ชะลอตัว! ครึ่งปีหลัง คอนโดในกทม.เปิดใหม่2หมื่นยูนิต
เน็กซัสชี้แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯช่วงครึ่งปีหลังเปิดใหม่ประมาณ 2 หมื่นหน่วย ดีเวลลอปเปอร์อาจขยับแผนไปเปิดตัวปีหน้า ขณะราคาขายยังคงปรับสูงขึ้นสวนทางภาวะตลาดทรงตัว
นางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาคาดว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2562 ตลาดยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพ พบว่าในไตรมาสที่ 3 มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ประมาณ 10,500 หน่วย และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีจะมีโครงการใหม่เปิดตัวอีกไม่เกิน 10,000 หน่วย โดยพบว่ามีหลายโครงการที่พัฒนาโครงการเตรียมความพร้อมที่จะเปิดตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ยังชะลอดูว่าภาพรวมตลาดจะดีขึ้นหรือไม่ ในกรณีที่ภาพรวมตลาดยังดูทรง ๆ ก็มีแนวโน้มที่จะขยับแผนการเปิดไปเป็นปีหน้า ส่งผลให้ยูนิตใหม่ทั้งปีมีไม่เกิน 45,000 หน่วย ที่ผ่านมาข้อมูลจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พบว่า ตั้งแต่ต้นปีที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์บอกว่า จะเปิดตัวโครงการอีก 290 โครงการ ทั้งคอนโด และแนวราบ แต่ในความเป็นจริงพบว่า ขณะนี้การเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง 30%
ด้านราคาพบว่าสถานการณ์ราคายังคงปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก โดยราคาเฉลี่ยคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ณ ไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 อยู่ที่ 143,800 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 2.3% จากเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยที่ตลาดใจกลางเมืองปรับตัวขึ้น 3% อยู่ที่ 238,000 บาทต่อตารางเมตร ตลาดรอบใจกลางเมืองปรับตัวขึ้น 1% หรือ 114,800 บาทต่อตารางเมตร และตลาดรอบนอกเมืองปรับขึ้นอีก 2% อยู่ที่ 75,000 บาทต่อตารางเมตร ตามลำดับ โดยคาดการณ์ว่าตลอดปีนี้ ราคาคอนโดมิเนียมจะปรับตัวขึ้นจากปีที่แล้วไม่เกิน 5-6% ในขณะที่ความต้องการยังคงมาจากผู้ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริงที่มีกำลังซื้อเป็นส่วนใหญ่
ส่วนคอนโดมิเนียมที่ขายดี และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ จะอยู่ที่ช่วงราคา 2-5 ล้านบาท สำหรับคอนโดมิเนียมที่ราคาต่ำกว่า 1.8 ล้านบาท กลุ่มนี้ถึงแม้จะมีความต้องการมากแต่หนี้สินครัวเรือนและเครดิตของผู้กู้เอง ทำให้ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ สำหรับตลาดลักชัวรี่และไฮเอนด์ การขายเป็นไปอย่างช้า ๆ โดยกลุ่มผู้ซื้อคือคนต้องการอยู่จริงเป็นหลัก การโอนกรรมสิทธิ์ไม่มีปัญหามากนักเนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว
สำหรับทิศทางอสังหาริมทรัพย์โค้งสุดท้ายของปี ยังไม่เห็นปัจจัยบวกชัดเจน จากนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล นอกจากการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง ทำให้ต้นทุนการกู้เงิน และพัฒนาโครงการถูกลง หากแต่จะเห็นชัดในแง่ของสาธารณูปโภค ได้แก่ การเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง หลักสอง ที่อำนวยความสะดวกให้ประชาชนจากฝั่งธนบุรีสามารถเดินทางเข้าเมืองได้ง่าย เมืองขยายตัวออกไป เปิดโอกาสให้การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวออกไปในทำเลใหม่ๆ ได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดทำเลในการทำธุรกิจการค้า และการอยู่อาศัยเกิดใหม่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของใจกลางเมืองเก่า ชุมชนเก่า อาทิ เยาวราช วังบูรพา สนามไชย ที่สามารถเชื่อมต่อกับเขตธุรกิจใจกลางเมือง ทำให้ศักยภาพของทำเลที่ดีอยู่แล้วมีมากขึ้นไปอีก ผู้ประกอบการมีการปรับปรุงร้านค้าห้องแถวในบริเวณนั้นใหม่ ทำให้เกิดแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหารและโรงแรม แนวใหม่ขึ้นมากมาย สำหรับโครงการที่อยู่อาศัย ที่จะเกิดขึ้นใหม่นั้น เราพบว่าขณะนี้ มีผู้ประกอบการพยายามหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการหลายราย แต่การหาที่ดินย่านนั้นค่อนข้างยากมาก และราคาสูง ดังนั้น ลักษณะการพัฒนาจึงเป็นการลงทุนเพื่อการพาณิชย์มากกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ปัจจัยลบจุกอก อสังหาปี 63 ฟื้นยาก
เอกชนประสานเสียง ปีหน้าตลาดอสังหาฯยังเหนื่อย เหตุปัจจัยลบมากกว่าบวก ระบุ กฎหมาย-ภาษีใหม่ประกาศพร้อมกันดันต้นทุนที่ดิน ขณะที่ซัพพลายล้น กำลังซื้อไม่เอื้อ มาตรการรัฐล้นมือ กดดันผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์หาทางรอด
นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ระบุถึงทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย ในงานเสวนา “จตุรทิศ : โลกเปลี่ยน กฎ-กติกาเปลี่ยน อสังหาฯ รุกรับให้ทัน” ว่า ค่อนข้างกังวลถึงภาวะตลาดในช่วงปี 2563 เพราะจะเป็นจังหวะที่กฎหมายเกี่ยวข้องหลายฉบับมีการประกาศใช้พร้อมกัน เช่น กฎหมายผังเมือง กทม., กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงราคาประเมินที่ดินฉบับใหม่ด้วย แม้จะเป็นผลดีต่อวงการ อสังหาฯในระยะยาว แต่การประกาศบังคับใช้ในช่วงที่เศรษฐกิจโดยรวมไม่เอื้อ จึงอาจกลายเป็นภาระให้กับผู้ซื้อที่อยู่อาศัย และผู้พัฒนาโครงการได้ เนื่องจากเมื่อผู้พัฒนา มีต้นทุนที่ดินเพิ่มขึ้น และแปลงเป็นโครงการที่อยู่อาศัย ต้นทุนดังกล่าวบางส่วน จะถูกส่งต่อเป็นราคาขายที่สูงขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม สามารถกระทำได้แค่บางส่วน จึงต้องหันมาหาช่องทางปรับลดต้นทุนเองด้วย สะท้อนจากภาพการพัฒนาภายใต้การร่วมทุนกับต่างชาติ, การปรับขนาดบ้านให้เล็กลงแต่ฟังก์ชัน การใช้งานเพิ่มขึ้น และในอนาคตคงได้เห็นการประหยัดต้นทุนในด้านอื่นๆ ลงไปอีก
วสันต์ เคียงศิริ
“วันนี้ทิศทางของผังเมือง ยังมีหลายจุดที่ไม่สอดคล้อง โดยเฉพาะความเจริญที่ยังไม่กระจายโหนด ดีเวลอปเปอร์จะซื้อที่ดิน ลงทุนที่ไหน ต้องดูข้อจำกัด กฎระเบียบให้ดี เพราะพบการใช้ประโยชน์ของที่ดินจะน้อยลง สิ่งสำคัญสุดคือการบริหารต้นทุนที่ดี”
