เปิดหวูด! ถึงหลักสองเริ่ม 21 ก.ย. สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
ตามที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค จากสถานีวัดมังกร – สถานีท่าพระ โดยไม่คิดค่าโดยสาร ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา และปัจจุบันได้ขยายสถานีให้บริการจนถึงสถานีบางหว้า โดยผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถที่สถานีหัวลำโพง เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานีวัดมังกร – สถานีบางหว้า นั้น
ปัจจุบัน รฟม. และ BEM มีความพร้อมที่จะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค เพิ่มอีก 4 สถานี รวมเป็น 11 สถานี จากสถานีวัดมังกร – สถานีหลักสอง ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2562 เป็นต้นไป โดยสถานีที่เปิดทดลองให้บริการเพิ่มได้แก่ สถานีเพชรเกษม 48 สถานีภาษีเจริญ สถานีบางแค และสถานีหลักสอง พร้อมทั้งขยายเวลาเปิดให้บริการ
สำหรับสถานีหลักสองจะมีรถไฟขบวนแรกให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณ 05.30 น. ในวันธรรมดา และเวลา 06.00 น. ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และรถไฟขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีหลักสองเวลาประมาณ 23.05 น. ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด
สำหรับสถานีเตาปูนจะมีรถไฟขบวนแรกให้บริการตั้งแต่เวลาประมาณ 06.00 น. และรถไฟขบวนสุดท้ายจะออกจากสถานีเตาปูนในเวลา 23.30 น. ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ซึ่งรูปแบบการเดินรถในวันธรรมดาช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า จะมีการกลับรถที่สถานีบางหว้าและสถานีสวนจตุจักร เพื่อให้เหมาะสมกับปริมาณผู้โดยสาร ทั้งนี้ รฟม.และ BEM จะเปิดให้บริการเดินรถอย่างเป็นทางการและเริ่มเก็บค่าโดยสารตามปกติตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2562 เป็นต้นไป
สำหรับการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีเตาปูน – สถานีท่าพระ ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 มีนาคม 2563 นั้น คาดว่าจะดำเนินการเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการได้ภายในปี 2562 ซึ่งขณะนี้ รฟม. และ BEM อยู่ระหว่างทำการทดสอบอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความพร้อมและมีความปลอดภัยสำหรับการเปิดให้บริการแก่ประชาชน
ทั้งนี้ มีข้อแนะนำสำหรับผู้โดยสารกรณีต้องการเดินทางไปเยาวราชให้ลงที่สถานีวัดมังกร และใช้ทางออกที่ 1 เดินผ่านซอยเจริญกรุง 16 เพื่อไปยังเยาวราช และแนะนำให้ผู้ใช้บริการใช้บัตรโดยสารชนิดเติมเงินเพื่อการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
2 ยักษ์โปรเจ็กต์ ดัน‘ปุณณวิถี’ อินโนเวชันโซน
2 โปรเจ็กต์ยักษ์หมื่นล้าน “ทรู ดิจิทัล พาร์ค-แบงค็อก มอลล์” เมืองอัจฉริยะมิกซ์ยูส ค้าปลีกขนาดใหญ่เปลี่ยน ปุณณวิถี-แยกบางนา รัศมี 1 กิโลเมตร กลายเป็นทำเลทองออฟฟิศสมัยใหม่-แหล่งช็อปปิ้งทันสมัย
