สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 24 กรกฎาคม 2560

อสังหาชิงดีมานด์ คอนโดสายสีน้ำเงิน

อสังหาชิงดีมานด์ คอนโดสายสีน้ำเงิน

หลังจากที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพงบางแค มีความคืบหน้าในการก่อสร้างที่ชัดเจน จึงเริ่มเห็นผู้ประกอบการ อสังหาฯ ต่างทยอยเดินหน้าพัฒนาโครงการ โดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งธนบุรีที่ยังมีอุปทานของคอนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าค่อนข้างน้อย

ทั้งนี้ รายงานของบริษัท คอลลิ เออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า มีโครงการเปิดขายใหม่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างโดยเฉพาะสายสีเขียวตอนเหนือและสายสีน้ำเงินค่อนข้างมาก  เนื่องจากผู้ประกอบการต้องการเปิดขายโครงการที่มีราคาไม่สูงเกินไป

ขณะที่ ปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท เปิดเผยว่า ตลาดคอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนั้นยังน่าลงทุน  เนื่องจากเป็นแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ที่อยู่ใกล้เมืองและอยู่ในเขตชุมชนเก่า มีจำนวนอุปสงค์กับอุปทานยังไม่มาก ขนาดตลาดอยู่ที่ประมาณ 2,400 ล้านบาท และยังมีโอกาสเติบโตค่อนข้างมากตามสถานีที่เดินทางเชื่อมเข้าสู่เมือง

“รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินนั้นผ่านชุมชนเมืองที่มีขนาดใหญ่และมีความหนาแน่นสูง แต่ใช่ว่าการพัฒนาเกาะแนวรถไฟฟ้าจะปลอดภัยเสมอ จึงจำเป็นจะต้องเลือกสถานีและโซนที่สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองได้สะดวก โดยต้องมองว่าสถานีนั้นๆ มีความต้องการที่สูงพอ อย่างเช่น บริเวณจรัญสนิทวงศ์ และท่าพระ”

ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตได้สูงกว่าครึ่งปีแรกที่ 16% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและกำลังซื้อจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ  และการเริ่มลงทุนโครงการขนาดใหญ่ จึงมีโอกาสที่ทำให้อสังหาฯ ในปีนี้จะเติบโตได้มากกว่า 5% ส่วนยอดขายรวมของบริษัทในปีนี้คาดว่าจะทำได้ 5.5 หมื่นล้านบาท มากกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ 5.29 หมื่นล้านบาท

สำหรับบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ได้เปิดตัวคอนโดมิเนียม THE PRIVACY ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่จับกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ในราคา 2-3 ล้านบาท บนเส้นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 2 โครงการ ได้แก่ THE PRIVACY จรัญฯ-ราชวิถี สเตชั่น และ THE PRIVACY ท่าพระ อินเตอร์เชนจ์ และมีแผนจะเปิด THE PRIVACY พระราม 9 เพิ่มอีก 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวม  5,500 ล้านบาท ขณะที่ บริษัท ศุภาลัย เตรียมเปิดโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า อยู่ห่างจากสถานีภาษีเจริญ 150 เมตร ในราคาขายเริ่มต้น 1.5 ล้านบาท

รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินทั้งสองช่วง มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2562 ซึ่งคาดว่าตลาดคอนโดเกาะแนวสายสีน้ำเงินจะยิ่งคึกคักขึ้นเป็นลำดับ

ที่มา posttoday.com


คอลัมน์ คลินิคคนรักบ้าน: ‘นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์’

 นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์'

