 ซึ่งเป็นปีที่ทั่วกรุงเทพฯ จะมีอาคารสำนักงานใหม่สร้างเสร็จเพิ่มกว่า 451,000 ตารางเมตร แต่ในระหว่างปีนี้ไปจนถึงปี 2564 มีอาคารสำนักงานใหม่กำหนดสร้างเสร็จทั่วกรุงเทพฯ คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมกันทั้งสิ้นเพียง 554,000 ตารางเมตร หรือเฉลี่ยประมาณ 185,000 ตารางเมตรต่อปี

จากการที่อาคารสำนักงานเกรดเอส่วนใหญ่มีผู้เช่าเต็มหรือเกือบเต็ม การเช่าพื้นที่สำนักงานรายการใหญ่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ มีจำนวนมากที่เป็นการเจรจาจองพื้นที่เช่าล่วงหน้าในอาคารที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อสร้างและกำลังจะสร้างเสร็จในเร็วๆ นี้ เนื่องจากโครงการเหล่านี้ยังพอมีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่มากพอรองรับบริษัทผู้เช่ารายใหญ่ได้ และเจ้าของโครงการยังมีความยืดหยุ่นในการเจรจาเงื่อนไขการเช่ามากกว่า

ส่วนบริษัทผู้เช่าที่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนพนักงาน แต่ยังไม่พร้อมที่จะย้ายออฟฟิศไปยังอาคารอื่นได้ อาจต้องปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์พื้นที่ให้ได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้นได้ในพื้นที่เท่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดโต๊ะที่นั่งของพนักงาน ออกแบบให้มี hot desk ลดการกั้นห้องหรือกั้นที่นั่ง และใช้บริการจัดเก็บเครื่องใช้หรือเอกสารข้างนอก เป็นต้น

แม้จะมีบริษัทผู้เช่าบางส่วนที่เลือกพิจารณาการย้ายไปยังอาคารที่มีคุณภาพรอง หรือมีที่ตั้งอยู่ในทำเลชั้นรอง ซึ่งหลายอาคารจะยังพอมีพื้นที่ว่างเหลือรองรับผู้เช่ารายใหญ่ได้และมีค่าเช่าถูกกว่า แต่ขณะเดียวกัน มีบริษัทผู้เช่าจำนวนมาก โดยเฉพาะที่เป็นบริษัทชั้นนำ ยังคงเลือกที่จะอยู่ในอาคารสำนักงานเกรดเอในทำเลที่เดินทางเข้าถึงได้สะดวก

“ปัจจุบัน เกณฑ์การตัดสินใจเลือกอาคารสำนักงานของบริษัทต่างๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเฉพาะค่าเช่าเพียงอย่างเดียว แต่ยังคำนึงถึงภาพลักษณ์ขององค์กรและความสะดวกสบายของพนักงานด้วย โดยเฉพาะในภาวะที่ภาคธุรกิจต่างๆ มีการแข่งขันกันสูงในการแย่งชิงบุคลากรที่มีความสามารถ” นางสาวยุพากล่าว

ผู้เช่าส่วนใหญ่ต้องการอาคารที่มีคุณภาพดีและมีรูปลักษณ์ทันสมัยซึ่งสอดคล้องหรือสามารถยกระดับภาพลักษณ์องค์กรของบริษัทผู้เช่าได้ ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ ฟู้ดคอร์ท ร้านจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่ม และธนาคาร อาคารที่เดินถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟฟ้าใต้ดินได้สะดวกยังคงเป็นที่ต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะในย่านที่มีสถานที่ให้พนักงานได้กิน เที่ยว และพักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกงาน

ตัวอย่างที่เห็นได้คืออาคารสำนักงานเกรดเอหลายๆ อาคารที่ประสบความสำเร็จสูงในการดึงดูดผู้เช่าที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งของไทยและต่างชาติ แม้จะไม่ได้ตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ (ซีบีดี) ของกรุงเทพฯ ตัวอย่างเช่น ย่านพระราม 9-รัชดาภิเษก ซึ่งมีอาคารสำนักงานเกรดเอหลายอาคารที่มียอดการเช่าพื้นที่สูงและสามารถเรียกค่าเช่าได้สูงใกล้เคียงกับอาคารในย่านซีบีดี อาทิ อาคารเอไอเอ แคปปิตอล เซ็นเตอร์ อาคารจีทาวเวอร์ และอาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส

ที-วัน เป็นโครงการอาคารสำนักงานอีกโครงการหนึ่งที่สะท้อนความต้องการของบริษัทผู้เช่าในกรุงเทพฯ โดยโครงการได้รับความสนใจสูงจากผู้เช่าที่เป็นบริษัทไทยและต่างประเทศ เนื่องจากเป็นอาคารสำนักงานเกรดที่กำลังจะสร้างเสร็จในเร็วๆ นี้ นอกจากจะมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และมีทางเดินเชื่อมเข้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ยังตั้งอยู่ในย่านทองหล่อซึ่งเป็นแหล่งรวมธุรกิจ การค้า พักอาศัย และบันเทิง ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของพนักงานในยุคดิจิตอล

สำหรับ เจแอลแอลเป็นบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก มีสำนักงานสาขา 300 แห่งทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย เจแอลแอลเริ่มดำเนินธุรกิจมานับตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันเป็นบริษัทระหว่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ด้วยพนักงานมากกว่า 1,600 คน และมีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการคิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ เจแอลแอลยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมอันดับหนึ่งของประเทศไทยติดต่อกันเจ็ดปีซ้อน ในการสำรวจความคิดเห็นของคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2560 โดยนิตยสารยูโรมันนี (Euromoney Real Estate Survey 2017)​

http://www.bangkokbiznews.com

กรุงศรีเผยบาทอ่อนค่า หลังกนง.คงดอกเบี้ยตามคาด

แบงก์กรุงศรีเผยบาทอ่อนค่า หลังกนง.คงดอกเบี้ยตามคาด มองตลาดเงินผันผวนมากขึ้น

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ว่า กนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็นการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ครั้งที่ 22 ติดต่อกัน โดยเงินบาทอ่อนค่าลงและซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 31.43 ต่อดอลลาร์ ภายหลังการประชุมของกนง. และมีแนวโน้มจะผันผวนมากขึ้นตามแรงซื้อและขายดอลลาร์สลับกัน นับตั้งแต่ต้นปี 2561 เงินบาทแข็งค่าขึ้น 3.5% หลังจากที่แข็งค่าถึง 9% ในปี 2560

คณะกรรมการกนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยได้รับแรงส่งจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่แนวโน้มการลงทุนภาครัฐและเอกชนมีสัญญาณดีขึ้น และการใช้จ่ายผู้บริโภคกระเตื้องขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปท่ามกลางภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง กนง.ระบุว่าแรงกดดันด้านราคาที่นำโดยราคาน้ำมันน่าจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อปรับขึ้นได้ แต่ปัจจัยด้านอุปสงค์ยังอยู่ในระดับต่ำ ทั้งนี้ คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะปรับขึ้นสู่กรอบล่างของช่วงเป้าหมายของทางการที่ 1.0-4.0% ในไตรมาส 2 ของปี 2561 ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท คณะกรรมการมองว่า มีความผันผวนสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และมีแนวโน้มผันผวนในระยะต่อไปเนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายการเงินการคลังของประเทศอุตสาหกรรมหลัก

คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 28 มีนาคม 2561  โดยมุมมองของ กนง. ในวันนี้ ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก และยังย้ำถึงภาวะการเงินโดยรวมอยู่ในระดับผ่อนคลาย ขณะที่สภาพคล่องสูงและอัตราดอกเบี้ยแท้จริงอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ กนง. ย้ำถึงความกังวลในเรื่องความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานานเกินไป ทั้งนี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่กนง. จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 โดยรูปแบบการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยซึ่งถูกขับเคลื่อนด้วยภาคส่งออกเป็นหลักในปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มจะก้าวไปสู่การขยายตัวที่กระจายในทุกภาคส่วนมากขึ้นในปีนี้

http://www.bangkokbiznews.com

สวทช.โชว์วิจัยเด่น เปิดบ้านเสิร์ฟเอกชน

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ฯ เปิดบ้านจัดแสดงผลงานไฮไลต์จาก 4 ศูนย์วิจัยแห่งชาติในสังกัด พร้อมเสิร์ฟถึงมือภาคธุรกิจเอกชนในงานประชุมวิชาการปี 2561 หรือ แนค 2018 ทั้งจัดโซนตลาดนัดแรงงานด้านวิทย์-เทคโนฯ ตำแหน่งงานว่างกว่า 2,000 ตำแหน่งใน 120 บริษัท

นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เปิดเผยว่า งานประชุมวิชาการประจำปี 2561 หรือ แนค 2018 กำหนดจัดระหว่างวันที่ 9-13 มี.ค.นี้ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี นำเสนอผลงานวิจัยแก่นักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย พร้อมด้วยกิจกรรมการสัมมนากว่า 40 เรื่อง มหกรรมรับสมัครงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจาก 120 บริษัทรวมกว่า 2,000 ตำแหน่งงานว่าง การให้คำแนะนำเรื่องทุนการศึกษาทั้งในและต่างประเทศและการจับคู่เจรจาธุรกิจ

ตัวอย่างผลงานที่นำมาจัดแสดงซึ่งมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ เช่น แผ่นรองฝ่าเท้าเฉพาะบุคคลด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่นำเทคโนโลยีสแกนสามมิติมาช่วยวิเคราะห์การกระจายน้ำหนักของฝ่าเท้า เพื่อการออกแบบแผ่นรองฝ่าเท้าที่มีรายละเอียดตรงตามรูปเท้าของแต่ละบุคคล มีมาตรฐานและคุณภาพเป็นที่ยอมรับ

“เกมฝึกสมอง” จะช่วยกระตุ้นและฝึกสมองผู้สูงอายุ ด้านสมาธิ ความจำ การเรียนรู้ การมองเห็นและตอบสนอง การวางแผนและตัดสินใจ และภาษา ทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ “ผ้ากระตุ้นสมอง” ซึ่งเป็นผ้าห่มที่ให้ความอ่อนนุ่มและสวยงาม ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความกระวนกระวาย กระตุ้นประสาทสัมผัสและความทรงจำที่ดี สามารถใส่รูปภาพหรือกลิ่นหอมที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความคุ้นเคยและความชอบ

“ซูเปอร์ไลซ์โซไซม์จากไข่ขาว” มีฤทธิ์ยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้อาหารเน่าเสีย รวมทั้งแบคทีเรียก่อโรคในระบบการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและปศุสัตว์ อยู่ระหว่างนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยับยั้งแบคทีเรียในอาหารคนและสัตว์ ขณะเดียวกันมีระบบถอดความเสียงพูดที่ช่วยให้ผู้พิการทางการได้ยินและผู้สูงอายุที่มีปัญหาการได้ยินสามารถเข้าใจเนื้อหารายการโทรทัศน์ได้

ส่วนเทคโนโลยีการกักเก็บอนุภาคนาโนเมตรในกลุ่มน้ำมันหอมระเหยและสารสกัดสมุนไพร เช่น น้ำมันหอมระเหยไพลและขมิ้นชันมีคุณสมบัติต้านการอักเสบของกล้ามเนื้อ ปวดข้อ ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่ผิวหนัง เหมาะสำหรับเภสัชภัณฑ์ในระดับอุตสาหกรรม

http://www.bangkokbiznews.com

เพียงแค่ข้ามฝั่งแม่น้ำยมมาจากตัวเมืองสวรรคโลก จะได้พบอีกดินแดนที่ต้องร้อง “ว้าว!” ไปกับความเขียวขจีดีงามตามสไตล์บ้านทุ่ง

“มานอนที่โรงนาสิ”

คำเชิญชวนจากชาวสวรรคโลกคนหนึ่งทำให้อดคิดไม่ได้ว่า จะต้องไปนอนกอดวัวกอดควาย หรือต้องไปนอนบนกองฟางกองฟอนหรือเปล่า…?

นี่ไม่ใช่มุกตลก แต่คือความคิดแบบนั้นจริงๆ เพราะคำว่า ‘โรงนา’ ก็ชัดเจนในคาแรกเตอร์อยู่แล้ว

ทว่าโรงนาแบบฉบับ โรงนาบ้านไร่ กลับกลายเป็นความประทับใจที่ไม่ต้องลำบากลำบน เพียงแค่กิน นอน พักผ่อน อย่างเรียบง่าย แบบชาวนาผู้มีสไตล์เท่านั้นเอง

จากตัวเมืองสวรรคโลกที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนและร้านค้า ไปจนถึงสถานที่ราชการ เพียงข้ามแม่น้ำยมไปอีกฝั่ง ก็จะเจอพื้นที่เกษตรกรรม ยามหน้านาก็จะเขียวขจีด้วยต้นข้าวชูยอดทอดใบ เป็นดินแดนที่อยู่คู่ขนานกับตัวเมืองอย่างไม่ประดักประเดิด ที่นี่เองคือที่ตั้งของ ‘โรงนาบ้านไร่’ สำนักพิมพ์กลางท้องนา และอาร์ตฟาร์มสุดเก๋ ซึ่งมีอีกบทบาทหนึ่งคือ ที่พักแบบฟาร์มสเตย์

