กทม.จนมุม‘ภาษีที่ดิน’ โยกไปปีหน้า 3 ล้านแปลง สำรวจไม่ทัน
กทม.อ่วมภาษีที่ดิน ยอมรับ 2-3 ล้านแปลง สำรวจไม่ทัน ปล่อยผีเจ้าของรายย่อย โยกไปปี 64 รีดทุกเม็ด ทุนใหญ่ กรมส่งเสริมปกครองท้องถิ่นย้ำ ใครไม่ได้ใบประเมินแจ้งชำระภาษี ไม่ต้องตกใจ!
ปริมาณที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเขตกรุงเทพมหานครมีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาประเมินว่า อาจมีมากกว่า 3 ล้านแปลงบวก-ลบ เนื่องจาก มีทั้งการไล่ซื้อตึกยุบรวมแปลง ของนายทุน และแตกแขนง พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม โรงแรม สูงใหญ่มีจำนวนหน่วย ห้องพักย่อยๆ จำนวนมาก นี่คือผลกระทบที่เจ้าพนักงานท้องถิ่น อย่างกทม.ต้องเผชิญทางออกต้องปล่อยไปยังปีงบประมาณ 2564 ทั้งนี้ คาดว่าจะครอบคลุมขึ้นบัญชีเกือบทั้งหมด ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ปี เช่นเดียวกับ ที่ดินรกร้างว่างเปล่าที่ไม่ทำประโยชน์ ก่อนหน้านี้ได้เคยสำรวจ เพื่อจัดทำผังเมืองรวมกทม.ฉบับใหม่ ซึ่งปัจจุบันในฐานะที่ดินที่ต้องเรียกเก็บภาษี ยังไม่สำรวจครบทุกแปลงดังกล่าวต้องปล่อยให้แต่ละเขต ดำเนินการ
ทั้งนี้แต่ละแปลงอาจ ปรับเป็นพื้นที่เกษตร ลดทอนภาษี หรือได้รับผ่อนปรนไม่เสียภาษีเลย (บุคคล) 3 ปี นับจากปี 2563 แล้วก็ตาม แต่หาก สำรวจในปีถัดไปแล้วพบว่า ที่ดินเกษตรกลับปล่อยให้มีหญ้าขึ้นรก ต้นไม้ล้มตายจะอยู่ในข่าย ที่รกร้างเสียภาษี 0.3% แหล่งข่าวจากกทม. ยอมรับว่า มีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอีกจำนวนมากที่ยังสำรวจไม่ทันต้องชะลอสำรวจและเรียกเสียภาษีในปีถัดไป ซึ่งกทม.ไม่กังวลเนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ และต้องดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อความถูกต้องแม่นยำ อย่างไรก็ตาม ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักลงทุน ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมากกว่า เนื่องจาก มีความชัดเจนสามารถประเมินได้ที่สำคัญมีมูลค่าสูงที่กทม.จะมีรายได้เข้ามา อย่างโรงแรม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า โรงงาน ร้านค้าพาณิชยกรรม รวมถึงคอนโดมิเนียมที่มีขนาดใหญ่ จากนั้นค่อยเรียกเก็บภาษี เจ้าของที่ดินรายย่อยๆ
ขณะพื้นที่ ศูนย์กลางธุรกิจ ใหม่ ที่ขยายมาจาก สุขุมวิท อย่าง รัชดา-พระราม9 แหล่งข่าวจาก สำนักงานเขตห้วยขวาง ยอมรับว่าสำรวจไม่ครบทุกแปลง แต่มุ่งเน้นที่ดินแปลงใหญ่เจ้าของกิจการ ส่วนที่ดินซึ่งเป็นสวนมะนาว ที่ดินแปลงรัชดาฯ-พระราม 9 มองว่า เป็นกระแสค่อนข้างดังและเป็นที่ดินใจกลางเมือง แต่เมื่อเจ้าของที่ดินทำเป็นแปลงเกษตรก็ต้องเรียกเก็บในอัตราเกษตร แต่หากระบุชื่อในนามบุคคลก็ต้องยกเว้นจัดเก็บไป 3 ปี (63-65) แต่เข้าใจว่าที่ดินทั้งสองแปลง 50 ไร่ ถือในนาม บริษัทแหลมทองค้าสัตว์ แต่เนื่องจากเขตห้วยขวางมีปริมาณคอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน เกิดขึ้นมากยอมรับว่า รายได้มาจากสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว แต่ลดหย่อนแล้ว เหลือจัดเก็บภาษีเพียง 10% ทำให้รายได้หายไปจำนวนมาก
สอดคล้องกับสำนักงานเขตธนบุรี มีปริมาณสิ่งปลูกสร้าง ที่ดิน 11,000 แปลง สิ่งปลูกสร้าง กว่า 10,000 หน่วย ซึ่งยอมรับว่า ยังมีความวุ่นวายสูง เนื่องจาก สำรวจไม่ทันหลายแปลง หลายอาคาร ต้องโยกไปปีถัดไปที่สำคัญ กรณีที่เขตออกใบประเมินแจ้งเสียภาษีไปแล้ว กลับมามีปัญหาว่า ใบแจ้งราคาประเมิน กับตัวผู้เสียภาษีอยู่คนละที่กันเช่นเดียวกับ สำนักงานเขตคลองสาน ย่านฝั่งธนบุรีเช่นเดียวกัน มองว่า ปัจุบันความเจริญเข้าพื้นที่ จากรถไฟฟ้า และ เมืองขยายมายังฝั่งธนบุรี ส่งผลให้มีคอนโดมิเนียม โรงแรม ห้างสรรพสินค้าเกิดขึ้นมาก ตลอดจนราคาประเมิน ปรับสูงขึ้นมาก จากหลักหมื่นขยับเป็นหลักแสน
แหล่งข่าวจาก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น สะท้อนว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตามต่างจังหวัด บางแห่งสำรวจและออกใบแจ้งราคาประเมินเพื่อชำระภาษีครบแล้ว เนื่องจากเป็นจังหวัดเล็กมีสิ่งปลูกสร้างไม่หนาแน่นเหมือนกทม.
หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,610 วันที่ 17 – 19 กันยายน พ.ศ. 2563
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า กทม. แจ้งมายังกรมว่า สำรวจและประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ทัน ต้องโยกไปปีงบ ประมาณ 2564 โดยแนะนำว่า ปีแรก ควรปล่อยผีไปก่อน หาก มองด้วยตาเปล่า มูลค่าที่อยู่อาศัยไม่เกิน 50 ล้านบาทให้ปล่อยไป แม้จะสงสัยว่า เจ้าของ จะ ให้เช่าหรือเป็นบ้านหลังที่สองขณะการประเมินสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งกรมธนารักษ์เพิ่งประกาศออกมา ยอมรับว่าค่อนข้างยาก ขอให้ท้องถิ่นปล่อยไปในปีแรก เพียงคำนวณคร่าวๆ บางส่วนของอาคารเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
AP เปิดพรีเซลล์บ้านเดี่ยว 6 โครงการ สวนกระแสโควิด-19
AP สวนกระแสโควิด เปิดพรีเซลบ้านเดี่ยว 6 โครงการ “สร้างไม่ทันขาย” เผย 8 เดือนปั๊มยอดแล้ว 2.1 หมื่นล้าน
เดินหน้าเปิดพรีเซล 6 บ้านเดี่ยวใหม่ สวนกระแสตลาดฯ สร้างไม่ทันขาย รวม 2 วันกวาดยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาท สร้างนิวไฮครั้งใหม่ยอดขายแนวราบรวม 8 เดือนกว่า 18,400 ล้านบาท จากยอดขายรวมที่ทำได้ 21,420 ล้านบาท อุ่นใจด้วยสินค้ารอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุนมากกว่า 49,330 ล้านบาท โดย 12,010 ล้านบาท มาจากสินค้าแนวราบที่รับรู้ทั้งหมดในปีนี้
โดยบริษัทฯ ได้เปิดพรีเซลบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ ได้แก่
1) THE CITY สาทร-สุขสวัสดิ์ 2 ราคา 29.9-37 ล้านบาท
2) THE CITY พระราม 2-พุทธบูชา ราคา 9-15 ล้านบาท
3) THE CITY พระราม 9-รามคำแหง ราคา 11-25 ล้านบาท
4) THE PALAZZO ปิ่นเกล้า ราคา 35-60 ล้านบาท
5) CENTRO พระราม 9-กรุงเทพกรีฑา ราคา 7.9-15 ล้านบาท
6) CENTRO ราชพฤกษ์-สวนผัก 2 ราคา 7.59-11 ล้านบาท ซึ่งถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดหมาย ประสบความสำเร็จสวนกระแสข่าวตลาดอสังหาฯ ถดถอย
โดย 2 วันบริษัท สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท บางโครงการสามารถปิดการขายได้หมด ตลอดจนบางโครงการบริษัทไม่สามารถสร้างบ้านได้ทันการขาย ซึ่งสะท้อนได้ถึงภาพกำลังซื้อในตลาดระดับบนยังคงมีอยู่ ตลอดจนความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อบ้านเดี่ยวเครือเอพี
สรุปแผนการดำเนินงานธุรกิจอสังหาฯ ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2563 บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายรวม 8 เดือนกว่า 21,420 ล้านบาท จากเป้ายอดขายที่ 33,500 ล้านบาท โดย 18,400 ล้านบาท มาจากสินค้ากลุ่มแนวราบ คิดเป็น 82% ของเป้ายอดขายแนวราบทั้งปีที่ 22,500 ล้านบาท โตขึ้น 15% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า
โดยในครึ่งปีแรกบริษัท มีรายได้รวม 100% JV มากถึง 19,960 ล้านบาท ด้านสินค้ารอรับรู้รายได้รวมโครงการร่วมทุน (Backlog) มูลค่ามากถึง 49,330 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 12,010 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียม มูลค่า 37,320 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้อีกประมาณ 9,008 ล้านบาท และที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566
ในไตรมาส 4 กลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเตรียมเปิดตัวโครงการอีกจำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่า 1,800 ล้านบาท ได้แก่ THE CITY บรมราชชนนี-ทวีวัฒนา มูลค่า 890 ล้านบาท และโครงการย่านสาธุประดิษฐ์ 1 มูลค่า 910 ล้านบาท รวมทั้งปีกลุ่มธุรกิจบ้านเดี่ยวเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่า 20,430 ล้านบาท
ขอบคุณข้อมูลจาก bkkcitismart.com
ธอส.ฉลองครบรอบ 67 ปี เปิดรับฝากสลากพิมานมาศ ดอกเบี้ยสูงพิเศษ 1.1% ต่อปี
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ตอบแทนลูกค้าประชาชนที่รักการออมในโอกาสฉลองครบรอบ 67 ปี ธอส. วันที่ 24 กันยายน 2563 จัดโปรโมชั่นพิเศษเปิดรับฝากสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ หน่วยละ 50,000 บาท ผ่าน Application : GHB ALL รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.1% ต่อปี (จากปกติอัตราดอกเบี้ย 0.90% ต่อปี) เฉพาะ ผู้ที่ฝากสลากในวันที่ 24 กันยายน 2563 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารเปิดจำหน่าย 5,000 ล้านบาท หรือ 100,000 หน่วย และไม่ไถ่ถอนสลากก่อนครบ 3 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ผู้ที่ฝากสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดพิมานมาศ ยังได้ลุ้นรางวัล 2 ต่อ ต่อที่ 1 มูลค่า 50,000 บาท หมวดละ 10 รางวัลทุกเดือน รวม 36 งวด และต่อที่ 2 รางวัล Jackpot มูลค่า 500,000 บาท หมวดละ 2 รางวัลทุกไตรมาส
ทั้งนี้ ผู้ที่ฝากสลากใหม่เป็นครั้งแรก (เปิดบัญชีสลากและบัญชีเงินฝากออมทรัพย์สำหรับเป็นบัญชีคู่โอนพร้อมลงทะเบียนสมัครแอป GHB ALL และผูกกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์รอไว้ก่อน) ส่วนลูกค้าเดิมที่ต้องการฝากสลากออมทรัพย์ ธอส.ดิจิทัลเพิ่ม ก็สามารถฝากได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ผ่าน Application : GHB ALL โดยเลือกเมนูสลากออมทรัพย์ ธอส. เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนแล้วเสร็จ ระบบจะส่งใบสลากที่ระบุข้อมูลสำคัญเช่นเดียวกับสลากที่ฝากในสาขาของธนาคาร อาทิ เลขที่สลาก นาม ผู้ฝาก และจำนวนหน่วยให้กับผู้ซื้อทางอีเมลที่แจ้งไว้ต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์(Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ www.ghbank.co.th