การลงทุนอสังหาริมทรัพย์โครงการน้อยใหญ่ไม่ว่าจะเป็น “บ้านเดี่ยว,  บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์, อาคารพาณิชย์, โฮมออฟฟิศ, มินิอพาร์ตเมนต์, อพาร์ตเมนต์, บูทิคอพาร์ตเมนต์, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์, บูทิคโฮเทล, โรงแรม, รีสอร์ท, คอนโดมิเนียม, บ้านจัดสรร” ฯลฯ  ไม่ว่าจะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนมากหรือน้อยเพียงใด สำหรับผมแล้วทุกโครงการจะต้องเป็น “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”หรือ “Real Estate Innovation” เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เป็นเสมือนการ เตรียมการที่จะกลัด “กระดุมเม็ดแรก” ซึ่ง “ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล” ซึ่งท่านดำรงตำแหน่ง “เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา” เคยสอนผมครั้งเมื่อผมทำงานกับ “มูลนิธิ ชัยพัฒนา” ว่า  “กระดุมเม็ดแรก หากกลัดผิด กระดุมเม็ดที่ 2, 3, 4 ถัดมา  ถึงจะตั้งใจทุ่มเททั้งความรู้ความสามารถมากเท่าไรก็จะผิดหมด” ดังนั้นการตั้ง “สมมุติฐาน” (Hypothesis) ที่มีความเป็นไปได้จะต้องมาจากพื้นฐานของความเป็น”นวัตกรรม” อันเป็นความคิด “สร้างสรรค์” เท่านั้น  และ “นวัตกรรม” จำนวนไม่น้อย ล้วนแล้วแต่เป็น “นวัตกรรม” ที่คิด “นอกกรอบ” นำมาซึ่งการปฏิวัติและปฏิรูปทั้งในด้านศิลปะและวิทยาการครั้งสำคัญและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้แก่โลก เช่น  “Smart Phone” ที่ “สตีฟ จ็อบส์” เป็นผู้คิดค้น “นวัตกรรม” ชิ้นนี้ขึ้นได้ ส่งผลกระทบในมุมกว้างไปทั่วโลก และเมื่อ “นวัตกรรม”ได้เกิดแล้วจะไม่มีวันย้อนกลับมาอีกครับ

บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับแนวหน้าของโลกก็ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าแห่ง “นวัตกรรม” ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัย “พื้นฐานความรู้” และ “การลงทุน” ถ้าหากผลงานวิจัย ค้นคว้าชิ้นเยี่ยมจบลงแค่วิทยานิพนธ์ 1 หรือ 2 เล่ม ในห้องสมุดก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดในวงกว้าง   เป็นได้เพียงแค่บทความที่กล่าวอ้างถึงในวงวิชาการ  ที่ทำอะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่เป็น เป็นสถานการณ์ที่เรียกว่า “ความรู้ท่วมหัวเอาตัว ไม่รอด”  ดังนั้น “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์” ในมุมมองของผมจะต้องก่อให้เกิดผลกระทบทั้งแนวกว้างและลึกและก่อให้เกิดรายได้นำมาซึ่ง “ประโยชน์” และ “ความสุข” ให้แก่เจ้าของ “นวัตกรรม” เองและแก่สังคมโดยรวมครับ

ผมยกตัวอย่าง “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์” ที่เห็นได้อย่างชัดเจน คือ “นวัตกรรม” ในการก่อสร้าง “ระบบสำเร็จรูป” (Pre-Fabrication) ซึ่งได้เข้ามาอย่างแพร่หลายอย่างรวดเร็วในระยะเวลาเพียง 10 กว่าปี โดยเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องการขาดแคลนแรงงาน, การควบคุมคุณภาพ, การควบคุมเวลาและการควบคุมการใช้ทรัพยากร

นี่เป็นตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนใน “นวัตกรรม” ที่เกิดขึ้นและเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงทุน “อสังหาริมทรัพย์”

หลังจากที่ได้ตัดสินใจลงทุนทำแน่แล้ว   จำเป็นต้องหา “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์” ที่ทำให้มีชัยชนะเหนือคู่แข่ง แบบ “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ซึ่ง “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์” ทั้ง 8 ข้อ ประกอบด้วยสาระสำคัญดังนี้

นวัตกรรมข้อที่ 1  “Real Estate Hypothesis Innovation” ซึ่งหมายถึง การสร้าง “สมมุติฐาน” ซึ่งนำไปสู่การสร้าง “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

นวัตกรรมข้อที่ 2 “Real Estate Feasible + Business Model Innovation”  ซึ่งหมายถึง การศึกษาความเป็นไปได้และโมเดลธุรกิจที่เป็น “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

นวัตกรรมข้อที่ 3  “Real Estate Architectural Design Innovation”  ซึ่งหมายถึง รูปแบบทางสถาปัตยกรรมซึ่งเป็น “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

นวัตกรรมข้อที่ 4 “Real Estate Construction Innovation” ซึ่งหมายถึง ระบบการก่อสร้างที่เป็น “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

นวัตกรรมข้อที่ 5 “Real Estate Working Process Innovation” ซึ่งหมายถึง ขั้นตอนการทำงานอย่างเป็นระบบระเบียบในการพัฒนา “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

นวัตกรรมข้อที่ 6 “Real Estate Marketing + Service  Innovation”  ซึ่งหมายถึง  การทำตลาดและการให้บริการต่างๆ แก่ลูกค้า ที่เป็น “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

