สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2563

“โควิด”กระทบ“รับสร้างบ้าน”หดตัว30%

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เผยโควิด-19 ฉุดครึ่งปีแรกตลาดรับสร้างบ้านหดตัว 20-30% คาดภายในปี 63 มีมูลค่ารวมประมาณ 12,500 ล้านบาท ขยายตัวลดลง 10-15%

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คาดว่าน่าจะหดตัวไม่น้อยกว่า 20 – 30% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ซึ่งหากไม่มีการระบาดรอบสองหลังจากการคลายล็อก รวมถึงรัฐบาลได้ประกาศแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภายใต้วงเงิน 4 แสนล้านบาท เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม สำหรับในปีนี้คาดว่าตลาดรับสร้างบ้านจะมีมูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท ขยายตัวลดลง 10-15%

“ถึงแม้ทางสมาคมยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกที่คาดจะมีการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ยอมรับว่าธุรกิจโดยรวมยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ในภาวะการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้สภาวะ “New Normal” ที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ มากมาย ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้านจำเป็นต้องปรับรูปแบบการตลาดใหม่ให้ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย ”นายวรวุฒิ กล่าว

ส่วนการแข่งขันของตลาดธุรกิจรับสร้างบ้าน ปัจจุบันมีการแข่งขันกันค่อนข้างมากในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ของผู้บริโภค ทั้งนี้ภายใต้การแข่งขันของธุรกิจที่รุนแรง สิ่งสำคัญที่บริษัทรับสร้างจะต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไปก็คือการบริหารต้นทุน รวมถึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเข้ามามีบทบาททางด้านการตลาด ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนการขยายสาขาเพิ่มแล้วยังทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

ทั้งนี้สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านจึงได้มีการปรับตัว ผ่านรูปแบบการจัดงาน ทั้งแบบออฟไลน์ และออนไลน์ โดยกำหนดจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Expo 2020 แบบออฟไลน์ ระหว่างวันที่ 1 – 4 ต.ค. 2563 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 8 ส่วน Online Exhibition ทางสมาคมจะหารือกับคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่งถึงกำหนดการจัดงานทาง Online ต่อไป

โดยในส่วนของช่องทางออนไลน์สมาคมได้มีการจัดงานรับสร้างบ้านและวัสดุผ่านระบบออนไลน์ครั้งแรกในช่วงเดือนมี.ค. ซึ่งมีการแพร่ระบาของไวรัสโควิด-19 โดยมีสมาชิกเข้าร่วมออกบูธออนไลน์ 13-14 บริษัท ซึ่งมียอดจองเข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 125 ล้านบาท ทั้งนี้สมาชิกได้มาติดตามลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ คาดว่าจะมียอดจองเพิ่มเติมอีกประมาณ 500-600 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“โควิด” ดันคนซื้อบ้านชานเมืองทะลัก

” นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง” ประเมินโควิด -19 เป็นแรงเสริมให้ผู้อยู่อาศัยเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์แนวราบมากขึ้น โดยเฉพาะเขตชานเมือง ตอบโจทย์แทนคอนโดกลางกรุง

มีการประเมินกันว่า บ้านชานเมืองเข้ามาแทนที่ คอนโดมิเนียมกลางเมืองเป็นที่เรียบร้อย จากการมาของโควิด-19   สะท้อนได้จากคนให้ความสนใจเข้าซื้อโครงการ ย่านชานเมืองมากขึ้น เพราะความตื่นกลัวโรคระบาด ขยาดใช้พื้นที่ร่วมกัน แบบคอนโดฯ จึงไม่แปลกที่ว่าบ้านแนวราบจะกลับมาเนื้อหอมอีกครั้ง

นายสุธรรม สุวรรณนภาศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยว่า อสังหาฯแนวราบในปีนี้ ยังมีโอกาสเติบโต แม้ตัวเลขจะไม่หวือหวานักแต่เชื่อมั่นว่าจะไม่ติดลบอย่างแน่นอน ขณะที่อสังหาฯแนวสูง นักวิเคราะห์หลายรายก็มองไปในทิศทางเดียวกันว่า มีโอกาสติดลบสูงถึง 40% เนื่องจาก มาตรการรักษาระยะห่างทำให้การใช้พื้นที่ส่วนกลางของคอนโดยากขึ้น ผู้อยู่อาศัยต้องถูกจำกัดอยู่ในห้องส่วนตัว ซึ่งน่าจะส่งผลต่อมุมมองการเลือกที่อยู่อาศัยแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งการปรับตัวของผู้บริโภคนี้เอง น่าจะส่งผลกระทบต่อผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีสายป่านสั้น กระแสเงินสดไม่สะพัด อาจเป็นโอกาสที่ธุรกิจอาจจะปิดตัวลงจากสถานการณ์นี้ได้

นอกจากนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ทำให้เกิดมาตรการรักษาระยะห่างระหว่างกัน น่าจะส่งผลให้อสังหาริมทรัพย์แนวราบได้รับอานิสงค์ดังกล่าว เชื่อว่าผู้บริโภคที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหลังใหม่ น่าจะมองบ้านแนวราบเป็นทางเลือกมากขึ้น เนื่องจากราคาบ้านแนวราบเขตชานเมืองในปัจจุบันนั้นมีราคาที่ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับคอนโดใจกลางกรุง แต่ยังคงเดินทางเข้าออกเมืองได้อย่างสะดวก ทำให้บ้านแนวราบกำลังเป็นที่จับตามองในขณะนี้

ส่วนมาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ภาครัฐอนุมัติผ่อนปรน 90% นั้น มองว่ามีผลทางจิตวิทยา ไม่มีผลในการช่วยตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชนมากนัก สิ่งที่จะกระตุ้นการตัดสินใจได้มาก น่าจะเป็นการยกเลิกมาตรการ LTV โดยเฉพาะกับโครงการแนวราบ เนื่องจากอสังหาฯแนวราบส่วนใหญ่ ผู้อยู่อาศัยเป็นเรียลดีมานต์ ไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือปล่อยเช่าเหมือนโครงการแนวสูงในเมือง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทแข็งค่า คาดกนง.คงดอกเบี้ย0.50%ถึงสิ้นปี

เงินบาทแข็งค่า คาดกนง.คงดอกเบี้ย0.50%ถึงสิ้นปี

กรุงศรีเผยเงินบาทแข็งค่าหลังกนง. คงดอกเบี้ยตามคาด มองดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.50% ถึงสิ้นปี

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.50% ตามที่ตลาดคาดไว้ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาที่ระดับ 30.82 ต่อดอลลาร์ ภายหลังการลงมติ นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทอ่อนค่าลงราว 3% เนื่องจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 และภาวะเงินทุนไหลออก อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 2 เงินบาทปรับตัวดีกว่าสกุลเงินในภูมิภาคจาก Sentiment ที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งเพราะมีการตอบสนองด้านนโยบายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ในแบบที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน ทั้งนี้ กนง. กล่าวว่าเงินบาทและสกุลเงินภูมิภาคแข็งค่าขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ หลังจากดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลหลักๆ และระบุว่า คณะกรรมการดูแลนโยบายการเงินยังคงจับตาดูสถานการณ์และประเมินความจำเป็นที่จะดำเนินมาตรการเหมาะสมเพิ่มเติม

คณะกรรมการ กนง. ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2563 มีแนวโน้มหดตัวมากกว่าที่ประเมินไว้ เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) รุนแรงมากกว่าที่คาด อย่างไรก็ตาม กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะค่อยๆ ฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มติดลบมากกว่าที่ประเมินไว้ แต่น่าจะกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายได้ในปี 2564 ขณะที่ความเปราะบางของระบบการเงินได้เพิ่มขึ้นจากสภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลง โดย กนง. ย้ำถึงความกังวลต่อผลกระทบในภาคส่งออก การท่องเที่ยวและตลาดแรงงาน และได้มีการปรับคาดการณ์ GDP ในปีนี้ เป็นติดลบ 8.1% จากเดิมติดลบ 5.3%

คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 5 ส.ค. 2563 ความเห็นของ กนง. ในวันนี้ยังแสดงถึงมุมมองที่สนับสนุนการดำเนินนโยบายแบบผ่อนปรน โดย กนง. กล่าวว่าการใช้มาตรการทางการคลังที่มีประสิทธิภาพและช่วงเวลาเหมาะสม รวมทั้งมาตรการด้านการเงินและสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไปเป็นสิ่งจำเป็น และกนง. จะประเมิน “ประสิทธิผล” ของมาตรการด้านการคลัง การเงิน และสินเชื่อ มากกว่าเน้นด้าน “ความเพียงพอ” ของมาตรการต่างๆ รวมทั้งมีการพิจารณาการใช้เครื่องมือนโยบายการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติมถ้ามีเหตุจำเป็น ทั้งนี้ กลุ่มงานโกลบอล มาร์เก็ตส์ มองว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะยังอยู่ที่ระดับ 0.50% ไปจนถึงสิ้นปีนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


เปิด 2 เงื่อนไข “ลิเวอร์พูล” การันตีแชมป์พรีเมียร์ลีก

เปิด 2 เงื่อนไขที่จะทำให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล การันตีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้ มาครอง หลังล่าสุดเปิดบ้านชนะ คริสตัล พาเลซ ขาดลอย

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า