สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 20 มิถุนายน 2561

คอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า BTS และ MRT แรงต่อเนื่อง

คอนโดฯ ติดรถไฟฟ้า BTS และ MRT แรงต่อเนื่อง

หากคุณกำลังมองหาที่พักอาศัย ทำเลติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้า MRT และ BTS หรืออยู่ในซอยรัศมีไม่เกิน 1 กม. จากสถานีรถไฟฟ้า แน่นอนเลยว่า คอนโดมิเนียมเป็นคำตอบที่หลายคนเลือกเป็นคำตอบแรก เพราะนอกจากจะได้ความสะดวกสบาย ยังตอบโจทย์วิถีชีวิตสไตล์คนเมืองได้เป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัย และยังสามารถทำเงินได้ในอนาคตสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อไว้เพื่อลงทุนด้วย

ก่อนอื่นดาวน์โหลดรายงาน 2 ฉบับที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในทุกย่างก้าวของการตัดสินใจเกี่ยวกับอสังหาฯ 

จากภาวะเศรษฐกิจที่มีการเติบโตที่ดีขึ้น ส่งผลให้เกิดการลงทุนทั้งจากผู้ประกอบการชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงการปรับผังเมืองในกรุงเทพฯ ที่ทำให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้มากขึ้น และยังมีปัจจัยสนับสนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐ ส่งผลให้เกิดอุปทานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่มีการขยายตัวพร้อมแนวโน้มที่สดใส อีกทั้งยังเกิดโครงการรูปแบบใหม่ เช่น โครงการมิกซ์ยูส คอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุ รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ภายในโครงการมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสในการเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ด้านทำเลที่โดดเด่นโดนใจ ยังคงอยู่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะในเส้นทางที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ทั้งรถไฟฟ้า BTS และ MRT เช่น ทำเลย่านพร้อมพงษ์ถึงทองหล่อ ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของคอนโดฯ ใหม่ระดับสูง ย่านรัชดา-พระราม 9, ย่านหลังสวน-เพลินจิต รวมถึงเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายและสายใหม่ที่จะมีขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต, รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ, รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระและช่วงหัวลำโพง-บางแค, รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี, รถไฟฟ้าสายสีเหลืองช่วงลาดพร้าว-สำโรง รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี และรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ

MAESTRO Adver_12

จริงๆ แล้วโซนราชเทวีก็ถือเป็นทำเลที่น่าจับตามองไม่น้อย เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวกด้วยสถานีรถไฟฟ้าราชเทวี

และหากใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียม ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการลงทุนในระยะยาวแล้วล่ะก็ โครงการมาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ  โครงการมาเอสโตร 03 รัชดา-พระราม 9 และโครงการมาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี คอนโดมิเนียม 3 โครงการใหม่ พร้อมเข้าอยู่ จากแบรนด์ MAESTRO RESIDENCES (มาเอสโตร เรสซิเด้นซ์) ทำเลใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS และ MRT จากบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน)
ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมระดับบน นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

อ่านรีวิวโครงการที่น่าสนใจอีกมากมายจากเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ เอสเตท 

โดยคุณสามารถสัมผัสกับทั้ง 3 โครงการใหม่อย่างใกล้ชิดได้ที่งาน “Maestro : Masterful Living” วันที่ 21-24 มิ.ย.นี้ ชั้น 1 เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมมีโครงการอื่นๆ ของมาเอสโตร เรสซิเด้นซ์ จากทุกทำเลที่อยู่ใจกลางเมือง เหมาะทั้งอยู่เองและลงทุน ที่สำคัญทุกโครงการอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้ ซึ่งคุณสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท* สำหรับการซื้อห้องของโครงการ มาเอสโตร 01 สาทร-เย็นอากาศ, มาเอสโตร 03 รัชดา–พระราม 9 และมาเอสโตร 14 สยาม-ราชเทวี ที่ https://goo.gl/JU14HH หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-116-1111