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
“ฮาแลนด์” พูดถึง “ซานโช” หลังตกเป็นข่าวย้ายทีมต่อเนื่อง
“เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์” ดาวยิงคนเก่งของ “โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์” ออกมาพูดถึง “เจดอน ซานโช” แข้งเพื่อนร่วมทีมที่ตกเป็นข่าวย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 18 ก.ย. 63 เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ สุดยอดกองหน้าทีมชาตินอร์เวย์ของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังแห่งศึก บุนเดสลีกา เยอรมนี ออกมาพูดถึง เจดอน ซานโช ปีกเพื่อนร่วมสโมสรต้นสังกัดชาวอังกฤษ ที่มีข่าวเชื่อมโยงถึงการย้ายทีมอย่างต่อเนื่องตลอดซัมเมอร์นี้ ผ่านทาง Viaplay Fotball
เป็นที่เข้าใจกันว่า ทีมดังกล่าวที่ว่านี้นั่นคือ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการอดีตเด็กปั้น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ามาเติมเต็มริมเส้นทางฝั่งขวาที่มีปัญหามาอย่างยาวนาน แต่กระนั้นด้วยค่าตัว 108 ล้านปอนด์ ทำให้พวกเขามองว่ามันเป็นตัวเลขที่สูงเกินไปกับผลกระทบที่ได้รับจากโควิด-19
ล่าสุด เออร์ลิง เบราต์ ฮาแลนด์ ออกมากล่าวว่า “ผมคิดว่าเขา (เจดอน ซานโช) ทำได้ดีมากๆ ตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เขาจะเป็นนักเตะคนสำคัญสำหรับเราในฤดูกาลนี้ ข่าวลือเรื่องการย้ายทีมของเขามันไม่ใช่สิ่งที่ผมจะไปเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งมีคนที่รับผิดชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว ผมจะไม่แสดงความคิดเห็นมากเกินไปในเรื่องนั้น ถ้าเขาอยู่ต่อผมจะมีความสุขมากๆ เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีของผม และเป็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง”
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
แนะผู้ที่เป็นโรคเหงือก รีบรักษา ก่อนต้องเสียฟัน
กรมการแพทย์ โดยสถาบันทันตกรรม เผยผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ โรคปริทันต์อักเสบ เป็นหนึ่งในโรคช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม แนะพบทันตแพทย์เพื่อทำการรักษา หากปล่อยไว้อาจต้องถอนฟันในที่สุด
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคเหงือกเป็นหนึ่งในโรคช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม โดยโรคเหงือกนั้นมีสาเหตุมาจากแบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ ก่อให้เกิดการอักเสบของเหงือก และเนื้อเยื่อปริทันต์รอบๆ ที่ช่วยพยุงฟัน ทำให้เกิดฟันโยก จนนำไปสู่การสูญเสียฟันในที่สุด ดังนั้นจึงควรรักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี แปรงฟันให้สะอาด และพบทันตแพทย์เป็นประจำ
ทันตแพทย์อำนาจ ลิขิตกุลธนพร ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคเหงือกแบ่งได้เป็น 2 ประเภทตามความรุนแรง คือ โรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์อักเสบ โดยโรคเหงือกอักเสบนั้นจะเกิดจากแบคทีเรียในคราบจุลินทรีย์ทำให้เกิดการอักเสบเฉพาะบริเวณเหงือก ทำให้เหงือกมีสีแดงคล้ำ บวมแดง แปรงฟัน มีเลือดออกง่าย มีกลิ่นปาก ซึ่งหากได้รับการรักษาที่เหมาะสมเหงือกจะสามารถกลับไปสู่สภาพเดิมได้ แต่หากปล่อยไว้ ไม่รักษา จะนำไปสู่การเกิดโรคปริทันต์อักเสบ คือ เกิดการทำลายของเอ็นยึดปริทันต์และการละลายของกระดูกเบ้าฟันตามมา โดยอาการเริ่มแรกของโรคคนไข้มักไม่รู้สึกเจ็บหรือปวด แต่เมื่อโรคเป็นรุนแรงมากขึ้นอาจมีเหงือกบวมเป็นหนอง คนไข้มักจะมาพบทันตแพทย์ด้วยอาการฟันโยก ฟันยื่นยาว เคี้ยวอาหารเจ็บ แต่ฟันเหล่านี้ก็มักจะไม่สามารถรักษาได้ และถูกถอนไปเนื่องจากมีการทำลายของกระดูกเบ้าฟันไปมากแล้ว จึงต้องหมั่นสังเกตสภาพของช่องปากของตนเองอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันการเกิดโรคเหงือกโดยการแปรงฟันให้ทั่วถึงอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ร่วมกับการทำความสะอาดซอกฟันด้วยไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันอย่างน้อยวันละครั้งเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
12 วลีภาษาโปรตุเกสบราซิลที่คุณต้องรู้ก่อนเยี่ยมชมบราซิล
บราซิลโปรตุเกสเป็นภาษาโปรตุเกสเป็นหลัก แต่ด้วยการพูดภาษาท้องถิ่นที่แยกความแตกต่างเล็กน้อยจากประเทศที่พูดภาษาโปรตุเกส (คิดถึงความแตกต่างระหว่างอเมริกันและอังกฤษอังกฤษก็คล้ายกัน) ถ้าคุณมีวันหยุดในฝันของคุณกับบราซิลขึ้นมาก็มีประโยชน์ที่จะมาพร้อมกับวลีที่จำเป็นต่อไปนี้ ชาวบราซิลรักเมื่อนักท่องเที่ยวพยายามพูดภาษาโปรตุเกสดังนั้นจึงควรไปและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ ในกระบวนการนี้
Oi
‘Oi’ แปลว่า ‘hi’ ในภาษาโปรตุเกสและไม่มีความคล้ายคลึงกับ ‘oi’ ที่พูดภาษาอังกฤษและหยาบคาย เป็นทางการมากขึ้นกว่า ‘ola’ ซึ่งหมายความว่า ‘สวัสดี’ แต่ใช้ในเกือบทุกสถานการณ์จากในร้านค้าและในระบบขนส่งสาธารณะเพื่อทักทายเพื่อนหรือคนรู้จักธุรกิจ เมื่อใดก็ตามที่คุณพบใครสักคนทักทายพวกเขาด้วย ‘oi’
ผู้คนมารวมตัวกันที่ปาร์ตี้เทศกาล © Agecom Bahia / WikiCommons
ดีไหม?
