ทรัพย์มือ 2 เบียดบ้านใหม่ ‘กิ่งแก้ว-ช้างเอราวัณ-เมืองทอง’ฮอต
ตลาดบ้านมือสองแรง เบียดตลาดมือหนึ่ง เผย 3 ทำเลทอง กิ่งแก้ว-ช้างสามเศียร-เมืองทองธานี คนซื้อมากสุด เหตุราคาถูกทำเลใกล้เมืองกว่า
บ้านมือสองยังได้รับความสนใจผู้ซื้อสะท้อนจากยอดขายในงาน “NPA Grand Sale & Home Loan 2019” เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม-1 กันยายน 2562 มียอดขายกว่า2,000 ล้านบาทสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อได้ 1,500 ล้านบาท เนื่องจาก 1.ราคาถูก 2.พื้นที่ใช้สอยใหญ่ 3. ทำเลเลือกได้ ตามต้องการ เมื่อเทียบกับบ้านใหม่ที่สำคัญสภาพไม่ต่างจากโครงการใหม่ทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบ
เกิดจากความต้องการที่อยู่อาศัยใหม่ครอบครัวใหญ่ขึ้นหรือไม่ก็ย้ายที่ทำงาน ภูมิลำเนาบางราย ไม่พึงพอใจบ้านหลังเดิมอาจเกิดจากรูปแบบไม่ตรงตามต้องการรวมถึงข้อจำกัดจากสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ ทำเลลูกค้าซื้อมากที่สุดมี 3 ทำเล ได้แก่ 1. กิ่งแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ 2.ช้างเอราวัณ จังหวัดสมุทรปราการ 3.เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี กลายเป็นทำเลยอดนิยมบ้านมือสองในทันที ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ติดถนนสายหลัก รถไฟฟ้า ที่ตั้งโครงการขยับเข้าใกล้เมืองมากขึ้น ขณะบ้านใหม่ทำเลเดียวกัน จะขยับไกลออกไป เนื่องจากราคาที่ดินแพง ตั้งอยู่ในซอยลึก หรือไม่ก็ห่างไกลจากจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า รถโดยสารสาธารณะแต่กลับมีราคาขายที่สูง ขนาดพื้นที่ใช้สอยเล็กกว่า
นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานบริหาร บริษัทอีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ERA สะท้อนว่า ปัจจุบันมีการซื้อขายเปลี่ยนมือที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ส่งผลให้บ้านใหม่กลายเป็นบ้านมือสอง เพิ่มขึ้นตลอดเวลา เช่นเดียวกับ สินทรัพย์รอการขายจากธนาคาร หลายหน่วยมีสภาพที่ดี ทำเลในเมืองสามารถเลือกสินค้าได้ตรงใจเพียงนำไปตกแต่งเพียงเล็กน้อยหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้
นายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า ผลจากการจัดงาน NPA Grand Sale & Home Loan 2019 ที่ผ่านมาสะท้อนว่า แม้อยู่ในช่วงเศรษฐกิจยังชะลอตัวมีปัจจัยลบเป็นอุปสรรค แต่ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวกับทาวน์เฮาส์ราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่ง 30-50% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะมียอดขายหลังงานอีกจำนวนหนึ่งส่วนใหญ่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์
“บ้านมือสองส่วนใหญ่อยู่ในทำเลที่หาซื้อบ้านมือหนึ่งแบบใกล้เคียงกันไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ประกอบกับ ทรัพย์ NPA ที่ธนาคารและบริษัทบริหารสินทรัพย์นำมาเสนอขายนั้น มีราคาส่วนลดตั้งแต่ 30-50% และขณะนี้มีปัจจัยที่เกื้อหนุนอื่นๆ ที่ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับตํ่า การผ่อนคลายมาตรการสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าบ้านที่จะขออนุมัติสนเชื่อ (LTV) บางเรื่องมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้อบ้านหลังแรกราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ที่ต้องซื้อขายและโอนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และการลดค่าธรรมเนียมการโอนเหลือและค่าธรรมเนียมการจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่มีการซื้อขายและโอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 23 มิถุนายน 2563”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บิ๊กอสังหายึดแดนมังกร ดึงคนจีนซื้อเพื่อลงทุน
