ธนารักษ์เซ็ง พรบ.ประเมิน วืด
ชงเข้าสภาไม่ทันเหตุกม.ภาษีที่ดินถ่วง
ธนารักษ์เซ็งร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอืดฉุดกฎหมายประเมินที่ดินใหม่แท้งตาม คาดไม่ทันชง สนช. ปิดรับกฎหมาย พ.ย. นี้ เผยรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญให้ดันแก้กฎหมายที่ราชพัสดุก่อน เหตุล้อกับร่าง พ.ร.บ.PPP ที่มีผลต่อการลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานขนาดใหญ่ พร้อมเดินหน้าประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ภายใต้กลไกเดิมก่อนประกาศราคา 1 ม.ค. 63
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ ที่ทางกรมธนารักษ์เสนอผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปแล้วนั้น อาจจะไม่ทันพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่จะปิดรับร่างกฎหมายในเดือน พ.ย.นี้ และนั่นหมายความว่า ร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะมีอันต้องตกไป และต้องรอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามายืนยันว่าจะยังเสนออีกหรือไม่ต่อไป
“พอกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่ง ปลูกสร้างล่าช้าไป ทำให้ร่าง พ.ร.บ.การประเมินมูลค่าทรัพย์สินฯถูกมองว่า ไม่ต้องรีบเร่งไปด้วย ซึ่งในส่วนกฎหมายของทางกรมธนารักษ์ได้จัดลำดับความสำคัญว่า จะผลักดันในส่วนร่าง พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุก่อน เพราะเกี่ยวโยงกับร่าง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ที่รัฐบาลต้องการผลักดันให้ผ่าน เนื่องจากมีผลกระทบต่อโครงการลงทุน”
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.การประเมินมูลค่าทรัพย์สินฯ เป็นกฎหมายที่จะรองรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมีเนื้อหาสาระที่สำคัญ อาทิ การปรับปรุงคณะกรรมการประเมินราคาใหม่ โดยปรับจากปัจจุบันที่คณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ จะมี ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เป็นคณะกรรมการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน
รวมถึงกำหนดอำนาจหน้าที่ คณะกรรมการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ในการกำหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ วีธีการ แนวทางในการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน ต่างไปจากคณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มีอำนาจหน้าที่ในการเห็นชอบการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ ที่ คณะกรรมการประจำจังหวัดเสนอ เพื่อใช้ในการเรียกเก็บภาษีค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
นอกจากนี้ ร่าง พ.ร.บ.การประเมินมูลค่าทรัพย์สินฯ ยังให้อำนาจคณะกรรมการประเมินมูลค่าทรัพย์สินประจำจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สามารถประกาศใช้ราคาประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่เป็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในเขตจังหวัดตัวเองได้เลย จากเดิมแต่ละจังหวัดต้องเสนอให้คณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์เห็นชอบ จากนั้นจึงจะประกาศใช้บัญชีกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์
“ร่างกฎหมายที่เสนอนี้ถือเป็นการกระจายอำนาจการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน จากส่วนกลางไปสู่ระดับจังหวัดด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น อย่างเช่น ในกรณีที่ในบางจังหวัดมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ ทำให้มูลค่าที่ดินเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นมาก ก็จะประกาศราคาประเมินใหม่ได้ทันที”
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า หากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน กรมธนารักษ์จะสามารถดำเนินการประเมินมูลค่าทรัพย์สินเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ ตามที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ร้องขอให้ดำเนินการได้ด้วย จากเดิมที่การประเมินตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่ได้ครอบคลุมถึงหน้าที่นี้แต่อย่างใด เพราะเน้นไปที่การจดทะเบียน สิทธิและนิติกรรมเป็นหลัก
นายปรีชา มงคลหัตถี ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าร่าง พ.ร.บ.การประเมินมูลค่าทรัพย์สินฯ อาจจะเสนอ สนช.ไม่ทัน เนื่องจากปัจจุบันยังอยู่ในขั้นการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ส่วนร่าง พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ น่าจะเสนอ สนช.ทัน ไม่น่ามีปัญหา