นวัตกรรมข้อที่ 7  “Real Estate  Flexible Innovation” ซึ่งหมายถึง ความสามารถในการปรับเปลี่ยนตัวเองเมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม เปลี่ยนไปของ “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

นวัตกรรมข้อที่ 8 “Real Estate  Assessment Innovation” ซึ่งหมายถึง กระบวนการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลาในการพัฒนา “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์”

ซึ่ง “นวัตกรรมอสังหาริมทรัพย์” ทั้ง 8  ข้อนี้แหละครับ ที่ผมจำเป็นต้อง  “หาให้ได้ หาให้เจอ หาให้พบ” ก่อนตัดสินใจลงทุนทำ “อสังหาริมทรัพย์” ไม่ว่าจะเป็นโครงการน้อยใหญ่ เป็นกระบวนการที่สำคัญในการกลัด “กระดุมเม็ดแรก” ของผม ซึ่งหากน้อยกว่านี้ก็ไม่เอา จะต้องทำอย่างน้อยให้ได้เท่านี้หรือทำได้มากกว่านี้ ท่านผู้อ่านก็ลองนำเอาไปพิจารณากันดูครับ และนำไปปรับประยุกต์ใช้ก็น่าจะเกิดประโยชน์ ผมลองนำไปปรับประยุกต์ใช้กับตัวเองแล้วเกิดผลดีเป็นอย่างยิ่งครับ

ที่มา  หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก


“ที่ดินทรุด” ปัญหาโลกแตกที่เช็กและแก้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

ที่ดินทรุดปัญหาโลกแตกที่เช็กและแก้ได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

เรียกว่าปัญหาโลกแตกอย่างที่ดินรุดนั้น เป็นสิ่งที่หลายคนปวดหัวหนักมาก เพราะนอกจากจะต้องเสียเวลาลงแรงและเปลืองเงินแล้ว ยังนำความเสียหายมาให้เมื่อลงมือก่อสร้างบ้านหรืออาคารไปแล้ว ดังนั้นทางที่ดีเพื่อไม่ให้ต้องเผชิญกับปัญหาดังกล่าว ควรตรวจสอบดินทรุดด้วยวิธีต่างๆ พร้อมศึกษาวิธีแก้ปัญหา อย่างละเอียดถี่ถ้วนเรียนรู้

ตรวจสอบดินทรุดอย่างเข้าใจ

1. ย้อนอดีตที่ดินของตนเอง

สืบหาสาเหตุที่ดินทรุด

สืบหาสาเหตุที่ดินทรุด ภาพ  via eitprblog.blogspot.com

ในที่นี้หมายถึงการมองย้อนกลับไปว่าก่อนจะเห็นที่ดินว่างเปล่า อันถูกถมจนเรียบเตียนแล้วนั้น บริเวณนี้เป็นอะไรมาก่อน หากเป็นแอ่ง บ่อน้ำ หรืออยู่ใกล้กับแม่น้ำ รับรองว่าต่อให้ถมดินอย่างไรก็ทรุด สืบเนื่องจากดินอมน้ำมาเป็นเวลานาน บวกกับหากตั้งอยู่ใกล้กับคลองหรือแม่น้ำ แน่นอนว่าถูกน้ำกัดเซาะอยู่ตลอด เหตุนี้เองจึงทำให้เป็นปัจจัยหลักของที่ดินทรุดในบริเวณดังกล่าว เพราะฉะนั้นทางที่ดีก่อนซื้อที่ดิน ควรพิจารณาความเป็นมาของที่ผืนนั้นเป็นอันดับแรก แต่ถ้าหากเป็นที่ได้มาจากมรดกตกทอด อาจจะต้องศึกษาวิธีการป้องกันดินทรุดตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนจะสร้างบ้าน ไม่เช่นนั้นเตรียมเผชิญปัญหาเรื่องโครงสร้างบ้านเป็นอันดับต่อไป

