สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 27 กันยายน 2562

เพอร์เฟคลุ้น  รายได้ทั้งปีแตะ 2.5หมื่นล.

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค เชื่อครึ่งปีหลังทำรายได้อีก 15,000 ล้าน ดันรายได้ปี 2562 แตะ 25,000 ล้าน จากการประกอบการ-ขายที่ดิน และเงินลงทุน ไตรมาสสุดท้ายเตรียมเปิดโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรญี่ปุ่น-ฮ่องกงแลนด์

นางสาวศิริรัตน์ วงศ์วัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการเงิน บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 บริษัทจะทำรายได้เติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะ
ทำรายได้รวมอีก 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรกที่มีรายได้รวม 10,000 ล้านบาท ส่งผลให้รายได้ปีนี้จะอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท

“รายได้ในครึ่งปีหลังนี้ นอกจากจะมาจากผลการดำเนินงานที่ดีแล้ว ยังจะมาจากการขายที่ดินและเงินลงทุน อีกด้วย โดยบริษัทจะมีการรับรู้รายได้ทั้งจากโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ เป็นรายได้จากโครงการแนวราบ 6,000 ล้านบาท รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียม 6,000 ล้านบาท ซึ่งรวมคอนโดมิเนียมในประเทศญี่ปุ่น “ยู คิโรโระ” ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม และจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในเดือนธันวาคมนี้เป็นมูลค่า 1,900 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทจะมีรายได้จากการขายที่ดินและเงินลงทุนต่อเนื่องอีกประมาณ 1,000 ล้านบาท และยังมีรายได้จากธุรกิจโรงแรมและอื่นๆ อีก 2,000 ล้านบาท”

ทั้งนี้ ณ สิ้นสุดไตรมาส 2 บริษัทมียอดขายที่สามารถรับรู้รายได้ (Backlog) ในครึ่งปีหลังแล้วจำนวน 4,797 ล้านบาท ทำให้มั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถดำเนินการตามเป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้

จากผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการขายที่ดินและเงินลงทุนตามแผนงานที่วางไว้ จะทำให้บริษัทสามารถลดภาระหนี้ลงได้อย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายที่จะลดหนี้ลง 5,000 ล้านบาท ภายในต้นปี 2563 ซึ่งจะทำให้บริษัทมีอันดับความน่าเชื่อถือหรือเครดิตเรตติ้งเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดอกเบี้ยของหุ้นกู้ที่จะออกใหม่มีแนวโน้มลดลง เป็นประโยชน์ต่อการออกหุ้นกู้ใหม่ๆ ในอนาคต โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายในระหว่างวันที่ 23-25 กันยายนนี้ มูลค่า 2,000 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการชำระคืนหนี้เดิม จึงไม่เป็นการเพิ่มภาระหนี้ให้แก่บริษัทแต่อย่างใด

ด้านแผนพัฒนาโครงการที่พักอาศัยช่วงครึ่งหลังของปี 2562 เตรียมเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับบนที่เป็นการยกระดับมาตรฐานการอยู่อาศัย ภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรต่างประเทศ ในเดือนพฤศจิกายน กับเปิดตัวคฤหาสน์คอลเลกชันใหม่ในระบบโมดูลาร์ ที่มาพร้อมนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บริษัท เซกิซุย เคมิคอล จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เพิ่มเติมในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ สุขุมวิท 77 มูลค่า 962 ล้านบาท และยังจะมีการเปิดตัวโครงการร่วมทุนกับฮ่องกงแลนด์โครงการแรก คือ “เลค เลเจนด์ (Lake Legend) แจ้งวัฒนะ” เป็นบ้านหรูริมทะเลสาบ จำนวน 177 ยูนิต ระดับราคา 19-60 ล้านบาท พื้นที่โครงการ 102 ไร่ มูลค่าโครงการ 5,070 ล้านบาท

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ถอดสูตร​ เจ้าพ่อนิติ หัวใจหลัก​คือ​‘บริการ​’

เมื่อทำเลที่ตั้ง​โครงการ ไม่ใช่ตัวแปรหลักการตัดสินใจซื้อของลูกค้าคอนโดฯยุคปัจจุบันเท่านั้น หากแต่สินทรัพย์มีมูลค่า

