สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2562

คอนโดฯ ท่วมพัทยา  เหลือขายกว่า1.6หมื่นยูนิต

คอลัมน์พร็อพเพอรตีโฟกัส

ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา ช่วงครึ่งแรกปี 2562 ในพื้นที่มีโครงการเปิดขายใหม่มากถึง 4,945 ยูนิต ลดลงจากในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ที่ประมาณ 1,656 ยูนิตหรือประมาณ25.1% และหากเปรียบเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า พบว่า อุปทานเปิดขายใหม่ของคอนโดมิเนียมในพัทยาในช่วงครึ่งแรกปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 35.9%

สำหรับอัตราการขายเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 72% แต่ก็ยังมีคอนโดมิเนียมเหลือขายอยู่ในตลาดอีกมากกว่า 16,000 ยูนิต ในทุกพื้นที่ของตลาดคอนโดมิเนียมเมืองพัทยา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากในช่วงปลายปี 2561 ที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 12,000 ยูนิต

เนื่องจากตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมารวมถึงครึ่งแรกของปี 2562 ที่อุปทานเปิดขายใหม่ในพัทยากว่า 10,000 ยูนิต และหลายโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ โดยพื้นที่จอมเทียนและนาจอมเทียนมีจำนวนคอนโดมิเนียมเหลือขายมากที่สุด

สำหรับพื้นที่ที่มีคอนโดมิเนียมเหลือขายน้อยที่สุดคือ วงศ์อมาตย์ เนื่องจากมีที่ดินเหลือน้อยมากทำให้มีโครงการเปิดขายในพื้นที่ไม่มากนักในช่วง 1-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ พบว่า ณ สิ้นครึ่งแรกของปีนี้ พื้นที่วงศ์อมาตย์ มีอุปทานคงค้างเหลือขายเพียงแค่ 880 ยูนิตเท่านั้น

นอกจากนี้ยังพบว่า ในจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมกว่า 25 โครงการ ประมาณ 8,100 ยูนิตรวมมูลค่าการลงทุนกว่า 31,000 ล้านบาท ที่เคยเปิดขายช่วงก่อนหน้า หยุดการขายและการพัฒนากระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของเมืองพัทยา เนื่องจากยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า และบางโครงการผู้ประกอบการมีปัญหาทางการเงิน ซึ่งบางโครงการมีการขายโครงการพร้อมใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายอื่นนำไปพัฒนาต่อ

ณ เวลานี้กำลังซื้อของต่างชาติโดยเฉพาะจากกลุ่มผู้ซื้อชาวจีน และชาติในกลุ่มเอเชีย กลายเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดคอนโดมิเนียมในพัทยา ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามที่จะดึงดูดลูกค้าต่างชาติเหล่านี้ให้มาลงทุนในโครงการตนเองผ่านทางเอเยนซีในพื้นที่และเอเยนซีจากกรุงเทพมหานคร ทดแทนกำลังซื้อคนไทยที่ชะลอตัวลง

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


วิกฤติห่างชั้น‘ต้มยำกุ้ง’ กูรูฟันธง…  คอนโดโลว์ไรส์กลางเมืองยังปัง

ฟันธงเศรษฐกิจ โลกถดถอยปี 2562 ลูกโป่งไม่แตกง่ายห่างชั้นต้มยำกุ้ง 40 ยันคอนโดฯโลว์ไรส์กลางเมือง-แนวราบ-ท่องเที่ยวยังไปได้ รถไฟ 3 สนามบิน-อู่ตะเภา ดันลงทุน ด้านนักวิเคราะห์ มองครึ่งปีแรกยอดขายมากถึง 2.4 หมื่นหน่วย

แม้เศรษฐกิจโลกซวนเซจากการสู้รบทางการค้า สงครามค่าเงินของประเทศมหาอำนาจ กำลังซื้อจีนหล่นหายฟาดหางมายังตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไทยท่ามกลางปัจจัยลบธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คุมเข้มสินเชื่อ แต่ในวิกฤติย่อมมีโอกาส ผู้ประกอบการปรับตัวสินค้า สถาบันการเงินระมัดระวัง ไม่ให้ซํ้ารอยวิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งปี 2540 สะท้อนจากตัวเลขซื้อขายที่อยู่อาศัยครึ่งปีแรก ยังมากถึง 24,000 หน่วย ขณะการขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานรัฐ เขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ยังเป็นความหวัง