กำลังซื้อในประเทศเงียบ บิ๊กอสังหาฯ ยึดแดนมังกร ตั้งสำนักงานขาย เผย ALL-พฤกษา เจาะลูกค้าจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ญี่ปุ่น
จากตัวเลขของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่าช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2559-2561) มีลูกค้าต่างชาติซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้มีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มในปี 2562 ดีมานด์ความต้องการยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีนี้น่าจะมีมูลค่าเกินกว่า 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มียอดลูกค้าต่างชาติซื้อคอนโดฯ 9.2 หมื่นล้านบาท ขณะปี 2560 มียอดซื้อ 7.07 หมื่นล้านบาท และปี 2559 เกือบ 6 หมื่นล้านบาท
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้จ้างบริษัท เจียระไน เรลเอสเต็ท จำกัด นำโครงการ เดอะไพรเวซี่ จตุจักร ราคากว่า 1 แสนบาทต่อตารางเมตร จำนวน 100 หน่วยมูลค่า 500-600 ล้านบาท ขายให้กับลูกค้าต่างประเทศโดยเฉพาะจีน เพื่อการลงทุน ก่อนขยายไปยังโครงการอื่น ทั้งนี้ ทำเล จตุจักรอนาคตจะเป็นที่นิยมของคนจีนเนื่องจากอยู่ใกล้สถานีกลางบางซื่อ ศูนย์กลางระดับอาเซียน เชื่อมการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม บริษัทเน้นขายลูกค้าจีนเพื่อลงทุน ปล่อยเช่าระยะยาว 30% เนื่องจากกำลังซื้อในประเทศมีน้อยลง
นายธนากร ธนวริทธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALLกล่าวว่า จากกำลังซื้อของต่างชาติที่มีต่อเนื่อง ดังนั้นช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทขยายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมเจาะตลาดเอเชียผ่านทีมผู้บริหาร 4 สัญชาติ ทั้ง จีน สิงคโปร์ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ผ่าน บริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด (Thai D) เป็นตัวแทนและนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ โดย ALL ถือหุ้น 100% พร้อมตั้งเป้าหมายในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมียอดขายที่ระดับ 25,000 ล้านบาท ล่าสุด ได้เปิดสำนักงานในเซี่ยงไฮ้และไทเป ซึ่งถือเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน
ทั้งนี้ สำนักงานในเซี่ยงไฮ้จะอยู่บนอาคารฮ่องกง พลาซาถนนซินเทียนตี้ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางทางด้านเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ ในขณะที่สำนักงานในไทเปตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจ บนถนน Zhongxiao East โดยสำนักงานมีการออกแบบตกแต่งให้มีการผสมผสานความอบอุ่นเรียบง่ายและทันสมัย และจัดพื้นที่ให้คำปรึกษาการลงทุน รวมถึงอธิบายรายละเอียดโครงการต่างๆ เนื่องจากมีทีมขายท้องถิ่น ที่ดูแลสำนักงานขายในพื้นที่
“บริษัทได้นำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การดูแลกิจกรรมและสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้าหลังการขายที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศ ไทย อย่างการเป็นสมาชิกอินสไปร์ ฮับ ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆ ที่มัดใจทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ มาต่อยอดใช้กับกลุ่มลูกค้าในตลาดต่างประเทศด้วยเช่นกัน การที่บริษัทเลือกประเทศจีนเป็นที่ตั้งออฟฟิศแห่งแรกในต่างประเทศ เนื่องจากบริษัทมองเห็นว่าเป็นประเทศที่มีนักลงทุนและให้ความสนใจอสังหาริมทรัพย์ของไทยเป็นจำนวนมาก โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าจีน ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็นหลัก ทั้งนี้ยอดขายในตลาดต่างประเทศที่ผ่านมา ALL มียอดขายรวมกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งมีลูกค้าจีนประมาณ 60%”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
