สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2561

“ฮาบิแทท” เพิ่มน้ำหนักนักลงทุน ตปท. เล็งเปิดตลาดใหม่-ลดผูกขาดลูกค้าจีน

ชนินทร์ วานิชวงศ์

ระบุลูกค้าจีนชะลอซื้อคอนโด เพื่อลงทุนทำยอดขายจากต่างชาติช่วง Q3-4 ปี 61 หดตัวกว่า 50% หลังลูกค้าจีนได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐอเมริกา และมาตรการจำกัดคนจีนนำเงินออกไปลงทุนต่างประเทศ “ฮาบิแทท” ย้ำยังให้น้ำหนักทำตลาดต่างประเทศ ขยับเพิ่มสัดส่วนลูกค้าต่างชาติเป็น 47% จากเดิม 40% พร้อมขยายช่องทางขายกลุ่มลูกค้าประเทศใหม่ๆ ลดความเสี่ยงผูกขาดตลาดจีน มั่นใจลูกค้าต่างชาติสนใจลงทุนคอนโดไทยเพียบ เหตุผลตอบแทนสูง ราคาขายต่ำเมื่อเทียบเมืองใหญ่ พร้อมเปิดแผนลงทุนปี 62 เปิดตัว 6 โครงการใหม่ พัทยา 2 โครงการ กทม. 4 โครงการ มูลค่ารวม 8,000 ล้านบาท วางเป้ายอดขายโต 30-40% 

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงไตรมาส 3-4 ของปี 61 เริ่มชะลอตัวชัดเจนมากขึ้น หลังจากกลุ่มลูกค้าจีนชะลอการตัดสินใจซื้อและลงทุนในตลาดคอนโดมิเนียมออกไป เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหา สงครามการค้า หรือ Trade war และการอ่อนตัวของค่าเงินหยวน ซึ่งผลกระทบดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายจากลูกค้าต่างชาติในตลาดรวมคอนโดหดตัวลงกว่า 50% จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ในช่วงปลายปีนี้บริษัทต้องเลื่อนแผนการนำโครงการคอนโดในพอร์ตไปโรดโชว์ที่ประเทศจีนออกไป เป็นช่วงไตรมาสแรกของปี 62 เพื่อรอดูความชัดเจนผลกระทบจาก Trade War ระหว่างจีน กับสหรัฐอเมริกา 

“เชื่อปัญหาสงคารมการค้าระหว่างจีน และสหรัฐอเมริกา จะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ เพราะระหว่างนี้จีนกับสหรัฐอเมริกา ได้มีการเจรจากันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว และเมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายจะทำให้ลูกค้าจีนที่ชะลอการซื้อออกไปกลับเข้ามาซื้อและลงทุนคอนโดในประเทศไทยอีกครั้ง” 

ส่วนกรณีที่ประเทศจีนออกมาตรการควบคุมการนำเงินหยวนออกไปลงทุนในต่างประเทศ ได้ไม่เกิน 50,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อหัวต่อปีนั้น อาจจะกระบทกับตลาดคอนโดไฮเอนด์ที่มีระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนตลาดระดับกลาง-ล่าง ระดับราคาตั้งแต่ 8 ล้านบาทลงมา ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวแม้จะส่งผลกระทบ แต่หากลงลูกค้าจีนต้องการซื้อจริงๆ ก็ยังมีแนวทาง หรือวิธีการโอนเงินเข้ามา ซึ่งลงทุนในประเทศอีกหลายทาง เช่น การโอนเงินไปที่ฮ่องกง ก่อนแล้วโอนมาไทยไทยอีกที หรือสามารถให้ญาติหลายๆ คนช่วยโอนให้แทนการโอนเงินผ่านบุคคลเพียงคนเดียว 

ทั้งนี้ แม้จีนจะมีการออกมาตรการควบคุมวงเงินที่จะนำเงินออกไปซื้อและลงทุนในต่างประเทศ และยังมีปัญหาสงครามการค้าที่ส่งผลกระทบต่อตลาดคอนโดในไทย แต่ “ฮาบิแทท” ยังคงให้น้ำหนักกับการทำตลาดในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเช่นเดิม เนื่องจากลูกค้าจีนไม่ใช่ลูกค้าต่างชาติเพียงกลุ่มเดียว แต่ยังมีอีกหลายๆ ประเทศที่สนใจเข้ามาลงทุนคอนโดไทย เช่น มาเลเซีย, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และยุโรป เนื่องจากศักยภาพในการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยมีอยู่สูง เพราะถูกมองเป็นศูนย์กลางกลุ่มประเทศอาเซียน ขณะเดียวกัน ยังมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งจะดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาจำนวนมาก และจะก่อให้เกิดการลงทุนอสังหาฯ ใหม่ๆ ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกอีกมหาศาล 

