ตฤณ นครา ทุ่ม 4 หมื่นลบ.ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์กว่า 3 พันไร่เขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสน
ตฤณ นครา ทุ่มงบ 4 หมื่นล้านบาท นำธงนักลงทุนนานาชาติผุดโปรเจ็กต์ยักษ์ “ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล” เนรมิตพื้นที่ กว่า 3,139ไร่ พัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสน จ.เชียงราย ให้เป็น One Stop Service City ทันสมัยและครบครัน ภายใต้แนวคิด “เมืองแห่งความสุข” (The City of Harmonious Living) พร้อมจับมือไทรเด้นท์ ซัพพอร์ตฯ จากสหรัฐอเมริกาสร้างเสาธงชาติไทยสูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 189 เมตร ในโครงการฯ และบันทึกลงใน Guinness World Records ปักหมุดเชียงแสนบนแผนที่โลกและดันให้เป็นไอคอนของเชียงแสน แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของไทยที่รู้จักไปทั่วโลกหวังกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน สังคม การลงทุน จ.เชียงรายอย่างยั่งยืน
นายตฤณ นิลประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตฤณ อินโนเวชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เชียงแสนเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางยุทธศาสตร์สูงในหลากหลายมิติ จากที่รัฐบาลได้กําหนดให้จังหวัดเชียงรายคือหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ 2 ประกอบกับแผนพัฒนาจังหวัดเชียงราย ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมการท่องเที่ยวประเทศไทย 4.0”หรือ Tourism Innovation Thailand 4.0 ที่มุ่งสนับสนุนให้เชียงรายเป็น “เมืองแห่งการค้าการลงทุน การเกษตรและการท่องเที่ยว รุ่งเรืองด้วยวัฒนธรรมล้านนาประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข” บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสเพราะการเปิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสนเป็นการขยายโอกาสให้เด่นชัดขึ้น เนื่องจากเชียงแสนมีที่ตั้ง ณ จุดยุทธศาสตร์ของแนวรอยต่อพรมแดน 3 ประเทศ ทั้งตั้งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางของแนวเขตระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงแนวเหนือ-ใต้ (North-South Economic Corridor) ซึ่งมีการพัฒนาโครงการต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมเพื่อความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศจากประเทศจีนทางตอนใต้สู่ประเทศไทยผ่านเมียนมา และสปป.ลาว ดังนั้น การยกระดับทั้งสามอำเภอของเชียงรายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ภาครัฐฯ ก็มีการเตรียมความพร้อมรองรับการขยายตัว (Infrastructure & facilities) ไว้หลายด้านทั้งด้านการคมนาคมเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อด้านการขนส่งนานาชาติในระดับภูมิภาค ด้านสิทธิประโยชน์ในด้านการลงทุน การเงิน และศุลกากร
จากศักยภาพของเชียงแสนตั้งอยู่ในแนวรอยต่อดินแดนของ 3 อารยธรรมที่มีการสืบทอดกันมายาวนาน ได้แก่ ประเทศไทย เมียนมา และสปป.ลาว นอกจากนี้ ยังมีอารยธรรมชนเผ่าที่หลากหลายที่สุดของภูมิภาคนี้ อีกทั้งยังมีธรรมชาติและภูมิประเทศที่สวยงาม มีศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงาม ผู้คนเป็นมิตร อีกทั้งมีแม่นํ้าโขงไหลผ่านอำเภอเชียงแสนแล้ว และเนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโยนกซึ่งเป็นยุคแรกของประวัติศาตร์ที่เก่าแก่ที่สุดของไทย เชียงแสนจึงยังมีความโดดเด่นในด้านประวัติศาสตร์ มีมรดกทางโบราณสถานและวัฒนธรรมที่งดงาม ทำให้เชียงแสนวันนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ยังบริสุทธิ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้นักลงทุนชาวต่างชาติมองเห็นความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจด้านการลงทุน
“ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล” เป็นโครงการที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากหลากหลายประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุน ฮ่องกง-จีน สหรัฐอเมริกา เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) โดยโครงการฯ จะตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 3,139 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตําบล คือ ต.เวียงนอก ต.ป่าสัก และตำบลโยนก ของอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมสูงถึง 40,000 ล้านบาท (ลบ.)ด้วยจุดเด่น 5 มิติ คือ
1) Synergy ความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและชุมชน
2) Economic Drive การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สร้างการขยายตัวของ GDP และสร้างงานเพื่อการเชื่อมโยงและต่อยอดนวัตกรรมอุตสาหกรรมและธุรกิจบริการ
3) Ecology การให้ความสำคัญต่อเรื่องของสิ่งแวดล้อมในทุกๆด้าน
4) Innovation การนำนวัตกรรมที่หลากหลายทั้งสถาปัตยกรรม วิศวกรรม และสิ่งแวดล้อม
5) Smart Tourism การเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งอนาคตมาตรฐานสากลที่ครบวงจรทั้งสถานที่ ความเชี่ยวชาญ แหล่งความรู้ และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม
ภายในโครงการฯ แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ ประกอบด้วย ที่พักตากอากาศที่กลมกลืนกับธรรมชาติในมาตรฐานการบริการระดับห้าถึงเจ็ดดาว ศูนย์สุขภาพระดับโลก คอนโดมีเนียมและที่พักอาศัย ศูนย์การค้าระดับพรีเมียม ร้านสินค้าที่ระลึก ศูนย์การประชุมนานาชาติ ศูนย์กระจายสินค้า OTOP พื้นที่เกษตรกรรมเชิงท่องเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม บริการการท่องเที่ยวนวัตกรรมเชิงการแพทย์ โดยในแต่ละโซนได้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยนวัตกรรมการออกแบบและก่อสร้างที่ทันสมัย แต่ยังคงรักษาแนวคิดอันเป็นรากเหง้าสังคม และวัฒนธรรมของพื้นที่ รวมทั้งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้โครงการกับพื้นที่เดิมอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืนและสวยงาม โดยมี SPAN Consultants Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์ในการออกแบบอาคารวางผังเมืองเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้าง
นอกจากนี้ ภายในโครงการฯ ยังจะมีการก่อสร้างเสาธงชาติไทยสูงที่สุดในโลก (Thailand World Tallest Flag Pole) ด้วยความสูง 189 เมตร และเพื่อสร้างให้เชียงแสนเป็นพื้นที่ปักหมุดแห่งใหม่ และเป็นที่จดจําในระดับโลก ติดตั้งธงชาติไทยผืนใหญ่ขนาด 60×40 เมตร กว้างเท่ากับสนามฟุตซอล 1 สนาม สามารถมองเห็นได้ในระยะไกลกว่า 20 กิโลเมตร ซึ่งจะดำเนินการโดยบริษัท ไทรเด้นท์ ซัพพอร์ต จํากัด (Trident Support LLC) ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญในการสร้างเสาธงชาติสูงซึ่งเป็นแลนมาร์คมาแล้วทั่วโลก 7 แห่ง และเสาธงที่จะสร้างขึ้นนี้จะได้รับ การบันทึกลงใน Guinness World Records อีกด้วย ส่งผลทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก สร้างการรับรู้ กระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของเชียงแสนและเชียงรายได้เป็นอย่างดี โดยโครงการจะใช้เวลาดำเนินการนาน 1 ปีจะสร้างงานให้เกิดการกระจายรายได้ในทุกระดับตั้งแต่แรงงานมากกว่า 10,000 อัตรา ซึ่งโครงการฯ จะมีการทำความร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐฯ และสถาบันการศึกษาเพื่อสร้างบุคคลากรและยกระดับมาตรฐานทรัพยากรมนุษย์
“โครงการ “ตฤณ นครา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล” จึงเป็นมากกว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดยักษ์ ในรูปแบบ One Stop Service City อันทันสมัยเราภูมิใจในเชียงแสนแผ่นดินทองที่เรืองรองด้วยอารยธรรม เราจะสร้างความรุ่งเรือง พลิกผืนแผ่นดินเชียงแสนให้เป็นดินแดนแห่งทองคำ เพื่อ“ความสุข” ของชาวเชียงแสน นักลงทุน ผู้มาเยือน-นักท่องเที่ยว และชาวเชียงราย เพื่อให้เป็น “เมืองแห่งความสุข” หรือ The City of Harmonious Living อย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก prop2morrow.com
กทพ.มอบของขวัญปีใหม่ 2562 ฟรี8วัน ค่าทางด่วนบางนา-ชลบุรี และบางพลี-สุขสวัสดิ์
