สาระน่ารู้ ประจำวันที่ 29 กันยายน 2560

เมกะเทรนด์อสังหาฯ กรุงเทพฯ ‘มหานครแห่งคอนโด’

บิ๊กศุภาลัย “ประทีป ตั้งมติธรรม” ชี้อสังหาฯไทยถึงยุคเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เทรนด์ที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ คอนโดมิเนียมแทนบ้านจัดสรร เหมือนมหานครใหญ่ๆทั่วโลก

จากการที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนทั่วกรุงเทพฯ ก่อให้เกิดการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ๆ รวมทั้งต่อขยายเส้นทางที่เปิดบริการให้ยาวออกไปเชื่อมกับปริมณฑล ถือเป็นการเปิดทำเลการพัฒนาที่อยู่อาศัยโซนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น นาย ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะครํ่าหวอดอยู่กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนาน ได้ให้ทรรศนะถึงทิศทางตลาดอสังหาฯของไทยว่า จากสภาพเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการมีรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เส้นทางยาวขึ้น การเดินทางที่สะดวกขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมการเลือกที่พักอาศัย เปลี่ยนจากซื้อบ้านจัดสรรมาเป็นคอนโดมิเนียม ถือเป็นเมกะเทรนด์ การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ในกรุงเทพมหานคร
**เทรนด์“คอนโด”กินแชร์บ้าน
 
ที่ผ่านมา คนเริ่มเปลี่ยนความคิดจากที่จะซื้อบ้านจัดสรร ก็ไม่เอา เปลี่ยนเป็นคอนโดมิเนียม ปัจจุบันคนที่มีความต้องการที่พักอาศัย สัดส่วน 2 ใน 3 หรือเกือบ 70% ของคนที่ซื้อบ้านจัดสรร จะมาซื้อคอนโดมิเนียมแทน ทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมเกิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนบ้านจัดสรรหลักๆก็จะอยู่ในปริมณฑล กรุงเทพฯ มีน้อย ถ้ามีก็เป็นโครงการเล็กๆ เป็นทาวน์เฮาส์ไม่กี่ห้อง หรือไม่ก็ราคาแพงมากไปเลย เพราะที่ดินในเมืองราคาแพง เหมือนกับเมืองใหญ่ๆ ของต่างประเทศ ไม่ว่า เซี่ยงไฮ้, ปักกิ่ง, ไทเป, โตเกียว, โซล, สิงคโปร์
**ฝั่งธนบุรี ย่านที่อยู่อาศัย
 
จากการที่กรุงเทพฯ เป็นแหล่งรวมธุรกิจ ต่อไปฝั่งธนบุรีก็จะเป็นย่านที่อยู่อาศัย คล้ายๆเมืองใหญ่ในต่างประเทศ เช่น นิวยอร์ก ซึ่งมีแมนฮัตตันที่เป็นแหล่งออฟฟิศ และย่านที่อยู่อาศัยคือบรูกลิน, ฮ่องกง ที่อยู่อาศัยหลักคือเกาลูน ที่ผ่านมาคนนิยมไปซื้อบ้านที่จังหวัดนนทบุรี และปทุมธานี ซึ่งค่อนข้างไกลจากย่านใจกลางเมือง ดังนั้นที่อยู่อาศัยที่ใกล้กับกรุงเทพฯคือฝั่งธนบุรี เดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวก ไม่ไกลเกินไป
**ตุนที่ดินผุดคอนโดในปีหน้า
 
