โควิดฉุดเชื่อมั่นดีเวลลอปเปอร์ต่ำสุดรอบ32ไตรมาส
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ในภาวะปัจจุบัน ไตรมาส 1 ปี 2563 ลดลงมาจากไตรมาสที่แล้วจากค่าดัชนี 44.4 จุด เหลือ 41.2 จุด ซึ่งเป็นค่าดัชนีที่ต่่าที่สุดในรอบ 32 ไตรมาส นับตั้งแต่ปี 2555 หลังจากที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ใน กรุงเทพมหานครในปี 2554
ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในไตรมาสนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการฯ มีความกังวลต่อปัจจัยลบต่างๆมากขึ้น ทั้งปัจจัยลบทางด้านเศรษฐกิจและสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่มีผลกระทบเป็นวงกว้าง เพิ่มมากขึ้นและยังไม่ทราบว่าจะยุติลงเมื่อไร
ซึ่งนับเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในระดับที่ค่อนข้างต่ำในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านผลประกอบการ ด้านยอดขาย และ การลงทุน ที่มีค่าดัชนีลดลงมากเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
เมื่อแยกกลุ่มผู้ประกอบการฯ ตามประเภทบริษัทพบว่า ความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของผู้ประกอบการ กลุ่มบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ (Listed Companies) มีค่าดัชนีเท่ากับ 41.7 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 44.6 จุด โดย ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ลดลงต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 อีกครั้ง หลังจากที่เคยมีค่าดัชนีต่่ากว่า 50 ในไตรมาสที่ 2 ปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ประกาศใช้มาตรการ LTV
ขณะที่ผู้ประกอบการกลุ่มที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ (Non-listed Companies) มีค่าดัชนีเท่ากับ 40.5 จุด ลดลงจาก ไตรมาสก่อนหน้าที่มีค่าดัชนีอยู่ที่ 44.1 จุด ซึ่งต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด ทั้งนี้พบว่าทั้ง 2 กลุ่มมีค่าดัชนีความ เชื่อมั่นในไตรมาสนี้ต่ำที่สุดในช่วงปี 2561 – 2562
ผลส่ารวจนี้ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่มมีความ เชื่อมั่นลดลงมากในไตรมาสที่ 1 ปี 2563
ส่าหรับดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า ในไตรมาส 1 ปี 2563 มีค่า เท่ากับ 51.5 ลดลงค่อนข้างมากจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.7 จุด แต่ยังคงสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50.0 จุด และยังสูงกว่าค่าดัชนีความเชื่อมั่นในภาวะปัจจุบันของไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ดังที่กล่าวมาข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อภาวะธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในอีก 6 เดือนข้างหน้าว่าจะมีการ ปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าในไตรมาสนี้ลดลงจากไตรมาสก่อน ทั้งนี้ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าเท่ากับ 54.8 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 59.2 จุด ในขณที่ผู้ประกอบการฯ กลุ่ม Non-listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 46.4 จุด ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 50.4 จุด
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตลาดที่อยู่อาศัยปีนี้ หดตัวแรง 17.8% คอนโดบางตา
ปัจจัยลบรุมเร้ามากกว่าปัจจัยบวก เป็นสาเหตุจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 และภาวะภัยแล้งรุนแรงมีผลทำให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัว ส่งผลให้เกิดการเลิกจ้างแรงงานจำนวนมาก และรายได้ของเกษตรกรลดลง กระทบกับกำลังซื้อที่อยู่อาศัยในวงกว้าง แม้ว่าในปีนี้จะมีปัจจัยบวกในด้านอัตราดอกเบี้ยขาลง ราคานํ้ามันลดลง มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลที่มีผลไปถึงสิ้นปีและมีการผ่อนปรนเกณฑ์ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ตาม
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ คาดการณ์ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ตลาดที่อยู่อาศัยจะหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ ทั้งในด้าน ซัพพลาย และ ดีมานด์ โดยในด้านอุปทานการขออนุญาตจัดสรรที่ดินคาดว่าจะหดตัว 17.8 % และการออกใบอนุญาตก่อสร้างคาดว่าจะหดตัว 15.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยอาคารชุดจะหดตัวมากกว่าที่อยู่อาศัยแนวราบ ส่วนในด้านดีมานด์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยคาดว่าจำนวนหน่วยจะหดตัว 11.9% และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์จะหดตัว 21.5%
