เพอร์เฟค โชว์ผลงานไตรมาส 1 โอนเกือบ3 พันล้าน
เพอร์เฟค เผยยอดโอนไตรมาสแรก 2,900 ล้านบาท ทำได้ดีกว่าคาด เตรียทแผนรุกการตลาดเต็มรูปแบบ ดีเดย์ 1 พ.ค.นี้ รองรับคลายล็อคดาวน์
พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เตรียมแผนรุกทำการตลาดเต็มรูปแบบ เริ่ม วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ หลังสถานการณ์ โควิด-19 มีแนวโน้มดีขึ้น ที่ผ่านมามีมาตรการดูแลลูกค้าอย่างดีและยังทำยอดขายได้ต่อเนื่อง ส่งผลไตรมาสแรกคาดว่าจะมียอดโอน 2,900 ล้านบาท และยังจะมีรายได้ต่อเนื่องเข้ามาในเดือนเมษายนนี้
นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของบริษัท เป็นไปในทิศทางที่ดีกว่าที่ประมาณการไว้โดยคาดว่าจะมียอดโอนกรรมสิทธิ์บ้านและคอนโดประมาณ 2,900 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาซึ่งทำได้ 3,733 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 22%
ภาพรวมในไตรมาสแรกบริษัทมียอดโอนเพิ่มขึ้นทุกเดือน และคาดว่าในเดือนเมษายนยังจะมียอดโอนเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้ว่าเดือนเมษายนจะมีมาตรการล็อคดาวน์ แต่บริษัทยังสามารถทำยอดขายได้เป็นที่น่าพอใจ
ด้านภาพรวมโครงการยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า เพราะสินค้าของบริษัทสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม โดยมีเรื่องของทำเลที่ตั้งเป็นจุดแข็ง ทั้งในโซนตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพ รวมทั้งเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นจุดขายหลักของบริษัท ทั้งนี้เรายังเดินหน้าตามแผนงานในการเปิดตัวแบบบ้านใหม่ และจะเพิ่มการพัฒนาสินค้าทั้งโครงการใหม่และในโครงการเดิม ให้รองรับกับพฤติกรรมผู้ซื้อบ้านที่คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย
จากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีแนวโน้มคลี่คลาย บริษัทจึงเตรียมเดินหน้าทำการตลาดเต็มรูปแบบอีกครั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม แคมเปญที่ออกมาจะเน้นการช่วยผ่อนคลายความกังวลของลูกค้าที่มีความต้องการที่อยู่อาศัย แต่ยังไม่มั่นใจในผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด
โดยคอนโดมิเนียมเป็นแคมเปญ อยู่ฟรีสูงสุด 30 เดือน ซึ่งบริษัทจะช่วยผ่อนเงินต้นและดอกเบี้ยให้แทนลูกค้าสูงสุด 30 เดือนแรก และมีส่วนลดให้อีกสูงสุด 2 ล้านบาท สำหรับโครงการแนวราบจะมีแคมเปญ “ปลอดดอก ออกต้น” ที่จะช่วยให้ลูกค้าคลายกังวลเรื่องการซื้อบ้าน ด้วยการปลอดดอกเบี้ยนาน 1 ปี มี Cashback เพื่อใช้สำหรับผ่อนเงินต้นได้อย่างสบายอีก 50,000-500,000 บาท ขึ้นกับระดับราคาบ้าน และผ่อนต่ำสุดเพียงล้านละ 1,000 บาทในปีแรก และล้านละ 2,000 บาทในปีที่ 2 ซึ่งจะช่วยลดภาระการผ่อน ทำให้เกิดความมั่นใจในการซื้อที่อยู่อาศัยในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน
นอกจากนี้บริษัทยังตระหนักถึงความทุ่มเทเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ ในการรักษาและควบคุมการระบาดของไวรัสตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพื่อเป็นการขอบคุณจึงได้มีส่วนลดท็อปอัพ เพิ่มเติมจากแคมเปญให้ในทุกยูนิตทุกโครงการอีกด้วย
นายวงศกรณ์ กล่าวว่าในเดือนมิถุนายน บริษัทยังได้เตรียมความพร้อมในการชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน โดยบริษัทมีหุ้นกู้ที่ต้องชำระคืน มูลค่า 1,450 ล้านบาท ซึ่งได้เตรียมสำรองเงินสดเพื่อรองรับไว้ก่อนหน้าแล้ว สำหรับไตรมาส 3-4 บริษัทมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 2 ชุด มูลค่ารวม1,635.1 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีแผนการจัดเตรียมวงเงินไว้รองรับการไถ่ถอนตามกำหนดไว้แล้วเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
หวั่น‘โควิด’ลากถึงปีหน้า โละสต๊อกอสังหาฯ 3 แสนล้านแข่งเดือด
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ร้อนระอุตั้งแต่ต้นปี จากปรากฏการณ์การนำสต๊อกเก่า หน่วยหลุดดาวน์ ทิ้งโอน หมุนเวียนจัดโปรโมชัน ลดแลกแจกแถมดัมพ์ราคาขายใหม่ เพื่อนำเงินสดที่ได้สร้างสภาพคล่อง ชำระหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในปีนี้ประดังเข้ามา มองว่าไม่ง่ายนักสำหรับการระบายออกได้รวดเร็วกลางกระแสเชี่ยวโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ เพียงกลุ่มเดียวและไม่มากนัก หากเทียบกับความเสียหายบนซากปรักหักพักของธุรกิจ คนตกงาน ซึ่งเป็นกลุ่มสร้างตัวเรียลดีมานด์เดิม โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร ค้างสต๊อกไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นหน่วย