อย่างไรก็ตามดีเวลอปเปอร์เจ้าถิ่น นายธำรง ปัญญาสกุลวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าทำเล สุขุมวิท 101 รอบสถานีปุณณวิถี กำลังเปลี่ยนเป็นมิกซ์ยูสเมืองอัจฉริยะ มีโครงการทรู ดิจิทัล พาร์คเกิดขึ้นมูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ตั้งขึ้นแทนที่ ห้างปิยะรมย์ เซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าสมัยเก่า เมื่อรูปแบบการช็อปปิ้งสมัยก่อน มีความนิยมลดลงจึงขายที่ดินพร้อมอาคารเนื้อที่ 40 ไร่ ในราคาตารางวาละ 2.5 แสนบาท เมื่อ 10 ปีก่อน ทำให้ราคาที่ดินปรับเพิ่มเป็น 7-8 แสนบาทต่อตารางวา สำหรับการพัฒนาเฟสแรก ใช้พื้นที่ 50% ประกอบด้วย ตึกสูง 40 ชั้น 2 อาคาร เป็นที่อยู่อาศัย โดยมีออฟฟิศสมัยใหม่อยู่บริเวณด้านบน ส่วนชั้นล่างเป็นแหล่งช็อปปิ้ง ที่ดินที่เหลือประมาณ 20 ไร่ คาดว่าจะพัฒนาเป็นโรงแรม ขณะที่แยกบางนา ห่างจาก สถานีปุณณวิถี เพียง 1 กิโลเมตร มียักษ์ค้าปลีก กลุ่มเดอะมอลล์ พัฒนา แบงค็อก มอลล์ บนพื้นที่ 100 ไร่ ซึ่งที่ดินแปลง 50 ไร่ ซื้อต่อจากคนในตระกูลรุ่งเรือง ราชาที่ดินย่านบางนาส่วนอีก 50 ไร่ ใช้วิธีเช่าที่ดิน ของนายชนะ รุ่งแสง อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. เศรษฐีที่ดินย่านนี้อีกราย
หาก 2 โครงการยักษ์เปิดให้บริการอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้ รัศมี ตั้งแต่สุขุมวิท 101 ถึงแยกบางนา กลายเป็นย่านธุรกิจศูนย์ กลางการทำงานของคนรุ่นใหม่ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร (กทม.)
ส่วนคอนโดมิเนียม ส่วนใหญ่เป็นคอนโดฯของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน) ประมาณ 6-7 โครงการ ซึ่งล้วนแต่ซื้อที่ดินติดสถานีรถไฟฟ้า
นายธำรงกล่าวต่อว่า สำหรับราคาที่ดินราคา 1 ล้านบาทต่อตารางวา จะอยู่บริเวณเอกมัย ถึง เชิงสะพานพระโขนง เมื่อข้ามสะพานพระโขนงยาวไปแยกบางนา ราคาไม่ถึง 1 ล้านบาทต่อตารางวา
ขณะที่ความน่าสนใจทำเลสุขุมวิทตอนปลาย
นายสุรเชษฐ กองชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ แอนด์ คอนซัลแทนซี่ จำกัด วิเคราะห์ว่าพื้นที่รอบสถานีปุณณวิถี หรือสุขุมวิท 101 จะเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการมากขึ้น เพราะมีอาคารสำนักงานที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง อีก 1-2 อาคาร และโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เกิดขึ้นอีก 1 โครงการเพียงแต่รอความชัดเจนของโครงการเท่านั้นซึ่งในพื้นที่ยังมีพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่สำนักงานของโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค หากมีอาคารสำนักงานมากขึ้นคนที่เดินทางมาที่สถานีปุณณวิถีจะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะความต้องการที่อยู่อาศัยรวมไปถึงความต้องการแหล่งจับจ่ายใช้สอยอุปโภค-บริโภคก็จะมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่ผ่านมาทำเลรอบสถานีปุณณวิถีอาจไม่ได้รับความสนใจ ส่วนใหญ่มักเปิดขายโครงการกันมากที่ อ่อนนุช เนื่องจากมีค้าปลีกเกิดขึ้น เช่นเดียวกับสี่แยกบางนา นายสุรเชษฐ สะท้อนว่า ในอนาคตจะมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ เพิ่มความคึกคักให้กับย่านนี้ ตลอดจนพื้นที่รอบสถานีแบริ่งที่ยังสามารถเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียม ในราคาไม่แพงเกินไปได้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ธนาคารจ่อยกเลิกโปรฯ ผ่อน 0% สกัดวัยรุ่นเป็นหนี้เกินตัว รูดก่อนผ่อนทีหลัง เที่ยวญี่ปุ่น
ด้าน นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นเร็วก่อนหน้านี้เพิ่มมาจากโครงการรถคันแรก และการปล่อยกู้ในระบบที่มากขึ้น และจากการติดตามดูข้อมูลและพฤติกรรมการกู้พบว่าคนใช้เงินง่ายขึ้น ซื้อของฟุ่มเฟือยและก่อหนี้เกินความจำเป็น โดยเฉพาะพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนรุ่นใหม่ที่มีการใช้จ่ายเกินตัว การซื้อของออนไลน์ และการผ่อนบัตรเครดิต 0 เปอร์เซ็นต์ บวกกับอัตราดอกเบี้ยต่ำมานาน โดยทาง ธปท. จะออกเกณฑ์มาดูแลบัตรเครดิต การกู้บ้านผ่านเกณฑ์ LTV เกณฑ์การดูแลสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และตั้งคลินิกแก้หนี้ เพื่อให้ผู้กู้สามารถประนอมหนี้และตั้งหลักได้
ทั้งนี้ การสร้างภูมิคุ้มกันโครงสร้างเศรษฐกิจไทยที่ดี ต้องเริ่มจากการทำให้คนไทยมีความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นในระยะยาว ประกอบด้วย
1. ทำอย่างไรให้คนไทยต้องเก่งขึ้นและได้ใช้ความสามารถเต็มศักยภาพ มีการศึกษาที่ดีขึ้นและรู้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
2. ต้องสร้างความยั่งยืน ไม่ควรเบียดบังทรัพยากรธรรมชาติในอนาคต หรือของคนรุ่นต่อไปมาใช้มากจนเกินไป ต้องรักษาสมดุล
3. ต้องมีภูมิคุ้มกันรองรับกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ซึ่งการสร้างภูมิคุ้มกันถือเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยเฉพาะสถานการณ์ในปัจจุบันที่มีความเสี่ยงเกิดขึ้นทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ หากมีภูมิคุ้มกันที่ดีจะช่วยให้มีความหวังที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นักวิจัยชี้!! ออกกำลังกายเพียง 13 นาทีต่อวัน ช่วยยืดอายุให้ยืนยาวขึ้นอีก 3 ปี
นักวิจัยพบว่าการออกกำลังกายเพียง 13 นาทีต่อวัน สามารถช่วยให้อายุยืนยาวขึ้นได้อีก 3 ปี
ผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่าคนเราอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการเข้ายิมเพื่อ ออกกำลังกาย ได้มีการศึกษาวิจัยใหม่โดยรวบรวมข้อมูลจากผู้คนหลายพันคนจากทั่วโลก ออกกำลังกายเพียงหนึ่งในสี่ต่อชั่วโมงก็สามารถมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้
บริษัทประกันสุขภาพได้ติดตามการออกกำลังกายของลูกค้ากว่า 140,000 คน พบว่าผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย เมื่อพวกเขาออกกำลังกายเพิ่มขึ้นเป็น 90 นาทีต่อสัปดาห์ ในระยะเวลา 12 เดือน พบว่าจะช่วยยืดอายุของพวกเขาได้อีก 3 ปี ซึ่งเท่ากับว่าเพียงออกกำลังกาย 13 นาทีต่อวันก็ช่วยให้อายุยืนมากขึ้น ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกายหากเพิ่มระดับการออกกำลังกายเป็น 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือ 25 นาทีต่อวัน พบว่าอายุของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 ปี
การศึกษาครั้งนี้ได้ถูกที่ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ของอังกฤษในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา การไม่ออกกำลังกายนั้นได้คร่าชีวิตผู้คนกว่า 70,000 คนในอังกฤษทุกปี ผู้เชี่ยวชาญจึงออกมาเตือนชาวอังกฤษในวัยทำงานส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่กับโต๊ะทำงานมากเกินไป ซึ่งกว่า 30% ใช้เวลาอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวันในการนั่งทำงานนานๆ
NHS หน่วยงานสุขภาพอังกฤษ จึงแนะนำให้ผู้คนควรออกกำลงกายอย่างน้อย 150 นาที ไม่ว่าจะเป็นการทำสวน ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน หรือออกกำลังกายแบบหนักๆ ประมาณ 75 นาที เช่น การวิ่ง เล่นกีฬาทุกสัปดาห์
จากการวิจัยแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ต้องถึงขนาดวิ่งมาราธอนเพื่อสุขภาพที่ดี เพียงแค่เดิน 30 นาทีก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของคุณได้แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com
ทัพจูเนียร์เฟดคัพไทยซ้อมเข้ม 2 รอบ ก่อนบู๊รอบ 16 ทีม
ทัพนักหวดเยาวชนหญิงไทยเริ่มซ้อมเข้ม 2 รอบต่อวัน เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม ด้าน “โค้ชเอ็กซ์” ยกนิ้ว ลูกทีมมีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม และพร้อมแล้วสำหรับการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันที่ 18 ก.ย.62 ความเคลื่อนไหวทีมนักเทนนิสเยาวชนไทย ชุดสู้ศึกชิงแชมป์โลกประเภททีมหญิง รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี “จูเนียร์ เฟดคัพ 2019” (Junior Fed Cup by BNP Paribas Finals) รอบชิงชนะเลิศ 16 ทีมสุดท้าย โดยทีมไทยประกอบด้วย “แพ็ตตี้” พิมพ์รดา จัตวาพรวนิช, “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี, “เบลล์” ธมนพรรณ จงเลิศตระกูล ลงฝึกซ้อมที่ยูเอสทีเอ เนชั่นแนล แคมปัส ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา เป็นวันที่สาม โดย “เอ็กซ์” พชรพล คำสมาน ผู้ฝึกสอน และ ภาณุพงศ์ จุลพันธ์ นักกายภาพประจำทีมยังคงดูแลนักกีฬาอย่างเต็มที่
สำหรับวันนี้ โค้ชทีมไทยได้เพิ่มการฝึกซ้อมออกเป็น 2 ช่วง คือเช้าและบ่าย หลังจากเห็นว่านักกีฬาเริ่มคุ้นชินกับสภาพแวดล้อม ปรับตัวเข้ากับเวลาที่สหรัฐอเมริกาได้ดี ดังนั้นจึงเพิ่มการฝึกซ้อมให้เข้มข้นขึ้น เพื่อให้มีการปรับตัวเข้ากับพื้นสนามที่เป็นคอร์ตดินให้ได้มากที่สุด โดยยังคงเน้นปรับจังหวะการเคลื่อนที่เข้าหาบอล การวางบอลเป็นหลัก
หลังการซ้อม “โค้ชเอ็กซ์” พชรพล กล่าวว่า ในช่วงการฝึกซ้อม 3 วันที่ผ่านมา นักกีฬาทั้ง 3 คนถือว่าปรับตัวได้เร็วและดีมาก ทุกคนมีสภาพร่างกายที่แข็งแรง สภาพจิตใจที่ดี มีความสุขและสนุกกับการซ้อม รวมถึงอยากลงแข่งขันกันแล้ว
ส่วนด้านอาหาร การมาที่นี่ทีมไทยได้เช่าบ้านอยู่รวมกัน ซึ่งมีครัวให้ทำอาหาร เราก็จะไปซื้อของในซูเปอร์มาเก็ตเพื่อทำอาหารกินกันเอง ก็จะได้อาหารรสชาติไทยๆ ทำให้นักกีฬาทานกันได้ไม่เบื่อ และไม่มีอาการคิดถึงบ้านกันมาก อีกอย่างการได้ช่วยกันซื้อของ และช่วยกันทำอาหาร ก็เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทีม มีความรักความสามัคคี เป็นทีมเวิร์กที่ดีที่จะทำให้มีผลต่อการแข่งขันในประเภททีมด้วยเช่นกัน.
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
เว็บค้นหาแพทย์ ZeekDoc เร่งสยายปีกทั่วไทย
เทรนด์ของอุตสาหกรรมด้านการดูแลสุขภาพ หรือ Wellness นั้นมีอัตราการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่เริ่มที่จะหันมาดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยมากขึ้น ทั้งเรื่องของการออกกำลังกาย การทานอาหารเพื่อสุขภาพ หรือการค้นหาข้อมูลเพื่อการดูแลสุขภาพต่างๆ ทำให้ธุรกิจสุขภาพมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีสตาร์ตอัพหลายรายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพ เกิดขึ้นมากมายเพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมในกลุ่มนี้ เช่นเดียวกับ ZeekDoc แพลตฟอร์มเพื่อการค้นหาและนัดหมายแพทย์เฉพาะทางที่ใกล้ที่สุดผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมองเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคของคนไข้ในการเดินทางไปรักษาที่ค่อนข้างยากลำบาก
นางสาววลัยพรรณ ฉันทร์มิตรกุล ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง ZeekDoc เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ZeekDoc เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการนัดหมายและจองคิวแพทย์เฉพาะทางผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้คนไข้สามารถเลือกแพทย์ที่ต้องการได้จากตำแหน่งที่ตั้งที่ใกล้ที่สุดเพื่อการเดินทางไปพบแพทย์ที่ทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยจะเน้นไปที่กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเป็นหลัก เช่น กระดูกและข้อ หูคอจมูก สูตินารีเวช กุมารเวช จากการที่จบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเคยทำงานอยู่ในบริษัทยาซึ่งมีคนรอบตัวชอบเข้ามาปรึกษาปัญหาสุขภาพรวมถึงให้แนะนำหมอที่มีความเชี่ยวชาญโรคต่างๆ ซึ่งก็พบว่าแม้แต่คนที่คลุกคลีหรือบุคลากรทางการแพทย์เองก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงหรือรู้จักแพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ดังนั้นคนที่ไม่มีคอนเนกชันคงเป็นเรื่องยากที่จะหาข้อมูล อีกทั้งทุกวันนี้คนส่วนใหญ่พึ่งพาข้อมูลต่างๆ จากการค้นหาผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งข้อมูลที่ได้นั้นไม่อัพเดต หรือได้ฐานข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือตรงกับความต้องการ ประเทศไทยจึงน่าจะมีแพลตฟอร์มที่ให้คนทั่วไปสามารถค้นหาและนัดหมายแพทย์เฉพาะทางได้อย่างรวดเร็วและทันที
ZeekDoc ให้บริการทั้งในรูปแบบเว็บไซต์และแอพพลิเคชัน ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งคลินิกและโรงพยาบาล ผู้ที่เข้ามาใช้บริการค้นหาแพทย์ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงประมาณ 70% ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่อยู่ในช่วงอายุ 25-35 ปี เป็นหลัก ทั้งนี้แพลตฟอร์ม ZeekDoc เปิดให้บริการมาประมาณ 3 ปีแล้ว โดยในปีที่ผ่านมามียอดรวมผู้เข้าใช้งานบนเว็บไซต์แล้วกว่า 1,000,000 ราย มียอดรวมเคสนัดหมายกว่า 20,000 ครั้ง มีคลินิกเข้ามาร่วมใช้บริการแล้วกว่า 100 แห่ง และมีแพทย์ร่วมให้บริการในระบบกว่า 2,000 ราย เป้าหมายที่เรามองไว้คือ อยากให้คลินิกต่างๆ เข้ามาลงทะเบียนใช้บริการมากขึ้น โดยสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีคลินิกเข้ามาใช้บริการเพิ่มราว 200- 500 แห่ง และจำนวนแพทย์เข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 4,000 ราย”
ทั้งนี้แพลตฟอร์ม ZeekDoc จะช่วยให้คนไข้หรือผู้ใช้งาน ได้หาหมอเฉพาะทางได้ง่ายขึ้น คนไข้ไม่ต้องเสียเวลาในการเปลี่ยนหมอไปมาหลายโรงพยาบาล ไม่มีค่าเสียโอกาสในการหาหมอที่ไม่ตรงกับสาขาหรือโรคที่ตัวเองเป็นหรือต้องเดินทางไปหาหมอไกลๆ ขณะที่ในด้านของแพทย์ผู้รักษานั้นช่วยทำให้แพทย์เฉพาะทางที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละอนุสาขา สามารถรักษาโรคได้ตรงกับความเชี่ยวชาญของตนเองทำให้ผลการรักษาดีคนไข้ก็จะไปบอกปากต่อปาก ซึ่งก็วินวินทั้ง 2 ฝ่าย
“ขณะนี้ ZeekDoc อยู่ในช่วงของการหาพันธมิตรทางธุรกิจ รายได้หลักยังคงมาจากผลิตภัณฑ์และบริการของธุรกิจ ซึ่งไม่ได้มีการระดมทุนจากนักลงทุน เนื่องจากมองว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจในอุตสาหกรรมนี้มากนัก เพราะอาจคาดหวังว่าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตเร็วเหมือนอุตสาหกรรมอี-คอมเมิร์ซหรืออื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้อุตสาหกรรมเฮลธ์เทคเติบโตได้ช้า อีกทั้งอุตสาหกรรมนี้มีเรื่องของกฎหมายเข้ามาควบคุมค่อนข้างมาก จึงเป็นเรื่องยากในการตัดสินใจที่จะเข้ามาลงทุน”
อย่างไรก็ตามแผนธุรกิจในปีนี้นั้น ZeekDoc จะมุ่งการทำตลาดต่างจังหวัดเพราะอยากให้คนไข้ในพื้นที่ต่างจังหวัดไม่ต้องเดินทางมารักษาไกลถึงในกรุงเทพฯ ด้วยการทำตลาดและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ล่าสุดได้เริ่มขยายบริการไปยังจังหวัดต่างๆ อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต สงขลา ปราจีนบุรี ชลบุรี อุดรธานี อุบลราชธานี สุพรรณบุรี พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี ซึ่งรูปแบบผลิตภัณฑ์ของ ZeekDoc คือการให้บริการซอฟต์แวร์ (Software as a service) สำหรับคลินิกที่ต้องการทำระบบนัดหมายออนไลน์ แจ้งเตือนนัดหมาย เก็บฟีดแบ็ก โดยคลินิกสามารถสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการได้ทั้งแบบรายเดือนและรายปี ค่าใช้จ่ายรายเดือนเริ่มต้นเดือนละ 500 บาท และรายปีอยู่ที่ 6,000-18,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของสถานพยาบาล
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
| ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
|---|---|---|---|
| ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 21,600.00 | 21,700.00 |
| ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,399.00 | 21,208.84 | 22,200.00 |
| ทองรูปพรรณ 90% | 1,259.10 | 19,087.96 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 80% | 1,119.20 | 16,967.07 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 50% | 630.00 | 9,550.80 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 40% | 490.00 | 7,428.40 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,450.00 | 21,982.00 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/09/2562
 ปตท. |
 บางจาก |
 เชลล์ |
 เอสโซ่ |
 คาลเท็กซ์ |
 ไออาร์พีซี |
 พีที |
 ซัสโก้ |
 เพียว |
 ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.65 | 27.65 | 27.65 | 27.65 | 27.65 | 27.65 | 27.65 | 27.65 | 27.65 | 27.65 |
| แก๊สโซฮอล์ 91 | 27.38 | 27.38 | 27.38 | 27.38 | 27.38 | 27.38 | 27.38 | 27.38 | 27.38 | 27.38 |
| แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.64 | 24.64 | 24.64 | 24.64 | 24.64 | – | 24.64 | 24.64 | 24.64 | 24.64 |
| แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.04 | 20.04 | – | – | – | – | – | 20.04 | – | – |
| เบนซิน 95 | 35.06 | – | – | – | 35.51 | – | 35.56 | 35.36 | – | 35.36 |
| ดีเซล | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 | 26.09 |
| ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.09 | 25.09 | – | – | – | – | – | – | – | – |
| แก๊ส NGV | 15.49 | 15.49 | – | – | – | – | – | – | – | – |