ปีหน้าศุภาลัยมีที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม 6 แปลงในกรุงเทพฯ หลายหลากราคา หลายหลากทิศทาง ในย่านฝั่งธนบุรีก็มี เป็นทำเลเด่น ไม่ซํ้าใคร ตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับรูปแบบโครงการให้เข้ากับความ ต้องการของตลาดในแต่ละพื้นที่ นี่คือจุดสำคัญ การกำหนดส่วนผสมผลิตภัณฑ์ (product mix)
“ศุภาลัยชอบทำโครงการกลางถึงใหญ่ เล็กๆ ไม่ค่อยชอบ เพราะคอนเซ็ปต์การดำเนินโครงการของบริษัทคือ “คุ้มค่า น่าอยู่แบบคอนโดศุภาลัย” ที่เราพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถ้าเป็นโครงการเล็กๆ ก็ไม่สามารถใส่สิ่งอำนวยความสะดวกได้มากนัก ถ้าจะมีสระว่ายนํ้าก็เล็กๆ ไม่ชอบ เพราะไม่สามารถทำให้คุ้มค่า น่าอยู่ได้”
“ผมเชื่อว่าลูกค้าก็คิดเหมือนกับเรา ฉะนั้นการจะทำให้คุ้มค่า น่าอยู่ ต้องเป็นโครงการขนาดกลางหรือใหญ่ เช่น โครงการสถานีภาษีเจริญ เปิดขายไปแล้ว กะจะขาย 1,200 ล้านบาท แต่ทำยอดขายได้มากกว่า 2,000 ล้านบาท เพราะโครงการของเรามีโปรดักต์ มิกซ์ ที่เหมาะสม และมีอีโคโนมี ออฟ สเกล ซื้อพื้นที่ใหญ่ และทำให้ต้นทุนลดลง กลับทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากขึ้น เช่น สนามบาส เกตบอล ลู่วิ่งที่ยาว สระว่ายนํ้าบนชั้นดาดฟ้า”
ขณะเดียวกันกลยุทธ์การตลาด วันนี้ไม่ใช่เน้นการลดแลกแจกแถม แต่เริ่มจากตัวสินค้า จะพัฒนาแบบไหน ต้องมีดีไซน์และสิ่งอำนวยความสะดวกครบตามคอนเซ็ปต์ของศุภาลัย ด้วย เช่น โครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดตัวล่าสุด ชูจุดเด่น 3 ทำเล 3 โครงการ 3 ดีไซน์ 3 บุคลิกที่ไม่เหมือนกัน ทำเลเด็ดย่านสถานีคลองสาน, สถานีสามแยกไฟฉาย, สถานีเจริญนคร ทำให้ได้รับการตอบรับ
**มอง 4 เดือนสุดท้ายดี
 
ประเมินเศรษฐกิจช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้ ทุกบริษัทต่างก็มองว่าเศรษฐกิจจะดี ศุภาลัยก็เชื่อว่าดีเช่นกัน “สถิติการขายปีนี้ที่ผ่านมาของบริษัทเพิ่มขึ้น และบริษัทอื่นก็เพิ่มเช่นกัน แต่ของเราจะเพิ่มมากกว่าราย อื่น ผมจึงเชื่อว่าอสังหาฯก็ยังดีอยู่ เมื่อก่อนมีคนเป็นห่วงว่าคอนโดมิเนียมจะโอเวอร์ซัพพลาย ไม่เป็นอย่างที่กังวล หาไม่แล้ว ศุภาลัยคงไม่เปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมใหม่พร้อมกัน 3 โครงการ 3 ทำเล เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดี คงต้องเปิดทีละโครงการ”
โดยนายประทีป ยกตัว อย่างหลังวิกฤติต้มยำกุ้ง ศุภาลัย ซื้อที่ดินตรงแยกติวานนท์ตารางวาละ 6 หมื่นบาท สามารถสร้างคอนโดมิเนียมสูง 30 ชั้นก็ได้แต่ไม่กล้าเสี่ยง เหลือเพียง 25 ชั้น แม้เอฟเออาร์ให้สร้างได้ถึง 10 เท่า แต่ทำแค่ 6 เท่า ที่สุดโครงการตรงนี้เปิดขายไม่นานก็ขายหมด ตั้งราคาตารางเมตรละ 4 หมื่นบาท เนื่องจากสมัยนั้นคนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยังชอบบ้านจัดสรรเป็นหลัก แม้คอนโด มิเนียมจะขายตารางเมตรละ 4 หมื่นบาท เมื่อเทียบกับบ้านจัด สรรแล้ว คนก็หันไปซื้อทาวน์เฮาส์มากกว่า กลับกันกับสมัยนี้ที่คอนโดฯขายได้มากกว่าบ้านจัดสรร
http://www.bkkcitismart.com