นายพรนริศ ชวนไชย-สิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ในเวทีสัมมนา PROPERTY FOCUS 2019 หัวข้อ อสังหาฯพลิกเกมรุก จับโอกาสทอง จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจระบุถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยไทยว่า ภาพรวม 7 เดือนแรกของปี 2562 ไม่ได้น่ากังวลอย่างที่มีกระแสข่าวออกมา เพราะเมื่อเทียบวิกฤติฟองสบู่ปี 2540 สถาน การณ์ปัจจุบันเบาบางกว่ามากเพราะเมื่อเจาะลึกรายเซ็กเมนต์ เช่น กลุ่มคอนโดฯ โลว์ไรส์ใจกลางเมืองยังไปได้ เช่นเดียวกับแนวราบในบางจังหวัดผู้ประกอบการชะลอเปิดโครงการ หรือเปลี่ยนทำเลพัฒนา โดยอาศัยฐานข้อมูล(Data base) ช่วยในการวิเคราะห์

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัดที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เจาะลึกตัวเลข ซื้อ-ขายอสังหาฯครึ่งปีแรกจำนวน 2.4 หมื่นหน่วยถือว่าไม่น่ากังวล จากยอดซื้อ-ขายปกติที่จะเกิดขึ้นตลอดทั้งปีเฉลี่ย 4-5 หมื่นหน่วย

แม้มีสัญญาณน่ากังวลจากนักลงทุนต่างชาติหายไป ปัจจัยเงินบาทแข็งค่าทำให้ความน่าสนใจลงทุนอสังหาฯ ลดลง ต้องจ่ายเงินเพิ่มนับ 12% ขณะที่ตัวเลือกด้านการลงทุนอสังหาฯ ไม่ได้มีความน่าสนใจแค่ในไทย เงินปอนด์ที่อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนอสังหาฯ บางส่วน ย้ายเม็ดเงินไปลอนดอนประเทศอังกฤษแทน ตลาดไทยจึงต้องพึ่งพากำลังซื้อคนไทย ซึ่งเป็นเรียลดีมานด์เป็นหลัก

ทั้งนี้ ยืนยันว่าจำนวนโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง หรือเหลือขายในตลาด ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับตลาดแต่อย่างใด ยังคงเดินหน้าต่อได้ โดยเฉพาะบางทำเลที่มีดีมานด์ และซัพพลายน้อย เช่นสุขุมวิท รามคำแหง เป็นต้น

ด้านนายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์พรีเมียมเพื่อการลงทุน ระบุว่าด้วยโปร ดักต์หลักของบริษัทที่มีความชัดเจนในกลุ่มลูกค้าและทำเล ทำให้สามารถประคองการเติบโตได้แต่ไม่ปฏิเสธสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่งผลให้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561 เริ่มเห็นสัญญาณการหายไปของลูกค้าต่างชาติ ซึ่งหลักๆ เป็นกลุ่มจีน ฮ่องกง (80%) จนถึงปัจจุบัน พบกำลังซื้อดังกล่าวหายไปมากกว่าครึ่งขณะที่เรื่องมาตรการแอลทีวี ทำให้กลุ่มเก็งกำไร กู้ได้น้อยลง จึงไม่มั่นใจในการลงทุน ก็ทำให้กลุ่มดังกล่าวแทบจะหายไปจากตลาด ฉะนั้น โครงการที่ขายได้ มักเป็นโครงการที่เน้นเรียลดีมานด์ทั้งที่ซื้ออยู่เองและลงทุนระยะยาวเท่านั้น สะท้อน ภาพรวมตลาดกรุงเทพฯ ช่วง 7 เดือน อยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ไม่ได้เลวร้ายเหมือนภาพที่เกิดขึ้น เพราะหลายรายปรับตัวทัน

“ครั้งนี้ยังเชื่อว่าไม่ใช่วิกฤติ ตลาดยังเดินต่อได้ เป็นเพียงภาวะชะลอตัวจากตลาดโลก บวกกับแอลทีวี สุดท้ายต้องมีการปรับเปลี่ยน หาทางหนีทีไล่ เพราะทุกคนมีกลยุทธ์ ทุกเซ็กเมนต์มีทางออก ไม่ได้ตายหมด”

