สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2561

บิ๊กคิวเฮ้าส์ชี้คอนโดเสี่ยงกลางเมืองล้น 

คิวเฮ้าส์ชี้ตลาดคอนโด เสี่ยงล้นตลาด แนะขับเคลื่อนธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มบิ๊กดาต้าลดต้นทุนพัฒนาโครงการ

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะโครงการแนวราบนั้นยังไปได้ดี แต่ตลาดคอนโดนั้นยังน่าเป็นห่วงที่จะเสี่ยงเกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลาย โดยเฉพาะในแนวถนนสุขุมวิทซึ่งระดับราคาที่ผู้บริโภคจะซื้อได้อยู่ที่ 2-3 ล้านบาท/ยูนิต ขณะที่ราคาขายส่วนใหญ่ขยับขึ้นไปมากกว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“คอนโดมิเนียมแนวถนนสุขุมวิทและแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากยูนิตในโครงการยังมีเหลือขายค่อนข้างมาก การทำตลาดของผู้ประกอบการในช่วงเวลานี้นอกจากจะจัดโปรโมชั่นแล้ว ยังพยายามนำโครงการออกไปขายต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าชาวจีน แต่ก็ต้องดูกันว่าการโอนโครงการจริงจะเป็นเช่นไร” นายชัชชาติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบิ๊กดาต้าเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก ซึ่งหากผู้ประกอบการอสังหาฯ นำมาใช้จะทำให้รู้ว่าแนวทางการพัฒนาอสังหาฯ รูปแบบ ระดับราคา ทำเลจะตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าและช่วยลดต้นทุนด้านการตลาด โดยเฉพาะงบการตลาดจากเดิมที่เคยใช้ 4-5% ปัจจุบันเหลือเพียง 2-3%

นายอนันต์ อัศวโภคิน อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กล่าวว่า ข้อมูลบิ๊กดาต้ามีส่วนสำคัญมาก จะเห็นได้ว่าในตลาดอเมริกาได้มีการนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ไม่ต่ำกว่า 20 ปีแล้ว ทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และสามารถดูราคาอสังหาฯ ย้อนหลังได้

ที่มา : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์


อสังหาฯพื้นที่อีอีซีคึกต่อเนื่องโซนเซ็นทรัลระยอง ที่ดินราคาพุ่ง เอสซีฯ-พฤกษา บุกแปดริ้ว 

อสังหาฯอีอีซียังคึกคักที่แปดริ้วค่ายเอสซีแอสเสทบุกพื้นที่โรบินสัน ส่วนพฤกษารุกโซนบางประกง จับตาที่ดินระยองกว่า 10 ไร่โซนเซ็นทรัลราคาแตะ 500 ล้านบาท ขณะที่บีทีเอสเปิดทางบิ๊กรับเหมาเสริมทัพโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เปิด 2 แพ็คเกจให้เลือกทั้งร่วมลงทุนและซับคอนแทรค เริ่มเห็นภาพความชัดเจนของการร่วมทุน แข่งประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา โดยเฉพาะการรวมกลุ่มของบริษัทรับเหมาชั้นนำของไทยและการลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่จ.ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ว่ามีความตื่นตัวตามกระแสการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออกหรือไม่

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ยังเปิดกว้างรับบริษัทรับเหมาที่สนใจเข้ามาร่วมทีมกับบีทีเอสเพื่อประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างการเปิดประมูลแม้ว่าจะมีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอน์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) เป็นหุ้นส่วนร่วมลงทุน อยู่แล้วก็ตามเนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ จึงเปิดกว้างรับบริษัทรับเหมารายอื่นๆ เข้ามา เพิ่มได้อีกหากสนใจร่วมทีมกับบีทีเอส