อสังหาฯ โหมเปิดโครงการใหม่ ส่อเค้าเหลือหน่วยขายสะสม

อสังหาฯ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล โหมเปิด คอนโดฯ เหลือขายกว่า 3 หมื่นหน่วย
เข้าสู่ช่วงปลายไตรมาส 3 ปี 2560 ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เร่งเปิดขายโครงการใหม่โดยเฉพาะในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก่อนจะพักกิจกรรมทางการตลาดในเดือนตุลาคม และเริ่มทำกิจกรรมทางการตลาดใหม่อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ส่อเค้าทำให้หน่วยเหลือขายสะสมในตลาดสูงขึ้น ปัจจุบันรวมแล้วมีสินค้าเหลือขายกว่า 30,000 หน่วย ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

คอนโดฯ เหลือขายกว่า 3 หมื่นหน่วย
ฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด พบว่า การที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่วนโครงการเก่าที่เปิดขายก่อนหน้านี้ก็ยังขายไม่หมด ทำให้ยูนิตเหลือขายในตลาดสะสมมากขึ้น จากการสำรวจพบว่า ขณะนี้มีคอนโดมิเนียมเหลือขายในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ประมาณ 30,300 หน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาท โดยคอนโดมิเนียมเหลือขายส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับราคา 50,000-100,000 บาท/ตารางเมตร ถึง 56% รองลงมาคือระดับราคา 100,000-150,000 บาท/ตารางเมตร ประมาณ 25% ในความเป็นจริงแล้วจำนวนคอนโดมิเนียมเหลือขายเท่านี้ อาจไม่ใช่เรื่องน่ากังวลนัก เนืองจากสามารถปิดการขายทั้งหมดได้ภายใน 1 ปี หากไม่มีโครงการอื่น ๆ เปิดขายใหม่

ตลาดอสังหาฯ ไทย

ผู้ประกอบการ จับจองพื้นที่แนวรถไฟฟ้า-หาจุดขาย
การที่มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เข้าสู่ตลาดมากขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการยังคงต้องการผลประกอบการที่มากขึ้นทุกปี ๆ โดยที่ผ่านมาผู้ประกอบการหลายรายที่เปิดขายโครงการใหม่ต้องพยายามหาจุดขายตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง รูปแบบโครงการ หรือจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อสร้างความน่าสนใจและกระแสการรับรู้ในตัวโครงการให้มากขึ้น ผู้ประกอบการบางรายใช้กลยุทธ์เปิดขายพร้อมกันทั้งหมด 3-4 โครงการ เพื่อทำการตลาดพร้อมกันทีเดียว
จากความกังวลด้านจำนวนคอนโดมิเนียมที่เหลือขายอยู่ในตลาด ทำให้ผู้ประกอบการต้องเลือกที่ตั้งโครงการและเพิ่มความรวดเร็วในการเปิดขายมากขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเลือกทำเลที่มีโครงการเหลือขายไม่มากนัก อยู่ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างซึ่งเป็นทำเลที่จะมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่องอย่างแน่นอนทั้งโครงการภาครัฐ และโครงการภาคเอกชนรูปแบบอื่น ๆ ที่จะตามมาในอนาคต

ซีบีอาร์อี คาดปีหน้าตลาดอสังหาฯ ดีขึ้น
ด้าน แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย คาดการณ์ว่า ในปี 2560 ยอดขายอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะมีการปรับตัวลดลง ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์เขตรอบนอกเมืองและต่างจังหวัด มียอดขายเฉลี่ยเพียง 60% เท่านั้น ในขณะที่พื้นที่ใจกลางเมือง และแนวรถไฟฟ้าที่มีทั้งการซื้อเพื่อการลงทุน และการอยู่อาศัยจริง มียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 70% โดยสาเหตุที่ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็หนีไม่พ้นเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองภายในประเทศ ราคาที่ดินที่สูงขึ้น และความไม่สมดุลระหว่างผู้พัฒนาโครงการและกำลังซื้อของผู้บริโภค
สำหรับปีหน้าคาดการณ์ว่าบรรยากาศของตลาดอสังหาริมทรัพย์จะดีขึ้นกว่าปีนี้ จากตลาดหุ้นที่ทำดัชนีนิวไฮ ส่งผลให้ผู้ที่มีกำไรจากตลาดหุ้นนำเงินมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนมากขึ้นโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ในย่านธุรกิจ และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญคือทุนจากต่างประเทศทั้งที่มาซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและมาร่วมทุนกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ของไทย

