ส่องคอนโด ย่านหัวลำโพง-หลักสอง ตลาดใหญ่ 2.5-3 ล้าน
หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ประกาศจะเริ่มทดสอบระบบรวมช่วงปลายเดือนมิถุนายนรถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงินในช่วงหัวลำโพง-หลักสอง โดยจะทดสอบเสมือนจริง และเปิดทดลองให้ประชาชนมาใช้บริการฟรีเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม และมีกำหนดจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายนนี้ โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 16-42 บาท เท่ากับค่าโดยสารสายสีนํ้าเงินปัจจุบัน
สำหรับส่วนต่อขยายจากสถานีหัวลำโพง ถึงสถานีหลักสอง มีระยะทางรวม 14 กิโลเมตร มีจำนวน 11 สถานี เส้นทางเริ่มจากสถานีหัวลำโพง (เปิดให้บริการในปัจจุบัน) สิ้นสุดที่บริเวณถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ที่สถานีหลักสอง บริเวณหน้าห้างเดอะ มอลล์ บางแค
ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยผลสำรวจตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลย่านนี้พบว่า ณ เดือนพฤษภาคม 2562 มีโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมดประมาณ 16 โครงการ ประมาณ 13,087 ยูนิต มูลค่าโครงการ 25,610 ล้านบาท ขายไปแล้วประมาณ 9,854 ยูนิต หรือคิดเป็น 75% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด เหลือขายประมาณ 3,233 ยูนิต หรือคิดเป็น 25% โดยมีอัตราการดูดซับรวมที่ประมาณ 4.8% รูปแบบ 1 ห้องนอน เป็นประเภทห้องที่ขายได้ดีที่สุด และพบว่าผู้ประกอบการนิยมพัฒนาโครงการอยู่ในระดับ 2,500,001-3,000,000 มากที่สุด เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าซื้อเพื่อการอยู่อาศัย
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ทุบโต๊ะ!!เบรกลงทุนเทอร์มินัล 2 สุวรรณภูมิ เหตุทอท.ยังเคลียร์แผนไม่ชัดเจน
คมนาคมสั่งทอท.ทบทวนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่2 สุวรรณภูมิ เงินลงทุน 4.2 หมื่นล้าน ทอท.แย้มส่อพับโครงการหากสภาพัฒน์ฯปัดตก
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดงานก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่าที่กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ไปทบทวนแผนโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 (เทอร์มินัล 2) วงเงินลงทุน 4.2 หมื่นล้านบาท ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ได้มีการทวงติงมา โดยจะต้องศึกษารายละเอียดให้รอบด้านในการก่อสร้าง โครงการส่วนต่อขยายเทอร์มินอล1ด้านทิศตะวันออก และงานก่อสร้างส่วนต่อขยายเทอร์มินอล 1 ด้านทิศตะวันตก (West-Wing)ทั้งนี้แผนที่นำเสนอยังไม่ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด คือการจัดทำแผนให้สอดคล้องกับการพัฒนาท่าอากาศยานอู่ตะเภา ที่ในอนาคตจะเป็นศูนย์กลางการบินขนาดใหญ่ รวมไปถึงการเดินทางของผู้โดยสารที่จะหันไปใช้รถไฟความเร็วสูง เชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) จะได้ประโยชน์อย่างไร ถือว่าเป็นตัวแปรที่สำคัญซึ่งต้องมองทั้งหมดให้เป็นภาพรวม“ขณะเดียวกัน ทอท. จะต้องนำแผนแม่บทที่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ที่ทำการศึกษามาวิเคราะห์ประกอบกันด้วย เนื่องจากเป็นแผนยุทธศาสตร์การบินของประเทศที่เป็นภาพใหญ่ ซึ่งในการประชุมในครั้งนี้ ทอท.ยังตอบคำถามที่สศช.ท้วงติงได้ยังไม่ครบถ้วน จึงต้องนำแผนมารายงาน โดยสั่งการให้เร็วที่สุด ”นายชัยวัฒน์ กล่าวอย่างไรก็ตาม หากจะดำเนินการโครงการการเชื่อมต่อโครงข่ายก็มีความสำคัญจะต้องเกิดความสมบูรณ์ ซึ่งแผนแม่บทที่สนข.