MAESTRO Bottom

https://www.ddproperty.com


2 โหรการเงินส่องคอนโด 2561 ซัพพลายใหม่ทะลัก-หมดยุคแข่งรีไฟแนนซ์ “ดอกเบี้ยขาขึ้น” ป่วนตลาดซื้อลงทุนให้เช่า

ไตรมาส 2/61 สมาคมอาคารชุดไทยเชิญกูรูวงการการเงิน 2 รายร่วมกันมองเทรนด์ตลาดที่อยู่อาศัยแนวสูงในปี 2561 พบว่าเป็นยุคดำรงอยู่อย่างเหนียวแน่นของบิ๊กแบรนด์รายใหญ่ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ประเมินได้ว่าเป็นทั้งขั้วบวกและขั้วลบในเวลาเดียวกัน
ยุคสร้างสมดุลพอร์ตรายได้
“เทอดศักดิ์ ทวีธีระธรรม” ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์เอเซียพลัส จำกัด มองภาพรวมยุคปี 2561 ดีเวลอปเปอร์มีความแข็งแกร่งใน 3 ด้านด้วยกันทั้ง “การเติบโต โครงสร้างการเงิน ต้นทุนการเงิน”
ในขณะที่ภาพการเติบโตนั้นมีการกระจุกตัวของผู้ประกอบการรายใหญ่-รายกลางที่กินส่วนแบ่งตลาดรายเล็กเยอะมาก นำไปสู่แนวโน้มเมื่อถึงจุดหนึ่งกลายเป็นภาระในการขยายมาร์เก็ตแชร์ยากขึ้นถ้ายังพึ่งรายได้จากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพียงอย่างเดียว
ดังนั้น จึงได้เห็นทิศทางการปรับตัวในการปรับโครงสร้างรายได้ไปยังแอสเสทประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะแอสเสทที่สร้างรายได้ประจำหรือรีเคอริ่ง อินคัม อาทิ กลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีการลงทุนธนาคาร โมเดิร์นเทรดวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งแบรนด์โฮมโปร มีศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21
“กลุ่มแลนด์มีกำไรปีละ 1,700 ล้านบาท สร้างรายได้ประจำหรือรายได้จากค่าเช่ามีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของรายได้รวมเมื่อรวมกับพอร์ตที่อยู่อาศัย โครงสร้างแบบนี้เป็นบัฟเฟอร์ช่วยลดความผันผวนของรายได้ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือไม่ดี”
ปี”60 แย่งลูกค้ารีไฟแนนซ์
ผู้บริหารอีกราย “ณัฐพล ลือพร้อมชัย” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ไขปริศนาตัวเลขสินเชื่อ ทำไมสินเชื่อปล่อยใหม่โต 8% แต่สินเชื่อคงค้างซึ่งควรเติบโต 10% แต่กลับโตเล็กน้อยเพียง 6%
โดยสถิติ ครึ่งปีแรก 2560 สินเชื่อปล่อยใหม่ติดลบ 9% แต่ครึ่งปีหลังพลิกกลับมาเป็นบวกถึง 26% จากเดิมคาดการณ์ทั้งปี 2560 สินเชื่อปล่อยใหม่มี 5.9 แสนล้านบาท แต่เอาเข้าจริงดีดขึ้นไปถึง 6.3 แสนล้านบาท
คำเฉลยเป็นเพราะไส้ในของปี 2560 การเติบโตของสินเชื่อปล่อยใหม่มีส่วนผสมของการทำ “รีไฟแนนซ์” กันเองระหว่างธนาคาร เหตุผลเพราะเทรนด์หนี้เสียหรือ NPL (non performing loan) เด้งกลับมาสูงสุดนับแต่วิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 ทำให้ทุกคนกลัว
เมื่อมีภาพหนี้เสียตามหลอน ทุกแบงก์จึงแข่งกันเสาะหาหนี้ดีเพื่อปล่อยสินเชื่อให้ หนึ่งในตัวเลือกง่ายสุดเร็วสุดจึงมองมาที่ลูกหนี้ดีที่อยู่ในพอร์ตคู่แข่งขัน เรียกว่าเป็น ugly truth (แย่งหนี้ดี)
“เราอยากปล่อยสินเชื่อใหม่แต่จำเป็นต้องรีไฟแนนซ์เพราะปี”60 NPL สินเชื่อที่อยู่อาศัยน่าจะกลับมาสูงสุดนับแต่วิกฤตต้มยำกุ้ง เป็นภาวะที่ดีเวลอปเปอร์ไม่พร้อม ลูกค้าไม่พร้อม แบงก์ก็ต้องหันมาดูกันเอง”
คอนโดสร้างเสร็จ-ส่งมอบทะลัก
ผู้บริหารแบงก์กรุงศรีฯ ระบุว่าสำหรับปีนี้ตลาดสินเชื่อมีความคาดหวังที่ดี ประเมินเป้าสินเชื่อภาพรวมโตได้อีก 4-7% ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 6.6-6.9 แสนล้านบาท สินเชื่อคงค้างโตสัก 6-8%
องค์ประกอบหลักในการประเมินทิศทางนี้มาจากปี 2561 ตลาดคอนโดมิเนียมมีคิวก่อสร้างแล้วเสร็จ และส่งมอบจำนวนเยอะมาก ดังนั้น เกมการแข่งขันด้านสินเชื่อจึงมุ่งเป้าไปที่การปล่อยสินเชื่อใหม่ ทดแทนการแข่งรีไฟแนนซ์ควบคู่ไปกับเศรษฐกิจมหภาคที่มีการกระจายรายได้ถึงมือรายย่อย ในต่างจังหวัดหัวเมืองสำคัญก็มีปัจจัยรายได้การท่องเที่ยวเข้ามาหนุนอีกต่างหาก
“ปัจจัยหนุนเราเห็นตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมีข่าวดีจากการเติบโตเศรษฐกิจภาพรวมที่เป็นเส้นกราฟขาขึ้น 3 ไตรมาสติดต่อกัน สำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ผลที่ตามมาคือความเชื่อมั่นผู้บริโภคในการซื้อของชิ้นใหญ่ ปกติต้องรอ 4 ไตรมาส ก็คือตกปีนี้นี่แหละ”
มุมมองแบงก์ “ดอกเบี้ยบ้านถูก”
ประเด็นน่าสนใจเป็นเรื่องภาวะดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้าน-คอนโดมิเนียมในระดับต่ำและยาวนานติดต่อกัน “ณัฐพล” เปิดมุมมองว่าดูเหมือนดอกเบี้ยบ้านถูกแล้วจะดี แต่เป็นภาพดีเพียงด้านเดียวคือในด้านผู้บริโภคในฟากนายแบงก์ย่อมมองต่างมุมออกไป
“ปัจจุบัน ดอกเบี้ยบ้านถูกขนาดนี้ 2-3% นิด ๆ (ดอกเบี้ยโปรโมชั่น 3 ปีแรก) แต่ละแบงก์รับภาระ NPL ไม่ได้มาก พูดตรง ๆ เวลาหนี้เสียมันเสียทั้งก้อน แต่รับมา 3% แล้วเป็นหนี้เสีย ต้องปล่อยสินเชื่ออีกเท่าไหร่กว่าจะมาชดเชยก้อนนี้ได้ ต้องปล่อยกู้ 20-30 เท่าเพื่อชดเชยหนี้ 1 ก้อน จึงไม่คุ้มเลย”
ภาวะสินเชื่อที่อยู่อาศัยในระดับต่ำในอีกด้านจึงเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของระบบสินเชื่อว่า ถ้าดอกเบี้ยถูกในระยะยาวเกินไปจะเปลี่ยนพฤติกรรมแบงก์ในการมอง ในการสกรีนลูกค้า
“ทิศทางปีนี้ ดีเวลอปเปอร์อยู่ในจุดที่สร้างเสร็จต้องส่งมอบยูนิตให้มากเท่าที่จะมากได้ แต่ลูกค้าได้ดอกเบี้ยถูก ซึ่งถูกเกินไปมันไม่บาลานซ์ เรา (แบงก์) ต้องมีการคัดทิ้ง สมัยก่อนลูกค้าเครดิตสีเทาอ่อน ๆ เรารับ แต่ตอนนี้เทาอ่อนก็ไม่เอา ต้องเทาจาง ๆ มาก ๆ เพราะไม่เช่นนั้นถัวกันไม่หมด”
ปัจจัยกระทบต่างชาติ-ผู้สูงวัย
สำหรับยอดสินเชื่อปล่อยใหม่ “ณัฐพล” บอกว่าตอนนี้สถาบันการเงินมีข้อกังวล 2 เทรนด์หลัก ซึ่งมีผลต่อปริมาณคำขอสินเชื่อในอนาคตโดยตรง
เทรนด์แรกคือการพึ่งสินเชื่อในประเทศ ปัจจัยกระทบมาจาก “ลูกค้าต่างชาติ” จากกระแสหันไปเน้นเปิดตลาดผู้ซื้อลูกค้าต่างชาติมากขึ้นเนื่องจากสามารถซื้อและโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมได้ในสัดส่วน 49% ในขณะที่กลุ่มนี้ซื้อด้วยเงินสดไม่ได้ใช้เงินกู้ในประเทศ ดังนั้น ตลาดคอนโดฯอาจมีการเติบโตในปีนี้ แต่ในด้านสินเชื่อไม่ได้เติบโตตามยอดขาย
“โดยเฉพาะคอนโดฯ ลักเซอรี่ เวรี่ลักเซอรี่ ลูกค้าซื้อสดทั้งนั้น ขอให้กู้ก็ไม่ยอมกู้ นี่คือสิ่งที่เรากังวลว่าตลาดคอนโดฯ ยิ่งทิ้งห่างแบงก์ไปเรื่อย ๆ”
เทรนด์ที่ 2 ในฝั่งผู้บริโภค ปัจจัยกระทบมีทั้งแนวโน้มประชากรผู้สูงวัย ทำให้คาดหมายได้ว่าคนซื้อห้องชุดลดจำนวนลงไปเรื่อย ๆ เพราะคนรุ่นใหม่ลดลง การซื้อคอนโดฯ ย่อมลดลงเช่นกัน

http://www.bkkcitismart.com


แพงไปอีก ! หนุนขึ้นค่าแท็กซี่ 10% รถติดจ่ายเพิ่ม แก้ปัญหาปัดผู้โดยสาร

 ทีดีอาร์ไอ เสนอแนวทางแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ให้ปรับค่าโดยสารเพิ่ม 10% คิดตามระยะทางร่วมกับเวลารถติด หลังพบรายได้คนขับแท็กซี่น้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำ

แท๊กซี่ ขึ้นราคา

ภาพจาก egd / Shutterstock.com

วันที่ 14 มิถุนายน 2561 กรมการขนส่งทางบกร่วมกับสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น เรื่องการพัฒนาเพื่อความปลอดภัยและคุณภาพการให้บริการของรถแท็กซี่ โดยนายสุเมธ องกิตติกุล ผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่งและโลจิสติกส์ ทีดีอาร์ไอ เสนอแนวทางแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร ว่า ควรคิดค่าโดยสารตามระยะทางที่เดินทางจริงร่วมกับเวลารถติด ส่วนค่าโดยสารเริ่มต้น 35 บาท มองว่าเหมาะสมแล้วไม่จำเป็นต้องปรับขึ้น
โดยแนวทางดังกล่าวจะทำให้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นประมาณ 10% มาจากค่าโดยสารตามระยะทาง และค่ารถติดที่เก็บ 50 สตางค์ต่อนาที เช่น หากใช้บริการแท็กซี่ระยะทาง 5 กิโลเมตร จะต้องเสียค่าโดยสารตามระยะทาง 50 บาท และถ้าช่วงนั้นมีปัญหารถติด 20 นาที ก็จะต้องเสียค่าโดยสารเพิ่มอีก 10 บาท ทำให้ผู้โดยสารต้องจ่ายเงินทั้งหมด 60 บาท เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากเป็นการเดินทางไปยังพื้นที่ที่รถไม่ติดก็จะเสียเพิ่มไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่หากเดินทางไปพื้นที่ที่รถติดก็จะทำให้ผู้ขับมีรายได้ส่วนนี้เพิ่ม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและลดปัญหาปฏิเสธผู้โดยสารได้ ซึ่งแนวทางนี้จะต้องประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้ขับรถแท็กซี่ แล้วนำมาประกอบการพิจารณาต่อไป