ทั้งนี้ แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ได้สำรวจพบว่า ประเทศไทยคือประเทศอันดับที่ 7 ที่ชาวจีนค้นหาเกี่ยวกับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากที่สุดในปี 2559 และเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากประเทศไทยได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนในปัจจุบัน โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพิ่มขึ้นถึง 8 เท่า จากประมาณ 1.1 ล้านคนในปี 2553 เป็น ประมาณ 8.8 ล้านคนในปี 2559 ส่งผลให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยมีโอกาสมากขึ้นในการขายที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อชาวต่างชาติ

ประกอบกับกฎการเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติในประเทศไทย อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ได้ไม่เกิน 49% ของปริมาณพื้นที่ขายทั้งหมดในคอนโดมิเนียมนั้น ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น

http://www.ddproperty.com

ดัชนีเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคปรับตัวดีขึ้น

“กระทรวงคลัง” เผย ดัชนีเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคเดือน ก.ย. อยู่ในระดับที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนกันยายน 2560 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ (คาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า) อยู่ในระดับที่ดีขึ้นในทุกภูมิภาค โดยเฉพาะดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง ซึ่งอยู่ที่ 87.9 จากดัชนีแนวโน้มที่ดีขึ้นของภาคบริการ ซึ่งอยู่ที่ 97.7 โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ที่พบว่าหลายจังหวัดเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนภายในภูมิภาค ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง ตามความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มการลงทุนอยู่ในระดับสูงที่ 98.6

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก อยู่ที่ 82.2 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากด้านการท่องเที่ยวในช่วง 6 เดือนข้างหน้า มีแนวโน้มสดใส เนื่องจากหลายจังหวัดในภูมิภาคจะเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ส่งผลให้ดัชนีแนวโน้มภาคบริการของภูมิภาค ปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ 97.6 ประกอบกับแนวโน้มด้านการผลิตของภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนมีทิศทางที่ดี ตามจำนวนโรงงานที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ 75.7

 ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ อยู่ที่ 74.9 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลักจากภาคบริการ ซึ่งมีค่าดัชนีอยู่ที่ 85.1 โดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวและค้าปลีกค้าส่งที่มีแนวโน้มที่ดี เนื่องจากหลายจังหวัดจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลการท่องเที่ยว รวมถึงภาคเกษตรที่มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้ อยู่ที่ 71.3 ตามแนวโน้มที่ดีของภาคบริการ นำโดยการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ จากแนวทางการสนับสนุนของนโยบายภาครัฐ เช่นเดียวกับแนวโน้มของภาคอุตสาหกรรมภายในภูมิภาค

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก อยู่ที่ 70.6 ตามแรงสนับสนุนจากแนวโน้มของภาคการจ้างงานภายในภูมิภาค ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีที่ 86.7 จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายจังหวัดและแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักของภูมิภาค ซึ่งอยู่ในระดับที่ดีที่ 86.7 จากการขยายตัวของเศรษฐกิจในหลายจังหวัดและแนวโน้มที่ดีของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนหลักของภูมิภาค

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีที่ 61.5 จากแนวโน้มในภาคการจ้างงาน ส่งสัญญาณดีขึ้นต่อเนื่อง มาอยู่ที่ 81.8 เนื่องจากภาคการผลิตมีการเพิ่มกำลังการผลิต

http://www.bangkokbiznews.com

ไมโครซอฟท์เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Windows 10 S จาก HP, Acer, Lenovo V330

โน้ตบุ๊ก Windows 10 S

 

ไมโครซอฟท์เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Windows 10 S 4 รุ่น HP Stream 14 Pro, Acer Aspire 1, Acer Swift 1, Lenovo V330

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2560 ไมโครซอฟท์ได้เปิดตัวโน้ตบุ๊ก Windows 10 S จากแบรนด์ต่าง ๆ พร้อมกันทั้ง 4 แบรนด์ 4 รุ่น ได้แก่ HP Stream 14 Pro, Acer Aspire 1, Acer Swift 1 และ Lenovo V330  ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กที่ออกมาเจาะกลุ่มคนทำงานที่เน้นราคาประหยัดและใช้งานง่ายด้วยฟีเจอร์พื้นฐานของ Windows 10 สำหรับรายละเอียดราคาและวันวางจำหน่ายของแต่ละรุ่นมีดังนี้