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางพิเศษสายบางนา-ชลบุรี) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) เป็นของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน
ขาออก ตั้งแต่วันที่ 26 – 31 ธันวาคม 2561 ที่ด่านฯ บางแก้ว 1 ด่านฯ ฉิมพลี และด่านฯ บางปะอิน (ขาออก)
ขาเข้า ตั้งแต่วันที่ 1-3 มกราคม 2562 ที่ด่านฯ ดาวคะนอง ด่านฯ จตุโชติ และด่านฯ บางปะอิน (ขาเข้า)
ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ทางพิเศษ กทพ.ขอความร่วมมือปฏิบัติตามกฎจราจร และป้ายสัญญาณต่างๆ อย่างเคร่งครัด
ขอบคุณข้อมูลจาก prachachat.net
กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแตะ 1.75%
กนง.ปรับขึ้นขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % ต่อปี จาก 1.50% เป็น 1.75 % ต่อปี โดยให้มีผลทันทีเพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งเพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงิน (policy space) สำหรับอนาคต
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยถึงผลการประชุม กนง.ในวันนี้ (19 ธ.ค.2561) ครั้งที่ 8/2561 ว่า คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ(%) 0.25 ต่อปี จาก 1.50 % เป็น 1.75 % ต่อปี โดยให้มีผลทันที ขณะที่ 2 เสียงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ 1.50% ต่อปี
นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
ในการตัดสินนโยบาย คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องตาม แรงส่งของอุปสงค์ในประเทศ แม้อุปสงค์ต่างประเทศชะลอลง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน มีแนวโน้มใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพระบบการเงินโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจ สะสมความเปราะบางในระบบการเงินได้ในอนาคต คณะกรรมการฯ เห็นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องเป็นเวลานานในช่วงที่ผ่านมามีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวในระดับที่สอดคล้อง กับศักยภาพและกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ กรรมการส่วนใหญ่จึงเห็นว่าความจำเป็นในการพึ่งพานโยบาย การเงินที่ผ่อนคลายมากในระดับที่ผ่านมาลดน้อยลง และเห็นควรให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งเพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย การเงิน (policy space) สำหรับอนาคต
กรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่ 1.75 % ยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรรมการ 2 ท่านเห็นว่า ปัจจัยเสี่ยงและ ความไม่แน่นอนจากต่างประเทศปรับสูงขึ้นและอาจส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป จึงควรรอ ประเมินความชัดเจนของผลกระทบจากปัจจัยภายนอกและความยั่งยืนของแรงส่งจากปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศ ไปอีกระยะหนึ่ง ประกอบกับมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ดำเนินการไปได้ดูแลความเสี่ยง ด้านเสถียรภาพระบบการเงินในบางจุดไปบ้างแล้ว เศรษฐกิจไทยในภาพรวมมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับที่สอดคล้องกับศักยภาพ แม้การส่งออกสินค้าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลงและมาตรการกีดกันทางการค้า ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ขณะที่การท่องเที่ยวชะลอลงโดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีน แต่เริ่มมีสัญญาณปรับดีขึ้น แรงส่งของอุปสงค์ในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่อง
ส่วนการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามรายได้ครัวเรือน นอกภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้นและกระจายตัวมากขึ้น รวมทั้งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐเพิ่มเติม แม้รายได้ครัวเรือนภาคเกษตรลดลงบ้างและยังมีแรงกดดันจากหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง สำหรับ การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวตามการย้ายฐานการผลิตมายังไทย และโครงการร่วมลงทุนของรัฐ และเอกชนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้เดิมจากความล่าช้า ในการลงทุนของรัฐวิสาหกิจบางแห่ง
ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะติดตามความเสี่ยงจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่าง สหรัฐฯ และจีน ที่อาจจะกระทบต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป
ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปียังมีแนวโน้มทรงตัว แต่มีความเสี่ยงด้านต่่าจากความผันผวนของราคา พลังงานและราคาอาหารสด อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ที่ปรับ สูงขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง อาทิ ผลกระทบจากการขยายตัวของธุรกิจ e-commerce การแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น รวมถึงพัฒนาการของเทคโนโลยีที่ท่าให้ ต้นทุนการผลิตลดลง ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นได้ช้ากว่าในอดีต ภาวะการเงินที่ผ่านมาอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สภาพคล่อง ในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับต่ำ ทำให้ภาคเอกชนสามารถระดมทุนได้ ต่อเนื่อง โดยสินเชื่อขยายตัวทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่ออุปโภคบริโภค
คณะกรรมการฯ ประเมินว่า แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะปรับขึ้น 0.25 % ภาวะการเงินโดยรวมยังอยู่ในระดับผ่อนคลายและเอื้อ ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบกับเงินดอลลาร์ สรอ.มีเสถียรภาพ เมื่อเทียบกับเงินสกุลภูมิภาค ในระยะข้างหน้า อัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มผันผวน คณะกรรมการฯ จึง เห็นควรให้ติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดต่อไป ระบบการเงินโดยรวมมีเสถียรภาพ แต่ยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจสร้างความเปราะบางให้ เสถียรภาพระบบการเงินได้ในอนาคต โดยเฉพาะพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (search for yield) ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งอาจน่าไปสู่การประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควร (underpricing of risks)
อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯ เห็นว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้จะช่วยลดการสะสมความเปราะบาง ในระบบการเงินควบคู่กับมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ได้ด่าเนินการไป มองไปข้างหน้า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แม้แรงส่งจากอุปสงค์ต่างประเทศ ชะลอลง คณะกรรมการฯ เห็นว่า นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะยังมีความเหมาะสมในระยะข้างหน้า โดยจะติดตามพัฒนาการของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งปัจจัย เสี่ยงต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการด่าเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมในระยะต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก prop2morrow.com
จดให้ดี! จะได้ไม่เสียสิทธิ์ภาษี
หลักฐานสำหรับการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการซื้อสินค้า OTOP หนังสือ และยางล้อรถ
มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมเกษตร ชุมชน และทุนมนุษย์ หรือ ช็อปช่วยชาติ ปี 3 ซึ่งรัฐบาลจำกัดการซื้อสินค้าใน 3 กลุ่ม คือ ยางล้อรถยนต์ หนังสือหรืออีบุ๊ก และสินค้าโอทอป ในวงเงินรวมไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2561 ไปจนถึง 16 ม.ค. 2562 และเพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ลดหย่อยภาษี ฟังทางนี้!!!
นายปิ่นสาย สุรัสวดี รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมสรรพากร เปิดเผยว่า หลักฐานที่ใช้ในการหักลดหย่อนสำหรับการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีสินค้า OTOP ที่ได้ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชน จะเป็นใบเสร็จรับเงิน ในกรณีที่ผู้ขายสินค้าดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป หากผู้ขายสินค้าดังกล่าวเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ส่วนหนังสือรวมถึง e-Book แต่ไม่รวมถึงนิตยสารและหนังสือพิมพ์ จะต้องซื้อจากผู้ประกอบการที่เป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล และต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป แล้วแต่กรณี
สำหรับยางล้อรถยนต์ ยางล้อรถจักรยานยนต์ และยางล้อรถจักรยาน ที่ซื้อจากผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้เสียภาษีจะต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าเป็นใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปและคูปองที่มีตราประทับของร้านค้า โดยคูปอง 1 ใบ ต่อยาง 1 เส้น
“บุคคลธรรมดาสามารถนำค่าซื้อสินค้าไปหักเป็นค่าลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ส่วนกรณีผู้มีเงินได้จ่ายค่าซื้อสินค้าในช่วงเวลา 2 ปีภาษี จะได้รับการลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริงในแต่ละปีภาษี แต่รวมกัน 2 ปีภาษี แล้วต้องไม่เกิน 15,000 บาท”
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thansettakij.com
5 คุณสมบัติที่ “คุณต้องมี” เพื่อบรรลุฝันอันยิ่งใหญ่! โดย Cynthia Bazin ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยา
ซินเธีย แบซิน (Cynthia Bazin) คือผู้หญิงที่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่มากมาย หลายอย่างเธอมุ่งมั่นเพื่อมัน และทำสำเร็จในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยา ทำอาชีพนักสืบเอกชนหลังจากโลดแล่นในวงการอุตสาหกรรมด้านการรักษาความปลอดภัยมากว่า 20 ปี ร่วมเขียนหนังสือไปถึงสองเล่ม และขยับขยายธุรกิจการเป็นนักพูดและเมนเทอร์จนกลายเป็นบริษัทที่สร้างผลกำไรได้เป็นอย่างดี
ซินเธียมีอาชีพเป็นนักพูดและที่ปรึกษาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เธอจึงมีโอกาสได้บอกกับคนที่ล้มเหลวที่ในเป้าหมายของตัวเองว่า มันไม่ใช่เป็นเพราะเป้าหมายเหล่านั้นยิ่งใหญ่เกินไปหรอกนะ แต่เป็นเพราะพวกเขาเลือกที่จะยอมแพ้เร็วเกินไปต่างหากล่ะ ก่อนที่จะทันได้เห็นรางวัลแห่งความทุ่มเทของตัวเองซะอีก
ไม่ใช่เพราะเป้าหมายนั้นยิ่งใหญ่เกินไปหรอก แต่เป็นเพราะพวกเขาเลือกที่จะยอมแพ้เร็วเกินไปต่างหากล่ะ
หากคุณอ่านแล้วมันตรงกับตัวคุณเลยล่ะก็ ซินเธียแนะนำให้คุณเปลี่ยนมันซะ เพื่อที่คุณจะได้กลายเป็น คนที่ “สู้” เพื่อไปให้ถึงฝัน ซึ่งเธออยากที่จะแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวและคำแนะนำที่เธอให้แก่ลูกค้าของเธอ อันได้แก่ คุณสมบัติต่างๆ ที่จะช่วยผลักดันให้คุณประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่และบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
1. คิดบวก
ซินเธีย เชื่ออยู่เสมอว่าทุกๆ อย่างเริ่มต้นที่กรอบความคิดเชิงบวก เพราะอะไรก็ตามที่เรานำมาใส่ความคิดเรา คือสิ่งที่เราจะแสดงออกไป เพราะฉะนั้นคนเราต้องเชื่อมั่นในตนเอง และคิดบวกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วิธีที่ดีที่สุด เพื่อให้เราเป็นคนคิดบวก คือคลุกคลีกับ เหล่าคนที่มักจะคิดบวก และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น ลองจดบันทึกประจำวันดูว่าคุณก้าวหน้าไปได้แค่ไหนแล้ว และเริ่มวันใหม่แต่ละวัน ด้วยการอ่านเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ หรือลองหาอะไรที่ฟังแล้วจรรโลงใจ หรือทำให้เกิดแรงผลักดันดูบ้างสิ
2. หนักแน่น
เมื่อใดก็ตามที่คุณพยายามจะฝ่าฟันไปให้ถึงฝันอันยิ่งใหญ่ของคุณ คุณจะต้องได้เจอคนมากมายที่พร้อม
“ปฏิเสธ” สิ่งที่คุณต้องการหรือปรารถนาจนได้ เพราะซินเธียก็เคยพบเจอกับคำปฏิเสธเหล่านั้น และคุณเองย่อมจะต้องได้เจอแน่นอน แต่คนที่เข้มแข็งและประสบความสำเร็จจะไม่ท้อถอยง่ายๆ สิ่งที่คุณต้องทำคืออย่าเร่งเร้า หรือกดดันคนอื่นมากเกินไป แต่แค่ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณไปจากเดิมสัก 15% เท่านั้นและบางครั้งคนที่จะ “ตอบรับ” ความต้องการของคุณอาจอยู่ใกล้ตัวนี่เอง เพราะฉะนั้นจงก้าวต่อไป และจงเชื่ออยู่เสมอว่า สักวันต้องเป็นวันของคุณ
3. อดทน
คุณจะต้องใจเย็นสุดๆ ในการทำตามฝันอันสูงสุด แน่ล่ะว่าใครๆก็อยากไปให้ถึงเป้าหมายภายใน วันนี้ ซ้ำเรายังอยากจะเห็นผลลัพธ์ของความพยายามมัน เดี๋ยวนี้ แต่คุณต้องคำนึงถึงเวลาด้วย ดังที่ เบเวอร์ลี ซิลส์ (Berverly Sills) นักร้องโอเปร่าหญิงชาวอเมริกัน ได้กล่าวไว้ว่า “ไม่มีทางลัดใดจะนำไปสู่เป้าหมายอันแสนคุ้มค่าหรอก” เพราะฉะนั้น จงท่องไว้เลยว่า การอดทนย่อมคุ้มค่าในที่สุด ทำทุกอย่างด้วยความทุ่มเทเท่าที่คุณทำได้ ความฝันที่ยิ่งใหญ่ย่อมต้องอาศัยเวลา และมันก็คุ้มค่าที่จะรอ
4. ฟื้นตัวจากอุปสรรคได้
ตลอดทั้งชีวิตของคนเรา เราจะได้พบกับผู้คนและสถานการณ์มากมายที่เป็นอุปสรรคต่อความฝันของเรา ทั้งคนที่ย้ำอยู่นั่นแหละว่าเราไม่มีทางทำสำเร็จ ไหนจะความท้าทายสุดหินที่อาจจะทำให้คุณล้มเลิกความตั้งใจไปเลย การฟื้นตัวให้ไวจึงเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นอย่างมากสำหรับความสำเร็จ เมื่อใดที่สับสนในตัวเอง การจ้างที่ปรึกษาหรือโค้ชส่วนตัว ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยให้คุณก้าวผ่านมันไปได้ จริงอยู่ที่คุณสามารถทำอะไรมากมายได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากคุณได้แรงสนับสนุนที่เหมาะกับตัวคุณด้วย คุณอาจจะค้นพบว่าคุณทำสำเร็จได้อีกมากมายเลยทีเดียวนะ
5. รู้จักปรับตัว
อ็อก แมนดิโน (Og Mandino) นักเขียนหนังสือพัฒนาตนเองชาวอเมริกัน กล่าวไว้ว่า “จงคิดให้เหมือนกับว่าคุณเป็นนักเรียนอยู่ตลอดเวลา อย่าทะนงตนเกินกว่าที่จะถามคำถาม และอย่าฉลาดเกินกว่าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” คุณต้องเติบโต และเรียนรู้ผ่านการใช้ชีวิต เพราะมันจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จอย่างสวยงาม คุณจะต้องเปิดใจให้แก่โอกาสและความเป็นไปได้ที่ผ่านเข้ามาอยู่เสมอ และจงคลุกคลีกับคนฉลาดที่คุณยึดเป็นแบบอย่างได้ โดยเฉพาะคนที่เคยเดินบนเส้นทางเดียวกับคุณ เพราะคุณจะได้เรียนรู้กลยุทธ์เจ๋งๆ เพื่อไปสู่เป้าหมายของคุณเอง
“จงคิดให้เหมือนกับว่าคุณเป็นนักเรียนอยู่ตลอดเวลา อย่าทะนงตนเกินกว่าที่จะถามคำถาม และอย่าฉลาดเกินกว่าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ” – อ็อก แมนดิโน (OG MANDINO)
เราทุกคนคู่ควรที่จะประสบความสำเร็จ และไปถึงฝั่งฝัน หากคุณต้องการมัน คุณก็เพียงแค่ต้องสู้เพื่อมัน แต่จงอย่าลืมว่าคุณต้องใช้วิธีที่ใช่เพื่อให้ได้มันมา จงคิดบวก หนักแน่น แต่ก็อดทน ฟื้นตัวง่าย และปรับตัวได้เสมอ
เอาล่ะ! ตอนนี้อะไรคือเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ที่คุณอยากจะทำให้สำเร็จบ้างล่ะ? จงเชื่อมั่นในตัวเองเอาไว้นะ เพราะคุณจะคว้ามันมาได้อย่างแน่นอน!
ขอบคุณข้อมูลจาก sumrej.com
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 20/12/
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 19,350.00 | 19,250.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 19,850.00 | 18,904.52 | 1,247.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 19,586.72 | 1,292.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 17,014.07 | 1,122.30 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 15,123.62 | 997.60 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,504.76 | 561.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,609.76 | 436.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 20/12/
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 | 27.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 | 26.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | – | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 19.94 | 19.94 | – | – | – | – | – | 19.94 | 19.94 | – |
เบนซิน 95 | 34.56 | – | – | – | 35.01 | – | 35.06 | 34.86 | 34.36 | 34.86 |
ดีเซล | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 | 26.29 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 29.89 | 30.16 | 30.16 | 30.16 | 30.16 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.06 | 16.06 | – | – | – | – | – | – | – | – |