ได้ศึกษานั้น เป็นแผนใหญ่ที่ศึกษาครบถ้วนแล้ว หลังจากนี้ ทอท. จะต้องเร่งสรุปเร่งด่วนและจะต้องกลับมารายงานต่อที่ประชุมอีกครั้ง คาดว่าในในประชุมครั้งต่อไปจะมีรายละเอียดครบถ้วนและสามารถสรุปได้ว่าจะดำเนินการพัฒนาต่อไปตามที่ทอท.ต้องการหรือไม่ด้านนายนิตินัย ศิริสมรรถการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ขณะนี้ได้ชี้แจงความจำเป็นและแผนการพัฒนาให้กระทรวงคมนาคมไปบางส่วนแล้ว ซึ่งหลังจากนี้โครงการจะเดินหน้าได้ต่อไปหรือไม่อยู่ที่ดุลพินิจของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หากไม่ได้รับอนุมัติคงต้องพับโครงการแล้วเริ่มดูแผนพัฒนากันใหม่ แต่ถ้าหากได้รับอนุมัติก็จะเดินหน้าจ้างเอกชนออกแบบและเปิดประมูลงานก่อสร้างต่อไปรายงานข่าวกระทรวงคมนาคมระบุว่าในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทอท.ได้เสนอโครงการดังกล่าวกลับไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อยืนยันขอเดินหน้าโครงการดังกล่าวตามแผน เพราะเป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องกับสนามบินทุกภาคส่วนต้องการ อีกทั้งองค์การการบินพลเรือน(ICAO)ยืนยันว่าไม่กระทบกับการบริหารจัดการท่าอากาศยาน เพื่อลดปัญหาความแออัดของสนามบินดังกล่าวในปัจจุบันซึ่งมีผู้โดยสารเกินขีดการรองรับถึง 30 ล้านคนในปีนี้ และจะเพิ่มเป็นจำนวน 100 ล้านคน/ปี ภายในช่วง 2-4 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันคาดการณ์ผู้โดยสารตลอดปีนี้ 70 ล้านคน
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
พลังงาน-แบงก์ หุ้นเนื้อหอม ดูดเงินต่างชาติ
นักลงทุนต่างชาติขนเงินลงทุนกลับเข้าตลาดหุ้นไทยเดือนมิถุนายน 3.6 หมื่นล้านบาทโบรกมองกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์ดึงดูดความน่าสนใจ หลังปัจจัยบวกเพียบ จับตาธนาคารกลางทั่วโลกลดดอกเบี้ยจริง คาดดึงเงินกลับต่อเนื่อง
จากการที่ทุนต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิปี 2561 มากถึง 2.8 แสนล้านบาท จึงเป็นความหวังของตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ต้นปี 2562 นั่นคืออยากเห็นการกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากที่ผ่านมาตลาดทุนไทยประสบปัญหาจากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศและประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน แต่ล่าสุดสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลกเริ่มคลี่คลาย ธนาคารกลางหลายประเทศมีแนวโน้มจะปรับดอกเบี้ยลง และการเมืองไทยมีความชัดเจน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติอยู่ในสถานะซื้อสุทธิในหุ้นไทย ตั้งแต่วันที่ 3-24 มิถุนายน 2562 อยู่ที่ 35,874.98 ล้านบาท ซึ่งหุ้นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากต่างชาติ คือ กลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้ช่วยผู้จัดการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้ คือ หุ้นนํ้ามันขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง โดยมีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (บมจ.)(PTT), บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP), บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เนื่องจากราคาหุ้นถือว่ายังตํ่ากว่าตลาดอยู่มาก โดยเฉพาะ PTTGC ซึ่งยังได้รับผลเชิงบวกจากโรงงานปิโตรเคมีขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ระเบิด รวมถึงเงินปันผลสูงเกือบ 5% ถือเป็นโอกาสดีในการเก็งกำไรในช่วงนี้
