ส่องเทรนด์อสังหา เกาะแนวรถไฟฟ้า-เจาะกลุ่มผู้สูงวัย
จากการขยายตัวของสังคมเมืองทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยยังมีโอกาสเติบโตทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และภูมิภาค ประกอบกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะด้านการคมนาคมส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และจีดีพีของประเทศให้เติบโตยิ่งขึ้น สอดคล้องกับแนวคิดของนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่มองว่าเทรนด์ของอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันจะเกาะตามแนวเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ
อสังหาฯ ไตรมาสแรกโต 3.3%
ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีความสำคัญเป็นอันดับที่ 4 รองจากอุตสาหกรรมขนส่งต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ หรือจีดีพี คิดเป็นสัดส่วน 8.0 ของมูลค่าจีดีพี และหากรวมภาคก่อสร้างจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 11.0 ของจีดีพี มีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากมาย อาทิ ภาคการผลิต, ภาคการบริการ, การก่อสร้าง, การจ้างงาน, วัสดุก่อสร้าง โดยในไตรมาส 1 ปี 2560 ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโต 3.3% และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และภูมิภาค
แนวโน้มอสังหาฯ โตจากเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ
โอกาสในการเติบโตของอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มาจากการลงทุนเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างชัดเจน โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมและทาวน์โฮมตามแนวรถไฟฟ้า
นอกจากนี้ในส่วนภูมิภาคยังได้รับอานิสงส์จากโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี เพื่อพัฒนาให้ที่ตั้งของ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเฉพาะใน จ.ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และระยอง โดยจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของชุมชน และเกิดชุมขนใหม่ ๆ ตามมา เป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่น่าจับตาเป็นพิเศษ รวมถึงพื้นที่ใน จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากการเข้าสู่สมาร์ตซิตี้ ซึ่งจะส่งผลให้ภูเก็ตเป็นทำเลทอง และอาจมีชุมชนใหม่เกิดขึ้นตามมา ถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการ จากความต้องการโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เช่น อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงงาน โครงการที่พักอาศัย
3 สายรถไฟฟ้า ทำเลทอง
ปัจจุบันภาครัฐมีโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ หลายสาย ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดการขยายตัวของเมือง และที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น ได้แก่
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ มีความคืบหน้าในการก่อสร้างอย่างชัดเจน โดยคาดว่าช่วงหัวลำโพง-บางแค จะเปิดให้บริการเดือนกันยายน 2562 ส่วนช่วงบางซื่อ-ท่าพระ จะเปิดให้บริการ เดือนมีนาคม 2563 ซึ่งจะทำให้ทำเลดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ใกล้เมือง เป็นชุมชนขนาดใหญ่ คอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าสายนี้ยังมีไม่มากนัก จึงเป็นโอกาสเติบโตได้อีกมาก
รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงสำโรง-เคหะสมุทรปราการ ปัจจุบันก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2561 ซึ่งจุดแข็งของทำเลสมุทรปราการ คือเป็นชุมชนหนาแน่น มีโรงงานอุตสาหกรรม และค้าปลีกขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับโครงการแนวราบ เช่น ทาวน์โฮม และสำนักงาน ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต อยู่ในช่วงการเร่งก่อสร้าง โดยช่วงหมอชิต-ห้าแยกลาดพร้าว คาดว่าจะเปิดใช้บริการปี 2562 และจากช่วงห้าแยกลาดพร้าว-คูคต คาดว่าจะเปิดบริการปี 2563
รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) จะเป็นจุดเชื่อมต่อใหม่ของคนกรุงเทพฯ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าถึง 6 สาย โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ 22 สถานี โดยจุดที่น่าสนใจคือ บริเวณ ถ.เกษตร-นวมินทร์ ของแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล คือย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ ที่เป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในการพัฒนาที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาเป็นศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมของโครงการ
อสังหาฯ พร้อมใจพัฒนาโครงการบ้านเพื่อสูงอายุ
จับตาเทรนด์บ้านเพื่อผู้สูงอายุ
อีกหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจสำหรับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คือ การจับตลาดที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในอีก 5-6 ปีข้างหน้าไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ทำให้อนาคตการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย มีทิศทางขยายตัวต่อเนื่อง ตลาดบ้านพักผู้สูงวัยระดับหรูสำหรับกลุ่มสูงวัยต่างชาติที่มีกำลังซื้อ เนื่องจากไทยมีค่าครองชีพไม่สูงนัก ในขณะที่การดูแลด้านการพยาบาลมีคุณภาพดี ทำให้ผู้สูงวัยต่างชาติต้องการเข้ามาใช้ชีวิตหลังเกษียณในไทย
กระทรวงการคลัง มีนโยบายเพื่อรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในอนาคต โดยมีแผนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยโดยใช้ที่ดินราชพัสดุของกรมธนารักษ์ไม่ว่าจะเป็นสมุทรปราการ นครนายก ประจวบฯ และเชียงใหม่ โดยมีสถาบันการเงินของรัฐ สนับสนุนสินเชื่อผ่อนปรนทั้งกับผู้พัฒนาโครงการ (Pre Finance) และผู้อยู่อาศัยในโครงการ (Post Finance)
จากแนวโน้มดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการพัฒนาภาคอสังหาริมทรัพย์นอกจากจะช่วยดึงให้ภาคเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตยิ่งขึ้นแล้ว ยังตอบโจทย์ประชาชนทั้งในปัจจุบันที่ต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลที่เดินทางสะดวก และอนาคต ในการสร้างที่อยู่อาศัยยามแก่เฒ่า ซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่ให้ประโยชน์รอบด้านอย่างแท้จริง
http://www.ddproperty.com
เมเจอร์ฯชี้ คอนโดตลาดบนโต แรงหนุนต่างชาติซื้อบิ๊กล็อต
อสังหาฯ ครึ่งปีหลังฟื้น รายใหญ่แห่เปิดโครงการ เมเจอร์ฯชี้ดีมานด์คอนโดตลาดบนโต กำลังซื้อนักลงทุนต่างประเทศซื้อบิ๊กล็อต เปิดตัว 2 โปรเจคใหม่ “มารุ” ลาดพร้าว-เอกมัย
นายสุริยา พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าธุรกิจอสังหาฯครึ่งปีหลังมีแนวโน้มฟื้นตัว สะท้อนจากการเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่มีจำนวนโปรเจคครึ่งปีหลังมากกว่า 6 เดือนแรก
ปีนี้บริษัทวางแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ 8 โครงการ โดยอยู่ในช่วงครึ่งปีหลัง 7 โครงการ รวมมูลค่า 11,000 ล้านบาท คาดปีนี้ทำยอดขายได้ 7,000 ล้านบาท
“มองว่าตลาดอสังหาฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและอยู่ในช่วงฟื้นตัว โดยเฉพาะคอนโด ที่ยังมีดีมานด์ต่อเนื่องทั้งตลาดไทยและต่างชาติ”
แม้ตลาดมีความกังวลเรื่องตัวเลขธนาคารปฏิเสธสินเชื่อที่อยู่อาศัย(รีเจค) ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มตลาดกลางและล่าง แต่พบว่าคอนโดตลาดบน ที่ระดับราคา 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. ขึ้นไป ไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เช่นเดียวกับเมเจอร์ฯ ที่การทำตลาดในกลุ่มดังกล่าวไม่พบอัตรารีเจค