นางสาววิลาวัลย์ วีระกุล ผู้อำนวยการสำนักประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ กล่าวว่า เนื่องจากกรมธนารักษ์จะประกาศราคาประเมินที่ดิน ทั่วประเทศรอบใหม่ ในวันที่ 1 ม.ค. 2563 เนื่องจากอธิบดีกรมธนารักษ์คนปัจจุบันมีนโยบายให้ประกาศราคาประเมินเป็นทุก ๆ 2 ปี จากเดิมที่ทุก ๆ 4 ปี เพื่อให้ราคาประเมินสะท้อนภาวะปัจจุบันมากขึ้น ดังนั้น ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 เป็นต้นไป กรมธนารักษ์จะให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่เริ่มเก็บข้อมูล
อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีที่ร่าง พ.ร.บ.การประเมินมูลค่าทรัพย์สินฯไม่ผ่านนั้น ทางกรมธนารักษ์ก็คงต้องดำเนินการประเมินราคาที่ดินเหมือนเดิม ที่เป็นกระบวนการภายใต้กฎหมายที่ดิน
“การประเมินราคาที่ดินรอบใหม่ เราจะเอาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมาวาง แล้วดูว่าราคาเปลี่ยนแปลงไป แค่ไหน อย่างพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถ้าเป็นตามแนวมอเตอร์เวย์ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ปิด ราคาก็จะเปลี่ยนแปลงเฉพาะตรงบริเวณจุดตัด หรือทางออก ก็จะดูตรงนั้น ส่วนจุดที่ผ่านที่นาประชาชน ไม่ได้มีทางออก ก็คงยืนราคาไว้เท่าเดิมก่อน” นางสาววิลาวัลย์กล่าว
ขอบคุณที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ
กนอ.จับมือ วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้ ทุ่มงบ 3.7 พันล้าน ผุด “นิคมฯแพรกษา”
กนอ.จับมือ วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้ ทุ่มงบ 3.7 พันล้าน ผุด ‘นิคมฯแพรกษา’ รองรับอุตสาหกรรมเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตร อุตสาหกรรมเบา ผลิตภัณฑ์โลหะ ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติกและกระดาษ
ผุดนิคมฯแพรกษา– นางสุวัฒนา กมลวัทนนิศา รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) สายงานยุทธศาสตร์และการพัฒนา เปิดเผยว่า กนอ. ร่วมกับบริษัท วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในลักษณะร่วมดำเนินงานภายใต้ชื่อ “นิคมอุตสาหกรรมแพรกษา” ในตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ บนเนื้อที่ 649-1-95.39 ไร่ ภายใต้การลงทุน 3,700 ล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่รองรับการขยายตัวของการลงทุนและประกอบอุตสาหกรรมเกษตรกรรมและผลิตผลการเกษตร อุตสาหกรรมเบา ผลิตภัณฑ์โลหะ ชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ พลาสติกและกระดาษ รวมทั้งบริการและสาธารณูปโภคให้มีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ มีดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จภายใน 2 ปี หลังจากรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2564 ทำให้เกิดการขยายตัวทางอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ และสามารถเชื่อมโยงโลจิสติกส์เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้
“โครงการดังกล่าวมีพื้นที่ที่ก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 483 ไร่ พื้นที่ระบบสาธารณธูปโภคประมาณ 100 ไร่ และพื้นที่สีเขียวประมาณ 66 ไร่ สำหรับการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ได้ใช้ระบบรีไซเคิล เพื่อลดอัตราการปล่อยน้ำออกนอกพื้นที่โครงการ นอกจากนี้ ศักยภาพโครงการมีข้อได้เปรียบทางโลจิสติกส์ อยู่ห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 25 กิโลเมตร ห่างจากท่าอากาศยานดอนเมือง 55 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังประมาณ 100 กิโลเมตร สอดคล้องกับศักยภาพของผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมในด้านการขนส่งและการขยายธุรกิจอุตสาหกรรมจากผู้ประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู นิคมฯบางพลี นิคมฯเวลโกรว์ และนิคมฯทีเอฟดี”
นอกจากนี้ ยังจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อจังหวัดในฐานะที่เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกที่สำคัญของประเทศ เช่น อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นด้านการจ้างงาน การลงทุน การขยายตัวของธุรกิจ
ด้านนายขจร เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ในนามของบริษัท วีเอ็นเอส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีความยินดีและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในการจัดตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมแพรกษา ซึ่งจะเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ของนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดสมุทรปราการ ด้วยการบริหารและการจัดการที่ยึดหลักการอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มุ่งสร้างความสมดุลของการพัฒนาอย่างยั่งยืน
