โควิดฉุด บิ๊กอสังหาฯ กำไรทรุด50%
ผลประกอบการอสังหาฯ ไตรมาสแรก ลดฮวบเกือบ 50% ยักษ์อสังหาฯ ดาวเด่นยังอ่วม แห่หาทางออกระบายสต๊อก-ตัดขายทรัพย์สิน -หารายได้อื่นทดแทน
อสังหาริมทรัพย์รายใหญ่เหงื่อตก ค่ายดาวเด่นเบอร์ 1 ในตลาด รายได้หด กำไรหายเกือบครึ่ง สะท้อนภาวะตลาดและความสามารถเอาตัวรอดในยุคกำลังซื้อโควิด-19 ระบาด หลังจากทยอยแจ้งผลประกอบการไตรมาสแรกต่อตลาดหลักทรัพย์ ขณะยอดโอนกรรมสิทธิ์โตเกินปกติของช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา นับเป็นอีกมูลเหตุสำคัญ ทำตัวเลขผันผวนหนัก ซึ่งทุกค่ายระบุ ผลที่ออกมาไม่เกินจากความคาดหมาย หันเหหาช่องทางสร้างรายได้จากกลุ่มธุรกิจอื่นๆ เป็นเสาค้ำ ตลอดช่วงปี 2563
เริ่มที่เบอร์ 1 ในวงการ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เจอพิษของเศรษฐกิจและโควิด-19 อย่างเต็มๆ หลังประกาศขายที่ดิน หวังเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ถึง 4 แปลงในไพรม์แอเรีย พบในช่วง 3 เดือนแรกของปี มีผลประกอบการลดลงทั้งในส่วนของรายได้และกำไรอย่างเห็นได้ชัด โดยมีรายได้ 7,143 ล้านบาท ลดลง 39.9% จาก 11,881 ล้านบาทของรายได้ปี 2562 ส่วนกำไรลดลง 45.3% อยู่ที่ 922 ล้านบาทเท่านั้น จากรายได้การขายที่ลดลง ทั้งจากจำนวนโครงการใหม่ที่เปิดลดลง ภาวะเศรษฐกิจในและต่างประเทศชะลอตัว รวมถึงปัจจัยนอกเหนือการควบคุม การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 และมาตรการ LTV ทั้งนี้ พบปัจจุบัน พฤกษามีโครงการที่เริ่มเปิดขายและดำเนินงานอยู่รวม 186 โครงการ รวมมูลค่ามากกว่า 2.11 แสนล้านบาท
ไม่ต่างจาก บมจ.ศุภาลัย ที่พบว่าตัวเลขรายได้ในช่วงไตรมาสแรก เหลือเพียง 3,831.16 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงเดียว กันของปีก่อนหน้าถึง 40% ส่วนกำไร จาก1,527 ล้านบาทในปี 2562 ลดลงไปประมาณ 51% เหลือเพียง 749 ล้านบาทเท่านั้น โดยให้เหตุผลหลักของรายได้และกำไรที่ลดลงมากว่า เนื่องจากในไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดมิเนียมครบกําหนดจำนวนมาก ขณะปี 2563 นั้น จะสร้างเสร็จและครบกําหนดโอนกรรม สิทธิ์ในช่วงครึ่งปีหลังถึง 4 โครงการ อีกทั้งบริษัทยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV อีกด้วย
ส่วน บมจ. แอล.พี.เอ็น ดีเวลลอปเม้นท์ หลังปรับแผนดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะถดถอยของตลาดคอนโดมิเนียม โดยกระจายฐานรายได้ไปยังโครงการแนวราบและธุรกิจบริการก่อนหน้า ลักษณะแบบครบวงจร แต่อย่างไรก็ตาม พบว่าผลประกอบการยังลดลงทั้งในแง่รายได้และกำไรเช่นกัน โดยไตรมาสแรก สามารถทำรายได้อยู่ที่ 1,850 ล้านบาท ลดลง 36.91% ขณะกำไรลดลง 40.38% จาก 349.99 ล้านบาท เหลือ 216.88 ล้านบาท ส่วนยอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรก มีมูลค่าประมาณ 3800 ล้านบาท
สำหรับ บมจ. เอพี ไทยแลนด์ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 5,399 ล้านบาท ซึ่งลดลง 30.7% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 618 ล้านบาท หดลงไปถึง 42.7% เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นับเป็นการเติบโตมากกว่าปกติ จากการที่ธปท.ประกาศใช้มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อ LTV ทำให้สินค้าบางส่วนถูกดึงออกมาล่วงหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางปัจจัยลบของตลาดในขณะนี้ ยืนยันว่า บริษัทยังสามารถสร้างรายได้จากโครงการแนวราบได้อย่างต่อเนื่องและเติบโตดี พุ่งสูงขึ้นมาก กว่าช่วงไตรมาสก่อนหน้า 4.8%
บมจ.ออลล์ อินสไปร์ แจงผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ล่าสุดว่า มีรายได้ 678.78 ล้านบาท ลดลง 20.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ขณะที่กำไรสุทธิ 113.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.67% ทั้งนี้ พบว่ามีรายได้อื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นนัย เนื่องจากการยกเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย จากโควิด-19 ส่งผลให้ลูกค้ายกเลิกสัญญาและยินยอมให้ยึดเงิน