และยังมีเติมซัพพลายใหม่เข้ามาในช่วงต้นปี แม้ว่าไม่มากแต่ก็ยอมรับว่าตกอยู่บนที่นั่งลำบาก สอดคล้องกับนายอธิป พีชานนท์ ประธานสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ระบุว่า ตลาดอสังหาฯในช่วงนี้ต้องยอมรับว่าขายยาก เพราะแต่ละคนต้องเก็บเงินสดไว้ รักษาชีวิต กับบริโภคให้มากที่สุด ไม่มีใครที่ยังมีอารมณ์ ซื้ออสังหาฯท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ขณะผู้ประกอบการต่างเข็นออกขายที่มีมูลค่ามากถึง 3 แสนล้านบาท
ขณะผู้ประกอบการต่างคาดการณ์ว่า สถานการณ์โควิดน่าจะลงได้ราวไตรมาส 2 แต่ไม่มีใครยืนยันได้ อย่างไรก็ตามวงการแพทย์ นักวิจัยตลาดอสังหาฯต่างประเมินว่า ผลกระทบครั้งนี้อาจลากยาวไปถึงปีหน้า นั่นหมายถึงธุรกิจอสังหาฯ จะยังต้องลดซัพพลาย และหันมาระบายสต๊อกคงค้างอย่างต่อเนื่อง
จากการวิเคราะห์ของ นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระบุว่า ตลอดช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย เปรียบอยู่ในภาวะไฟช็อต จากเดิมที่มีไฟรั่วด้วยปัจจัยลบต่างๆ อยู่ก่อนแล้ว ขณะจำนวนลูกค้าที่วอล์กอินเข้าเยี่ยมชมโครงการน้อยลงมาก ส่งผลให้ยอดขายแทบทุกค่ายลดต่ำลง เกิดภาพตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งผู้พัฒนาและบริษัทตัวแทนซื้อ-ขายอสังหาฯ หันมากระตุ้นยอดขายผ่านทางช่องทางออนไลน์มากขึ้น ขณะซัพพลายของคอนโดมิเนียมคงค้างในกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปลายปี 2562 มีประมาณ 60,000 ยูนิต คาดในปีนี้ตลาดจะสามารถดูดซับไปได้ประมาณ 80% หลังจากเริ่มเห็นการลดราคาจากดีเวลอปเปอร์ ซึ่งราคาที่ลดลงจะอยู่ในเรตเหมาะสมและค่อนข้างดี เป็นระดับราคาที่ดีเลลอปเปอร์ยอมรับได้และคุ้มค่าที่จะซื้อในฝั่งผู้บริโภค โดยเฉพาะระดับราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท เพราะเป็นระดับราคาที่คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่รับได้ และเป็นเรียลดีมานด์ที่ต้องการอยู่อาศัยเลย จึงถือเป็นโอกาสทองของคนเงินเย็นที่พร้อมช้อนซื้อสินค้าดีราคาประหยัด และเชื่อว่าแนวโน้มอสังหาฯ และเทรนด์การอยู่อาศัยในปี 2564 จะยังคงเห็นภาพการนำโครงการเก่าในสต๊อกออกขาย เช่นเดียวกับปีนี้ โครงการใหม่ที่จะออกมา โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในเขตกรุงเทพมหานคร ไม่น่าเกิน 3 หมื่นหน่วย
ด้านบทวิเคราะห์ นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ คาดการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลปีนี้จะเปิดตัวลดลง 15% รวม 101,429 หน่วย ต่างจังหวัดจะหดตัวยิ่งกว่า สำหรับช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา อสังหาฯในเขตกทม.และปริมณฑล ยังมีการเปิดต่อใหม่อย่างต่อเนื่อง ในสถานการณ์วิกฤติโควิดมี 26 โครงการ 6,005 หน่วย มูลค่า 23,499 ล้านบาท ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (บริษัทมหาชน) มีจำนวน 6 บริษัท คือ บริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครืออีกมากถึง 7 บริษัทและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง
โครงการที่เปิดส่วนใหญ่เป็นบ้านแนวราบ เพราะ 1. ตลาดแนวราบยัง ไปได้ 2. กำหนดจำนวนหน่วยพัฒนาเท่าที่ลูกค้าต้องการ 3. ชะลอขยายโครงการได้ ความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง 4. ลูกค้าอยากได้บ้าน มีโฉนดบนดิน
แม้ภาพรวมโครงการที่เปิดขายใหม่เดือนมีนาคม จะมีจำนวนโครงการ จำนวนหน่วยขายลดลง แต่มูลค่าโครงการกลับเพิ่มขึ้น และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มขึ้นตามประมาณ 17% เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายมีราคาขายตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 1,028 หน่วย หรือประมาณ 17% ของหน่วยขายทั้งตลาด จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 3.913 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.349 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ค่อนข้างสูงและมีกำลังซื้อเข้าสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น
