ต่างชาติแห่ร่วมทุนไทย 5 ปี มูลค่าโครงการกว่า 5.75 แสนล้าน
ทุนต่างชาติแห่ลงทุนในอสังหาฯไทยต่อเนื่อง มีจีน-ญี่ปุ่นเป็นหลัก ล่าสุด ฝรั่งเศสกับยูเครนโผล่เป็นผู้ซื้อใหม่ เหมาบิ๊กล็อตที่ภูเก็ต คอลลิเออร์ส 5 ปี มูลค่าโครงการร่วมทุนสูงกว่า 5.75 แสนล้านบาท
นายบานาบี้ สเวนสัน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ไทยของต่างชาติยังคงคึกคักต่อเนื่อง เนื่องจากทำเลที่ตั้งของไทยค่อนข้างเหมาะสมกับการลงทุน โดยแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ กลุ่มทุนขนาดใหญ่ ที่มาร่วมทุนพัฒนาโครงการกับดีเวลอปเปอร์ไทย ซึ่งประเทศหลักยังคงเป็นจีนและญี่ปุ่น ส่วนใหญ่พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย หรือ คอนโดมิเนียม พื้นที่ในกรุงเทพมหานคร มีทั้งหมด 35 บริษัท
จากการเก็บข้อมูลของบริษัทฯ พบว่า ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีโครงการร่วมทุนระหว่างบริษัทอสังหาฯ ของไทยกับทุนต่างชาติจำนวนมาก มูลค่าโครงการรวมสูงถึง 5.75 แสนล้านบาท โดยมี บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นรายแรก ๆ ที่ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปี 2562 ที่จะเปิดอีก 7 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งหมด 147,000 ล้านบาท ส่วนรายล่าสุด บมจ.เอสซี แอสเสท ที่ประกาศร่วมทุนกับ Nishietsu Group จากญี่ปุ่น
ด้าน กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ซื้อลงทุน จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย มีชาวต่างชาติถือครองคอนโดมิเนียมในปี 2561 มากกว่า 49,000 ยูนิต มูลค่าสูงถึง 234,000 ล้านบาท การโอนกรรมสิทธิ์บ้าน ณ ไตรมาส 3 ปี 2561 สูงถึง 30,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2560 ทั้งปี มีเพียงแค่ 27,000 ล้านบาท ซึ่งในเม็ดเงินการโอนกรรมสิทธิ์ 30,000 ล้านบาทนี้ จำแนกสัดส่วนเป็นจีนและฮ่องกง 33% มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 75,000 ล้านบาท ถัดมาสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ ตามลำดับ โดยยังคงสนใจลงทุนในเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ ใน 4 เมืองหลัก ซึ่งอันดับ 1 คือ กรุงเทพฯ ทำเลที่สนใจ คือ พระราม 9 และรัชดาฯ เป็นหลัก รวมถึงกระจายไปทำเลบางนา อันดับ 2 ภูเก็ต ล่าสุด มีผู้ซื้อจากประเทศใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามา อาทิ จากประเทศฝรั่งเศสและยูเครน และพฤติกรรมการซื้อแบบบิ๊กล็อต เหมายกตึก โดยปัจจัยที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติในลักษณะแบบนี้ 1.ทำเล 2.ผลตอบแทนที่จะได้จากสินทรัพย์นั้น ๆ
อันดับ 3 เชียงใหม่ เป็นเมืองยอดฮิตของผู้ซื้อลงทุนชาวจีนและเกาหลี ทำเลที่สนใจยังคงเป็นย่านนิมมานเหมินทร์ อันดับ 4 เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ลูกค้าหลักเป็นจีนกับรัสเซีย แต่ระยะหลังเริ่มมีญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น ทำเลที่สนใจยังคงเป็นโซนเขาพระตำหนัก ตัวเมืองพัทยา ล่าสุด กระจายออกไปบริเวณนาจอมเทียน