ภาพรวมในปี 2562 ทั้งปีมีการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัยใน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC จำนวน 175 โครงการ 21,814 หน่วย เพิ่มขึ้นทั้งจำนวนโครงการและจำนวนหน่วย เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยเพิ่มขึ้น 2.9% และ 22.6% ตามลำดับ โดยใบอนุญาตจัดสรรที่ดินส่วนใหญ่เป็นทาวน์เฮาส์มากที่สุด จำนวน 14,066 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 64.5% ของจำนวนการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั้งหมด รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยวจำนวน 3,978 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 18.2% และบ้านแฝดจำนวน 3,461 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 15.9% เป็นอาคารพาณิชย์จำนวน 218 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 1.0% และที่เหลือเป็นที่ดินจัดสรร ตามลำดับ
เมื่อพิจารณารายจังหวัดในพื้นที่ EEC ในปี 2562 จังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุด อันดับ 1 ได้แก่จังหวัดระยอง มีสัดส่วน 44.5% ของการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั้งหมด ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอปลวกแดง อำเภอนิคมพัฒนา และอำเภอเมือง จ.ระยอง ตามลำดับ อันดับ 2 จังหวัดชลบุรี มีสัดส่วน 44.4% ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอศรีราชา อำเภอนิคมเมืองชลบุรี และอำเภอพานทอง ตามลำดับ อันดับ 3 จังหวัดฉะเชิงเทรา มีสัดส่วน 11.1% ส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอบางปะกง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา และอำเภอแปลงยาว ตามลำดับ
สำหรับแนวโน้มการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินใน 3 จังหวัด EEC ในปี 2563 ศูนย์ข้อมูลคาดว่าจะมีจำนวนประมาณ 17,938 หน่วย ลดลงจากปี 2562 17.8% โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ประมาณ 16,145-16,938 หน่วยและลดลงจากปี 2562 ระหว่าง -26.0 ถึง -9.5%
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 32.49 บาทต่อดอลลาร์แนวโน้มแข็งค่า
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.49 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.66 บาท/ดอลลาร์
เช้านี้เงินบาทค่อนข้างแข็งค่าจากเมื่อเย็นวาน และวันนี้ยังมีทิศทางจะแข็งค่าได้ต่อ เนื่องจากขณะนี้ตลาดเริ่มที่จะเปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น และหันมาถือสกุลเงินในตลาดเปิดใหม่รวมทั้งไทย อย่างไรก็ดี ในระหว่างวันต้องรอดูการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 1 ของจีนด้วยว่าจะออกมาอย่างไร เพราะหากตัวเลขออกมาไม่ดี เงินบาทก็มีโอกาสจะปรับทิศทางได้
“ช่วงนี้ตลาดเปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น…เมื่อวานมีข่าวว่าทรัมป์จะมีประกาศเริ่มเปิดเมือง และยังมีข่าวว่าสหรัฐเผยผลการทดสอบยาต้านไวรัสที่ทำให้สามารถรักษาผู้ป่วยโควิดจนหายดี ซึ่งเมื่อมีข่าวนี้เข้ามา ทำให้ตลาดเข้ามา take ความเสี่ยงได้มากขึ้น แต่สายๆ ต้องรอดูจีนประกาศจีดีพี ไตรมาส 1 ด้วย ว่าจะออกมาดีหรือไม่ เพราะอาจจะทำให้บาทสะดุดได้” นักบริหารเงินระบุ
เปิดโผ 10 แข้งวิ่งเร็วสุดในโลก ดาวดังพรีเมียร์ลีกติด 4 คน
สื่อฝรั่งเศส จัดอันดับ 10 อันดับนักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก โดยมีชื่อของ 4 สตาร์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ติดดผด้วย
สำนักข่าวต่่างประเทศรายงานวันที่ 17 เม.ย. ว่า Le Figaro สื่อของฝรั่งเศส ทำการจัดอันดับ 10 นักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก ผลปรากฏว่า คีเลียน เอ็มบัปเป กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ของ ปารีส แซงต์ แชร์แมง เข้าป้ายมาเป็นอันดับ 1 มีความเร็วอยู่ที่ 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ส่วนนักเตะจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ติดโผเข้ามา 4 ราย ได้แก่ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าจากอาร์เซนอล, ไคลื วอลเกอร์ แบ้กขวาจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้, เลรอย ซาเน ปีกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกจากลิเวอร์พูล
10 อันดับนักเตะวิ่งเร็วที่สุดในโลก