“ปัจจุบันยังผนึกกันระหว่างบีทีเอส, ซิโน-ไทย และราชบุรีโฮลดิ้ง หากบริษัทสนใจ ได้แบ่งเป็น 2 แพ็คเกจคือ 1.การร่วมลงทุนกับ บีทีเอส หรือ 2.การเข้ามาร่วมเป็นซับคอนแทรครับงานก่อสร้างไปดำเนินการ โดยสามารถหารือกับบีทีเอสและซิโน-ไทยฯได้โดยตรง”

บิ๊กอสังหาฯลงพื้นที่ชิงทำเลทอง

ด้านแหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์จ.ระยองรายหนึ่งกล่าวว่า ทราบว่าเมื่อ วันที่ 20 ก.ค. 2561 มีคณะของบีทีเอส ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ความเหมาะสมที่จะสามารถพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรอง ในพื้นที่เมืองระยอง พบว่ามีหลายพื้นที่เหมาะสมจะนำไปพัฒนาเชิงพาณิชย์ได้ นอกจากนั้นยังมีการติดต่อกลุ่มทุนเหมราชพัฒนาที่ดินเพื่อชักชวนเข้ามาร่วมลงทุนในครั้งนี้อีกด้วย

“ที่ดินแปลงเซ็นทรัลสามารถออกแบบมาสเตอร์แพลนพัฒนาที่ดินได้เนื่องจากเป็น แปลงใหม่ของจ.ระยอง ส่วนโซนเทพบันเทิงขนาดพื้นที่ประมาณ 7 ไร่น่าสนใจ แต่ยังเห็นว่ามีพื้นที่ไม่กว้างมากพอ ส่วนแปลงใหม่ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลระยองประมาณ 13 ไร่ๆ ละ ประมาณ 30 ล้านบาทนั้นยังมีลุ้น แต่ราคาที่ดินสูงเกือบ 500 ล้านบาทอีกทั้งยังมีที่ดินด้านตรงข้ามสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองประมาณ 200 ไร่ยังเป็นพื้นที่มีปัญหาการทับพื้นที่คลอง”

ประการหนึ่งนั้นผู้ประกอบการในพื้นที่ยังไม่เชื่อมั่นอีอีซีว่ามีความแน่นอนหรือไม่ คงต้องรอให้เปิดบริการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ทั้งนี้หากสามารถนำรถเมล์โดยสารทันสมัยรูปแบบสมาร์ทบัสที่บริษัท รีเจียนนอล ทรานซิท โคเปอร์เรชั่น (RTC) ไปให้บริการจะเห็นความชัดเจนเกิดขึ้นตามมาแน่ๆ เนื่องจากจะมีการพัฒนาศูนย์เศรษฐกิจให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับโครงการได้

“เอสซีฯ-พฤกษา”บุกปักธงแปดริ้ว

ด้านนายกำพล เลิศเกียรติดำรงค์ รองประธานหอการค้าจังหวัดฉะเชิงเทรา และเจ้าของโครงการบ้านรุ่งอรุณ กล่าวว่า การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ฉะเชิงเทรา ล่าสุดมีกลุ่มเอสซีแอสเสทรุกในพื้นที่ ย่านศูนย์การค้าโรบินสัน สาขาฉะเชิงเทรา เช่นเดียวกับกลุ่มพฤกษารุกในพื้นที่ โซนบางปะกง ส่วนรายอื่นนั้นยังไม่มี ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทุนจีน รุกในพื้นที่ก็ยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างใด

ข้อมูลของสำนักงานที่ดินในพื้นที่ พบว่ามีการปรับเปลี่ยนชื่อบางแปลงเท่านั้น แต่ยังไม่ใช่แปลงใหญ่เป็นร้อยหรือพันไร่ โดยยังคงจับตาพื้นที่ที่จะนำไปก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงของการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และศูนย์ไอซีดีของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.) ว่ามีความเคลื่อนไหวด้านการจัดซื้อที่ดินหรือการเวนคืนตลอดจนการร่วมลงทุนตามที่รัฐบาลกำหนดว่า จะต้องใช้พื้นที่แปลงใหญ่ คาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในปลายปีนี้ที่จะมีการยื่น ซองประมูลของรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินนี้ว่ารายไหนจะได้รับชัยชนะ