ด้าน นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยฯ กล่าวเสริมว่า การที่ดีเวลอปเปอร์ไทยจับมือร่วมทุนกับต่างชาติ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นมากที่สุด รองลงมา จีน จึงมีกำลังซื้อลูกค้าต่างชาติของเขาเป็นทุนเดิม อย่างเช่น โครงการของออริจิ้น ย่านทองหล่อ หรือ พญาไท ซึ่งร่วมทุนกับกลุ่มโนมูระจากญี่ปุ่น ก็ปรับโครงการบางส่วนให้กับกำลังซื้อต่างชาติ หรือว่าลูกค้าในส่วนการร่วมทุน ซึ่งเป็นลูกค้าญี่ปุ่นไป แต่อีก 2 อาคาร จะเป็นลูกค้าคนไทย
ฉะนั้น กำลังซื้อต่างชาติที่จะมาพร้อมกับโครงการร่วมทุนอีกค่อนข้างมาก ตามดีเวลอปเปอร์ของตนเอง เพราะมองว่า ประเทศไทยยังเป็นทำเลที่น่าลงทุน ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ในภาพรวมการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมจะอยู่ที่ 4-6% รวมกับภาษีจากส่วนต่าง หรือ Capital Gain ที่แต่ละปียังปรับตัวอีก 3-5% ทำให้พื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบ ยังเป็นโอกาสของนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาในไทย
ขอบคุณข้อมูลจาก terrabkk.com
THE DIGITALIZATION: เมื่อ Digital เข้ามาพลิกโฉมวงการอสังหาฯ ให้เปลี่ยนไป แล้วผู้บริโภคได้อะไร?
การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ทุกธุรกิจจะต้องปรับตัว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุค Digital ที่ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีอิทธิพลมากกว่าที่เราคิด ตื่นนอนมาเราทุกคนต้องเปิดสมาร์ทโฟนเสพข่าวสารผ่านอินเตอร์เน็ตทั้งสิ้น หรือแม้กระทั่งจะสั่งอาหาร จองคิวร้านอาหารก็ยังสามารถทำผ่านสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้เข้ามาทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ธุรกิจต่างๆ ต้องเริ่มปรับตัวให้ทันกับผู้บริโภค ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ใครๆ ต่างก็มองว่าเป็นธุรกิจที่ไม่ตื่นเต้นเท่าวงการอื่นๆ การตลาดมีเพียงแค่จัด Event หรือขึ้นป้ายบิลบอร์ดคงต้องกลับมามองกันใหม่ เพราะในวันนี้ยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาฯ ต่างก็เริ่มปรับตัวให้ทันกับยุค Digital กันแล้ว เช่น “อนันดา” ที่ได้ชื่อว่าเป็น Tech Company รายแรกของวงการด้วยการเปิดตัว Ananda Urban Tech เพื่อเฟ้นหานวัตกรรมใหม่ๆ และร่วมลงทุนด้านนวัตกรรมกับกองทุนต่างๆทั่วโลก หรือ “แสนสิริ” ที่จับมือกับ “SCB” ก่อตั้ง Siri Venture เพื่อวิจัยและลงทุน สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ (Property Technology) หรือแม้แต่การออกบูธโดยใช้ Virtual 360 มาช่วยในการเยี่ยมชมห้องตัวอย่าง นั่นก็ถือเป็นนวัตกรรมของวงการอสังหาฯ อย่างหนึ่งเช่นกัน
สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เราเรียกรวมๆ ว่า Property Technology หรือ Prop Tech ที่ใช้ Digital เข้ามาช่วยอำ นวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ให้การเลือกซื้อ การใช้ชีวิตภายในบ้าน/ คอนโด การติดต่อโครงการ ฯลฯ เป็นไปได้ง่ายขึ้น ต่อไปในอนาคตการทำการตลาดแบบเดิมๆ ก็จะเริ่มหายไป ป้ายบิลบอร์ดที่ได้แค่มองเห็นแต่ไม่เกิดการรับรู้สารก็จะค่อยๆเริ่มหายไป ผู้คนจะใช้เวลาเสพข่าวสารที่สั้นลง การเข้ามาของ Digital จะทำ ให้การซื้ออสังหาฯ เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น แต่หลายๆอย่างก็ต้องถูกปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมของผู้คน ซึ่ง HINT จะขออธิบายว่า Digital เข้ามาช่วยในแต่ละขั้นตอนการซื้อไปจนถึงการเข้าอยู่อย่างไร
1. การค้นหาข้อมูลและเปรียบเทียบโครงการ
– 48% ของคนไทยค้นหาข้อมูลทาง internet ก่อนซื้อ จากสถิติพบว่าคนไทย 48% มีพฤติกรรมค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตก่อนดูของจริง ต่างจากเมื่อก่อนที่หากลูกค้าสนใจจะตรงดิ่งไปที่ร้านค้าเลย หากเทียบเป็นอสังหาริมทรัพย์แต่เดิมลูกค้าจะเข้าไปที่โครงการ หรือหากขับรถผ่านก็จะแวะเข้าไป ปัจจุบันลูกค้าจะหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตก่อนเข้าไปดูโครงการ นั่นแปลว่าเมื่อลูกค้าไปถึงโครงการคุณแล้ว พวกเขามักจะมีข้อมูลที่พร้อมในระดับหนึ่ง ดังนั้นคงพอจะเดาทางได้แล้วว่าหากจะให้ข้อมูลกับลูกค้า ควรจะเน้นไปทางสื่อใดมากกว่ากัน
– Blogger/ Influencer ตัวช่วยให้ปิดการขายง่ายขึ้น นอกจากการค้นหาข้อมูลจากทางเว็บไซต์ต่างๆ แล้ว อีกสื่อหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือบรรดา Blogger และ Influencer ที่เข้ามามีบทบาทในการช่วย “ตัดสินใจซื้อ” ของลูกค้ามากขึ้น สิ่งเหล่านี้เรามักจะพบเห็นในรูปแบบของการรีวิว, เยี่ยมชมโครงการ, บทวิเคราะห์ต่างๆ ที่จะทำให้ลูกค้าอ่านแล้วตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ทุกวันนี้คนเชื่อข้อมูลจากบุคคลที่ 3 มากกว่าเชื่อข้อมูลจากโครงการเอง การ
อ่านรีวิวเป็นเหมือนการตอกย้ำ ความมั่นใจว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ
– 360 Virtual Tours/ Virtual Reality ของเล่นใหม่ในวงการอสังหา นาทีนี้ใครไม่รู้จักของเล่นใหม่ในโลก Digital อย่าง 360 VR ที่ได้นำมาปรับใช้กับวงการอสังหาฯอย่างลงตัว ด้วยการเยี่ยมชมโครงการ/ ห้องตัวอย่าง โดยไม่ต้องไปสถานที่จริงเลย เพียงแค่มีกล้อง VR 1 ตัวเท่านั้น ก็ได้เห็นภาพของโครงการ/ ห้องตัวอย่างแทบทุกมุม ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยสร้างความสะดวกสบาย ให้กับผู้ซื้อที่ไม่มีเวลาไปชมห้องตัวอย่าง ช่วยร่นระยะเวลาการตัดสินใจซื้อ
2. การตัดสินใจซื้อ
– หมดยุคยกหูโทรศัพท์นัดชมโครงการ ต่อจากนี้การนัดหมายเข้าชมโครงการไม่จำ เป็นต้องโทรแจ้งให้เปลืองค่าโทรศัพท์หรือเสียเวลาหลายนาทีอีกต่อไปหลายโครงการเริ่มนำ Application หรือนัดหมายผ่าน Website มาใช้สำ หรับนัดหมายเข้าเยี่ยมชมโครงการ ที่จะเป็นประโยชน์ทั้งแก่ฝั่งโครงการเองที่สามารถจัดสรรเวลาได้อย่างแม่นยำและฝั่งลูกค้าก็ไม่ต้องเสียเวลาโทรไปนัด จบปัญหาสายไม่ว่างบ้าง โทรไม่ติดบ้าง หลังเลิกงานไม่มีคนรับสาย ฯลฯ