คลังรีดภาษีน้ำมัน มอเตอร์ไซค์ เครื่องดื่ม เพิ่มอุดรายได้รัฐ
สรรพสามิตลุยรีดภาษีใหม่ น้ำมัน มอเตอร์ไซค์ เครื่องดื่ม อุดเป้างบปี 2563 จำนวน 6.42 แสนล้านบาท
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้รายงานเสนอ นายอุตตม สาวนายน รมว. เพื่อเก็บภาษีสรรพสามิตใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อให้การเก็บภาษีปีงบประมาณ 2563 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2562 นี้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในเอกสารงบประมาณ 6.42 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตคาดว่าการเก็บภาษีจะได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจปี 2563 จะขยายตัวได้ไม่น้อยกว่า 3% ทำให้การเก็บภาษีขยายตัวเพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจจำนวน 1.81 หมื่นล้านบาท
กรมสรรพสามิตเก็บภาษีรถจักร์ยานยนต์จากการปล่อย CO2 จะทำให้การเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอีก 500 ล้านบาท รวมถึงมาตรการเสริมอื่นๆ การป้องกันและปราบปรามการหลักเลี่ยงภาษีสรรพสามิตของสินค้าต่างๆ จะทำให้เก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นอีก 4,950 ล้านบาท
29 กันยายน วันหัวใจโลก
ในปี 2560 ประเทศไทยพบผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจขาดเลือดมากถึง 20,746 คน และมีแนวโน้มการป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้คนป่วยเป็นโรคหัวใจขาดเลือด ได้แก่ มีภาวะความดันโลหิตสูง มีไขมันในเลือดผิดปกติ ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ภาวะอ้วนลงพุง สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย ไม่กินผักและผลไม้ และมีความเครียด สหพันธ์หัวใจโลก เป็นองค์กรโรคหัวใจระดับโลกที่อุทิศตน เพื่อให้โลกตระหนักถึงภัยอันตรายจากโรคหัวใจพิบัติและอัมพาต ได้กำหนดประเด็นรณรงค์เนื่องในวันหัวใจโลก 29 กันยายน 2562 คือ Be A Heart hero…Make A Heart Promise: จงกล้าท้าทาย พันธสัญญาแห่งใจ
นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา กล่าวถึงวันหัวใจโลกว่า “Be A Heart Hero…Make A Heart Promise จงกล้าท้าทาย พันธสัญญาแห่งใจ” ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการให้คำมั่นสัญญากับตนเองว่า
สัญญา…ว่าจะดื่มกินอย่างชาญฉลาด ด้วยการปรุงและรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี ลดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและผลไม้รสหวาน เปลี่ยนจากการกินขนมหวานมากินผลไม้สดแทน พยายามงดเว้นอาหารแปรรูปซึ่งมีเกลือ น้ำตาล และไขมันสูง
สัญญา…ว่าจะกระฉับกระเฉงมากขึ้น ด้วยการเล่นกีฬา เดิน ทำงานบ้าน เต้นรำ ซึ่งล้วนเป็นการกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 30 นาที 5 ครั้งต่อสัปดาห์
สัญญา…ว่าจะโบกมือลาบุหรี่ ควันบุหรี่ทำให้ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ป่วยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ การเลิกสูบบุหรี่จะช่วยให้หัวใจมีสุขภาพดี หากเลิกสูบบุหรี่ภายใน 2 ปี จะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