นกกวี – สัญญา พานิชยเวช เจ้าของที่นี่เล่าถึงฉากเริ่มของโรงนาบ้านไร่ให้ฟังว่า เกิดขึ้นจากความคิดแตกแขนงไปเรื่อยๆ ว่าจากการที่เขาทำบ้านให้กลายเป็นสำนักพิมพ์ มีเพื่อนพ้องและผู้คนแวะเวียนมาบ่อย แต่เมื่อพลบค่ำก็ต้องเดินทางไปเช่าที่อื่นนอน เขาจึงแบ่งสรรพื้นที่และสร้างให้กลายเป็นห้องพักแบบง่ายแต่เท่

แม้แต่เรื่องแขกเหรื่อมาเยี่ยมเยือนแล้วไม่มีอะไรกิน จะกินแต่ละทีต้องพากันออกไปกินข้างนอก ก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เขาต้องจัดการที่นี่ให้ครบจบในที่เดียว เสมือนได้อยู่บ้าน มีข้าวปลาอาหาร มีที่หลับที่นอน ซึ่งก็ตอบโจทย์กับการเป็นครูของนกกวี คือ เป็นคนค่าย จัดค่ายอบรมต่างๆ ตั้งแต่เรื่องการเขียนหนังสือ หรือเรียนรู้วิถีชีวิตแบบชาวนา

“ตอนแรกมีคนมาขอให้ทำค่ายที่นี่ พาเด็กๆ มาสิบคน มาเรียนรู้ชีวิตที่นี่ ผมก็ไม่ได้คิดเงินอะไรเพราะเป็นเด็กของมูลนิธิต่างๆ แต่พอทำไปมันค่อนข้างเหนื่อย ก็เลยตัดสินใจทดลองจัดเป็นแบบนี้ มื้อเย็นทำเป็นขันโตก มีที่นอนหนึ่งคืน มีอาหารเช้าง่ายๆ เช่น ข้าวต้ม ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ก็คิดราคา 550 บาทต่อคืนต่อคน ไม่ได้แพง แต่ก็ไม่ได้ถูกนะ แต่ถ้าให้เราขายห้องละ 500 บาท เราไม่ต้องทำดีกว่า เราอยู่เฉยๆ ดีกว่า มันน้อยเกินไปกับการต้องดูแล เรื่องทรัพยากร และเรื่องความปลอดภัย”

เรียกว่าทำแบบตอบโจทย์ในใจอย่างแท้จริง เพราะเหตุผลของเขาช่วยคัดสรรคนที่เข้ามาได้ในระดับหนึ่ง เพราะถ้าประสงค์จะมาพัก มีวิธีการเดียวคือโทรตรงเข้ามาจอง แน่นอนว่าส่วนมากคือคนที่ตั้งใจมาจริงๆ บวกกับคนที่รู้จักมักจี่กันอยู่บ้างแล้ว ความเรียบง่ายเหมือนมาหาเพื่อนจึงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนไม่เคอะเขิน ห้องที่สร้างไว้ 4 ห้อง มีบ่อน้ำอยู่ข้างหน้า อาจไม่ได้มีจุดเด่นเป็นความหรูหรา แต่การที่แขกจะทำอะไรก็ได้ อยากนอนตรงไหน มุมไหน นั่งเล่น อ่านหนังสือ ฯลฯ คือสิ่งที่หลายคนโหยหาเพราะขาดแคลนจากเมืองใหญ่

ความเป็นกันเองไม่หมดลงง่ายๆ เพราะทุกอย่างคุณเป็นคนเลือกเองได้ เช่น มื้อเย็นอยากกินอาหารประเภทปิ้งๆ ย่างๆ หรือต้องการประกอบอาหารเอง ที่นี่มีอุปกรณ์เครื่องครัวให้ใช้ หรือถ้าอยากร่วมวงกินข้าวกับเจ้าของบ้านก็ได้เช่นกัน ซึ่งเมนูก็แสนจะบ้านๆ แบบชาวนาขนานแท้ เช่น แกงสับนก แกงนอกหม้อ ผัดผัก น้ำพริก ที่ไม่ได้แพงด้วยมูลค่า แต่อุดมด้วยคุณค่าทางสารอาหารและทางจิตใจ กินข้าวเย็นไปฟังเสียงเขียดเสียงกบร้องดังกันขรม เหมือนมีวงดนตรีประสานเสียงที่ไม่เผยกายมาขับขานให้ฟัง เพิ่มรสชาติของอาหารธรรมดาให้อร่อยเป็นพิเศษ