แปลว่า ‘ทุกอย่างดี’ เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดในการถามว่า ‘คุณเป็นอย่างไร?’ และมักจะตามหลัง ‘oi’ เมื่อคุณพบใครบางคนลองทักทายพวกเขาด้วย ‘oi, tudo bem?’ คำตอบที่พบโดยทั่วไปและเป็นอิสระจากความรู้สึกของคุณคือ ‘tudo bem’ คำตอบตรงกับคำถามเพียงแค่เปลี่ยนเสียง
Obrigado / Obrigada
‘Obrigado’ หมายถึง ‘ขอบคุณ’ ในฐานะที่เป็นภาษาโปรตุเกสเป็นภาษาที่ใช้ผู้ชายผู้ชายพูดว่า ‘obrigado’ กับ ‘o’ ในตอนท้ายและผู้หญิงพูดว่า ‘obrigada’ กับ ‘a’ ในตอนท้าย นี่คือกฎในบริบทใด ๆ บางครั้งคุณอาจได้ยินคำว่า ‘valeu’ อย่างเป็นทางการซึ่งแปลว่า ‘cheers’ และเป็นเรื่องปกติระหว่างเพื่อน ๆ และในสถานการณ์ทางสังคมมากขึ้น มีรูปแบบเป็น ‘obrigado’ ซึ่งเป็น ‘obrigadão’ ซึ่งแปลได้ว่า ‘ขอบคุณมาก!’ ยังไม่เป็นเรื่องธรรมดา
Quero a conta, por โปรดปราน
‘Quero a conta, por favor’ แปลตามตัวอักษรว่า ‘ฉันต้องการใบเสร็จโปรด’ ในภาษาโปรตุเกสเป็นเรื่องปกติที่จะขอสิ่งต่างๆกับ ‘ฉันต้องการ’ (Quero) ซึ่งเป็นภาษาแปลก ๆ สำหรับผู้พูดภาษาอังกฤษที่มักชอบ ‘ฉันสามารถมีได้’ ถามเรื่องนี้เป็นภาษาโปรตุเกสว่าฟังดูแปลก ๆ ดีที่สุดเท่าที่จะติดกริยาด้วยฉันต้องการ (Querer) วิธีเล็กน้อยสุภาพมากขึ้นจะเป็น ‘Queria a conta, por favor’ ซึ่งแปลว่า ‘ฉันต้องการใบเสร็จโปรด’ แต่อย่างใดไม่ได้รับการยอมรับอย่างสมบูรณ์
บิลนี้ | © Mathieu Lebreton / Flickr
Fica à vontade
คุณจะอยู่ที่นี่ในร้านค้าหรือเมื่อคุณเข้าไปในบ้านของผู้คน หมายความว่า “รู้สึกฟรี” เมื่อคุณไปที่บ้านของใครบางคนจะมีความรู้สึกว่า “ทำตัวเองที่บ้าน” และในร้านค้าก็รู้สึกว่า “รู้สึกอิสระที่จะเรียกดูรายการต่างๆ”
Vá com Deus
นี่เป็นการแสดงออกที่มีเสน่ห์หมายถึง “ไปกับพระเจ้า” และพูดหลังจากลากับใคร มันมีความรู้สึกของ ‘ดูแลและคุณอาจได้รับการคุ้มครองโดยพระเจ้า’
ไปกับพระเจ้า © monomakh / Flickr
Nossa Senhora!
นี่ใช้เป็นเครื่องหมายอัศเจรีย์เมื่อคุณได้ยินข่าวที่ไม่ดีหรือน่าตกใจบางอย่างเมื่อคุณเห็นบางสิ่งที่น่าแปลกใจหรือเมื่อคุณต้องการบ่นเกี่ยวกับสถานการณ์ที่น่าผิดหวัง แปลว่า ‘Our Lady!’ และใช้ในแง่ของ ‘โอ้พระเจ้าของฉัน!’ มักจะสั้นลงเพียง ‘Nossa’ บางครั้งก็ ‘noss’ เมื่อใช้ในช่วงกลางของการสนทนา ‘Nossa Senhora’ ใช้เต็มรูปแบบในช่วงเวลาตกตะลึงโดยเฉพาะ
Com Licença
แปลตามตัวอักษรว่า ‘with license’ แต่มีความหมายว่า ‘excuse me’ เป็นวลีที่มีประโยชน์ที่จะทราบเมื่อคุณต้องการออกจากรถบัสหรือรถไฟใต้ดินหนาแน่น พูดว่า ‘com licença’ จะช่วยให้คุณได้รับผ่านฝูงชน
ฝูงชนในเรซีเฟ | © Raul / WikiCommons
Desculpa!
‘Desculpa’ หมายถึง ‘ขอโทษ’ และใช้เมื่อคุณชนกับใครบางคนหรือพูดอะไรผิดปกติ ถ้ามีคนไม่ดีคุณจะไม่พูดว่า ‘desculpa’ ในบริบทนี้ แต่ ‘me sinto muito’ ซึ่งแปลว่า ‘sorry’ ในภาษาอังกฤษพร้อมกับคำแปลที่แท้จริงของ ‘ฉันรู้สึกมาก’
กฎหมาย / Beleza
คุณจะได้ยินคำพูดเหล่านี้ทุกที่บนท้องถนน การแสดงทั้งสองแบบหมายถึง “เย็น” หรือ “โอเค” หรือ “ฟังดูดี” แต่ว่า “ถูกต้องตามกฎหมาย” จะถูกใช้บ่อยขึ้นเมื่อความหมาย “เย็น” เช่นเดียวกับในหัวข้อ “เย็นสบาย” พวกเขาแสดงออกอย่างไม่เป็นทางการและใช้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
Que saudades
“Saudades” แปลว่า “ฉันคิดถึงคุณ / บางอย่าง” ยังมีความรู้สึกลึก ๆ อย่างไรก็ตามมีการใช้บ่อยครั้งในบราซิลที่คุณอาจมี ‘saudades’ สำหรับคนที่คุณพบในช่วงเวลาสั้น ๆ ‘Que saudades’ เป็นเครื่องหมายอัศเจรีย์ว่าคุณพลาดใครบางคนหรืออะไรบางอย่าง หลังจากออกจากบราซิลแล้วคุณสามารถพูดว่า ‘Que saudades do Brasil!’ “ฉันคิดถึงบราซิลมาก!”
รู้สึก ‘saudades’ นี้ | © Marcescos / วิกิพีเดีย
Um Beijo / Um abraço
‘Um beijo’ หมายถึง ‘kiss’ และ ‘um abraço’ หมายถึง ‘กอด’ พวกเขาเป็นวิธีทั่วไปในการบอกลากับผู้หญิงที่ใช้ ‘um beijo’ กับผู้หญิงและผู้ชายคนอื่น ๆ ในขณะที่ผู้ชายมักจะใช้ “um beijo” สำหรับผู้หญิงและ ‘um abraço’ สำหรับผู้ชายเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคุณออกเดินทางคุณสามารถพูดว่า ‘Tchau, um beijo!’ ซึ่งหมายความว่า ‘ลา, จูบ!’
ขอบคุณข้อมูลจาก th.yourtripagent.com
เปิด EOS Webcam Utility รับประชุมออนไลน์
แคนนอน เปิดซอฟต์แวร์ “EOS Webcam Utility” เพิ่มฟังก์ชั่นให้กล้องเป็นเว็บแคม พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบ รองรับกล้องหลากหลายรุ่น และผู้ใช้จากทั่วโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แคนนอน ประกาศเปิดตัว “ซอฟต์แวร์ EOS Webcam Utility เวอร์ชั่นเต็มรูปแบบสำหรับ Windows” อย่างเป็นทางการ โดยเพิ่มฟังก์ชั่นกล้องให้เป็นเว็บแคม เพื่อการติดต่อสื่อสารกันผ่านทางวิดีโอออนไลน์ด้วยคุณภาพที่คมชัด ซอฟต์แวร์นี้จะสามารถใช้งานได้กับกล้อง EOS แบบถอดเปลี่ยนเลนส์ได้และกล้องในตระกูล PowerShot ทั้งหมด 42 รุ่น ทั้งรวมถึงกล้อง EOS R5 และ EOS R6 รุ่นใหม่ที่เพิ่งวางจำหน่าย (ดูรายชื่อรุ่นตามตารางด้านล่าง) และสามารถใช้ได้กับแอพพลิเคชั่นการประชุมออนไลน์แบบวิดีโอ และแอพพลิเคชั่นไลฟ์สรีมมิ่งที่ได้รับการทดสอบแล้ว ได้แก่ Zoom, Facebook Live, Skype, YouTube Live, Microsoft Teams, Discord, Cisco Webex, Streamlabs, Google Meet, Open Broadcaster Software(OBS), Google Hangouts, Slack, Facebook Messenger
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่ต้องการบันทึกไฟล์วิดีโอคุณภาพสูงไปยังการ์ดความจำของกล้องขณะสื่อสารผ่านทางออนไลน์หรือไลฟ์สรีมมิ่ง สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่กดปุ่มบันทึกบนกล้องแทนการสั่งผ่านซอฟต์แวร์
กล้องแคนนอนรุ่นที่รองรับซอฟต์แวร์ EOS Webcam Utility
EOS R5 | EOS 5D Mark III | EOS 100D | PowerShot SX70 HS |
EOS R6 | EOS 5D Mark IV | EOS 200D | PowerShot G7 X Mark III |
EOS M200 | EOS 5DS | EOS 200D II | PowerShot G5 X Mark II |
EOS M50 | EOS 5DS R | EOS 600D | |
EOS M6 Mark II | EOS 6D | EOS 700D | |
EOS R | EOS 6D Mark II | EOS 750D | |
EOS RP | EOS 7D | EOS 760D | |
EOS Ra | EOS 7D Mark II | EOS 800D | |
EOS-1D X | EOS 60D | EOS 850D | |
EOS-1D X Mark II | EOS 70D | EOS 1100D | |
EOS-1D X Mark III | EOS 77D | EOS 1200D | |
EOS-1D C | EOS 80D | EOS 1300D | |
EOS 90D | EOS 1500D | ||
EOS 3000D |
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ดีปลี ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ และข้อมูลงานวิจัย
ดีปลี งานวิจัยและสรรพคุณ 20ข้อ
ชื่อสมุนไพร ดีปลี
ชื่ออื่นๆ ประดงข้อ ,ปานุน (ภาคกลาง) , ดีปลีเชือก (ภาคใต้) , พิษพญาไฟ , ปีกผัวะ , cabe jawa(อินโดนีเซีย) ,chabai jawa (มาเลเซีย) , Sali (ลาว)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Piper retrofractum Vahl.
ชื่อพ้อง P. chaba Hunter non Blume , P. officinarum DC. P.callosum Oprz, P.longum Blume, P.maritinum Opiz, P.sarmentosum Wall., P.arnottianum C.DC.
ชื่อสามัญ Long pepper, Indian long pepper, Javanese long pepper
วงศ์ Piperaceae
ถิ่นกำเนิดดีปลี
ดีปลีเป็นพืชเมืองของเอเชียตุวันออกเฉียงใต้ มีถิ่นกำเนิดที่เกาะโมลัคคาส (Moluccas) ในมหาสมุทรอินเดียและได้มีการนำมาปลูกและเกิดการแพร่กระจายในทางตอนใต้ของประเทศไทย รวมถึงในประเทศมาเลเซียและอินเดีย
ประโยชน์และสรรพคุณดีปลี
- ช่วยขับลม แก้จุกเสียด
- ช่วยขับเสมหะ
- แก้หืด
- แก้หลอดลมอักเสบ
- แก้นอนไม่หลับ
- แก้ลมบ้าหมู
- เป็นยาขับน้ำดี
- เป็นยาขับระดูทำให้สตรีเกิดอาการแท้งบุตร
- เป็นยาขับพยาธิในท้อง
- ใช้เป็นยาทาภายนอกสำหรับบรรเทาอาการปวดที่กล้ามเนื้อ
- แก้ลมอัมพาต
- แก้เส้นปัตตะฆาต
- แก้เส้นอัมพฤกษ์
- แก้คุดทะราดให้ปิดธาตุ
- แก้โรคหลอดลมอักเสบ
- ช่วยบำรุงธาตุ
- แก้ริดสีดวงทวาร
- ช่วยระงับอชินโรคหรือโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หาย
- ช่วยลดอาการเสียงแหบแห้งได้
- ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง
ผลดีปลี สามารถใช้รักษาแก้พิษงู ช่วยขับเสมหะ ลดอาการคันคอ ลดอาการไอ ช่วยลดไข้หวัด แก้อาการปวดฟัน แก้พิษอัมพฤกษ์ อัมพาต แก้อาการปวดเมื่อย แก้เส้นเอ็นดึงรั้ง แก้ท้องร่วง ช่วยขับลมในลำไส้หรือระบบทางเดินอาหาร แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้หอบหืด แก้ริดสีดวง แก้เป็นลมวิงเวียนศีรษะ ช่วยบำรุงธาตุ ใช้เป็นยาขับระดูและยาธาตุ
รากดีปลี แก้พิษอัมพฤกษ์ อัมพาต ช่วยลดไข้ แก้พิษคุดทะราด แก้ท้องร่วง แก้อาการจุกเสียด แก้โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ แก้ธาตุไม่ปกติ ช่วยระบายแก๊สในกระเพาะอาหาร
เถาดีปลี ขับเสมหะ แก้ปวดฟัน ปวดท้องจุกเสียด แก้ท้องขึ้น แก้อืดเฟ้อ แก้ท้องร่วง ฝนน้ำทาแก้ฟกช้ำ แก้ปวดเมื่อยตามตัว แก้ทางเดินปัสสาวะไม่ปกติ อัมพฤกษ์ แก้พิษงู
ใบดีปลี แก้หืดไอ แก้ปวดเมื่อย แก้เส้นเอ็น
ดอกดีปลี แก้อาการคลื่นไส้ แก้ลมวิงเวียน แก้อัมพาต แก้เส้นอัมพฤกษ์ ใช้เป็นยาธาตุ ช่วยขับลมในลำไส้ แก้ท้องร่วง แก้ปวดท้อง แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้โรคหืดหอบ ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้โรคหลอดลมอักเสบ แก้โรคริดสีดวงทวาร
ตำรายาไทย: ดีปลีจัดอยู่ใน “พิกัดตรีกฎุก” แปลว่าของที่มีรสร้อน 3 อย่าง เป็นพิกัดยาที่ประกอบด้วยเครื่องยา 3 อย่าง ในปริมาณเสมอกันคือ พริกไทย ขิงแห้ง และดีปลี มีสรรพคุณแก้โรคที่เกิดจากวาตะ(ลม) เสมหะ และปิตตะ(ดี) ในกองธาตุ กองฤดู กองอายุ และกองสมุฏฐาน “พิกัดตรีสันนิบาตผล(ตรีสัพโลหิตผล)” คือการจำกัดตัวยาแก้ไข้สันนิบาต 3 อย่าง คือ ผลดีปลี รากพริกไทย และรากกระเพราแดง มีสรรพคุณแก้ไข้สันนิบาต แก้ในกองลม บำรุงธาตุ แก้ปถวีธาตุ 20 ประการ “พิกัดตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด” คือการจำกัดจำนวนตัวยาเผ็ดร้อน 6 ชนิด คือ ดีปลี พริกไทย ผลผักชีลา ใบแมงลัก ผลกระวาน ใบโหระพา มีสรรพคุณแก้ลมจุกเสียด ช้ำบวม ช่วยย่อยอาหาร “พิกัดเบญจกูล” คือการจำกัดจำนวนตระกูลยาที่มีรสร้อน 5 อย่าง มี เหง้าขิงแห้ง ดอกดีปลี รากช้าพลู เถาสะค้าน รากเจตมูลเพลิง มีสรรพคุณกระจายกองลมและโลหิต แก้คูถเสมหะ แก้ลมพานไส้ บำรุงกองธาตุทั้ง 4 ให้บริบูรณ์
ตำรายาพระโอสถพระนารายณ์:ปรากฏตำรับ “ยาอาภิสะ” มีดีปลีเป็นองค์ประกอบหลักร่วมกับสมุนไพรอื่นอีกหลายชนิด มีสรรพคุณแก้ริดสีดวง ไอ ผอมแห้ง แก้เสมหะในทรวงอกและลำคอ
นอกจากนี้บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) ปรากฏการใช้เมล็ดเทียนดำ ในยารักษาอาการโรคในระบบต่างๆของร่างกาย รวม 5 ตำรับ คือ
1.ยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต (แก้ลม) ปรากฏตำรับ ”ยาหอมนวโกฐ” มีส่วนประกอบของดีปลี ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณในการแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน แก้ลมจุกแน่นในท้อง
2. ยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏตำรับ “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ ตำรับ “ยาประสะกานพลู” มีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดท้อง จุกเสียด แน่นเฟ้อจากอาหารไม่ย่อย เนื่องจากธาตุไม่ปกติ ตำรับ”ยาเหลืองปิดสมุทร” มีส่วนประกอบของดีปลี ร่วมกับสมุนไพรอื่นอีก 12 ชนิดในตำรับ มีสรรพคุณบรรเทาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น อุจจาระไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปนและท้องเสียชนิดที่ไม่มีไข้
3.ยารักษากลุ่มอาการทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา ปรากฏตำรับ “ยาประสะไพล” มีส่วนประกอบของดีปลีร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ ใช้ในสตรีที่ระดูมาไม่สม่ำเสมอ หรือมาน้อยกว่าปกติ
คุณค่าทางโภชนาการของดีปลี
ดีปลีในปริมาณ 149 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้
พลังงาน 46.2 กิโลแคลอรี่, โปรตีน 1.5 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 9.4 กรัม, วิตามินเอ 4666 IU, วิตามินซี 190 มิลลิกรัม, วิตามินอี 2.4 มิลลิกรัม, วิตามินเค 7.3 ไมโครกรัม, ไทอามีน 0.1 มิลลิกรัม, ไรโบฟลาวิน 0.1 มิลลิกรัม, วิตามินบี 6 0.4 มิลลิกรัม, โฟเลต 68.5 ไมโครกรัม, ไขมัน 0.4 กรัม, แคลเซียม 10.4 มิลลิกรัม, แมกนีเซียม 17.9 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 38.7 มิลลิกรัม, โซเดียม 6 มิลลิกรัม, เซเลเนียม 0.1 ไมโครกรัม, โปรแตสเซียม 314 มิลลิกรัม, สังกะสี 0.4 มิลลิกรัม, โอเมก้า 3 37.2 มิลลิกรัม, โอเมก้า 6 67 มิลลิกรัม, โคลีน 8.3 มิลลิกรัม, ไนอะซิน 1.5 มิลลิกรัม
รูปแบบวิธีการใช้และปริมาณที่ใช้ดีปลี
• อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดท้อง และแก้อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เกิดจากธาตุไม่ปกติ โดยใช้ผลดีปลีแก่แห้ง 1 กำมือ (ประมาณ 10-15 ผล) ต้มเอาน้ำดื่ม ถ้าไม่มีผลใช้เถาต้มแทนได้
• อาการไอ และขับเสมหะ ใช้ผลแห้งแก่ ประมาณครึ่งผล ฝนกับน้ำมะนาวแทรกเกลือเล็กน้อย กวาดคอ หรือจิบบ่อยๆ
• ผลดีปลีแห้งใช้เป็นเครื่องเทศ ประกอบอาหาร มีรสเผ็ดร้อน ขม
• ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยการใช้ดอกดีปลี 10 ดอก หัวแห้วหมู 10 หัว พริกไทย 10 เม็ด นำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำผึ้งแท้ ใช้รับประทานก่อนนอนทุกคืน (ดอก)
• ช่วยแก้ไข้เรื้อรังหรืออาการไข้ที่มักเป็น ๆ หาย ๆ ด้วยการใช้ดอกดีปลีล้างสะอาด นำมาบดหรือตำพอหยาบ ๆ ประมาณครึ่งแก้ว นำมาต้มกับน้ำ 4 แก้ว จนเหลือ 1 แก้ว แล้วกรองเอาแต่น้ำมาดื่มกินขณะท้องว่างวันละ 2 ครั้ง และสูตรนี้ยังช่วยลดอาการม้ามโตได้อีกด้วย (ดอก)
• ช่วยแก้อาการเจ็บในลำคอ ด้วยการใช้ดอกดีปลี 3 ดอก ผิวมะนาว 1 ลูก หัวกระเทียม 3 กลีบ และพริกไทยล่อน 3 เม็ด นำทั้งหมดมาตำให้ละเอียด แล้วผสมกับน้ำมะนาวและคลุกให้เข้ากัน นำมาปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเม็ดพุทรา แล้วใช้อมบ่อย ๆ (ดอก)
• ช่วยลดอาการเสียงแหบแห้งได้ ด้วยการใช้ผงดีปลีผสมกับสมอไทยอย่างละ 5 กรัมจนเข้ากัน แล้วผสมกับน้ำอุ่นไว้ดื่มครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง (ผล)
• ช่วยแก้ริดสีดวงทวารหนัก โดยใช้ดอกดีปลี 10 ดอก เมล็ดงาดำดิบ 20 กรัม นำมาบดให้ละเอียดผสมกับนมดื่มวันละ 1 แก้ว ติดต่อกัน 15 วัน (ผล, ดอก, เถา)
ลักษณะทั่วไปดีปลี
o ต้นดีปลี จัดเป็นไม้เถามีรากฝอยออกบริเวณข้อเพื่อใช้ยึดเกาะและเลื้อยพัน เถาค่อนข้างเหนียวและแข็ง มีข้อนูน แตกกิ่งก้านสาขามาก เจริญเติบโตได้ดีในที่ชุ่มชื้น มีแสงแดดรำไร
o ใบดีปลี มีใบเป็นใบเดี่ยว ลักษณะเป็นรูปไข่แกมขอบขนาน ใบมีสีเขียวเข้มเป็นมัน ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย ใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7-10 เซนติเมตร มีเส้นใบออกจากโคนประมาณ 3-5 เส้น ส่วนก้านใบยาวประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
o ดอกดีปลี หรือ ผลดีปลี ผลสดมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ลักษณะของผลอัดกันแน่นเป็นช่อรูปทรงกระบอก โคนใหญ่กว่าปลายไม่มาก ปลายเล็กมน ผลมีความยาวประมาณ 2.5-7.5 เซนติเมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-8 เซนติเมตร ผิวของผลค่อนข้างหยาบ และมีเกสรตัวเมียติดอยู่ ผลย่อยมีเมล็ดเดียว โดยเมล็ดมีขนาดเล็กมาก ลักษณะกลมและแข็ง ผงของผลมีสีน้ำตาล มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีรสเผ็ดร้อน ขมปร่า นิยมเก็บผลมาใช้เมื่อผลเริ่มเป็นสีน้ำตาล แล้วนำมาตากแดดให้แห้ง
ส่วนที่นำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้แก่ ส่วนของดอก ใบ ผลแก่จัดแต่ยังไม่สุก หรือตากแดดให้แห้ง เถา และรากดีปลี
การขยายพันธุ์ดีปลี
ดีปลีเป็นไม้เลื้อยที่ชอบพื้นที่ชุ่ม ดินร่วมซุย ไม่มีน้ำท่วมขัง สามารถเติบโตได้ดีในทุกสภาพดิน จึงเห็นได้ในทุกภาคของไทย
การปลูก และการดูแล ดีปลี ต้องเตรียมหลักให้เลื้อยพันตั้งแต่ปลูก หลักควรมีความสูง 1.50 เมตร ถ้าสูงเกินไปจะเก็บเกี่ยวยาก จะใช้เสาปูนก็ได้แต่ดีปลีจะไม่ค่อยเกาะในระยะแรกเนื่องจากเสาปูนร้อน และไต่พันยากกว่าขึ้นต้นไม้ ถ้าจะใช้ต้นไม้บางชนิดเป็นหลักก็มีต้นทองหลางที่เหมาะมาก เนื่องจากทองหลางโตเร็วตัดยอดตัดกิ่งบังคับความสูงได้ วิธีใช้ ให้นำต้นทองหลางมาปลูกลงไปก่อน พอต้นทองหลางโตเป็นร่มแล้ว ก็เอาดีปลีมาปลูกที่โคน เมื่อทองหลางแตกยอดก็ตัดยอดไม่ให้สูงไปกว่านั้น
ดีปลีจะเอายอดหรือไหลมาชำก็ได้ แต่นิยมใช้ยอดมากกว่าเพราะให้ผลผลิตได้เลย ถ้าใช้ไหลปลูกใช้เวลาหลายปีกว่าจะออกดอก ยอดที่จะนำมาชำให้ใช้ยอดกระโดงหรือยอดที่แยกออกด้านข้าง ตัดต่ำกว่ายอดลงมา 5 ข้อแล้วเอาดินเหนียวหุ้ม 2 ข้อล่าง เพื่อเพิ่มความชื่นให้แตกรากเร็วขึ้นไม่เช่นนั้นจะเหี่ยวเฉา จากนั้นจึงนำยอดไปชำลงในถุงจนกระทั่งแตกรากแล้วจึงนำไปปลูกที่โคนเสาหรือต้นทองหลาง อาจต้องใช้ลวดหรือเชือกมามัดหลวมๆ ในระยะแรก
คอยรักษาความชุ่มชื้นในดินให้สม่ำเสมอในระยะแรก อย่าให้น้ำท่วมขัง เมื่อต้นแข็งแรงจะออกรากมาช่วยเกาะหลัก ถ้าปลูกกับเสาก็ตัดเชือกออกได้ ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักคลุกดินรอบโคนต้นจะช่วยให้แข็งแรงและเติบโตดี
การเก็บเกี่ยวดีปลี
ถ้าดินมีความชุ่มชื้นได้น้ำตลอดปี ไม่แฉะเกินไป จะออกดอกได้ผลทั้งปี หน้าฝนผลจะดกแต่การตากให้แห้งทำได้ลำบาก หน้าแล้งผลผลิตลดลง แต่เก็บเกี่ยวตากแห้งได้สวยกว่า ส่วนที่เก็บเกี่ยวคือ ผล จะเก็บเมื่อผลกลางอ่อนกลางแก่ คือเริ่มมีสีแดงเรื่อๆ ปนเขียว เป็นระยะที่ดีปลีมีกลิ่นฉุนจัดที่สุด ถ้ารอให้สุกแดงจะเละเกินไป
องค์ประกอบทางเคมีของดีปลี
สารกลุ่ม alkaloids เช่น piperine 4-5% , piperanine , pipernonaline , dehydropipernonaline piperlonguminine piperrolein B สารกลุ่ม phenolic amides เช่น etrofractamide Chavicine Methyl piperate Guineensine น้ำมันหอมระเหย 1% ประกอบด้วย terpinolene caryophyllene p-cymene thujene dihydrocarveol Pentadecane
Caryophylleneoxide Heptadec-8-ene Heptadecane
ฤทธิ์ทางเภสัชของดีปลี
สารสำคัญ ในผลดีปลี คือ piperine เป็นสารที่มีผลต่อ TRPV1 ซึ่งมีผลต่อการปวด๔ นอกจากนี้จากการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ชั้นเอทธานอลของดีปลียังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) ทั้งฤทธิ์ต้านการอักเสบเฉียบพลัน และฤทธิ์ต้านการ อักเสบกึ่งเรื้อรัง ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (anti-oxidant)
มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ต้านการเกิดแผลที่กระเพาะอาหาร ต้านออกซิเดชั่น กดประสาทส่วนกลาง เสริมฤทธิ์ยานอนหลับ ลดไขมันในเลือด ลดน้ำตาลในเลือด ต้านพิษต่อตับ ทำให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว
งานศึกษาที่เกี่ยวข้องของดีปลี
o คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการศึกษาผลดีปลี พบว่า สาร piperlonguminine ในผลสดของดีปลีสามารถต้านการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินในผิวหนังได้ และยังพบว่า สารสกัดจากผลดีปลีสามารถออกฤทธิ์ลดอาการระคายเคืองของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคกระเพาะอาหารได้
o ในประเทศอินเดีย มีรายงานว่ามีการใช้ดีปลีในการนำมาปรุงอาหาร เพราะดีปลีมีคุณสมบัติช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และยังแนะนำว่า ผลดีปลีแห้งควรนำมาใช้ทันที และไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 1 ปี เพราะหากเก็บไว้นานกว่านี้สรรพคุณ และฤทธิ์ทางยาจะน้อยลง
o จากการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าดีปลีมีฤทธิ์ต้านการอ็อกซิไดส์ของเซลล์ได้ จึงนิยมใช้ผลดีปลีเป็นส่วนประกอบของยาต้านเซลล์มะเร็ง และรักษาโรคมะเร็ง
o การวิจัยสารสกัดจากผลดีปลี พบสารหลายชนิด และนำสารต่างๆมาทดสอบฤทธิ์ในการฆ่าแมลง พบว่า guineensine และ piperine สามารถฆ่าหนอนกระทู้ผักได้
การศึกษาทางพิษวิทยาของดีปลี
• มีการศึกษาพิษเฉียบพลัน (acute toxicity test) ในหนูถีบจักรโดยใช้สารสกัดอัลกอฮอล์ (50%) จากสมุนไพรไทยชนิดต่างๆ กรอกเข้าทางปากหรือฉีดเข้าใต้ผิวหนัง แล้วดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสัตว์ทดลองในระยะ 3 ชม.แรกอย่างใกล้ชิด ต่อจากนั้นคือ ในระยะ 12, 24 และ 72 ชม. หลังให้สารสกัดจะทำการตรวจสอบจำนวนสัตว์ทดลองที่ตาย เนื่องจากพิษของสารสกัดซึ่งในการทดลองนี้มีการทดสอบสารสกัดจากดอกดีปลี พบว่า สารสกัดขนาด 10 ก./กก. ซึ่งเทียบเท่ากับ 250 เท่าของขนาดรักษาในคน พบว่าสารสกัดขนาดดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดพิษในหนูถีบจักร
• การทดลองฉีดสารสกัดเอทานอล (90%) จากผลแห้งเข้าทางช่องท้องหนูถีบจักร พบว่า LD50 เท่ากับ 500 มก./กก.
• การทดลองให้สารสกัดเอทานอล (95%) จากผลแห้งทางกระเพาะอาหารหนูถีบจักร พบว่า LD50 เท่ากับ 87.4 ก./กก.
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
• ไม่ควรบริโภคดีปลีในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจจะทำให้กระเพาะอักเสบ แสบทวารเวลาขับถ่ายได้
• สำหรับผู้ที่เป็นไข้ ไม่ควรรับประทานดีปลี เพราะจะทำให้เป็นร้อนในด้วย
• เกิดการอักเสบของเยื่อบุในระบบทางเดินอาหารจนเกิดเลือดออกได้
• หญิงตั้งครรภ์ ห้ามรับประทานดีปลีเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้แท้งบุตรได้
ขอบคุณข้อมูลจาก disthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 28,650.00 | 28,750.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,856.00 | 28,136.96 | 29,250.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,670.40 | 25,323.26 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,484.80 | 22,509.57 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 835.00 | 12,658.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 650.00 | 9,854.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,923.00 | 29,152.68 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 18/09/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
พรุ่งนี้ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 21.75 | 21.75 | 21.75 | 21.75 | 21.75 | 21.75 | 21.75 | 21.75 | 21.75 | 21.75 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 21.48 | 21.48 | 21.48 | 21.48 | 21.48 | 21.48 | 21.48 | 21.48 | 21.48 | 21.48 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 20.24 | 20.24 | 20.24 | 20.24 | 20.24 | – | 20.24 | 20.24 | 20.24 | 20.24 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 18.04 | 18.04 | – | – | – | – | – | – | – | 18.04 |
เบนซิน 95 | 29.16 | – | – | – | 29.61 | – | 29.66 | 29.16 | – | 29.16 |
ดีเซล | 21.19 | 21.19 | 21.19 | 21.19 | 21.19 | 21.19 | 21.19 | 21.19 | 21.19 | 21.19 |
ดีเซล B10 | 18.19 | 18.19 | 18.19 | 18.19 | 18.19 | 18.19 | 18.19 | 18.19 | 18.19 | 18.19 |
ดีเซล B20 | 17.94 | 17.94 | 17.94 | 17.94 | 17.94 | – | 17.94 | 17.94 | – | 17.94 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.64 | 25.66 | 27.64 | 27.64 | – | – | – | – | – | 25.64 |
แก๊ส NGV | 14.17 | 14.17 | – | – | – | – | – | – | – | 14.17 |