วาลเด้น

วาลเด้น

ขณะเดียวกัน แนวโน้มด้านผลตอบแทนจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยยังดีกว่าประเทศข้างเคียง และในเมืองใหญ่ อย่างเช่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ เนื่องจากระดับราคาขายยังต่ำกว่ามาก เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ในหลายๆ ประเทศในภูมิภาคเดียวกัน เนื่องจากราคาขายห้องชุดในสิงคโปร์ และฮ่องกง ที่เป็นศูนย์รวมธุรกิจขนาดใหญ่ มีราคาสูงกว่าอสังหาฯ ในประเทศไทยกว่า 10 เท่าตัว ขณะที่ผลตอบแทนอยู่ในระดับ 1-2% ส่วนราคาห้องชุดในเมืองของไทย นอกจากราคาถูกกว่าแล้ว ยังให้ผลตอบแทนสูงโดยเฉลี่ยในระดับ 5-6% 

นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า จากทิศทางข้างต้นทำให้บริษัทยังให้น้ำหนักการขยายตลาดลูกค้าต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนจะขยายตลาดไปในประเทศใหม่ๆ เช่น มาเลเซีย, ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด และยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการผูกขาดในกลุ่มลูกค้าประเทศใดประเทศหนึ่ง ทั้งนี้ จากการให้น้ำหนักกับลูกค้าต่างประเทศเพิ่มขึ้น จะทำให้สัดส่วนลูกค้าต่างประเทศและลูกค้าไทยของฮาบิแทท ขยับมาที่ลูกค้าไทย 53% ลูกค้าต่างชาติ 47% จากเดิมมีสัดส่วนลูกค้าไทย 60% ต่างชาติ 40% 

สำหรับแนวโน้มตลาดคอนโดเพื่อการลงทุนจากลูกค้าต่างชาตินั้น เป็นทิศทางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะนับจากที่ตลาดคอนโดไทยขยายตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคม และโครงการรถไฟฟ้าที่มีการลงทุนโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ต้องยอมรับว่ามีซัปพลายใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ขณะที่ราคาที่ดินในเมืองโดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าได้ขยับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้โครงการห้องชุดใหม่ๆ ที่ออกสู่ตลาดมีราคาขายขยับสูงขึ้นตามต้นทุนที่ดิน 

ขณะที่ดีมานด์ใหม่กลับขยายตัวไม่ทันซัปพลาย แถมดีมานด์บางส่วนยังลดลง จากผลกระทบเงินเฟ้อ และหนี้ครัวเรือน ที่ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคลดลง ประกอบกับสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยรายย่อย ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ดังนั้น เมื่อซัปพลายมีมากกว่าดีมานด์ในประเทศ ทางรอดของผู้ประกอบการอสังหาฯ คือ การขยายกลุ่มลูกค้าไปในตลาดใหม่ๆ ทำให้ตลาดซื้อเพื่อลงทุนจากลูกค้าต่างชาติ กลายเป็นทางออกของผู้ประกอบการคอนโดฯ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ที่พัฒนาห้องชุดใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง 

จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดนักลงทุนและลูกค้าต่างชาติมีอัตราการขยายตัวสูง ทั้งจำนวนยูนิต และด้านมูลค่าการซื้อขาย ซึ่งจากข้อมูลตลาดรวมห้องชุดในประเทศของปี 60 คาดว่า มูลค่าการซื้อขายห้องชุดในตลาดรวมมีมูลค่าอยู่ที่ 200,000 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้เป็นยอดขายจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติแชร์อยู่ 20-30% หรือประมาณ 20,000-30,000 ล้านบาท และยังมีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3-4 ของปีนี้ จะมีการชะลอการตัดสินใจซื้อจากกลุ่มลูกค้าจีน ทำให้ยอดขายลดลงไปกว่า 50% 

นายชนินทร์ กล่าวว่า สำหรับแผนการลงทุนโครงการใหม่ในปี 62 บริษัทมีแผนจะลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 6 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยเป็นการลงทุนโครงการใหม่ในพัทยา 2 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท และเป็นการลงทุนใน กทม. 4 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวม 1,300 ล้านบาท ส่วนในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมที่ 2,000 ล้านบาทเศษ หรือเติบโตจากปีก่อนประมาณ 60% โดย 10 เดือนแรกของปี มียอดขายเข้ามาแล้วเกือบ 2,000 ล้านบาท สำหรับในปี 62 บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเติบโตจากปีนี้ประมาณ 30-40%

ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com


CMC เปิด 5 โครงการใหม่ 5,000 ล้าน ปีนี้ผลงานทะลุเป้าหลัง 9 เดือน กำไรโต 165%

กลุ่มเจ้าพระยามหานคร-CMC ทิ้งทวนก่อนสิ้นปี เตรียมเปิดตัวใหม่ 5 โครงการมูลค่ารวม 5,000 ล้าน

นายแพทย์วิเชียร แพทยานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าพระยามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ CMC  กล่าวว่า ตามแผนปี 2561 ตั้งเป้าเปิดตัว 5 โครงการใหม่ มูลค่าร่วม 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 4 โครงการ และโฮมออฟฟิศ 1 โครงการ มียูนิตสร้างเสร็จพร้อมโอน 3,614 ล้านบาท

โดย 5 โครงการใหม่มีกำหนดจก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมรับรู้รายได้ในปี 2019-2020 เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้ ที่ยั่งยืนและต่อเนื่อง

ด้านผลประกอบการ 9 เดือนแรกปี 2561 มีรายได้รวม 1,510  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% มีกำไรขั้นต้น 633 ล้านบาท หรือ 42% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 439 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 165% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่ 70 ล้านบาท

ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (เน็ตมาร์จิ้น) เพิ่มขึ้นเท่าตัว จาก 5.83% เป็น 12.03%

“ CMC มั่นใจว่าในปีหน้า จะมีผลประกอบการที่เติบโตจากการรับรู้รายได้ของโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมโอนและโครงการระหว่างก่อสร้างกว่า 5,538 ล้านบาท ขณะที่ภาระหนี้สินจะลดลงจากการชำระคืนเงินกู้บางส่วนจากเงินที่ระดมทุนได้ ทำให้ลดต้นทุนทางการเงินไปได้มาก ล่าสุดอัตราหนี้สินต่อทุนลดลงเหลือ 1 เท่า”

นพ.วิเชียรกล่าวตอนท้ายด้วยว่า มาตรการแบงก์ชาติสกัดฟองสบู่ด้วยการบังคับเพิ่มเงินดาวน์ในการซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม CMC ไม่ได้ผลกระทเนื่องจากเน้นลูกค้าเรียลดีมานด์ และส่วนใหญ่ซื้อเป็นบ้านหลังแรก ราคาขายอยู่ในช่วง 2-4 ล้านบาท/ยูนิต

ขอบคุณข้อมูลจาก  prachachat.net


สรุปเกณฑ์ สินเชื่อบ้าน ปี 2562

การเปลี่ยนแปลงภาคการเงินที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับ “เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยใหม่” ที่ประกาศบังคับใช้ในปีหน้า 1 เมษายน 2562 นั้น เชื่อว่าจะช่วยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ทั้งในแง่ผู้ประกอบการและผู้บริโภค เข้าที่เข้าทางมากขึ้น รวมทั้ง ช่วยให้ภาคธนาคารพาณิชย์สามารถปล่อยสินเชื่อบ้านได้อย่างมีคุณภาพอีกด้วย 

              หากใครเป็นกังวลว่า “บ้านในฝัน” คงหมดโอกาสแน่แล้ว บอกเลยว่ายังมีหวังกันอยู่ เพราะเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยครั้งนี้ เน้นหนักไปยัง 2 กลุ่มหลัก ได้แก่

 

  1. ผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยตั้งแต่หลังที่ 2 เป็นต้นไป ในกรณีที่ยังยังบ้านหลังแรกไม่หมดเท่านั้น
  2. ผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีมูลค่า 10 ลบ. ขึ้นไป

 

           นั้นหมายความว่า หากบ้านในฝันของคุณ คือ บ้านหลังแรกและมีราคาต่ำกว่า 10 ลบ. จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยครั้งนี้เลย นอกจากนี้ ธปท. ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ กลุ่มที่จะไม่ได้รับผลกระทบ จากการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ครั้งนี้ แบ่งเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่

 

  1. ผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยหลังแรก และมีราคาต่ำกว่า 10 ลบ.
  2. ผู้ที่ต้องการ Refinance บ้านหลังแรก เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย (สำหรับผู้ขอสินเชื่อที่มีภาระผ่อน 1 หลัง)
  3. ผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 โดยปิดหนี้บ้านหลังแรกเรียบร้อยแล้ว (ผ่อนหลังแรกเสร็จแล้ว)
  4. ผู้ขอสินเชื่อเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยบนที่ดินของตนเอง ซึ่งเป็นที่ดินปลอดภาระหนี้
  5. ผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขาย หรือผ่อนดาวน์ก่อน 15 ตุลาคม 2561
  6. ผู้ขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยก่อนวันที่ 1 เมายน 2562

             โดย เกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ที่จะบังคับใช้ 1 เมษายน 2562 จะเกี่ยวข้องกับ 2 ส่วนหลัก คือ อัตราการวางดาวน์ขั้นต่ำ และสินเชื่อ Top-up รายละเอียดดังนี้

 

 1. สัดส่วนการวางดาวน์ขั้นต่ำ สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ต่ำกว่า 10 ลบ. และ 10 ลบ.ขึ้นไป รายละเอียดต่างกัน แต่จะเหมือนกันในกรณีขอสินเชื่อบ้านหลังที่ 3 โดยยังผ่อนสัญญาอื่นไม่หมด ที่ตัวเลข 30% รายละเอียดดังนี้

 

2. วงเงินสินเชื่อ จะนับรวมสินเชื่อ Top-Up (สินเชื่อเพื่อวัตถุประสงค์อื่นภายใต้หลักประกันที่อยู่อาศัยเดียวกัน เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล, สินเชื่อตกแต่งบ้าน เป็นต้น) ต้องไม่เกินมูลค่า 100% ของหลักทรัพย์ค้ำประกัน ยกเว้น สินเชื่อเพื่อจ่ายเบี้ยประกันชีวิตผู้กู้ (MRTA), ประกันวินาศภัย และสินเชื่อที่ให้กับธุรกิจ SMEs

 

3. กำหนดบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป โดยยกเว้น กรณีทำสัญญาจะซื้อจะขายหรือผ่อนดาวน์ก่อน 15 ต.ค. 2561

 

               การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เชื่อว่าภาคประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้รับประโยชน์โดยทั่วกัน อาทิ ภาคประชาชนที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง จะสามารถซื้อบ้านในราคาที่เหมาะสมมากขึ้น ลดพฤติกรรมการกู้ยืมเกินความจำเป็น ขณะเดียวกัน จะช่วยให้กลุ่มประชาชนที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนหรือเกร็งกำไรองรับความเสี่ยงได้ดีขึ้น แม้แต่กลุ่มผู้ประกอบการเอง จะได้รับประโยชน์จากการวิเคราะห์ความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างแท้จริงได้มากขึ้น ลดความเสี่ยงจากอุปทานคงค้างได้

ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com


5G กับ ‘โรงงานไร้คน’ และ ‘รถไร้คนขับ’ / พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ

เทคโนโลยี 4G ที่เราคิดว่าทันสมัยแล้ว แต่นักวิทยาศาสตร์กลับคิดว่า มันยังไม่สามารถตอบโจทย์ที่จะทำให้เกิดการใส่แว่นเพื่อมองเห็นภาพ 3D แบบ realtime และยังไม่สามารถบังคับหุ่นยนต์ให้ทำงานในโรงงานผลิตสินค้าแบบอัตโนมัติได้ ไปจนถึงยังไม่สามารถทำให้รถขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้

มาวันนี้ ความพยายามของนักวิทยาศาสตร์กำลังจะเป็นจริงแล้ว เพราะเทคโนโลยี 5G ทำให้การส่งข้อมูลขนาดใหญ่ได้ในเสี้ยววินาที แถมทั้งยังลดเวลาตอบสนองในการติดต่อระหว่างคนและสิ่งของได้สั้นลงอย่างมาก จนเราสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ในระยะห่างกันถึง 100 กิโลเมตร ได้อย่าง realtime

นั่นจึงหมายความว่า เราสามารถมองเห็นภาพเคลื่อนไหวแบบ 3D ทั้งๆ ที่เราไม่ได้อยู่ ณ สถานที่นั้น ด้วยการมองผ่านแว่น VR (Virtual Reality) และเราสามารถติดต่อและบังคับควบคุมหุ่นยนต์จากระยะไกลข้ามประเทศได้เหมือนเราอยู่ใกล้ตัวหุ่นยนต์ จนทำให้โรงงานสามารถผลิตสินค้าแบบอัตโนมัติโดยปราศจากมนุษย์ ไปจนถึงการที่รถยนต์สามารถขับได้ด้วยตัวเอง เพราะหากรถยนต์ทุกคันเชื่อมกันผ่าน 5G จนมองเห็นตำแหน่งกันตลอดเวลาแบบ realtime และยังมีกล้อง 3D รอบตัวรถยนต์ ที่ทำให้รถยนต์มองเห็นภาพซึ่งกันและกันบนถนน ก็จะทำให้รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ดีกว่า และปลอดภัยกว่าที่จะให้มนุษย์ขับในที่สุด

เทคโนโลยี 5G ที่ถูกกำหนดโดยมาตรฐาน IMT-2020 โดยสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ International Telecommunications Union (ITU) มีเป้าหมายที่ชัดเจนที่ต้องการให้ระบบ 5G เป็นการสื่อสารที่พลิกวงการโทรคมนาคมด้วยการก้าวข้ามไปสู่อุตสาหกรรมการผลิตแบบอัตโนมัติ และอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง รวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วยขีดความสามารถในระดับ Gb/s ซึ่งสูงกว่าระบบ 4G ถึง 10-100 เท่า

การเชื่อมโยงหุ่นยนต์และยานยนต์ที่จะทำให้มันทำงานแบบอัตโนมัติได้นั้น ต้องอาศัยเซ็นเซอร์จำนวนมหาศาล จึงทำให้ระบบ 5G ต้องใช้แถบกว้างความถี่ (Bandwidth) ถึง 100MHz จึงจะเพียงพอต่อการจัดการ Big data เหล่านั้นที่ส่งไปมากับหุ่นยนต์และรถยนต์ และการเชื่อมโยงข้อมูลมหาศาลอย่าง realtime จึงต้องอาศัยระบบคลาวด์ที่ต้องเกิดขึ้นมากมายทั่วโลก ดังนั้น การก้าวสู่ระบบ 5G จึงเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจโลก จนทำให้ผู้นำและผู้บริหารระดับสูงทั่วโลกถึงต้องเผชิญต่อการ disruption อย่างน่าตื่นเต้นและประหลาดใจในทศวรรษต่อจากนี้ไป

และเป็นที่แน่นอนว่า เมื่อ 5G ที่จะเริ่มต้นปูพรมทั่วโลกตั้งแต่ปี 2020 นี้เป็นต้นไป เราก็จะได้พบกับบริษัทเล็กๆ แต่ชาญฉลาด และมีพนักงานในรุ่น Gen Alpha และ Gen Y จำนวนน้อย มีการเชื่อมต่อกับผู้คนและองค์กรจำนวนมหาศาลอย่าง realtime จนเกิดปรากฏการณ์ธุรกิจรูปแบบใหม่ ที่ให้บริการดีกว่า ถูกกว่า เร็วกว่าบริษัทแบบดั้งเดิม

การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดคำถามอย่างเช่น คนทำงานในโรงงาน และพนักงานออฟฟิศที่มีทักษะที่เหมาะสมต่อตลาดแรงงานนั้นจะเปลี่ยนไปหรือไม่? พวกเขาเตรียมพร้อมรับมือต่อสภาพการจ้างงานที่มาพร้อมกับคำว่า “ยุคการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ (Industry 4.0)” แล้วหรือยัง? ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาทักษะของทรัพยากรมนุษย์รูปแบบใดที่ประเทศต่างๆ ควรนำมาใช้ในการพัฒนาแรงงานในศตวรรษที่ 21? จึงเป็นความท้าทายของผู้นำและผู้บริหารในวันนี้ เราจึงต้องการผู้นำและผู้บริหารที่เห็นอนาคต และเตรียมการเพื่ออนาคตได้อย่างชัดเจน


บทความโดย พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ

ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com


ธรรมะกับชีวิตประจำวัน : ถอดรหัสความสำเร็จ “ลินคอล์น” เกี่ยวพันกับ อิทธิบาท ๔

มนุษย์บนโลกใบนี้ ทุกคนอยากประสบความสำเร็จ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่น้อยคนนักที่จะพบความสำเร็จได้ดังใจปรารถนา 

พวกคนขยันที่เอาแต่ทำโดยไม่ยอมศึกษา สุดท้ายก็พังล้มไม่เป็นท่า ส่วนพวกที่เอาแต่ศึกษา คิดนู่นนี่นั่นเต็มหัวไปหมดแต่ไม่ลงมือทำ พวกนี้ก็ได้แต่ฝันพร่ำเพ้อ ไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

ความจริงแล้ว ความสำเร็จเป็นเรื่องง่าย เพียงแต่มีราคาที่ต้องจ่าย ซึ่งควรทำความเข้าใจ ทุกอย่างบนโลกนี้ มีคนทำไว้หมดแล้ว แม้แต่เรื่องความสำเร็จ และความสำเร็จมันก็มีร่องรอย พูดอีกอย่างคือ ความสำเร็จมันมีกลไกของมัน ถ้าเราหาเจอว่ากลไกนั้นคืออะไร มันทำงานอย่างไร เราก็จะก้าวไปสู่ความสำเร็จนั้นได้ไม่ยาก

เหตุที่คนส่วนใหญ่ล้มเหลว เพราะไม่รู้วิถีหรือกฎแห่งความสำเร็จ กฎที่เป็นสัจธรรมความจริง ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าโลกจะผ่านไปอีกกี่ยุคสมัยก็ตาม

วิถีแห่งความสำเร็จนั้น เปรียบเสมือนเส้นทางหนึ่ง หากเรายังไม่เคยก้าวผ่านเส้นทางสายนี้ ก็แค่สอบถามจากคนที่เคยไปมาก่อน เรื่องความสำเร็จก็เช่นเดียวกัน พระพุทธเจ้าถือว่าเป็นมหาบุรุษที่ประสบความสำเร็จเหนือใครในจักรวาล ในพุทธสูตร พระองค์ตรัสเปิดเผยกฎแห่งความสำเร็จว่า มีกลไกที่ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ดังนี้

“ที่เราสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า เพราะว่าเรามีฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ในการทำสมาธิ อันประกอบไปด้วยความเพียรสร้างสรรค์และป้องกัน”

คุณธรรมทั้ง ๔ ข้อนี้เป็นทางหรือเป็นกลไกนำไปสู่ความสำเร็จ นิยามศัพท์ใหม่ด้วยภาษาในปัจจุบันว่า

ฉันทะ คือ มีใจรัก พอใจ ความถนัด พรสวรรค์ เกิดแรงบันดาลใจที่อยากจะทำสิ่งนั้น
วิริยะ คือ ความเพียร พยายาม ใจสู้ กล้าหาญ ขยัน บากบั่น มุมานะ อยู่กับสิ่งนั้น
จิตตะ คือ มีใจจดจ่อ ฝักใฝ่ มุ่งมั่น สมาธิ สติ พลังจิต โฟกัส อยู่กับสิ่งนั้น
วิมังสา คือ มีปัญญา พิจารณา ตรวจสอบ วิเคราะห์ สังเคราะห์ สร้างสรรค์ อยู่กับสิ่งนั้น

เรื่องกลไกลหรือหนทางนั้น อาจถอดรหัสมาใช้กันได้ แต่เรื่องผลลัพธ์หรือความสำเร็จ อาจต้องมีการปรับลดขนาดไปตามความเหมาะสม เพราะความสำเร็จของคนเราไม่เหมือนกัน ดังนั้น เรื่องนี้เราก็ต้องนิยามเองให้ชัดว่า ความสำเร็จที่เราต้องการในชีวิตจริงๆนั้นคืออะไร

มีจุดพอให้สังเกตได้ว่า เมื่อ “ฉันทะ” คือความรักชอบ พอใจ หรือความถนัดของเราปรากฏขึ้น เส้นทางแห่งความสำเร็จก็จะเผยตัวออกมา พร้อมกับความสุขที่ได้ทำสิ่งนั้น หากท่านยังไม่แน่ใจ ยังหาไม่พบ หรือยังไม่มีคำตอบ “นโปเลียน ฮิลล์” มีนิยามแห่งความสำเร็จ นำร่องไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้

๑. มีคนที่เรารัก มีคนที่รักเรา และสองคนนี้ คือคนเดียวกัน
๒. มีสุขภาพกาย… สุขภาพใจที่ดี
๓. มีเงินมากพอที่จะทำให้ชีวิตมีทางเลือก และมีเวลามากพอที่จะใช้เงินนั้น

สิ่งหนึ่งที่ต้องตระหนักก็คือ ไม่ว่าเราจะนิยามความสำเร็จยิ่งใหญ่ หรือเล็กจ้อยเพียงใด แต่ชีวิตของเราไม่มีเวลามากพอ ที่จะต้องเริ่มต้นจากศูนย์แบบลองผิดลองถูก คลำเป้าสะเปะสะปะไปเรื่อย ย้ำอีกครั้งว่า ทุกอย่างมีคนทำไว้แล้ว เราแค่ไปศึกษาจากเขา แล้วนำมาถอดรหัส ปรับประยุกต์ต่อยอด บุคคลระดับโลกที่นำมาเป็นเคสตัวอย่างต่อไปนี้ อ่านแล้วการันตีเลยว่า ไฟในใจของท่านผู้อ่านจะต้องลุกโพลงอย่างแน่นอน

มีเด็กน้อยคนหนึ่ง ฐานะทางบ้านยากจน มีอาชีพตัดฟืนขาย แต่เขาเป็นคนรักการอ่าน แม้ที่บ้านจะไม่มีหนังสือ ก็ยังไปยืมจากเพื่อนบ้านมาอ่าน และก็อ่านโดยอาศัยแสงไฟจากกองฟืน บางครั้งแม้หนทางจะไกลหลายไมล์ เด็กน้อยก็ดั้นด้นไปเพื่อค้นคว้าข้อมูล หนังสือเล่มที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจคือ โรบินสัน ครูโซ และชีวประวัติการทำงานของ ยอร์ช วอชิงตัน อ่านแล้วทำให้เกิดคิดฝันว่า วันหนึ่งข้างหน้า เขาคงจะได้เป็นผู้นำเยี่ยงยอร์ช วอชิงตัน

แล้วกาลเวลาก็ช่วยให้เขาเป็นชายหนุ่มที่เติบโตมาพร้อมกับฉายา “ชายผู้ล้มเหลว” เพราะไม่ว่าเขาจะหยิบจับทำกิจการอะไร ก็ล้มเหลวพังไม่เป็นท่า ชีวิตที่ผ่านมาผิดพลาดไปหมด เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้หลายครั้ง ผู้คนรอบข้างจึงให้สมญานามนี้แก่เขาโดยอัตโนมัติว่า ชายผู้เกิดมาเพื่อความปราชัย

วันหนึ่งในรัฐอิลลินอยส์ ที่นั่นทำให้ชายหนุ่มได้ค้นพบตัวเองว่า เขาเกิดมาเพื่อเลิกทาส เพราะได้เห็นสภาพในรัฐอิลลินอยส์ ที่มีการซื้อขายทาสพวกคนผิวสี ซึ่งถูกโบยตีอย่างทุกข์ทรมาน ชายหนุ่มเกิดความสลดหดหู่ใจต่อภาพที่เห็น จึงตั้งปณิธานกับตัวเองว่า “สักวันหนึ่งข้าพเจ้าจะต้องทำลายล้างระบบค้าทาสนี้ให้ได้”

ตรงนี้มีข้อสังเกตว่า “ฉันทะ” คือแรงบันดาลใจที่เกิดจากการค้นพบจุดหมายที่แท้จริงของตัวเอง ได้เกิดขึ้นแล้ว ชายหนุ่มผู้นี้รู้ดีแก่ใจตนเองว่า เขาเกิดมาเพื่อปลดแอก คืนอิสรภาพให้กับชนผิวสี และมันคือภารกิจที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จ

เมื่อโอกาสทางการเมืองมาถึง เขาจึงไม่ลังเลที่จะลงสมัครเป็นตัวแทนสมาชิกสภา ด้วยอายุเพียง ๒๓ ปี แต่ก็คว้าน้ำเหลวมาตลอดกว่า ๑๕ ครั้ง จุดแข็งของนักการเมืองหนุ่มผู้นี้ก็คือ ทรหดอดทน สู้ไม่ถอย ล้มเหลวอย่างไร เขาก็ไม่ล้มเลิก กระทั่งถึงปี ค.ศ. ๑๘๖๐ ในที่สุด เขาก็ชนะการเลือกตั้ง ได้เป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในขณะนั้นอเมริกาเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นพอดี และสงครามครั้งนี้เองทำให้เขาได้ชื่อว่า เป็นผู้พิชิตสงครามกลางเมือง ระหว่างอเมริกาเหนือกับอเมริกาใต้ พร้อมด้วยภารกิจปลดแอกเลิกทาสให้กับชนผิวสีทั่วสหรัฐอเมริกา สำเร็จอย่างที่ตั้งปณิธานไว้ เขาผู้นี้คือ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ ๑๖ ของสหรัฐอเมริกา

ถอดรหัสความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของลินคอล์น พบว่าเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ของอิทธิบาท ๔ ที่เกื้อหนุนค้ำจุนกันผลักดันให้ภารกิจสำเร็จ เช่นที่ลินคอล์นค้นพบตัวเอง ด้วยการปลูกฉันทะลงในหัวใจ เป็นเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งในที่นี้ก็คือภารกิจเลิกทาส เมื่อฉันทะเกิดขึ้นแล้ว ก็ทำให้เกิดกำลังใจ ไม่ยอมแพ้ ไม่ท้อแท้ ท่านจึงใส่ใจสนใจจะเอาชนะการเลือกตั้ง แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ไปถึง ๑๕ ครั้ง แต่ในที่สุดก็มาชนะการเลือกตั้งในครั้งที่ ๑๖ นี่คือกำลังของวิริยะ ความเพียรที่มาพร้อมกับจิตตะ คือความมุ่งมั่น ไม่เปลี่ยนใจ ด้วยการโฟกัสอยู่ที่เป้าหมาย

นอกจากนี้ ท่านต้องหาวิธีการที่จะเอาชนะการเลือกตั้งให้ได้ เช่น หาความรู้ หาประสบการณ์ หาพรรคพวก หาคะแนนเสียง เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงประชาชน เหล่านี้คือวิมังสา เป็นปัญญา รู้คิด พิจารณาหาเหตุปัจจัยในการเอาชนะเลือกตั้ง ถึงตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่า กลไกที่สร้างความสำเร็จนั้นมีอยู่ ๔ องค์ประกอบสำคัญคือ

๑. มีเป้าหมายที่ชัดเจน (ฉันทะ)
๒. ศึกษาคนที่สำเร็จในแบบที่เราต้องการ (วิมังสา)
๓. ลงมือทำด้วยความสม่ำเสมอ (วิริยะ)
๔. ไม่เปลี่ยนใจจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ (จิตตะ)

จำไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จ เราจะไม่มีวันบรรลุถึงเป้าหมายได้เลย ถ้าภารกิจของเราปราศจากกลไกของอิทธิบาททั้ง ๔ ประการ คอยผลักดันขับเคลื่อนให้ปณิธานหรือเป้าหมายชีวิต ประสบความสำเร็จ

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 199 กรกฎาคม 2560 โดย ทาสโพธิญาณ)

ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com


ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 19/12/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง ราคาขาย/บาท ราคารับซื้อ/บาท ราคารับซื้อ/กรัม
ทองคำแท่ง 96.5% 19,350.00 19,250.00 n/a
ทองรูปพรรณ 96.5% 19,850.00 18,904.52 1,247.00
ทองรูปพรรณ 99.99% n/a 19,586.72 1,292.00
ทองรูปพรรณ 90% n/a 17,014.07 1,122.30
ทองรูปพรรณ 80% n/a 15,123.62 997.60
ทองรูปพรรณ 50% n/a 8,504.76 561.00
ทองรูปพรรณ 40% n/a 6,609.76 436.00

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 19/12/2561

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45 27.45
แก๊สโซฮอล์ 91 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18 27.18
แก๊สโซฮอล์ E20 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44 24.44
แก๊สโซฮอล์ E85 20.09 20.09 20.09 20.09
เบนซิน 95 34.86 35.31 35.36 35.16 34.66 35.16
ดีเซล 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79 26.79
ดีเซลพรีเมี่ยม 30.39 30.66 30.66 30.66 30.66
แก๊ส NGV 16.06 16.06
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า