สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 17 กันยายน 2563

อสังหาฯ ปรับใหญ่ สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์ อำลา “พฤกษา”

บิ๊กบอสพฤกษามอบช่อดอกไม้อำลา สุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์

16 ก.ย.2563 – นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์  บอสใหญ่แห่งพฤกษา มอบช่อดอกไม้อำลาและแสดงความขอบคุณ นางสุพัตรา เป้าเปี่ยมทรัพย์  กูรูการตลาดหญิงแกร่ง ตัวท๊อประดับภูมิภาคเอเชีย ที่เข้ามาบริหารวางรากฐานทั้งนโยบายและเชิงปฏิบัติการที่แข็งแกร่งให้พฤกษา ในตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยเตรียมส่งไม้ต่อให้กับนายปิยะ ประยงค์ ลูกหม้อพฤกษา รับหน้าที่บริหารต่อ 

ทั้งนี้ ในข้อความประชาสัมพันธ์ ขององค์กรที่เผยแพร่ต่อสื่อมวลชน ยังระบุว่า ที่ผ่านมานางสุพัตรา เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในองค์กร ใช้ประสบการณ์ด้านการตลาดที่โชกโชน เป็นหัวเรือใหญ่ในการพลิกโฉมพฤกษาเมื่อครั้งที่มีการรีแบรนด์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด โดยปรับวิสัยทัศน์ และเปลี่ยนโลโก้พฤกษาใหม่ พร้อมใช้แบรนด์ไอเดีย “PRUKSA ใส่ใจ…

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


รถไฟฟ้า “สายสีส้ม” ดัน ‘รามคำแหง’ เรดโอเชี่ยน ซัพพลายใหม่ ทะลัก!

รถไฟฟ้า 3 สาย  จุดพลุรามคำแหง EBD ย่านธุรกิจต่อขยาย บิ๊กทุนพรึบ ซัพพลายใหม่ ทะลัก 6พันหน่วย ขึ้นแท่น เรดโอเชี่ยน หลัง “ริสแลนด์” ทุนยักษ์ฮ่องกง สวนโควิด ยึดสถานีลำสาลี ป้อนคอนโดฯใหม่เกือบ 2 พันหน่วย

# ทำเลรามคำแหง #  เรดโอเชียน # จุดตัดรถไฟฟ้า  แม้การเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ตลอดช่วงครึ่งปีแรก 2563 จำนวนลดลงหดตัวแรง 67%  เนื่องด้วยผู้ประกอบการเกรงผลกระทบโดยตรงจากวิกฤติเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตาม หลังสถานการณ์ผ่านจุดต่ำสุด กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดินเครื่องอีกครั้ง เริ่มเห็นการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้น ด้วยหวังช่วงชิงโอกาสการขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ทั้งยังเปรียบเป็นจังหวะเปิดตัวที่ปังที่สุด ท่ามกลางรายอื่นๆ ยังเฝ้าระวัง ชะลอการตัดสินใจอยู่

ทำเลส่วนต่อขยายย่านธุรกิจหรือ EBD (Extension Business District)กลายเป็นศัพท์ใหม่ พื้นที่สำคัญที่ผู้ประกอบการต่างยกให้เป็น Safe Zone ของการพัฒนาคอนโดฯยุคโควิด เพราะอย่างน้อยไม่ต้องกังวลกับซัพพลายค้างเก่าซึ่งเกิดขึ้นในหลายทำเลฮอต ขณะจุดตัดการคมนาคมต่างๆ โดยเฉพาะรถไฟฟ้า สร้างโอกาสการเติบโตให้กับพื้นที่สูง ทั้งการขยายของเมือง แหล่งงาน และความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ที่จะหลั่งไหลเข้ามาไม่หยุดหย่อน

เช่นเดียวกับ ย่านรามคำแหง ทำเลกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกที่มีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวด เร็วจนกลายเป็น EBD โดยมีจุดที่น่าสนใจ คือส่วนต่อขยายการคมนาคมต่างๆ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี), รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-ลำสาลี) ทำให้ทำเลย่านนี้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อทางราง ที่มีให้เลือกหลายเส้น โดยทั้ง 3 สาย มีจุดเชื่อมต่อที่ “สถานีลำสาลี” ซึ่งถือเป็นโซนที่ขยายตัวเป็นอย่างมาก ทำให้เกิดการลงทุนและเกิดการเติบโตของพื้นที่อยู่อาศัยมากขึ้น

