สุขุมวิทตอนกลางคึก คอนโดใหม่เปิดเพียบ
คอลัมน์พร็อพเพอร์ตีโฟกัส
เมื่อพูดถึงโซนสุขุมวิท ถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจสูงสุดทั้งจากผู้ประกอบการ และผู้ซื้อคอนโดมิเนียม ปัจจุบันบนเส้นทางสายนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมาย จากเดิมที่ดีมานด์กระจุกตัวในโซนสุขุมวิทตอนต้น ก็ขยายออกไปสุขุมวิทตอนกลางมากขึ้น
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลสำรวจพบโซนสุขุมวิทตอนกลาง (พร้อมพงษ์-ทองหล่อ-เอกมัย-พระโขนง-อ่อนนุช) เริ่มกลับมาได้รับความสนใจมากขึ้น โดยครึ่งหลังปี 2561 มีโครงการเปิดใหม่ในโซนนี้ 19 โครงการ คิดเป็น 5,796 ยูนิต โดยยูนิตที่เปิดใหม่นี้เป็นโครงการในกลุ่มราคา250,000-400,000 บาทต่อตารางเมตรราว 47% และโครงการในกลุ่มราคา 150,000-250,000 บาทต่อตารางเมตร จำนวน 44% โดยพบว่าโครงการที่เปิดใหม่นี้กว่า 55% เป็นโครงการที่ไม่ได้อยู่ติดรถไฟฟ้าแต่ยังคงมีดีมานด์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ โซนทองหล่อ-พระโขนงเป็นย่านที่มีโครงการไฮเอนด์มากที่สุด โดยเฉพาะในรัศมีรถไฟฟ้าสถานีทองหล่อและเอกมัยพบว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีโครงการเปิดใหม่ทุกปี โดยเฉพาะในปี 2561ถือเป็นปีที่มีโครงการเปิดใหม่มากที่สุดในรอบ 3 ปี มีทั้งหมด 4 โครงการ รวม 979 ยูนิต โดยเฉลี่ยแล้วโครงการกลุ่มไฮเอนด์ขายได้เร็วกว่าโครงการในกลุ่มอื่น โดยในปี 2561 ขายได้ 13 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการขณะที่ภาพรวมโครงการทุกระดับมีอัตราขายได้เฉลี่ยที่ 10 ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ แสดงให้เห็นว่าทำเลนี้มีความต้องการโครงการไฮเอนด์และลักชัวรีที่ดี
ราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในครึ่งหลังปี 2561 มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 244,000 บาทต่อตารางเมตรซึ่งตํ่ากว่าราคาเฉลี่ยของโครงการทั้งหมดที่มีขายในตลาดประมาณ 15-25% เนื่องจากโครงการเปิดใหม่ในปีหลังๆไม่ได้อยู่ในซอยทองหล่อแต่อยู่ในซอยใกล้เคียงจึงมีราคาตํ่ากว่า
ปัจจัยที่ผลักดันให้ทำเลสุขุมวิทตอนกลางมาแรงและมีความน่าสนใจไม่แพ้โซนสุขุมวิทตอนต้นเพราะความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกเริ่มมีการขยายออกไปมากขึ้น ดีมานด์จึงกระจายตัวสามารถตอบโจทย์ทั้งการเลือกซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน โดยมีอัตราผลตอบแทนในระดับ 6-7% อีกทั้งมีรูปแบบโครงการให้เลือกหลากหลาย โดยเฉพาะโครงการที่ขยับเข้าไปอยู่ในซอย แต่สามารถเดินมายังสถานีรถไฟฟ้าสะดวก ทั้งยังมีราคาเริ่มต้นที่จับต้องได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
‘เหนือกว่า-ถูกกว่า-สะดวกกว่า’ ทีเด็ด ‘เอสเตทกูรู’
สัมภาษณ์
ปัจจุบันธุรกิจอสังหาฯ ต้องผจญกับปัจจัยลบ ทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย กำลังซื้อหดตัว สถาบันการเงินเข้มงวด ซํ้าเติมด้วยมาตรการคุมเข้มสินเชื่อใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลให้หลายค่ายต่างตั้งรับและปรับตัว เน้นกลุ่มลูกค้าซื้ออยู่จริง ไม่ขยายโปรเจ็กต์ใหญ่เกินตัว เพราะเชื่อว่า “หากลูกค้าอยากได้บ้าน…แม้จะมีกฎเกณฑ์มากมาย มากีดขวางเขาก็ซื้อ” ไม่ต่างกับมุมคิดของ นายสรวุฒิ มานะสมจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเตท กูรู จำกัด ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า
สรวุฒิ มานะสมจิตร
“เหนือกว่า-ถูกกว่า-สะดวกกว่า”