ใช้อยู่อาศัยนานอย่างตํ่า​ 30 ​ปี​ ยังขึ้นอยู่กับ​ประสบการณ์บวกบริการที่ได้รับ​ ผ่านการบริหารจัดการความหวัง​ นายจรัญ​ เกษร ฉายา​ “เจ้าพ่อแห่งวงการนิติ” เปิดวิสัยทัศน์​ ฐานะกรรมการผู้จัดการ​ Strategy Property Management (ฝ่ายยุทธศาสตร์บริหารสินทรัพย์) บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์​ จำกัด (มหาชน) ปั้นทีมนิติบุคคล​ ลบภาพร้องเรียน​ชาร์ตความสุข​คนอยู่อาศัยแบบครบสูตรภายใต้แนวคิด ​“สมาร์ท” ขณะการแก้ปัญหาปล่อยเช่ารายวันยอมรับว่ายากสุด​

นิยามอยู่อาศัยเปลี่ยน

หากกล่าวถึงแนวคิดการพัฒนาคอนโดฯในอดีต​ที่ประสบความสำเร็จ​ คงขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้ง​บวกดีไซน์ที่สวยงาม​ แต่ภาวะตลาดปัจจุบันที่การแข่งขันแทบจะไล่ตามกันทุกด้าน​ จำเป็นต้องเปลี่ยนหลักคิด​ พบ 5-8 ปีที่ผ่านมา​ ลูกค้ายุคใหม่ต้องการมีส่วนร่วมมากขึ้น​ ผู้พัฒนาไม่สามารถสร้างและขายแล้วจบ​ แต่มาแข่งขันในมุมบริการหลังการขายด้วย​ ประกอบกับยุคที่ข่าวสารส่งต่อรวดเร็ว​ ปัญหาที่ประสบพบเจอถูกตีข่าววงกว้าง​ ส่งผลผู้พัฒนาหันมาให้ความสนใจเรื่องนี้มากขึ้น​ ผ่านหัวใจหลัก​ การดูแลโดยนิติบุคคล สะท้อนจากดีเวลอปเปอร์หลายราย​ เริ่มปั้นทีมเป็นของตนเองเพื่อให้ง่ายต่อการสานต่อ

“อนาคตนั้น​ มุมมองการอยู่อาศัยจะถูกให้ความสำคัญมากกว่า​ ทำเลดี ดีไซน์เจ๋ง​ หรือ​ ราคาที่เหมาะสม​ คนจะพูดถึงประสบการณ์​ อยู่แล้วสุข​ อยู่แล้วดีอย่างไร​ ทำให้ผู้พัฒนาหันมายกระดับเรื่องนิติบุคคลมากขึ้น

บริหารความหวัง45โครงการ

ปัจจุบัน​ อนันดา​ มีคอนโดฯ​จำน​วน​ 45 โครงการ​ ผ่าน​ 4​ แบรนด์หลัก​ เช่น​ แอชตัน, ไอดีโอ​ เป็นผู้นำคอนโดฯติดรถไฟฟ้า​ มีเทคโนโลยีและดีไซน์สำหรับคนเมือง​ ราคาขายตั้งแต่​ 6​ หมื่น-2.6 แสนบาท/ตร.ม.​ ขณะที่ค่าส่วนกลางตั้งแต่​ 50-120 บาท/ตร.ม.​ ภายใต้การดูแลของทีมนิติบุคคลแตกต่างกันแต่ละระดับราคา​ เช่น​ เดอะ​เวิร์ค​ เจแอลแอล​ และ​แอลพีพี​ (กลุ่มแอลพีเอ็น​)​ แต่ละเดือนมีเรื่องร้องเรียนประมาณ​ 40-50 เรื่อง​ หลักๆ​ คือ​ ปัญหาเกี่ยวกับคน และเจ้าหน้าที่บกพร่อง

“การร้องเรียนไม่ว่ามาจากช่องทางไหน​ ถ้าความหวังส่วนบุคคลถูกตอบสนอง​ ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว​ จะช่วยให้บรรยากาศอยู่อาศัยดีขึ้น​ปัญหาต่างๆก็จะน้อยลง​”

แก้เช่ารายวัน

นายจรัญ​ ยังระบุว่า​ ปัจจุบันลูกค้าจีนในตลาดคอนโดฯเป็นกลุ่มใหญ่มาก​ ลงทุนสูง​ ซื้อเพื่อปล่อยเช่ารายวัน​ ฮอตสุดย่านใจกลางเมือง​ เช่น​ อโศก​ สีลม​ สาทร​ และสามย่าน​ ปริมาณวัดไม่ได้​ แต่มาพร้อมกับความวุ่นวาย แม้ระยะหลังไทยเข้มงวดกับปัญหานี้มากขึ้น​ เมื่อไม่ได้ผลตอบแทนก็ทำให้ลดความสนใจซื้อไปบ้าง​ แต่อย่างไรก็ตาม​ ยังคงเกิดขึ้นในบางโครงการ​ และเป็นปัญหาหนักใจสำหรับนิติบุคคล​ เพราะบริการและซอฟต์แวร์ต่างๆ​ไม่ได้ถูกออกแบบไว้สำหรับการพักอาศัยรายวันเช่นโรงแรม​ ขณะนี้อยู่ระหว่าง​คิดค้นวิธีการดูแลจัดการปัญหาให้เหมาะสมกับทุกฝ่าย​ ซึ่งเบื้องต้นการปล่อยเช่าดังกล่าว​ ยังเป็นเรื่องผิดกฎหมาย​ ลูกบ้านส่วนใหญ่ไม่ยอมรับ​ นิติบุคคลจึงมีหน้าที่สอดส่อง​ ออกระเบียบ​ปฏิบัติตามมติร่วม​ตามลำดับ​ เช่น​ ปรับเป็นเงินหลักหมื่นบาท​ และสุดท้ายหากยังฝ่าฝืน​ จะมีการใช้กฎหมายของบ้านเมืองมาควบคุม

ชูเทคโนฯทันสมัย

จากปัญหาดังกล่าวซึ่งเกี่ยวข้องกับสังคมน่าอยู่​จึงกลายเป็นกลยุทธ์ “Smart​ Strategic Operation” หรือการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์อย่างชาญฉลาด ที่บริษัทจะใช้ผลักดันการทำงานของทีมนิติบุคคลอย่างมืออาชีพ​ เป้าหมายสูงสุด​ คือ​ ลดปัญหาต่างๆ ให้ลดน้อย

ลง​ เน้น​ความปลอดภัย, ความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยเช่น​ ลิฟต์ นํ้า ไฟ​, การยกระดับส่วนกลางต้องไม่กระทบ

ค่าใช้จ่ายลูกบ้าน, ความสุขของผู้อยู่อาศัย​และสังคมดูแลกัน​ นอกจากนี้​ อยู่ระหว่างการทดลองคอมมานด์เซ็นเตอร์​ รวมศูนย์การดูแลซอฟแวร์ต่างๆในทุกโครงการ​เพื่อลดค่าใช้จ่ายและกำลังคน​ด้วย

ทั้งนี้​ ทุกกระบวนการจะมีดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของลูกบ้าน​ ปีละ 2 ครั้ง​ เพื่อนำมาปรับปรุงต่อยอด​ ล่าสุดคะแนนอยู่ระดับ​ 81.7% ขยับขึ้นมา 2% จากครั้งก่อน​ ตั้งเป้าภายในปี​ 2563 จะอยู่ระดับ​ 85% ซึ่งจะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภค​ ส่งต่อปากต่อปาก​ และอาจนำมาซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้น 

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


เงินบาทเปิด30.65 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า

เงินบาทเปิด30.65 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า

เงินบาทเปิดตลาด 30.65 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่า หลังดอลล์แข็ง จับตาเจรจาการค้า-การเมืองสหรัฐฯ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 30.65 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.63/64 บาท/ดอลลาร์

“ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ที่อ่อนค่าจากความกังวล Brexit ขณะที่การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนก็เริ่มมีความคืบหน้าเริ่มที่จะส่งสัญญาณเชิงบวก และน่าจะมีผลต่อมุมมองของเฟดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย”นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.60 – 30.70 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่น่าสนใจและต้องติดตามคือการเมืองสหรัฐฯ หลังมีการเผยแพร่รายงานของผู้แจ้งเบาะแสกล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ขอบคุณข้อมูลจาก posttoday.com

8 สัญญาณ บ่งบอกว่าคุณมีอาการของ โรคซึมเศร้า ที่อาจซ่อนอยู่ในตัวคุณ!!

ซึมเศร้า อาการโรคซึมเศร้า โรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า เป็นโรคที่ใครก็เป็นได้ซึ่งสามารถซ่อนอยู่ภายในตัวคุณ เป็นภาวะผิดปกติทางอารมณ์ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วย เศร้า สิ้นหวัง และอาจถึงขึ้นแกล้งทำเป็นมีความสุข ซึ่งการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวินิจฉัยภาวะซึมเศร้าได้อย่างถูกต้อง คุณสามารถสังเกตเห็นความผิดปกติทางอารมณ์นี้ได้ด้วยตัวเอง ดังนี้

โรคซึมเศร้า

8.ปรัชญาคำคม

ผู้ที่ป่วยจากภาวะซึมเศร้ามักจะพูดเกี่ยวกับปรัชญาในชีวิต โดยใช้คำพูดที่เป็นนามธรรม เช่น “สิ่งต่าง ๆ มักเกิดขึ้นกับฉันเสมอ” แทนที่จะพูดออกมาตรงๆว่า “เมื่อคืนฉันนอนไม่พอ” นักจิตวิทยากล่าวว่ายิ่งความคิดของคุณชัดเจนมากเท่าไหร่โอกาสที่คุณจะมีความสุขยิ่งมากเท่านั้น

ปาร์ตี้

7.หาข้อแก้ตัว

คนที่มีอาการซึมเศร้ามักมีข้อแก้ตัวเพื่อซ่อนความปรารถนาและความเศร้า เช่น พวกเขาจะเขียนเรื่องราวที่น่าประทับใจว่าทำไมเขาถึงไม่ไปร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อน หรือ ทำไมเขาถึงไม่ไปรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งมันเป็นข้อแก้ตัวเพื่อไม่ให้คนอื่นรับรู้ถึงสภาพจิตใจข้างใน

โรคซึมเศร้า

6.ขาดปฏิกิริยาโต้ตอบ

คนที่มีภาวะซึมเศร้ารับรู้ถึงความเป็นจริงรอบตัวในวิธีที่แตกต่างจากคนทั่วไป พวกเขาสามารถเห็นด้วยกับทุกคน ไม่แสดงความคิดเห็นและความปรารถนาในใจ ไม่สนใจกับคำสบประมาท ไม่รู้สึกเจ็บปวดแม้ว่าจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น เมื่อเวลาที่ต้องสูญเสียญาติ

โรคซึมเศร้า

5.อาการเจ็บป่วยทางจิต

เมื่อมีอาการซึมเศร้ามักจะเกิดอาการมือสั่น หายใจลำบาก ปวดหัว ปวดฟันและอาการอื่นๆ ความเจ็บปวดจึงส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลและความตึงเครียด ทำให้ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการเจ็บป่วยทางจิต

ซึมเศร้า

4.พูดย้ำถึงแต่ปัญหาเดิมๆ

ในสภาวะที่ย่ำแย่มักจะหมกมุ่นกับบางสิ่งบางอย่างเพื่อค้นหาคำตอบ แต่ความคิดดังกล่าวไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ในทางตรงกันข้ามพวกเขาสร้างภาพลวงตาในการพยายามหาคำตอบ เป็นเรื่องง่ายที่จะสังเกตเห็นว่าญาติหรือเพื่อนของคุณกำลังป่วยจากภาวะซึมเศร้า คนๆ นั้นจะค่อนข้างครุ่นคิด ใจลอย พูดถึงแต่ปัญหาเดิมๆ และไม่พยายามทำอะไรนอกจากพูด

โรคซึมเศร้า

3.ไม่ดูแลตัวเอง

ด้วยภาวะที่กดดันจึงส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและการดูแลตัวเอง อาจจะเริ่มจากการไม่ปฏิบัติตามกฎสุขอนามัย ไม่ทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อย หากคุณหรือเพื่อนเริ่มมีพฤติกรรมเหล่านี้นั่นอาจเป็นสัญญาณของภาวะอาการซึมเศร้า

ทำงาน

2.ขี้เกียจหรือขยันผิดปกติ

นี่เป็นสัญญาณที่ไม่ดีเอาซะเลย ถ้าหากคุณหรือเพื่อนไม่สามารถรับมือกับงานที่ทำอยู่เป็นประจำ เช่น ลืมข้อมูล เบื่อหน่าย และไม่มีสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้ยังสามารถมีอาการตรงกันข้าม คือจากคนที่ไม่ค่อยอยากทำงานกลายเป็นคนบ้างาน มีตารางเวลาทำงานแน่น นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขากำลังพยายามหนีจากความรู้สึกในใจลึกๆ

โรคซึมเศร้า

1.แกล้งทำเป็นมีความสุข

ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้ามักจะพยายามซ่อนความเศร้าของพวกเขาเอาไว้หลังรอยยิ้ม พวกเขาดูเหมือนเป็นคนที่มีความสุขและไร้ความกังวลใดใด พวกเขาจะพยายามหลีกเลี่ยงบทสนทนาที่จริงจังและหัวเราะให้กับเรื่องยากๆแทน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก health.mthai.com


เยาวชนขนไก่ไทย ลัดฟ้าสู้ศึกชิงแชมป์โลก 2019 ที่รัสเซีย

ทัพเยาวชน “แบดมินตันทีมชาติไทย” พร้อมเดินทางไปสู้ศึกเยาวชนโลก 2019 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย โดยประเภททีมผสมจะแข่งขันในวันที่ 30 ก.ย.-5 ต.ค. และประเภทบุคคลในวันที่ 7-13 ต.ค.นี้

วันที่ 27 ก.ย. 62 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบให้ พลอากาศเอก มณฑล สัชฌุกร ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ เป็นผู้แทน เดินทางไปส่ง และให้พร ให้กำลังใจ พร้อมมอบของที่ระลึกจากนายกสมาคมฯ ให้คณะนักกีฬาแบดมินตันเยาวชนทีมชาติไทย ที่เข้าร่วมแข่งขัน แบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก “บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ จูเนียร์ แชมเปียนชิพส์ 2019” ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย โดยประเภททีมผสมจะแข่งขันในวันที่ 30 ก.ย. – 5 ต.ค. และประเภทบุคคลในวันที่ 7 – 13 ต.ค.นี้

สำหรับนักกีฬาชุดนี้ นักกีฬาชาย ประกอบด้วย กุลวุฒิ วิทิตศานต์, เสฎฐนันท์ ปิยวัชรวิจิตร, วรท อุไรวงค์, ธนดล พันธ์พานิช, สิรวิชญ์ โสทน, ธนวินท์ มาดี และ รัชพล มรรคศศิธร

นักกีฬาหญิง ประกอบด้วย พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ, เบญญาภา เอี่ยมสอาด, อทิตยา โปวานนท์, พรพิชชา เชยกีวงศ์, พรณิชา สุวัฒโนดม, พิชญานิน อังคะ, พิชามญธุ์ พัชรพิสุทธิ์สิน และญาณิสา ชื่นเจริญ

เจ้าหน้าที่ทีม ประกอบด้วย นิติพงษ์ แสงศิลา, ฐิติพงศ์ ลาโพธิ์, อุดม เหลืองเพชราภรณ์, เกษมศักดิ์ จตุจินดา, กิตติพัฒน์ กฤตผล และวรินทร์ธร ท้าวตัน

ส่วนสายการแข่งขันประเภททีม รอบแรก รอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติไทยอยู่กลุ่ม C1 ร่วมกับ เบลารุส และลัตเวีย ขณะที่กลุ่ม C2 มี สวิตเซอร์แลนด์, มองโกเลีย และเอสโตเนีย ซึ่งทีมไทย ต้องเป็นแชมป์กลุ่ม เท่านั้น เพี่อผ่านเข้าสู่รอบแปดทีมสุดท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th


มธ.แนะ 5 แนวทางกำกับดูแล Ride-hailing

ศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาผู้บริหารทางธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (CONC Thammasat) เผยผลการศึกษาและวิจัยเชิงวิชาการภายใต้หัวข้อ “อุตสาหกรรมการให้บริการยานพาหนะผ่านทางแอพพลิเคชัน (Ride-hailing service): บทบาทในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยและความจำเป็นในการพัฒนาหลักเกณฑ์และกฎหมายให้ตอบโจทย์การพัฒนาที่ยั่งยืน” เพื่อใช้ต่อยอดและสนับสนุนการยกระดับมาตรฐานให้กับอุตสาหกรรม Ride-hailing ทั้งในด้านคมนาคมขนส่ง ความปลอดภัย การพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ตลอดจนการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี พร้อมนำเสนอ 5 แนวทางหลักที่ภาครัฐควรนำมาพิจารณาในการกำกับดูแลบริการ Ride-hailing โดยมุ่งเน้นการสร้างประโยชน์สูงสุดกับทุกภาคส่วน ทั้งผู้โดยสาร ผู้ขับ ผู้ให้บริการแอพพลิเคชัน ภาครัฐ ตลอดจนสังคมโดยรวม ควบคู่ไปกับส่งเสริมการพัฒนาประเทศในยุคดิจิทัลอย่างยั่งยืน

ดร. สุทธิกร กิ่งแก้ว ในฐานะหัวหน้าโครงการศึกษาและวิจัยฯ กล่าวว่า “ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการให้บริการยานพาหนะผ่านทางแอพพลิเคชันหรือ Ride-hailing ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตและการเดินทางของคนในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ด้วยความง่ายและสะดวกในการใช้บริการ ประกอบกับปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆ ทั้งการเข้าถึงสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ต การเติบโตของสังคมเมือง (Urbanization) การพัฒนาทางเทคโนโลยีและดิจิทัล รวมถึงรูปแบบการใช้ขีวิตของคนยุคใหม่ที่เน้นความคล่องตัวมากขึ้น ส่งผลให้บริการ Ride-hailing ซึ่งเป็นตัวกลางจับคู่ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสารผ่านแอพพลิเคชัน ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคนที่อาศัยอยู่ในสังคมเมือง ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 34.5 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของคนไทยทั้งประเทศ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 73 ในอีก 30 ปีข้างหน้า”

ปัจจุบัน อุตสาหกรรม Ride-hailing ในประเทศไทยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 21,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของ GDP ภาคขนส่งโดยสารทางบกไทย ทั้งนี้ จากความนิยมของผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่คาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมนี้จะมีการเติบโตสูงขึ้นจนมีมูลค่าถึง 1.2 แสนล้านบาทในปี พ.ศ. 2568 หรือคิดเป็นร้อยละ 20 – 25 ของ GDP ภาคขนส่งโดยสารทางบกไทยในอีก 6 ปีข้างหน้า โดยมีผู้โดยสารใช้บริการ Ride-hailing ในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2561 ประมาณ 2.4 ล้านคนต่อเดือน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 11 ล้านคนต่อเดือนในปี พ.ศ. 2568 ในขณะที่มีผู้ขับขี่รถยนต์โดยสารเพื่อให้บริการ Ride-hailing ในปี พ.ศ. 2561 ประมาณ 105,000 คนต่อเดือน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 590,000 คนต่อเดือนในปี พ.ศ. 2568

ดร. สุทธิกร กล่าวเสริมว่า “แม้ว่าอุตสาหกรรม Ride-hailing จะได้รับการยอมรับจากภาคประชาชนและกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญในการเดินทางให้กับคนไทยควบคู่ไปกับแท็กซี่ในระบบดั้งเดิม แต่ธุรกิจดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของภาครัฐในการกำหนดขอบเขต หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถนำมาให้บริการเป็นรถสาธารณะผ่านแอพพลิเคชันได้อย่างถูกต้อง โดยปัจจุบัน ประเทศไทยเป็น 1 ในสามประเทศสุดท้ายในภูมิภาคอาเซียนที่ยังไม่มีกฎหมายรองรับการให้บริการ Ride-hailing ทั้งนี้ จากผลการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับบริการ Ride-hailing เมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่า 95% ของผู้บริโภคเห็นด้วยกับการทำให้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชันอย่าง Grab หรือ Uber ถูกกฎหมาย และ 77.24% ของคนไทยเห็นว่าจำเป็นต้องแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน”

จากผลการศึกษาและวิจัยของ CONC Thammasat พบว่า การพัฒนาและผลักดันให้อุตสาหกรรม Ride-hailing สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างถูกกฎหมายนั้นจะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับหลายภาคส่วน และส่งผลต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น

•             ผู้โดยสาร: Ride-hailing ทำให้การเดินทางในชีวิตประจำวันมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานด้านความปลอดภัย และสามารถเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งในรูปแบบอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

o            92% ของผู้โดยสารเห็นว่า บริการ Ride-hailing มีความปลอดภัยกว่าทางเลือกอื่นๆ

o            95% ของผู้โดยสารเห็นว่า บริการ Ride-hailing ช่วยเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น

o            77% ของผู้โดยสารระบุว่า การใช้บริการ Ride-hailing มีความสะดวกและช่วยประหยัดเวลาในการเรียกรถ

o            86% ของผู้โดยสารระบุว่า บริการ Ride-hailing มีส่วนช่วยให้มีเวลาเพิ่มขึ้นในการทำงาน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ระหว่างการเดินทาง

•             ผู้ขับขี่ที่ให้บริการ: Ride-hailing เป็นช่องทางในการประกอบอาชีพ ที่ช่วยสร้างรายได้และลดภาระหนี้สิน

o            60% ของคนที่นำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการ Ride-hailing เป็นผู้ที่ไม่ได้ประกอบอาชีพอื่นว่างงาน หรือบุคคลที่เกษียณอายุแล้ว ซึ่งช่วยสร้างงานและรายได้ให้กับพวกเขา

o            99% ของผู้ขับที่เป็นแท็กซี่ระบุว่า แอพพลิเคชันเรียกรถเพื่อให้บริการ Ride-hailing ช่วยทำให้มีผู้โดยสารและมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

o            94% ของผู้ขับระบุว่า รายได้ที่เกิดขึ้นจากการให้บริการผ่านแอพพลิเคชันช่วยลดภาระหนี้สินได้

•             ภาคสังคม:  Ride-hailing ได้เข้ามาช่วยยกระดับระบบคมนาคมขนส่งของไทย โดยเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้กับประชาชน พร้อมช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยโดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

•             ภาคเศรษฐกิจ: Ride-hailing ช่วยสร้างประโยชน์ส่วนเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจ ทั้งรายได้โดยตรงที่เกิดขึ้นจากการให้บริการ และรายได้ทางอ้อมที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง โดยรายได้เหล่านี้ได้กระจายไปสู่อุตสาหกรรมหลักต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวม

•             ภาคการท่องเที่ยว: Ride-hailing มีส่วนช่วยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกสำคัญที่ช่วยรองรับการให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่นักท่องเที่ยวแบบกลุ่มเล็กหรือมีการท่องเที่ยวแบบอิสระ (Free Individual Traveler) มีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 75 ในขณะที่นักท่องเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่เหลือเพียงร้อยละ 25 เท่านั้น นอกจากนี้ ยังช่วยลดอุปสรรคด้านภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวด้วยเทคโนโลยีแปลภาษาผ่านแอพพลิเคชัน และปัญหาด้านค่าโดยสารที่ไม่เป็นธรรมด้วยการแจ้งราคาล่วงหน้าก่อนการเดินทาง

นอกจากนี้ CONC Thammasat ยังได้นำเสนอแนวทางในการกำหนดมาตรฐานการกำกับดูแลบริการ Ride-hailing ในประเทศไทยซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรใช้ในการพิจารณา โดยการรับฟังความคิดเห็นและมุมมองจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ ทั้งผู้โดยสาร ผู้ขับขี่ที่ให้บริการ Ride-hailing ผู้ขับแท็กซี่ในระบบดั้งเดิม ผู้ให้บริการแอพพลิเคชัน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักวิชาการ ซึ่งครอบคลุม 5 ประเด็นหลัก อันได้แก่

  1.            มาตรฐานด้านความปลอดภัยของแพลตฟอร์มที่ให้บริการ

o            มีเทคโนโลยีที่รองรับด้านความปลอดภัย เช่น ระบบ GPS เพื่อติดตามตำแหน่งและสถานะของการเดินทางแบบเรียลไทม์ หรือมีปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉิน เป็นต้น

o            มีระบบตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ขับ เช่น ระบบ Biometrics

o            มีศูนย์บริการให้ความช่วยเหลือและรับเรื่องร้องเรียนตลอด 24 ชั่วโมง

o            มีประกันคุ้มครองให้กับทั้งผู้ขับและผู้โดยสารในทุกเที่ยวการเดินทาง

  1.            มาตรฐานผู้ขับขี่และรถยนต์

o            ผู้ขับต้องผ่านการคัดกรองและตรวจสอบประวัติอาชญากรรมก่อนให้บริการ

o            ผู้ขับต้องได้รับการอบรมในด้านความปลอดภัย

o            การกำหนดมาตรฐานของรถยนต์ควรอิงด้านความปลอดภัยของตัวรถ และเปิดโอกาสให้ประชาชนนำทรัพย์สินที่มีอยู่มาสร้างรายได้

  1.            มาตรฐานการให้บริการและเทคโนโลยี

o            มีศักยภาพในการให้บริการอย่างครอบคลุมและฐานผู้ขับที่เพียงพอกับความต้องการ

o            เทคโนโลยีที่นำมาใช้ต้องมีเสถียรภาพและสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ

o            มีระบบแปลภาษาที่ช่วยสื่อสารกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

o            สามารถชำระค่าบริการได้หลายรูปแบบ ทั้งเงินสดและธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

  1.            มาตรฐานด้านราคา

o            ควรให้มีการคำนวณราคาค่าบริการตามกลไกตลาด หรือ Dynamic Pricing ที่สะท้อนปริมาณความต้องการและจำนวนรถที่ให้บริการ (Demand-Supply) ณ เวลานั้นๆ

o            ต้องมีการแจ้งราคาค่าบริการให้ผู้โดยสารทราบล่วงหน้าก่อนการเดินทาง

o            ควรกำหนดราคาโดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างความต้องการของทั้งผู้โดยสารและผู้ขับขี่

โดยเป็นราคาที่ผู้ขับสามารถสร้างรายได้ ในขณะเดียวกันผู้โดยสารก็ต้องยอมรับได้

  1.            มาตรฐานของบริษัทผู้ให้บริการแพลตฟอร์มหรือผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน

o            ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนเพื่อดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องในประเทศไทย

o            ควรมีผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่เป็นคนไทยหรือบริษัทไทย

o            มีการเสียภาษีให้กับประเทศ

o            มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอที่จะรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต

“Ride-hailing ถือเป็นทางเลือกสำคัญที่ช่วยสร้างประโยชน์ต่อระบบคมนาคมขนส่งทั้งระบบ เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการเดินทางให้กับคนไทย แต่ยังรวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวซึ่งนำรายได้มหาศาลมาสู่ประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ ข้อมูลดิจิทัลที่ถูกบันทึกจากแอพพลิเคชันยังสามารถนำมาช่วยในการต่อยอดและพัฒนาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การท่องเที่ยว การวางแผนแก้ไขปัญหาการจราจร หรือการวางผังเมืองในอนาคต ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า Ride-hailing ได้กลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานของระบบคมนาคมขนส่งที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมและขับเคลื่อนประเทศไทยในโลกยุคดิจิทัล” ดร. สุทธิกร กล่าวทิ้งท้าย

ขอบคุณข้อมูลจาก thansettakij.com


ชนิดทอง ราคารับซื้อ กรัมละ ราคารับซื้อ บาทละ ราคาขาย บาทละ
ทองคำแท่ง 96.5% n/a 21,750.00 21,850.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,409.00 21,360.44 22,350.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,268.10 19,224.40 n/a
ทองรูปพรรณ 80% 1,127.20 17,088.35 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 634.00 9,611.44 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 493.00 7,473.88 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,460.00 22,133.60 n/a

ราคาน้ำมัน ประจำวัน ราคาน้ำมันประจำวันที่ 27/09/2562

ราคาน้ํามันปตท
ปตท.
ราคาน้ํามันบางจาก
บางจาก
ราคาน้ํามันเชล์ Shell
เชลล์
ราคาน้ํามันเอสโซ่ Esso
เอสโซ่
ราคาน้ํามันคาลเท็กซ์ caltex
คาลเท็กซ์
ราคาน้ํามันไออาร์พีซี irpc
ไออาร์พีซี
ราคาน้ํามันพีที PT
พีที
ราคาน้ํามันซัสโก้ susco
ซัสโก้
ราคาน้ํามันเพียว PURE
เพียว
ราคาน้ํามันซัสโก้
ซัสโก้ดีลเลอร์
แก๊สโซฮอล์ 95 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55 27.55
แก๊สโซฮอล์ 91 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28 27.28
แก๊สโซฮอล์ E20 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54 24.54
แก๊สโซฮอล์ E85 19.99 19.99 19.99
เบนซิน 95 34.96 35.41 35.46 35.26 35.26
ดีเซล 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99 25.99
ดีเซลพรีเมี่ยม 24.99 24.99
แก๊ส NGV 15.49 15.49
Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า