– อยู่บ้านก็วางเงินจองได้หากวันนี้คุณคิดจะกลับไปจองบ้านที่ดูไว้เมื่อวันก่อน ไม่ต้องเสียเวลาขับรถไปถึงโครงการอีกต่อไป เพียงแค่เปิด Application เปิด Facebook หรือเปิดหน้า Website พร้อมกรอกเลขแปลง/ เลขห้องที่เราสนใจ ชำ ระเงินจองออนไลน์เพียงเท่านี้ก็ประหยัดเวลาในการเดินทางไปโครงการได้แล้ว ซึ่งเจ้าแรกที่ริเริ่ม “ช้อป-จอง-จ่ายออนไลน์” เป็นเจ้าแรกคือ ”พฤกษา” ที่ได้เริ่มใช้นวัตกรรมนี้มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว จนในวันนี้เริ่มมีดีเวลลอปเปอร์บางรายเริ่มใช้วิธีนี้เพื่ออำ นวยความสะดวกให้ผู้ซื้อมากขึ้น
– ไม่ต้องต่อคิวในธนาคารอีกต่อไป เป็นที่คุ้นเคยกันดีกับการจ่ายเงินออนไลน์ผ่าน Application ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้ซื้อได้เป็นอย่างดีหมดปัญหาธนาคารคนเยอะ ปิดเร็ว หา ATM ไม่ได้นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้ที่ต้องการตรวจสอบกำลังการกู้เบื้องต้น ทุกวันนี้ในหน้า Website ของธนาคารจะมีส่วนที่ให้กรอกข้อมูลเพื่อตรวจสอบสินเชื่อเบื้องต้น และคำ นวณทั้งดอกเบี้ยและค่างวดให้เสร็จสรรพไม่จำ เป็นต้องเดินทางไปถึงธนาคาร ต่อคิวยาวเป็น100 คิว หรือโทรหาพนักงาน ที่ต้องโอนสายมากกว่า 3 ครั้ง
3. หลังการเข้าอยู่
– สื่อสารกับนิติฯและลูกบ้านได้ง่ายขึ้น ตอนนี้นิติบุคคลหลายโครงการเริ่มออก Application สำหรับแจ้งข่าวสารให้กับลูกบ้าน ซึ่งจะสามารถส่งข่าวได้ทั่วถึงมากขึ้น หรือเป็นช่องทางสำ หรับส่งข้อความ (message) หานิติฯโดยตรง ช่วยประหยัดเวลาให้กับทั้ง 2 ฝ่าย
– แจ้งซ่อมออนไลน์ สบายทั้งโครงการและคนซื้อหลายโครงการมักจะมีปัญหากับการแจ้งซ่อมหลังเข้าอยู่ ไม่ว่าจะเป็นช่างไม่มาตามนัด โทรไปไม่มีคนรับนัดวันไม่ลงตัว ฯลฯ ทำ ให้โครงการอสังหาริมทรัพย์หลายรายหันมาใช้การแจ้งซ่อมออนไลน์ เพื่อที่จะสามารถจัดคิวช่างได้เหมาะสมตรงกับงานมากที่สุด
– ใช้ชีวิตอย่าง Iron Man ในบ้านอัจฉริยะ อีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะทำ ให้เสมือนมีจาวิสอยู่ในบ้านของคุณด้วยระบบอัจฉริยะหรือ Smart Home ที่สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ด้วยเพียงปลายนิ้วมือและสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะสั่งให้เปิดปิดน้ำ ไฟ หรือปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ หรือแม้กระทั่งให้เครื่องใช้ไฟฟ้าคุยกับเราผ่าน Chat เช่น ถามตู้เย็นว่าเหลือเบียร์กี่กระป๋อง, บอกเครื่องดูดฝุ่นให้ทำความสะอาดบ้านเมื่อคุณไม่อยู่ หรือโทรทัศน์ถามคุณว่าไม่อยู่บ้านแล้วต้องการปิดทีวีไหม? นี่คือสุดยอดนวัตกรรมจาก LG HomeChat