นายสุริยา กล่าวอีกว่าปัจจุบันภาพรวมคอนโดระดับบน ที่ราคา 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. หรือยูนิตละ 4-5 ล้านบาท, กลุ่มลักชัวรี ราคา 2-2.5 แสนบาทต่อตร.ม. และซูเปอร์ลักชัวรี ราคา 3 แสนบาทต่อตร.ม. ขึ้นไป ในทำเล สุขุมวิท พหลโยธิน ลาดพร้าว ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ ซึ่งมีมีอัตราผลตอบแทนการปล่อยเช่าที่ 6-7%
เดือน ก.ย.นี้ บริษัทเปิดพรีเซล 2 โครงการแบรนด์“มารุ” ทำเลลาดพร้าว อาคาร 30 ชั้น จำนวน 332 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,877 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.5 แสนบาทต่อตร.ม. คาดก่อสร้างแล้วเสร็จ มิ.ย.2564 และทำเลเอกมัย อาคาร 32 ชั้น จำนวน 371 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,522 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 1.89 แสนบาทต่อตร.ม. คาดก่อสร้างแล้วเสร็จ ส.ค.2564
ทั้งนี้ โครงการที่เปิดพรีเซลช่วงครึ่งปีหลังวางเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 40% ซึ่งหลังปิดการขายราคาโครงการจะปรับขึ้นเฉลี่ย 15%
ต้นปีหน้าบริษัทร่วมทุน“ เอ็มเจดี-เจวี1”ที่เมเจอร์ฯถือหุ้น 51% ร่วมกับกลุ่มทุนสิงคโปร์และฮ่องกง เพื่อลงทุนคอนโด ซูเปอร์ ลักชัวรี ทำเลสวนลุม-พระราม4 ราคา 3 แสนบาทต่อตร.ม. มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะได้รับความสนใจกลุ่มกำลังซื้อสูงในไทยและตลาดต่างประเทศ
นายสุริยา กล่าวว่าปัจจุบันเห็นกำลังซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศเริ่มกลับมาซื้อโปรเจคต่างๆของบริษัทมากขึ้น ทั้งการซื้อแบบรายย่อยและการซื้อบิ๊กล็อตของรายใหญ่ จากนักลงทุนจีน ฮ่องกงและสิงคโปร์ ส่วนใหญ่เป็นการซื้อเพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่า
ปัจจุบันโครงการต่างๆ ของบริษัทที่อยู่ในทำเลต่างชาติสนใจ มีเอเย่นต์ต่างชาติเข้ามาเสนอซื้อบิ๊กล็อต 20-30 ห้อง โครงการล่าสุด มารุ เอกมัย ได้รับความสนใจจากเอเย่นต์ต่างชาติเช่นกัน โดยเจรจาซื้อจำนวนห้อง 40% ของโครงการ แต่บริษัทกำหนดสัดส่วนกลุ่มต่างชาติไว้ที่ 20-30% ของโครงการเท่านั้น เพราะการซื้อบิ๊กล็อตต้องให้ข้อเสนอส่วนลดมากกว่ารายย่อย และต้องการกันยูนิตขายไว้ให้ตลาดไทย ที่ตลาดบนยังมีดีมานด์ต่อเนื่อง
สำหรับกำลังซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศในตลาดอสังหาฯ กลุ่มหลักมาจาก สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน เนื่องจากเห็นว่าตลาดอสังหาฯไทย โดยเฉพาะคอนโดในทำเลเมือง ยังให้ผลตอบแทนสูง
ในธุรกิจอสังหาฯ การเลือกทำเลและจับตลาดให้ถูกต้อง เป็นสิ่งสำคัญ เมเจอร์ฯจับตลาดลูกค้าระดับบนเป็นรายแรกๆ ตั้งแต่ช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ ที่ไม่มีใครกล้าเปิดโครงการ แต่บริษัทเห็นศักยภาพตลาดบนที่ยังเติบโตได้
“เชื่อว่าปัญหาฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาฯจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะธนาคารเข้มงวดปล่อยสินเชื่อ”
http://www.bangkokbiznews.com
BOI แนะนักธุรกิจไทยขยายการลงทุนใน 5 ประเทศตลาดใหม่ ลดความเสี่ยงภายในประเทศ
นายโชคดี แก้วแสง รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยภายในงาน สัมมนา “โอกาสการลงทุนไทยในประเทศตลาดใหม่: สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เอธิโอเปีย อินเดีย แอฟริกาใต้ และแทนซาเนีย”ว่า การสัมมนาครั้งนี้ บีโอไอ โดยกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ ได้นำเสนอผลการศึกษาโอกาสการลงทุนใน 5 ประเทศดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมข้อมูลเชิงลึกทุกด้าน อาทิ พื้นฐานทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง กฎระเบียบ ตลอดจนอุปสรรคและข้อควรระวัง ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่นักลงทุนไทย เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน
ทั้ง 5 ประเทศ อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และบีโอไอเห็นว่ามีศักยภาพทางการตลาดที่นักลงทุนไทยควรขยายการลงทุนไปยังกลุ่มประเทศตลาดใหม่ นอกเหนือจากการลงทุนในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และประเทศในอาเซียน