ผลกระทบจาก LTV ของแบงก์ชาติ ไม่กระทบเนื่องจากเน้นโครงการบ้านหลังแรก พัฒนาโครงการแบบค่อยเป็นค่อยไป หัวใจสำคัญคือ ต้องให้มากกว่าคู่แข่ง ที่ยึดมาโดยตลอด 10 ปี นับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่แวดวงอสังหาฯ คือ “เหนือกว่า-ถูกกว่า-สะดวกกว่า” ทำให้ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ไม่ว่าบ้านหรือคอนโดมิเนียม ยกตัวอย่าง ทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ราคา 1 ล้านบาทปลายๆ ทำเลต่างจังหวัด ทุกโครงการมีซุ้มประตูสระว่ายนํ้า สโมสร วัสดุดีเยี่ยมไม่ลดสเปก ถนนในโครงการกว้าง ซึ่งในทำเลเดียวกัน คู่แข่งไม่มี นี่คือข้อได้เปรียบ แม้แต่ค่ายใหญ่ ก็ไม่สามารถแย่งลูกค้าได้
ที่ผ่านมา บริษัทมักเน้นพัฒนาโครงการที่มีคู่แข่ง เนื่องจาก มีความท้าทาย และแสดงให้เห็นข้อเปรียบเทียบที่ชัดเจน การแชร์มาร์เก็ตติ้ง ทำให้ดึงคนเข้ามาดูในโครงการ ที่สำคัญยังเน้น พัฒนาโครงการ ตามต่างจังหวัดมากกว่า เนื่องจากต้นทุนที่ดินตํ่า เช่นโครงการที่ปลวกแดงจังหวัดระยอง เน้นสมาร์ทโฮมซิเคียวริตี เพราะเชื่อว่าผู้บริโภคต้องการความปลอดภัย ส่วน โครงการแปลงข้างเคียงให้เพียงซีซีทีวี ซึ่งมองว่า “ธรรมดา”
สำหรับความได้เปรียบ เอ็มดีหนุ่มอธิบายว่า ที่ผ่านมา มีแลนด์แบงก์สะสม รอพัฒนา และมีบางแปลงซื้อเพิ่มเติม เพื่อความเหมาะสมด้านการตลาด หากเห็นว่ามีลูกค้าเป้าหมาย ล่าสุดเตรียมพัฒนาบ้านแนวราบ เช่น อยุธยา ติดนิคมอุตสาหกรรม มีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก
ปั้นพระราม 2 ชนคู่แข่ง
นายสรวุฒิ ย้อนอดีตให้ฟังว่า ก่อนเข้าสู่วงการอสังหาฯ เคยเป็นโบรเกอร์ขายบ้าน เนื่องจากดูโปรเจ็กต์มากกว่า 20 โครงการในมือ จึงเริ่มเปิดโครงการคอนโดมิเนียมแห่งแรก แบรนด์ “ออริจิ้น” ทำเลพระราม 2 ติดถนน เมื่อ 10 ปีก่อน ซึ่งช่วงนั้นคอนโดมิเนียมยังไม่บูม ยังไม่มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้น ไม่มีข้อเปรียบเทียบกับคู่แข่งจึงสามารถวางแผนเปิดตัว 500 หน่วย หลังจากนั้นพัฒนามาทั้งแนวสูงแนวราบ เรื่อยมา แต่หลักๆ บริษัทจะเน้นแนวราบ มองตลาดแนวราบ เนื่องจากความเสี่ยงน้อยกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บาทเปิด 30.94บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า
มะม่วงหิมพานต์ หรือ Cashew มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Anacardium occidentale L มีผลลักษณะคล้ายลูกชมพู่ส่วนของมะม่วงหิมพานต์จะยื่นออกมา มี 2 พันธุ์คือสีแดงและสีเหลือง มะม่วงหิมพานต์มีคุณค่าทางสารอาหารสูงมากจึงควรรับประทานเป็นประจำเพื่อสุขภาพที่ดี
8 สรรพคุณของมะม่วงหิมพานต์
- ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด มะม่วงหิมพานต์มีกรดไลโนเลอิก จึงช่วยป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดและหัวใจ
- ป้องกันโรคหัวใจ อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวซึ่งกรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดี (HDL) และ ลดไขมันชนิดเลว (LDL) จึงมีประโยชน์ต่อหลอดเลือดแดงเพราะจะช่วยลดไขมันเลวในหลอดเลือด ทั้งยังช่วยทำให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น
- อุดมไปด้วยไขมันชนิดดีสูง เม็ดมะม่วงหิมพานต์มีแคลอรี่สูงในปริมาณ 100 กรัม ให้แคลอรี่ถึง 553 กิโลแคลอรี่ แต่ก็อุดมไปด้วยไขมันชนิดดี 75 % ของไขมันทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (ไขมันเลว)
- ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ ได้มีการศึกษาวิจัยเม็ดมะม่วงหิมพานต์พบว่าอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจและโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด
- บรรเทาอาการปวดไมเกรน เม็ดมะม่วงหิมพานต์อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย ช่วยลดความเครียด ช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดไมเกรนให้ลดน้อยลง จึงทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับง่ายขึ้น
- อุดมไปด้วยกลุ่มวิตามินบีรวม วิตามินบี1, วิตามินบี2, วิตามินบี3, วิตามินบี5, วิตามินบี6 และโฟเลต ช่วยในการเผาผลาญอาหารและช่วยป้องกันโรคบางชนิดได้
- ป้องกันการเสื่อมของสายตา เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อว่า ลูทีนและซีแซนทีน ช่วยป้องกันความเสียหายของจอประสาทตา จึงช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ
- ป้องกันโลหิตจาง มะม่วงหิมพานต์ยังมีธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการผลิตฮีโมโกลบินและมีหน้าที่ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง จึงช่วยบำรุงเลือดและป้องกันโรคโลหิตจางได้
คุณค่าทางโภชนาการของมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม
ให้พลังงาน 553 กิโลแคลอรี
โปรตีน 18.22 กรัม
ไฟเบอร์ 3.3 กรัม
แคลเซียม 37 มิลลิกรัม
วิตามินบี1 0.423 มิลลิกรัม
วิตามินบี2 0.058 มิลลิกรัม
วิตามินบี3 1.062 มิลลิกรัม
วิตามินบี5 0.864 มิลลิกรัม
วิตามินบี6 0.417 มิลลิกรัม
วิตามินอี 5.31 มิลลิกรัม
วิตามินเค 34.1 ไมโครกรัม
โฟเลท 25 ไมโครกรัม
ธาตุเหล็ก 6.68 มิลลิกรัม
สังกะสี 5.78 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 292 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 593 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 660 มิลลิกรัม
ลูทีน-ซีแซนทีน 22 ไมโครกรัม
ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com
เสือภูเขาไทยล่าตั๋ว อลป.2020 ส่งนักปั่นชุดใหญ่ลุยเลบานอน
สมาคมกีฬาจักรยานฯ ส่งนักปั่นเมาเท่นไบค์ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ไปชิงชัยศึกชิงแชมป์เอเชียและเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่ประเทศเลบานอนปลายเดือน ก.ค.นี้ เพื่อล่าตั๋วโอลิมปิกเกมส์ 2020 โดย “เสธ.หมึก” ตั้งความหวังเอาไว้ที่สองนักปั่นครอสคันทรี่สาว ซึ่งฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก มั่นใจมีลุ้นถึงเหรียญทอง
วันที่ 16 ก.ค.62 พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานฯ กำหนดส่งนักปั่นเมาเท่นไบค์หรือเสือภูเขาทีมชาติไทยชุดใหญ่ เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียและเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่เมืองคีฟเฟอดีเบน ประเทศเลบานอน ระหว่างวันที่ 25-28 ก.ค.นี้
สำหรับนักปั่นทีมชาติไทยประกอบด้วย รุ่นประชาชนชายครอสคันทรี กีรติ สุขประสาท, ปาริวัฒ ตั๋นเหล็ก, อดิศักดิ์ ไตลังคะ, รุ่นประชาชนชายดาวน์ฮิล สืบสกุล สุขจรรยา, ชินพัฒน์ สุขจรรยา, บุณยวัฒ ปราโมทย์, เมธาสิทธิ์ บุญเสน่ห์, รุ่นประชาชนหญิงครอสคันทรี วรินทร เพชรประพันธ์, นาตาลี ปัญญาวัน, สุรัตติยา บุปผา, ดาวน์ฮิล วิภาวี ดีคาบาเลส, ศิรภัสสร ชาติกำเนิด, รุ่นเยาวชนชาย พูนศิริ ศิริมงคล, พลฉัตร นาคทองคำ, อธิพงศ์ สุวรรณสิงห์
รุ่นเยาวชนหญิง ยลธนันท์ พลกล้า, จริญญา สืบจากถิ่น โดยมี ร.อ.สุภัทร ศรีไสว เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนและผู้จัดการทีม, ฉลอง ปานผ่อง กับ กฤติกา ศิลาพัฒน์ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน และสุระพงศ์ กลุ่มในเมือง เป็นช่างประจำทีม โดยจะออกเดินทางจากไทยไปยังเลบานอนในวันที่ 22 ก.ค.
