ครม.ไฟเขียวให้กคช.สร้างเคหะชุมชนฯชลบุรีและบ้านสวัสดิการขรก.จ.สงขลา–ปัตตานีเกือบ 1,710 หน่วย
ครม.อนุมัติให้กคช.จัดสร้างที่อยู่อาศัยภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ประกอบด้วย โครงการเคหะชุมชนฯ ชลบุรี (ห้วยกะปิ) 1,104 หน่วย และบ้านสวัสดิการข้าราชการ (เช่าซื้อ) จ.สงขลา และปัตตานี รวม 606 หน่วย
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ(กคช.) กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสนองตอบนโยบายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และรัฐบาลภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) โดยมีวิสัยทัศน์ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยถ้วนทั่วและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในปี 2579 (Housing for All)”
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2560 อนุมัติให้กคช.จัดทำโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559 จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชน ผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง จังหวัดชลบุรี (ห้วยกะปิ) ตั้งอยู่บริเวณตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี พื้นที่จัดทำโครงการ 28.79 ไร่ จัดสร้างเป็นอาคารชุดสูง 4 ชั้น ขนาดห้องประมาณ 32 ตารางเมตร รวมทั้งสิ้น 1,104 หน่วย ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 560,000 บาท
นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติอนุมัติการดำเนินโครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ (เช่าซื้อ) จังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี จำนวน 2 โครงการ รวมทั้งสิ้น 606 หน่วย เพื่อเป็นสวัสดิการที่อยู่อาศัยและสร้างขวัญกำลังใจให้กับข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่จังหวัดสงขลาและจังหวัดปัตตานี ประกอบด้วย โครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ (เช่าซื้อ) จังหวัดสงขลา ตั้งอยู่บริเวณนิคมอุตสาหกรรม – ฉลุง กิโลเมตรที่ 10 ถนนสายเอเชีย ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พื้นที่จัดทำโครงการ 56.53 ไร่ จัดสร้างเป็นบ้านเดี่ยว ขนาดประมาณ 31.5 ตารางวา บ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดประมาณ 21 ตารางวา รวมทั้งสิ้น 491 หน่วย ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 839,500 บาท
สำหรับโครงการบ้านสวัสดิการข้าราชการ (เช่าซื้อ) จังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวงหมายเลข 410 (ปัตตานี – ยะลา) ตำบลตะลุโบะ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พื้นที่จัดทำโครงการ 14.59 ไร่ จัดสร้างเป็นบ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดประมาณ 28 ตารางวา รวมทั้งสิ้น 115 หน่วย ราคาขายเริ่มต้นประมาณ 835,500 บาท.
https://mgronline.com
แนวรถไฟฟ้ากำลังก่อสร้างทำเลฮิต“คอนโด”
ตลาดคอนโดมิเนียมก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้วเท่านั้น แต่ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาเริ่มเปลี่ยนไป
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่าจากปัจจัยราคาที่ดินในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองชั้นในที่ราคาที่ดินไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทต่อตารางวาไปแล้ว