“ศักยภาพที่พร้อมรองรับการลงทุนของทั้ง 5 ประเทศไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม การลงทุนในต่างประเทศจะช่วยลดต้นทุนการผลิต ประกอบกับการใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการต่างๆ ของประเทศเป้าหมายที่ต้องการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ สิ่งเหล่านี้จะทำให้นักลงทุนไทยลดความเสี่ยงจากการลงทุนภายในประเทศแต่เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามแต่ละประเทศต่างก็มีความท้าทาย และปัญหาอุปสรรคต่างกัน ซึ่งผลการศึกษาของบีโอไอครั้งนี้ จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนได้ใช้ศึกษาความเป็นไปได้ก่อนตัดสินใจต่อไป” นายโชคดี กล่าว
นางสาวอรสา ไพบูลย์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศ บีโอไอ กล่าวว่า ภายในงานสัมมนาครั้งนี้ บีโอไอได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการค้าการลงทุนในแต่ละประเทศร่วมให้ข้อมูล ถ่ายทอดประสบการณ์ และข้อแนะนำแก่นักลงทุนอีกด้วย
ทั้งนี้ความน่าสนใจของแต่ละประเทศ สรุปได้ดังนี้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศที่มีรายได้สูงที่กำลังลดการพึ่งพารายได้จากน้ำมัน และมุ่งส่งเสริมธุรกิจในสาขาอื่นๆ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับการลงทุนและแรงงานจากต่างชาติ
เอธิโอเปีย มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง โดยธนาคารโลก ประเมินว่าในปี 2560 จะเติบโตด้วยอัตราก้าวกระโดดเป็นอันดับ 1 ของโลก ที่ 8.3%
อินเดีย มีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพสูง มีจำนวนประชากรมากถึง 1,300 ล้านคน สะท้อนถึงตลาดในประเทศขนาดมหาศาล โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ในประเทศที่กำลังเติบโต และยังมีอุตสาหกรรมสนับสนุนจำนวนมากในราคาถูก เช่น เหล็ก ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตสำหรับภาคอุตสาหกรรม
แอฟริกาใต้ มีความพร้อมของทรัพยากร มีที่ดินอุดมสมบูรณ์ มีความง่ายในการเริ่มทำธุรกิจ และเปิดกว้างสำหรับการลงทุนจากต่างประเทศ อีกทั้งยังมีศักยภาพทางด้านการแปรรูปสินค้าเกษตรและประมง รวมถึงการเป็นฐานการผลิตของบริษัทยานยนต์หลายรายเพื่อส่งไปจำหน่ายในยุโรป และประเทศอื่น ๆใกล้เคียง จึงเหมาะต่อการลงทุนในกิจการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
แทนซาเนีย มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก การแปรรูปพืชผลทางการเกษตร การประมง และการแปรรูปสัตว์น้ำ
ปัจจุบัน บีโอไอได้ศึกษาโอกาสและลู่ทางการลงทุนที่เป็นข้อมูลเชิงลึกสำหรับนักลงทุนไทย เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ครอบคลุมกลุ่มประเทศ แอฟริกา เอเชียกลาง เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง รวมแล้วกว่า 25 ประเทศ
http://www.ryt9.com
วิธีแก้ปัญหาคอมฯ ช้าแบบง่ายๆ ที่ทำได้ด้วยตัวเอง
หลายคนคงเคยประสบปัญหาการเปิดคอมพิวเตอร์แล้วกว่าจะพร้อมใช้งานได้ ขนาดเดินไปเข้าห้องน้ำก็แล้ว ชงกาแฟก็แล้ว วินโดว์ยังหมุนติ้วๆ อยู่เลย ซึ่งโดยมากแล้ว ถ้า PC อืดลงอย่างเห็นได้ชัด สาเหตุมักจะไม่ได้มาจากฮาร์ดแวร์ แต่มักเป็นปัญหาของซอฟต์แวร์ต่างหากที่กำลังบั่นทอนศักยภาพของเครื่องและทำให้คุณเสียเวลา
หากคุณกำลังประสบปัญหาคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลง ใช้แล้วรู้สึกอืดๆ กว่าแรกๆ วันนี้ทีวีไดเร็กขอเสนอ ไม่ใช่! เข้าเรื่องกันดีกว่าเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนที่ใช้ PC น่าจะต้องเจอกับปัญหานี้อย่างแน่นอน วันนี้ไทยแวร์นำบทความเกี่ยวกับการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ของเราให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่เสมอ
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ PC อืด?