ความเชื่อมั่นดังกล่าว ทำให้ทำเลรามคำแหง กลายเป็นที่จับตามองของบริษัทผู้พัฒนาอสังหาฯยักษ์ใหญ่หลายค่าย โดยซัพพลายคอนโดฯเริ่มพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2560 นับตั้งแต่โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเกิดขึ้น ซึ่งคาด ภายในสิ้นปี 2563 จะมีหน่วยใหม่เกิดขึ้นสูงถึง 6,000 หน่วย เช่น โครงการ นิช โมโน รามคำแหง จากค่าย บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ 1,698 หน่วย และคอนโดฯ โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง ของรายกลางอย่างบริษัท แอสเซทไวส์ บนพื้นที่ 2 ไร่ ใกล้สถานีรามคำแหง อีก 546 หน่วย เป็นต้น 

ขณะล่าสุดทุนใหญ่ต่างชาติสัญชาติฮ่องกง อย่าง บริษัท ริสแลนด์ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยสโลแกนการลงทุน “เล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำ” ก็ประกาศลุยปักหมุด โครงการขนาดยักษ์ “เดอะ ลิฟวิ่ง รามคำแหง” มูลค่าสูงถึง 4.9 พันล้านบาท ซึ่งเลื่อนการเปิดตัวมาจากช่วงปี 2562 บนเนื้อที่ 8 ไร่ บริเวณแยกลำสาลี อาคารสูง 42 ชั้น จำนวน 1,938 หน่วย โดยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การตลาด และสื่อสารภาพลักษร์องค์กร ประจำภูมิภาคไทย บริษัท ริสแลนด์ นางสาว มณีกานต์ อิสรีย์โกศล เผยว่า บริษัทเชื่อมั่นต่อตลาดคอนโดฯในไทย เพราะพบยังมีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้ออยู่ โดยเฉพาะสัญญาณบวก ย่านรามคำแหง โดยคาดราคาขายเปิดตัวที่ต่ำกว่าตลาด ประมาณ 7 หมื่นต่อตร.ม. จะดึงดูดทั้งกลุ่มคนซื้อเพื่ออยู่อาศัยและซื้อเพื่อลงทุนได้ จากอัตราการเติบโตของค่าเช่าราว 6-7% 
    “ภาพรวมตลาดไตรมาส 3 ทุกอย่างเริ่มฟื้นตัว พบหลายรายกลับมาเปิดโครงการใหม่โดยเฉพาะทำเลรอบนอก ขณะรามคำแหงนั้น ดีมานด์น่าจะกลับมาเป็นบวก หลายโครงการที่อั้นไว้คาดจะกลับมาเปิดตัว และทำการขายกันอย่างคึกคัก โดยมีริสแลนด์ เป็นผู้ทดลองตลาด เชื่อหากยอดขายเราไปได้ดี โครงการอื่นๆจะ Come Back กลับมาลงทุน”
    นอกจากนี้ ยังระบุว่า แผนก่อสร้างทางเดินเท้าสกายวอล์คเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลของรัฐ จะเป็นอีกตัวผลักดันให้โครงการที่อยู่อาศัยโดยรอบมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งในอนาคต บริษัทเอง มีแผนก่อสร้างท่าเรือ ใกล้เคียงกับโครงการ
เช่นกัน เพื่อให้ตอบโจทย์การเดินทาง รถ ราง เรือ อย่างครบครัน คาดสร้างความคึกคักให้กับทำเลดังกล่าวไม่น้อย
    ทั้งนี้ บริษัท ตั้งเป้ายอดขาย ณ สิ้นปี ที่ 1.6 พันล้านบาท หรือประมาณ 50% ของมูลค่าโครงการ หลังแนวโน้มลูกค้าตอบรับดี จาการเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ราว 400 หน่วย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ จีน ฮ่องกง ซึ่งส่งสัญญาณว่าอสังหาฯไทยยังเป็นที่ต้องการของนักลงทุน