สำหรับเดือนเมษายน มีจำนวนโครงการเปิดใหม่ไม่เกิน 18 โครงการ รวมจำนวนหน่วย ไม่น่าจะเกิน 4,000 หน่วย และมีมูลค่ารวมประมาณ 16,000 ล้าน ซึ่งถือว่าลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากในเดือนเมษายนนี้มีมาตรการการควบคุมโรคโควิดที่เข้มงวด ทำให้ประชาชนหรือนักลงทุนยังไม่สะดวกใจที่จะออกจากบ้านไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามหลังวิกฤติโควิด อาจทำให้ซัพพลายที่กักเก็บไว้ ได้รับการตอบรับลูกค้ากลับมาซื้อบ้านกันมากขึ้นอย่างล้นหลามในอนาคตก็เป็นได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาส 2 การเปิดตัวน้อยลง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย บนสมมติฐานบวกสุดๆ โดยนัยนี้จึงประมาณการว่า จะมีโครงการเปิดใหม่ 475 โครงการ รวม 101,429 หน่วย รวมมูลค่า 406,798 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับว่าจำนวนหน่วยและมูลค่าลดลงจากปี 2562 ประมาณ 15% แต่ก็มีโอกาสที่การหดตัวอาจมากกว่า 20% ก็เป็นไปได้ หากสถานการณ์ต่างๆ ไม่คลี่คลาย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
บลจ.ไทยพาณิชย์ ชู 5 กองทุนประเภท e-class ฟรีค่าธรรมเนียม
นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงนี้นับว่าเป็นจังหวะที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปีสำหรับการลงทุนระยะยาวและมีโอกาสได้ผลตอบแทนในระดับสูง พร้อมทั้งแนะนำลงทุนใน 5 กองทุนชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-class ที่ฟรีค่าธรรมเนียมการซื้อ (Front-End Fee) และค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) ด้วยมูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 1 บาท – สูงสุด 1 ล้านบาท สามารถซื้อได้ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน SCB Easy Net และ SCBAM Fund Click ซึ่งถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่ง่ายและสะดวก สามารถเลือกลงทุนในกองทุนภายใต้การบริหารของบลจ.ไทยพาณิชย์ ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยสามารถเลือกตัดบัญชีเพื่อซื้อกองทุนได้จากหลากหลายธนาคารชั้นนำ นอกจากนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนการออมระยะยาวยังสามารถทำรายการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (Dollar Cost Average หรือ DCA) ผ่านช่องทาง SCBAM Fund Click ได้อีกด้วย
โดย 5 กองทุนที่แนะนำลงทุนในสภาวะปัจจุบัน ประกอบด้วย กองทุนตลาดเงินกองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารรัฐตลาดเงิน พลัส (SCBTMFPLUSE) เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐ จึงมีความเสี่ยงต่ำและมีสภาพคล่องสูง เหมาะเป็นที่พักเงินในช่วงตลาดผันผวน
กองทุนหุ้นไทย ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET Index (SCBSETE) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 Index (SCBSET50E) เน้นลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี SET และดัชนี SET50 (ตามลำดับ) เพื่อให้กองทุนมีผลตอบแทนใกล้เคียงกับอัตราผลตอบแทนของดัชนี SET และดัชนี SET50 มากที่สุด
กองทุนทองคำ 1 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ (SCBGOLDE)ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำต่างประเทศ คือ SPDR Gold Trust ซึ่งกองทุนดังกล่าวจัดตั้งและจัดการโดย World Gold Trust Services, LLC ที่ถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
สำหรับกองทุนประเภท e-class มีทั้งสิ้น 15 กองทุน ประกอบด้วยกองทุนตลาดเงิน ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารรัฐตลาดเงิน พลัส (SCBTMFPLUSE) กองทุนหุ้นไทย ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET Index (SCBSETE), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET50 Index (SCBSET50E), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET Banking Sector Index (SCBBANKINGE) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET Energy Sector Index (SCBENERGYE) กองทุนหุ้นต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นเกาหลี (SCBKEQTGE), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน (SCBCEE), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (SCBCEHE), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ (SCBCHAE), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นอินเดีย (SCBINDIAE), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNKY225E), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (SCBEUEQE), กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยูเอส (SCBS&P500E) และสินทรัพย์ทางเลือก ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (SCBGOLDHE) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ (SCBGOLDE)