“ยังเห็นว่ากระแสอีอีซีเป็นปัจจัยบวกสำหรับการกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจในพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา ในมุมมองภาคเอกชนยังเห็นว่าภาครัฐควรเร่งรัดนโยบายการลงทุนต่างๆ ให้เป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น ยกตัวอย่างกรณีรถไฟฟ้าหากเปิดให้บริการยังเชื่อว่ารอบสถานีจะมีการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามมาอย่างแน่นอน แม้จะประมูลในวันนี้ แต่กว่าจะเปิดให้บริการอีก 3-4 ปีเนื่องจากยังไม่มีความเชื่อมั่นว่าท้ายที่สุดแล้วยังจะ เกิดปัญหาให้ล่าช้าออกไปอีกหรือไม่ เพราะเป็นเพียงการเริ่มต้นประมูลเท่านั้นแต่ ยังไม่เปิดให้บริการ อีกทั้งยังมีลุ้นปัจจัยด้านการเมืองในปีหน้าที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ เอกชนจึงยังไม่เคลื่อนไหวในเรื่องการลงทุนมากนัก”

สำหรับการปรับเพิ่มราคาที่ดินนั้น ยังมองว่ากรณีนี้เป็นกลไกทางการตลาด หากมีกระแสก็จะมีการปรับเพิ่มบ้าง แต่รูปธรรม ของการพัฒนายังไม่เห็นภาพชัดเจน แม้กระทั่ง ทำเลที่รัฐจะพัฒนารูปแบบสมาร์ทซิตี้ ยังไม่ได้กำหนดชัดเจน นักลงทุนจึงไม่เร่งขับเคลื่อนการลงทุน ซึ่งเป็นไปได้ว่า จะเป็นห่วงเรื่องการปรับเพิ่มราคาที่ดิน เรื่องผังเมืองที่ยังไม่ระบุชัด ทั้งๆ ที่น่าจะ ตอบโจทย์เนื่องจากเป็นพื้นที่สีเขียวกว่า 90% ที่มีข้อจำกัดด้านกฎหมายด้านการพัฒนาจึงมีอุปสรรคด้านการพัฒนาพอสมควร

“โดยพื้นที่ที่น่าจับตาว่าจะมีการพัฒนาเชิงพาณิชย์นั้นยังต้องลุ้นการจัดระบบผังเมืองของทั้งจ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรีและระยองคาดว่า จะมีการนำเสนอให้ใช้มาตรา 44 สำหรับการจัดระบบผังเมืองในพื้นที่อีอีซี ดังนั้นหากนักลงทุนจะลงทุนในพื้นที่นับ 1,000 หรือ 1 หมื่นไร่แต่ผังเมืองยังไม่ชัดเจนถามว่า ใครจะกล้าลงทุน ดังนั้นจึงอยากให้รัฐ เร่งแสดงความชัดเจนว่าพื้นที่ใดจะพัฒนาได้บ้าง โซนบ้านโพธิ์จะพัฒนาสมาร์ทซิตี้ จริงหรือไม่ จะกำหนดให้โซนบ้านโพธิ์ เป็นพื้นที่สีเหลืองหรือไม่ เช่นเดียวกับ โซนแปลงยาว หรือบางประกง แต่ในมุมมองส่วนตัวแล้วยังเห็นว่าพื้นที่โซนบ้านโพธิ์ มีความเหมาะสมมากกว่า ส่วนแปลงยาวยังต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอีกมากมาย”

จากการลงสำรวจพื้นที่ของผู้สื่อข่าว พบว่ากลุ่มทุนที่เข้าไปสำรวจพื้นที่ดินและพัฒนาโครงการไปบ้างแล้ว 3-4 รายจากส่วนกลางโดยแปลงใหญ่โซนแถวบ้านโพธิ์ นอกจากกลุ่มพฤกษา และกลุ่มเอสซีแอสเสท ที่มาตามจังหวะการลงทุน ส่วนอีก 2 ราย ที่ขอยังไม่เปิดเผยชื่อนั้นพบว่าได้มีการซื้อ-ขาย เปลี่ยนมือไปแล้วจำนวน 300 ไร่ โดย โซนแปลงยาว ราคาประมาณ 1 ล้านบาทต่อไร่ ปัจจุบันพบว่าราคาพุ่ง 2-3 ล้านบาท แล้วแต่โลเคชั่นซึ่งปรับมาจาก 2 ปีที่ผ่านมากว่า 30% บางแปลงราคาราว 6 แสนบาท เพิ่มเป็นกว่า 1 ล้านบาท ราคาประเมินห่างกันหลายเท่าตัว ราคาตลาดกับราคาขายจริงยังห่างกันราว 20% ยังคงอ้างอิงแต่ละทำเล ปัจจุบันยังเงียบ ไม่คึกคักตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ราคาพลังงานทะยานไม่หยุด ดันเงินเฟ้อก.ค. โต 1.46% ต่อเนื่อง 13 เดือน ทั้งปีคาดแตะ 1.2%

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรือ อัตราเงินเฟ้อ ในช่วงเดือนก.ค. 2561 พบว่า อัตราเงินเฟ้อ มีการขยายตัวสูงขึ้น 1.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของหมวดพลังงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 20 ที่ 10.18% ในขณะที่หมวดอาหารสดหดตัวลงเล็กน้อยที่ 1.6%

อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 1.04% โดยอัตราเงินเฟ้อที่ปรับเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่ขยายตัวต่อเนื่องและดัชนีราคาผู้ผลิต

ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะขยายตัวอยู่ที่ 1.2% ซึ่งเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นตามปัจจัยต้นทุนการผลิตที่มีแนวโน้มความต้องการสูงขึ้นจากมาตรการกระตุ้นการลงทุนและการใช้จ่ายภาครัฐรวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและตลาดโลก ส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยจะเคลื่อนไหวในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ 0.8-1.6% หรือ ค่าเฉลี่ยที่ 1.2%

“การเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าสำคัญ ที่ส่งผลให้เงินเฟ้อเดือนก.ค.ปี 2561 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.05% มิ.ย. 2561 ลดลง 0.09% เนื่องจากหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ลดลง 0.33% จากการลดลงของกลุ่มอาหารสด 0.97% ผักและผลไม้สดลดลง 1.80% โดยเฉพาะผักสดลดลง 5.75% แตงกวา ผักคะน้า ผักชี ถั่วฝักยาว มะนาวต้นหอม เนื่องจากภูมิอากาศเอื้ออำนวยต่อการเจริญเติบโต นอกจากนี้ ยังมีการปรับลดลงของ เนื้อสุกร ไก่ย่าง ปลาดุก กุ้งนาง ส่งผลให้เนื้อสัตว์ เป็ดไก่และสัตว์น้ำลดลง 1.13% หมวดไข่และผลิตภัณฑ์นม ลดลง 0.42% ไข่ไก่ ไข่เป็ด นมสด นมเปรี้ยว นมถั่วเหลือง เป็นต้น”

ในขณะที่เครื่องประกอบอาหาร ดัชนีราคาสูงขึ้น 0.95% ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง สูงขึ้น 0.37% ผลไม้สดสูงขึ้น 1.43% ส้มเขียวหวาน เงาะ มะม่วง ทุเรียน ฝรั่ง ลองกอง นอกจากนี้ อาหารบริโภค-นอกบ้านและในบ้าน สูงขึ้น 0.10% และ 0.03 หมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.10% ตามการสูงขึ้นของน้ำมันเชื้อเพลิง 0.74% จากการสูงขึ้นของน้ำมันเบนซิน 95 ดีเซลแก๊สโซฮอล์ 91, 95 และก๊าซธรรมชาติ (NGV) ส่งผลให้หมวดพาหนะการขนส่งและการสื่อสาร สูงขึ้น 0.24%

นอกจากนี้ หมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคลสูงขึ้น 0.03% แชมพู กระดาษชำระ โฟมล้างหน้าหมวดเคหสถาน สูงขึ้น 0.01% จากการสูงขึ้นของค่าเช่าบ้าน หมวดเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า สูงขึ้น 0.02% เสื้อเด็ก กางเกงเด็ก รองเท้าแตะหนังบุรุษ ขณะที่หมวดบันเทิงการอ่านและการศึกษาฯ ลดลง 0.01% ตามการลดลงของเครื่องรับโทรทัศน์สำหรับหมวดยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ไม่เปลี่ยนแปลง

ที่มา : https://www.khaosod.co.th


“หัวเว่ย” แซง “แอปเปิล” ขึ้นที่ 2 ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนป้อนตลาดโลก “ซัมซุง” ยังแชมป์

เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัท
หัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมสัญชาติจีน ขึ้นแท่นผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก แซงหน้าบริษัท แอปเปิลของสหรัฐที่เคยรั้งตำแหน่งนี้ จากผลสำรวจของอินเตอร์เนชั่นแนล ดาต้า คอร์ปอเรชั่น(ไอดีซี) ผู้ให้บริการข้อมูลทางการตลาดที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐ เผยแพร่เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม โดยบริษัทซัมซุง ผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเลคทรอนิคส์ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ยังคงรั้งอันดับ 1 ผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนป้อนสู่ตลาดโลกมากที่สุด

จากข้อมูลของไอดีซีระบุว่า ในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซัมซุงมียอดการขนส่งสินค้าที่เป็นชุดอุปกรณ์สมาร์ทโฟนจำนวน 71.5 ล้านเครื่อง และหัวเว่ยแซงแอปเปิลขึ้นมาโดยมีการขนส่งชุดอุปกรณ์สมาร์ทโฟน 54.2 ล้านเครื่อง ส่วนแอปเปิลมียอดขนส่งโทรศัพท์ไอโฟนจำนวน 41.3 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นสัดส่วนในตลาดโลกร้อยละ 12.1 เมื่อเทียบกับซัมซุงมีอยู่ที่ร้อยละ 20.9 และหัวเว่ยอยู่ที่ร้อยละ 15.8 ถือเป็นครั้งแรกนับจากต้นปีค.ศ.2010 ที่แอปเปิลไม่ได้อยู่ใน 2 อันดับต้นของการครองตลาดสมาร์ทโฟนโลก

นายไรอัน รีธ รองประธานของไอดีซี กล่าวว่า การเติบโตอย่างต่อเนื่องของหัวเว่ยเป็นสิ่งที่น่าประทับใจ ที่อย่างน้อยกล่าวได้ว่าหัวเว่ยมีความสามารถที่เจาะเข้าสู่ตลาดได้จากแบรนด์ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

ไอดีซียังระบุว่า ไอโฟนยังทำตลาดได้ดี โดย ไอโฟนเท็น หรือ ไอโฟน 10 ที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปสุดของแอปเปิล มียอดขายจำนวนมากในตลาด คาดว่าแอปเปิลจะกลับมาครองการควบคุมตลาดได้อีกครั้งเมื่อปล่อยไอโฟนรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้

ทั้งนี้นายรีธยังมองว่า ซัมซุง แอปเปิล และ หัวเว่ย ยังคงเป็นคู่แข่งขันหลักเมื่อพูดถึงการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนระดับไฮเอ็นด์ ที่มีมูลค่าสูงคือตั้งแต่ 700 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป (กว่า 23,000 บาท)