นางสาวพจมาน วรกิจโภคาทร ผู้อำนวยการและหัวหน้าฝ่ายงานบริหารงานขายและการตลาด บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด เผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เดิมทำเลรามคำแหง ยังเป็นตลาดบลูโอเชี่ยน จากการเข้ามาลงทุนของผู้ประกอบการน้อยราย เช่น เสนาฯ, ศุภาลัย ซึ่งทั้ง 2 โครงการมียอดขายเกิดขึ้นดีตั้งแต่ช่วงก่อนสถานการณ์โควิด และกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังคลายมาตรการล็อกดาวน์ เนื่องจากเป็นทำเลส่วนต่อขยาย ที่ได้อานิสงส์ลูกค้าบางส่วนหลั่งไหลมาจากย่านรัชดา-พระราม 9 รวมถึงนักลงทุนชาวจีนก็ยังให้ความสนใจ ขายดีสุดในระดับราคา ช่วง 1 ล้านบาทปลายๆ-2 ล้านกว่า จากกลุ่มลูกค้าบ้านหลังแรก อย่างไรก็ตาม การเข้ามาปักหมุดลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของริสแลนด์ จะทำให้การแข่งขันในทำเลดังกล่าวร้อนแรงขึ้น แต่ไม่ได้กังวลถึงปัญหาโอเวอร์ซัพพลาย เนื่องจาก รามคำแหง เป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นติดอันดับต้นๆของกรุงเทพฯ อีกทั้งตลาดมีกลุ่มลูกค้าเช่าอพาร์ตเมนต์ ที่รอดูดซับโครงการแล้วเสร็จอีกจำนวนมากเฝ้าตัดสินใจอยู่ คาดจะเป็นอีกหนึ่งทำเล ที่มีความคึกคักด้านการขายอย่างต่อเนื่อง

“ริสแลนด์ เป็นอีกคีย์สำคัญ ว่าสามารถเปิดโครงการและทำยอดขายได้ดีหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้เจาะแค่กลุ่มลูกค้าคนไทย ถ้าเปิดแล้วรอด ย่อมการันตรีว่าตลาดยังไปได้ อีกทั้ง รามคำแหง ยังมีตลาดกลุ่มลูกค้าเช่าอพาร์ตเมนต์จำนวนมาก ที่รอซื้อเมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ เนื่องด้วยไม่สามารถเช่าจ่าย 2 ทางได้ ลูกค้ากลุ่มนี้ เป็นความหวังของดีเวลลอปเปอร์จึงกล้าเสี่ยง”
    ทั้งนี้ พบช่วงรามคำแหงตอนปลาย ใกล้มีนบุรี จุดตัดเชื่อมต่อของสายสีส้ม และสีชมพู ยังมีโครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ ของ บมจ.ออริจิ้น มูลค่า 1,900 ล้านบาท อีก 1,007 หน่วย ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง ปัจจุบันพบมียอดขายแล้วประมาณ 80% 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


คนแก่-พิการ เฮ พรุ่งนี้กดเงินเบี้ยยังชีพได้แล้ว

คนแก่-พิการ เฮ พรุ่งนี้กดเงินเบี้ยยังชีพได้แล้ว

กรมบัญชีกลาง พร้อมจ่าย เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ 17 ก.ย. 2563

นางสาววิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางได้โอนเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการประจำเดือนกันยายน 2563 เข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ให้ผู้มีสิทธิ ในวันที่ 17 ก.ย. 2563 ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบยอดเงินในบัญชีได้ (ตามระยะเวลาของการดำเนินการของแต่ละธนาคาร)

กรณีผู้มีสิทธิที่ไม่มีบัญชีธนาคาร กรมบัญชีกลางจะโอนเงินไปยัง อปท.เพื่อจ่ายเป็นเงินสดให้แก่ผู้มีสิทธิต่อไป

ก่อนหน้านี้กรมบัญชีกลางได้รับโอนเงินจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) จำนวน 7,000 ล้านบาทครบถ้วนแล้ว เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2563 จากเดิมที่มีเงินอยู่เพียง 1,700 ล้านบาท โดยหลังจากนี้กรมบัญชีกลางจะใช้เวลา 5 วันในการตรวจสอบข้อมูล และเบิกเงินคงคลังซึ่งฝากไว้กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อนำไปโอนเข้าบัญชีธนาคารของผู้สูงอายุและผู้พิการที่ได้แจ้งไว้ โดยผู้ที่รับโอนเงินโดยตรงผ่านบัญชีธนาคารจะสามารถกดเงินได้ทันทีในวันที่ 17 ก.ย. นี้

นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจ่ายเบี้ยคนชราและคนพิการที่ล่าช้า รัฐบาลไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ เป็นการจ่ายที่ล่าช้าแค่อาทิตย์เดียว ซึ่งเกิดจากกระบวนการทางงบประมาณที่ต้องนำงบส่วนอื่นมาชดเชย และการคำนวณจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในรายละเอียดไม่ได้มีผลกระทบอะไร ยังสามารถเบิกจ่ายได้เหมือนเดิม ส่วนในเดือน ต.ค. 2563 ที่จะมีการปรับเพิ่มเบี้ยคนชรานั้น ยืนยันว่ารัฐบาลมีเงินเพียงพอ ไม่มีปัญหาในส่วนนี้อย่างแน่นอน โดยในปีงบประมาณ 2564 รัฐบาลเตรียมงบประมาณในส่วนนี้ไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