นายชนินทร์ ยังกล่าวว่า โอกาสของตลาดอสังหาฯ ที่มีความเป็นไปได้ และเห็นโอกาสการเติบโตคือ อสังหาฯในเชิงท่องเที่ยว ทำเลภูมิภาค โดยเฉพาะ 3 จังหวัด อีอีซี หลังจากรัฐลงเม็ดเงินมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ไม่นับรวมแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟความเร็วสูง แผนขยายสนามบินอู่ตะเภา เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านั้นจะช่วยส่งเสริม
ธุรกิจอสังหาฯอย่างมาก

อสังหาฯกุญแจชี้วัดเศรษฐกิจ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อทิศทางนโยบายเศรษฐกิจ กับทิศทางอสังหาริมทรัพย์ ในเวทีสัมมนา “อสังหาฯพลิกเกมรุก จับโอกาสทอง” จัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างมาก ฉะนั้นแม้มีวิกฤติก็
จำเป็นต้องเดินต่อ ขณะเดียวกัน ขอให้ผู้ประกอบการเร่งปรับตัว เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปเช่น การหาตลาดใหม่ๆ เป็นต้น

“อสังหาฯ เป็นกุญแจสำคัญ ชี้วัดว่าเศรษฐกิจจะขึ้น หรือ ลง ฉะนั้นต้องก้าวต่อไปให้ได้ โดยใช้บทเรียนวิกฤติปี 2540 มาศึกษา เพราะเชื่อแบงก์ชาติเอง มีเหตุผลในการออกมาตรการ และที่ผ่านมามีสัญญาณที่ดี หลังจากเริ่มเห็นผู้ประกอบการหลายรายปรับตัวได้ดี แต่เห็นปรับตัวได้ดีตั้งแต่ไตรมาสแรกจนถึงปัจจุบัน เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้า เริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น ยืนยันจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด”

แม้ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานพยายามหามาตรการมากระตุ้นเฉพาะหน้า เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันรัฐอยู่ระหว่างหามาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจในอนาคต

“เม็ดเงินกว่า 3 แสนล้านบาท สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะแรก คาดจะช่วยเหลือได้ตั้งแต่ประชาชนฐานราก กลุ่มเกษตรกรผ่านการลดเงินต้นคงดอกเบี้ยเช่นเดียวกับมาตรการเชิงท่องเที่ยว ชดเชยเงินคืน 15% ในวงเงิน 3 หมื่นบาท คาดจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบตามมา ส่วนกลุ่มเอสเอ็มอี จะได้รับการช่วยเหลือหมื่นล้านบาทในกองทุน ดอกเบี้ย 1% ต่อปี เพื่อให้สามารถลงทุนสานต่อธุรกิจได้”

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศอยู่ในห้วงที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง หลังจากเพิ่งผ่านพ้นการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง และมีความหลากหลายของพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะสามารถขับเคลื่อนประเทศได้ในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะแรก วงเงินกว่า 3 แสนล้านบาท เพื่อมาบรรเทาผล
กระทบที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจภายในประเทศแล้ว หลังจากที่ผ่านมา ไทยได้รับผลพวงความเดือดร้อนจากกรณีประเทศขนาดใหญ่ จีน ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ขัดแย้งกัน ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจโลกถดถอย ขณะที่ล่าสุดสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงการคลัง เพิ่งออกมาสะท้อนในทิศทางเดียวกัน ว่าไทยได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์ดังกล่าว คาดจีดีพีปี 2562 เติบโตประมาณ 3% เท่านั้น เพราะพบ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ภาคการส่งออกหดตัว การบริโภคภาคเอกชนเติบโตชะลอตัวลง เช่นเดียวกับภาคการลงทุน ภาคการกษตร และภาคอุตสาหกรรมไทยติดลบ

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


“ซิโน-ไทยฯ” อู้ฟู่หุ้นกัลฟ์ 5,540 ล้านบาท

"ซิโน-ไทยฯ" อู้ฟู่หุ้นกัลฟ์ 5,540 ล้านบาท

“สารัชถ์”หุ้นใหญ่มูลค่าถือครองพุ่งแสนล้าน สวนอุตสาหกรรมโรจนะ รวยเบา ๆแค่ 2,687 ล้านบาท หลังหุ้นกัลฟ์ ทำปิดนิวไฮ