HP Stream 14 Pro
– หน้าจอ 14 นิ้ว วางจำหน่ายตุลาคม 2560 ราคา $275 (9,500 บาท)Acer Aspire 1
– หน้าจอ 14 นิ้ว วางจำหน่าย ปลายปี 2560 ราคา $299 (10,000 บาท)

Acer Swift 1
– หน้าจอ 13 นิ้ว วางจำหน่ายปลายปี 2560 ราคา $349 (12,000 บาท)

Lenovo V330
– หน้าจอ 14 นิ้ว วางจำหน่ายกุมภาพันธ์ 2561 ราคา $349 (12,000 บาท)

https://men.kapook.com

รวม 5 สถานที่ท่องเที่ยวในเชียงรายสวยสุดใจ ไม่ไปไม่ได้แล้ว!!

ใกล้เข้าสู่ช่วงหน้าหนาวที่ทุกคนรอคอยกันแล้ว เตรียมวางแผนขึ้นเหนือไปเจอกับธรรมชาติอันสวยงามกันดีกว่า

วันนี้แอดมินมี 5 สถานที่ท่องเที่ยวในเชียงราย อีกหนึ่งจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และเป็นจังหวัดในฝันของใครหลาย ๆ คน

ซึ่งแต่ละที่ที่แอดมินคัดมาให้นั้นรับรองว่าสวยจนคุณต้องเผลอใจใส่รายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ไว้ในลิสต์การเดินทางหน้าหนาวของคุณแน่นอน

1.ดอยผาตั้ง

15541999_733453506807642_5835

ที่นี่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,800 เมตรและเป็นแหล่งปลูกผลไม้เมืองหนาวมากมาย อาทิเช่น บ๊วย ลูกท้อ สาลี่ แอปเปิ้ล รวมทั้งชายิ่งกว่านั้นในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม บนยอดดอยจะสะพรั่งด้วยสีชมพูจากดอกนางพญาเสือโคร่งที่บานในช่วงนั้นโดยไฮไลท์ของการเที่ยวดอยผาตั้งนั้นมักอยู่ที่การชมวิวจากจุดชมวิวช่องผาบ่อง ซึ่งสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว และยังเป็นจุดชมทะเลหมอก ที่สวยงามรวมทั้งยังสามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าที่ห่างออกไปอีกราวๆ 25 กิโลเมตรได้อย่างน่าประทับใจ

2.ภูชีฟ้า

16388029_759993507486975_1797

ภูชี้ฟ้าเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่น เป็นปราการด่านสำคัญกันระหว่างประเทศไทยและประเทศลาวมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติด้วยลักษณะหน้าผาปลายยอดแหลมเป็นแนวยาว ที่ชี้ไปบนฟ้าทางฝั่งประเทศลาว จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า “ภูชี้ฟ้า” นั่นเองซึ่งในยามเช้าจะเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่งดงามมาก อากาศดี ๆ บวกกับวิวธรรมชาติเบื้องหน้าที่น่ามหัศจรรย์ เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุด ๆ

3.ภูชี้ดาว

15541191_734049573414702_5531

ภูชี้ดาว เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยงาม ไม่แพ้ภูชี้ฟ้า  ซึ่งวันไหนสภาพอากาศเปิด สามารถมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าได้ชัดเจนภูชี้ดาวตั้งอยู่บนพื้นที่ในความดูแลของตำบลปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย จุดเด่นของภูชมดาวอยู่ที่ยอดสูงสุด สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศาไม่มีต้นไม้ สิ่งก่อสร้างใดๆมาบดบังมีแนวรั้วไม้ไผ่กันเขตแดนป้องกันอันตรายมาสร้างเป็นจุดเด่นบนยอดชมวิวแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังใหม่ทุกอย่างยังคงอุดมสมบูรณ์ด้วยธรรมชาติ ป่าเขา ต้นไม้ ทิวทัศน์ทะเลหมอก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการค้นหาสถานที่ใหม่ ๆ ไม่วุ่ยวายด้วยผู้คน เสียงรถวิ่งผ่าน ที่นี่จะได้สัมผัสกับธรรมชาติจริงๆ