สัญญา…ว่าจะเป็นผู้รอบรู้และเชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ ด้วยการหาความรู้ และใส่ใจดูแลสุขภาพของตนเองและผู้อื่นอยู่เสมอ
นายแพทย์กิตติ์พงศ์ สัญชาตวิรุฬห์ กล่าวต่อไปว่า ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามพันธสัญญาแห่งใจ ที่ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ดื่มกินอย่างชาญฉลาด สร้างความกระฉับกระเฉงให้ตนเอง เลิกบุหรี่ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ป่วยเป็นโรคหัวใจขาดเลือดได้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
“เวทเทล” ฟอร์มแรง ซิ่งคว้าแชมป์เอฟวัน “สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์”
เซบาสเตียน เวทเทล นักซิ่งจากทีมเฟอร์รารี เข้าป้ายคว้าธงตาหมากรุกผงาดแชมป์เอฟวันในรายการ สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2019 มาครองได้สำเร็จ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 22 ก.ย. ว่า การแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก ฤดูกาล 2019 สนามที่ สนามที่ 15 ประจำฤดูกาล 2019 รายการสิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ที่สนามมารินา เบย์ สตรีท เซอร์กิต ประเทศสิงคโปร์ เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ
ผลปรากฏว่า เซบาสเตียน เวทเทล นักขับชาวเยอรมนี จากทีมเฟอร์รารี เหยียบคันเร่งพุ่งทะยานเข้ามาเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์ไปครอง ด้วยเวลา 1:58:33.667 ชั่วโมง ส่วนอันดับ 2 ได้แก่ ชาร์ลส์ เลอแคลร์ นักขับชาวโมนาโก จากทีมเฟอร์รารี ทำเวลาตามหลังผู้ชนะ 2.641 วินาที และอันดับ 3 ตกเป็นของ แม็กซ์ เวอร์สตัปเพน นักขับชาวเนเธอร์แลนด์ จากทีมเร้ดบูลล์ เรซซิ่ง ฮอนด้า ทำเวลาตามหลังผู้ชนะ 3.821 วินาที
ขณะที่ อัลบอน อังศุสิงห์ นักขับชาวไทยจากทีมเร้ดบูลล์ เรซซิ่ง จบอันดับที่ 6 ทำเวลาตามหลังผู้ชนะ 11.663 วินาที
อันดับคะแนนนักขับ มีดังนี้
1. ลูอิส แฮมิลตัน (สหราชอาณาจักร, เมอร์เซเดส เอเอ็มจี) 296 คะแนน
2. วัลต์เทรี บอตทาส (ฟินแลนด์, เมอร์เซเดส เอเอ็มจี) 231 คะแนน
3. ชาร์ลส์ เลอแคลร์ (โมนาโก, เฟอร์รารี) 200 คะแนน
4. แม็กซ์ เวอร์สตัปเพน (เนเธอร์แลนด์, เร้ดบูลล์ เรซซิ่ง ฮอนด้า) 200 คะแนน
5. เซบาสเตียน เวทเทล (เยอรมนี, เฟอร์รารี่) 194 คะแนน
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
รับมือดิจิทัลป่วนโลก กูรูจี้ธุรกิจเร่งทรานส์ฟอร์มสร้างโอกาส
กูรูเทคโนโลยี ชี้ยุคดิจิทัลป่วนโลก ไม่ปรับตัวตาย แนะพลิกวิกฤติสร้างโอกาสธุรกิจ ขณะที่ อธิการบดี สจล. ยํ้าโลกเปลี่ยนไม่ปรับตัวอยู่ยากยกเคส “โกดัก โนเกีย โมโตโรล่า” ใหญ่แค่ไหนก็ไม่รอดถ้าไม่เปลี่ยน ชี้เทคโนโลยีเอไอฉลาดลํ้าคน โลกกำลังเข้าสู่ยุค Sensorization of things ไล่ล่า
ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย ผู้ประกอบการยังเผชิญกับความท้าทายและความเสี่ยงของการเข้ามาของคลื่นเทคโนโลยีและธุรกิจดิจิทัล หรือ ดิจิทัล ดิสรัปชัน ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้คนให้สะดวกสบายมากขึ้น เปลี่ยนภูมิทัศน์ และรูปแบบทำธุรกิจไปอย่างสิ้นเชิง เกิดการแข่งขันข้ามอุตสาห กรรม เกิดคู่แข่งรายใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในการให้บริการ ในงานสัมมนา “พลิกวิกฤติสร้างเศรษฐกิจไทย : Do or Die” จัดโดย “ฐานเศรษฐกิจ” ได้เชิญกูรูด้านเทคโนโลยีมาร่วมพูดคุย ผ่านหัวข้อเสวนา “ผ่าสึนามิดิจิทัล สร้างโอกาสธุรกิจ” เพื่อกระตุ้นภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการรายย่อย ให้ตื่นตัวและปรับตัวท่ามกลางกระแสการหลั่งไหลเข้ามาของดิจิทัล
ดิจิทัลป่วนสิ่งที่ดี-น่ากลัว
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่าดิจิทัล ดิสรัปชันเป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นทั้งสิ่งที่ดีแต่น่ากลัว ทุกครั้งที่มีวิกฤตมักจะมีโอกาส ประเทศไทยมีประชากรกว่า 70 ล้านคน ซึ่ง 60 ล้านคน มีการใช้งานอินเตอร์เน็ต มีเลขหมายโทรศัพท์มือถือกว่า 90 ล้านเลขหมาย และคนไทยใช้เวลาบนอินเตอร์เน็ตสูงถึง 10 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งหลายธุรกิจมีการปรับตัว เช่น ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ และธนาคารที่เป็นธุรกิจแรกๆ ทุกวันนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปเพราะสมาร์ทโฟนหรือเทคโนโลยี
“ปัจจุบันการทำธุรกิจไม่ใช่แค่เพียงการซื้อขาย แต่ทำอย่างไรที่จะสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นจากลูกค้า 1 คนได้มากที่สุด ตัวแปรที่สำคัญ คือ 1.ถ้าธุรกกิจอยู่กับลูกค้าได้นาน โอกาสที่จะสร้างรายได้ก็จะมากขึ้น , 2.สร้างความพอใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซํ้า และ 3. ไม่จำเป็นต้องหวังกำไรจากลูกค้าตั้งแต่ครั้งแรก แต่ต้องทำให้ลูกค้าสามารถอยู่กับเราได้ตลอด ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและเข้าใจลูกค้าจากข้อมูลที่มี เทรนด์ที่กำลังมาคือการแย่งความสนใจจากลูกค้า ทำอย่างไรให้ลูกค้าสนใจที่จะอยู่กับเราได้นานที่สุด และนำเวลานั้นกลับไปขาย ธุรกิจในทุกวันนี้ถ้าเราอยู่กับลูกค้าได้นานก็จะขายของได้มากขึ้น”
บันได5ขั้นทรานฟอร์มธุรกิจ
ด้านนายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศ ไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันไทยต้องเจอพายุ 3 ลูกที่โจมตี คือ 1. International Economy Strom หรือ พายุจากทั่วโลก อย่างสงครามการค้าจีนและสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบกับคนไทย 2.Local Economy Strom ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ปัจจุบันไทยมีรายได้จาก 3 ทาง คือ รายได้จากการส่งออก รายได้จากการท่องเที่ยว และรายได้จากการบริโภคในประเทศ และพายุลูกที่ 3 คือ ดิจิทัล ดิสรัปชัน วันนี้เชื่อว่าหลายคนรู้แล้วว่ามันรุนแรงและกระทบกับชีวิตเรามากภาคธุรกิจต้องการที่จะปรับตัว
สำหรับขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจไปสู่ดิจิทัลนั้น ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1. Set Clear Goal and Direction ผู้บริหารมีการตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในอีก 5-10 ปี ต้องมองว่าธุรกิจจะอยู่ในส่วนไหนของตลาด จะเป็นผู้นำ ผู้ตามหรือจะอยู่ในธุรกิจนี้ต่อไป ต้องอ่านให้ออก รวมถึงคู่แข่งที่ต้องมองว่าในอนาคตใครที่จะมาแย่งธุรกิจเราบ้าง , 2.Internal Communication หรือ การบอกให้คนในองค์กรรู้ทิศทางที่องค์กรกำลังจะไป ซึ่งพนักงานคือคนส่วนใหญ่ในองค์กร หากพนักงานไม่รับรู้จะทำให้บริษัทล้มเหลวในเรื่องของดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน, 3.Design Business Pattern หรือ การกำหนดแบบแผนการทำธุรกิจ, 4. Set Timeline คือ ต้องมีการกำหนดไทม์ไลน์ให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ และ 5. Reviews and Evolution การทบทวนแผนธุรกิจเป็นไปตามที่คิดไว้หรือไม่ เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจจะต้องมีการปรับแผนเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ของตลาด มีการรีวิวและประเมินผลในการทำงาน
ทำข้อมูลให้ดีก่อนใช้เทคโนโลยี