หุ้นบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ทำราคาปิดสูงสุดใหม่ หรือนิวไฮที่ 138.50 บาท เมื่อวันที่ 23 ส.ค.62 ขณะที่ในวันดังกล่าวราคาหุ้นปรับขึ้นสูงสุดที่ 139.50 บาท

หากนับจากวันแรกที่เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (6 ธ.ค.60 ) หุ้นกัลฟ์ ปรับตัวขึ้นกว่า 2 เท่า หรือ 207.78 % จากราคาที่ออกและเสนอขายให้กับประชาชาทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ)ที่ราคา 45 บาท หรือปรับตัวขึ้น 93.50 บาท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 2.95 แสนล้านบาท

สำหรับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ GULF ถือหุ้นอันดับที่ 10 จำนวน 40 ล้านหุ้น สัดส่วน 1.88 % ล่าสุดมีมูลค่าการถือครองหุ้นGULF ที่ 5,540 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวได้รับการจัดสรรหุ้นGULF ตั้งแต่ช่วงไอพีโอ จนถึงขณะนี้ทำให้มีกำไร 3,740 ล้านบาท โดยมีต้นทุนที่ 1,800 ล้านบาท

บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ (ROJNA) เป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 12 จำนวน 19.40 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 0.91 % ล่าสุดมีมูลค่าถือครองหุ้น GULF ที่ 2,687 ล้านบาท

ล่าสุด GULF เข้าร่วมประมูลโครงการร่วมลงทุน (PPP) การดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ 2 สายใหม่ (สายบางปะอิน-นครราชสีมา และ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี) ผ่านกิจการร่วมค้ากิจการร่วมค้า บีจีเอสอาร์ หรือ BGSR โดยมีพันธมิตรประกอบด้วยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(BTS) ถือหุ้น 40% GULF ถือหุ้น 40% บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งฯ ถือหุ้น 10% และ บริษัท ราช กรุ๊ป (RATCH )ถือหุ้น 10%

บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ “ถือ” หุ้น GULF ให้ราคาเป้าหมาย 86 บาทต่อหุ้น โดยมีมุมมองเป็นบวกเล็กน้อยจากโอกาสสูงในการได้โครงการ O&M มอเตอร์เวย์มาดำเนินการ อย่างไรก็ตามผลตอบแทนจากโครงการดังกล่าวคาดว่าไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มต่อ GULF อย่างมีนัยสำคัญ

บล.เคทีบีฯ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2562 ของ GULF ที่ 3,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อน พร้อมแนวโน้มครึ่งปีหลังของปี 2562 ยังทรงตัวแม้มีโครงการใหม่ทยอยผลิตไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (ซีโอดี) ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2562 แต่ถูกหักล้างด้วยการซ่อมบำรุงที่มากขึ้น และคงประมาณการกำไรปกติปี 2563 ที่ 4,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากปี 2562

ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com


น้ำเชอร์รี่ ดื่มเป็นประจำ ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ดี!!

น้ำเชอร์รี่ บำรุงความจำ บำรุงสมอง เชอร์รี่ โรคอัลไซเมอร์

เชอร์รี่ เป็นผลไม้แหล่งที่อุดมไปด้วยไฟโตนิวเทรียนท์ วิตามิน แร่ธาตุมากมายจึง ช่วยบรรเทาผู้ป่วยโรคเกาต์ อาการบาดเจ็บจากกีฬา และปัญหาการนอนหลับ ซึ่งในขณะนี้ได้มีการศึกษาวิจัยใหม่ถึงประโยชน์ที่สำคัญอื่นๆ ที่อาจซ่อนอยู่ในเชอร์รี่ลูกเล็กๆเหล่านี้

จากการวิจัยพบว่าการดื่มน้ำเชอร์รี่ช่วยบำรุงร่างกายให้กับผู้สูงอายุและยังช่วยพัฒนาความคิด การจดจำและความเข้าใจได้ง่ายขึ้น การศึกษาครั้งนี้ได้ถูกตีพิมพ์ในวารสารที่ชื่อว่า Food and Function การดื่มน้ำเชอร์รี่ทุกวันช่วยเสริมสร้างความจำของผู้สูงอายุระหว่าง 65 ถึง73 ปี นอกจากนี้ยังช่วยในการเสริมสร้างสุขภาพของผู้สูงอายุให้แข็งแรงอีกด้วย

น้ำเชอร์รี่

ประโยชน์ของเชอร์รี่อาจเกี่ยวข้องกับสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย เช่น โพลีฟีนอล, แอนโทไซยานิน, เมลานิน การศึกษาในครั้งนี้ได้มีผู้ได้รับเลือก 34 ราย โดยดื่มน้ำผลไม้เชอร์รี่ปริมาณ 480 มิลลิลิตร ทุกเช้าและตอนเย็นเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ ผู้เข้าร่วมทั้งหมดเหล่านี้สุขภาพดีไม่ได้ป่วยด้วยโรคร้ายใดๆ

12 สัปดาห์ผ่านไป ความสามารถของสมองและความทรงจำของผู้ที่ร่วมวิจัยเหล่านี้ หลังจากดื่มน้ำเชอร์รี่ พบว่าช่วยบำรุงสมองและความจำดีขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้เป็นการยืนยันว่าเชอร์รี่ช่วยเพิ่มความจำและจดจำสิ่งต่างๆ จึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำเชอร์รี่ทุกวันช่วยในการบำรุงสมอง เพิ่มการไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมอง และช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ดี

ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com


ประโยคเสนอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน

Offering help คําศัพท์ภาษาอังกฤษ ประโยคภาษาอังกฤษ ประโยคเสนอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว ภาษาอังกฤษน่ารู้ ภาษาอังกฤษพื้นฐาน เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง

ถ้าเราเห็นบุคคลอื่นตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม เช่น นักท่องเที่ยวกำลังหลงทาง,  คุณครูกำลังยกของหนัก และเราต้องการเสนอความช่วยเหลือในภาษาอังกฤษ สามารถใช้รูปแบบประโยคได้หลากหลายมาก ซึ่งเป็นประโยคที่ได้ใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวันของเรา ดังนั้นเป็นสิ่งที่น้องๆ จะต้องรู้ไว้

ประโยคเสนอความช่วยเหลือ ภาษาอังกฤษ
ที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน

เรามาดูกันว่าการเสนอให้ความช่วยเหลือ (Offering help) จะพูดเป็นภาษาอังกฤษอย่างไรได้บ้าง

  • I’m happy to help you. : ฉันยินดีที่จะช่วยคุณน๊า

ตัวอย่าง

A: I don’t think I can handle this project by myself. : ฉันคิดว่าฉันไม่สามารถทำโปรเจคนี้ได้คนเดียว

B: Don’t worry, I’m happy to help you. : ไม่ต้องกังวลไป ฉันยินดีที่จะช่วยคุณ

 

  • Do you need any help? : คุณต้องการความช่วยเหลือมั้ย?

ตัวอย่าง

A: I heard that you’re moving to the new house, do you need any help? : ฉันรู้มาว่าเธอกำลังจะย้ายไปอยู่บ้านใหม่ มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย?

B: It’s okay, I can do it myself. : ไม่เป็นไรฉัน ทำเองได้จ้า

  • What can I do for you? : อะไรที่ฉันจะทำให้คุณได้บ้าง (ฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง)

ตัวอย่าง

A: What can I do for you? : ฉันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง?

B: I’m looking for a new bag. : ฉันกำลังมองหากระเป๋าใบใหม่

 

  • Would you like me to help? : คุณอยากให้ฉันช่วยมั้ย?

ตัวอย่าง

A: That looks so heavy, would you like me to help? : นั่นมันดูหนักมากเลย อยากให้ฉันช่วยมั้ย?

B: Don’t worry, I can do it. : ไม่เป็นไร ฉันถือไหว

 

  • Do you want me to help? : คุณอยากให้ฉันช่วยมั้ย?

ตัวอย่าง

A: I know you have a lot of work to do. Do you want me to help? : ฉันรู้ว่าคุณงานเยอะมากอยากให้ฉันช่วยมั้ยฦ

B: Thank you very much. You’re so kind. : ขอบคุณมากคุณกรุณามากเลย

 

  • Can I give you a hand?  : ให้ฉันช่วยมั้ย?

ตัวอย่าง

A: Can I give you a handwith your report? : ให้ฉันช่วยคุณทำรายงานมั้ย?

B: I appreciate that but I can do it myself. : ฉันซาบซึ้งนะคะแต่ฉันทำเองดีกว่า

และยังมีอีกหลายประโยคที่สามารถเอาไปใช้ได้

-Let me help you. ให้ฉันช่วยคุณนะ

-Can/May I help you? ให้ฉันช่วยคุณมั้ย?

-Is there anything I can do for you? มีอะไรให้ฉันช่วยคุณมั้ย

-I can help you If you’d like ฉันช่วยคุณได้ถ้าคุณต้องการ

-May I offer you some help? ให้ฉันช่วยคุณมั้ย?

อย่าลืมว่า การมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่ดี และควรปฎิบัตินะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก teen.mthai.com


อพวช.จับมือสตาร์ตอัพไทยจัดแข่งหุ่นยนต์เลือดใหม่พาเด็กไทยคว้าชัยระดับโลก

อพวช. ร่วมกับ อิมเมจิเนียริ่งฯ สถาบันพัฒนาและวิจัยหลักสูตรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จัดงานแข่งขันหุ่นยนต์รูปแบบใหม่ “MakeX Thailand 2019” การแข่งขันเพื่อพัฒนาด้านหุ่นยนต์และการเขียน Coding บนโปรแกรม scratch ในการสั่งงานระบบสมองกล (controller) ผ่านกระบวนคิดเชิงคำนวณอย่างเป็นระบบในการแก้ปัญหา พร้อมนำทัพมหาลัยชื่อดังและโรงเรียนชั้นนำ ร่วมทำโครงการพัฒนาศักยภาพเด็กไทยในด้านอัจฉริยะสมองกล เพิ่มโอกาสให้เด็กไทยได้ลงมือฝึกหัดใช้ความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาทักษะ ผ่านอุปกรณ์การเรียนรู้ สร้างนวัตกรรมจากชุดหุ่นยนต์ โดยการเขียน โปรแกรม Coding เป็นการเรียนรู้ที่สำคัญในยุคศตวรรษที่ 21 ที่ก้าวเข้าสู่ยุคหุ่นยนต์และยุคของไทยแลนด์ 4.0 และ 5.0 ในอนาคต โดยจะคัดสรรตัวแทนเยาวชนทั่วไทยไปแข่งขันระดับโลกที่ประเทศจีนต่อไป

ผศ.ดร.รวิน  ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เผยว่า อวพช. ได้ร่วมกันจัดทำโครงการ “การพัฒนาศักยภาพเด็กไทยในด้านอัจฉริยะสมองกล” เพื่อเพิ่มโอกาสให้เด็กไทยได้ลงมือฝึกหัดใช้ความคิดสร้างสรรค์และพัฒนาทักษะผ่านชุดอุปกรณ์การเรียนรู้ ชุดฝึกหัดการเขียนโปรแกรม (Coding) ในกิจกรรมภายในพิพิธภัณฑ์ของ อพวช. รวมถึงกิจกรรมในคาราวานวิทยาศาสตร์ของ อพวช. ที่ออกตระเวนไปจัดแสดงตามโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยความร่วมมือครั้งนี้จะมีระยะเวลาดำเนินงานภายใน 3 ปี คือตั้งแต่กลางปี 2562 – 2565 โดยการแข่งขัน MakeX Thailand 2019 เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่จะช่วงส่งเสริมและเพิ่มโอกาสให้เด็กไทยได้ลงมือฝึกหัดใช้ความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาทักษะผ่านชุดอุปกรณ์การเรียนรู้ เช่น ชุดหุ่นยนต์ ชุดฝึกหัดการเขียนโปรแกรม (Coding) เพื่อสร้างให้พวกเขากลายเป็นนวัตกรให้กับประเทศในอนาคต

ด้านนางสาวสุมิตรา  นิ่มกรชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท อิมเมจิเนียริ่ง เอ็ดดูเคชั่น จำกัด กล่าวว่า การจัดการแข่งขัน MakeX Thailand 2019 เป็นการแข่งขันประดิษฐ์หุ่นยนต์หรืออัจฉริยะสมองกล ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของเด็กไทยในด้านความคิดสร้างสรรค์และคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ  เพื่อนำไปสู่การคิดแก้ปัญหาและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้กับประเทศต่อไป และโปรเจ็กต์การแข่งขัน MakeX Thailand 2019 นี้ เป็นการคัดสรรตัวแทนประเทศไทย ไปทำการแข่งขันระดับโลกที่ประเทศจีน เพื่อเป็นการโชว์ความสามารถเด็กไทย ให้เป็นที่รู้จักในเวทีระดับโลก

โดยการแข่งขันนี้ ได้เริ่มแล้วอย่างเป็นทางการ โดยมีการจัด Work Shop ทั่วประเทศ โดยการแข่งขันจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ รายการแข่งขัน MakeX Starter เป็นการแข่งขันหุ่นยนต์พื้นฐาน โดยใช้ mBot และชุดเสริมเขียนคำสั่งให้ประกอบภารกิจ ส่งเสริมการแก้ปัญหาการทำงานร่วมกับผู้อื่น มี 2 รุ่นคือ 1. mBot Starter ระดับประถมศึกษา (อายุ 8-12 ปี)  2. mBot Starter ระดับมัธยมศึกษา (อายุ 12-17 ปี) และรายการแข่งขัน MakeX Challenge (อายุ 13-17 ปี)  เป็นการแข่งขันหุ่นยนต์แบบMaker โดยแต่ละทีมจะต้องสร้างหุ่นยนต์ในรูปแบบตนเองจากอุปกรณ์ที่กำหนดและเขียนโปรแกรมสั่งงาน  เพื่อให้ทำภารกิจที่ได้รับ และสำหรับการแข่งระดับภูมิภาคนั้น จะมีขึ้นในเดือนตุลาคม โดยมีกำหนดการดังนี้

6 ต.ค. MakeX Thailand 2019 Robotics Competition Regional (ภาคกลาง) เซ็นทรัล บางนา กรุงเทพฯ
· 12 ต.ค. MakeX Thailand 2019 Robotics Competition Regional (ภาคอีสาน) จังหวัด ขอนแก่น
· 19 ต.ค. MakeX Thailand 2019 Robotics Competition Regional (ภาคใต้) จังหวัด ภูเก็ต
· 26 ต.ค. MakeX Thailand 2019 Robotics Competition Regional (ภาคเหนือ) จังหวัด เชียงใหม่
· 9-10 พ.ย. MakeX Thailand 2019 Robotics Competition Championship เซ็นทรัล บางนา กรุงเทพฯ

MakeX Robotics Competition คือการแข่งขันเพื่อพัฒนาด้านหุ่นยนต์และการเขียน coding บนโปรแกรม scratch ในการสั่งงานระบบสมองกล ( controller ) ผ่านกระบวนคิดเชิงคำนวณอย่างเป็นระบบในการแก้ปัญหา และเน้นการทำงานเป็นทีม โดยทาง บริษัท อิมเมจิเนียริ่ง เอ็ดดูเคชั่น เล็งเห็นความสำคัญของการเขียน coding ที่จะเป็น Trand ที่มีประโยชน์สำหรับเยาวชนและ คาดหวังว่า การแข่งขันนี้ จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาศให้เด็กไทยได้แสดงความสามารถ และพัฒนาศักยภาพ นำไปสู่การสร้างนักคิดนักประดิษฐ์ เทคโนโลยีของประเทศต่อไปในอนาคต และสำหรับรอบชิงชนะเลิศที่ประเทศจีน จัดการแข่งขึ้นขึ้นในวันที่ 28 พ.ย.-1 ธ.ค 2019 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 22,200.00 22,300.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,438.00 21,800.08 22,800.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,294.20 19,620.07 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,150.40 17,440.06 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 647.00 9,808.52 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 503.00 7,625.48 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,490.00 22,588.40 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/08/2562

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35 27.35
แก๊สโซฮอล์ 91 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08 27.08
แก๊สโซฮอล์ E20 24.34 24.34 24.34 24.34 24.34 24.34 24.34 24.34 24.34
แก๊สโซฮอล์ E85 19.89 19.89 19.89
เบนซิน 95 34.76 35.21 35.26 35.06 35.06
ดีเซล 25.79 25.79 25.79 25.79 25.79 25.79 25.79 25.79 25.79 25.79
ดีเซลพรีเมี่ยม 24.79 24.79
แก๊ส NGV 15.66 15.66
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า