ขณะเจ้าเก่า บมจ.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ โดยนายไชยยันต์ ชาครกุล ประธานกรรมการบริหาร ซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ต้นปี ว่า ปี 2563 นั้น ตลาดมีความท้าทายสูง จากปัจจัยใหญ่เรื่องภาวะเศรษฐกิจโลก กำลังซื้อประชาชน และมาตรการ LTV ของรัฐ จึงประเมินความเสี่ยง ปรับกลยุทธ์รับมือมาตั้งแต่ปี 2562 ส่วนผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 จะส่งผลอย่างยิ่งให้ตลาดคอนโดฯหดตัวหนัก อย่างไรก็ตาม การควบคุมต้นทุนทุกด้านของบริษัท ทำให้ผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกอยู่ในระดับน่าพอใจ โดยมียอดรับรู้รายได้ที่ 1,254 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 247 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตรากำไรขั้นต้น สูงกว่า 39% ระดับใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ด้าน บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งจัดอยู่ในอสังหาฯ กลุ่มเสี่ยง ทริสเรตติ้งกังวลในแง่รายได้ก่อนหน้า ปรากฏว่าในช่วงไตรมาสแรก ทั้งรายได้และกำไรลดฮวบ โดยมีรายได้รวม 2,168 ล้านบาท ลดลง 41.3% และมีกำไรสุทธิรวม 410.9 ล้านบาท ลดลง 68.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ ให้เหตุผลว่า มาจากการเปิดโครงการใหม่เพียงแค่ 1 โครงการ และเนื่องจากปีที่ผ่านมามียอดรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งมาจากการขายที่ดินรอการพัฒนา ขณะปีนี้ มียอดรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและโครงการบ้านเป็นไปตามปกติ
ส่วน บมจ. แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ โกลเด้นแลนด์ ประเมินว่า เห็นภาพชัดเจนผ่านผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2 แต่สำหรับช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทยังสามารถสร้างรายได้ อยู่ที่ 3,994 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิกว่า 351 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายแนวราบและ ค่าเช่าเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ ก่อนหน้า ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) คาดการณ์การโอนกรรมสิทธิ์ (รายได้) ปี 2563 อาจติดลบ 11.1-16.7% ต่ำสุดในรอบ 5 ปี ส่วนจำนวนสต๊อกเหลือขายทั่วประเทศแตะ 3 แสนหน่วย ขณะ บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสินฯ ประเมินว่า กำไรสุทธิของกลุ่มอสังหาฯ ปีนี้จะลดลง ถึง 23% ต่ำสุดรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ตรวจเข้ม ไซต์ก่อสร้าง ชูโครงการปลอด “โควิด”
สำนักงานเขตเข้ม ไซต์งานก่อสร้าง บ้าน-คอนโดฯ ทั่วกรุงสร้างความมั่นใจ ปลอดภัยโควิด-19 โครงการนัมเบอร์วันเฮ้าส์ พร้อมแนวทางปฏิบัติก่อนการเข้าสำนักงานขาย
รัฐบาลกำหนดให้ หน่วยงานรัฐตรวจสอบพื้นที่ก่อสร้างทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ผ่านมาพบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อ
นายวรเศรษฐ์ วิศาลศักดิ์ ผู้อำนวยการเขตประเวศ ลงพื้นที่สถานที่ก่อสร้างโครงการใหม่ “เดอะวันไลฟ์ บางนา” ของบริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อตรวจสอบมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของเอกชน โดยพบว่ามีแนวทางการปฏิบัติก่อนเข้าสถานที่ก่อสร้างอย่างเคร่งครัด เจ้าหน้าที่และคนงานก่อสร้าง สวมหน้ากากอนามัย 100% พร้อมมีมาตรการคัดกรองผู้ป่วย โดยวัดไข้ก่อนเข้าสถานที่ก่อสร้างทุกครั้ง รวมถึงมีบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือเพื่อฆ่าเชื้อโรคด้วย