โปรแกรมทั้งหลายที่อยู่ในเครื่องยังไงล่ะ!
นึกภาพ PC เป็นรถยนต์ยิ่งผู้โดยสารมาก รถก็ยิ่งหนัก และวิ่งได้ช้าลง แถมใช้กำลังมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตอนออกตัวหรือขับขึ้นเขา สำหรับโลกดิจิตอลแล้วพวกโปรแกรมอย่าง Offices, iTunes หรือ Adobe Reader คือน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นมา
driver เก่า
driver เป็นตัวควบคุม hardware ต่างๆ เช่น mainboard, wireless และ graphics card ถ้า driver มันเก่ามากหรือขาดหายไป ความเร็วของส่วนนั้นอาจจะเหลือเพียงครึ่งเดียว เรียกง่ายๆ ว่าทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ
ข้อมูล disk กระจัดกระจาย
หลายคนเก็บข้อมูลแบบไม่เป็นที่เป็นทาง ไว้โน่นบ้างไว้นี่บ้าง ทำให้อุปกรณ์ hard disk ที่เป็นตัวเก็บข้อมูลอาจจะเต็ม หรือข้อมูลไม่ได้รับการจัดให้เป็นระเบียบ (Fragmentation)
ความร้อนสูงเกิน
สำหรับข้อนี้เป็นปัญหาของ hardware ล่ะ ถ้าอุปกรณ์ต่างๆ คลุกฝุ่นหรืออยู่ใกล้กับความร้อนจากภายนอก มันมีความเสี่ยงที่จะทำให้อุปกรณ์เสียหายได้
แล้วเราควรจะทำยังไงล่ะ?
ปิดโปรแกรม startup ไม่จำเป็นที่ดึงให้เครื่องช้าลง
เปิด task manager ขึ้นมา (ctrl+alt+delete) คลิกเมนู startup พิจารณาโปรแกรมต่างๆ ว่าอันไหนเราไม่ได้ใช้ หรือเห็นว่ามันไม่จำเป็นต้องเปิดอัติโนมัติทุกครั้งเมื่อเปิดเครื่อง ให้คลิกขวาและเลือกเป็น disable ไปจะดีกว่า
อัพเดท driver เก่าๆ
โดยปกติจะหาโหลด driver ได้จาก website ของบริษัทยี่ห้ออุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งสามารถ search ดูได้เลย
Defrag และทำความสะอาดไฟล์ใน PC
การทำ Defrag ฮาร์ดดิสก์หรือ Disk Defragmenter คือการจัดเรียงข้อมูลของไฟล์ต่างๆ ที่เก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก์ให้เป็นระบบ การติดตั้ง ถอนติดตั้ง คัดลอกหรือย้ายไฟล์ต่างๆ ยิ่งนานวันจะทำให้ data blocks ที่เก็บอยู่ใน drive ของ PC ไม่เป็นระเบียบ ยิ่งมันกระจัดกระจาย เวลาเราจะเปิดไฟล์หรือแฟ้มไหน เครื่องก็จะใช้เวลาในการเปิดใช้งานนานยิ่งขึ้น วิธีแก้ไขเบื้องต้นทำได้โดยการคลิก start > find และพิมพ์ว่า defrag กด enter แล้วเลือกกด optimize ให้ครบทุกไดร์ฟที่ปรากฏ สิ่งที่จะได้รับจากการ Defrag คือความเร็วในการอ่านข้อมูลของไฟล์นั้น ทำให้มีการอ่านข้อมูลได้เร็วขึ้น
แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น เราขอแนะนำให้จัดการกับ temporary files ทั้งหลายด้วย มันคือไฟล์ที่หลงเหลือจากการใช้งานโปรแกรมต่างๆ ในเครื่อง ซึ่งโดยปกติแล้วเราไม่สามารถมองเห็นได้ ทางจัดการที่ง่ายที่สุดคือใช้โปรแกรมจำพวกโปรแกรมสแกนไรรัส โปรแกรมลบ ตรวจจับไวรัส มัลแวร์ ที่จะช่วยสแกนไฟล์ที่มองไม่เห็นเหล่านี้ รวมถึงไฟล์อื่นๆ ที่มีผลทำให้เครื่องช้าลงอีกด้วย ก็จะทำให้เครื่องทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทำความสะอาดเครื่อง
ให้ลองฟังเสียงพัดลมของ PC ดูว่าดังจนเหมือนเครื่องดูดฝุ่นหรือเปล่า? หรือเอามือไปจับแล้วร้อนจนผิดปกติไหม หากเป็นดังที่กล่าวมาข้างต้นให้ทำการปิดเครื่อง ถอดปลั๊ก เปิดเคสแล้วทำความสะอาดฝุ่นที่เกาะอยู่ด้านในออก รวมถึงพัดลมด้วยที่มักจะมีฝุ่นจับหนา แต่ไม่ใช่ว่าทำเพียงครั้งเดียวแล้วจะจบ ควรหมั่นทำความสะอาดเป็นระยะๆ อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้เราก็จะได้เครื่องที่เร็วกลับมาใช้งานได้ดังเดิม
https://news.thaiware.com
Tip เมื่อถูกชาวต่างชาติถามเส้นทาง ทำไงดี!!
เคยเป็นกันไหมครับ เมื่อถูกชาวต่างชาติเข้ามาถามเรื่องเส้นทาง แต่ไม่สามารถตอบได้ ทั้งทีรู้เส้นทางเป็นอย่างดี แต่ตอบไม่ได้ เนื่องจากนึกคำศัพท์ไม่ออก หรือ เรียงประโยคตำตอบไม่ได้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงเคยเจอสถานการณ์อย่างนี้ งั้นวันนี้เรามาเรียนรู้คำศัพท์ที่ใช้สำหรับการบอกเส้นทาง และประโยคการบอกเส้นทางง่ายๆ เมื่อถูกชาวต่างชาติเข้ามาถามเรื่องเส้นทางกันครับ
** คำศัพท์ **
Go straight (โกสเตรท์) – ตรงไป Turn right (เทิรน์ไรท์) – เลี้ยวขวา
Turn left (เทิรน์เล็ฟท์) – เลี้ยวซ้าย Right side (ไรท์ไซด์) – ฝั่งขวา
Left side (เล็ฟท์ไซด์) – ฝั่งซ้าย Between (บีทวีน)-อยู่ระหว่าง
Across from (อะครอสฟรอม) – ตรงข้าม Next to (เน็กซท์ทู) – ข้างๆ
Around (อะเราน์ดฺ) – ใกล้ๆ
At the corner (แอ๊ทเดอะคอร์เนอร) – ตรงหัวมุม
**บอกเส้นทางโดยให้เดินไป
Go straight ahead as far as the traffic lights. Then turn right .
( โก สเตร้ท อะเฮด แอส ฟา แอส เธอะ แทรฟฟิก ไล้ส เธน เทิน ไร้ท )
เดินตรงไป จนถึงสัญญาณ ไฟจราจร แล้วเลี้ยวขวา
บอกจุดเริ่มต้น = You are here .
( ยู อาร์ เฮีย )
คุณอยู่ตรงนี้
When you go out of the hotel……..
( เว็น ยู โก เอ้า อ๊อฟ เธอะ โฮเทล)
เมื่อคุณออกจากโรงแรม…. จากนั้นก็ต่อด้วยข้อความต่อไปนี้
– ข้ามถนน = Cross over the road.
– เดินตรงไป = walk along the road / Walk straight on / Go straight on.
– เดินผ่านโรงเรียน = Walk pass the school / Go pass the school.
– เดินไปประมาณ 5 นาที = Walk for about 5 minutes
– สี่แยก = Intersection / crossroads
– สามแยก = Junction
– ไฟจราจร = Traffic lights
– สุดถนน = at the end of the road.
– ข้างขวา / ข้างซ้าย = on your right / left
– ติดกับโรงเรียน = next to school
– ก่อนถึงโรงเรียน = just before school
– มุมถนน = at the corner
**บอกเส้นทางโดยให้ใช้รถแท็กซี่
– You can catch a taxi / take a taxi . It will take you there in 5 minutes.
( ยู แคน แคช อะ แท็คซิ / เทค อะ แท็คซิ อิท วิวล์ เทค ยู แดร์ อิน เทน มินิทส )
คุณสามารถไปรถแท็กซี่ และจะพาคุณไปที่นั่นใน 5 นาที
**บอกเส้นทางโดยใช้รถประจำทาง
Take a number 540 bus. That’ll take you pass…(บอกสถานที่ ) and then you get off at…
(เทค อะ นัมเบอร์ 540 บัส แธทอิล เทค ยู พาสท……… แอนด์ เธน ยู เกท ออฟ แอท
ไปรถประจำทางเบอร์ 540 ก็จะผ่าน….(สถานที่) จากนั้นลงรถที่….. (บอกสถานที่)
สำนวนที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้รถประจำทาง
– ขึ้นรถ = take / catch / get on
( เทค / แคช / เกท ออน
– ลงรถ = get off.
( เกท ออฟ )
– เบอร์รถ = bus number 540 / a number 540 bus
( บัส นัมเบ่อร์ 540 / อะ นัมเบ่อร์ 540 บัส )
(ข้อสังเกต เมื่อใช้ bus number 21 จะไม่มี article ‘ a ‘ นำหน้า)
– ป้ายรถเมล์ = bus stop
( บัส สตอพ )
– รถแล่นผ่านอะไรบ้าง = It will take you pass………
( อิท วิว เทค ยู พาส ) บอกสถานที่ว่าผ่านอะไร?
เป็นยังไงกันบ้างครับ ที่นี้ก็พอจะทราบกันแล้วใช่ไหมครับ ถ้าหากกถูกถามเรื่องเส้นก็สามารถนำคำศัพท์ หรือประโยคเหล่านี้มาใช้ได้
http://undifteach.blogspot.com
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 23/08/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง |
ราคารับซื้อต่อกรัม |
ราคารับซื้อ/บาท |
ราคาขายออก/บาท |
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 20,150.00 | 20,250.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,305.00 | 19,783.80 | 20,750.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,174.50 | 17,805.42 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 587.00 | 8,898.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 457.00 | 6,928.12 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,352.00 | 20,496.32 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 23/08/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ หน่วย : บาท/ลิตร |
||||||||||
ปตท PTT |
บางจาก BCP |
เชลล์ Shell |
เอสโซ่ Esso |
คาลเท็กซ์ Caltex |
ไออาร์พีซี IRPC |
พีทีจี เอนเนอยี่ PTG |
ซัสโก้ Susco |
ระยองเพียว Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์ SUSCO Dealers |
|
แก๊สโซฮอล 95 | 26.65 | 26.65 | – | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 | 26.65 |
แก๊สโซฮอล E-20 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 | – | 24.14 | 24.14 | 24.14 | 24.14 |
แก๊สโซฮอล E-85 | 19.94 | 19.94 | – | – | – | – | 19.94 | 19.94 | – | |
แก๊สโซฮอล 91 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 | 26.38 |
เบนซิน 95 | 33.76 | – | – | 34.21 | 34.21 | – | 34.26 | 33.76 | 33.76 | 33.76 |
ดีเซลหมุนเร็ว | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 | 25.19 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม | 27.69 | 28.37 | 28.37 | 28.37 | 28.37 | – | – | – | – | – |
มีผลตั้งแต่ | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 | 19 Aug 05:00 |