เทคโนโลยีในยุค Digital ยังมีอีกมากนักที่จะเข้ามามีบทบาทที่สำ คัญทั้งทางฝั่งดีเวลลอปเปอร์และกับลูกค้า ซึ่งจะช่วยอำ นวยความสะดวก แก้ปัญหาในสิ่งที่ manual ไม่สามารถทำ ได้ และในระยะยาวก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปในบางส่วนได้ ซึ่ง HINT เองก็เชื่อว่านับจากนี้ไปกลยุทธ์การขายของอสังหาฯจะเริ่มเปลี่ยนไป ทั้งนี้คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ดีเวลลอปเปอร์แต่ละเจ้าจะงัดลูกเล่นอะไรออกมาเล่นให้เป็นสีสันของตลาดอสังหาริมทรัพย์กันต่อไป และเมื่อดูความพร้อมของประเทศไทยที่กำ ลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลนั้น เห็นได้ว่าประเทศไทยเองก็มีการเติบโตที่เร็วพอตัว ยิ่งหากเทียบกับประเทศที่อยู่ใน Asia Pacific แล้ว ไทยเองก็อยู่ใน Top 5 มาตลอด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราวัดความพร้อมของดิจิตอลเป็น 2 ด้าน คือ Average Connection Speed และ Broadband Adoption ซึ่งไทยเองก็อยู่อันดับ Top 10 ของโลกและ Top 5 ของ Asia Pacific
ขอบคุณข้อมูลจาก HINT MAGAZINE
ไอเดียพุ่งคมนาคมหนุนใช้ค่ารถไฟฟ้าลดหย่อนภาษีได้
25 มี.ค. 2562 นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายแผลการขนส่งและจราจร(สนข.) เปิดเผยว่าโครงการรถไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการแก้ปัญหาจราจรในเมืองหลวง ทว่ารูปแบบการขนส่งดังกล่าวมีราคาที่สูงมากเมื่อเทียบกับระบบขนส่งรถเมล์จนอาจเป็นภาระของประชาชน
อย่างไรก็ตามสนข.จึงมีแนวคิดมาตรการจูงใจให้คนหันมาใช้รถไฟฟ้าเตรียมเสนอให้รัฐบาลพิจารณา โดยกำหนดให้ค่ารถไฟฟ้าสามารถใช้ลดหย่อนภาษีหรือหักภาษีได้ ในกรณีที่เป็นบริษัทเอกชนหากมีค่าเดินทางรายเดือนให้พนักงานนั้นสามารถนำค่ารถไฟฟ้าในส่วนดังกล่าวมาหักภาษีได้ เช่นเดียวกับพนักงานทั่วไปหรือข้าราชการต้องมีสิทธิพิเศษค่ารถไฟฟ้าในทำนองเดียวกัน
อย่างไรก็ตามแนวทางนี้ถือว่าเป็นการวิน-วินทุกฝ่าย ทั้งลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน ส่วนรัฐบาลได้แก้ปัญหารถติด ลดจำนวนรถบนถนนและไม่เป็นภาระของภาคเอกชนอีกด้วยนอกจากนี้ในอนาคตควรคิดโปรโมชั่นส่งเสริมให้คนมาใช้โดยรัฐบาลเป็นคนออกเงินสนับสนุน(Subsidy) เช่นการเปิดให้ทดลองใช้รถไฟฟ้าฟรีในเส้นทางที่เปิดให้บริการในช่วงแรก ตลอดจนการลดราคา 5-10 บาท เพื่อกระตุ้นยอดผู้ใช้
นายสราวุธกล่าวต่อว่าตนเชื่อว่าการควบคุมราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ทุกรัฐบาลคิด เช่นเดียวกับรัฐบาลใหม่ในอนาคตที่จะส่งเสริมเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นพรรคใด เพราะถ้าต้องการส่งเสริมให้คนใช้มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนหรือสิทธิพิเศษมาเสนอเพื่อให้ประชาชนเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ทั้งนี้หากมีมาตรการส่งเสริมดังกล่าวแล้วเชื่อว่าสัดส่วนผู้ใช้รถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้น เพราะปัจจุบันคิดเป็น 3-4% ของสัดส่วนทั้งหมด หากรถไฟฟ้าเฟส 1 แล้วเสร็จจะเพิ่มเป็น 10% จากนั้นขยายสัดส่วนเป็น 15% เมื่อรถไฟฟ้าเฟส 2 แล้วเสร็จ ทั้งนี้ในอนาคตจะมีพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบร่วม หรือ พรบ.ตั๋วร่วม พศ…. และมีเรื่องของกติกาการคิดค่าโดยสารร่วม (Common Fare) ของระบบตั๋วร่วม (บัตรแมงมุม) เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องการเดินทางของประชาชน
แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมกล่าวว่าแนวทางดังกล่าวคงไม่ยากเกินไปเนื่องจากทุกวันนี้รัฐบาลเทงบประมาณไปกับการก่อสร้างและซ่อมแซมถนนปีละไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท แต่กลับยังไม่มีงบสนับสนุนระบบขนส่งรถไฟฟ้าเพื่อแก้ปัญหารถติดในกรุงเทพซึ่งถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในลำดับต้นๆ เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถลดภาระงบประมาณแผ่นดินในส่วนที่ไม่จำเป็นเพื่อมาสนับสนุนเรื่องนี้ได้
ทั้งนี้จากกานศึกษาพบว่า ระบบรถไฟฟ้ามีอัตราค่าใช้จ่ายมากที่สุด คิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2,500 บาท/เดือน รองลงมาคือรถตู้สาธารณะ มีค่าเฉลี่ยที่ 2,100 บาท/เดือน ต่อมา คือเรือด่วนคลองแสนแสบ มีค่าเฉลี่ยที่ 1,700 บาท/เดือน ส่วนด้านรถเมล์ปรับอากาศอยู่ที 1,400 บาท/เดิอน และรถเมล์ไม่ปรับอากาศ 1,200 บาท/เดือน เช่นเดียวกันกับอัตราค่าโดยสารเรือด่วนเจ้าพระยาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 บาท/เดือน
ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net
เทคนิคลดฝุ่นภายในบ้าน ให้อากาศบริสุทธิ์ในทุกพื้นที่
ถ้าการทำให้บ้านสวยและเรียบร้อยนั้นดีต่อใจ การทำความสะอาดให้บ้านสดชื่นไร้ฝุ่นก็คงเป็น เรื่องที่ดีกับร่างกายของทุกคนที่อยู่ในบ้านเหมือนกันค่ะ ซึ่งปัญหาเรื่องของฝุ่นต่าง ๆ ภายในบ้าน ทั้งฝุ่นละอองในอากาศหรือฝุ่นสะสมก็ล้วนเป็นผลเสียกับสุขภาพทั้งนั้น วิธี กำจัดฝุ่น
ซึ่งเทคนิคง่าย ๆ ที่สามารถทำเพื่อลดฝุ่นภายในบ้านนั้นก็มีอยู่หลากหลายวิธีด้วยกันค่ะ วันนี้ my home ขอแนะนำเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยลดฝุ่นภายในบ้านของ มาทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับทุกพื้นที่ เพื่อทุกชีวิตในบ้านจะได้หายใจเอาแต่อากาศสะอาด ๆ เข้าสู่ร่างกายกัน วิธี กำจัดฝุ่น
1. การเลือกใช้ตัวช่วยลดฝุ่นในบ้าน
แผ่นดักจับฝุ่น
ไอเดียในการเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศภายในบ้านให้กลายเป็นเครื่องฟอกอากาศไปในตัว ด้วยการใช้อุปกรณ์เพิ่มเติมอย่างแผ่นดักจับฝุ่นมาติดเข้ากับแผ่นกรองเพิ่มอีกชั้น เพราะเพียงแผ่นกรองภายในตัวเครื่องอย่างเดียวนั้นอาจไม่พอ โดยสามารถใช้ทั้งกับเครื่องปรับอากาศหรือพัดลมไอเย็น ซึ่งเจ้าตัวแผ่นกรองนี้สามารถดักจับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ในอากาศ ทั้งไรฝุ่น เกสรดอกไม้ แบคทีเรียและเชื้อรา ทำให้อากาศภายในบ้านนั้นสะอาดขึ้นกว่าเดิมเป็นอีกเป็นเท่าตัวแน่นอน
เครื่องพ่นไอน้ำ
การเลือกใช้เครื่องพ่นไปน้ำภายในบ้านนั้นไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านมีกลิ่นหอมเพิ่มมากขึ้นเพียงอย่างเดียวแบบที่หลาย ๆ คนเข้าใจนะคะ แต่วิธีนี้ยังเป็นการช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ เหมาะกับห้องที่มีอากาศแห้งอย่างห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเป็นประจำ ไอน้ำขนาดเล็กที่ถูกปล่อยออกมาจะช่วยลดฝุ่นที่ฟุ้งอยู่ในอากาศและลดการสูดดมเข้าไปได้ค่ะ