นายณรงค์ศักดิ์ ได้กล่าวถึงภาพรวมการลงทุนว่า จากแรงกดดันจากเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงผลกระทบของ Covid-19 เป็นปัจจัยให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายฉุกเฉินลง ในขณะที่ ธปท.ร่วมกับกระทรวงการคลัง และก.ล.ต.มีมาตราการสนับสนุนเสถียรภาพตลาดการเงินไทยเพิ่มเติม 3 ด้าน ปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อตลาดตราสารหนี้ได้ ส่วนตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาสที่ 1 ได้ปรับตัวลดลง 453.98 จุดหรือ 28.74% โดยปรับตัวลดลงจาก 1,559.84 จุด ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2562 เป็น 1,125.86 จุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 สาเหตุจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ลดลงแรงจากการประกาศสงครามราคาน้ำมันระหว่างซาอุดิอาระเบียและรัสเซียทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ทุกประเภท ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกทั้งในแง่การหยุดชะงักของภาคการผลิต ภาคการบริการ การท่องเที่ยวและการบริโภค อย่างไรก็ตาม ณ สิ้นวันที่ 21 เมษายน 2563 ดัชนีได้ปรับตัวขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,253 จุด ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในวันที่ 23 มีนาคม 2563 ที่ประเทศไทยประกาศ lockdown โดยสาเหตุหลักจากการฟื้นตัว อาทิเช่น มาตรการผ่อนคลายของนโยบายทางการเงินจากธนาคารกลางทั่วโลก นโยบายการคลังที่ทยอยออกมาเพื่อเยียวยาภาคการจ้างงานซึ่งได้รับผลกระทบจากการ lockdown จำนวนผู้ติดเชื้อภายในประเทศและยุโรปลดลง รวมถึงองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (OPEC) รัสเซีย และสหรัฐฯ กลับมาเจรจาเพื่อลดกำลังการผลิตเพื่อรับมือกับอุปสงค์ที่ลดลงจาก COVID-19 ซึ่งคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจภายในประเทศสามารถเดินหน้าต่อได้บ้างส่วน และจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ในช่วงไตรมาสที่ 4 นับว่าเป็นจังหวะการลงทุนที่ดีที่สุดในรอบ 10 ปี
“ตลาดหุ้นจีนนั้น ถึงแม้ว่าตัวเลขการส่งออกในเดือน มี.ค. ลดลงจากเดิมที่ระดับ -17.2%YoY มาอยู่ที่ -6.6%YoY แต่ในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาด Covid-19 ในจีนเริ่มคลี่คลายทำให้รัฐบาลกลับมาประกาศเปิดเมืองอีกครั้ง ประกอบกับธนาคารกลางจีนได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยโครงการเงินกู้ระยะกลาง 1 ปี ลง 0..20% มาอยู่ที่ระดับ 2.95% และอัดฉีดสภาพคล่องผ่านโครงการดังกล่าวเพิ่มเติมอีก 100,000 ล้านหยวน ซึ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจของจีนจะค่อยๆ ฟื้นตัวถึงแม้ว่าอาจจะถูกกดดันจากอุปสงค์โลกที่อ่อนแอหลังจากการระบาดของ Covid-19 ที่แพร่ระบาดทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรปซึ่งเป็นคู่ค้าหลักของจีน สำหรับตลาดทองคำนั้นการลงทุนในทองคำจะช่วงกระจายความเสี่ยงในพอร์ตได้ โดยในช่วงที่ผ่านมา Fed ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายนอกรอบการประชุมเป็นครั้งที่ 2 สู่ที่ระดับที่ 0.00 – 0.25% และประกาศทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ผ่านการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารการเงินที่ผู้ซื้อลงทุนในสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Backed Securities) อย่างไม่จำกัด ประกอบกับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการปล่อยกู้วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอร์ล่าร์ จึงส่งผลให้ราคาในปัจจุบันสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ลงทุนในทองคำโดยตรงควรระมัดระวังเนื่องจากมีนักลงทุนมีการเข้าไปเก็งกำไรสูง” นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
ลดกระหน่ำ “แมนยูฯ” เตรียมเลหลังขาย “ป็อกบา” 2 ยักษ์ยุโรปเตรียมล่าตัว
สื่อดังตีข่าว “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ยอดทีมแดนผู้ดี ตกเป็นข่าว เตรียมเลหลัง “พอล ป็อกบา” สตาร์ตัวตัดผมออกจากทีมหลังจบซีซั่นนี้ โดย 2 ทีมดังจ้องกระชากร่วมทัพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 24 เม.ย. ว่า “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ตกเป็นข่าว เตรียมเลหลัง พอล ป็อกบา กองกลางดีกรีแชมป์โลกชาวฝรั่งเศส ออกจากทีมหลังจบฤดูกาลนี้ โดย 2 ทีมดังอย่าง “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด และ “ม้าลาย” ยูเวนตุส จ้องกระชากตัวไปร่วมทีม