นอกจากนี้ ราคานํ้ามันดิบโลกยังคงเพิ่มขึ้นต่อ จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่าน หลังจากสหรัฐฯออกมาตรการควํ่าบาตรอิหร่านเพิ่มเติม โดยควํ่าบาตรผู้นำสูงสุดของอิหร่าน รวมถึงรัฐมนตรีสำคัญ 8 กระทรวง ประเด็นดังกล่าวหนุนราคานํ้ามันปรับเพิ่มขึ้นแรงประมาณ 10% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคานํ้ามันดูไบล่าสุดราคาปิดอยู่ที่ 61.8 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ทำให้เป็นบวกต่อหุ้นนํ้ามัน และหุ้นโรงกลั่น ที่ได้รับผลเชิงบวกจากค่าการกลั่นแนวโน้มเพิ่มขึ้น
“การที่ดอกเบี้ยเป็นแนวโน้มขาลง รวมถึงราคานํ้ามันที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคานํ้ามันปรับตัวขึ้นถึง 9.4% หนุนให้เงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยอย่างโดดเด่นในช่วงนี้
นอกจากนี้ การศึกษาข้อมูลการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯย้อนหลัง 5 ปี พบว่า เดือนมิถุนายน เป็นเดือนที่นักลงทุนสถาบันมักจะซื้อหุ้น ไทยมากที่สุดในช่วงครึ่งแรกของ ปี เฉลี่ยสูงถึง 10,900 ล้านบาท และเป็นการซื้อสุทธิตลอดทั้ง 5 ปี”
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ฯ กล่าวว่า การกลับเข้ามาซื้อสุทธิในหุ้นไทยอีกครั้งของนักลงทุนต่างชาติจะมีความต่อเนื่องหรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ ของประเทศหลัก ซึ่งที่ผ่านมาเป็นแค่ความคาดหวัง ยังทำให้มีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาได้ แต่หากปรับลดจริง จะทำให้กลับเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่านี้แน่นอน นอกจากนี้ ยังต้องติดตามปัจจัยในประเทศ คือ การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ว่าจะสามารถเดินหน้าโครงการต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่องและเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้หรือไม่
ด้านบทวิเคราะห์ บล.ไทยพาณิชย์ฯ ระบุว่า คาดว่ากลุ่มธนาคารพาณิชย์ จะเป็นเป้าหมายถัดไปที่เงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติจะไหลเข้า โดยคาดว่ากำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปี 2562 จะอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากสินเชื่อมีแนวโน้มเติบโตคงที่ ส่วน NIM อยู่ในระดับทรงตัว และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ หุ้นแนะนำได้แก่ บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL), บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) และบมจ.ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)
ขณะที่บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)ฯ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงนํ้าหนักการลงทุนกลุ่มธนาคาร เท่ากับตลาด ด้วยปัจจัยบวกที่ยังไม่ชัดเจน รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจยังเผชิญความท้าทายจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม มองว่าความน่าสนใจของกลุ่มธนาคารคือ ในช่วงครึ่งปีหลังค่าธรรมเนียมจะฟื้นตัวเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกด้วยปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ได้อานิสงส์จากการรุกสินเชื่อผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ แนะนำหุ้นในกลุ่มธนาคาร คือ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