2. ศึกษาที่ดินทรุดของตนเองอยู่โซนไหนของกรุงเทพฯ

ศึกษาที่ดินทรุดของตนเองอยู่โซนไหนของกรุงเทพฯ

ศึกษาที่ทรุดแต่ละโซนของกรุงเทพฯ ภาพ via rtsd.mi.th

หลายคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่าที่ดินกรุงเทพฯ และปริมณฑล มักจะทรุดตัวลงทุกปี ปริมาณ 1 เซนติเมตร ทั้งนี้มีระดับน้ำทะเลหนุนปีละปริมาณ 4 มิลลิเมตร อาจเป็นเพราะกรุงเทพฯ มีลักษณะเป็นที่ลุ่มต่ำ ประกอบกับตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยา จึงทำให้บางที่ดินเกิดเป็นแอ่ง ซึ่งเป็นเช่นนี้มานานแล้ว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของดิน รวมทั้งทัศนียภาพบริเวณนั้นด้วย โดยอัตราเฉลี่ยของการทรุดตัวในแต่ละเซนติเมตรนั้น เกิดจากตึกรางบ้านช่องถูกสร้างบนดินลักษณะอ่อนนุ่มนั่นเอง และถ้าดูผลการสำรวจจากกรมทรัพยากรธรณี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย และกรมแผนที่ทหารเมื่อช่วงปี 2551 จะพบว่าแต่ละโซนของกรุงเทพฯ มีที่ดินทรุดตัวมากน้อยแตกต่างกัน ทั้งนี้พื้นที่ทรุดมากที่สุดคือเขตบางกะปิ โดยมีการทรุดตัวสะสมประมาณ 1.20 เมตรเศษ ส่วนที่น้อยสุดคือฝั่งนนทบุรี

3. พิจารณาที่ดินทรุดช่วงหน้าฝน

พิจารณาที่ดินทรุดช่วงหน้าฝน

เวลานี้อย่าเพิ่งมองว่าฝนตกจะทำให้ทุกอย่างแย่ไปหมด เพราะสำหรับงานก่อสร้างหรือถมที่นั้นถือว่าเป็นเรื่องดีอย่างมาก และจะใช้เวลานี้ในการเช็กว่าที่ดินทรุดหรือไม่ โดยสามารถดูได้จากปริมาณดินอันไหลไปกับน้ำฝน ในขณะเดียวกันหากเพิ่งถมใหม่ๆ จะทำให้ที่ดินมีความแน่นขึ้น ทั้งนี้การถมที่ให้แน่นมีด้วยกัน 2 วิธีคือ ถมแบบอัด เพิ่มปริมาณความหนาทีละชั้นหน้าดิน เมื่อฝนตกถูกชะล้างออกไป วิธีนี้สามารถป้องกันดินทรุดได้ดี ส่วนวิธีที่ 2 เป็นการถมแบบไม่อัด คือให้เต็มพื้นที่ทีเดียว แน่นอนว่าข้อดีคือได้ความเร็ว แต่ข้อเสียสังเกตได้เลยฝนตกแบบนี้ ดินทรุดแน่นอน

แก้ไขรับมือปัญหาที่ดินทรุดแบบกล้วยๆ
1. ถมที่ดินใหม่ให้แน่น
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าการถมที่ดินในหน้าฝนจะทำให้ดินแน่น แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรูปแบบของการถมด้วย ซึ่งแน่นอนว่าการถมแบบบีบอัด ย่อมป้องกันปัญหาที่ดินทรุดได้อย่างดี แต่ถ้าต้องการความแน่น เพื่อความชัวร์ว่าสร้างบ้านหรืออาคารไปแล้วไม่ทรุด ต้องเพิ่มปริมาณดินทีละชั้นประมาณ 20-50 เซนติเมตร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะดินด้วย ประกอบกับระหว่างการถมต้องอัดให้แน่นทีละชั้น แล้วค่อยถมต่อ อันเป็นกระบวนการของการบีบอัดหน้าดิน ซึ่งต้องทำเช่นนี้จนกว่าจะได้ระดับดินจนเต็มพื้นที่ ทั้งนี้เมื่อถมเสร็จ สังเกตว่าปริมาณดินไม่เกิดการยุบตัวลง จึงค่อยลงมือสร้างบ้านหรืออาคารนั้นได้
2. สร้างกำแพงดิน
วิธีการนี้เป็นขั้นตอนแก้ไขปัญหาเมื่อดินทรุดตัวลงแล้ว ซึ่งอาจเกิดจากขั้นตอนการถมดินโดยไม่ได้ใช้วิธีบีบอัด ทำให้ดินไหลไปกับกระแสน้ำ ดังนั้นวิธีแก้ไขเฉพาะหน้าคือต้องสร้างกำแพงดินนั่นเอง
3. ใช้หลักการพอเพียง ด้วยการปูหญ้าแฝก
เรียกว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาดินทรุด ที่ประหยัดสุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักการพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยวิธีปลูกหญ้าแฝกในแนวสโลบ เพื่อป้องกันดินสไลด์ในช่วงหน้าฝนหรือฤดูน้ำหลาก ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมปลูกขวางแนวลาดชัน ทั้งนี้เป็นการป้องกันน้ำกัดเซาะ นิยมกับพื้นที่ริมแม่น้ำ