ส่วนที่ดินในทำเลที่อยู่รอบๆ เมืองชั้นในราคาอาจจะต่ำกว่าแต่ก็มีผลต่อการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ซื้อที่ดินในราคาสูงไป ต้องพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับราคามากกว่า 180,000 บาทต่อตารางเมตรหรือยูนิตละ 5 ล้านบาทขึ้นไปสำหรับห้องขนาด 30 ตารางเมตรถึงมากกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตรเท่านั้นบนที่ดินในพื้นที่เมืองชั้นใน โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิทรวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน อีกทั้งคอนโดมิเนียมระดับราคาที่มากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรขึ้นไปมีกลุ่มผู้ซื้อที่ไม่มากนักในตลาดผู้ซื้อของคนไทย
เส้นทางรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่หลายเส้นทางเริ่มมีการก่อสร้างและเห็นความคืบหน้าชัดเจนส่งผลให้ผู้ประกอบการเริ่มเข้าไปซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้นส่งผลให้จำนวนคอนโดมิเนียมสะสมในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้าง (สีเขียวตอนเหนือและใต้, สีน้ำเงิน, สีแดง) มีจำนวนมากขึ้น แม้ว่าราคาที่ดินมีการปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงต่ำกว่าพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้ว โดยจำนวนคอนโดมิเนียมเริ่มมีมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา
จำนวนรวมของคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นมาในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้วอยู่ที่ประมาณ 94,649 ยูนิต
ขณะที่พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างเพิ่งเริ่มมีโครงการเปิดขายใหม่มากขึ้นในช่วงตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา ดังนั้นจำนวนรวมของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้จึงอยู่ที่ประมาณ 65,635 ยูนิต แม้ว่าจะยังน้อยกว่าพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินที่เปิดให้บริการแล้ว แต่มีแนวโน้มที่จำนวนคอนโดมิเนียมจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตและทำให้ช่องว่างนี้ลดลง
“เนื่องจากทำเลนี้ยังเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการต่อเนื่อง อีกทั้งผู้ประกอบการยังสามารถพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,000 ยูนิตได้แตกต่างจากพื้นที่เมืองชั้นในหรือชั้นกลางที่ราคาที่ดินสูงมากและมีการปรับราคาขึ้นกันมากกว่า 15-20% ต่อปีหรือมากกว่านี้ในบางทำเลรอบสถานีรถไฟฟ้า”
ในขณะที่พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างนั้นมีการปรับราคาขึ้นกันที่ประมาณ 8-15% ต่อปีเท่านั้นและราคาขายที่ดินก่อนหน้านี้ก็ต่ำมาก ซึ่งทำเลเหล่านี้ส่วนใหญ่ที่ดินจะมีการปรับราคาในอัตราที่สูงขึ้นในช่วงปี 2557 เป็นต้นมา เมื่อมีผู้ประกอบการเข้าไปหาซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมมากขึ้น เพราะเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมมากขึ้นแล้ว
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนรูปแบบของโครงการที่ของผู้ประกอบการคือ กำลังซื้อคนไทยที่ลดลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องหาทำเลที่สามารถพัฒนาโครงการราคาไม่สูงมากได้และเป็นทำเลมีศักยภาพในการขยายตัวในอนาคตด้วย เพื่อจะได้สร้างความน่าสนใจให้กับโครงการของตนที่เปิดขายอีกทั้งยังสามารถดึงดูดนักลงทุนได้อีกส่วนหนึ่งด้วยส่งผลให้พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างเป็นที่สนใจมากขึ้น
แนวโน้มของตลาดคอนโดมิเนียมในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างในอนาคตคาดว่าจะมีการขยายตัวมากขึ้นกว่าปัจจุบันเพราะผู้ประกอบการยังคงต้องการที่ดินที่ราคาไม่สูงเกินไปเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่เหมาะสมกับกำลังซื้อของคนไทย อีกทั้งยังต้องการทำเลที่มีการขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาวเพื่อโครงการจะได้เป็นที่สนใจของกลุ่มนักลงทุน
ทั้งนี้ ทำเลที่ตลาดคอนโดมิเนียมจะมีการขยายตัวต่อเนื่องนั้นก็ยังคงเป็นทำเลเดิมที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากอยู่แล้วในช่วงที่ผ่านมา เช่น พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต-คูคต โดยเฉพาะช่วงตั้งแต่ 5 แยกลาดพร้าวขึ้นไปถึงมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ยังคงมีผู้ประกอบการรอเปิดขายโครงการใหม่อยู่ พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่ก่อนหน้านี้อาจจะชะลอตัวไปแล้ว 1-2 ปีแต่คาดว่าจะมีโครงการเปิดขายใหม่มากขึ้นในอนาคตแต่อาจจะเป็นทำเลที่ไกลออกไปจากสถานีพอสมควร
อีกทำเลที่น่าสนใจคือพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โดยเฉพาะตามแนวถนนจรัลสนิทวงศ์และเพชรเกษมที่เป็นอีกทำเลที่มีผู้ประกอบการเข้าไปเดขายโครงการกันหลายโครงการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาและคาดว่าปีต่อไปก็จะยังเป็นทำเลที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจอยู่ ปี2561
“ในอนาคตก็ยังมีเส้นทางรถไฟฟ้าที่จะเริ่มการก่อสร้างอีก 3 เส้นทางใหม่ คือสายสีส้ม สีมชมพู และสีเหลือง แม้ว่าบางสายจะเป็นระบบรถไฟฟ้ารางเบา แต่ก็คาดว่าพื้นที่ตามแนวเส้นทางจะเป็นที่สนใจของผู้ประกอบการมากขึ้นแน่นอนในอนาคต ส่วนพื้นที่เมืองชั้นในอาจจะเหลือแต่โครงการที่มีราคาขายมากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตรหรือมากกว่านี้รวมไปถึงอาจจะมีโครงการที่เป็นสัญญาเช่าระยะยาวเปิดขายมากขึ้นในอนาคตก็เป็นได้เมื่อราคาที่ดินสูงเกินกว่าจะซื้อมาพัฒนาโครงการให้เหมาะกับกำลังซื้อของคนไทย” นายสุรเชษฐ กล่าวสรุป
http://www.bangkokbiznews.com
คาดส่งออกปี60โต8%มูลค่าสูงสุดทุบสถิติ/ลุยขยายตลาดเจาะหัวเมืองรอง
สนามบินน้ำ * กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ คาดส่งออกปี 60 โต 8% ฟุ้งมีมูลค่า 2.32 แสนล้านเหรียญสหรัฐ สูงสุดทุบสถิติ เผยเร่งเดินหน้าประเมินเป้าปี 61 คาดประกาศได้กลางเดือน ม.ค. ระบุกลยุทธ์ส่งออก จะเน้นขยายตลาดกับคู่ค้ารายประเทศ เจาะเมืองรอง ขยายตลาดบริการและเจาะเป็นรายกลุ่ม
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์ รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2560 ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (ต.ค.-ธ.ค.) ยังคงมีทิศทางขยายตัวได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีปัจจัยมาจากเศรษฐกิจโลก, ประเทศคู่ค้าดีขึ้น และมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมามีมูลค่าการส่งออกถึง 175,435.2 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.3%
สำหรับในช่วง 3 เดือนที่เหลือคาดว่าจะมีมูลค่าเดือนละ19,061.1 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทำให้การส่งออกทั้งปีมีมูลค่าถึง 232,618.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 8% ถือเป็นยอด ส่งออกที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติ ศาสตร์อีกครั้ง หลังจากที่เคยทำสถิติสูงสุดไว้เมื่อปี 2555 ที่มูลค่า 229,084.3 ล้านเหรียญสหรัฐ
“การส่งออกทั้งปี จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้ประเมินเอาไว้ เพราะเท่าที่ติดตามดูประเทศส่วนใหญ่ส่งออกได้เพิ่มขึ้น ไม่ใช่แค่ไทยที่การส่งออกขยายตัวดีขึ้น ประเทศคู่แข่งอื่นๆ ก็ส่งออกได้เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน นั่นแสดงว่า เศรษฐกิจโลก การค้าโลก ดีขึ้นจริงตอนนี้ จึงอยู่ที่ว่าใครจะช่วงชิงเอาประโยชน์ตรงนี้มาได้มากกว่า ซึ่งกรมก็พร้อมที่จะอัดฉีดกิจกรรม เพื่อผลักดันการส่งออกของไทยเต็มที่อยู่แล้ว” นางจันทิรากล่าว
นางจันทิรากล่าวว่า ขณะ นี้กรมอยู่ระหว่างการจัดทำการ ประเมินเป้าหมายและสถาน การณ์การส่งออก ในปี 2561 โดย รวบรวมทิศทางและแนวโน้มจาก ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพา ณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ และหารือร่วมกับภาคเอกชนรายคลัสเตอร์ ซึ่งจะมีการจัดประชุมใหญ่อีกครั้งในช่วงกลางเดือน ม.ค.2561 เพื่อประกาศเป้าหมายที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยประเมินว่าทิศทางน่าจะเป็นไปในทางบวก
สำหรับกลยุทธ์ในการขยายตลาดส่งออกปี 2561 จะเน้นการขยายตลาดผ่านกลยุทธ์หุ้นส่วนเศรษฐกิจ ที่จะมีการหา รือเพื่อขยายตลาดการค้า การลงทุน กับคู่ค้าเป็นรายประเทศ ทั้งอาเซียน จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกา หลีใต้, รัสเซีย, อังกฤษ, แอฟริกา และอิหร่าน เป็นต้น และจะเพิ่มการเจาะตลาดเมืองรองใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยจะทำการสำรวจว่าทั่วโลกมีเมืองรองใหม่ๆ เกิดขึ้น อยู่ตรงไหน ก็จะเข้าไป รวมถึงการใช้ข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ไทยทำกับประเทศต่างๆ ในการขยายตลาดส่งออก
“กลยุทธ์การส่งออก จะมุ่งขยายตลาดสินค้าบริการให้ มากขึ้น เช่น กลุ่มบริการดูแล สุขภาพ, การขยายตลาดภาพ ยนตร์และแอนิเมชัน, เกม, การ ให้บริการด้านโรงแรม, กลุ่มผู้สูง อายุ, กลุ่มสัตว์เลี้ยง, กลุ่มคนรวย และกลุ่มนักท่องเที่ยว” นางจันทิรากล่าว.
http://www.ryt9.com
คลังลุ้นเบิกจ่ายงบปี 61 ไหลลื่น หวัง กม.ใหม่ไร้ปัญหา 33 รสก.ขอเว้นปฏิบัติ
บัญชีกลางร่อนหนังสือถึงส่วนราชการ พร้อมตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2561 เข้ม 2 เรื่อง “การปฏิบัติตามกฎหมายใหม่-รับจ่ายเงินผ่าน e-Payment” ด้าน 33 รัฐวิสาหกิจ เร่งจัดทำข้อยกเว้นจัดซื้อจัดจ้าง หวังเดินหน้าเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานราชการทุกแห่งเรื่องแผนการตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2561 ให้ได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งไว้ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างเต็มที่
สำหรับงบประมาณปี 2561 มีวงเงิน 2.9 ล้านล้านบาท ตั้งเป้าเบิกจ่ายให้ได้ 96% ในจำนวนนี้เป็นงบลงทุน 6.59 แสนล้านบาท ตั้งเป้าเบิกจ่ายให้ได้ 88%
ทั้งนี้ เรื่องที่กรมบัญชีกลางจะตรวจสอบการเบิกจ่ายของหน่วยงานต่างๆ เป็นพิเศษมี 2 เรื่อง ในเรื่องแรก คือ การปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้างตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 เนื่องจากเป็นกฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.2560 ซึ่งมีการกำหนดการจัดซื้อจัดจ้างแตกต่างจากเดิม อาจมีความเสี่ยงการทำงานไม่ถูกต้องครบถ้วน ไม่โปร่งใส ไม่มีประสิทธิภาพ และอาจทำให้การเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ขณะที่เรื่องที่สอง เป็นเรื่องการรับจ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ซึ่งเปลี่ยนจากการรับจ่ายเงินด้วยเงินสดหรือเช็ค อาจมีความเสี่ยงทำให้การปฏิบัติงานไม่ถูกต้องตามระเบียบและเป็นอุปสรรคต่อการเบิกจ่ายงบประมาณได้
“ที่ผ่านมา การเบิกจ่ายงบประมาณช่วงปลายปีงบประมาณ 2561 มีปัญหาการเบิกจ่ายจากการเริ่มใช้กฎหมายใหม่ ทำให้หน่วยงานรัฐวิสาหกิจจำนวนมากชะลอการเบิกจ่ายและลงทุน เพราะกลัวทำผิดกฎหมาย” แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมบัญชีกลาง ออกมายืนยันว่า มีรัฐวิสาหกิจทั้ง 33 แห่ง ที่ขอยกเว้นการจัดซื้อจัดจ้างตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐนั้น ขณะนี้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งอยู่ระหว่างการจัดทำข้อบังคับหรือระเบียบที่เกี่ยวข้องให้กระทรวงการคลังเห็นชอบ ซึ่งระหว่างนี้ รัฐวิสาหกิจ 33 แห่งยังคงจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบังคับเดิมได้เพื่อไม่กระทบกับการเบิกจ่ายในภาพรวม
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังให้ความสำคัญการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงท้ายของปี 2560 เพราะเป็นปัจจัยสำคัญจะทำให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวได้ 4% หรือไม่ ซึ่งกระทรวงการคลังจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่สิ้นเดือนนี้ จากประมาณการเดิม 3.6% โดยจะมีการปรับเพิ่มขึ้น แต่จะเป็นเท่าไรต้องประเมินการเบิกจ่ายงบประมาณและการลงทุนภาคเอกชนว่าจะมีเพิ่มขึ้นมากขนาดไหน
https://mgronline.com
SYNONYMS
Synonyms คือ คำที่มีความหมายเหมือนกัน คงจะเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าคำศัพท์ภาษอังกฤษ 1 คำ สามารถมีได้หลายความหมาย และในทางกลับกันหนึ่งความหมายก็สามารถเกิดจากคำศัพท์หลายๆคำได้เช่นกัน
ตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากจะพูดคำว่า ฉันมีความสุข เราก็สามารถเลือกใช้คำว่า Happy เป็น I am happy. หรือเราจะเลือกคำอื่นๆมาใช้เช่น Glad หรือ Delighted เป็น I am glad. หรือ I am delighted. ก็ได้ เนื่องจากว่าทั้ง 3 คำนี้ไม่ว่าจะ Happy, Glad, Delighted นั้นล้วนแล้วแต่มีความหมายประมาณว่า “มีความสุข” ทั้งสิ้น
แล้ว synonyms นั้นมันมีประโยชน์อย่างไรกัน ทำไมเราต้องมานั่งจำนั่งเลือกคำศัพท์เยอะแยะทั้งๆที่มันมีความหมายเดียวกัน ทำไมเราไม่ใช้มันคำเดียวไปเลยล่ะ
คำตอบก็คือ การที่เรารู้จักเลือกใช้คำพูดที่หลากหลาย ถึงแม้มันจะเป็นคำที่มันมีความหมายเหมือนๆกันก็ตามนั้น จะช่วยทำให้คำพูด หรือ โดยเฉพาะงานเขียนของเราออกมาน่าสนใจ และไม่น่าเบื่อนั่นเอง
เพราะเราก็คงไม่ชอบเท่าไรใช่ไหม ถ้ามีใครมาพูดอะไรสักอย่างให้เราฟังแต่ก็ใช้แต่คำเดิมๆซ้ำๆ ซากๆ มันทำให้คำพูดมันขาดสีสันและเต็มไปด้วยความจำเจ
นอกจากนี้หากเราใช้คำซ้ำๆ นั้นยังบ่งบอกถึงระดับภาษาของตัวเราว่าอ่อนแค่ไหน แต่ถ้าหากเราใช้คำที่หลากหลายแล้วมันก็จะบ่งบอกว่าเรานั้นมีความรู้ และระดับภาษาที่สูงมากกว่า ซึ่งจะมีผลอย่างมากเวลาเราไปทำข้อสอบ หรือเขียนรายงานต่างๆ
เพราะอย่างนี้ synonyms จึงถือว่ามีบทบาทสำคัญทีเดียวในแง่ของการใช้ภาษาในการสื่อสาร เพราะนอกจากจะทำให้งานเขียน หรือการพูดของเราน่าใจ ไม่น่าเบื่อแล้ว synonyms ยังช่วยให้เราดูเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์และมีศิลปะในการพูดการเขียนอีกด้วย
WORD
|
SYNONYMS |
MEANING |
Aim |
Goal, Purpose |
จุดมุ่งหมาย, เป้าหมาย |
Anger |
Fury, Rage |
ความโกรธ |
Answer |
Reply, Response |
การตอบ |
Change |
Alter |
เปลี่ยน |
City |
Town, Metropolis |
เมือง |
Danger |
Hazard |
อันตราย |
Eat |
Consume, Devour |
รับประทาน |
End |
Finish, Complete |
จบ, เสร็จสิ้น |
Enough |
Sufficient, Adequate |
เพียงพอ |
Fix |
Repair, Restore |
ซ่อมแซ่ม |
Fat |
Obese, Overweight |
อ้วน |
Happy |
Glad, Blissful, Pleased |
มีความสุข |
Hard |
Difficult, Tough |
ยาก |
Help |
Aid, Assist |
ช่วยเหลือ |
Ill |
Sick, Unwell |
ป่วย |
Income |
Earnings |
รายได้ |
Injure |
Harm, Damage, Wound |
บาดเจ็บ |
Job |
Work, Occupation, Career |
อาชีพ |
Junk |
Rubbish, Waste, Scrap |
ขยะ |
Large |
Big, Huge, Enormous |
ใหญ่ |
Late |
Tardy, Delayed |
มาสาย |
Little |
Small, Petite, Tiny |
เล็ก |
Make |
Build, Create, Construct |
ทำขึ้นมา |
Need |
Want, Require |
ต้องการ |
New |
Fresh, Recent |
ใหม่ |
Occur |
Happen, Take place |
เกิดขึ้น |
Old |
Aged, Ancient |
แก่, เก่า |
Pain |
Ache, Hurt |
เจ็บ |
Right |
Proper, Correct |
ถูกต้อง |
Say |
State |
พูด |
Start |
Begin, Commence |
เริ่มต้น |
Try |
Attempt |
ลอง |
Vacant |
Empty, Unoccupied |
ว่าง |
Want |
Desire, Fancy |
ต้องการ |
http://www.engtest.net
ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 25/10/2560
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง
|
ราคารับซื้อต่อกรัม
|
ราคารับซื้อ/บาท
|
ราคาขายออก/บาท
|
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
20,000.00 |
20,100.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,296.00 |
19,647.36 |
20,600.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,166.40 |
17,682.62 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
583.00 |
8,838.28 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
454.00 |
6,882.64 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,343.00 |
20,359.88 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 25/10/2560
ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ปตท
PTT |
บางจาก
BCP |
เชลล์
Shell |
เอสโซ่
Esso |
คาลเท็กซ์
Caltex |
ไออาร์พีซี
IRPC |
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG |
ซัสโก้
Susco |
ระยองเพียว
Pure |
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers |
แก๊สโซฮอล 95 |
27.05 |
27.05 |
– |
27.05 |
27.05 |
27.05 |
27.05
|
27.05
|
27.05
|
27.05
|
แก๊สโซฮอล E-20 |
24.54
|
24.54
|
24.54
|
24.54
|
24.54
|
– |
24.54
|
24.54
|
24.54
|
24.54
|
แก๊สโซฮอล E-85 |
20.04 |
20.04 |
– |
– |
– |
– |
– |
20.04 |
20.04 |
– |
แก๊สโซฮอล 91 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
26.78 |
เบนซิน 95 |
34.16 |
– |
– |
– |
34.16 |
– |
34.66 |
34.66 |
34.66 |
34.66 |
ดีเซลหมุนเร็ว |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
25.79 |
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม |
28.79 |
29.47 |
29.47 |
29.47 |
29.47 |
– |
– |
– |
– |
– |
มีผลตั้งแต่ |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |
12 Oct 05:00 |