โดยกว่า 90% ของประชากรทั่วโลกอยู่ในพื้นที่ที่มีปริมาณมลพิษทางอากาศสูงกว่าค่าแนะนำขององค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) และทุกปีจะมีประชากรกว่า 7 ล้านคนเสียชีวิตจากการรับสัมผัสมลพิษทางอากาศ ประเทศไทยมีปัญหามลพิษทางอากาศเช่นกัน โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน
นายพันศักดิ์ ถิรมงคล ผู้อำนวยการ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สถานการณ์มลพิษทางอากาศของไทยในภาพรวมยังทรงตัวเมื่อเทียบกับ 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีมลพิษ 3 ชนิดที่เป็นปัญหา ได้แก่ ฝุ่นละอองขนาด 10 ไมครอน (PM10) ฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM2.5) และโอโซน หากประเมินเชิงเวลาพบว่าจะมีค่าเกินมาตรฐานในช่วงฤดูแล้งระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย. และปลายปีเริ่มเดือน ธ.ค. หากพิจารณารายพื้นที่มี 3 พื้นที่สำคัญ ได้แก่ 1.พื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ ในปี 2562 เกิดช่วงเดือน ก.พ.-ปลาย เม.ย. สถานการณ์รุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าประเทศไทยได้รับผลกระทบจากภาวะเอลนีโญ ทำให้แล้งมากขึ้น อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1-2 องศา และประมาณน้ำฝนลดลง 10% ทำให้สถานการณ์ในพื้นที่รุนแรงมากขึ้น เมื่อมีไฟเกิดขึ้นก็จะเผาได้ดี บวกกับแหล่งกำเนิดเกิดจากไฟป่าเป็นหลัก ซึ่งกว่า 80% จุดความร้อนจะเกิดในพื้นที่ป่า รวมถึงการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร 2.พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งแนวโน้มสภาพอากาศรายปีของ กทม.ดีขึ้น ค่าเฉลี่ยรายปีของฝุ่น PM2.5 พื้นที่ กทม.อยู่ที่ 26-27 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเล็กน้อย สาเหตุหลักของมลพิษเกิดจากการ จราจร และ 3.พื้นที่ ต.หน้าพระลาน จ.สระบุรี สถานการณ์ปี 2562 รุนแรงมากขึ้น ค่าเฉลี่ยมลพิษทางอากาศสูงขึ้น เกิดจากการผลิตที่เพิ่มขึ้นในช่วงหน้าแล้ง ที่จะมีการก่อสร้างมาก เนื่องจากเป็น พื้นที่แหล่งผลิตหินปูน มีเหมือนแร่ หินปูนและโรงปูน แม้จะการควบคุมฝุ่นที่ดีขึ้นมาก “สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่ กทม.ในปีหน้าน่าจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน ต้องเตรียมรับมือ ซึ่งจากการถอดบทเรียนในปีนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้สำเร็จคือความร่วมมือจากทุกภาคส่วน กรณีที่มีการเสนอให้ใช้หอฟอกอากาศนั้น มีผู้เข้ามาเสนอกรม พบว่าราคาต่อหออยู่ที่ 60 ล้านบาท ประสิทธิภาพ 10 ล้านคิวต่อวัน เมื่อประเมินแล้วต้องใช้หอฟอกอากาศถึง 1.6 หมื่นหอหากจะฟอกอากาศทั้ง กทม. และไม่นับรวม งบประมาณที่จะต้องใช้ในการซื้อพื้นที่ที่จะสร้างด้วย ฉะนั้น เมื่อประเทศไทยรู้แหล่งกำเนิดของมลพิษก็ควรคุมแหล่งกำเนิดให้ได้”
ขอบคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th
VLC Media Player ปล่อยอัปเดตแล้ว หลังพบรูรั่วอันตรายที่แฮกเกอร์สามารถใช้โจมตีผู้ใช้ได้
มีการค้นพบรูรั่วอันตรายในโปรแกรมเล่นมัลติมีเดียยอดนิยม VLC Media Player ที่แฮกเกอร์สามารถใช้ในการโจมตีผู้ใช้จากระยะไกลได้ด้วยการฝังโค้ดอันตรายเอาไว้ในไฟล์ .AVI หรือ .MKV โดยอาศัยความผิดพลาดในรูรั่ว CVE-2019-12874 และ CVE-2019-5439 รูรั่วดังกล่าวมีผลต่อโปรแกรม VLC Media Player เวอร์ชั่น 3.0.7 หรือเก่ากว่าCVE-2019-12874 เป็นรูรั่วที่ถูกค้นพบโดย Symeon Paraschoudis จาก Pen Test Partners ที่แฮกเกอร์สามารถใช้ในการเปิดไฟล์ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ (พวกไฟล์ไวรัส, มัลแวร์) โดยอาศัยฟังก์ชั่น zlib_decompress_extra() (demux/mkv/utils.cpp) ในการทำให้ไฟล์ดังกล่าวถูกสั่งให้เริ่มทำงานส่วนรูรั่วอีกตัว CVE-2019-5439 เป็นรูรั่วในฟังก์ชั่น ReadFrame (demux/avi/avi.c) ด้วยการใช้เทคนิค Buffer overflow