โดย “เสธหมึก” กล่าวว่า การแข่งขันจักรยานเสือภูเขาชิงแชมป์เอเชีย 2019 ที่เลบานอน มีความสำคัญอย่างมากต่อการคัดเลือกโควต้านักกีฬาจากทวีปเอเชียเข้าร่วมโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากตามระเบียบระบุไว้ว่า หากชาติใดที่ไม่ผ่านควอลิฟายจากอันดับประเทศ 21 ชาติแรก แต่มีอันดับดีที่สุดในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2019 ก็จะได้โควตา 1 ที่นั่งทันที
“สำหรับความหวังของไทยในการลุ้นโควตาโอลิมปิก น่าจะอยู่ที่การทำอันดับให้ดีที่สุดของนักปั่นสาวไทยในครอสคันทรีหญิง ก็คือ วรินทร เพชรประพันธ์ กับ นาตาลี ปัญญาวัน ซึ่งทั้งสองคนอยู่ระหว่างการฝึกซ้อมระยะยาว ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก (WCC) ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีผลงานดีวันดีคืน โดยเฉพาะ วรินทร ที่ล่าสุดเพิ่งได้อันดับ 40 ในการแข่งขันเมาเท่นไบค์ เวิลด์ คัพ ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางศูนย์ฝึกจักรยานโลก แสดงความมั่นใจว่านักปั่นสาวไทยทั้งสองคนจะโชว์ผลงานและสร้างเซอร์ไพรส์ได้อย่างแน่นอน และทางศูนย์ฝึกจักรยานโลก ยังจะส่งโค้ชชาร์ลีที่เป็นผู้ดูแลการฝึกซ้อมของ วรินทร กับ นาตาลี มาคุมเข้มในการแข่งขันที่เลบานอน เสริมกับผู้ฝึกสอนไทยอีกต่างหาก นอกจากนี้ก็ยังน่าจะมีลุ้นถึงเหรียญทองจากดาวน์ฮิลทั้งชายและหญิงที่นักปั่นไทยเรามีมาตรฐานสูงเทียบชั้นระดับเอเชียมานานแล้ว” พล.อ.เดชา กล่าว.
อี-คอมเมิร์ซครึ่งแรกโต33% ‘เสื้อผ้า-แฟชั่น’ครองแชมป์ช็อปมากสุด
ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีมูลค่าตลาดอี-คอมเมิร์ซ สูงถึง 3.2 ล้านล้านบาท ซึ่งจากผลสำรวจพบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องราว 8-10% ต่อปี โดยสัดส่วนมูลค่าของตลาดอี-คอมเมิร์ซนั้นคิดเป็น 2-3% หรือราว 2-3 แสนล้านของภาพรวมตลาดค้าปลีกไทย ที่มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านล้านบาท ปัจจัยที่มีส่วนช่วยทำให้ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซเติบโตได้นั้น มาจากหลายภาคส่วนมีการสร้างอีโคซิสเต็มขึ้นมารองรับตลาดไม่ว่าจะเป็นด้านการขนส่งโลจิสติกส์ ระบบการชำระเงิน รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าบนแพลตฟอร์ม
ลาซาด้า ประเทศไทย ที่ในช่วงครึ่งปี 2562 นั้นมีจำนวนผู้ค้าเพิ่มขึ้น 68.3% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งร้านค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้ากว่า 90% นั้นเป็นร้านของคนไทย ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมในแง่ของยอดขายรวมยังคงเป็นโทรศัพท์มือถือ สะท้อนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยที่มีการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นอันดับ 3 ของโลก และ 71% ของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้นมีการซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์
ขณะที่สินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นผู้หญิงยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมอันดับ 1 ที่มีจำนวนการสั่งซื้อมากที่สุด กลุ่มลูกค้าหลักของลาซาด้าคือกลุ่มคนในช่วงอายุ 18-29 ปี ซึ่งเมืองที่มีการเติบโตมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา คือ นราธิวาส, ยะลา,สระแก้ว โดยระยะเวลาที่คนมีการซื้อสินค้ามากที่สุดคือช่วง 10-11 โมง เพราะเป็นช่วงแฟลชเซลรอบแรกในแต่ละวันของลาซาด้า ระยะเวลาเฉลี่ยที่ผู้ ใช้อยู่บนแพลตฟอร์มคือ 10.3 นาที เพิ่มขึ้นจากฟีเจอร์ช็อปเปอร์เทนเมนต์ ที่เข้ามาให้บริการ ทั้งนี้ลาซาด้ายัง ได้จับมือกับแสนสิริ เพื่อเปิดตัวแสนสิริ ออฟฟิเชียล สโตร์ ซึ่งขายผลิตภัณฑ์ประเภทอสังหาริมทรัพย์ครั้งแรก บน LazMall มีไลฟ์สตรีมฟีเจอร์ จำลองห้องตัวอย่างแบบ 3D ที่ลูกค้าสามารถดูและตัดสินใจซื้อคอนโดฯหรืออสังหาฯ ได้โดยไม่ต้องไปดูห้องตัวอย่างจริงผ่านแอพพลิเคชันของลาซาด้า