นายสุเมธ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันผู้ขับรถแท็กซี่มีรายได้เฉลี่ยประมาณวันละ 1,400 บาท แต่กลับมีรายจ่ายสูงถึงวันละ 1,100 บาท ทำให้มีเงินเหลือต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำราว 200-300 ต่อวัน ดังนั้น การปรับค่าโดยสารขึ้น 10% จะทำให้ผู้ขับแท็กซี่มีรายได้เพิ่มเป็นวันละ 1,600-1,800 บาท หรือประมาณ 400-500 บาทหลังหักต้นทุนแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสม

https://money.kapook.com


บาทเปิดตลาดเช้านี้แข็งค่า 32.71 บาทต่อดอลลาร์

ตลาดเริ่มสงบหลังปรับตัวลงแรงวานนี้ คาด “กนง.” คงดอกเบี้ย 1.5% บาทแกว่งตัวกรอบแคบลง

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.71 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 32.82 บาทต่อดอลลาร์

ในคืนที่ผ่านมาตลาดการเงินยังคงปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) และนักลงทุนมีความระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนเริ่มทวีความรุนแรง ดัชนี Dow Jones ของสหรัฐปรับตัวลงถึง 1.4% ขณะที่บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10ปีก็ปรับตัวลงมาที่ระดับ 2.90% ด้วย

สำหรับวันนี้เชื่อว่าตลาดจะเริ่มสงบลงบ้างหลังปรับตัวลงแรงไปเมื่อวันก่อนเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องสงครามการค้า ขณะที่นักลงทุนในไทยจะจับตาไปที่การประชุมกนง.ในวันนี้ที่คาดว่าจะ “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% เช่นเดิม แต่ตลาดบอนด์ก็อยู่ในโหมดระมัดระวังตัวเพราะมีความเป็นไปได้ที่กนง.จะส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

เราเชื่อว่าความเสี่ยงสงครามการค้า นโยบายการเงินที่เข้มงวดของเฟด และราคาน้ำมันที่สูง เป็นสามปัจจัยที่ส่งผลให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าต่อ และมองว่าเงินบาทอาจอ่อนค่าไปที่ระดับ 33.20 บาทในช่วงไตรมาสที่สามปีนี้ ขณะที่เงินดอลลาร์น่าจะอ่อนค่ากลับลงมาจากเศรษฐกิจในประเทศและการเมืองที่ผันผวนในช่วงปลายปี มองดอลลาร์สิ้นปีที่ระดับ 32.50 บาท

สำหรับเงินบาทช่วงต้นสัปดาห์อ่อนค่าเร็วเมื่อเทียบกับสกุลเงินเพื่อนบ้าน เราเชื่อว่าปัจจัยหลักมาจากแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง หุ้นไทยยังไม่น่าสนใจถ้าการค้าโลกมีโอกาสชะลอตัว ขณะที่บอนด์ยิลด์ไทยก็มีโอกาสปรับตัวขึ้นถ้าเงินบาทอ่อนค่าต่อ เชื่อว่ามีโอกาสแกว่งตัวในกรอบแคบลงในวันนี้ มองกรอบเงินบาทระหว่างวันที่ระดับ 32.68-32.78 บาทต่อดอลลาร์

http://www.bangkokbiznews.com


หลักจิตวิทยาโน้มน้าวใจคนให้ได้ 100%

 

โน้มน้าวใจ2 (1)-01

              การจะทำให้ผู้อื่นคล้อยตามได้ไม่ใช่เรื่องยาก มาดูเคล็ดลับกับการทำให้ผู้อื่นคล้อยตามแบบห้ามใจไม่อยู่ ให้ตกปากรับคำเราได้อย่างง่ายดาย แล้วชีวิตจะง่ายขึ้นแค่ไหน ต้องลองเลย

เทคนิกแรก ตามคนหมู่มาก เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่อยู่รวมกันเราจึงมองเเละทำตามคนส่วนใหญ่เเละนำมาประกอบการตัดสินใจจากการทดลองมองท้องฟ้า ถ้ามีคนมอง1 คนคนจะทำถามถึง 4% ถ้ามองเพิ่มขึ้น เป็น 5 คน คนจะทำตาม กว่า 18 % และยิ่งคนทำ 15 คน จะเพิ่มให้คนทำตามได้ถึง 40 % แน่ะ

เทคนิคที่ 2 การเอื้อเฟื้อ ให้สร้างความประทับใจเเรกด้วยความมีน้ำใจ เพราะยิ่งให้ เราก็ยิ่งได้ตอบเเทนจากการสำรวจ ในร้านอาหารที่ให้ลูกกวาด ในการจ่ายเงิน ทำให้ลูกค้าให้ทิปเพิ่มจากผู้ชาย 18% และจากผู้หญิง 21% เชียวนะ

เทคนิคที่3 ความน่าเชื่อถือ อำนาจเเละความน่าเชื่อถือมาพร้อมความสำเร็จเสมอเเค่เราเเต่งตัวดี ดูเเลตัวเองก็มีชัยไปกว่าครึ่ง ดูได้จากการทดลองข้ามถนน ให้คนที่ใส่สูท ผูกไทค์เดินข้ามถนนทำให้คนเดินตามมากถึง 350%

เทคนิคที่ 3 ความชอบ ผู้คนมักเลือกในสิ่งที่ชอบ มีหลักการง่ายๆ 3 ข้อ ที่จะดึงดูด ความชอบมาหาเรา ได้แก่ 1. การชอบเหมือนกัน ก็จะโน้มน้าวกันง่าย 2. การร่วมมือกัน ทำได้ดีกว่า 3. คำชม เช่น วันนี้คุณสวยจังเลย ช่วย..หน่อยสิ ก็จะได้รับการช่วยเหลือง่ายเลยล่ะ หรือ เสื้อตัวนี้พี่ใส่แล้วสวยมากเลย เข้ามาก ก็จะช่วยให้ขายได้ง่าย

เทคนิคที่ 4 มีน้อย หายาก เมื่อของมีน้อย มูลค่าก็เพิ่มขึ้น และยิ่งจำกัดเวลาในการลดราคา เช่น ลดวันนี้เท่านั้น ! หรือ จำกัดแค่ 1,000 ชิ้นเป็นต้น สินค้าจะยิ่งเป็นที่ต้องการ

เทคนิคที่ 5 พันธะสัญญา การสร้างพันธะสัญญา ถือเป็นการผูกมัดใจคน เป็นเหมือนการรับประกันว่าเค้าจะไม่ผิดคำพูดเเน่นอน อย่างเช่นการรับบริจาค ให้คนลงชื่อผู้สนันสนุน ก่อนเปิดโครงการ 2 อาทิตย์ ได้เงินบริจาค ถึง 100%

ไม่ยากใช่มั้ยล่ะ ลองทำดูนะครับ จะทำให้คนคล้อยตาม ด้วยจิตวิทยาเล็กๆน้อยๆ แต่ได้ผลที่ตามมา คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

http://infographic.in.th


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 20/06/2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 19,700.00 19,800.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,276.00 19,344.16 20,300.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,148.40 17,409.74 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 574.00 8,701.84 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 447.00 6,776.52 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,322.00 20,041.52 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  20/06/2561


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
29.25
แก๊สโซฮอล E-20
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
26.74
แก๊สโซฮอล E-85 21.14 21.14 21.14 21.14
แก๊สโซฮอล 91 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98 28.98
เบนซิน 95 36.36
36.81
36.86 36.86 36.86 36.86
ดีเซลหมุนเร็ว
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
28.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 31.79 31.79 31.79 31.79 31.79
มีผลตั้งแต่ 29 May 05:00 29 May 05:00 14 Jun 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00 29 May 05:00

 

 

 

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า