เป็นที่เข้าใจกันว่า พอล ป็อกบา ย้ายจาก “ม้าลาย” ยูเวนตุส มาสู่โรงละครแห่งความฝันเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2016 ด้วยค่าตัวสถิติโลกในเวลานั้นที่ 89 ล้านปอนด์ แต่ทว่าตัวเขาไม่สามารถรังสรรค์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ตามความคาดหวัง ประกอบกับการที่ตัวเขาสนใจเรื่องนอกสนามมากกว่าในสนาม ทำให้ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ จนทำให้ตัวเขาออกมาเปรยๆ ในช่วงซัมเมอร์ว่าอยากที่จะหาความท้าทายใหม่ๆ และเกมนัดที่ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทรฟเฟิร์ด เอาชนะ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-1 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมปีที่ผ่านมา คือเกมนัดสุดท้ายของเขาก่อนที่จะบาดเจ็บอีกครั้ง จนมีโอกาสลงช่วยทีมแค่ 8 นัดเท่านั้น
ล่าสุด Daily Star สื่อชื่อดังออกมาประโคมข่าวว่า ยอดทีมสีแดงแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ประเมินค่าตัวของ พอล ป็อกบา ไว้เหลือแค่ 70 ล้านปอนด์ เท่านั้นจากที่เดมิตอนแรกยืนกรานว่าจะขายนักเตะออกจากทีมด้วยค่าตัวที่ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ แต่ทว่าอาจจะมาจาก 2 ปัจจัยหลักอย่างการที่สัญญานักเตะที่เหลือน้อยลงเรื่อยๆ ประกอบกับพิษ “โควิด-19”
ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th
จัดรถเคลื่อนที่ตรวจโควิด-19 ฟรีถึงบ้าน
กทม.จัดทำแบบประเมินคัดกรองอาการเบื้องต้นผ่านเว็บไซต์ BKK COVID-19 โดยดำเนินการตรวจฟรีให้แก่ ‘กลุ่มเสี่ยง’ พร้อมส่งรถเคลื่อนที่ถึงบ้าน
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กลุ่มคนที่จะได้รับการตรวจเป็นผู้มีประวัติสัมผัสเสี่ยง อาทิ เป็นคนในครอบครัวเดียวกับผู้ป่วยรายเก่า, เป็นกลุ่มคนทำงานที่เดียวกัน หรือทำกิจกรรมร่วมกันกับผู้ป่วยรายเก่า หรือเป็นกลุ่มคนต้องกักตัวอยู่บ้าน ตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุข (Home Quarantine) จะตรวจกลุ่มคนเหล่านี้ก่อน โดยเมื่อเดินทางมาถึงจุดตรวจที่ได้นัดหมายไว้ เจ้าหน้าที่สำนักอนามัย/เจ้าหน้าที่ศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่ จะตรวจเช็กชื่อก่อนวัดไข้ และจดบันทึก
จากนั้นจะให้เดินไปที่รถตรวจโควิด-19 เคลื่อนที่ มีบุคลากรประจำรถ 4-5 คน ทำการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งด้วยวิธี SWAB ผ่านทางคอและโพรงจมูก พร้อมกับแพคสิ่งส่งตรวจให้แน่นหนาถึง 3 ชั้น พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ แช่ ICE PACK นำส่งไปทำ LAB คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช เพื่อตรวจหาเชื้อ โดยสามารถตรวจได้ 200 เคสต่อวัน รวมทั้งมีโรงพยาบาลในเครือข่าย กทม. อีก 18 แห่งที่พร้อมสนับสนุนการตรวจ ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชม.ก็ทราบผลทันที หากติดเชื้อจะจัดรถเข้าไปรับถึงบ้าน เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนการรักษา ทุกขั้นตอนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวอีกว่า วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นว่าจะเข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ มีดังนี้ 1.ไม่มีอาการ ไม่มีความเสี่ยง แค่กังวลไม่ต้องไปตรวจ 2.มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอเล็กน้อย แต่ไม่ได้กลับจากพื้นที่เสี่ยง หรือมีประวัติใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 ยังไม่ต้องไปตรวจ แต่หากมีไข้สูง หอบเหนื่อย ให้รีบไปพบแพทย์ 3.มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอเล็กน้อย และกลับจากพื้นที่เสี่ยงหรือใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 ต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจ 4.มีอาการรุนแรง ไข้สูง ไอ หอบเหนื่อย ต้องรีบไปตรวจทันที แพทย์จะพิจารณาส่งตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19
และ 5.ผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไปหรือผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ไม่มีความเสี่ยงใกล้ชิดผู้ป่วยโควิด-19 หรือกลับจากพื้นที่เสี่ยง แต่มีไข้ เจ็บคอ มีน้ำมูก หรืออาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน หอบเหนื่อย วูบ หมดสติ ต้องรีบไปพบแพทย์และตรวจทันที
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
BASIC ทำความเข้าใจกับคำประสม
ความหมายของคำผสม คือ การนำเอาคำที่มากกว่าหนึ่งคำมารวมกันแล้วกลายเป็นคำใหม่ อย่างเช่น ถ้าเป็นในภาษาไทย คำว่า แม่ คือ ผู้ให้กำเนิด คำว่า ค้า คือ ขาย พอมารวมกัน จะได้ แม่ค้า ไม่ได้หมายถึงผู้ให้กำเนิดขาย แต่หมายถึง ผู้ขายที่เป็นเพศหญิง
ในภาษาอังกฤษก็จะมีคำผสม เช่นเดียวกัน อย่างเช่น
rain = ฝน bow = เส้นโค้ง พอมารวมกัน จะได้ rainbow = รุ้งกินน้ำ
* สังเกต ข้อนี้เขาหมายถึง เส้นโค้งที่เกิดขึ้นหลังเกิดฝนตก
cock = ไก่ตัวผู้ tail = หาง พอมารวมกัน จะได้ cocktail = หางไก่(แต่ในกรณีนี้หมายถึงเหล้าค็อกเทล)
* สมัยก่อนมีการนิยมใช้หางไก่ตัวผู้ในการผสมเหล้า ซึ่งเหล้านั้นมีชื่อว่า cocktail จนถึงปัจจุบัน
hand = มือ stand = ยืน พอมารวมกัน จะไ้ด้ handstand = มือยืน(บ้านเราเรียกหกสูง)
head = หัว stand = ยืน พอมารวมกัน จะได้ headstand = หัวยืน(โดยมากจะเห็นในการเล่นโยคะ)
water = น้ำ fall = ตก พอมารวมกัน จะได้ waterfall = น้ำตก
pen = ปากกา man = คน พอมารวมกัน จะได้ penman = นักเขียน
tea = ชา spoon = ช้อน พอมารวมกัน จะได้ teaspoon = ช้อนชา
news = ข่าว paper = กระดาษ พอมารวมกัน จะได้ newspaper = กระดาษข่าว(หมายถึงหนังสือพิมพ์)
sand = ทราย paper = กระดาษ พอมารวมกัน จะได้ sandpaper = กระดาษทราย
book = หนังสือ worm = หนอน พอมารวมกัน จะได้ bookworm = หนอนหนังสือ
earth = โลก man = คน พอมารวมกัน จะได้ earthman = มนุษย์(คำนี้เป็นที่มาของวัยรุ่นบางกลุ่ม คุ้นๆไหม สวัสดี ชาวโลก)
sitting = กำลังนั่ง room = ห้อง พอมารวมกัน จะได้ sitting-room = ห้องนั่งเล่น
some = บาง one = คน พอมารวมกัน จะได้ someone = บางคน(คำนี้ คุ้นๆนะ ในเพลงของ บี้เดอะสตาร์ เค้าสอนภาษาอังกฤษด้วยนี่)
some = บาง day = วัน พอมารวมกัน จะได้ someday = บางวัน
after = หลัง noon = เที่ยง พอมารวมกัน จะได้ afternoon = หลังเที่ยง(ตอนบ่าย)
north = ทิศเหนือ west = ทิศตะวันตก พอมารวมกัน จะได้ northwest = ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
sleeping = การนอน bag = ถุง พอมารวมกัน จะได้ sleeping bag = ถุงนอน
sun = แดด glasses = แว่นตา พอมารวมกัน จะได้ sunglasses = แว่นตากันแดด
sun = พระอาทิตย์ day = วัน พอมารวมกัน จะได้ sunday = วันอาทิตย์
* วันทั้ง 7 ที่เราใช้ในปัจจุบัน เกิดจากดาวเคราะห์ 7 ดวงที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คือ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวพฤหัสบดี ดาวศุกร์ และดาวเสาร์
sun = แดด bath = อาบ พอมารวมกัน จะได้ sunbath = อาบแดด
sun = พระอาทิตย์ down = ลง พอมารวมกัน จะได้ sundown = พระอาทิตย์ตก
star = ดาว fish = ปลา พอมารวมกัน จะได้ starfish = ปลาดาว
* ข้อนี้เพราะปลาดาว มีลักษณะคล้ายดาวนั่นเอง
sea = ทะเล fan = พัด พอมารวมกัน จะได้ sea fan = พัดทะเล(กัลปังหา)
* ที่เป็นแบบนี้เพราะกัลปังหา มีลักษณะคล้ายกับพัดที่อยู่ในทะเล
sun = พระอาทิตย์ light = แสง พอมารวมกัน จะได้ sunlight = แสงอาทิตย์
table = โต๊ะ cloth = ผ้า พอมารวมกัน จะได้ tablecloth = ผ้าปูโต๊ะ
table = โต๊ะ spoon = ช้อน พอมารวมกัน จะได้ tablespoon = ช้อนโต๊ะ
swimming = ว่ายน้ำ pool = สระ พอมารวมกัน จะได้ swimming pool = สระว่ายน้ำ
swim = ว่ายน้ำ suit = ชุด พอมารวมกัน จะได้ swimsuit = ชุดว่ายน้ำ
second = ครั้งที่สอง hand = มือ พอมารวมกัน จะได้ secondhand = มือสอง
sea = ทะเล man = คน พอมารวมกัน จะได้ seaman = ชาวทะเล
sea = ทะเล horse = ม้า พอมารวมกัน จะได้ seahorse = ม้าทะเล(เราเรียกม้าน้ำ)
* ม้าทะเลมาได้อย่างไร ลองหันหน้าม้าน้ำมาดู แล้วซูมเข้าไปสิ หน้าตามันก็เหมือนม้าบกนี่แหละ แต่มันอยู่ในทะเล เป็นที่มาของ seahorse
sea = ทะเล food = อาหาร พอมารวมกัน จะได้ seafood = อาหารทะเล
sea = ทะเล lion = สิงโต พอมารวมกัน จะได้ sea lion = สิงโตทะเล(เราเรียกแมวน้ำ)
* ข้อนี้ ก็ยังสงสัยว่าทำไมเราไม่เรียก สิงห์ทะเล แต่ไปเรียกแมวน้ำให้งง เปล่าๆ ใช้หลักการเดียวกับราศีไปเลยได้ไหม อย่างเช่น ราศีสิงห์ ก็ย่อมาจาก สิงหาคม ปล.ลองซูมเข้าไปที่หน้าของแมวน้ำสิ หน้ามันก็คล้ายๆสิงโตบกนี่แหละ
school = โรงเรียน mate = เพื่อนร่วม พอมารวมกัน จะได้ schoolmate = เพื่อนร่วมโรงเรียน
school = โรงเรียน boy = เด็กชาย พอมารวมกัน จะได้ schoolboy = เด็กนักเรียนชาย
school = โรงเีรียน girl = เด็กหญิง พอมารวมกัน จะได้ schoolgirl = เด็กนักเรียนหญิง
* นอกจากการใช้บอกเพศมนุษย์แบบ schoolboy กับ schoolgirl แล้ว ยังมีการใช้ในการบอกเพศของ สัตว์ด้วย อย่างเช่น
นกยูงเป็นสัตว์ที่มีลักษณะคล้ายไก่ ถ้าเราอยากได้นกยูงตัวผู้ เราจะเขียนได้ว่า
peacock เพราะ cock แปลว่า ไก่ตัวผู้
แต่ถ้าเราอยากให้นกยูงเป็นตัวเมีย เราจะเขียนได้ว่า
peahen เพราะ hen แปลว่า ไก่ตัวเมีย(แม่ไก่)
news = ข่าว boy = เด็กผู้ชาย พอมารวมกัน จะได้ newsboy = เด็กส่งหนังสือพิมพ์(ก็ที่ปั่นจักรยานส่งหนังสือพิืมพ์ตามบ้านอ่ะ)
news = ข่าว man = คน พอมารวมกัน จะได้ newsman = เหยี่ยวข่าว
black = สีดำ board = กระดาน พอมารวมกัน จะได้ blackboard = กระดานดำ
ในวันนี้ผู้เขียนขอจบตัวอย่างคำผสมเพียงเท่านี้ ซึ่งที่จริงยังมีอีกมากมายหลายคำ และผู้เขียนก็ยังคงหวังเช่นเดิมว่า ผู้อ่านจะสามารถพัฒนาต่อยอดได้ และหวังว่าเนื้อหานี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านไม่มากก็น้อย
ขอบคุณข้อมูลจาก undifteach.blogspot.com
ไลน์ MOU หนุนสถาบันวัคซีนนานาชาติ
ไลน์ MOU หนุนสถาบันวัคซีนนานาชาติ มอบ Official Account ให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือ ส่งเสริมการเช้าถึงวัคซีนและการเข้ารับบริการทางสุขภาพ
ไลน์ พลัส คอร์ปอเรชั่น ในเครือของ LINE Corporation ประกาศว่าบริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับสถาบันวัคซีนนานาชาติ (International Vaccine Institute (IVI) เพื่อต่อยอดการใช้งานของ LINE ในฐานะโมบายล์แพลตฟอร์มระดับโลก ในการส่งเสริมการใช้วัคซีนและเพิ่มอัตราการสร้างภูมิคุ้มกันทั่วโลกเพื่อสร้างผลกระทบอย่างแท้จริงต่อชีวิตของผู้คน โดยในระยะแรก LINE จะมอบบัญชีเป็นทางการ (Official Account – OA) ให้แก่ IVI เพื่อให้ผู้ใช้ LINE ได้ เข้าถึงข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับโรคติดต่อและประโยชน์ของวัคซีน บัญชีทางการของLINEจะให้บริการในภาษาอินโดนีเซีย ไทย และอังกฤษ โดยจะเริ่มใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน เพื่อให้ทันกับสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Week) ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24-30 เมษายน เพื่อส่งเสริมการใช้วัคซีนในการป้องกันประชาชนทุกกลุ่มอายุจากโรคภัยต่างๆ
ทั้งนี้จะมีการให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและทันต่อเหตุการณ์เกี่ยวกับวิสัยทัศน์และโปรแกรมต่างๆ ขององค์กรในการต่อสู้กับโรคติดต่อแล้ว IVI เข้าถึงผู้ใช้งาน LINE ผ่านแคมเปญโซเชียลมีเดียที่ทันต่อเหตุการณ์และอยู่ในความสนใจของสังคม เพื่อส่งเสริมการเช้าถึงวัคซีนและความเท่าเทียมกันในการเข้ารับบริการทางสุขภาพ สำหรับสัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก บัญชีไลน์อย่างเป็นทางการของ IVI จะนำเสนอวิดีโอแมสเสจจากทูตสันถวไมตรีของ IVI มร.เฮนรี่ เลา ที่จะมาอธิบายถึงบทบาทของวัคซีนในการช่วยบรรลุเป้าหมายระดับโลกขององค์การสหประชาชาติ เช่น การต่อสู้กับความยากจน การส่งเสริมความเท่าเทียม และการสร้างชุมชนที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ สติกเกอร์เซ็ทจาก LINE FRIENDS’ BT21 สำหรับ IVI ในชุดที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ/การแพทย์ จะออกภายในครึ่งปีแรกนี้ รายได้จากการจำหน่ายสติกเกอร์จะนำไปสมทบทุนโปรแกรมการสร้างภูมิคุ้มกันของ IVI ซึ่งมุ่งพัฒนาสุขภาพของเด็กทั่วโลก รวมถึงเด็กในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภูมิภาคที่เป็นตลาดหลักแห่งหนึ่งของ LINE สำหรับ IVI เป็นองค์กรนานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีสำนักงานใหญ่ ณ กรุงโซล มีพันธกิจหลักในการวิจัย พัฒนา และส่งมอบวัคซีน โดย IVI พัฒนาและส่งมอบเทคโนโลยีของวัคซีนอหิวาตกโรคที่มีราคาถูก ดำเนินการเข้าสู่ระยะที่สามของการวิจัยทางคลินิกของวัคซีนไทฟอยด์ และเมื่อไม่นานมานี้ IVI ได้ประกาศว่าจะทำการวิจัยทางคลินิกในระยะที่ 1/2 สำหรับวัคซีนโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ด้วยภารกิจ “Closing the Distance” LINE ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้น และดำเนินการต่างๆ ในการป้องกันโรคระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ความร่วมมือกับ IVI ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตามภารกิจของเรา โดยใช้ทรัพยากรและบริการที่มีอยู่เพื่อช่วยเหลือผู้คนและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
พิษนาศน์ สรรพคุณและประโยชน์ของต้นพิษนาศน์ 10 ข้อ !