ภาพหลัก via thaiengineering.com

เรียนรู้วิธีตรวจสอบที่ดินทรุดก่อนจะตัดสินซื้อที่ดิน โดยสามารถทำการเช็กระดับหน้าดิน เพื่อป้องกันการทรุดได้อยู่ตลอด

ที่มา ddproperty.com


5 ขั้นตอนง่ายๆ เปิดแจ้งเตือนอีเมลเข้าใน Gmail บน PC

ตั้งแต่มีสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ หลายคนก็ต้องสมัครใช้งาน Gmail บริการอีเมลฟรีของ Google เพื่อผูกการใช้งาน ทั้งนี้ Gmail ก็ยังเป็นแอพฯ ตัวหนึ่งที่ใช้งานบนเครื่อง PC ได้ด้วย (ผ่านเว็บบราวเซอร์ Chrome) แต่ก็ไม่รู้ทำไม เวลามีอีเมลเข้ามา ใน PC กลับไม่มีแจ้งเตือนเหมือนสมาร์ทโฟนซะงั้น ดังนั้นเราจะมาเปิดการตั้งค่า ให้ Gmail บน PC มีการแจ้งเตือนเมลเข้าใหม่ทุกครั้งกันดังนี้

เปิดแจ้งเตือนอีเมลเข้าใน Gmail

1. ไปที่ Gmail ของเรา จากนั้นให้มองหาไอคอนรูปฟันเฟือง แล้วคลิกที่ตัวเลือก “การตั้งค่า”

2. ในหน้าตั้งค่า ให้เราเลื่อนหน้านี้ลงมาก็จะเจอหัวข้อ “การแจ้งเตือนทางเดสก์ทอป” ในหัวข้อก็จะมีตัวเลือกอีก 3 ข้อ ให้เราเลือก “เปิดการแจ้งเตือนจดหมายใหม่”

3. ถ้าหากว่าสีของหน้าดูจืดไป เราก็สามารถเปลี่ยนสีหน้าที่เขียนได้ตามใจชอบ แล้วแต่ว่าเราจะสะดุดตาสีไหนมากที่สุด

4. เท่านี้ก็จะมีการแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีอีเมลใหม่เข้าแล้ว โดยจะปรากฎการแจ้งเตือนตรงมุมล่างซ้ายของหน้าจอ

5. แต่ถ้าเราต้องการให้เฉพาะอีเมลสำคัญเท่านั้น ไม่ต้องทั้งหมด ใน 3 ตัวเลือกก่อนหน้าให้เราเลือก “เปิดการแจ้งเตือนจดหมายสำคัญ” จากนั้นให้ไปติดดาว (ตามภาพ) ในเฉพาะอีเมลที่เราคิดว่าสำคัญ เป็นอันเสร็จ

ที่มา aripfan.com


การตอบรับคำแนะนำภาษาอังกฤษ

การตอบรับคำแนะนำ ซึ่งโดยปกติแล้วอาจจะตอบได้สองวิธีหลักๆ คือ

1.การตอบโดยธรรมดา
2.การตอบโดยสุภาพ

1. การตอบรับคำแนะนำแบบธรรมดา (General accepting an advice) 
คำที่เรามักพบบ่อยๆ คือ Yes, Alright, Definitely,Certainly,That sounds good etc.

Yes

ตัวอย่าง เช่น

Jim: I would like to advise you to take the local bus to go to this shopping center.
จิม: ผมอยากจะแนะนำคุณว่าควรจะขึ้นรถในท้องที่ เพื่อไปศูนย์การค้า

Carl: Yes. I will take your advice.
คาร์ล: ครับ ผมจะทำตามคำแนะนำของคุณ

Alright
ตัวอย่างเช่น

Keith: I suggest that you go to the coffeehouse with me. We can talk about your new ideas.
คีท: ผมแนะนำว่าคุณควรไปที่ร้านกาแฟกับผม เราจะสามารถพูดเกี่ยวกับแนวความคิดใหม่ๆของคุณ

Greg: Alright, I will be glad to go with you.
เกรก: ครับได้เลยครับ ผมดีใจ/ยินดีที่จะไปกับคุณ