ดร.อนุชิต อนุชิตานุกูล ประธานสายพัฒนาระบบงาน ช่องทางขายและผลิตภัณฑ์ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาคธุรกิจจำเป็นจะต้องมีการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับเทรนด์ใหญ่ ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบโดยเฉพาะในอีก 10 ปีข้างหน้าอาจมีปัญหาวิกฤติของชาติ ภายใต้ การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะทางลูกค้า แรงงาน กำลังซื้อ ที่จะเหือดหายไปในขณะที่มีสต๊อกสินค้าค้างอยู่ในระบบ เมื่อเทรนด์เป็นแบบนี้ธุรกิจจะอยู่รอดอย่างไร ขณะเดียวกันธุรกิจไทยต้องปรับตัวสู่ความโปร่งใสเพื่อให้แข่งขันได้สามารถซื้อขายผ่านบริการเรียกเก็บเงิน (Request to Pay) อย่าไปกลัวเรื่องเสียภาษีเพราะธุรกิจจะตายไปก่อนสรรพากรจะตรวจสอบ นอกจากนี้ธุรกิจต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือการพิสูจน์ตัวตนของดิจิทัลไอดี รวมถึงความปลอดภัยด้านไอทีและกรณีองค์กรสร้างคนไม่ทันสามารถจ้างบริษัทจากภายนอก
โลกเปลี่ยนไม่ปรับรอดยาก
“วันนี้ใครที่บอกว่า ดีอยู่แล้ว ไม่เปลี่ยน นั่นคือ แพ้ มีตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วกับ 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ที่ล้มไปอย่างไม่มีใครคาดคิด นั่นก็คือ บริษัท โกดักฯ, โนเกีย และ โมโตโรล่า ยิ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า ใหญ่แค่ไหนก็ไม่รอดถ้าไม่เปลี่ยนแปลง แล้วเราเป็นใครจะไม่เปลี่ยนได้อย่างไร”
ยุคนี้ คือ ยุค Sensorization of things ไล่ล่าซึ่งเกิดขึ้นแล้วและคาดการณ์ได้ยาก วันนี้เอไอชนะหมอ เอไอรู้จักเราดีมากกว่าที่เรารู้จักตัวเอง เราจะประสบความสำเร็จได้ ต้องมีการวางแผน มีกลยุทธ์ และมีแรงบันดาลใจ ห้ามพูดว่าแก่เกินไปที่จะเรียนรู้ ที่สำคัญห้ามดูถูกองค์กร และประเทศ รวมถึงคนไทยด้วยกันเอง วันนี้โลกไปไกลยิ่งกว่าที่เราคิด ถึงเวลาต้องปรับตัว เชื่อว่า ถ้าคิดจะสู้ก็สู้ได้เพราะคนไทยเก่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
| ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
|---|---|---|---|
| ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 21,800.00 | 21,900.00 |
| ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,412.00 | 21,405.92 | 22,400.00 |
| ทองรูปพรรณ 90% | 1,270.80 | 19,265.33 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 80% | 1,129.60 | 17,124.74 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 50% | 635.00 | 9,626.60 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 40% | 494.00 | 7,489.04 | n/a |
| ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,463.00 | 22,179.08 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 23/09/2562
 ปตท. |
 บางจาก |
 เชลล์ |
 เอสโซ่ |
 คาลเท็กซ์ |
 ไออาร์พีซี |
 พีที |
 ซัสโก้ |
 เพียว |
 ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 |
| แก๊สโซฮอล์ 91 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 |
| แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.94 | 24.94 | 24.94 | 24.94 | 24.94 | – | 24.94 | 24.94 | 24.94 | 24.94 |
| แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.19 | 20.19 | – | – | – | – | – | 20.19 | – | – |
| เบนซิน 95 | 35.36 | – | – | – | 35.81 | – | 35.86 | 35.66 | – | 35.66 |
| ดีเซล | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 |
| ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.39 | 25.39 | – | – | – | – | – | – | – | – |
| แก๊ส NGV | 15.49 | 15.49 | – | – | – | – | – | – | – | – |