ที่มา : https://www.matichon.co.th

“โรคหัวใจ” ภัยเงียบในทุกวัย

“โรคหัวใจ” หลายคนจะเข้าใจว่า เป็นโรคของคนวัยกลางคนและผู้สูงอายุ

ส่วนผู้ที่มีอายุน้อยมักเข้า ใจว่าโรคหัวใจนั้นเป็นโรคที่ไกลตัว แต่ข้อเท็จจริงแล้ว โรคหัวใจสามารถเกิดขึ้นกับคนในทุกเพศทุกวัย ทุกช่วงอายุ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุนำไปสู่การเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนไทยและทั่วโลก

นพ.สันติชัย กาลเนาวกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์ศัลยกรรมทรวงอก ศูนย์รักษาโรคหัวใจ และหลอดเลือดครบวงจร โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ กล่าวถึงแนวโน้มของโรคหัวใจที่เกิดกับคนไทยว่า ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ซึ่งมีสาเหตุจากภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบตัน

ในอดีตโรคนี้พบได้มากในผู้ป่วยที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันกลับตรวจพบโรคนี้ในผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสาเหตุหลักน่าจะเกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น บุหรี่, สุรา, ยาเสพติด ร่วมกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันที่มีศักยภาพในการตรวจวินิจฉัยได้ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น

“พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด อาหารยอดฮิตเลย ก็จะเป็นกลุ่มบุฟเฟต์-หมูกระทะ ซึ่งมักจะรับประทานเป็นปริมาณมากเพื่อความคุ้มค่า หรือการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงมากเกินพอดี ทำให้เกิดโรคไขมันในเลือดสูง เป็นเหตุนำไปสู่ภาวะเส้นเลือดหัวใจตีบตันและโรคกล้ามเนื้อหัวใจ ขาดเลือดได้ในที่สุด

” นพ.สันติชัยกล่าว

นพ.สันติชัยกล่าวต่อว่า ในปัจจุบันการตรวจวินิจฉัยและการรักษาโรคหัวใจในประเทศไทย ได้พัฒนารุดหน้าอย่างมาก จนได้รับการยอมรับว่ามีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล ศูนย์รักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดครบวงจร โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์ ก็มีความพร้อมในการให้บริการตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหัวใจทุกชนิด โดยทีมแพทย์เฉพาะทางด้านโรคหัวใจ และเครื่องมือที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ภายใต้การรับรองมาตรฐาน คุณภาพระดับโลก JCI

นพ.สันติชัยกล่าวด้วยว่า แน่นอนว่า การป้องกันนั้นง่ายกว่าการรักษามาก เพียงแค่ปรับพฤติกรรมการบริโภค และการดำเนินชีวิต ลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโรคลง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่พอดี เลิกดื่มสุรา เลิกสูบบุรี่และยาเสพติดต่างๆ อีกทั้งหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพียงเท่านี้ก็จะมีสุขภาพที่ดีและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้แล้ว”

ที่มา : https://www.khaosod.co.th


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 2/08/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,100.00 19,200.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,237.00 18,752.92 19,700.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,113.30 16,877.63 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 557.00 8,444.12 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 433.00 6,564.28 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,282.00 19,435.12 n/a

 

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  2/08/2561

 

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
30.05
30.05
30.25
30.05
30.05
30.05
30.05
30.05
30.05
30.05
แก๊สโซฮอล E-20
27.14
27.14
27.14
27.14
27.14
27.14
27.14
27.14
27.14
แก๊สโซฮอล E-85 21.34 21.34 21.34 21.34
แก๊สโซฮอล 91 29.78 29.78 29.98 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78 29.78
เบนซิน 95 37.16
37.61
37.66 37.26 37.26 37.26
ดีเซล
29.49
29.49
29.49
29.49
29.49
29.49
29.49
29.49
29.49
29.49
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 32.49 33.36 33.36 33.36 33.36
แก๊ส NGV 14.29
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า