1.คีเลี่ยน เอ็มบัปเป (ปารีส แซงต์ แชร์แมง) 36 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
2. อินากี วิลเลียมส์ (แอธเลติก บิลเบา) 35.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
3.ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมยอง (อาร์เซนอล) 35.5 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4.คาริม เบลลาราบี (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) 35.27 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
5.ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 35.21 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
6.เลรอย ซาเน (แมนเชสเตอร์ ซิตี้) 35.04 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
7.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล) 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
8.คิงสลีย์ โกมาน (บาเยิร์น มิวนิก) 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
9.อัลบาโร โอดริโอโซลา (บาเยิร์น มิวนิก) 34.99 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
10.นาโช เฟอร์นันเดซ (เรอัล มาดริด) 34.62 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
รู้กิน รู้ขยับ รับมือโควิด -19
ในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาตรการหนึ่งที่หลายคนได้มีส่วนร่วมคือการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพราะแน่นอนว่าโควิด-19 ไปกับตัวคน
ดังนั้นการที่ทุกคนพยายามอยู่บ้าน ทำงานที่บ้าน ลดการเดินทาง ไม่ออกไปพบปะกัน ไม่ส่งต่อเชื้อ โรคก็จะถูกจำกัดวงให้แคบโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ไม่มีใครบอกได้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่
แต่ที่แน่ ๆ หลายคนเริ่มเบื่อความจำเจอยู่กับบ้าน นั่งกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตามติดข่าวโควิด-19 ผ่านหน้าจอทีวี แถมพอลูบหน้าท้อง ก็เหมือนจะเริ่มมีพุงอีกแล้ว
วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพฟิต พิชิตโควิด-19 จากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ มาฝากกัน “อ.สง่า ดามาพงษ์” ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สสส. ให้ข้อมูลว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แม้จะขึ้นชื่อว่ามีปริมาณโซเดียมหรือความเค็มสูง แต่หากเราปรับนิดเปลี่ยนหน่อย ก็ได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม
ขั้นที่ 1 ต้มน้ำให้เดือดใส่เส้นลงไปต้ม 1-2 นาที เทน้ำทิ้งเพื่อล้างเอาโซเดียมบางส่วนออก เติมน้ำพอประมาณ แล้วต้มให้เดือด
ขั้นที่ 2 เติมเนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ หรือโปรตีนเกษตร ใส่ผักตามชอบ ผักบุ้ง ถั่วงอก ฯลฯ
ขั้นที่ 3 ใส่เครื่องปรุงแค่ครึ่งซอง เพื่อลดการได้รับโซเดียมและไขมันมากเกินไป
สำหรับวิธีการกิน ใช้หลัก “กินเนื้อ เหลือน้ำ ไม่ยกซดน้ำจนหมดเกลี้ยง” ขณะเดียวกันควรกำหนดโควตา กินไม่เกินวันละซอง สัปดาห์ไม่เกิน 2 – 3 ซอง ที่สำคัญต้องกินให้หลากหลาย และตบท้ายด้วยผลไม้ทุกมื้อ
อ.สง่า บอกต่อว่า เมนูอาหารกระป๋อง เช่น ปลากระป๋อง, ผักกาดดอง, ผลไม้กระป๋อง ก็เป็นเมนูที่สามารถปรับเติมให้ได้คุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่เช่นกัน เริ่มจากขั้นตอนการเลือก ดูสภาพภายนอก กระป๋องไม่บวม ไม่บุบ บู้บี้ ไม่เป็นสนิม ดูฉลากก่อนซื้อ โดยอาจดูยี่ห้อน่าเชื่อถือ มีเลข อย. ชัดเจน ต้องยังไม่หมดอายุ ภายใน 1 ปี
และถ้าจะให้ดีควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีโซเดียมน้อยกว่า ยี่ห้ออื่น ๆ ส่วนวิธีการเก็บรักษา ให้เก็บไว้ในที่แห้ง สะอาด ไม่ร้อนจัด จะเก็บไว้ได้นาน เลี่ยงการขนย้าย เข้า-ออกห้องปรับอากาศ ป้องกันการเกิดสนิม
อ.สง่า กล่าวเสริมว่า พอเปิดกระป๋อง ให้ลองสังเกต ด้านในกระป๋องเรียบ ไม่มีรอยกัดกร่อน อาหารไม่บูด ไม่เสีย กลิ่นไม่เพี้ยน อย่างไรก็ตามก่อนนำมาปรุงอาหาร สำหรับอาหารคาว ให้นำไปอุ่น ให้เดือดนาน 5-15 นาที เพื่อความปลอดภัย และน่ากินมากขึ้น ทั้งนี้ ห้ามนำอาหารไปต้มทั้งกระป๋อง
“อาหารกระป๋องสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายเมนู เช่น ยำ เช่น ยำทูน่า, ลาบทูน่า, ยำปลากระป๋อง ต้ม เช่น แกงส้มทูน่า, ต้มยำปลากระป๋อง, ต้มจืดผักกาดดอง ผัด เช่น คะน้าผัดทูน่า, ถั่วลันเตาผัดกุ้ง, ปลากระป๋องผัดกระเพรา น้ำพริก เช่น น้ำพริกอ่องทูน่า, น้ำพริกหนุ่มทูน่า, กินพร้อมผักลวก” ผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สสส. กล่าว