พิษนาศน์
พิษนาศน์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Sophora exigua Craib จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยถั่ว FABOIDEAE (PAPILIONOIDEAE หรือ PAPILIONACEAE)[1],[2]
สมุนไพรพิษนาศน์ มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า ถั่วดินโคก (เลย), แผ่นดินเย็น (อุบลราชธานี), นมราชสีห์ พิษนาท (ฉะเชิงเทรา), นมฤาษี เป็นต้น[1],[2]
ลักษณะของพิษนาศน์
- ต้นพิษนาศน์ จัดเป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสั้นมาก มีความสูงได้เพียง 15-30 เซนติเมตร[1]
- ใบพิษนาศน์ ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ออกเรียงสลับ แนบไปกับพื้นดินเป็นแนวรัศมี ใบย่อยมี 9-13 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปวงรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนานแกมรูปวงรี ปลายใบเป็นรูปไข่กลับ ใบย่อยมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร ผิวใบมีขนละเอียดสีขาวขึ้นปกคลุม[1]
- ดอกพิษนาศน์ ออกดอกเป็นช่อกระจะ โดยจะออกที่ปลายยอด ดอกย่อยมีจำนวนมาก กลีบดอกเป็นสีม่วงเข้ม มีลักษณะเป็นรูปดอกถั่ว ก้านช่อดอกยาว[1]
- ผลพิษนาศน์ ผลมีลักษณะเป็นฝักรูปขอบขนาน มีขนละเอียดสีขาว ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด[1]
สรรพคุณของพิษนาศน์
- ยาสมุนไพรพื้นบ้านของจังหวัดอุบลราชธานี จะใช้รากพิษนาศน์ นำมาฝนกับน้ำดื่มเป็นยาช่วยลดไข้ในเด็ก ใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงน้ำนมของสตรี (กินมากไม่ดี) ใช้ฝนทาแก้พิษงู (ต้องว่าคาถาด้วย) และใช้ลำต้น ราก เหง้า และใบนำมาฝนทาเป็นยาแก้ฝี[1]
- ยาพื้นบ้านอีสานจะใช้รากพิษนาศน์ ฝนกับน้ำทาแก้ฝี[1],[2]
- บางข้อมูลระบุว่า สมุนไพรชนิดนี้ชาวบ้านจะใช้ส่วนของรากนำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาขับพิษภายใน ขับน้ำค้างขังตามที่ต่าง ๆ แก้คางทูม แก้ฟกบวมตามข้อ ตามกล้ามเนื้อ และใช้ส่วนของต้นเป็นยาแก้ไข้เซื่องซึม ช่วยดับพิษกาฬที่ทำให้หมดสติ พูดไม่ออก (ยังไม่ยืนยัน)
ขอบคุณข้อมูลจาก medthai.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 26,150.00 | 26,350.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,694.00 | 25,681.04 | 26,850.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,524.60 | 23,112.94 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,355.20 | 20,544.83 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 762.00 | 11,551.92 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 593.00 | 8,989.88 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,755.00 | 26,605.80 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 24/04/2563
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 | 16.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 | 16.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 15.44 | 15.44 | 15.44 | 15.44 | 15.44 | – | 15.44 | 15.44 | 15.44 | 15.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 15.04 | 15.04 | – | – | – | – | – | 15.04 | – | – |
เบนซิน 95 | 24.36 | – | – | – | 24.81 | – | 24.86 | 24.36 | – | 24.36 |
ดีเซล | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 | 17.89 |
ดีเซล B10 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | 14.89 | – | 14.89 |
ดีเซล B20 | 14.64 | 14.64 | 14.64 | 14.64 | 14.64 | – | 14.64 | 14.64 | – | 14.64 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 21.74 | 21.76 | 23.74 | 23.74 | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.31 | 15.31 | – | – | – | – | – | – | – | – |