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่) ผ่านไฟล์ .AVI ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งช่องทางนี้จะไม่ได้รับการถูกตรวจสอบว่าข้อมูลในนั้นคืออะไร ทำให้แฮกเกอร์สามารถโจมตีผู้ใช้ได้ทันทีทาง VideoLAN (ผู้พัฒนา VLC) ได้เผยว่า หากแฮกเกอร์โจมตีได้สำเร็จ โปรแกรมอันตรายจะเริ่มต้นทำงานได้ทันที อย่างไรก็ตาม การโจมตีจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ทำการเปิดไฟล์ หรือสตรีมไฟล์ .MKV หรือ .AVI ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นผู้ใช้ควรหลีกเลี่ยงที่จะเปิดไฟล์ที่ได้รับมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือรับชมสตรีมมิ่งผ่านเว็บไซต์อันตรายต่างๆ ทั้งนี้ ทาง VideoLAN ได้ปล่อยอัปเดตโปรแกรม VLC Media Player 3.0.7.1 ออกมาเพื่อปิดรูรั่วดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้ควรอัปเดตโปรแกรมให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเพื่อแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัย ผู้ใช้ก็ควรระมัดระวังในการเปิดไฟล์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาด้วย ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ไฟล์วีดีโอเท่านั้น แต่ไฟล์ทุกชนิดที่เราดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต หากไม่ทราบแหล่งที่มาที่ชัดเจน เราควรหลีกเลี่ยงที่จะเปิดมัน เพราะอาจจะเป็นไฟล์ที่แฮกเกอร์ทำมาทิ้งไว้เพื่อรอเหยื่อก็เป็นได้
ขอบคุณข้อมูลจาก news.thaiware.com
ชนิดทอง |
ราคารับซื้อ กรัมละ |
ราคารับซื้อ บาทละ |
ราคาขาย บาทละ |
ทองคำแท่ง 96.5% |
n/a |
20,500.00 |
20,600.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% |
1,328.00 |
20,132.48 |
21,100.00 |
ทองรูปพรรณ 90% |
1,195.20 |
18,119.23 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 80% |
1,062.40 |
16,105.98 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 50% |
598.00 |
9,065.68 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 40% |
465.00 |
7,049.40 |
n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% |
1,376.00 |
20,860.16 |
n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/06/2562
|
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
แก๊สโซฮอล์ 95 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
27.45 |
แก๊สโซฮอล์ 91 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
27.18 |
แก๊สโซฮอล์ E20 |
24.44 |
24.44 |
24.84 |
24.44 |
24.84 |
– |
24.44 |
24.44 |
24.44 |
24.44 |
แก๊สโซฮอล์ E85 |
19.89 |
19.89 |
– |
– |
– |
– |
– |
19.89 |
– |
– |
เบนซิน 95 |
34.86 |
– |
– |
– |
35.31 |
– |
35.36 |
35.16 |
– |
35.16 |
ดีเซล |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
26.19 |
ดีเซลพรีเมี่ยม |
25.19 |
25.19 |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
แก๊ส NGV |
15.88 |
15.88 |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |
– |