สำหรับเมนูอาหารคาว ถ้าเป็นเนื้อสัตว์กระป๋อง ให้เพิ่มผักทุกครั้ง เช่น ผักสำหรับเมนูยำ, ผักสำหรับแกงส้ม, ผักสำหรับต้มยำ, ผักสำหรับผัดผัก ถ้าเป็นผักกระป๋อง ควรเพิ่มเนื้อสัตว์ด้วย เช่น เพิ่มไก่ หมู หรือซี่โครง สำหรับต้มผักกาดดอง เพิ่มไข่ ไก่ หมู ปลากุ้ง หรือเต้าหู้ในผัดผักกระป๋อง
ส่วนเมนูอาหารหวาน ใช้หลัก “กินเนื้อ เหลือน้ำ” ไม่กินน้ำเชื่อมจนหมด สำหรับเมนูอาหารกระป๋อง ถ้ากินครั้งเดียวไม่หมด เปลี่ยนใส่กล่องสะอาดฝาปิดมิดชิด เก็บไว้ในตู้เย็น ไม่เกิน 1 สัปดาห์ กำหนดโควตา 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ กินสลับกับอาหารสด
ด้าน “อ.แววตา เอกชาวนา” นักโภชนาการบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ วิทยากรประจำศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. ได้แนะนำเทคนิคเลือกซื้ออาหาร ในช่วงหลบภัยโควิด-19 ว่า
ประเภทข้าวและแป้ง ควรเลือกซื้อข้าวซ้อมมือ, เส้นหมี่แห้ง, วุ้นเส้นไม่ฟอกสี, ข้าวเหนียว, ข้าวโอ๊ต และถั่วเขียว
ประเภทเนื้อสัตว์ เลือกเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไขมันน้อยไว้แช่แข็ง และโปรตีนจากพืช เช่น ผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง, สาหร่าย และเห็ด มีประโยชน์ไม่แพ้เนื้อสัตว์ และเก็บรักษาง่ายกว่า
ประเภทไขมัน ซื้อน้ำมันพืช ติดบ้านไว้ตามขนาดครอบครัว ไม่ควรกินน้ำมันมากกว่าวันละ 9 ช้อนชา
ประเภทผักและผลไม้ มีผักและผลไม้หลายชนิดที่สามารถเก็บไว้ได้นาน อาทิ มันฝรั่ง, มันหวาน, ขิงแก่, กระเทียม, หอมใหญ่, พริกขี้หนู, มะนาว, กะหล่ำปลี, แคร์รอต, ผลไม้แห้ง
อีกทางเลือกที่ทำให้เราได้กินผลไม้แทนขนมหวาน ซื้อเก็บไว้บ้าง เลือกชนิดที่ไม่เคลือบน้ำตาล หรือน้ำผึ้ง เช่น กล้วยตาก, ลูกเกด, สตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง
ขณะที่ “นายแพทย์บัญชา ค้าของ” รองอธิบดีกรมอนามัย แนะนำการออกกำลังกายที่บ้านว่า ควรเน้นความเหมาะสมตามบริบทของผู้ออกกำลังกาย อุปกรณ์ สถานที่ หากไม่มีอุปกรณ์หรือพื้นที่ อาจเลือกชนิดการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก เช่น
1. การเดินเร็วรอบ ๆ บ้าน
2. กระโดดเชือก
3. เต้นแอร์โรบิก
4. เล่นโยคะ
5. ออกกำลังกายเพื่อฝึกความแข็งแรง แบบบอดี้เวท
6. เลือกใช้สิ่งของทดแทน เช่น การยกน้ำหนัก โดยใช้ขวดน้ำแทน
7. เปิดเว็บไซต์ดูตัวอย่างการออกกำลังกาย สามารถทำตามได้ทันที
8. การทำงานบ้าน
ทั้งนี้ การออกกำลังกาย แต่ละครั้งขอให้ได้ถึงระดับที่เหนื่อยพอพูดเป็นประโยคสั้น ๆ ได้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน วันละ 30 นาที ก็จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง
หวังว่าสาระความรู้สุขภาพต่าง ๆ ข้างต้น จะมีส่วนช่วยให้ทุกคนรู้ถึงวิธีเลือกกินให้ได้สุขภาพดี และรู้วิธีการออกกำลังกายแบบง่าย ๆ ในช่วงที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้าน สสส.ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสังคมไทย พ้นภัยโควิด-19 ไปให้ได้ในเร็ววัน
ในช่วงที่ต้องเก็บตัวอยู่บ้าน หลายคนอาจมีภาวะเครียด รวมไปถึงมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น สสส. จึงได้จัดทำคู่มือดูแลตัวเองสำหรับประชาชน “สู้ ! โควิด-19 ไปด้วยกัน” โดยรวบรวมสาระความรู้ที่น่าสนใจ อาทิ “เลิก ลด” 10 พฤติกรรมเคยชิน เสี่ยงโควิด-19, เทคนิคล้างมือให้ห่างไกลไวรัสโควิด-19, การดูแลสภาพจิตใจ ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
8 วิธีที่จะทำให้คุณเรียนคำกริยาอปกติได้ง่ายขึ้น
คำกริยาอปกติไม่ได้มีหลายคำนัก แต่การเรียนคำเหล่านี้อาจกลายเป็นเรื่องยากได้หากคุณไม่รู้ว่าจะเริ่มเรียนอย่างไร โชคดีที่เรามีเคล็ดลับที่จะทำให้คุณเข้าใจ “กริยาอปกติ” ได้ง่ายขึ้น
1. แบ่งกลุ่มคำกริยาอปกติที่คล้ายกันไว้ด้วยกัน
กริยาอปกติจะไม่เป็นไปตามกฏใดๆ จึงทำให้เราจำคำเหล่านี้ได้ยาก แต่คำกริยาอปกติบางกลุ่มจะมีรูปแบบการผันที่คล้ายกัน ดังนั้นลองแบ่งกลุ่มคำกริยาอปกติที่คล้ายกันไว้ด้วยกันแทนการจำตามลำดับพยัญชนะ
การแบ่งกลุ่มคำกริยาจะแบ่งตามความถนัดของคุณ แต่เรามีคำแนะนำเล็กน้อยดังนี้:
- คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนรูปไม่ว่าจะเป็น present, past และ past participle
- ตัวอย่าง: cost และ set
- คำกริยาที่เปลี่ยนรูปในรูปอดีต คือ past และ past participle แต่ไม่เปลี่ยนรูปในรูปอนาคต หรือ present
- ตัวอย่าง: breed, bred และ shoot, shot
- คำกริยาที่ลงท้ายด้วย -en เมื่ออยู่ในรูปของ past participle
- ตัวอย่าง speak, spoken และ wake, woken
ลองแบ่งกลุ่มคำกริยาอปกติตามความถนัดของคุณได้เลย!
2. เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆไปพร้อมๆกับ tense ของคำนั้นๆ
คุณสามารถจำคำกริยาอปกติได้ง่ายขึ้นในอนาคตหากคุณเริ่มจำการผันคำกริยาตั้งแต่คุณเรียนคำกริยานั้นเป็นครั้งแรก ทุกครั้งที่คุณเรียนคำกริยาใหม่ๆ ก็ให้เรียนการผันคำกริยานั้นไปด้วยเลย
เช่น เวลาเราเรียนว่าคำว่า to steal ที่แปลว่าขโมย ก็ให้จำการผันในรูป simple past ซึ่งก็คือ stole และ past participle ซึ่งก็คือ stolen ไปด้วย
3. จำคำกริยาอปกติ 10 คำที่ถูกใช้เป็นบ่อยก่อน
คำกริยาอปกติทุกคำไม่ได้ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยนัก เช่น คุณคงไม่ค่อยได้ใช้คำว่า broadcast และคุณคงเห็นคำว่า abide ในวลี law-abiding citizen (ซึ่งแปลว่าประชาชนผู้ทำตามกฏหมาย) แค่นั้นแหละ
แทนที่จะเราจะจำคำพวกนี้ตามลำดับพยัญชนะ ให้โฟกัสไปที่คำที่ใช้บ่อยที่สุดก่อน
เริ่มต้นด้วยคำที่ใช้บ่อยเหล่านี้ก่อน (เรียงคำกริยาตามลำดับ present, past และ past participle)
- Say, said, said
- Go, went, gone
- Come, came, come
- Know, knew, known
- Get, got, gotten
- Give, gave, given
- Become, became, become
- Find, found, found
- Think, thought, thought
- See, saw, seen
ใช่แล้ว คำง่ายๆพวกนี้แหละคือคำกริยาอปกติ คุณจำเป็นต้องรู้รูปของมันใน tense ต่างๆสำหรับการใช้คำเหล่านี้ในชีวิตประจำวัน
4. ลองใช้วิธีจำแบบเป็นเกมส์
หากคุณไม่สามารถจำคำกริยาอปกติได้โดยการใช้ flashcards ลองมาจำคำกริยาเหล่านี้ผ่านการเล่นเกมส์
มีเกมส์ออนไลน์จำนวนหนึ่งที่ช่วยให้จำคำกริยาอปกติได้อย่างสนุกและง่าย ดังนี้
- เว็บไซต์ British Council มีเกมส์ลักษณะเป็นควิซคำถาม
- เว็บไซต์ MacMillan Dictionary มีเกมส์วงล้อคำกริยา
- เว็บไซต์ Quia มีเกมส์ลักษณะเหมือนเกมส์ Jeopardy
คุณสามารถทำเกมส์บัตรคำศัพท์ของคุณขึ้นมาเองได้ ด้วยการเขียนคำกริยาและ past tense หรือ past participle (หรือทั้งสอง tense) ลงบนบัตรอย่างละใบ แล้ววางบัตรคว่ำหน้าไว้
ทีนี้คุณก็สามารถเล่นเกมส์ท่องจำได้แล้ว หงายบัตรขึ้นที่ละสองใบ ถ้าบัตรทั้งสองใบเป็นคำกริยาคำเดียวกันแต่คนละ tense ให้วางหงายหน้าไว้ แต่ถ้ามันไม่ใช่คำกริยาคำเดียวกัน ให้วางบัตรคว่ำหน้าลงอย่างเดิม
5. จำเป็นประโยค
บางครั้งมันง่ายกว่าที่จะจำคำศัพท์เวลาที่มันอยู่ในประโยคหรือวลีต่างๆ คุณสามารถเรียนคำศัพท์เหล่านี้ได้โดยการนำคำศัพท์ไปใช้ในประโยค ในขณะเดียวคุณก็จะได้รู้วิธีที่จะใช้มันให้ถูกต้องได้ด้วย
เช่นคำว่า see คุณสามารถนำไปใช้ในประโยคตัวอย่างได้ดังนี้
I see the bee, I saw the snow, but I’ve never seen a bee in the snow!