“มั่นใจได้ทุกโครงการ โครงการบลูลากูน 2 บ้านเดี่ยวระดับ luxury ในสังคมเหนือระดับ ราคาเริ่มต้น 12.99-28.7 ล้านบาท และโครงการไอฟีลบางนา ทาวน์โฮมและโฮมออฟฟิศคุณภาพ การันตีด้วยรางวัลโครงการที่อยู่อาศัยดีเด่น ราคาเริ่มต้น 3.49 ล้านบาท มีมาตรการป้องกันและลดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของลูกบ้านและผู้เข้าชมโครงการบลูลากูน 2 และไอฟีล บางนา”
ทั้งนี้ มาตรการของบริษัท นัมเบอร์วันฯ ได้แก่ 1. มีการตรวจวัดอุณหภูมิตั้งแต่เข้าโครงการ 2. บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ประตูเข้า-ออกสำนักงานขายและบ้านตัวอย่าง 3. ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ สำนักงานขาย และพื้นที่ส่วนกลาง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคเข้มข้น 4. เพิ่มการทำความสะอาด ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณจุดสัมผัสภายในสำนักงานขาย บ้านตัวอย่าง สโมสรโครงการ และห้องน้ำ เมื่อมีคนเข้า-ออกทุกครั้ง 5. พนักงานสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ให้บริการ ครอบคลุมตั้งแต่พนักงานขายนำชมโครงการ เจ้าหน้าที่ส่งมอบบ้าน ตลอดจนแม่บ้าน และทีม รปภ.
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก บริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ฯ ระบุว่า บริษัทพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ตามปณิธานของบริษัทที่ต้องการสร้างสังคมคุณภาพที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด และมุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดให้แก่ผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
สินเชื่อบ้านธอส.5หมื่นล้านดอกเบี้ยต่ำขายดี
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าในการดำเนินงานตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2562 ที่ให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้วย “มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารอาคารสงเคราะห์” ภายใต้กรอบวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน ปีที่ 1 – ปีที่ 3 คงที่ 2.50% ต่อปี ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคารหรือห้องชุดจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศที่มีราคาซื้อขายไม่เกิน 3 ล้านบาท นั้น
ล่าสุดโครงการดังกล่าว ที่เปิดให้ประชาชนติดต่อยื่นคำขอกู้ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. 2562 ล่าสุดวันที่ 12 พ.ค. 2563 มีผู้ยื่นกู้แล้วจำนวน 24,925 บัญชี วงเงินขอกู้ 47,773 ล้านบาท และธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 23,010 บัญชี วงเงินอนุมัติ 42,950 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังคาดว่า แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส-19 แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยของมาตรการฯ ที่เฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำที่สุดในตลาดเพียง 2.50% ต่อปี จะทำให้ยอดอนุมัติสินเชื่อได้เต็มกรอบวงเงินของโครงการจำนวน 50,000 ล้านบาทได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้เร็วกว่าระยะเวลาของมาตรการที่กำหนดให้ยื่นกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 24 ธ.ค. 2563
สำหรับมาตรการสินเชื่อฯ ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการผลักดันของนายปริญญา พัฒนภักดี ประธานกรรมการ ธอส. และนายฉัตรชัย ศิริไล อดีตกรรมการผู้จัดการ ธอส. ที่ต้องการทำให้ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง คนวัยทำงานหรือกำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว และกลุ่มผู้สูงอายุ มีบ้านเป็นจริงตามนโยบายรัฐบาล จึงกำหนดอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกเพียง 2.50% ต่อปี ผ่อนชำระเริ่มต้น 3,300 บาทต่อวงเงินกู้ 1 ล้านบาทในช่วง 3 ปีแรก เทียบกับเงินงวดผ่อนชำระของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อปกติในช่วง 3 ปีแรกผู้กู้จะประหยัดเงินงวดได้ถึง 68,400 บาท และยังได้สิทธิ์ลดค่าใช้จ่ายในการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์และค่าธรรมเนียมการจดจำนองเหลือประเภทละ 0.01 % อีกด้วย
ทั้งนี้ แม้ภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปีเริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปัญหาโควิด-19 และการชะลอตัวของเศรฐกิจโลกแต่ในช่วงไตรมาส 1/2563 ธอส. สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ 52,515 ล้านบาท 32,472 บัญชี เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 19.24% แบ่งเป็นสินเชื่อวงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท จำนวน 21,456 ราย เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1,232,145 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.89%
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
มาอีกราย “นักชกสายโหด” ท้าดวล “บัวขาว”
นักมวยดีกรีแชมป์โลก ส่งสัญญาณท้าดวล บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย ในปี 2021
วันที่ 18 พ.ค. 63 เพจ MMA Uncensored ระบุ เดฟ เลดัค นักมวยชาวแคนาดา ดีกรีแชมป์โลกเลธเหว่ย (มวยพม่าคาดเชือก) ขอท้าดวล บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักมวยขวัญใจชาวไทยวัย 37 ปี ในปี 2021
สำหรับ เลดัค วัย 28 ปี เจ้าของส่วนสูง 188 เซนติเมตร ปัจจุบันเป็นแชมป์เลธเหว่ยโลก รุ่นโอเพ่นเวท ต้องการจะปะทะกับ บัวขาว บนสังเวียนในกติกาผสมผสาน “เลธเหว่ย” กับ “มวยไทย” อย่างไรก็ตามการต่อสู้เลธเหว่ยของ เลดัค นั้น นอกจากจะใช้หมัด, เท้า, เข่า, ศอก แล้ว ยังสามารถเอาศรีษะโขกได้ด้วย ซึ่งทำให้ฝ่ายบัวขาวน่าจะกำลังพิจารณาว่ามีความเหมาะสมแค่ไหน เนื่องจากค่อนข้างอันตรายเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ค่ายมวยบัญชาเมฆ ก็ได้มีการโพสต์ตอบสนองถึงกระแสดังกล่าวเช่นกันว่า “มีคนมาท้าอีกแล้ว” ทำให้น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่าการชกไฟต์นี้จะเกิดขึ้นจริงในปี 2021 ตามที่มีกระแสข่าวออกมาหรือไม่
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
3 ข้อปฏิบัติซูเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์ค้าปลีก – ส่งขนาดย่อม รับผ่อนปรนระยะ 2
กรมอนามัย คลอด 3 ข้อปฏิบัติ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ค้าส่งขนาดย่อม รับการผ่อนปรนระยะ 2 ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังการเยี่ยมเสริมพลังและติดตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ณ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) สาขานครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี ว่า กรมอนามัยได้จัดทำแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบกิจการ ร้านสะดวกซื้อ ประเภทซูเปอร์มาเก็ต มินิมาร์ท ร้านขายของชำ ร้านค้าปลีก ค้าส่งขนาดย่อม และร้านค้าปลีก ค้าส่งชุมชน ได้ปฏิบัติตามภายหลัง หากมีมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 โดยมีข้อปฏิบัติ 3 ส่วนหลัก คือ 1.ผู้ประกอบกิจการ ต้องจัดให้มีการคัดกรองพนักงานและผู้ซื้อ ผู้ใช้บริการ โดยวัดอุณหภูมิร่างกาย พนักงานและผู้ใช้บริการต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ต้องเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล 1-2 เมตร จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ให้บริการแก่พนักงาน ผู้ใช้บริการอย่างเพียงพอ
ทำความสะอาดเคาน์เตอร์ แป้นพิมพ์ชำระเงิน จุดวางสินค้า เป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ครั้งหรือทุกรอบที่เปลี่ยนพนักงาน คัดแยกตระกร้า และรถเข็นใส่สินค้า โดยทำความสะอาดก่อนนำมาให้บริการ ส่วนการจัดวางสินค้าที่จำหน่าย ให้จัดแยกเป็นสัดส่วนไม่ปะปนกัน สินค้าประเภทอาหารปรุงสำเร็จจัดเก็บในภาชนะที่มีการปกปิดมิดชิดและเหมาะสมกับอาหาร มีอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บอาหารที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอาหารตลอดเวลา
2.ผู้สัมผัสอาหารและผู้ปฏิบัติงาน สวมใส่หน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัย และล้างมือด้วยสบู่ และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังการปฏิบัติงาน ใช้อุปกรณ์หยิบ จับ หรือตักอาหาร โดยแยกระหว่างอาหารสุก อาหารดิบ ผัก และผลไม้ ไม่วางอาหารทุกประเภท บนพื้นโดยตรง และไม่ให้ผู้ซื้อใช้มือเลือกอาหารสด อาหารปรุงสำเร็จพร้อมบริโภคโดยตรง ผู้ปฏิบัติงานจัดเก็บขยะและพนักงานทำความสะอาด ต้องสวมถุงมือยาง ผ้ายางกันเปื้อน รองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง ใช้ปากคีมด้ามยาวเก็บขยะ และใส่ถุงขยะปิดปากถุง ให้มิดชิด ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังปฏิบัติงาน
3.ผู้ซื้อ ผู้บริโภค ควรวางแผนในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ เพื่อความรวดเร็ว ลดระยะเวลาที่ใช้บริการในร้าน ให้นำถุงผ้าส่วนตัวไปใส่สินค้าเพื่อลดปริมาณขยะและลดการสัมผัสกับผู้ค้า และหากตรวจพบว่าพนักงานและผู้ใช้บริการมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีไข้ ไอ จาม ควรให้ไปพบแพทย์ ทั้งนี้ กรมอนามัยขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการเพิ่มการเฝ้าระวังความสะอาดปลอดภัย โดยคุมเข้มด้านการจัดการขยะที่ถูกหลักสุขาภิบาล การคัดกรองพนักงานและผู้ใช้บริการ และการทำความสะอาดห้องน้ำ ห้องส้วมที่จัดบริการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสุขอนามัยที่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
การใช้คำว่า Welcome
สวัสดีค่ะทุกคน Hope life is treating you well! หวังว่าทุกคนคงสบายดีนะคะ มาต่อจากครั้งที่แล้วที่ได้เกริ่นไปแล้วว่า Welcome มีทั้งคำกริยา คำนามและคำคุณศัพท์ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำผู้ใช้ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษาอย่างพวกเราสับสนได้ วันนี้เราจะคุยถึง Welcome ที่เป็นคำคุณศัพท์แต่ใช้ในความหมายที่ต่างกันนะคะ
คำว่า Welcome ที่ใช้เป็นคำคุณศัพท์และใช้กันอยู่ทั่วไป มี 2 ลักษณะด้วยกัน คือ
1. ยินดีที่ได้ต้อนรับหรือได้พบผู้ที่มาเยี่ยมเยียนเรา
ตัวอย่าง
– Welcome to Thailand! ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย
– Come and see us whenever you are in Bangkok – you’re always welcome! มากรุงเทพฯเมื่อไหร่ ก็มาหาพวกเราด้วยนะ ยินดีต้อนรับคุณเสมอ!
2. ยินดีที่ได้ทำหรือได้มีบางสิ่งบางอย่าง
ตัวอย่าง
– A glass of iced coffee would be very welcome. ได้กาแฟเย็นซักแก้วก็จะดีมากๆเลยค่ะ/ครับ
– A holiday is always a welcome relief for us. วันหยุดถือเป็นการพักผ่อนที่น่ายินดีสำหรับพวกเราเสมอ
ส่วน You’re welcome! นั้นถือเป็นวลีที่ใช้ตอบรับเมื่อมีคนกล่าวคำขอบคุณกับเรา อย่าสับสนนะคะ ความแตกต่างอยู่ที่บริบทและสถานการณ์ที่เรานำไปใช้ค่ะ วันนี้ขอจบเรื่อง welcome แต่เพียงเท่านี้ Terima kasih( เตอ-ริ-มา กา-ซี) ขอบคุณที่ติดตามอ่านกัน (Terima kasih แปลว่าขอบคุณในภาษาอินโดนีเซีย)
ขอบคุณข้อมูลจาก nationejobs.com
โควิด ดึงศักยภาพ ‘นวัตกรไทย’ ช่วยบุคลากรการแพทย์
ปัจจุบันโรคโควิด-19 ได้คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกแล้ว กว่า 2 แสนราย และมีผู้ติดเชื้อกว่า 3 ล้านราย แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในประเทศไทยจะมีแนวโน้มลดลงแต่สถานการณ์ยังต้องอยู่ในการควบ คุมอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดซํ้ารอบ 2 ขณะที่หลายภาคส่วนต่างก็เดินหน้าในการช่วยกันพัฒนานวัตกรรมด้วยการนำเทคโนโลยีและโซลูชันต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งทำให้เห็นว่านวัตกรไทยมีศักยภาพและความสามารถด้านเทคโนโลยีและการสร้างนวัตกรรมต่างๆ ที่ไม่แพ้ชาติอื่น
ผุด Teleclinic ยกระดับสาธารณสุข
นายพิชิต ธันโยดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในช่วงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศต้องต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และได้รับผลกระทบในการดำเนินชีวิต ทรูได้เร่งสร้างนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์โดย ได้มีการพัฒนาแพลตฟอร์ม Teleclinic และเปิดใช้งานจริงครั้งแรกที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อให้ประชาชนประเมินความเสี่ยงได้ด้วยตัวเองผ่านแอพพลิเคชัน Chula Teleclinic ช่วยบุคลากรทางการแพทย์คัดกรองผู้สงสัยติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นพร้อมเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างแพทย์และผู้ป่วยผ่านระบบแชตและวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ รวมถึงมีระบบบริหารจัดการด้านการแพทย์ที่ช่วยลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งยังช่วยให้โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการบุคลากรทางการแพทย์ที่มีจำกัดได้เหมาะสมกับจำนวนผู้ป่วย
ผนึกวิศวกรพัฒนานวัตกรรม
ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา พลังของ “วิศวกร” และ “มหาวิทยาลัยไทย” ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการผลิตนวัตกรรมและเทคโนโลยีในแขนงต่างๆ ที่เอื้อต่อการรักษาทางการแพทย์ และผ่านกระบวนการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวนมาก อาทิ หุ่นยนต์ขนส่งเวชภัณฑ์ – ลดเสี่ยงติดเชื้อในบุคลากรทางการแพทย์, ห้องแยกโรคความดันลบ – ปรับความดันอากาศภายในห้องตํ่ากว่าภายนอกห้อง พร้อมป้องกันเชื้อโรคปนเปื้อนไหลออกสู่ภายนอกห้อง, หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวี -ทำลายดีเอ็นเอของไวรัส และหยุดยั้งประสิทธิภาพในการแพร่พันธุ์, ต้นแบบเครื่องช่วยหายใจ – นวัตกรรมที่ช่วยควบคุมการบีบของเครื่องช่วยหายใจ ให้เป็นจังหวะเหมือนกับจังหวะการหายใจของผู้ป่วย เป็นต้น โดยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการพัฒนาของวิศวกรไทยเพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ในการสู้กับโรคโควิด-19
ส่งหุ่นยนต์ช่วย ร.พ.สนามภาคใต้
ขณะที่นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า ภาคใต้ เป็นอีกพื้นที่เฝ้าระวัง โดยเอไอเอสได้นำเทคโนโลยี 5G พร้อมดิจิทัล โซลูชัน มาสนับสนุนการทำงานของทีมแพทย์และพยาบาล ที่โรงพยาบาลสนามในภาคใต้ ซึ่งได้มีความร่วมมือกับสถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการพัฒนา ADA Robot หุ่นยนต์บริการทาง การแพทย์ โดยทำเป็น 2 รุ่น รุ่นที่ 1 ทำหน้าที่ส่งยา อาหาร และ เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงพูดคุยสื่อสารระหว่าง ผู้ป่วยและหมอผ่านระบบวิดีโอคอลล์ และรุ่นที่ 2 เพิ่มกล้องตรวจวัดอุณหภูมิ เพื่อประเมินการรักษาเบื้องต้น ซึ่งหุ่นยนต์ จะถูกนำไปใช้งานเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระ ลดเสี่ยงให้กับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
3 สมุนไพรรักษาโรคหอบหืด…สุดยอดสมุนไพรที่คนแพ้ง่ายต้องหามาไว้ติดบ้าน
“หอบหืด” เป็นโรคที่สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตมากพอสมควรให้กับผู้ป่วย เพราะไม่ว่าจะทำอะไร จะไปไหนก็ต้องคอยระวังสิ่งกระตุ้นต่างๆ ที่จะทำให้โรคกำเริบ บางคนต้องนำยาพ่นติดตัวไปตลอด เพราะไม่รู้ว่าอาการจะกำเริบตอนไหน แถมการใช้ยาพ่นมากเกินไปก็ส่งผลต่อระบบหัวใจอีก ดังนั้นวันนี้เราได้รวบรวมวิธีบำบัดโรคนี้ด้วยสมุนไพรรักษาโรคหืดหอบมาฝากกันค่ะ อยากรู้กันแล้วสิว่าจะมีอะไรกันบ้าง อย่ารอช้า รีบตามมาดูกันได้เลยค่า
โรคหอบหืด คือ?
โรคหืด ( Asthma ) หรือโรคที่คนส่วนใหญ่เรียกกันว่าโรคหอบหืด เป็นภาวการณ์ที่หลอดลมมีการอักเสบเรื้อรัง จึงไวต่อสิ่งกระตุ้น และตอบสนองต่อสิ่งที่แพ้ไวและรุนแรงมากกว่าคนปกติ
สาเหตุของโรคหอบหืด
โรคหอบมีสาเหตุมาจากการที่หลอดลมไวต่อสารที่กระตุ้นการเกิดภูมิแพ้ ทำให้เยื่อบุผนังหลอดลมตีบบวม กล้ามเนื้อหลอดลมจะหดเกร็ง ทำให้เกิดการอักเสบ หายใจไม่สะดวก ส่วนปัจจัยที่ทำให้โรคกำเริบมีหลายปัจจัย เช่น
- แพ้สารก่อภูมิแพ้จากธรรมชาติ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ เชื้อรา แมลงสาป ไรตามขนสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
- สารเคมี เช่น ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน สีทาบ้าน สเปรย์ ควันบุหรี่ เป็นต้น
- พันธุกรรม สมาชิกในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหืดหอบ
- ออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่ไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย รวมไปถึงการออกกำลังกายในที่ที่เย็นจัดก็ทำให้โรคหอบหืดกำเริบได้
- ความเครียด เวลาเครียดจัด อาจทำให้การหายใจผิดปกติโดยที่ไม่รู้สึกตัว ซึ่งจะกระตุ้นตัวโรคได้
- สารในกลุ่มซัลไฟต์ สามารถกระตุ้นให้โรคหอบกำเริบได้เช่นกัน มักพบมากในกลุ่มผลไม้อบแห้ง ไวน์ เบียร์ เป็นต้น
- โรคกรดไหลย้อน เมื่อกรดไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหารด้านบน จะทำให้รู้สึกแสบร้อนกลางอก ผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการเริบบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น
อาการของโรคหอบหืด
เมื่อได้รับสารกระตุ้น ร่างกายจะตอบสนองแทบจะทันที โดยมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ไอ หายใจมีเสียงวี้ด ผู้ป่วยบางคนอาจมีปัญหาในการนอนหลับ อันเนื่องมาจากการหายใจไม่สะดวก ทำให้นอนหลับไม่สนิท หรือนอนไม่พอได้ บางคนเมื่ออาการกำเริบจะยังหายใจเองได้ แต่บางคนอาการหนักก็จะต้องหายใจโดยใช้ยาขยายหลอดลม แต่ยายขยายหลอดลม หากใช้บ่อยเกินไป ก็อาจส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ ดังนั้นการหันกลับมามองการรักษาด้วยสมุนไพร ถือว่าเป็นแนวทางที่น่าสนใจไม่น้อยค่ะ
3 สมุนไพรแก้หืดหอบง่ายๆ แต่ได้ผล
1. หอมแดง (สมุนไพรแก้หอบหืด) เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินมาว่า หอมแดงนั้นช่วยรักษาโรคหวัด บรรเทาอาการคัดจมูกได้ ซึ่งก็เป็นความจริงค่ะ เพราะในหอมแดงจะมีสารเคมีชนิดหนึ่ง ที่มีสรรพคุณช่วยขยายหลอดลม และกลิ่นฉุนๆ ของหอมที่เกิดจากกำมะถัน ยังทำให้จมูกโล่งขึ้น หายใจได้สะดวกขึ้น ทำให้โรคหอบหืดบรรเทาได้นั่นเองค่ะ ในอดีตการใช้หัวหอมเป็นยารักษาโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหวัด จะนำหัวหอมมาทุบๆแล้ววางใกล้ตัว ทำให้กลิ่นของหอมจะกระจายมาเข้าจมูก หรืออีกวิธีคือนำหอมไปต้มน้ำอาบ ใส่ใบมะขามไปอ่อนไปด้วย ยิ่งได้ผลดี แต่ถ้าเป็นโรคหอบหืดโดยเฉพาะ จำเป็นต้องใช้สมุนไพรอื่นๆ ด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ส่วนวิธีการปรุงยาแก้หอบหืดจากหอม ทำได้ดังนี้
- เตรียมหอมสด กระเทียมสดและขิงสด อย่างละ 1 ขีด
- นำมาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาด
- นำไปปั่นรวมกันให้ละเอียด โดยเติมน้ำลงไปด้วย 1 แก้ว
- กรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่น้ำ
- ดื่มครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะก่อนอน (ถ้ารสชาติแย่มากให้บีบมะนาวหรือใส่น้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย จะทานได้ง่ายขึ้น
ทานยานี้ติดต่อกันจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น แต่ต้องไม่ทานมากจนเกินไปหรือทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เมื่อทานไปได้สัก 2-3 วันจะสังเกตได้ว่าอาการเริ่มดีขึ้น หายใจได้สะดวกขึ้น สามารถทานได้จนกว่าหอบหืดจะหาย
2. ดอกปีบ (สมุนไพรแก้หอบหืด) ดอกปีบเป็นดอกไม้ไทยที่มีกลิ่นหอมหวาน มีสรรพคุณในการรักษาโรคหอบหืดได้ เนื่องจากการมีการวิจัยพบว่าดอกปีบมีสารที่ชื่อว่า สารฮีสปีดูลิน (Hispindulin) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยขยายหลอดลมได้ดีเทียบเท่ากับยาแผนปัจจุบัน การทำดอกปีบมาใช้เป็นยานั้นทำได้โดย นำดอกมาตากแห้งแล้วมวนกับใบบัวหลวงแห้งแล้วสูบเหมือนบุหรี่ สารฮีสปรดูลินเป็นสารที่ระเหยได้ จะช่วยบรรเทาอาการหอบ แต่ไม่มีความเป็นพิษ
3. หนุมานประสานกาย (สมุนไพรแก้หอบหืด) นำใบหนุมานประสานกายสดๆ มาล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาเคี้ยว เคี้ยวกลืนน้ำที่ออกมาจนกว่ายาจะจืดแล้วค่อยคาย หรือจะกลืนลงไปเลยก็ได้ เคี้ยวทุกเช้าวันละ 2 ครั้งก่อนอาหาร หรือถ้าอยากทานในรูปแบบชา ให้นำมาใบแห้ง 3 ใบต้มกับน้ำแล้วจิบเรื่อยๆ ถ้าใช้ใบสดจะใช้ประมาณ 7 ใบ ต้มจนเดือด เคี่ยวจนน้ำงวดเหลือแค่ครึ่งเดียว ทาน 2 ครั้งก่อนอาหารเช้าและเย็น
แนวทางการใช้สมุนไพรอย่างปลอดภัย
1. เด็ก สตรีมีครรภ์และสตรีที่กำลังให้นมบุตรไม่ควรใช้สมุนไพรชนิดๆ ถ้ายังไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะว่าสมุนไพรบางชนิดยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยมารองรับมากเพียงพอ จึงอาจเกิดอันตรายต่อตัวผู้ใช้ได้
2. หากจะใช้สมุนไพรเป็นยา อย่าลืมปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนทุกครั้ง และถ้าใช้แล้วมีอาการผิดปกติใดๆ เช่น มีผื่นขึ้น ใจสั่น รู้สึกอึดอัด หายใจไม่เต็มอิ่ม คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น ต้องรีบหยุดยาทันทีและไปพบแพทย์ เพราะว่าอาจจะแพ้สมุนไพรชนิดนั้นๆ นั่นเอง
การป้องกันโรคหอบหืด
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการป้องกันโรคนี้ได้ แต่ว่าผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติได้ เพียงแต่ต้องคอยสังเกตตัวเองอยู่เสมอ ควบคุมอาการของโรคไม่ให้กลับมากำเริบโดยการหลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆ ที่จะไปกระตุ้นภูมิแพ้ พยายามดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของตัวเองให้แข็งแรง เพื่อที่จะได้มีภูมิต้านทานในการต่อสู้กับโรคได้ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกทีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรค ซึ่งจะไปกระตุ้นโรคหืดหอบได้ ไปพบแพทย์อยู่เสมอเพื่อติดตามอาการ และอัพเดตความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับโรค จะได้คอยควบคุมอาการของโรคและใช้ชีวิตได้อย่างปกติที่สุดค่ะ
สมุนไพรแก้หอบหืด ถึงแม้จะมีให้เลือกไม่มากนักแต่ก็เป็นสิ่งที่หาได้ไม่ยากเลย โดยเฉพาะหอมแดง มั่นใจได้ว่าต้องมีติดครัวกันทุกบ้านแน่นอน แต่ว่าการรักษาโรคนี้ อย่ารอจนเริ่มหอบหนัก ให้เริ่มรักษากันตั้งแต่ช่วงแรกๆ จะได้หายไวขึ้น ทั้งนี้การใช้สมุนไพรรักษาโรคหืดหอบ จัดเป็นแนวทางหนึ่งในการบำบัดโรคเท่านั้น ถ้าอยากได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดี อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sukkaphap-d.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,350.00 | 26,550.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,707.00 | 25,878.12 | 27,050.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,536.30 | 23,290.31 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,365.60 | 20,702.50 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 768.00 | 11,642.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 597.00 | 9,050.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,769.00 | 26,818.04 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/05/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 19.25 | 19.25 | 19.75 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 | 19.25 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 18.98 | 18.98 | 19.48 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 | 18.98 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 17.74 | 17.74 | 18.24 | 17.74 | 17.74 | – | 17.74 | 17.74 | 17.74 | 17.74 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 16.39 | 16.39 | – | – | – | – | – | 16.39 | – | – |
เบนซิน 95 | 26.66 | – | – | – | 27.11 | – | 27.16 | 26.66 | – | 26.66 |
ดีเซล | 18.79 | 18.79 | 19.29 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 | 18.79 |
ดีเซล B10 | 15.79 | 15.79 | 16.29 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | 15.79 | – | 15.79 |
ดีเซล B20 | 15.54 | 15.54 | 16.04 | 15.54 | 15.54 | – | 15.54 | 15.54 | – | 15.54 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 22.64 | 22.66 | 25.14 | 24.64 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |