สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2561

อสังหาฯพื้นที่ ‘อีอีซี’ สต็อกรอขายนำโด่ง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยผลสำรวจไตรมาส 3 ปีที่ผ่านมา พบ “ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา” โครงการที่อยู่อาศัย รอการขายนำโด่ง 67.4% เทียบ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ที่มีที่อยู่อาศัยรอการขายในปีทีผ่านมาประมาณ 2.6 ล้านหลัง คิดเป็น10 %ของประเทศ

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย ล่าสุดในไตรมาส 3 ปี2560 โดยดำเนินการเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสำคัญ ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา(3 จังหวัดในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) พบว่า 3 จังหวัดดังกล่าวมีโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขาย (Housing Stock) รวมกันคิดเป็น 67.4% ของ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ซึ่งมีจำนวน Housing Stock ปี 2560 ประมาณ 2.6 ล้านหลัง (คิดเป็นสัดส่วน10.0% ของประเทศ) และมีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ 47,256 หน่วย มูลค่ารวม 84,054 ล้านบาท

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ให้รายละเอียดว่า จังหวัดชลบุรี มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายประเภทบ้านจัดสรรจำนวน 498 โครงการ มีหน่วยในผังรวมกันประมาณ 66,569 หน่วย โดยมีจำนวนหน่วยมากเป็นที่สองรองจากกรุงเทพฯ และในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 จำนวน 59 โครงการ รวม 7,698 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 20,657 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 52 โครงการ จำนวน 5,601 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 14,450 ล้านบาท เป็นอาคารชุด 7 โครงการ จำนวน 2,097 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 6,207 ล้านบาท

แบ่งตามประเภทที่อยู่อาศัย โดยภาพรวมเป็นโครงการอาคารชุดมากที่สุด 56% พื้นที่ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอบางละมุงมากที่สุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 21% อยู่ในอำเภอศรีราชามากที่สุด อันดับสามเป็นบ้านเดี่ยว 12.8% อยู่ในอำเภอบางละมุงมากที่สุด

จังหวัดระยองมีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 221 โครงการ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 30,953 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 76,273 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 26,943 หน่วย (เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มี 21,839 หน่วย) เป็นอาคารชุด 4,007 หน่วย (ลดลงจากปี 2559 ที่มี 5,187 หน่วย) โดยจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด 45% รองลงมาอยู่ในอำเภอเมืองระยอง 34.4% โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 จำนวน 25 โครงการ จำนวน 2,557 หน่วยมีมูลค่าโครงการรวม 6,024 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 24 โครงการ จำนวน 2,479 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 5,545 ล้านบาท เป็นอาคารชุดเพียง 1โครงการ จำนวน 78 หน่วย มีมูลค่าโครงการ 479 ล้านบาท

โดยภาพรวมจังหวัดระยองโครงการที่อยู่ระหว่างการขายเป็นบ้านเดี่ยวมากที่สุด 36% อยู่ในอำเภอเมืองระยองมากที่สุด รองลงมาเป็นทาวน์เฮ้าส์ 30.7% อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด อันดับสามเป็นบ้านแฝด 15.3% อยู่ในอำเภอปลวกแดงมากที่สุด ส่วนภาพรวมด้านการขายมีโครงการขายได้ 20,748 หน่วย หรือ 67 %(ต่อหน่วยทั้งหมด 30,953 หน่วย) มีมูลค่าโครงการขายได้รวม 49,698 ล้านบาท อำเภอปลวกแดงมีสัดส่วนขายได้มากที่สุด 68.6% (ต่อหน่วยทั้งหมด 13,951 หน่วย) อาคารชุดมีสัดส่วนขายได้มากที่สุด 84.9% (ต่อหน่วยทั้งหมด 4,007 หน่วย)

จังหวัดฉะเชิงเทรามีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 46 โครงการ มีจำนวนหน่วยทั้งหมด 11,039 หน่วย มีมูลค่าโครงการรวม 32,911 ล้านบาท เป็นบ้านจัดสรร 10,432 หน่วย (ลดลงเล็กน้อยจากปี 2559 ที่มี 10,457 หน่วย) เป็นอาคารชุด 607หน่วย (ลดลงจากปี 2559 ที่มี 1,308 หน่วย) ในจำนวนดังกล่าวมีจำนวนหน่วยอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุด 60% โดยมีโครงการเปิดขายใหม่ในปี 2560 มีเพียง 1 โครงการ เป็นบ้านจัดสรร โดยมีจำนวน 80 หน่วยมีมูลค่าโครงการรวม 182 ล้านบาท มีหน่วยที่อยู่อาศัยในผังของโครงการของผู้ประกอบการซึ่งอยู่ในระหว่างการขายทั้งสิ้นประมาณ 11,039 หน่วย แบ่งเป็นหน่วยบ้านจัดสรรประมาณ 10,432 หน่วย อาคารชุดประมาณ 1,308 หน่วย จากจำนวนหน่วยในผังโครงการทั้งหมด เป็นประเภททาวน์เฮ้าส์มากที่สุด 36.6% รองลงมาเป็นบ้านเดี่ยว 33.8% อันดับสามเป็นบ้านแฝด 21.4% ซึ่งทั้งหมดอยู่ในอำเภอเมืองฉะเชิงเทรามากที่สุด

http://www.bangkokbiznews.com


พบดีลซื้อขายที่ดินสูงสุดไตรมาสแรกปี 61 ! ขณะตลาดอสังหาฯ ยังโตต่อเนื่อง

พบดีลซื้อขายที่ดินสูงสุดไตรมาสแรกปี 61 ! ขณะตลาดอสังหาฯ ยังโตต่อเนื่อง

ผ่านไปไตรมาสแรกปี 61 ตลาดอสังหาฯ ยังส่อแววสดใสอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้ประกอบอสังหาฯ จะพบต้นทุนราคาที่ดินสูงขึ้น แต่ยังพบดีลการซื้อขายที่ดินมูลค่าหลักพันล้าน สูงสุดในไตรมาสนี้ โดยที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯ โซนCBD ยังคงมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ของปี 60 และคาดว่าจะคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปตลอดปี

ตลาดอสังหาฯ ปี 61 ส่อแววสดใส
จากรายงานภาพรวมตลาดอสังหาฯ ของ Edmund Tie & Company Research เผยว่า ด้วยสภาพเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 60 โดยสังเกตได้จากตัวเลข GDP ที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 3.9% เป็น 4.0% ในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา แม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่เปรียบเสมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าในปีนี้ตลาดอสังหาฯ น่าจะส่อแววสดใส เนื่องจากช่วงต้นปี 2561 ภาครัฐมีความชัดเจนในการลงทุนแผนพัฒนาโครงการอย่างชัดเจน อีกทั้งยังได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและการจ้างงาน ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กลายเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐกิจมีการเติบโต อีกทั้งแผนการพัฒนาเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นั้นมีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น ทั้งโครงการขยายเส้นทางมอเตอร์เวย์ให้เชื่อมต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับจังหวัดต่างๆ ของภาคตะวันออก รวมถึงแผนพัฒนาในอนาคตกับการสร้างรถไฟเชื่อมต่อ 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา และโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่าตลาดอสังหาฯ ทั้งในกรุงเทพฯ และโซนภาคตะวันออกนั้นน่าจะได้รับแรงหนุนให้โตขึ้นกว่าปี 60

พบการซื้อขายที่ดินย่านรามคำแหง มูลค่าสูงสุดไตรมาส 1ปี 60

               พบการซื้อขายที่ดินย่านรามคำแหง มูลค่าสูงสุดไตรมาส 1ปี 61

ไตรมาสแรกปี 61 พบดีลการซื้อที่ดินมูลค่าสูง
ในช่วงไตรมาสแรกของปี 61 เตรียมพบกับข้อตกลงการทุนที่มีมูลค่าสูงแห่งปี นั้นคือบริษัท เอพี เอ็มอี 6 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของผู้ประกอบการอสังหาฯ รายใหญ่ของเมืองไทย อย่างบริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด มหาชน เข้าซื้อที่ดิน 3 ไร่ 1 งาน 59.9 ตร.ว. ของบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) โดยที่ดินผืนนี้มีมูลค่าสูงถึง 2.57 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นดีลการซื้อที่ดินเพื่อลงทุนใหญ่ที่สุดในไตรมาส 1 ของปี 2561 ทั้งนี้ยังคงต้องติดตามต่อไปว่าที่ดินผืนดังกล่าว จะถูกพัฒนาเป็นโครงการอสังหาฯ รูปแบบใด และจะมีมูลค่าสูงตามตลาดที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวหรือไม่

อัตราค่าเช่าคอนโดฯ – อาคารสำนักงานยังคงต่อต่อเนื่อง
ตลาดอสังหาฯ รูปแบบที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯ ในย่าน CBD ซึ่งเป็นที่นิยมของนักลงทุน ยังคงมีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 81% สูงกว่าไตรมาส 4 ปี 2560 อยู่ที่ 70% โดยราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นเป็น 349,206 บาท/ตร.ม. ขณะที่ตลาดอาคารสำนักงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 61 ยังไม่มีโครงการเปิดใหม่ แต่ขณะเดียวกันค่าเช่าโดยเฉลี่ยของสำนักงานเกรด A ในโซน CBD เพิ่มขึ้นต่อไตรมาสอยู่ที่ 820 บาท/ตร.ม./เดือน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 60

อย่างไรก็ตามตลาดอสังหาฯ ในปี 61 นี้ ภาคเอกชนยังคงมีแนวโน้มเข้ามาลงทุนในตลาดมากขึ้น หลังจากชะลอตัวไปในช่วงปี 2560 และโซนทำเลที่มีศักยภาพของการเติบโตอย่าง CBD ยังได้รับความสนใจในกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับต้นทุนปัจจัยราคาที่ดินสูงก็ตาม

https://www.ddproperty.com


ชงนายกฯ 14 ข้ออุ้ม ‘20.8ล้านราย’ แรงงานนอกระบบ

สำนักงานสถิติฯ เผยจำนวนแรงงานนอกระบบ 55.2% หรือ20.8ล้านคน ขาดสวัสดิการคุ้มครอง-หลักประกันทางสังคม ชี้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศมากถึงปีละ 2 ล้านล้านบาท แต่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ วอนรัฐบาลเห็นความสำคัญเท่าในระบบ

สำนักงานสถิติฯ เผยจำนวนแรงงานนอกระบบ 55.2% หรือ20.8ล้านคน ขาดสวัสดิการคุ้มครอง-หลักประกันทางสังคม ชี้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศมากถึงปีละ 2 ล้านล้านบาท แต่ได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ วอนรัฐบาลเห็นความสำคัญเท่าในระบบ ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างแรงงาน พร้อมขอเข้าม.39 ด้านประกันสังคมประกาศ ‘คืนสภาพ’ ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพ 7.7 แสนคน

วานนี้ (30เม.ย.) นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวในงาน “เวทีสัมมนาเพื่อเปิดสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย” ว่า แรงงานนอกระบบมีสัดส่วนมากเกินกว่าครึ่งของผู้มีทำงานทั้งหมด และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2560 พบว่าในจำนวนผู้มีงานทำ 37.7 ล้านคน เป็นแรงงานนอกระบบหรือผู้ทำงานไม่ได้รับความคุ้มครองหรือไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงาน 55.2% หรือ 20.8 ล้านคน และที่เหลือเป็นแรงงานในระบบ 44.8% หรือ 16.9 ล้านคน ในขณะนี้สภาพปัญหาของแรงงานนอกระบบ คือ เรื่องค่าตอบแทนไม่เป็นธรรม ชั่วโมงการทำงาน งานหนัก

ยื่น 5 ข้อดูแลแรงงานนอกระบบ

นางสุจิน รุ่งสว่าง ประธานสมาพันธ์ศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แรงงานนอกระบบได้สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ประเทศมากถึงปีละ 2 ล้านล้านบาท ต้องการให้รัฐดูแลสวัสดิการ โดยประกาศใช้ ร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการแรงงานนอกระบบ และได้ประกาศเจตนารมณ์ รวม 5 ข้อ คือ 1.จะร่วมสร้างและพัฒนาขบวนการแรงงานนอกระบบ ที่ครอบคลุมแรงงานทุกสาขาอาชีพ โดยเน้นความมีเอกภาพ เป็นอิสระ และมีประสิทธิภาพในการทำงาน 2.จะร่วมพัฒนาศักยภาพผู้นำ กลุ่ม หรือเครือข่ายแรงงานนอกระบบ พัฒนาด้านอาชีพให้มีความสามารถในการจัดการตนเอง 3.จะร่วมสร้างแนวร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อเชื่อมโยงกับขบวนการทางสังคม และขบวนการแรงงานสากล

4. จะร่วมรณรงค์และผลักดันให้มีการพัฒนานโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สุขภาพ สวัสดิการทางสังคม ปกป้องคุ้มครองสิทธิของแรงงานนอกระบบให้สอดคล้องกับบริบทสังคมและเศรษฐกิจ 5. จะร่วมสร้างกระบวนการทางการเมืองของแรงงานนอกระบบที่ส่งผลต่อการแก้ปัญหาคุณภาพชีวิต สร้างขบวนการทางสังคมที่เป็นประชาธิปไตย เสมอภาคและเป็นธรรม

http://www.bangkokbiznews.com


ค่าบาท ‘อ่อนค่า’ รอผลประชุมเฟดคืนนี้

บาทเปิดตลาดเช้านี้อ่อนค่า “31.69บาทต่อดอลลาร์” คาดผลประชุมเฟดในคืนนี้จะทำให้บาทอ่อนค่าลงไปอีก

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.69บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 31.54 บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ภาพรวมเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว สหรัฐยืดระยะเวลาการพิจารณามาตรการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของยุโรปต่อไปอีกหนึ่งเดือน ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing) ปรับตัวลงเล็กน้อยไปที่ 57.3จุด แต่ยังถือว่าขยายตัวจากราคาสินค้าที่มีทิศทางดีขึ้น

ในฝั่งของตลาดการเงิน บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10ปี กลับตัวขึ้นมาที่ 2.97% อีกครั้ง ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นชี้ว่าตลาดเชื่อว่าบอนด์ยิลด์ปรับตัวขึ้นได้ต่อ แต่ราคาน้ำมันที่ย่อตัวลงดึงให้บอนด์ยิลด์ไม่ปรับตัวสูงขึ้นมาก เราเชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่จับตาไปที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในคืนวันนี้ ขณะที่ภาพรวมเงินเฟ้อทั่วโลกยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันจะส่งผลให้เฟดพร้อมที่ใช้นโยบายการเงินเข้มงวดขึ้น ซึ่งจะดันให้บอนด์ยิลด์และค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าได้ต่อ

ทางด้านสกุลเงินเอเชียและค่าเงินบาท ได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่าและสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่ดูดีขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินต่างๆเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เรามองว่า ผลการประชุมเฟดในคืนนี้จะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงอีก เช่นเดียวกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในคืนวันศุกร์ที่น่าจะเป็นบวกต่อค่าเงินดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 31.63 – 31.73 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


ติดต่อด่วน! สปส.คืนสภาพผู้ประกันตน ม.39

ประกันสังคม ประกาศคืนสภาพผู้ประกันตน ม.39 ที่สิ้นสภาพ แนะผู้ประกันตนติดต่อเช็คสิทธิตนเองด่วน ก่อนส่งเงินสมทบเพื่อคืนสภาพ ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 19 เม.ย.62

สปส. ร่อนหนังสือแจ้งผู้ประกันตนที่อยู่ในข่ายที่สิ้นสภาพแล้ว 7.7 แสนคน แนะผู้ประกันตนรีบเช็คสิทธิตนเองก่อนส่งเงินสมทบ เพื่อคืนสภาพ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 19 เม.ย.62

ประกันสังคม แจ้งผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพ ขณะนี้ประกาศคืนสภาพแล้ว เลขาธิการ สปส. เผย ร่อนหนังสือแจ้งผู้ประกันตนที่อยู่ในข่ายที่สิ้นสภาพแล้ว 7.7 แสนคน แนะผู้ประกันตนรีบเช็คสิทธิตนเองก่อนส่งเงินสมทบ เพื่อคืนสภาพได้ที่ www.sso.go.th สายด่วน 1506 บริการ 24 ชั่วโมง/สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 19 เม.ย. 62

นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง การดำเนินการคืนสภาพผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน ได้กลับเข้าสู่ระบบประกันสังคมอีกครั้ง ว่า พระราชบัญญัติการกลับเป็นผู้ประกันตน พ.ศ.2561 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2561 โดยตัวเลขล่าสุดมีผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพ จำนวน 777,228 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 26 เม.ย.61) อยู่ในข่ายได้รับการคืนสภาพให้กลับเป็นผู้ประกันตนเช่นเดิม

สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 กลุ่มดังกล่าว สามารถตรวจสอบสิทธิการ คืนสภาพก่อนยื่นส่งเงินสมทบได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรสายด่วน 1506 บริการ 24 ชั่วโมง หรือติดต่อที่ สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ

อย่างไรก็ดี สำนักงานประกันสังคม ได้มีหนังสือแจ้งเรื่องการกลับเป็นผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพไปแล้ว โดยผู้ประกันตน มาตรา 39 สามารถยื่นคำขอได้ ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ / จังหวัด / สาขาทุกแห่ง หรือทางไปรษณีย์ (แนบแบบ สปส. 1-20/1) หรือทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 19 เมษายน 2562

ทั้งนี้ ผู้ประกันตนจะต้องชำระเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้กลับเป็นผู้ประกันตน หากผู้ประกันตนประสงค์ชำระเงินสมทบโดยวิธีหัก ผ่านบัญชีธนาคารให้แนบสำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่มีชื่อและเลขที่บัญชี มาติดต่อได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ

http://www.bangkokbiznews.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 02/05/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,550.00 19,650.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,266.00 19,192.56 20,150.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,139.40 17,273.30 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 570.00 8,641.20 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 443.00 6,715.88 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,312.00 19,889.92 n/a
 

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  02/05/2561


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
28.95
28.95
28.95
28.95
28.95
28.95
28.95
28.95
28.95
28.95
แก๊สโซฮอล E-20
26.44
26.44
26.44
26.44
26.44
26.44
26.44
26.44
26.44
แก๊สโซฮอล E-85 20.84 20.84 20.84 20.84
แก๊สโซฮอล 91 28.68 28.68 28.68 28.68 28.68 28.68 28.68 28.68 28.68 28.68
เบนซิน 95 36.06 36.51 36.56 36.06 36.06 36.06
ดีเซลหมุนเร็ว 28.29 28.29 28.29 28.29 28.29 28.29 28.29 28.29 28.29 28.29
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.29 32.16 32.16 32.16 32.16
มีผลตั้งแต่ 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00 01 May 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า