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ยิ่งประโยคแปลกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้จำได้ง่ายมากขึ้น คุณอาจจะทำให้มันคล้องจองกันแบบเป็นจังหวะ, นำไปใช้ในประโยคสั้นๆ หรือแต่งเรื่องขึ้นมานำคำกริยามาใช้ให้มากที่สุด คุณจะใช้วิธีไหนก็ได้ที่คุณถนัดตราบใดที่มันทำให้คุณจำรูปของคำศัพท์ได้
6. จำผ่านเพลง
วิธีเจ๋งๆอีกวิธีหนึ่งที่ทำให้คำศัพท์มีความหมายมากกว่าเป็นแค่คำศัพท์คือการใช้บทเพลงเข้ามาช่วย คุณสามารถพบเพลงเกี่ยวกับคำกริยาอปกติได้มากมายบน YouTube
ด้านล่างนี้คือ3 เพลงที่ดีที่สุดที่เราแนะนำ:
- FluencyMC เป็นเพลงแนวแร็พ จังหวะติดหู ที่สอนเกี่ยวกับรูปของคำกริยาอปกติที่ถูกใช้บ่อย
- วิดิโอแมวสุดน่ารัก ที่เล่านิทานพร้อมกับสอนกริยาอปกติไปในตัว
- Schoolhouse Rock การ์ตูนคลาสสิกพร้อมเพลงเพราะๆที่คุณจะร้องตามทั้งวันหลังจากได้ฟังเพลงนี้
7. แปะคำกริยาอปกติไว้ตามสถานที่ที่คุณมองเห็น
บางครั้งการท่องจำก็เป็นวิธีที่ดีที่สุด และคุณสามารถทำได้ง่ายๆโดยการแบ่งกลุ่มคำกริยาอปกติออกเป็น 5-10 กลุ่ม (คุณสามารถแบ่งกลุ่มตามลำดับพญัชนะ, ความบ่อยในการใช้งาน หรือแบ่งกลุ่มตามที่เราได้แนะนำไว้ในช่วงแรกของบทความ)
เขียนคำเหล่านี้ลงในกระดาษ วางมันไว้ตามสถานที่ต่างๆที่คุณสามารถมองเห็นได้ทั้งวัน แปะรายการคำศัพท์บนเครื่องทำกาแฟ, บนโต๊ะ หรือแม้แต่บนผนังห้องน้ำ อ่านรายการคำศัพท์เหล่านี้วันละสองสามนาทีต่อวันก็สามารถทำให้คุณจำคำศัพท์เหล่านี้ได้แล้ว
เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณจำรายการคำศัพท์กลุ่มนี้ได้แล้ว คุณก็สามารถเปลี่ยนไปจำคำศัพท์กลุ่มอื่นๆต่อไป
8. ให้คนอื่นช่วยแก้คำผิด
ไม่มีอะไรดีไปกว่าการฝึกฝน แต่การฝึกฝนที่ถูกต้องก็สำคัญมากเช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพูดภาษาอังกฤษกับเจ้าของภาษา ขอให้เจ้าของภาษาช่วยแก้ไขคำผิดให้คุณ วิธีนี้ไม่ได้ช่วยแค่การจำคำกริยาอปกติเท่านั้น แต่ช่วยในการเรียนวิธีใช้ภาษาอังกฤษด้านอื่นด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก bestkru.com
หนุนองค์กรจดโดเมน”.ไทย” จำง่ายเชื่อถือได้
ทีเอชนิค ส่งเสริมการใช้ชื่อเว็บไซต์ภาษาไทยภายใต้ชื่อโดเมน “.ไทย” เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงเว็บไซต์ได้มากกว่า จดจำง่ายกว่า และมั่นใจปลอดภัย ไม่ใช่เว็บปลอม
ดร.พจนันท์ รัตนไชยพันธ์ ผู้อำนวยการ มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย หรือ ทีเอชนิค เปิดเผยว่า มูลนิธิส่งเสริมให้เว็บไซต์ไทยใช้ชื่อโดเมน “.ไทย” เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ภาษาไทยในการเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีข้อมูลและบริการที่เป็นภาษาไทยได้อย่างสะดวกโดยไม่มีกำแพงด้านภาษามาเป็นอุปสรรค จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีผู้ใช้ชื่อเว็บไซต์ภาษาไทยที่เป็นโดเมน “.ไทย” เพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น พระลาน.ไทย, ห้างฉัตร.ไทย, บ้านผือ.ไทย, กรมแพทย์ทหารเรือ.รัฐบาล.ไทย, กาญจนาภิเษก.ศึกษา.ไทย เป็นต้น
การใช้ชื่อเว็บไซต์ภาษาไทยที่เป็นโดเมน “.ไทย” สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจน จดจำง่าย ไม่ต้องแปลหรือทับศัพท์เป็นชื่อภาษาอังกฤษ สนับสนุนให้คนไทยสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการต่าง ๆ ของภาคธุรกิจและภาคบริการสังคมได้สะดวกขึ้น เนื่องจากการใช้ภาษาไทยตั้งชื่อเว็บไซต์ตามชื่อของหน่วยงาน ประเภทสินค้าและบริการ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาเว็บไซต์ได้ง่ายมากขึ้น และยังเป็นการช่วยให้ผู้ประกอบการประชาสัมพันธ์สินค้าและธุรกิจให้เป็นที่จดจำได้โดยสะดวก เพิ่มความน่าเชื่อถือแก่คนไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเพิ่มมูลค่าอี-คอมเมิร์ซไทยอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนได้
นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์นี้ปลอดภัย ไม่ใช่เว็บไซต์ปลอม เพราะมีการตรวจสอบตัวตนของผู้ขอจดทะเบียนจากผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมนแล้ว ต่างจากการเป็นเจ้าของชื่อบัญชีของบริการสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งผู้ให้บริการไม่มีการตรวจสอบเจ้าของบัญชี ใครจะปลอมเป็นใครก็ได้ และผู้ให้บริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงหรืออาจยกเลิกบริการเมื่อไรก็ได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
10 สรรพคุณของ “บัวเผื่อน” ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงหัวใจ หามาทานด่วน!
บัวเผื่อน
เป็นพันธุ์ไม้น้ำคล้ายบัวสาย อายุหลายปี มีเหง้าและไหลอยู่ใต้ดิน และส่งใบดอกขึ้นมาบนผิวน้ำ บัวเผื่อนมีดอกให้ชมเกือบตลอดทั้งปี เริ่มบานตอนสายและหุบตอนบ่าย ออกดอกตลอดปี บัวเผื่อนมีชื่อพื้นเมืองอื่นว่า นิลุบล นิโลบล (กรุงเทพฯ) บัวผัน บัวขาบ (ภาคกลาง) ป้านสังก่อน (เชียงใหม่) และปาลีโป๊ะ (มลายู นราธิวาส)
ต้นบัวเผื่อน
เป็นพันธุ์ไม้น้ำคล้ายบัวสาย เป็นพืชที่มีอายุหลายปี มีเหง้าและไหลอยู่ใต้ดิน ส่วนใบและดอกจะขึ้นอยู่บนผิวน้ำ ขยายพันธุ์ด้วยการใช้หน่อหรือเหง้า และใช้เมล็ด พบกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยสามารถพบได้ตามหนองน้ำ บึงคลอง ริมแม่น้ำที่มีกระแสน้ำอ่อน และขอบพรุ
ใบบัวเผื่อน
ใบเป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับกันเป็นกลุ่ม แผ่นใบลอยอยู่บนผิวน้ำ ลักษณะของใบเป็นรูปไข่กว้าง ปลายใบทู่ถึงกลมมน ส่วนโคนเว้าลึก ขอบใบเรียงถึงหยักตื้น ๆ ใบมีความกว้างประมาณ 8-18 เซนติเมตรและยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร แผ่นใบสีเขียว ท้องใบสีเขียวอ่อนจนถึงสีม่วงจาง ผิวใบเกลี้ยง มีเส้นใบราว 10-15 เส้น แยกจากจุดเชื่อมกับก้านใบ ส่วนก้านใบมีความสั้นยาวไม่แน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความลึกของน้ำเป็นหลัก แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีความยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร
ดอกบัวเผื่อน
ดอกเป็นดอกเดี่ยว ขึ้นอยู่เหนือน้ำ ดอกมีสีขาวแกมชมพูถึงสีอ่อนคราม ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ถ้าดอกมีสีขาวแกมเหลือง ปลายกลีบดอกเป็นสีครามอ่อน แล้วเผื่อนเป็นสีขาวหรือปลายกลีบเป็นสีชมพูเมื่อใกล้โรย แต่ละดอกจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8-10 เซนติเมตร มีกลีบดอกซ้อนกัน 2-3 ชั้น ปลายกลีบแหลม มีเกสรตัวผู้สีเหลืองจำนวนมาก รังไข่มีช่องประมาณ 10-20 ช่อง ฝังตัวแน่นอยู่ใต้แผ่นรองรับ ส่วนเกสรตัวเมียเป็นรูปถ้วย มีก้านดอกคล้ายกับก้านใบและมีความยาวไล่เลี่ยกัน สามารถออกดอกได้เกือบตลอดทั้งปี และดอกจะบานตอนช่วงสายและจะหุบตอนช่วงบ่าย ส่วนผลจะจมอยู่ใต้น้ำหลังจากการผสมเกสรแล้ว
ดอกบัวเผื่อน มีกลีบดอกสีขาว ปลายกลีบดอกเป็นสีครามอ่อน แล้วเผื่อนเป็นสีขาวหรือเป็นสีชมพูเมื่อใกล้โรย
ประโยชน์ทางยา
– ดอก รสฝาดหอมเย็น บำรุงหัวใจให้แช่มชื่น บำรุงกำลัง แก้ไขตัวร้อน แก้ไข้
– บำรุงครรภ์
– เมล็ด เมื่อฝักแก่ดอกร่วงหมดแล้วเรียกว่า”โตนดบัว” มีเมล็ดเล็กๆ คล้ายเมล็ดฝิ่น คั่วรับประทานเป็นอาหารได้ รสหอมมัน บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง
– หัว ลักษณะเป็นหัวตะปุ่มตะป่ำ เหมือนโกฐหัวบัว รสหอมมัน เผ็ดเล็กน้อย บำรุงร่างกาย ชูกำลัง บำรุงครรภ์รักษา บำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ
ในตำรายาไทย บัวเผื่อนอยู่ในพิกัดบัวพิเศษ มี 6 อย่างคือ บัวหลวงแดง บัวหลวงขาว บัวสัตตบงกชแดง บัวสัตตบงกชขาว บัวเผื่อน และบัวขม ใช้แก้ไข้ แก้ลม เสมหะ และโลหิต บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ ทำให้แช่มชื่น แก้ร้อนในกระหายน้ำ แก้ไข้ตัวร้อน บำรุงครรภ์ นอกจากนั้น ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ในตำรับยาหอมเทพจิตร มีดอกบัวเผื่อนเป็นส่วนผสมร่วมกับสมุนไพรอื่นๆอีกหลายชนิดในตำรับ มีสรรพคุณแก้ลมกองละเอียด ได้แก่ อาการหน้ามืด ตาลาย สวิงสวาย ใจสั่น และบำรุงดวงจิตให้ชุ่มชื่น
สรรพคุณของบัวเผื่อน
1. ช่วยบำรุงกำลัง (ดอก, เมล็ด, หัว)
2. เมล็ดใช้คั่วช่วยบำรุงร่างกาย (เมล็ด, หัว)
3. ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (เมล็ด, หัว)
4. ช่วยบำรุงหัวใจ (ดอก, เมล็ด, หัว)
5. ช่วยแก้ไข้ตัวร้อน (ดอก)
6. ช่วยบำรุงครรภ์ (ดอก, หัว)
7. ในตำราสมุนไพรไทย บัวเผื่อนถูกจัดให้อยู่ในตำรับยา “พิกัดบัวพิเศษ” ซึ่งประกอบไปด้วย บัวเผื่อน, บัวขม, บัวหลวงแดง, บัวหลวงขาว, บัวสัตตบงกชแดง, และบัวสัตตบงกชขาว ซึ่งมีสรรพคุณช่วยแก้ไข้8. อันเกิดเพื่อธาตุทั้ง 4 ช่วยขับเสมหะ แก้ไข้ตัวร้อน อาการร้อนในกระหายน้ำ แก้ลม ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น และช่วยบำรุงครรภ์ (ดอก)
8. ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ดอกบัวเผื่อนเป็นส่วนประกอบในตำรับยากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิตหรือตำรับยา “ยาหอมเทพจิตร” โดยมีดอกบัวเผื่อนเป็นส่วนประกอบร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ อีกหลายชนิด ซึ่งมีสรรพคุณช่วยแก้ลมกองละเอียด หรืออาการหน้ามืดตาลาย แก้อาการสวิงสวาย (อาการใจหวิว วิงเวียน คลื่นไส้ ตาพร่าจะเป็นลม), แก้อาการใจสั่น, และช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น ทำให้สุขใจ สบายใจ ช่วยคลายเครียด ทำให้มีอารมณ์แจ่มใส (ดอก)
9. สาร Nymphagol จากดอกบัวเผื่อน มีฤทธิ์ในการช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยเพิ่มระดับอินซูลินในหนูทดลองได้ (ดอก)
10. สารสกัดจากดอกบัวเผื่อน มีฤทธิ์ช่วยปกป้องตับหนูจากการถูกทำลายด้วยสารคาร์บอนเตตระคลอไรด์ (ดอก)
ขอบคุณข้อมูลจาก tnews.co.th
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 25,900.00 | 26,100.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,678.00 | 25,438.48 | 26,600.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,510.20 | 22,894.63 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,342.40 | 20,350.78 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 755.00 | 11,445.80 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 587.00 | 8,898.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,739.00 | 26,363.24 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/04/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 | 17.05 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 | 16.78 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 15.24 | 15.24 | 15.24 | 15.24 | 15.24 | – | 15.24 | 15.24 | 15.24 | 15.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 14.84 | 14.84 | – | – | – | – | – | 14.84 | – | – |
เบนซิน 95 | 24.46 | – | – | – | 24.91 | – | 24.96 | 24.46 | – | 24.46 |
ดีเซล | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 | 19.59 |
ดีเซล B10 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | 16.59 | – | 16.59 |
ดีเซล B20 | 16.34 | 16.34 | 16.34 | 16.34 | 16.34 | – | 16.34 | 16.34 | – | 16.34 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 23.44 | 23.46 | 25.44 | 25.44 | 25.44 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |