สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 20 กันยายน 2561

เพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดินทั่วกรุง หวังฉุดราคาบ้านถูกลง

ผ่าร่างผังเมืองกทม.ฉบับใหม่ ปรับการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพิ่ม FAR ยกแผง ส่งเสริมการพัฒนาเมือง คลายต้นทุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้คนชั้นกลางมีโอกาสเข้าถึง เผยทำเลเด่นหนีไม่พ้น แนวรถไฟฟ้า-จุดตัดทั่วกรุง ฝั่งธนฯ บางซื่อ พระราม 9 และ 8 ทำเลชุมชนชานเมือง อนาคตสดใสแน่     

นายศักด์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง “กรุงเทพจตุรทิศ : ผ่า! ผังเมืองใหม่ พลิกโฉมกรุงเทพฯสู่มหานครโลก” จัดโดยเว็บไซต์ www.prop2morrow ว่า สำนักผังเมืองอยู่ระหว่างจัดทำผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 คาดว่าจะประกาศใช้ได้ประมาณปลายปี 2562 โดยแนวคิดหลักของการจัดทำผังเมืองฉบับปัจจุบัน คือ จะทำอย่างไรให้การพัฒนาเมืองไม่เป็นการพัฒนาเฉพาะตามแนวถนน แต่ต้องเป็นการพัฒนาทั้งพื้นที่ โดยกำหนดให้กทม.เป็นเมืองกระชับ กำหนดจุดศูนย์กลางอยู่ในเขตเมืองชั้นใน และให้กระจายออกไปรอบนอกตามแนวรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้น

ปรับการใช้ประโยชน์เพิ่มFAR/ลดต้นทุนบ้าน

ทั้งนี้ในร่างผังเมืองฉบับใหม่ได้มีการปรับระดับของการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับพื้นที่ที่มีการปรับเปลี่ยนมากที่สุด คือ พื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย หรือพื้นที่สีเหลืองในผังเมือง กับพื้นที่เกษตรกรรม หรือพื้นที่สีเขียว จะมีการปรับการใช้ประโยชน์ เพิ่มขึ้นเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง(สีส้ม) หรือพื้นที่หนาแน่นมาก(สีน้ำตาล)  นอกจากนี้ ยังเพิ่มสัดส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (Floor Area Ratio : FAR) ของการใช้ประโยชน์ที่ดินในแต่ละพื้นที่ด้วย

“แนวคิดของการเพิ่มการใช้ประโยชน์ที่ดินให้มากขึ้น เพื่อจะช่วยทำให้ราคาที่อยู่อาศัยถูกลง จากการที่สามารถพัฒนาได้ขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับคนชั้นกลางสามารถมีที่อยู่อาศัยที่อยู่ใกล้เมืองได้มากขึ้น” นายศักดิ์ชัยกล่าว  

บูมทำเลแนวรถไฟฟ้าและจุดตัด-ฝั่งธนฯ

สำหรับพื้นที่ที่มีปรับในทิศทางที่ดีขึ้นมาก เช่น พื้นที่ในย่านฝั่งธนบุรี ที่มีการปรับจากพื้นที่เกษตร พื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง และที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก เช่น บริเวณตลิ่งชัน ที่ผังเมืองปัจจุบันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม หรือพื้นที่เขียวลายจะเปลี่ยนเป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย-ปานกลาง ต่อเชื่อมกับจังหวัดนนทบุรี และพื้นที่พาณิชยกรรม หรือพื้นที่สีแดง เพื่อส่งเสริมให้เป็นศูนย์ชุมชนชานเมืองฝั่งตะวันตกตลิ่งชัน 

นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับความเป็นศูนย์กลางธุรกิจ การค้า บริการ และนันทนาการ บริเวณโดยรอบเขตการให้บริการขนส่งมวลชน และส่งเสริมพื้นที่พาณิชยกรรมริมน้ำ บริเวณเขตคลองเตย วัฒนา วังทองหลาง เป็นต้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน สายสีเหลือง สายสีน้ำตาล สายสีชมพู บริเวณฝั่งเหนือของกทม. บริเวณเขตลาดพร้าว บึงกุ่ม จัตุจักร วังทองหลาง จากพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลางและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมากในบางบริเวณ เพื่อส่งเสริมศูนย์ชุมชนชานเมืองฝั่งเหนือตลาดสะพานใหม่

ขณะเดียวกัน ได้เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีเหลือง บริเวณฝั่งตะวันออก ของกทม. ได้แก่ บริเวณพื้นที่เขตสวนหลวงที่มีเปลี่ยนจากพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย เป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก  และเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อรองรับการพัฒนารถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม และสีม่วงบริเวณฝั่งตะวันตกของกทม. บริเวณเขตราษฎร์บูรณะ เขตจอมทอง และเขตบางขุนเทียน จากพื้นที่เกษตรกรรม เป็นพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่นน้อย และที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง

ลดฟลัดเวย์-เพิ่มมาตรการจูงใจการพัฒนา

 สำหรับพื้นที่รองรับน้ำฝั่งตะวันออกของกทม. หรือที่เรียกกันว่าพื้นที่ฟลัดเวย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่อนุรักษ์ชนบท และเกษตรกรรม หรือพื้นที่สีเขียวลาย ได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่สีเขียว หรือพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม ประมาณ 2 ใน 3 ของพื้นที่เดิม เนื่องจากปัจจุบันมีระบบระบายน้ำที่ดีขึ้น 

นายศักด์ชัย กล่าวอีกว่า ในผังเมืองฉบับปรับปรุงใหม่จะเพิ่มมาตรการทางผังเมืองใหม่ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างเป็นธรรมให้กับผู้ถือครองที่ดิน ได้แก่ มาตรการสำหรับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ (Planned Unit Development : PUD )ให้ผู้พัฒนาโครงการขนาดใหญ่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินในโครงการที่จะพัฒนาได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด มาตรการโอนสิทธิการพัฒนา (Transfer of Development Right : TDR) ให้สามารถขายสิทธิทางอากาศบนที่ดินให้กับคนอื่นได้

ส่งเสริมพระราม 9-บางซื่อ-8 ชุมชนชานเมือง

รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีรถไฟฟ้า โดยเฉพาะในจุดเปลี่ยนถ่ายที่สำคัญ เช่น สยาม บางหว้า ตลิ่งชัน ท่าพระ บางกะปิ โดยการเพิ่มระยะส่งเสริมการพัฒนารอบสถานีรถไฟฟ้าจาก 500 เมตร เป็น 800 เมตร และ 1,000 เมตร  นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดศูนย์กลางคมนาคมบางซื่อ  การส่งเสริมย่านพระราม 9 การส่งเสริมพื้นที่พาณิชยกรรมพิเศษด้านนวัตกรรมสร้างสรรค์ บริเวณเจริญกรุง การส่งเสริมศูนย์ชุมชนชานเมือง 8 แห่ง ได้แก่ มีนบุรี ลาดกระบัง ศรีนครินทร์ บางขุนเทียน บางมด ตลิ่งชัน และสะพานใหม่

ทั้งนี้ยังได้มีการเพิ่ม FAR โบนัส เงื่อนไขใหม่ๆ เช่น การจัดให้มีพื้นที่เพื่อประโยชน์ในการสัญจรในพื้นที่เปลี่ยนถ่ายการสัญจรของระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน การจัดให้มีพื้นที่ว่าง เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือสวนสาธารณะริมแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำสาธารณะ และการจัดให้มีพื้นที่สำหรับใช้เป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือสถานดูแลผู้สูงอายุในเวลากลางวัน เป็นต้น

นอกจากนี้ ในส่วนของภาคเอกชน ยังสามารถเสนอแผนในการพัฒนาพื้นที่ของตัวเองได้ โดยการรวมกลุ่มกันวางแผนพัฒนาพื้นที่เสนอให้กทม. เป็นผู้ดำเนินการ และ จะมีการตั้งกรรมการร่วมกันเพื่อดูแล บริหารจัดการในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการพัฒนาเมืองอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ โดยขณะนี้มีพื้นที่ราชประสงค์ได้มีการดำเนินการมาแล้ว และยังมีพื้นที่สีลม พระราม 4 และบางกะปิ ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ ขณะเดียวกัน กทม.มีแนวคิดที่จะสร้างถนนควบคู่ไปกับการพัฒนารถไฟฟ้าใต้ดินในทุกเส้นทางที่กำลังก่อสร้าง หากสามารถพัฒนาได้จะเป็นโครงการที่มีมูลค่านับแสนล้านบาท และเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชน

ขอบคุณที่มา baania.com


ราคาที่ดินพหลฯพุ่ง แรงเทียบชั้นสุขุมวิท

พลัส เผยผลสำรวจพบคอนโดย่านพหลโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว ราคาย้อนหลัง 4 ปีขยับ 8% ขณะที่ราคาที่ดินใกล้เคียงย่านสุขุมวิท

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยผลสำรวจพบว่าราคาเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ย่านพหลโยธินปัจจุบันอยู่ที่ 1.51.7 แสนบาท/ตารางเมตร สูงกว่าโครงการเก่าประมาณ 8% ซึ่งในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ต่อปี อีกทั้งคาดว่าในอนาคตคอนโดใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจะมีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากข้อจำกัดของที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ ซึ่งราคาที่ดินที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนับตั้งแต่ปี 2556 เริ่มต้นที่ 5 แสน-1 ล้านบาท/ตารางวา ราคาในปัจจุบันจึงขยับเข้าใกล้ราคาที่ดินทำเลสุขุมวิท

นอกจากนี้ ที่ดินย่านพหลโยธินยังถูกแบ่งเป็นที่ดินแปลงเล็กที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ ดังนั้นความต้องการที่เพิ่มขึ้นบนที่ดินที่หายากมากขึ้นนี้ จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการ ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาคอนโดมิเนียมย่านพหลโยธินปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนั้น เนื่องจากสามารถเดินทางได้โดยรถไฟฟ้าบีทีเอส เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ที มีห้างค้าปลีกสมัยใหม่และคอมมูนิตี้มอลล์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมธนาคาร ร้านอาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทำเลพหลโยธินมีความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8.4% ต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นความต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงมากกว่าการซื้อเพื่อลงทุน เนื่องจากปัจจุบันมีอาคารสำนักงานจำนวนมาก จึงเกิดความต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริง (เรียลดีมานด์) ของกลุ่มพนักงานออฟฟิศที่มองหาคอนโดที่ไม่ไกลจากที่ทำงาน และยังมีความต้องการจากกลุ่มผู้อยู่อาศัยดั้งเดิม ที่จะขยายครอบครัว แต่ยังคงต้องการอาศัยอยู่ในบริเวณที่อยู่อาศัยปัจจุบัน คอนโดมิเนียมจึงเป็นอีกทางเลือก โดยผลตอบแทนปล่อยเช่าอยู่ที่ 5-7% ต่อปี

ขอบคุณที่มา  หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์


ยกระดับบัตรแมงมุม พ่วงบัตรเดบิต เพิ่มความสะดวกทุกการใช้จ่าย

ยกระดับบัตรแมงมุม พ่วงบัตรเดบิต

ข่าวดีสำหรับผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ เมื่อบัตรแมงมุมเตรียมร่วมกับ ขสมก. แอร์พอร์ตลิงค์ และรถไฟฟ้า BTSเพื่อใช้ในการจ่ายค่าโดยสาร รวมถึงรองรับการจ่ายชำระค่าสินค้าในรูปแบบบัตรเดบิต

โครงข่ายคมนาคมขนส่งมวลชนที่ทั้งหลากหลายเส้นทาง และยังหลายประเภท ทำให้ผู้ใช้บริการต้องพกตั๋วโดยสารมากกว่า 1 ใบ “ระบบตั๋วโดยสารร่วม” (common Ticketing System) ในรูปแบบบัตรอิเล็กทรอนิกส์จึงช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เดินทาง เช่นในฮ่องกง ที่เริ่มต้นใช้ระบบ Contactless Smart Card ในชื่อ “บัตร Octopus” ในปี 1993 ใช้ชำระค่าเดินทางทุกระบบ ครอบคลุมทั้งรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะ รถบัส รถแท็กซี่ ไปจนถึงเรือข้ามฟาก และจากจุดเริ่มต้นเพื่อชำระค่าเดินทางขนส่งมวลชนระบบต่างๆ ต่อมาได้ต่อยอดให้สามารถใช้จ่ายค่าสินค้า-บริการต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน ไม่ว่าจะจ่ายค่าสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ ซึ่งปัจจุบันมีร้านค้าที่รองรับการใช้งานมากกว่า 23,000 ร้านค้า เช่นเดียวกับ สิงคโปร์ ที่รัฐบาลมีนโยบายผลักดันประเทศเข้าสู่ยุค Cashless Society ด้วยการใช้บัตร “EZ-Link” ภายใต้การควบคุมของธนาคารกลางสิงคโปร์และสภาขนส่งสาธารณะมานานกว่า 10 ปี ทั้งในรูปแบบบัตรแข็งและแอปพลิเคชัน สำหรับชำระค่าเดินทาง ค่าสินค้าและบริการต่างๆผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งมีจุดให้บริการมากกว่า 33,000 จุดรอบเกาะสิงคโปร์

ขณะที่ประเทศไทย “สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร” (สนข.) มีแนวคิดพัฒนาระบบตั๋วร่วมอิเล็กทรอนิกส์ หรือ “บัตรแมงมุม” เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางทุกระบบ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสารสาธารณะ และทางพิเศษ ซึ่งจะสร้างความสะดวกในการใช้บริการให้กับประชาชนในการเชื่อมต่อการเดินทาง และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2561 บัตรแมงมุมสามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (MRT) และรถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่ในเดือนตุลาคม 2561 นี้จะมีการเชื่อมต่อเพื่อให้สามารถใช้งานได้กับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ และรถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมถึงวางแผนขยายไปยังรถไฟฟ้าสายสีต่างๆที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ส่วนรถไฟฟ้า BTS ที่ขณะนี้มีระบบการชำระเงิน “Rabbit” อยู่ระหว่างการพิจารณา เนื่องจากเป็นความร่วมมือในระยะยาว ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนระบบเพื่อให้รองรับกับบัตรแมงมุม คาดว่าจะได้ข้อสรุปปลายปีนี้

อัพเกรดบัตรแมงมุม

อัพเกรดบัตรแมงมุม ภาพ via www.ktb.co.th

ทั้งนี้ธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นธนาคารของรัฐ และมีส่วนร่วมในการสนับสนุนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เริ่มให้บริการบัตรเดบิตสำหรับเดินทาง ซึ่งนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย บอกว่า วันที่ 27 กันยายน 2561 นี้ จะเริ่มให้บริการ “กรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุม” (Krungthai Metro Link) ที่ผู้ใช้บริการสามารถใช้บัตรได้ใน 2 ลักษณะคือ

1. บัตรเดบิต ใช้เบิก-ถอน-โอนเงินสด ซื้อสินค้าและบริการได้ทั่วโลก (ที่มีสัญลักษณ์ Mastercard)

2. บัตรแมงมุม (โครงการพัฒนาระบบตั๋วร่วม-Common Ticketing System) ที่ตอนนี้ใช้จ่ายค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วงได้แล้ว

>>อ่านต่อ..คลิ๊ก! รวมปัญหาเรื่องกู้บ้าน หนึ่งในนั้นคือ “หนี้บัตรเครดิต”

ที่สำคัญแม้จะไม่ใช้บัญชีธนาคารกรุงไทยแล้ว “กรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุม” ก็ยังใช้เดินทางได้ตามปกติ ส่วนการเติมเงินตอนนี้ยังไม่สามารถตัดเงินผ่านโมบายแบงก์กิ้ง จึงยังต้องเติมเงินได้ช่องทางเดียวคือ ที่สถานีในระบบขนส่งมวลชนทุกสาขา แต่เติมได้ 3 วิธี คือ