เช่นเดียวกับนายธนาวัฒน์ มาลาบุปผา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไพรซ์ซ่า จำกัด กล่าวว่าทิศทางตลาดอี-คอมเมิร์ซของไทยมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยคนไทยใช้เวลากับอินเตอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 4.2 ชั่วโมง กิจกรรมยอดนิยมที่คนไทยใช้เวลามากที่สุด คือ โซเชียลมีเดีย, การค้นหาข้อมูล, อีเมล์, บันเทิง และซื้อขายสินค้าออนไลน์ ปัจจุบันไพรซ์ซ่ามีสินค้าอยู่บนแพลตฟอร์มกว่า 50 ล้านชิ้น เป็นสินค้าจากผู้ค้าต่างประเทศ 58% และผู้ค้าไทย 42% โดยในช่วงครึ่งแรกของปีมีอัตราการซื้อ 4.06% เติบโตจากปีที่ผ่านมา 33%
อย่างไรก็ตามสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีสินค้าเพิ่มขึ้นบนแพลตฟอร์มเป็น 62 ล้านชิ้น หรือเติบโตประมาณ 29% ซึ่งสินค้าที่สามารถสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์มไพรซ์ซ่า คือ สินค้าสุขภาพความงาม รองลงมาคือ แฟชั่นเสื้อผ้า และเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน ขณะที่สินค้าที่มีจำนวนการสั่งซื้อสูงที่สุด ยังคงเป็นสินค้าแฟชั่นและเสื้อผ้า โดยในแต่ละเดือนมีผู้เข้าชมแพลตฟอร์มไพรซ์ซ่าเฉลี่ยกว่า 13 ล้านคนต่อเดือน เทียบเท่ากับลูกค้าของไอคอนสยาม 3.5 แห่ง
นอกจากนี้ไพรซ์ซ่ายังได้มีการเปิดตัวโมเดลธุรกิจใหม่ คือ E-Commerce Distribution Platform โดยจับมือพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ ด้วยการใช้เทคโนโลยีในการติดตามพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าและความสนใจของผู้บริโภคที่เข้ามาช็อปปิ้งผ่านแพลตฟอร์มของไพรซ์ซ่า คาดว่าพันธมิตรจะมีการเปิดตัวโมเดลดังกล่าวภายในเดือนหน้า เพื่อตอบ โจทย์ความต้องการซื้อสินค้าผู้บริโภคในขณะนั้น ให้นักช็อปเลือกซื้อสินค้าได้ทันทีซึ่งมีไพรซ์ซ่าเป็นตัวกลาง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 20,500.00 | 20,600.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,328.00 | 20,132.48 | 21,100.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,195.20 | 18,119.23 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,062.40 | 16,105.98 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 598.00 | 9,065.68 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 465.00 | 7,049.40 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,376.00 | 20,860.16 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/07/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 | 28.35 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 | 28.08 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 | – | 25.34 | 25.34 | 25.34 | 25.34 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.39 | 20.39 | – | – | – | – | – | 20.39 | – | – |
เบนซิน 95 | 35.76 | – | – | – | 36.21 | – | 36.26 | 36.06 | – | 36.06 |
ดีเซล | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 | 27.09 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 26.09 | 26.09 | – | – | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.88 | 15.88 | – | – | – | – | – | – | – | – |