Definitely
ตัวอย่าง เช่น

Situation: A detective accepts the advice from his client.
สถานการณ์: นักสืบยอบรับคำแนะนำจากลูกค้าของเขา
Mustard: I would like to suggest that you keep following Jess all the time. Do not let her know.
มุสตาร์ต: ผมอยากจะแนะนำคุณว่าคุณควรจะติดตามคุณเจสตลอดเวลาอย่าให้คลาดสายตาและ อย่าปล่อยให้เธอรู้

Paul: Definitely. I will have my staff to follow Jess.
พอล: ได้ครับ แน่นอน ผมจะให้ทางเจ้าหน้าที่ของผมติดตามเธอ

Certainly
ตัวอย่าง เช่น

Situation: A policeman accepts an advice from a pedestrian.

สถานการ์ณ: ตำรวจยอมรับคำแนะนำจากคนข้ามถนน

George: I would like to suggest that there is a policeman standing here. It will make me feel more safe.
จอร์จ: ผมอยากจะแนะนำว่าควรจะมีตำรวจยืนกำกับอยู่จุดนี้ มันจะทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย

Max: Certainly. This will be possible.
แม๊กส์: แน่นอนครับ ได้ครับ

That’s sound good to me.
ตัวอย่าง เช่น

Joan: I would like to suggest you that you purchase these tea bags in half-price.
โจน: ฉันอยากจะแนะนำคุณว่าคุณควรจะสั่งซื้อถุงใส่ชาเหล่านี้ ครึ่งราคา

Ben: That sounds good for me.
เบน: ดีจังเลย ฟังดูดีน๊ะ

*** That sounds good to me เป็นการตอบรับคำแนะนำโดยใช้สำนวนที่เป็นกันเอง โดยมากใช้กับบุคคลที่คุ้นเคย

2. การตอบรับแบบสุภาพ (Polite accepting an advice)

ปกติแล้ว สำนวนที่เรามักพบบ่อยๆ คือ

It is possible for me to…
I would love to …..
I am glad to….
I am very pleased to ….
I am very pleased to ….

It is possible for me to…

Greg: I recommend that you finish reading this book.
เกรก: ผมแนะนำว่าคุณควรจะอาจหนังสือเล่มนี้ให้จบ

Oscar: It is possible for me to follow your recommendation.
ออสก้า:ครับได้เลยผมจะทำตามคำแนะนำของคุณ

I would love to …..

Charlie: I advise you to read these books.
ชาร์ลลี: ผมแนะนำว่าคุณควรอ่านหนังสือเหล่านี้

Jimmy: I would love to do so. They look very attractive.
จิมมี่: ครับ ผมอยากจะอ่านมันอยู่พอดี หนังสือเหล่านี้ดูน่าสนใจดี

I would like to….

John: Please see these magazines. You may prefer one of them.
จอห์น: กรุณาดูนิตยาสารเหล่านี้ คุณอาจจะชอบ 1ในนั้นก็ได้

Greg: I would like to see them.
เกร็ก: ครับ ผมชักจะเห็นนิตยาสารที่คุณว่าแล้วสิ

I am glad to….

Marry: I recommend you to drink herbal tea everyday.
แมรี่:ฉันแนะนำว่าเธอควรจะดื่มชาสมุนไพรทุกๆวัน

Nancy: I am glad to drink the herbal tea.
แนนซี่:ได้เลย ฉันยินดีที่จะดื่มชาสมุนไพรตามที่เธอบอกทุกๆวัน

I am very pleased to ….
George: I give an advice to you to join us for dinner on Friday. I will have you meet one of my best friends.
จอร์จ: ผมแนะนำคุณว่าคุณควรจะไปร่วมดินเนอร์กับเราในวันศุกร์นี้ ผมจะให้คุณเจอเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งของผม

Henry: I am very pleased to join you for dinner.
เฮนรี่: ได้เลยครับ ผมยินดีที่จะไปร่วมดินเนอร์กับพวกคุณ

ที่มา engjang.com


ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gol

 

 

 

 

0 20,


ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05 26.05
แก๊สโซฮอล E-20 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54 23.54
แก๊สโซฮอล E-85 19.54 19.54 19.54 19.54
แก๊สโซฮอล 91 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78 25.78
เบนซิน 95 33.16 33.61 33.61 33.66 33.16 33.16 33.16
ดีเซลหมุนเร็ว 24.79 24.79 24.79 24.79 24.79 24.79 24.79 24.79 24.79 24.79
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 27.79 28.47 28.47 28.47 28.47
มีผลตั้งแต่ 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00 22 Jul 05:00
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า