1. ตัดเงินผ่านจาก กรุงไทย บัตรเดบิตแมงมุมได้ทันที

2. ตัดจากบัตรเครดิต

3.ใช้เงินสด

หากการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนด้วยบัตรแมงมุมครอบคลุมขนส่งสาธารณะหลักๆ ของกรุงเทพฯและปริมณฑล การใช้บัตรเพียงใบเดียวจะช่วยให้ประชาชนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ทั้งค่าใช้จ่ายในการออกบัตร การบริหารเงินที่คงค้างอยู่ในบัตร อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยที่ลดลง ที่สำคัญบัตรแมงมุมยังรองรับบนโยบายของภาครัฐเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (National e-Payment) ทำให้คนคุ้นเคยกับการจ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ให้เข้าใจเรื่องสังคมไร้เงินสด อีกทั้งการเดินทางที่สะดวกสบายก็ช่วยให้ประชาชนที่ทั้งอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีทางเลือกในการเดินทางสัญจรมากขึ้น ไม่เกิดการกระจุกตัวของที่อยู่อาศัย ส่งผลให้มีการกระจายรายได้ไปยังพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น

ขอบคุณที่มา ddproperty.com


เคล็ดลับ “จัดสวนอย่างไรให้เป็นมงคล” ตามหลักฮวงจุ้ย

เดิมวิถีของคนเราจะอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติ ทั้งแสงแดด สายลม สายน้ำ ด้วยความใกล้ชิดกับธรรมชาติจึงส่งผลให้จิตใจของคนในยุคก่อนมีอ่อนโยน เอื้ออาทร ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และก็พร้อมจะเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติโดยไม่ต่อต้านหรือฝืนกฎธรรมชาติ

พอความเจริญทางด้านวัตถุมีมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบันความใกล้ชิดกับของคนเรากับธรรมชาติก็นับวันจะห่างถอยออกไปทุกที ด้วยสังคมที่เร่งรีบทำให้เราแบ่งเวลาพาตัวเองไปหาธรรมชาติน้อยลง คนยุคนี้จึงมีแนวคิดนำเอาธรรมชาติที่อยู่ไกลตัวกลับมาอยู่ใกล้ตัวด้วยการจัดสวนดอกไม้ ปลูกต้นไม้ในพื้นที่ของตน

การจัดสวนไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ล้วนช่วยให้ก่อเกิดพลังธรรมชาติขึ้นได้ตามขนาดและความสวยงาม เพราะยิ่งสวนมีขนาดใหญ่แน่นอนว่าพลังแห่งธรรมชาติย่อมมีมากขึ้นตามลำดับ แต่ไม่ใช่ว่าสวนขนาดเล็กจะไม่มีพลังธรรมชาติที่มาเกื้อกูลชีวิตนะครับ

 

การจัดสวนก็เป็นศาสตร์และศิลป์ที่จะช่วยให้ใจเราเกิดความสงบเย็นและเบิกบาน หากการจัดสวนนั้นสอดคล้องกับพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติด้วยละก็ สวนที่เราจัดขึ้นมานอกจากจะได้ความภูมิใจแล้ว เรายังคงได้รับพลังธรรมชาติที่สอดคล้องและเกื้อกูลชีวิตในด้านต่างๆ อีกด้วย

การจัดสวนสามารถดึงเอาพลังธรรมชาติที่มีอยู่แล้วมาเกื้อกูลชีวิตได้ โดยการใช้หลักวิชาฮวงจุ้ยเข้ามาเป็นพลังเสริมให้สวนที่เราจัดมีความเป็นมงคลได้ ด้วยการใช้สีสันและประเภทของไม้ดอกไม้ใบที่เราจะปลูกให้ตรงกับทิศทางที่เราจะจัดสวน เพียงเท่านี้การจัดสวนของเรานอกจากจะให้ความสวยความ ความภูมิใจแล้ว ยังจะให้พลังมงคลมาเสริมชีวิตอีกด้วย

 

ก่อนที่เราจะเริ่มจัดสวนเพื่อเสริมมงคลชีวิตนั้นเราต้องทราบก่อนว่าทิศทางที่เราจะจัดสวนนั้นอยู่ในทิศอะไร วิธีที่จะทราบได้คือเราต้องยืนตำแหน่งกลางบ้าน หันหน้าไปที่หน้าบ้าน แล้วใช้เข็มทิศวัดองศาดูว่าทิศที่เราจะจัดสวนนั้นอยู่ในทิศอะไร (สามารถดูวิธีการใช้เข็มทิศได้ในกูเกิ้ล) เพียงเท่านี้เราก็สามารถจัดสวนเสริมมงคลชีวิตได้แล้วครับ

หากสวนของเราอยู่ในทิศเหนือ ทิศนี้เป็นทิศที่มีพลังธาตุน้ำ แน่นอนว่าเมื่อสวนอยู่ในทิศน้ำก็สามารถจัดวางน้ำล้น น้ำพุ น้ำผุด ฯลฯ ได้ แต่ต้องจัดวางให้สมดุลกับขนาดพื้นที่ รวมถึงรูปทรงให้เหมาะสมสวยงามด้วย ไม้ดอกที่จัดบริเวณนี้สามารถใช้ไม้ดอกสีขาว สีฟ้า สีอมน้ำเงิน ส่วนไม้ใบที่จะปลูกให้เป็นไม้ใบกลม หนา ดูอุ้มน้ำจะดีมากครับ ทิศนี้จะเสริมเรื่องพลังด้านการงานของท่าน

 

หากสวนของเราอยู่ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือหรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ ทิศนี้มีพลังเป็นธาตุดิน เมื่อพลังของทิศคือความแข็งแกร่ง เราก็สามารถจัดสวนหินเพื่อเสริมพลังของธาตุดินได้ สวนบริเวณนี้ควรมีความสว่าง มีแสงไฟยามค่ำคืนจะยิ่งดี ไม้ดอกควรมีสีสันโทนร้อน เช่น สีแดง สีชมพู สีม่วง สีเหลืองสด ส่วนไม้ใบจะใช้ไม้ใบที่มีความเรียวแหลมหรือไม้ใบที่ดูใหญ่แข็งแรง ทิศนี้จะเสริมพลังเรื่องการเรียนรู้ การเปิดกว้างและความสัมพันธ์ในชีวิต

หากสวนของเราอยู่ในทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทิศนี้มีพลังเป็นธาตุไม้ แน่นอนว่าทิศนี้ยิ่งปลูกต้นไม่ยิ่งดี ยิ่งต้นไม้มีความเขียวชอุ่มชุ่มชื่น มีดอกให้ชื่นชมยิ่งดี ทิศนี้ปลูกไม้ใบที่ดูสดชื่นสบายตาจะดีกว่าไม้ดอก ที่สำคัญทิศทางนี้ยังสามารถเสริมพลังของน้ำเพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้กับต้นไม้และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับสวนได้อีกด้วย ทิศนี้จะเสริมพลังเรื่องความสำเร็จและการเงิน

หากสวนของเราอยู่ในทิศตะวันตกหรือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ทิศทางนี้เป็นพลังธาตุโลหะ การจัดสวนทิศทางนี้จะเน้นสวนที่มีสัญลักษณ์ทรงกลม การตัดแต่งต้นไม้หรือการปลูกต้นไม้ควรจัดรูปทรงกลมจะเหมาะสมกับพลังของทิศทาง หากจะปลูกไม้ดอกก็ควรปลูกไม้ดอกสีขาวที่มีกลิ่นหอม จะช่วยเสริมพลังของสวนให้เป็นมงคลมากยิ่งขึ้น อีกทั้งสวนในทิศนี้สามารถจัดสวนหินสวนๆ หรือนำหินที่มีรูปทรงสวยงาม (ออกกลมมน) มาจัดวางเพิ่มความสวยงามได้ ทิศนี้จะช่วยเสริมพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และพลังของความอุปถัมภ์เกื้อกูล

หากสวนของเราอยู่ในทิศใต้ ทิศนี้มีพลังเป็นธาตุไฟ การจัดสวนจะเน้นความสว่าง แสงแดดส่องถึง ยามค่ำคืนก็ควรเปิดแสงไฟเพื่อกระตุ้นความเป็นมงคล ไม้ดอกที่เสริมพลังจะเป็นไม้ดอกสีแดง สีส้ม สีเหลืองสด สีม่วง สีชมพู ไม้ใบสีเขียวที่ดูสวยงามก็เสริมพลังในทิศนี้ด้วยเช่นกัน ทิศนี้ส่งผลใดด้านเครดิตและการยอมรับจากสังคม

หากสวนของท่านอยู่ในทิศกึ่งกลางบ้าน (ซึ่งโดยปกติเราไม่ควรจัดสวนอยู่กลางบ้าน) การจัดสวนกลางบ้านต้องใช้ความสมดุลของพลังเข้าช่วยเป็นสำคัญ เพราะพลังกึ่งกลางบ้านถือเป็นหัวใจของบ้านหากจัดสวนแล้วไม่ก่อเกิดพลังหรือไม่มีความสมดุลอาจก่อเกิดปัญหากับชีวิตของคนในบ้านได้ครับ ตรงนี้ผมขออนุญาตข้ามไปเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ

จะเห็นว่าการจัดสวนที่ดีก็สามารถเสริมสร้างพลังมงคลให้แก่ชีวิตได้เช่นกัน เมื่อเราทราบเทคนิคเบื้องต้นในการเลือกต้นไม้แล้วและการจัดสวนตามหลักฮวงจุ้ยแล้วจะรออะไรอยู่ละครับ มาจัดสวนเพื่อเสริมมงคลชีวิตให้กับตัวเองกันเถอะครับ….

เขียนโดย : อ.เก่ง เสริมชีวิต (พัศญ์ศภณ โยธินธรรมธร)


8 เรื่องน่ารู้ ที่โทรศัพท์มือถือ ส่งผลทั้งต่อร่างกายและจิตใจของคุณ จงระวัง!!

ในปัจจุบัน โทรศัพท์มือถือดูเหมือนจะกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของมนุษย์ไปซะแล้ว เพราะมันเป็นทั้งที่ตรวจงาน เป็นสื่อบันเทิง สื่อการเรียนรู้ และจุดเชื่อมโยงทางสังคมให้กับคนทุกเพศทุกวัย

ด้วยความที่ชีวิตประจำวันของเราถูกผูกติดกับโทรศัพท์มือถือตลอดเวลา นั่นอาจเป็ารทำร้ายสุขภาพได้อย่างไม่รู้ตัว และนี่คือเหตุผลที่คุณควรระวัง

 

1. รบกวนการนอนที่เป็นปกติ

คลื่นสั้น และแสงสีน้ำเงินที่ปล่อยออกมาจากโทรศัพท์มือถือ จะรบกวนการนอนหลับของคุณ ทั้งยังยับยั้งการผลิตเมลาโทนินซึ่งจะช่วยให้คุณหลับได้ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเล่นโทรศัพท์ ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 30 นาที

 

2.ทำให้คุณกลายเป็นคนขี้กังวล และหลุดโฟกัส

สัญญาณแจ้งเตือนใหม่บนโทรศัพท์ของคุณอาจทำให้ความสามารถในการโฟกัสไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งลดน้อยลง ทั้งยังทำให้คุณรู้สึกว้าวุ่นใจได้เสมอ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ควรเปิดโหมด “ห้ามรบกวน” บ้างในระหว่างวันเพื่อไม่ให้คุณจดจ่อกับโทรศัพท์มากเกินไป

 

3. ทำให้เกิดอาการปวดข้อมือ

ปัจจุบันชาวอเมริกันส่วนใหญ่ใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมงในการเล่นมือถือ และเกิดอาการเจ็บหรือปวดตามข้อศอกและข้อมือ เนื่องจากกิจกรรมนี้ต้องใช้กล้ามเนื้อส่วนดังกล่าวติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน

 

4. แหล่งสะสมเชื้อโรค

มือถือส่วนใหญ่เป็นแหล่งรวบรวมเชื้อโรคนับสิบชนิดที่โดยมากมักพบตามห้องสุขา Charles Gerbaนักชีววิทยามหาวิทยาลัยอริโซนากล่าวว่า เพื่อสุขอนามัยที่ดี คุณควรใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดทุกวัน

 

5. ทำให้เมมโมรี่ความจำในสมองของคุณน้อยลง

ในเมื่อปัจจุบันนี้ ทุกคนบันทึกทุกสิ่งอย่างและเก็บรวบรวมมันไว้ในมือถือทั้งสิ้น ทำให้สมองส่วนความจำทำหน้าที่น้อยลง นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณสามารถจำสิ่งต่างๆ ได้น้อยลงด้วย

6. ทำร้ายดวงตาของคุณ

การเล่นมือถือนานๆ ส่งผลให้ดวงตาของคุณล้า ตาเเห้ง พร่ามัว และมีการระคายเคือง เนื่องจากการต้องจดจ้องกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นเวลานาน ทางที่ดีควรกระพริบตาบ่อยๆ เพิ่มขนาดตัวอักษร และละเว้นจากหน้าจอทุกๆ 20 นาที

 

7. เป็นอันตรายในขณะเดินทาง

ทุกวันนี้เรามักเห็นคนที่ใช้โทรศัพท์ไปด้วย เดินทางไปด้วยไม่ว่าจะด้วยพาหนะหรือการเดินด้วยเท้า สิ่งเหล่านี้ทำให้ความระมัดระวังลดน้อยลง และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มากยิ่งขึ้น

 

8. กลายเป็นเรื่องที่ยากมากยิ่งขึ้นเมื่อขาดโทรศัพท์

การวางโทรศัพท์หรือไม่เล่นโทรศัพท์เป็นระยะเวลานานๆ กลายเป็นปัญหาสำหรับคนในยุคนี้ เนื่องจากการเสพติดการเล่นมือถือ

เมื่อต้องห่างจากโทรศัพท์ สมองของคุณจะปล่อยฮอร์โมนความเครียดซึ่งไม่ดีกับทั้งร่างกายและจิตใจ สิ่งที่ควรทำคือ ค่อยๆ ห่างจากโทรศัพท์ทีละน้อย หันไปทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย

ไม่ว่าอะไรก็ตามหากทำมากเกินไปหรือน้อยเกินไปย่อมไม่ส่งผลดี โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากในยุคนี้ก็จริง แต่อย่าลืมวางหน้าจอแล้วหันมาคุยกับคนรอบข้างบ้างนะ 🙂

ขอบคุณที่มา scholarship.in.th


ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 20 กันยายน 2561

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง ราคาขาย/บาท ราคารับซื้อ/บาท ราคารับซื้อ/กรัม
ทองคำแท่ง 96.5% 18,550.00 18,450.00 n/a
ทองรูปพรรณ 96.5% 19,050.00 18,116.20 1,195.00
ทองรูปพรรณ 99.99% n/a 18,768.08 1,238.00
ทองรูปพรรณ 90% n/a 16,304.58 1,075.50
ทองรูปพรรณ 80% n/a 14,492.96 956.00
ทองรูปพรรณ 50% n/a 8,156.08 538.00
ทองรูปพรรณ 40% n/a 6,336.88 418.00

ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 20 กันยายน 2561

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 30.65 30.95 30.95 30.65 30.65 30.65 30.65 30.65 30.65 30.65
แก๊สโซฮอล์ 91 30.38 30.68 30.68 30.38 30.38 30.38 30.38 30.38 30.38 30.38
แก๊สโซฮอล์ E20 27.64 27.94 27.94 27.64 27.64 27.64 27.64 27.64 27.64
แก๊สโซฮอล์ E85 21.64 21.79 21.64 21.64
เบนซิน 95 37.76 38.21 38.26 38.06 37.86 38.06
ดีเซล 29.59 29.89 29.89 29.59 29.59 29.59 29.59 29.59 29.59 29.59
ดีเซลพรีเมี่ยม 32.59 33.76 33.76 33.46 33.46
แก๊ส NGV 15.13 15.13
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า