ยามเช้าในอุดมคติของนักท่องเที่ยวหลายคนคือการได้ตื่นมาตักบาตรพระที่มาบิณฑบาตรถึงหน้าบ้าน แต่ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ประดิษฐ์โดยการนิมนต์หลวงพ่อให้เดินต่อมาถึงหน้าบ้านเพื่อการนี้ แต่เส้นทางบิณฑบาตรปกติของพระท่านคือผ่านแค่ปากทาง ใครใคร่ตักบาตรเพียงแค่เดินไปหน่อยที่ปากทางก็จะได้ตักบาตรสมใจ ได้บรรยากาศมีท้องนาเป็นฉากหลังด้วย หรือที่ตลาดเช้าในตัวเมืองสวรรคโลกก็ไม่ไกลกันนัก หากแจ้งความจำนง เจ้าของบ้านยินดีพาข้ามแม่น้ำไปเดินตลาดแถมได้ตักบาตร เพราะที่นั่นมีพระหลายรูปรอรับบาตร

เป็นโรงนาทั้งทีต้องให้ถึงแก่นชาวนา นอกจากมีนาข้าวแล้วยังต้องหาปูหาปลาได้ด้วย ใครอยากลองนั่งตกปลาเพื่อมาทำกินเอง ที่นี่ก็พร้อมทั้งปลาธรรมชาติที่มาพร้อมกับน้ำท่วมปี 2554 เติบโตให้คนที่นี่ได้จับกินตามสมควร และเบ็ดแบบง่ายๆ ทำจากวัสดุธรรมชาติ

แม้จะเป็นที่พักแบบบ้านๆ แต่ไม่ทิ้งความเก๋ เท่ สมกับมีเจ้าของเป็นศิลปิน นกกวีนอกจากเป็นนักเขียนและทำงานด้านหนังสือหนังหาแล้ว ยังทำงานศิลปะหลายแขนง ทั้งวาดภาพ ถ่ายภาพ งานปั้น สารพัด รูปร่างหน้าตาของโรงนาที่ทำให้เมื่อคนหลุดเข้ามาถึงที่นี่แล้วต้องร้องว้าวในความเก๋ไก๋ตัดกับความเป็นท้องทุ่งได้อย่างโดดเด่นแต่เข้ากันดี มาจากฝีมือการออกแบบของเขาทั้งสิ้น ส่วนการลงมือทำก็มาจากเรี่ยวแรงของคนในครอบครัวทั้งสิ้น

ห้องพักทั้ง 4 ห้องไม่มีเครื่องปรับอากาศ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสูดอากาศจากธรรมชาติให้ชื่นปอด และรับไอเย็นจากท้องทุ่งให้ชื่นใจ โดยไม่ต้องผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้าช่วยสร้างลมเย็นแต่ประการใด หากใครกังวลว่าจะร้อนอบอ้าวจนนอนไม่หลับ บอกได้เลยว่าการถ่ายเทอากาศค่อนข้างดี จนบางทีอากาศเย็นยามค่ำคืนแห่งชนบทอาจจะหนาวจับใจจนเกินคาด

ไม่แน่ว่าที่คิดว่านอนโรงนาแล้วต้องนอนกอดวัวกอดควาย ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดียามต้องลมหนาวกลางนา

http://www.bangkokbiznews.com

ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 16/02/2561

 ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  16/02/2561

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร
	ปตท PTT	บางจาก BCP	เชลล์ Shell	เอสโซ่ Esso	คาลเท็กซ์ Caltex	ไออาร์พีซี IRPC	พีทีจี เอนเนอยี่ PTG	ซัสโก้ Susco	ระยองเพียว Pure	ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05	27.05
แก๊สโซฮอล E-20	24.54	24.54	24.54	25.04	25.04	–	25.04	25.04	25.04	25.04
แก๊สโซฮอล E-85	20.14	20.14	–	–	–	–	–	20.14	20.14	–
แก๊สโซฮอล 91	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78	26.78
เบนซิน 95	34.16	–	–	–	34.61	–	34.66	34.16	34.16	34.16
ดีเซลหมุนเร็ว	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19	26.19
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม	29.19	29.19	29.19	29.19	29.19	–	–	–	–	–
มีผลตั้งแต่	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00	16 Feb 05:00