โครงการนี้มีจุดเด่น คือ ตั้งอยู่ศูนย์กลางของระบบคมนาคมขนส่งทุกประเภท สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ได้แก่ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแพรกษาเพียง 5 กิโลเมตร ห่างจากท่าเรือกรุงเทพราว 22 กิโลเมตร และห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิราว 25 กิโลเมตร และมีความพร้อมด้านแรงงานรองรับ โดยในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ มีจำนวนแรงงานไทย 1.35 ล้านคน และจำนวนแรงงานต่างด้าว 135,000 คน เชื่อว่าจะช่วยสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศ ทั้งด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม การนำเงินตราเข้าสู่ประเทศจากการลงทุนของต่างชาติ ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
ขอบคุณที่มา terrabkk.com
22 สินค้าไทย เฮลั่น! เสียบมะกันแทนจีน
สรท. เปิดโผสินค้า 7 กลุ่ม รวมกว่า 22 รายการ ได้อานิสงส์เพิ่ม หลังสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ขึ้นภาษีตอบโต้รอบใหม่ ขณะที่ 4 รายการ เสียโอกาสส่งออกไปจีน หลังศักยภาพด้อยกว่าคู่แข่ง จับตา 3 สินค้าไทยไปจีน ยอด 8 เดือนวูบ เทรดวอร์ทุบทางอ้อม … ทูตพาณิชย์สุมหัวเจาะตลาดใหม่ ต.ค. นี้
จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศเตรียมขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ครอบคลุมสินค้าอุปโภค-บริโภคล็อตใหญ่ 5,745 รายการ มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในอัตราภาษี 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย. 2561 ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2562 ขณะที่ จีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ 5,207 รายการ ในอัตรา 5-25% คิดเป็นมูลค่ารวม 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น
วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือ สภาผู้ส่งออก เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากการคาดการณ์สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ในรอบแรกที่ขึ้นภาษีตอบโต้กันไปแล้ว มูลค่าฝ่ายละ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการขึ้นภาษีตอบโต้กันในรอบใหม่นี้ สรท. คาดการณ์สินค้าไทยที่จะได้รับอานิสงส์ส่งออกไปสหรัฐฯ ทดแทนสินค้าจีนเพิ่ม จะยังอยู่ในกลุ่มเดิมเป็นส่วนใหญ่ ตามที่รับเสียงสะท้อนจากสมาชิกใน 7 กลุ่มสินค้า รวมกว่า 22 รายการ
ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ถั่วแห้ง แผ่นยางสดรมควัน ข้าวสี ยางแท่ง , กลุ่มผัก ผลไม้ สด-แช่เย็น-แช่แข็ง และแปรรูป เช่น กล้วย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว ฝรั่ง มะม่วง มังคุด มะละกอ สับปะรด เป็นต้น , กลุ่มอาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป เช่น ปลาทูน่าบิ๊กอาย ปลาทูน่าท้องแถบ ปลาทูน่าครีบเหลือง สดและแช่แข็ง เนื้อปลาแช่แข็ง , กลุ่มผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น น้ำผึ้งธรรมชาติ , กลุ่มอาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่ม เช่น อาหารสุนัข-แมว เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ไม่ใช่น้ำผลไม้ , กลุ่มเคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติก เช่น กรดซิตริก , กลุ่มยานยนต์และส่วนประกอบ เช่น เครื่องยนต์สันดาปภายในและยางรถยนต์ เป็นต้น
“ล่าสุด มีเสียงจากสมาชิก สรท. ในกลุ่มสินค้าเกษตร และผัก-ผลไม้แปรรูป ว่า ได้รับการติดต่อจากผู้นำเข้าสหรัฐฯ ให้นำเสนอราคาสินค้า เพื่อนำเข้าไปทดแทนสินค้าจีนที่จะถูกปรับขึ้นภาษี ทั้งนี้ สินค้าไทยในกลุ่มดังกล่าวที่ผ่านมาหลายรายการ สหรัฐฯ นำเข้าจากจีนจากราคาถูกกว่าไทย 10-25% เนื่องจากรัฐบาลจีนให้การอุดหนุนการส่งออก แต่เมื่อสินค้าจีนถูกปรับขึ้นภาษีและแพงขึ้นอีก 10-25% ทำให้สินค้าไทยมีโอกาสส่งออกไปสหรัฐฯ ได้เพิ่ม จากราคาจะใกล้เคียงกัน แต่สินค้าหมวดเกษตรและอาหารของไทยได้รับความเชื่อถือด้านคุณภาพมากกว่า”
ขณะเดียวกัน มีสินค้าไทยจะได้รับประโยชน์จากการส่งออกไปตลาดจีนแทนสินค้าจากสหรัฐฯ ในครั้งนี้ ได้แก่ ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป ข้าวโพด และข้าวสาลี ส่วนสินค้าไทยที่จะเสียประโยชน์การส่งออกไปจีนแทนสินค้าสหรัฐฯ เนื่องจากมีคู่แข่งขันมาก และผลิตได้ต้นทุนต่ำกว่าไทย ได้แก่ เนื้อสัตว์ ถั่วเหลือง ฝ้าย เครื่องบินและชิ้นส่วนอุปกรณ์ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบภาพรวมการส่งออกของไทยไปจีนช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ มีการส่งออกมูลค่า 20,071 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.2% อย่างไรก็ดี จากข้อมูลพบมีหลายสินค้าในกลุ่มวัตถุดิบที่ไทยส่งออกไปจีน เพื่อผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปแล้วส่งออกต่อไปตลาดสหรัฐฯ หรือ ตลาดอื่นที่มีมูลค่าลดลง อาทิ ยางพารา (-32%) ชิ้นส่วนรถยนต์ (-4%) แผงวงจรไฟฟ้า (-6%) เป็นต้น
ทั้งนี้ แหล่งข่าวจากผู้ส่งออก ระบุ การส่งออกสินค้าวัตถุดิบไปจีนที่ลดลงในกลุ่มดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสงครามการค้า ทำให้สินค้าหลายรายการของจีนส่งออกไปสหรัฐฯ ได้ลดลง จึงมีการนำเข้าวัตถุดิบลดลงตามไปด้วย แต่ภาพรวมไม่กระทบมาก เพราะไทยได้ตลาดอื่นมาช่วย
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ ไทยส่งออกแล้วมูลค่า 1.69 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยการส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ ขยายตัวที่ 5.5% และจีนขยายตัว 6.3% ในส่วนของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยบางรายการในช่วงที่ผ่านมา โดยตลาดสหรัฐฯ ในสินค้าเหล็ก อะลูมิเนียม และแผงโซลาร์เซลล์ ส่วนไปจีน ได้แก่ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งในเดือน ต.ค. นี้ จะมีการประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกจะได้มีการหารือกันถึงสถานการณ์ส่งออก รวมถึงหาตลาดใหม่ ๆ เพื่อทดแทนตลาดเดิม เฉพาะอย่างยิ่งตลาดเอเชียและอาเซียน ที่ยังขยายตัวได้ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thansettakij.com
ข้อควรศึกษา! ก่อนจะซื้อรถพลังงานไฟฟ้า
ยุคนี้สมัยนี้ใครไม่รู้จักรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าแทนน้ำมัน อาจจะค่อนข้างเชยเสียหน่อย เนื่องจากหลากหลายประเทศเริ่มมีนโยบายให้ช่วยกันประหยัดทรัพยากรธรรมชาติกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมัน และนั่นจึงเป็นที่มาของ “รถไฟฟ้า” นั่นเองค่ะ ว่าแต่เจ้ารถไฟฟ้าที่ว่านี้คืออะไร แล้วแตกต่างจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้างนั้น เราไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
รถไฟฟ้า คืออะไร?
รถไฟฟ้า หรือ รถพลังงานไฟฟ้า เรียกอีกอย่างว่า Electric car คือรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าโดยการใช้พลังงานไฟฟ้าซึ่งเก็บสะสมอยู่ในแบตเตอรี่ของรถยนต์ หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าแบบอื่น ๆ จริง ๆ แล้วรถไฟฟ้าไม่ได้เพิ่งมีนะคะ มีมานานมากแล้ว แต่เริ่มมีการพัฒนาเรื่อยมาจนเป็นที่รู้จักและวางขายตามท้องตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างประเทศ และเร็ว ๆ นี้เราก็อาจจะพบเห็นรถไฟฟ้าที่บ้านเราด้วยก็ได้ค่ะ
ข้อดีของการใช้รถไฟฟ้า
แน่นอนค่ะข้อดีของการใช้รถพลังงานไฟฟ้านั่นก็คือ
– ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ
– ช่วยลดมลภาวะที่เกิดขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
– ประหยัดค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อน้ำมันได้อีกด้วย
ข้อเสียของการใช้รถไฟฟ้า
ไม่ใช่ว่าใช้แล้วจะมีแต่ข้อดีนะคะ ข้อเสียก็มีด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น
– ราคาแพง
– มีตัวเลือกไม่มากนัก
– ระยะทางในการวิ่งมีขีดจำกัด
– ใช้ระยะเวลาในการชาร์จนาน
– สถานีในการชาร์จพลังงานมีไม่มากพอ
ความปลอดภัยของรถพลังงานไฟฟ้า
สำหรับด้านความปลอดภัย ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เพราะรถพลังงานไฟฟ้ามีระบบดูแลเป็นอย่างดี แต่อาจจะลำบากหน่อยหากมีจุดไหนของรถเกิดมีปัญหา ระบบความปลอดภัยก็จะสั่งงานให้รถยนต์หยุดทำงานทันที และจำเป็นที่จะต้องเรียกผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านของทางบริษัทมาดูแลเท่านั้น
มีแบรนด์ไหนขายบ้าง?
หากใครสงสัยว่ามีรถยี่ห้อใดบ้างละก็ ทีมงานก็ได้เตรียมข้อมูลมาให้ดังนี้ค่ะ เริ่มจากรถที่มีราคาสูงกันก่อนอย่าง Tesla Model S ที่มีราคาสูงมากถึง 2.4 ล้านบาท บอกเลยว่าราคานี้ยังไม่รวมภาษีนำเข้าถ้าหากนำมาขายในประเทศไทยนะคะ
ส่วนรถไฟฟ้าที่มีราคาถูกลงมาหน่อย ดูแล้วสามารถจับต้องได้นั่นคือ Nissan Leaf ซึ่งในต่างประเทศแถบทวีปยุโรปเริ่มมีการใช้กันให้เห็นแล้ว ส่วนราคาเริ่มต้นในต่างประเทศอย่างประเทศสหรัฐอเมริกานั้นก็อยู่ที่ 1 ล้านบาทเลยทีเดียว แล้วถ้าหากนำเข้ามาขายในประเทศไทยบ้านเรา ราคาจะสูงหรือไม่นั้น งานนี้คงต้องรอติดตามดูกันค่ะ
หากใครสนใจขายรถคันเก่าเพื่อเปลี่ยนไปใช้รถพลังงานไฟฟ้า สามารถมาขายรถมือสองง่ายๆ ภายใน 24 ชั่วโมง ประเมินฟรี เชื่อถือได้ รับซื้อรถทุกรุ่น ที่ Carsome เลย! เรายินดีให้บริการทุกระดับประทับใจแน่นอน หากต้องการขายรถให้นึกถึง Carsome นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก .moneyguru.co.th
11 สุดยอด ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ในกรุงเทพฯ ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพลาด!
วัยเด็กอยู่ในช่วงอยากรู้อยากเห็น ถือเป็นโอกาสอันดีที่คุณพ่อคุณแม่จะ พาลูกเที่ยว ไปเปิดหูเปิดตา เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ๆ นอกบ้าน ซึ่งบอกว่าเลยบางทีเด็กๆ อาจจะได้รับประสบการณ์ดีๆ ได้มากกว่าที่คุณพ่อคุณแม่คิดอีกนะ และวันนี้ มัชรูมทราเวล ก็ได้รวมรวบ 11 ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ในกรุงเทพฯมาให้แล้ว ไม่รอช้าเลยค่ะ เตรียมวางแผนพาครอบครัวไปเที่ยววันหยุดสุดสัปดาห์กัน!
1.The Marvel Experience – เมกา บางนา
ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ที่ปักหมุดแนะนำ เตรียมตัวไปพบกับสุดยอดค่ายภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ระดับโลก เดินทางมาเปิดจินตนาการอันยิ่งใหญ่ถึงเมืองไทยแล้ว กับ “The Marvel Experience Thailand”จากการที่บริษัท ฮีโร่ เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด ได้ซื้อลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องมาจากบริษัท Hero Ventures ผู้ซึ่งเป็นต้นแบบการสร้างสวนสนุกในลักษณะ Theme Experience Attraction ให้คุณได้สวมบทบาทเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ที่ชื่นชอบในหน่วยปฏิบัติการลับ S.H.I.E.L.D. สนุกกับกิจกรรมด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ไม่ว่าจะเป็น 360 Degree 3-D Stereoscopic Theater, 4D Motion Ride รวมถึง Digital Hyper-Reality Interactive Games ซึ่งการแสดงทั้งหมดจะได้รับการยกระดับเป็นเวอร์ชั่น 3.0 (มากกว่าอเมริกาที่ใช้ระดับ 1.0)
บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ในบริเวณศูนย์การค้า เมกา บางนา จะถูกเนรมิตเป็นโซนกิจกรรม ทั้งโซนจำหน่ายตั๋ว, โซนสำหรับเด็ก, โซนอาหารและเครื่องดื่ม, โซนจำหน่ายสินค้าที่ระลึก และโซน Marvel Experience ให้ทุกคนได้เป็นฮีโร่ที่เคยใฝ่ฝัน ไม่ว่าจะเป็น Iron Man, Captain America, Hulk, Spider-Man, Thor เป็นต้น ใครเป็นแฟนมาร์เวล เตรียมความพร้อมไว้ได้เลย คาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ในช่วงภายในไตรมาส 2 ของปี 2561 ซึ่งค่าเข้าจะอยู่ที่ประมาณ 35 USD ต่อคน หรือประมาณ 1,100 – 1,200 บาท
2.LINE Village Bangkok The Digital Adventure – สยามสแควร์วัน
LINE Village Bangkok The Digital Adventure สวนสนุกในร่ม แห่งแรกในโลกของเหล่า LINE Friends ขนกันมาแบบยกแก๊งค์ สนุกกันให้เต็มที่บนพื้นที่กว่า 1,300 ตารางเมตร สนุกจุใจกับห้องธีมต่างๆ ผสมผสานด้วยสื่อเทคนิคดิจิทัล ทั้งจอภาพระบบ Interactive และอุปกรณ์ VR 360 องศา ไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้ ผจญภัยไปกับบราวน์และผองเพื่อนผ่าน VR Adventure ความยาว 1 นาที ที่ปลุกคาร์แรคเตอร์สุดโปรดของคุณให้มีชีวิตชีวาซึ่งรับรองว่าตื่นตาตื่นใจแน่นอน
ที่ตั้ง : สยามสแควร์วัน ชั้น 1
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.00 – 21.00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 850 บาท / เด็กและผู้สูงอายุ 650 บาท
3.Harborland Fashion island – แฟชั่นไอส์แลนด์
คุณพ่อคุณแม่ พาลูกเที่ยว ต่อกันที่ Harborland Fashion island อยู่ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ไปสนุกกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โซน Harbor Land ที่จะมีสไลเดอร์สีสันสดใส ให้ได้ปีนป่าย แถมยังมีโซนเครื่องเล่นขนาดเล็กสำหรับน้องๆ ที่มีส่วนสูงไม่ถึง 100 เซนติเมตรด้วย นอกจากนี้ยังมีส่วนของ Art room ให้น้องๆ ได้แต่งแต้มสีลงหุ่นปูนปลาสเตอร์ที่ชื่นชอบ รวมถึงส่วน Book camp ที่มีหนังสือภาษาอังกฤษมากมายให้น้องๆ ได้อ่านอย่างเพลิดเพลิน ผู้ปกครองสามารถนั่งรอในห้อง Living roomได้เลยค่ะ หรือถ้าใครอยากฝากให้ทางสวนสนุกช่วยดูแลเด็กๆ ที่นี่ก็มีบริการ Happy Care ให้สต๊าฟดูแลน้องๆ แบบตัวต่อตัวด้วยนะ
โซนต่อมา Laser Battle สำหรับน้องๆ ที่มีส่วนสูงเกิน 120 เซนติเมตร มาสนุกกับเกมเลเซอร์สุดมันส์ ยิงเลเซอร์ฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุด และโซนสุดท้าย Roller Land สนุกกับลานโรลเลอร์สเกตในร่ม โดยก่อนเล่นจะมีสต๊าฟมาแนะนำวิธีการเล่นเบื้องต้น เป็น ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ที่รับรองว่าสนุกแน่นอน
ที่ตั้ง : สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ชั้น 3
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.00 – 21.00 น. (อัตราค่าเข้า เช็คได้ ที่นี่)
4.Imaginia Playland – เอ็มโพเรียม
อีกหนึ่งสวนสนุกสุดไฮเทค Imaginia Playland ที่จะพาน้องๆ ไปเสริมสร้างจินตนาการ ภายในมีโซนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Art Gallery ให้เด็กๆ แต่งแต้มสีภาพบนจอทัชสกรีนได้เอง หรือจะเป็นโซน Wonder Car ให้น้องๆ ลงสีรถบนหน้าจอทัชสกรีน และภาพจะปรากฏขึ้นบนรถขนาดใหญ่ จากนั้นไปสนุกต่อกับโซน Shadow Forest ขยับร่างกายไปมา สร้างแสงและเงาให้ดูมีปีกแบบเท่ๆ
หรือจะเป็นโซนยอดฮิตอย่าง Time Tube Slider กับสไลเดอร์ทะลุมิติสุดมันส์ ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสวนสนุกแห่งนี้เท่านั้น ยังมีกิจกรรมมากมายรอน้องๆอยู่ เป็น ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ที่ใช้เทคโนโลยีมาผสมผสานกับการสร้างพัฒนาการเด็กได้ลงตัว
ที่ตั้ง : ชั้น 3 The Emporium
เวลาทำการ : จันทร์-พฤหัสบดี 10.00 – 19.00 น.,ศุกร์-อาทิตย์ 10.00 – 20.00 น. (อัตราค่าเข้า เช็คได้ ที่นี่)
5.Funarium – สุขุมวิท 26
Funarium สวนสนุกในร่มสำหรับเด็กที่สร้างขึ้นด้วยมาตรฐานระดับโลก เป็น ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ที่ภายในมีโซนน่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โซนเด็กเล็ก ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กจิ๋วจนถึงอายุ 4 ขวบ มีสไลเดอร์ขนาดย่อมให้ได้สนุกกัน, โซนเด็กอายุ 4-13 ปี จะมีความแอดเวนเจอร์ขึ้นมาหน่อย มีที่ปีนป่าย กระโดดโลดเต้น และสไลเดอร์สุดสนุก, โซนกีฬา มีสนามบาส สนามฟุตบอลขนาดย่อมให้น้องๆ ได้ขยับร่างกาย แถมยังมีลานสเกตให้ได้ไถโรลเลอร์สเกตกันด้วย
นอกจากนี้ยังมีโซนสำหรับทำอาหารและงานศิลปะกันด้วย หากหิวเมื่อไหร่ก็ฝากท้องไว้ที่ FUN CAFE’ ได้เลย มีอาหารตกแต่งน่ารักบริการทั้งคุณผู้ปกครองและน้องๆ หลายเมนู
ที่ตั้ง : ซอยสุขุมวิท 26 และศูนย์การค้า Zpell @Future Park
เวลาทำการ : จันทร์-พฤหัสบดี 9.00 – 18.00 น., ศุกร์-อาทิตย์ 9.00 – 19.00 น. (อัตราค่าเข้า เช็คได้ ที่นี่)
6.Lazgam – สุขุมวิท 22
Lazgam สนามยิงเลเซอร์สุดมันส์ที่จะ พาลูกเที่ยว ไปยังโลกอนาคต เมื่อเข้าไปภายในสนามเลเซอร์ก็เตรียมสนุกกันได้เลย วิธีการเล่นก็เพียงแค่ยิงเลเซอร์ใส่ฝ่ายตรงข้ามเราก็จะได้คะแนน แต่ถ้าเราโดนยิงจะไม่สามารถยิงใครได้ 5 วินาที ซึ่งในสนามจะมีลักษณะเป็นเขาวงกต เรียกว่าวิ่งเล่นกันมันส์แน่นอน ภายในมีไอเท็มพิเศษตามจุดต่างๆ ด้วย เช่น หายตัวได้, แฝงตัวเป็นทีมอื่น เป็นต้น เมื่อจบเกมก็จะมีแผ่นสรุปสกอร์ให้เก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะ เป็นอีกที่เที่ยวที่สนุกและตื่นเต้น ที่นี่ให้น้องๆ ที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไปเข้ามาเล่นเท่านั้นนะจ๊ะ
ที่ตั้ง : โรงแรมฮอลลิเดย์อินน์ ชั้น 5 ซอยสุขุมวิท 22
เวลาทำการ : จันทร์-พฤหัส 14.00 – 23.00 น., ศุกร์ 14.00 – 00.00 น., เสาร์ 10.00 – 00.00 น., อาทิตย์ 10.00 – 23.00 น. (อัตราค่าเข้า เช็คได้ ที่นี่)
7.FAM Playland – เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์
ต่อกันที่ FAM Playland สวนสนุกในร่มที่จะเรียกให้น้องๆ ได้ขยับแข้งขา พร้อมขุดจินตนาการแบบไร้ขีดจำกัด แบ่งออกเป็น 2 โซนคือ Physical activity ที่มีสไลเดอร์หลากสไตล์ ให้น้องๆ ได้ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ปีนป่ายอย่างสนุกสนาน ไฮไลท์อยู่ที่ Airbag Freedrop ที่จะให้น้องๆ พิชิตความกลัว กระโดดจากที่สูงประมาณ 3 เมตร ลงมายังถุงยักษ์ นอกจากนี้ยังมีโซน Engagement activity ที่ให้น้องๆ ได้ฝึกจินตนาการกับกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการต่อบล็อกเป็นหุ่นยนต์ หรือการสอนภาษาอังกฤษควบคู่ไปกับการสร้างงานศิลปะ พาลูกเที่ยว ที่นี่ครั้งเดียวได้ทั้งความสนุกและได้ฝึกทักษะหลากหลายแน่นอน
ที่ตั้ง : ชั้น 3 Central Festival Eastville
เวลาทำการ : ทุกวัน 11.00-20.00 น.
8.Sea life Paragon – สยามพารากอน
ตะลุยสวนสนุกกันไปแล้ว คราวนี้ไปท่องโลกใต้ท้องทะเลสุดมหัศจรรย์กันที่ Sea life Paragon ทักทายกับหมึกยักษ์แปซิฟิกและปูแมงมุมยักษ์ที่ชอบหลบอยู่ในโขดหิน จากนั้นไปตื่นเต้นกันที่โซน Shark Walk เดินผ่านกระจกใสบางๆ ที่กั้นระหว่างเราและฉลามกว่า 5 สายพันธุ์! ตื่นตาไปกับโซน Coral Reef กับปะการังหลากสีสัน พร้อมเข้าสู่โซนป่าดิบชื้น ตะลึงไปกับปลาตัวยักษ์ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน สดใสไปกับเหล่าเพนกวินที่ยืนรอต้อนรับ และเดินทางเข้าสู่โลกทะเล กับอุโมงค์น้ำที่สูงถึง 8 เมตร!
กิจกรรมไฮไลท์อยู่ที่การลงไปใกล้ชิดกับสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลทั้งฉลาม ปลากระเบน และปลานานาพันธุ์บนเรือท้องกระจกบางใส สนุกกับการชมพนักงานให้อาหารสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด เป็น ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ที่จะให้น้องๆ ได้สัมผัสโลกใต้ทะเลอย่างแท้จริง
ที่ตั้ง : ชั้นใต้ดิน สยาม พารากอน
เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 – 21.00 น. (อัตราค่าเข้า เช็คได้ ที่นี่)
9.Kidzania – สยามพารากอน
ยังคงเที่ยวอยู่ในสยามพารากอน กับอีกหนึ่ง ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 Kidzania สุดยอดแหล่งเรียนรู้ที่ให้น้องๆ ได้สวมบทบาทการเป็นอาชีพในฝันมากกว่า 80 อาชีพ ทั้งคลินิกสัตวแพทย์ ธนาคาร บริษัทประกันชีวิต ร้านตัดผม ร้านอาหารญี่ปุ่น คลินิกหมอฟัน ร้านสะดวกซื้อ ศูนย์ปฏิบัติการเครื่องบินจำลอง สตูดิโอถ่ายภาพ สถานีดับเพลิง สถานีตำรวจ สถานีบริการน้ำมัน สถานีโทรทัศน์ สนามกีฬา โรงพยาบาล และอีกมากมาย ที่เมืองจำลองแห่งนี้จะฝึกให้น้องๆ ได้เรียนรู้อาชีพต่างๆ ผ่านความสนุกสนานในบรรยากาศสมจริง ทุกสถานที่ประกอบการจะเต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับอาชีพนั้นๆ ให้น้องๆ ได้เห็น ได้เล่น เป็นประสบการณ์ที่จะพัฒนาไปสู่อาชีพในอนาคต
ที่ตั้ง : ชั้น 5 สยาม พารากอน
เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 10.00 – 17.00 น., เสาร์-อาทิตย์ 10.30 – 20.30 น. (อัตราค่าเข้า เช็คได้ ที่นี่)
10.BOUNCE Thailand – The Street รัชดา
มากระโดดกันต่อที่ BOUNCE Thailand ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ที่ให้น้องๆ ได้กระโดดแบบสูงกว่าที่เคย ภายในอารีน่ามีแทรมโพลีนมากกว่า 100 ผืน เรียงรายเชื่อมต่อกันอย่างมีสีสัน จะม้วนตัว กระโดดสูง เคลื่อนย้ายร่างกายแบบ non-stop ก็ไม่ต้องกลัวเรื่องการลงน้ำหนักตัวใดๆ เพราะที่นี่ใช้บิ๊กแบ็ก ระดับหนังฮอลลีวูดกับสปริงที่แข็งแรง สามารถรองรับการกระโดดแบบไม่ต้องยั้ง การกระโดดโลดเต้นบนแทรมโพลีนสามารถเล่นได้ทุกเพศ ทุกวัย เริ่มตั้งแต่น้องๆ ที่อายุ 5 ขวบขึ้นไป โดดให้สูงสุดขา ได้ออกกำลังกาย แถมยังสนุกสุดเหวี่ยงอีกด้วย
ที่ตั้ง : The Emquartier และ The Street รัชดา ชั้น 5
เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 – 22.00 น. (อัตราค่าเข้า เช็คได้ ที่นี่)
11.พิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร – จตุจักร
ปิดท้าย พาลูกเที่ยว ที่ พิพิธภัณฑ์เด็ก กรุงเทพมหานคร กับนิทรรศการความรู้ที่เหมาะกับน้องๆ ตั้งแต่ 7-12 ขวบ สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้ง ทั้งสวนน้ำขนาดย่อม เครื่องเล่นปีนป่าย หรือการผจญภัยในป่า ภายในยังมีกิจกรรมสร้างสรรค์อย่าง การเรียนรู้อวัยวะของฉัน ให้น้องๆ ดึงความสามารถของตัวเองผ่านการตอบคำถาม หรือจะเป็นโซนมุมมองพิศวง มีละครโรงเล็ก Kid’s Playhouse ให้น้องๆสร้างสรรค์จินตนาการ ผ่านบทบาทสมมติ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการทำอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอีกด้วย
ไฮไลท์ที่น่าสนใจอยู่ที่กิจกรรมวิทยาศาสตร์อย่างนักสืบไดโนเสาร์ เรียนรู้ลักษณะของไดโนเสาร์ประเภทต่างๆ ผ่านฟอสซิล รวมถึงการขุดเจาะหากระดูกไดโนเสาร์แบบสมจริง
ที่ตั้ง : สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ (จตุจักร)
เวลาทำการ : อังคาร-อาทิตย์ 10.00 – 16.00 น. (ค่าเข้าชม ฟรี)
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับ ที่เที่ยวสำหรับเด็ก 2018 ที่เรารวบรวมมาให้ หวังว่าจะทำให้คุณพ่อคุณแม่มีแนวทาง พาลูกเที่ยว ช่วงสุดสัปดาห์นี้ ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้รอบด้านอย่างสนุกสนาน อย่าลืมว่า การเล่นก็เท่ากับการเรียนรู้นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก mushroomtravel.com
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 28 กันยายน 2561
ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง | ราคาขาย/บาท | ราคารับซื้อ/บาท | ราคารับซื้อ/กรัม |
ทองคำแท่ง 96.5% | 18,250.00 | 18,150.00 | n/a |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 18,750.00 | 17,828.16 | 1,176.00 |
ทองรูปพรรณ 99.99% | n/a | 18,480.04 | 1,219.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | n/a | 16,045.34 | 1,058.40 |
ทองรูปพรรณ 80% | n/a | 14,262.53 | 940.80 |
ทองรูปพรรณ 50% | n/a | 8,110.60 | 529.00 |
ทองรูปพรรณ 40% | n/a | 6,245.92 | 412.00 |
ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 28 กันยายน 2561
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 | 31.15 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 | 30.88 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 28.14 | 28.14 | 28.14 | 28.14 | 28.14 | – | 28.14 | 28.14 | 28.14 | 28.14 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 21.94 | 21.94 | – | – | – | – | – | 21.94 | 21.94 | – |
เบนซิน 95 | 38.26 | – | – | – | 38.71 | – | 38.76 | 38.56 | 38.36 | 38.56 |
ดีเซล | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 | 29.89 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 32.89 | 33.76 | 33.76 | 33.76 | 33.76 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 15.13 | 15.13 | – | – | – | – | – | – | – | – |