4.วัดห้วยปลากั้ง

 

15541247_735766093243050_8442

เป็นอีกวัดหนึ่งของจังหวัดเชียงรายที่สวยงามตั้งอยู่บนเขา และมีเนินเขารายรอบวัดสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสิ่งที่โดดเด่นของวัดนี้ คือ ” พบโชคธรรมเจดีย์”   ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สูงถึง 9 ชั้น รูปทรงแปลกตาลักษณะเป็นทรงแหลม ศิลปะจีนผสมล้านนา เคล็ดลับในการชมวัดห้วยปลากั้งได้อย่างสวยงามนั้นคือการชมวิววัดห้วยปลากั้งจากทางบริเวฯหน้าวัดในมุมที่กว้าง ๆ ภาพที่เราจะได้เห็นคือเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมจะถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอก เป็นภาพที่งดงามมาก

5.ไร่ชาฉุยฟง

15542351_735766323243027_3849

ปิดท้ายกันด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมหาชนอย่างไร่ชาฉุยฟง ที่ใครมาเชียงรายต้องหาโอกาสแวะมาให้ได้ มาลองชิมชาชั้นดีเก็บสด ๆ ทุกวันพร้อมเสพบรรยากาศดี ๆ ของไร่ชาอันกว้างใหญ่ที่เขียวขจีสวยงาม จิบชาไปชมวิวไปเพลิดเพลินแน่นอน นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เก๋ ๆ ให้ได้ลั่นชัตเตอร์กันจนหนำใจแน่นอนหากใครกลัวความสูงไม่ชอบขึ้นดอย ลองเปลี่ยนเป็นแวะมานั่งจิบชา ๆ ชิล ๆ ที่นี่ดูก็เป็นการท่องเที่ยวที่สนุกสนานไปอีกแบบหนึ่ง

http://travel.sanook.com


 ราคาทองทุกชนิด ตามประกาศของสมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) ประจำวันที่ 29/09/2560

ชนิดความบริสุทธิ์ของทอง

ราคารับซื้อต่อกรัม

ราคารับซื้อ/บาท

ราคาขายออก/บาท

ทองคำแท่ง 96.5% n/a 20,250.00 20,350.00
ทองรูปพรรณ 96.5% 1,312.00 19,889.92 20,850.00
ทองรูปพรรณ 90% 1,180.80 17,900.93 n/a
ทองรูปพรรณ 50% 590.00 8,944.40 n/a
ทองรูปพรรณ 40% 459.00 6,958.44 n/a
ทองรูปพรรณ 99.99% 1,360.00 20,617.60 n/a

ราคาน้ำมัน  ประจำวันที่  29/09/2560

ราคาขายปลีมาตรฐาน ในเขต กทม. นนทบุรี
ปทุมธานี และสมุทรปราการ
หน่วย : บาท/ลิตร
ปตท. บางจาก เชลล์ เอสโซ่ ไออาร์พีซี / ทีพีไอ ภาคใต้เชื้อเพลิง ซัสโก้ ระยองเพียว ซัสโก้
ปตท
PTT
บางจาก
BCP
เชลล์
Shell
เอสโซ่
Esso
คาลเท็กซ์
C
altex
ไออาร์พีซี
IRPC
พีทีจี
เอนเนอยี่
PTG
ซัสโก้
Susco
ระยองเพียว
Pure
ซัสโก้ ดีลเลอร์
SUSCO Dealers
แก๊สโซฮอล 95 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85
27.85
27.85
27.85
27.85
แก๊สโซฮอล E-20
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
25.34
แก๊สโซฮอล E-85 20.44 20.44 20.44 20.44
แก๊สโซฮอล 91 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58 27.58
เบนซิน 95 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85 27.85
ดีเซลหมุนเร็ว 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19 26.19
ดีเซลหมุนเร็ว พรีเมียม 29.19 29.19 29.19 29.19 29.19
มีผลตั้งแต่ 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00 29 Sep 05:00

 

Comments : Off
About the Author

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า