ด้านนางสาวเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า ช่วงปี 2562 ตลาดเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงสูงสุดทั้งในแง่ซัพพลายและดีมานด์ และคงต่อเนื่องถึงช่วงปีหน้า หลังจากปัจจัยลบสำคัญ คือ มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ (LTV) ยังคงประกาศใช้อยู่ โดยมาตรการดังกล่าว กระทบด้านดีมานด์อย่างชัดเจน จากการบังคับวางดาวน์ในอัตราสูงลักษณะขั้นบันได จำกัดความสามารถในการซื้อของคนลดลง เปรียบเงินเดือนของคนเป็นรูปพีระมิด แสดงว่าดีมานด์ของแต่ละกลุ่มจะเล็กลงอีก และที่น่ากังวลสุดคือ คนกลุ่มหนึ่งที่ฐานเงินเดือนเท่าเดิม อดีตเคยซื้อได้ แต่ปัจจุบันไม่มีโอกาสซื้อแม้มีความต้องการสูง โดยกระทบหนักสุดในกลุ่มคอนโดฯ ฉะนั้น แม้จะมีคาดการณ์ว่าในช่วง 2 ปีข้างหน้า ภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่เมื่อยังมี LTV เป็นข้อจำกัดใหญ่ สถานการณ์จึงคงยังไม่คลี่คลาย
ขณะเดียวกัน หากปีหน้า ธนาคารแห่งประเทศไทยจะประกาศใช้มาตรการคุมภาระหนี้ต่อรายได้สูงสุด (DSR) เพิ่มเติมอีก คาดคงกระทบกำลังซื้อกลุ่มเปราะบาง เงินเดือนตํ่ากว่า 3 หมื่นบาท ให้หายไปจากตลาดนับ 29% เพราะที่ผ่านมา พบสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้ โดยกำหนดเป็นเงินผ่อนเกิน 70% ของรายได้ด้วยซํ้า มองว่ามาตรการต่างๆ ของรัฐ มีความสวนทางกับนโยบายที่ต้องการให้ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง จึงอยากให้ทบทวนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
“ปีหน้ามีปัจจัยบวกแค่ 2 ตัว คือ ดอกเบี้ยยังไม่ขึ้น กับความคืบหน้าก่อสร้างรถไฟฟ้า ฉะนั้นคาดการณ์ถ้าปีนี้หดตัวไม่ตํ่ากว่า 10% ปีหน้าคงใกล้เคียงกันจากฐานที่ตํ่า และหากรัฐประกาศใช้ DSR ผลกระทบคงมากขึ้นอีก”
อย่างไรก็ตาม แม้ทิศทางตลาดในช่วงปีหน้ายังอยู่ในช่วงขาลง แต่ไม่ได้การันตีว่าโอกาสจะกลายเป็นศูนย์ทั้งหมด เพราะซัพพลายที่มีแนวโน้มลดลงนั้น ทำให้บางทำเลยังมีช่องว่าง จึงอยากแนะให้ผู้พัฒนา เลือกเจาะเซ็กเมนต์ที่ยังมีความต้องการจริงด้วยความแตกต่างของโปรดักต์ ประกอบกับการบริหารต้นทุนที่ดี คงทำให้อยู่ในจุดชนะตลาดได้
ขณะที่นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ระบุในแง่การปรับตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลง ว่า ช่วงปีหน้าตลาดคงมีการแข่งขันกันสูง
พีระพงศ์ จรูญเอก
สุดท้ายจะต้องแข่งขันด้วยราคาโปรดักต์ที่ถูกลง และมีความน่าสนใจ การพัฒนาโดยหลักการแบบเดิมๆ ไม่สามารถอยู่รอดได้ จำเป็นต้องมีข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ทำเลและความต้องการของผู้ซื้อยุคใหม่อย่างแท้จริง เบื้องต้นมองเห็นโอกาสใน 2 กลุ่มหลัก คือ คอนโดฯระดับบน ราคา 2 แสนบาทต่อตารางเมตรขึ้นไป ผ่านการหยิบยื่นบริการหลังการขายที่ดีให้ลูกค้า เช่น การดึงเชนโรงแรมเข้าบริหารจัดการ และอีกกลุ่ม คือ ตลาดประมาณ 2 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าเจน z นักศึกษาจบใหม่ เพราะเปรียบเป็นพรีเมียมดีมานด์ที่เข้ามาในตลาดประมาณ 5 หมื่นรายต่อปี ทั้งนี้แนะนำจังหวะที่ภาวะตลาดไม่เอื้อ ไม่สนับสนุนให้ผู้พัฒนารายเล็กเข้าสู่ตลาด เพราะมีความเสี่ยงเกินไป
“ช่วงนี้ ไม่ใช่จังหวะ การเข้ามาของผู้พัฒนามือสมัครเล่น ด้วยการแข่งขันที่สูง คาดจะมีโปรโมชันดุเดือดเพื่อระบายซัพพลายจากรายใหญ่ คาด 5 ปีข้างหน้าคงเหลือผู้พัฒนาแค่ 100 ราย จากต้นทุนที่สูงมาก จากปัจจุบันที่มีหลักพันราย”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ธนชาตรุกตลาดสินเชื่อที่อยู่ด้วยเงินฝากหักลดดอกเบี้ยบ้านได้
ธนาคารธนชาตรุกตลาดสินเชื่อบ้าน ออกสินเชื่อบ้านรูปแบบใหม่ นำเงินฝากมาหักลดยอดในการคิดดอกเบี้ยบ้านได้
นายสุนันท์ อัมหิรัญ ผู้อำนวยการอาวุโส ธุรกิจสินเชื่อเคหะ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารธนชาตมีนโยบายยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) และได้ออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านเพื่อให้ตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม ภายใต้แนวคิดให้การกู้บ้าน ไม่ปิดกั้นความก้าวหน้าของลูกค้า โดยปัจจุบันมีให้บริการผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านที่หลากหลาย อาทิ สินเชื่อบ้านใหม่ สินเชื่อบ้านมือสอง สินเชื่อรีไฟแนนซ์ สินเชื่อปลูกบ้าน สินเชื่อบ้านแลกเงิน และ สินเชื่อโฮมพลัส โดยล่าสุด ได้ออกผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้าน Offset Housing Loan ซึ่งเป็นสินเชื่อบ้านรูปแบบใหม่ ที่รวมผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน และเงินฝากไว้ด้วยกัน โดยให้ใช้ยอดเงินฝากมาหักลดยอดในการคิดดอกเบี้ยบ้านได้ โดยไม่ต้องนำเงินฝากมาเป็นหลักประกัน ลูกค้าจึงมีสภาพคล่อง สามารถนำเงินฝากออกมาใช้ได้ และมีภาระดอกเบี้ยบ้านน้อยลง ซึ่งจากหลักการลดต้นลดดอกทำให้ปิดบัญชีได้ไวกว่าสินเชื่อบ้านแบบเดิม
โดยสินเชื่อบ้านธนชาต Offset Housing Loan นี้ เหมาะกับลูกค้าที่มีเงินสดอยู่แล้วในระดับหนึ่ง หรือลูกค้าที่มีกระแสเงินสดเข้าออกอยู่เป็นประจำ และมองหาการกู้บ้านที่ให้สภาพคล่องทางการเงินกับตัวเอง เมื่อต้องการเงินออกมาใช้ยามฉุกเฉินหรือนำไปลงทุนต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ก็สามารถดึงเงินฝากนั้นกลับมาได้ตลอดเวลา เพียงผู้กู้เปิดบัญชีสินเชื่อบ้าน Offset Housing Loan ควบคู่กับ บัญชีเงินฝากเพื่อสินเชื่อบ้าน Offset Housing Loan (อัตราดอกเบี้ย 0%) เพื่อใช้ยอดเงินฝากมาประกอบการคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน โดยสรุปมีข้อดี ดังนี้
สำหรับการชำระค่างวดสินเชื่อบ้านธนชาต Offset Housing loan ธนาคารอำนวยความสะดวกโดยให้ชำระค่างวดผ่านการตัดบัญชีอัตโนมัติ (AFT) โดยอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม เป็นไปตามประกาศของธนาคาร ผู้สนใจสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา โทร.1770 กด 7 หรือ www.thanachartbank.co.th
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com
อายุ 35 ขึ้นไป กินวิตามินอะไรดี เพื่อดูแลสุขภาพให้แข็งแรง!
เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไป ร่างกายจะเริ่มเสื่อมถอยและจะค่อยๆเปลี่ยนแปลง ทั้งผิวพรรณ สายตา เส้นผม กระดูกและข้อต่อ ร่างกายอ่อนแอง่าย ดังนั้นการรักษาสุขภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น กินวิตามินอะไรดี ถึงจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง เรามาดูกันเลย….
แคลเซียม
แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้กระดูก มีส่วนสำคัญในการแข็งตัวของเลือดและการทำงานของระบบประสาทในการส่งสัญญาณให้เร็วขึ้น แคลเซียมจะเริ่มเสื่อมสลายมากกว่าการเสริมสร้าง ในวัยผู้ใหญ่การกินแคลเซียมจะช่วยลดการเสื่อมสลายได้ หากเกิดภาวะกระดูกเสื่อมเพราะร่างกายได้รับแคลเซียมจากอาหารไม่เพียงพอ แคลเซียมจากกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกรานจะถูกดึงออกมาใช้ทำให้กระดูกเปราะ แตก หักได้ง่าย ซึ่งผู้หญิงมีโอกาสกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุนถึง 40%
อาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม ชีส งาดำ ธัญพืช ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้ ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง กุ้งฝอย
ธาตุเหล็ก
ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายเพราะเป็นสารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการผลิตฮีโมโกลบิน (hemoglobin) และมีหน้าที่ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง อีกทั้งยังช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง จะช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันอาการอ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด ช่วยในการบำรุงเลือด ป้องกันภาวะโลหิตจาง
อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เครื่องในสัตว์ ไข่แดง ธัชพืช ลูกเกด เมลอน ผักกูด ใบแมงลัก ผิวมะกรูด
วิตามินดี
เมื่ออายุมากขึ้นก็จะมีความเสี่ยงที่จะขาดวิตามินดีมากขึ้น ซึ่งวิตามินดีมีความสำคัญต่อกระดูกและยังช่วยดูดซึมแคลเซียมจากทางเดินอาหาร จึงช่วยให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันโรคกระดูกพรุน ทั้งยังช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด หากขาดวิตามินดีก็ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนหรือโรคกระดูกอ่อน โดยเฉพาะผู้หญิงเมื่ออายุมากขึ้น หากหกล้มก็อาจจะทำให้กระดูกแตกร้าวได้ง่าย
อาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ไข่แดง ตับสัตว์ โยเกิร์ต นม ส้ม น้ำมันตับปลา ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และแสงแดดอ่อนๆ
สารต้านอนุมูลอิสระ
ผักผลไม้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เช่น แอนโทไซยานิน โพลีฟีนอล ฟีนอลิก ไลโคปีน แคโรทีนอยด์ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็งและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหารและยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ
อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รี่ กระเทียม อาร์ติโช้ค ดาร์กช็อกโกแลต บร็อคโคลี่ ผักโขม ใบกะเพรา ใบโหระพา
ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com
มาฝึกแหลงใต้ม้าย รวมคำศัพท์ภาษาใต้น่ารู้
หลังจากฝึกเว้าภาษาอีสาน อู้ภาษาเหนือ กันไปแล้ว วันนี้เรามาฝึกแหลงภาษาใต้กันบ้าง “แหลงใต้ได้หม้าย ลองแลถิ” ซึ่งภาษาใต้ ก็เป็นอีกหนึ่งภาษา ที่มีจังหวะการพูดและท่วงทำนองน่าค้นหา และเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ถ้าพร้อมแล้วมาเรียนรู้ภาษาถิ่นใต้เก๋ๆ กัน แต่จะมีคำว่าอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันเลยมาฝึกแหลงใต้ม้าย
รวมคำศัพท์ภาษาใต้น่ารู้
พรือ : อย่างไร
ดังฉาวเทือน : เสียงดัง
หรอยแรง : อร่อยมาก
สวยหนัด : สวยมาก
พี่บ่าว : พี่ชาย
แหลง : พูด
หายเบ่อ : สมน้ำหน้า
หลูกหลาก : สกปรก
ชาด : แหม – คำอุทานที่แสดงถึงความประหลาดใจ หรือผิดหวัง ไม่เป็นอย่างที่คิด
โทรหล๊อบมาทีนะ : โทรกลับมาทีนะ
มาต่ะ : มาสิ
หวังเหวิดโร่ม้าย : ห่วงใยหรือเปนห่วงรู้ไหม
รักหนัดเหนียง : รักมากมาย (ตรึม)
หมาหม้ายเด้ : ไม่มีนะ
หวางเบล๋อไปแหละ : หายโง่ไปดิ
เอิด : กร่าง หรือ นักเลง
อ้อร้อ : ผู้หญิงไม่เรียบร้อย , กระแดะ
อาด : ผู้หญิงไม่เรียบร้อยหนักมากกกกก
เบล่อ : ไม่อยู่กับร่องกับรอย , เงอะๆ งะๆ
ขาดหุ้น : สติไม่สมประกอบ , ไม่รู้เรื่อง
ทำเฒ่า : อย่ายุ่ง
เฉียวฉาว, เชียวชาว : ไม่ค่อยสบายตัว
สับปลับ : พูดจาโกหกกลับไปกลับมา
ขี้หก : โกหก
หึงสา : อิจฉา
รถถีบ : รถจักรยาน
แหลง : ความหมายคือพูดตัวอย่าง
แลหวัน : มองหรือดูตะวัน
ไซร์ : ทำไม
พันพรือหล้าว : เป็นยังไงอีก
คุมวัน : จนทุกวันนี้
เวด-นา : มาจาก เวทนา น่าสงสารดูไม่ได้
แคงควน : เอียงหรือไม่ตรง
เซน : เอียง หรือ ไม่ตรง
ในโย : ปัจจุบัน
หวิบ : โมโห
ไม่รู้หวัน : ไม่รู้เรือง
เกือก : รองเท้า
อีโหว้ง-วก : ใช้เรียกคนที่โง่ ไม่รู้เรื่อง
หลบ, หล็อบ (หล๊อบ) : กลับ
เริน : บ้าน, เรือน
ขวยใจ (ข้วยใจ๋), หวังเหวิด (หวั้งเวิ้ด) : กังวลใจ เป็นห่วง
จังหู (จั่งหู้), จังหัน (จั่งหั้น), คาลักคาลุย, กองลุย, กองเอ, ราสา, หนัดเหนียน : เยอะแยะ มากมาย
หิด, หิดหุ้ย, แต็ด, แยด : เล็กน้อย นิดหน่อย ไม่มาก
แต่วา, แรกแต่วา : เมื่อวานนี้
ต่อเช้า, ต่อโพรก : พรุ่งนี้
ต่อรือ : วันมะรืน
ต่อเหรือง : วันถัดไปของวันมะรืน
ขาดหุ้น (ข้าดหุ๊น), เบา, ฉ็อมฉ็อม : ไม่เต็มเต็ง ไม่เต็มบาท ไม่รู้เรื่องหรือไม่ฉลาด
ทั้งเพ : ทั้งหมด ทั้งสิ้น
ได้แรงอก (ด่ายแหร่งอ็อก) : สะใจ ถูกใจ เป็นอาการแสดงออกถึงรู้สึกความพอใจอย่างที่สุด
แง็ง : เป็นอาการดุ หรือแสดงอาการข่มขู่คู่ต่อสู้ของสุนัข
ด้น (ด่อน) : ดุร้าย
หม้ายไหร (ม้ายหรั้ย), เปลาๆ, ลอกอ : ไม่มีอะไร หรือฐานะยากจน
หาม้าย : ไม่มี
ฉาด (ฉ้าด), หมดฉาด (หม๊ดฉ้าด), เหม็ดฉาด (เม๊ดฉ้าด) : หมด ไม่มี หมดเกลี้ยง
เอิด,เหลิด (เหลิ้ด) : ทำตัวกร่าง ทำเป็นเก่ง
หยบ (หย๊อบ) : แอบ หลบหรือซ่อน
พลัดพรก, เหลินดังแส็ก : อาการของการหล่นลงมาอย่างแรง (เหลิน = หล่น)
พรือโฉ้ : เป็นอาการที่บอกไม่ได้ อธิบายไม่ถูก
โหม : หมู่ พวก กลุ่ม
เมล่อ, เบล่อ (อ่านพยางค์เดียวควบกล้ำ ม – ล – สระเออ) : ไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่อง
ทำถ้าว : ยุ่งเรื่องคนอื่น
เนียนแจ็กแจ๊ก : เละเทะ ไม่เหลือชิ้นดี
ตอใด : เมื่อไหร่
ขี้มิ่น : ขมิ้นใส่ในแกงของคนใต้
ขี้พร้า : ฟัก
เหล็กขูด : กระต่ายขูดมะพร้าว
เหล็กโคน : ตะปู
แล้วหม้าย : แล้วหรือยัง
อี : จะ, กำลังจะ
กวน อก : อาการอาเจียน พะอืดพะอม
กวาดหย้าก : กวาดขยะ
แล ไอ ไร่ : มองอะไร
กางหลาง : เกเร
กินข้าวแล้วม้าย : เป็นคำถามว่า กินข้าวแล้วยัง
เก้ง : ตั้งทิ้งไว้
เกือก : รองเท้า
เกือกฟองน้ำ : รองเท้าแตะ
แกงเท่ : แกงกะทิ
โกปี้ : กาแฟ
โกห้าน : สะเดาะเคราะห์
ขนมค่อม : ขนมใส่ไส้
ขบ : กัด
ขล๊อง : ซน
ขวยใจ : เป็นห่วง กลุ้มใจ
ข้างเริน : ข้างบ้าน
ข้าวต้มลาว : ข้าวต้มมัด
ขี้กรา : ตะไคร่น้ำ
ขี้คร้าน : ขี้เกียจ
ขี้ฉ้อ : ขี้โกง
ขี้โดก : ผอมจัด หรือ ขี้เหนียวจัดก็ได้
ขี้ทก : โกรธง่าย
ขี้มิ้น : ขมิ้น
ขี้ฮก : โกหก
ขี้หลี : เจ้าชู้
แขบ : รีบ หรือ เร็ว
คง : ข้าวโพด
แคง : เอียง
แค้น : จุก
โคม : กะละมัง
จอก : แก้วน้ำ
ฉ็องด็อก : ทะเล้น, ทะลึ่ง
จังหู (จั่งหู้), จังหัน (จั่งหั้น) : มากมาย, เยอะ
เจ็บเบ็ดหัว : ปวดหัวต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เจ็บพุง : ปวดท้อง
ฉับโหยง : กระดานหก
ฉา : ตะกร้า
ฉู้ด : กระเด็น, กระเซ็น
โฉ : เสียงดัง
ชมพู่ : ฝรั่ง
ชมพู่แก้ว : ชมพู่
ชั้น : ปิ่นโต
ชาโขย, ชาโก้ย : ปาท่องโก๋
หลบ, หล็อบ (หล๊อบ) : กลับ
เริน : บ้าน, เรือน
แต่วา, แรกแต่วา : เมื่อวานนี้
ต่อเช้า, ต่อโพรก : พรุ่งนี้
ต่อรือ : วันมะรืน
ทั้งเพ : ทั้งหมด ทั้งสิ้น
ได้แรงอก (ด่ายแหร่งอ็อก) : สะใจ ถูกใจ เป็นอาการแสดงออกถึงรู้สึกความพอใจอย่างที่สุด
แง็ง หมายความว่า : เป็นอาการดุ หรือแสดงอาการข่มขู่คู่ต่อสู้ของสุนัข
ด้น (ด่อน) หมายความว่า : ดุร้าย
หาม้าย : ไม่มี
ฉาด (ฉ้าด), หมดฉาด (หม๊ดฉ้าด), เหม็ดฉาด (เม๊ดฉ้าด) หมายความว่า : หมด ไม่มี หมดเกลี้ยง
เอิด, เหลิด (เหลิ้ด) หมายความว่า : ทำตัวกร่าง ทำเป็นเก่ง
หยบ (หย๊อบ) หมายความว่า : แอบ หลบหรือซ่อน
หน่ามต๊าว, น้ำเต้า : ฟักทอง
ดีปลี : พริก
ดานเชี้ยง, ดานเฉียง : เขียง
หน่ำฉุบ, น้ำชุบ : น้ำพริก
ฮั้วฉ่าว, หัวเช้า : ตอนเช้า
เนือย : หิว
ยิก : ไล่
ส้มนาว : มะนาว
ตอฉ่าว, ต่อเช้า : พรุ่งนี้
หยบ : ซ่อน
หย่านัด, ย่านัด : สับปะรด
หวันมุ้งมิ้ง : โพล้เพล้
เคย : กะปิ
ขี้หก : โกหก
ท้ายครก : เม็ดมะม่วงหิมพานต์
แขว็ก, แคว็ก : แคะ
สาวนุ้ย : น้องสาว
พันปรือม้าง : เป็นยังไงบ้าง
พลัดพรก, เหลินดังแส็ก : อาการของการหล่นลงมาอย่างแรง (เหลิน = หล่น)
ขี้พร้า : ฟัก
มะลิ, ย่านหนัด : สัปรด
หัวครก, ยาร่วง : มะม่วงหิมพาน
หมาถั้ง : ภาชนะที่ใช้ตักน้ำในบ่อ
เหล็กขูด : กระต่ายขูดมะพร้าว
เหล็กโคน : ตะปู
หมาโร้ไอ้ไหรไหม : อะไรก็ไม่รู้
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
อาลีบาบา ลั่น 5 ปี ดันผู้ใช้ 1 พันล้านคน
อาลีบาบา ประกาศเป้าหมายเพิ่มผู้ใช้เป็น 1 พันล้านคนต่อปี และคาดการณ์ยอดขายออนไลน์ (GMV) กว่า 10 ล้าน ล้านหยวน ในธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้บริโภคของจีน ภายในปี 2567 ธุรกิจผู้บริโภคเกี่ยวข้องกับตลาดค้าปลีกของจีน สื่อดิจิทัล ธุรกิจบันเทิง และธุรกิจให้บริการท้องถิ่น
แดเนียล จาง ประธานกรรมการและซีอีโอ อาลีบาบากรุ๊ป โฮลดิ้ง พูดกับผู้ฟังกว่า 600 คน ที่งานวันนักลงทุนสัมพันธ์ประจำปีของอาลีบาบาว่า บริษัทยึดมั่นพันธกิจมาตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา คือการทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายจากทุกหนแห่งทั่วโลก สนับสนุนผู้ค้าด้วยข้อมูลด้านเทคโนโลยีและระบบคลาวด์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการบรรลุพันธกิจในยุคดิจิทัล
จางให้ข้อมูลฉบับใหม่เกี่ยวกับหน่วยวชี้วัดทางเศรษฐกิจดิจิทัลของอาลีบาบาในระยะเวลา 1 ปี ทั้งจากในประเทศจีนและทั่วโลก สิ้นสุดเมื่อ 30 มิถุนายน 2562 โดยบริษัทมีกลุ่มผู้บริโภคทั้งสิ้น 730 ล้านคน ในธุรกิจเกี่ยวกับผู้บริโภค เมื่อรวมกับผู้บริโภค 130 ล้านคน จากธุรกิจการค้าแบบไร้พรมแดนและธุรกิจค้าปลีกทั่วโลก ทำให้อาลีบาบามีผู้บริโภคประมาณ 860 ล้านคนทั่วโลก
ในขณะที่อาลีเพย์ มีผู้ใช้ประมาณ 900 ล้านคนทั่วประเทศจีน ธุรกิจอาลีบาบากรุ๊ปและแอนท์ไฟแนนเชียลรวมกัน มีผู้ใช้ประมาณ 960 ล้านคนทั่วประเทศจีน
ร้อยละ 85 ของชาวจีนในพื้นที่พัฒนาแล้วเข้ามาใช้บริการตลาดค้าปลีกของอาลีบาบาส่วนในพื้นที่ที่พัฒนาต่ำกว่าพบผู้ใช้ร้อยละ 40 ทำให้มีโอกาสอีกมากที่จะเข้าถึงผู้บริโภคและช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคเหล่านั้น
แม้ว่าตัวเลขผู้บริโภครวมจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จางชี้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทมองเห็นความต้องการของผู้บริโภคแบบองค์รวมและให้บริการในทุกแพลตฟอร์มของอาลีบาบา
“เราสร้างและเติมเต็มความต้องการด้านการบริโภคใหม่ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนผู้บริโภคดิจิทัลโดยรวม บริษัทสามารถใช้การประสานงานร่วมกันระกว่างธุรกิจผู้บริโภคประเภทต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าในธุรกิจดิจิทัลของอาลีบาบา” จางเสริม
เป้าหมาย 5 ปี สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับบริโภคของจีน เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายระดับโลกในระยะยาว เพิ่มจำนวนผู้ใช้เป็น 2,000 ล้านคน สนับสนุนให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม 10 ล้านรายมีกำไร และสร้างงาน 100 ล้านงาน ภายในปี 2579
เบื้องหลังการเติบโตของอาลีบาบา คือระบบปฏิบัติการ เครื่องมือทางดิจิทัลเต็มรูปแบบที่ผนวกเข้าไปในอีโคซิสเท็มการค้าและเทคโนโลยีคลาวด์อัจฉริยะของอาลีบาบา ซึ่งช่วยให้แบรนด์และบริษัทในเครือเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้น เข้าใจความต้องการและปฏิสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับลูกค้ามากขึ้น
“เรามองว่าเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจมาตลอด ไม่สามารถแยกจากกันได้” นายจางกล่าว “เราเชื่อมั่นในการเชื่อมต่อระหว่างการค้าและเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้เป็นค่านิยมที่แตกต่างที่อาลีบาบายึดถือ”
ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 21,800.00 | 21,900.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,412.00 | 21,405.92 | 22,400.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,270.80 | 19,265.33 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,129.60 | 17,124.74 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 635.00 | 9,626.60 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 494.00 | 7,489.04 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,463.00 | 22,179.08 | n/a |
ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 26/09/2562
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 | 27.95 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 | 27.68 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 24.94 | 24.94 | 24.94 | 24.94 | 24.94 | – | 24.94 | 24.94 | 24.94 | 24.94 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.19 | 20.19 | – | – | – | – | – | 20.19 | – | – |
เบนซิน 95 | 35.36 | – | – | – | 35.81 | – | 35.86 | 35.66 | – | 35.66 |
ดีเซล | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 | 26.39 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 25.39 | 25.39 | – | – | – | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.49 | 15.49 | – | – | – | – | – | – | – | – |