แนะร้านอาหาร-ผับ-บาร์ เข้ม 9 แนวทางปฎิบัติป้องกันโควิด-19

แนะร้านอาหาร-ผับ-บาร์ เข้ม 9 แนวทางปฎิบัติป้องกันโควิด-19 thaihealth

กรมอนามัย กำชับร้านอาหาร-ผับ-บาร์ เข้ม 9 แนวทางปฎิบัติป้องกันโควิด-19

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากข้อมูลสถานการณ์คนต่างด้าวของสำนักบริหารต่างด้าว กรมการจัดหางาน เมื่อเดือนก.ค.63 พบมีจำนวนคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย 2,419,452 คน ส่วนใหญ่ทำงานในกิจการร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีทั้งทำหน้าที่ปรุงประกอบอาหาร สัมผัสอาหาร และให้บริการแก่ลูกค้าที่เข้ามานั่งรับประทานหรือซื้อกลับบ้าน รวมไปจนถึงร้านที่ให้บริการด้านความบันเทิงร่วมด้วย เช่น การจัดแสดงคอนเสิร์ต ผับ บาร์ เป็นต้น

จากผลการตรวจประเมินเพื่อการเฝ้าระวังกิจการประเภทร้านอาหารและเครื่องดื่มของกรมอนามัยล่าสุด จำนวน 164 แห่ง พบว่าในร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีจุดบริการล้างมือ 96% กำหนดจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพื่อลดความแออัด 90% เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 81% สวมหน้ากาก 80% แต่ยังคงต้องเน้นย้ำการทำความสะอาดจุดสัมผัสบ่อยที่พบเพียง 77%

นอกจากนี้ จากการสำรวจสถานบริการประเภทผับ บาร์ คาราโอเกะ ลานเบียร์ โรงเบียร์ โรงเหล้า จำนวน 93 แห่งทั่วประเทศ พบว่าสถานบริการทุกแห่งมีจุดบริการล้างมือ แต่กำหนดจำนวนผู้เข้าใช้บริการเพื่อลดความแออัดได้เพียง 80% เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 83% สวมหน้ากาก 92% และมีการทำความสะอาด 96%

สำหรับผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในสถานที่เหล่านี้ นอกจากจะต้องดูแลด้วยการพาไปขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องและตรวจคัดกรองโรคให้เรียบร้อยแล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรคโควิด-19 ดังนี้

1) ให้มีระบบการคัดกรองพนักงานหรือผู้ให้บริการ และผู้มาใช้บริการ

2) ให้พนักงานหรือผู้ให้บริการ และผู้มาใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นนักร้อง นักดนตรี ให้ถอดหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยในช่วงเวลาแสดงดนตรีหรือร้องเพลง และจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันตนเองที่จำเป็นสำหรับพนักงาน คัดกรองพนักงานต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม เช่น แผ่นใสครอบหน้า (Face shield) ถุงมือ เป็นต้น

3) จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ไว้บริการในบริเวณต่างๆ ของสถานบันเทิง

4) จำกัดจำนวนผู้มาใช้บริการไม่ให้แออัด

5) ลดระยะเวลาโดยการจองทางออนไลน์ และลดการสัมผัส เช่น มีระบบการจ่ายเงินแบบออนไลน์ใช้ถาดหรืออุปกรณ์ในการรับเงิน เป็นต้น

6) มีการจัดระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างบุคคล โต๊ะในร้าน และระหว่างเวทีกับผู้มาใช้บริการ

7) ควบคุมไม่ให้มีกิจกรรมอื่นที่ใช้เสียงดัง (นอกจากการแสดงบนเวที) หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการรักษาระยะห่างระหว่างบุคคลและการแพร่กระจายเชื้อ

8) ให้ทำความสะอาดพื้นที่หรือบริเวณที่มีการสัมผัสร่วมกัน

9) จัดให้มีการระบายอากาศที่ดี กรณีสถานที่อยู่ในอาคารหรือเป็นพื้นที่ปิด ควรจัดทำระบบระบายอากาศหรือปรับอากาศให้มีอัตราการหมุนเวียนของอากาศอย่างเพียงพอ และทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ

ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th


คำศัพท์ภาษาสเปน 5 คำแรกที่ควรรู้ไว้ก่อน สำหรับคนที่สนใจอยากเรียนภาษานี้

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจอยากเรียนรู้ภาษาสเปน ในบทความนี้ผมก็มี ภาษาสเปน 5 คำแรกที่ควรรู้ก่อนเรียกได้ว่าเป็นคำศัพท์พื้นฐาน ที่ต้องใช้บ่อยๆนั่นเองครับ ถ้าพร้อมแล้วไปเรียนรู้พร้อมๆกันเลย

bigHOLA

Hola (โอ้ล่า) – สวัสดี

บางทีเป็นแค่คำทักทาย คือไม่ได้มีความหมายอะไรเลย พูดได้กับทุกคน ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ถ้าพูดแล้วยิ้มด้วยก็จะดี ปกติแล้วคำนี้จะพูดต่อด้วย คำสวัสดีตามช่วงเวลา เช่น ¡Hola, buenos dias! สวัสดีตอนเช้าครับ Hola, ¿qué tal? เป็นไงบ้างครับ สรุปคือคำว่า Hola เป็นจุดเริ่มต้นของการสื่อสารในภาษาสเปน พูดได้ทุกเวลา กับทุกคน

Gracias (กร้าเซียส) – ขอบคุณ

อันนี้พูดได้กับทุกคนทุกเวลา ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ถ้าจะให้ดี ก็ควรพูดกว่า Muchas gracias. คือขอบคุณมากๆ นั่นเอง หรือถ้าแปลตามตัวคือ ขอบคุณหลายๆ อัน

Adiós (อะดิโอ้ส) – ลาก่อน

แปลแบบตรงตัวว่า ไปหาพระเจ้าเถอะ พูดได้กับทุกคนเช่นกัน โดยจะเฉพาะกับคนที่ไม่รู้จัก พูดได้เมื่อจากลา แต่กับคนรู้จัก จะพูดเมื่อเวลาจะจากลากันไปไกลๆ หรือเป็นเวลานานๆ

Hasta luego (อ้าสต่ะ ลูเอ้โกะ) – แล้วเจอกันใหม่นะ

มักจะพูดกันกับคนรู้จัก หรือกับพูดเพื่อน ในความเป็นไปได้ว่า จะได้มีโอกาส ได้เจอกันอีกแน่ๆ หรือบางทีก็พูดกับคนที่เพิ่งรู้จักก็ได้ เหมือนเป็นการแสดงว่าความรู้สึกว่า อยากจะมีโอกาสเจอกันอีก

Perdona (เปร์โด้น่ะ) – ขอโทษครับ หรือขออภัยครับ

คำนี้เป็นคำกิริยา perdonar ไม่ใช่สำนวนทั่วไป จึงต้องมีการปรับเปลื่ยนโหมดได้เมื่อ พูดแบบทางการ สุภาพ หรือแบบทั่วไป ถ้าแบบสุภาพ (ถามทาง,ซื้อของ..) ก็ควรพูดว่า perdone เปร์โด้เนะ บางที่ก็พูดในรูปแบบ reflexive ได้เช่นกัน คือ perdóname, perdóneme หรือจะใช้อีกคำหนึ่งที่คล้ายกันคือ disculpar, disculpa, disculpe, discúlpame, discúlpeme

ขอบคุณข้อมูลจาก wegointer.com


ส่ง Vivo V20 กล้องหน้า44MPลงตลาด 21 ก.ย.นี้

Vivo เตรียมเปิดตัวสุดยอดสมาร์ทโฟนเซลฟี่ Vivo V20 กล้องหน้าความคมชัด 44 ล้านพิกเซล  มาพร้อมเทคโนโลยีระบบโฟกัสด้วยสายตา (Eye Autofocus)  21 ก.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Vivo เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง V20 ซีรีส์  ยกระดับการถ่ายเซลฟีที่คมชัดกว่าและโฟกัสได้ดีขึ้นในดีไซน์สุดบางเบา  จัดเต็มกับกล้องหน้าสองตัวบน Vivo V20 ซีรีส์ ด้วยกล้องหลัก Super Definition ความละเอียดสูง 44 ล้านพิกเซล ที่เก็บได้ครบทุกรายละเอียดในระยะใกล้สูงสุดถึง 15 เซนติเมตรและซูมได้ไกลกว่าด้วยระยะโฟกัสแบบไม่จำกัด พร้อมด้วยกล้อง Super Wide-Angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซลอีกตัวเพื่อเก็บรายละเอียดภาพมุมกว้างได้ดียิ่งขึ้น

การเปิดตัวสมาร์ทโฟน V20 ซีรีส์ ล่าสุดจาก Vivo พร้อมแล้วที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ของกล้องหน้าบนมือถือ และนำเสนอนวัตกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค

Vivo V20 ซีรีส์จึงใส่ฟีเจอร์ระบบโฟกัสด้วยสายตา (Eye Autofocus) เพื่อสุดยอดความคมชัดทุกรายละเอียดของดวงตา โดยจะสามารถตรวจจับทุกความเคลื่อนไหวและการแสดงอารมณ์ พร้อมสำหรับการถ่ายเซลฟีในทุกที่ทุกเวลา โดยฟีเจอร์ Eye Autofocus จะโฟกัสติดตามดวงตาได้อย่างแม่นยำเมื่อมีการเคลื่อนไหว และจะสลับระยะโฟกัสได้อย่างราบรื่นทั้งใกล้และไกล ไม่จำเป็นต้องมองที่เลนส์กล้องเมื่อถ่ายเซลฟี แต่สามารถแสดงความรู้สึกได้อย่างเป็นธรรมชาติ 

สมาร์ทโฟน Vivo V20 ซีรีส์ ติดตั้งอัลกอริทึม AI ทรงพลังที่ช่วยในการถ่ายภาพบุคคลขณะแสงน้อยในโหมด Super Night Selfie เพิ่มความสว่างของใบหน้าโดยรวม เพื่อสุดยอดความคมชัดของการถ่ายภาพบุคคลหรือ Portrait ด้วยกล้องหน้าแม้ในสภาพแสงน้อย นอกจากนี้ ฟีเจอร์ Selfie Softlight Band ที่ติดตั้งมาในตัวเครื่องจะมอบอุณหภูมิสีที่สมบูรณ์แบบ และให้โทนสีผิวที่เป็นธรรมชาติ โดยปรับตามสภาพแสงแวดล้อมโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ถ่ายภาพเซลฟีในสภาพแสงน้อยหรือเวลากลางคืนได้เป็นเรื่องง่ายและจัดภาพได้คมชัด

ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องเซลฟีบนสมาร์ทโฟน V20 ซีรีส์ ด้วยโหมด Steadiface Selfie Video โหมด Slo-Mo Selfie Video และโหมด 4K Selfie Video เพื่อบันทึกวิดีโอเซลฟีสุดคมชัดระดับ 4K อย่างมีศิลปะได้ง่ายๆ โดยสามารถถ่ายวิดีโอในชีวิตประจำวันสุดแอคทีฟได้ทุกเมื่อโดยไม่ต้องกังวลเรื่องภาพเบลอจากการสั่นด้วยโหมด Steadiface Selfie Video ไม่ว่าคุณจะวิ่งจ๊อกกิ้งตอนเช้า เข้าคลาสออกกำลังกายสุดเข้มข้น หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง สมาร์ทโฟนV20 ซีรีส์ ก็สามารถบันทึกวิดีโอในทุกช่วงเวลา ด้วยกล้องพอร์ทเทรตที่นิ่งกว่าเดิมอีกระดับ

สมาร์ทโฟน Vivo V20 ซีรีส์ จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยในวันจันทร์ที่ 21 กันยายน 2563

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


กระดังงา สรรพคุณและประโยชน์ของกระดังงาไทย 30 ข้อ !

กระดังงาไทย

กระดังงา

กระดังงาไทย ชื่อสามัญ Cananga, Ylang-Ylang, Ilang-Ilang (อิลาง-อิลาง)

กระดังงาไทย ชื่อวิทยาศาสตร์ Cananga odorata (Lam.) Hook.f. & Thomson (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Uvaria odorata Lam.) จัดอยู่ในวงศ์กระดังงา (ANNONACEAE)

สมุนไพรกระดังงาไทย มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า กระดังงา (ยะลา, ตรัง), กระดังงาใบใหญ่ กระดังงาใหญ่ (ภาคกลาง), สะบันงา สะบันงาต้น (ภาคเหนือ) เป็นต้น

ลักษณะของต้นกระดังงา

  • ต้นกระดังงาไทย จัดเป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตั้งตรง มีความสูงได้ประมาณ 15-20 เมตร  เรือนยอดเป็นทรงพุ่มแน่น แตกกิ่งก้านสาขามาก แผ่ออกจากต้นมักลู่ลง เปลือกต้นเป็นสีเทาเกลี้ยงหรือสีเงิน พบรอยแผลใบขนาดใหญ่อยู่ทั่วไป ส่วนที่ยังอ่อนจะมีขนขึ้นปกคลุม สามารถขยายพันธุ์โดยเมล็ดหรือตอนกิ่ง ออกดอกและผลได้ตลอดทั้งปี[1]

ต้นกระดังงาไทย

รูปกระดังงาไทย

  • ใบกระดังงาไทย ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวอ่อน ออกแบบเรียงสลับในลักษณะห้อยลง ลักษณะของใบเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบแหลมหรือมีติ่งแหลม โคนใบมนกลมหรือเบี้ยว ส่วนขอบใบเป็นคลื่น ใบมีขนาดยาวประมาณ 7-12 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 4-9 เซนติเมตร มีเส้นแขนงใบ 5-9 คู่ เป็นร่องส่วนบนของใบและนูนเด่นชัดด้านล่างของใบ เส้นกลางใบเห็นได้ชัดเจน ผิวใบบางเรียบและนิ่ม ใบอ่อนมีขนขึ้นทั้งสองด้าน ส่วนใบแก่มักมีขนมากตามเส้นแขนงใบ ก้านใบยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร[1]

ใบกระดังงาไทย

  • ดอกกระดังงาไทย ออกเป็นช่อขนาดใหญ่บนกิ่งเหนือรอยแผลใบ ช่อดอกแยกแขนง ในช่อหนึ่งมีดอกประมาณ 3-6 ดอก ดอกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-6 เซนติเมตร ก้านช่อดอกมีขน ก้านดอกยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นสีเหลืองอมเขียวหรือสีเขียว มีกลิ่นหอมมาก กลีบยาวอ่อนมี 6 กลีบ กลีบดอกห้อยลง กลีบดอกแบ่งเป็น 2 ชั้นและ 3 ชั้น กลีบดอกชั้นนอกมีลักษณะแคบ ยาว ปลายเรียวแหลม ขอบกลีบเรียบหรือเป็นคลื่นเล็กน้อย (เป็นคลื่นน้อยกว่ากระดังงาสงขลา) กลีบดอกมีขนาดยาวประมาณ 5-8.5 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร ส่วนกลีบดอกชั้นในมีลักษณะสั้นและแคบกว่าเล็กน้อย โคนกลีบดอกจะซ้อนทแยงอยู่ใต้รังไข่ กลีบเลี้ยงมี 3 กลีบ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตร มีขนขึ้นปกคลุม ปลายกลีบเลี้ยงกระดกขึ้น รังไข่มีจำนวนมาก เกสรเพศผู้มีจำนวนมากเบียดกันเป็นตุ้มแป้นทรงกลมตรงกึ่งกลางดอก[1]

รูปดอกกระดังงาไทย

ดอกกระดังงาไทย

ภาพกระดังงาไทย

  • ผลกระดังงาไทย ออกเป็นผลกลุ่มมีประมาณ 4-12 ผล ผลมีลักษณะเป็นรูปไข่ มีขนาดยาวประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตรและกว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร ก้านช่อผลยาวประมาณ 2-2.5 เซนติเมตร ส่วนก้านผลยาวประมาณ 1.3-2 เซนติเมตร ผลเป็นสีเขียวเข้ม เมื่อแก่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ภายในผลมีเมล็ดลักษณะรูปไข่แบน สีน้ำตาล ประมาณ 2-12 เมล็ด[1]

ผลกระดังงาไทย

สรรพคุณของกระดังงา

  • เปลือกต้นกระดังงา มีรสฝาดเฝื่อน มีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ แก้อาการท้องเสีย ใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน[1]
  • เนื้อไม้กระดังงา มีรสขมเฝื่อน มีสรรพคุณเป็นยาขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ[1]
  • รากกระดังงา มีสรรพคุณเป็นยาคุมกำเนิด[1]
  • ใบกระดังงา ใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน แก้อาการคัน และใช้เป็นยาขับปัสสาวะ[1]
  • ดอกกระดังงา มีรสหอมสุขุม มีสรรพคุณแก้ลมวิงเวียน ใช้ปรุงเป็นยาหอม ใช้เป็นยาชูกำลัง ทำให้หัวใจชุ่มชื่น บำรุงธาตุ บำรุงโลหิต บำรุงหัวใจ แก้ไข้ แก้อาการอ่อนเพลีย กระหายน้ำ จัดอยู่ในเครื่องยาไทยที่เรียกว่า “พิกัดเกสรทั้ง 7” (สัตตะเกสร) และ “พิกัดเกสรทั้ง 9” (เนาวเกสร)[1] ช่วยแก้อาการไข้เนื่องจากโลหิตเป็นพิษ[2] และมีปรากฏในตำรายาแผนโบราณชื่อคัมภีร์มหาโชติรัตน์ ยาชื่อมาลาสันนิบาต ซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาแก้ลมจุกคอ แก้อาการแน่นหน้าอก แก้จุกเสียดและแก้สะอึก[2]
  • เกสรกระดังงา มีสรรพคุณเป็นยาแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยเจริญอาหาร และใช้แก้โรคตา[1]
  • น้ำมันหอมระเหย มีสรรพคุณเป็นยาขับลม ฆ่าเชื้อโรค ช่วยบำรุงประสาท สงบประสาท แก้อาการซึมเศร้า กระวนกระวายใจ แก้หอบหืด ช่วยลดความดันโลหิต[2]

ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของกระดังงา

  • กระดังงาไทยมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต ฆ่าเซลล์มะเร็ง ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ยีสต์ ไล่แมลง เป็นเครื่องหอม แก้อาการหัวใจเต้นเร็ว หายใจหอบ ความดันโลหิตสูง มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร ใช้สงบประสาท ลดไข้[1]

ประโยชน์ของกระดังงา

  1. คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นกระดังงาไว้ประจำบ้านจะช่วยทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง เนื่องจาก “กระดัง” คือการทำให้เกิดเสียงดังไปไกล นอกจากนี้ยังเชื่อด้วยว่า เสียงดังเหมือนกับนกการเวกในสมัยพุทธกาลที่มีเสียงดังไพเราะและก้องไกลทั่วสวรรค์ ดังนั้นบางคนจึงเรียกกระดังงาว่า การเวก[2]
  2. คนไทยโบราณจะใช้ดอกกระดังงานำมาทอดกับน้ำมันมะพร้าวทำเป็นน้ำมันใส่ผม[1]
  3. ดอกแก่จัดสด ๆ สามารถนำมารมควันเทียนหรือเปลวไฟจากเทียน เพื่อให้ต่อมน้ำหอมในกลีบดอกแตกออกและส่งกลิ่นหอมออกมา แล้วนำไปเสียบไม้ลอยน้ำในภาชนะปิดสนิท 1 คืน เก็บดอกทิ้งในตอนเช้า แล้วนำน้ำไปเป็นน้ำกระสายยา หรือนำไปคั้นกะทิ หรือทำเป็นน้ำเชื่อมปรุงขนมต่าง ๆ[1]
  4. ดอกแห้งใช้ผสมกับดอกไม้หอมอื่น ๆ สำหรับทำบุหงา[1]
  5. น้ำมันหอมใช้ปรุงเป็นน้ำหอมชั้นสูงที่มีราคาแพง ใช้ปรุงขนม น้ำอบ และอาหาร[1]
  6. น้ำมันหอมระเหยที่สกัดมาจากดอก (Cananga oil หรือ Ylang-ylang oil) ถูกนำมาใช้ในทางสุคนธบำบัด (Aromatherapy) ใช้ผลิตเป็นเครื่องสำอาง หรือทำเป็นเครื่องหอมต่าง ๆ[2]
  7. เปลือกสามารถนำมาทำเป็นเชือกได้[2]

 ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com 


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 28,650.00 28,750.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,856.00 28,136.96 29,250.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,670.40 25,323.26 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,484.80 22,509.57 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 835.00 12,658.60 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 650.00 9,854.00 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,923.00 29,152.68 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 17/09/2563    

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 21.25 21.25 21.25 21.25 21.25 21.25 21.25 21.25 21.25 21.25
แก๊สโซฮอล์ 91 20.98 20.98 20.98 20.98 20.98 20.98 20.98 20.98 20.98 20.98
แก๊สโซฮอล์ E20 19.74 19.74 19.74 19.74 19.74 19.74 19.74 19.74 19.74
แก๊สโซฮอล์ E85 17.74 17.74
เบนซิน 95 28.66 29.11 29.16 28.66 28.66
ดีเซล 20.89 20.89 20.89 20.89 20.89 20.89 20.89 20.89 20.89 20.89
ดีเซล B10 17.89 17.89 17.89 17.89 17.89 17.89 17.89 17.89 17.89 17.89
ดีเซล B20 17.64 17.64 17.64 17.64 17.64 17.64 17.64 17.64
ดีเซลพรีเมี่ยม 25.34 25.36 27.34 27.34
แก๊ส NGV 14.17 14.17
 
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า