บ้านหอมด้วยของแต่งบ้านแบบอโรมารวมทั้งกลิ่นและความสวยไว้ในหนึ่งเดียว
สเปรย์ปรับสภาพอากาศภายในบ้าน
นอกจากอุปกรณ์ต่าง ๆ แล้ว เดี๋ยวนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ที่มาในรูปแบบของสเปรย์ปรับอากาศที่ช่วยสร้างอากาศที่ดีภายในบ้าน แค่ใช้วิธีการฉีดก็ช่วยกำจัดเชื้อโรคและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ อย่างเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไรฝุ่น ให้บ้านมีอากาศหอมสะอาด สดชื่นได้ง่าย ๆ รับรองว่าปลอดภัยหายห่วง แม้ในห้องที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยงก็ไม่เป็นปัญหา
2 . การเลือกใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อลดฝุ่นในบ้าน
ผ้าไมโครไฟเบอร์
การใช้ผ้าที่ออกแบบมาสำหรับการทำความสะอาดให้มีประสิทธิภาพอย่างผ้าไมโครไฟเบอร์นั้นก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้ผ้าขนหนูทั่วไปแน่นอน นั่นเพราะว่าผ้าไมโครไฟเบอร์มีลักษณะที่อ่อนนุ่ม อุ้มน้ำที่ผิวผ้าได้ดีและเบาบาง ทำให้ซับและบิดน้ำออกได้ง่าย ที่สำคัญตัวเส้นใยที่ใช้ผลิตนั้นยังมีประมีประจุไฟฟ้ารวมทั้งมีขนาดเล็กทำให้เข้าถึงจุดต่าง ๆ ได้ละเอียด ช่วยดูดฝุ่นและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดีเยี่ยมกว่าผ้าชนิดอื่น ๆ ช่วยเช็ดฝุ่นในบ้านให้สะอาดได้ดียิ่งขึ้น
ไม้ม็อบดันฝุ่นอเนกประสงค์
ลดขั้นตอนการทำความสะอาดพื้นจากที่ต้องทั้งกวาดและถูไปเป็นการใช้ไม้ม็อบดันฝุ่นอเนกประสงค์ที่ใช้คู่กับแผ่นถูพื้นแบบพิเศษในวันที่ทำความสะอาดเบา ๆ โดยจะใช้แบบเปียกก็ได้ แบบแห้งก็ดี เหมือนรวมขั้นตอนการกวาดฝุ่นและถูพื้นให้สะอาดแบบง่าย ๆ ในคราวเดียว เพราะแผ่นถูพื้นลักษณะนี้ใช้เส้นใยที่มีกลไกไฟฟ้าสถิต ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น เศษผงขนาดเล็กหรือเส้นผงก็ดักจับได้ครบค่ะ
สเปรย์น้ำยาปรับผ้านุ่มลดฝุ่นฟุ้ง
ตัวช่วยอีกอย่างในการทำความสะอาดสำหรับมุมที่มีฝุ่นเยอะนั้นก็คือน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ทุกบ้านต้องมีอยู่แล้วนั่นเอง โดยการทำน้ำยาเช็ดฝุ่นสูตร DIY นี้จะใช้น้ำปรับผ้านุ่ม 1 ส่วน ต่อน้ำ 4 ส่วน ผสมเข้าด้วยกันลงในขวดสเปรย์ให้พร้อมหยิบใช้งานได้เสมอ เมื่อต้องการทำความสะอาดมุมที่มีฝุ่นเยอะก็สามารถหยิบไปฉีดพ่นก่อนจะเช็ดด้วยผ้าให้สะอาด เท่านี้ก็จะช่วยลดฝุ่นฟุ้งเมื่อทำความสะอาดแถมได้กลิ่นหอมติดบ้านอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก www.baanlaesuan.com
Good – Well ต่างกันอย่างไร
คำว่า good และ well แปลเป็นภาษาไทยว่า “ดี” เหมือนกัน แต่มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน ทำให้น้อง ๆ อาจสับสนว่าควรจะใช้คำไหนกันแน่ ดังนั้นเราจึงจะมาดูกันว่า สองคำนี้มีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันอย่างไรครับ
Good
คำว่า good เป็นคำคุณศัพท์ (adjective) ทำหน้าที่ขยายคำนาม (noun) เช่น
This is a very good movie.
(ภาพยนตร์เรื่องนี้ดีมาก)
Mary had a good time at the party last night.
(แมรี่มีช่วงเวลาที่ดีในงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้)
I have good news to tell you.
(ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอ)
Well
ส่วนคำว่า well เป็น คำกริยาวิเศษณ์ (adverb) ทำหน้าที่ขยายคำกริยา (verb) เช่น
I sang well at the party last week.
(ฉันร้องเพลงได้ไพเราะในงานเลี้ยงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว)
Tom slept well last night.
(ทอมนอนหลับสบายเมื่อคืนนี้)
I don’t feel well today.
(ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายวันนี้)
ขอบคุณข้อมูลจาก trueplookpanya.com
ชนิดทอง | ราคารับซื้อ กรัมละ | ราคารับซื้อ บาทละ | ราคาขาย บาทละ |
---|---|---|---|
ทองคำแท่ง 96.5% | n/a | 19,700.00 | 19,800.00 |
ทองรูปพรรณ 96.5% | 1,276.00 | 19,344.16 | 20,300.00 |
ทองรูปพรรณ 90% | 1,148.40 | 17,409.74 | n/a |
ทองรูปพรรณ 80% | 1,020.80 | 15,475.33 | n/a |
ทองรูปพรรณ 50% | 574.00 | 8,701.84 | n/a |
ทองรูปพรรณ 40% | 447.00 | 6,776.52 | n/a |
ทองรูปพรรณ 99.99% | 1,322.00 | 20,041.52 | n/a |
ปตท. |
บางจาก |
เชลล์ |
เอสโซ่ |
คาลเท็กซ์ |
ไออาร์พีซี |
พีที |
ซัสโก้ |
เพียว |
ซัสโก้ดีลเลอร์ |
|
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
แก๊สโซฮอล์ 95 | 28.85 | 28.85 | 28.85 | 28.85 | 28.85 | 28.85 | 28.85 | 28.85 | 28.85 | 28.85 |
แก๊สโซฮอล์ 91 | 28.58 | 28.58 | 28.58 | 28.58 | 28.58 | 28.58 | 28.58 | 28.58 | 28.58 | 28.58 |
แก๊สโซฮอล์ E20 | 25.84 | 25.84 | 26.24 | 25.84 | 25.84 | – | 25.84 | 25.84 | 25.84 | 25.84 |
แก๊สโซฮอล์ E85 | 20.64 | 20.64 | – | – | – | – | – | 20.64 | – | – |
เบนซิน 95 | 36.26 | – | – | – | 36.71 | – | 36.76 | 36.56 | – | 36.56 |
ดีเซล | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 | 27.29 |
ดีเซลพรีเมี่ยม | 30.89 | 31.16 | 31.35 | 31.35 | 31.35 | – | – | – | – | – |
แก๊ส NGV | 16.23 | 27.29 | – | – | – | – | – | – | – | – |